Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore best practice - SMS Model

best practice - SMS Model

Published by ราวีญา ซอมัด, 2022-01-09 09:40:08

Description: best practice - SMS Model

Search

Read the Text Version

~0~

~1~ คำนำ แบบเสนอผลงานฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเสนอผลงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) “ระบบการ จดั การคะแนนรายวชิ าจากกระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning เพอื่ พฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System)” กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็น ผลงานที่ผู้รายงานได้คิดค้นและจัดทำขึ้นมาด้วยตนเอง จากการปฏิบัติในชั้นเรียนจนประสบผลสำเร็จ แล้ว นำมาจัดทำรายงานแบบเสนอผลงานฉบบั นี้ เพื่อเผยแพร่กนะบวนการจัดเก็บคะแนนในรายวิชา ซึ่งเป็นส่วน สำคัญในการส่งเสริมผู้เรียนเพราะเป็นเครื่องมือการวัดผลและประเมินผล โดยในแบบเสนอผลงานฉบับน้ี ประกอบด้วย ความเป็นมาและความสำคัญ วตั ถปุ ระสงคก์ ารดำเนินงาน เปา้ หมาย ข้ันตอนการดำเนินงาน (วิธี ปฏิบัติที่เป็นเลิศ) ผลการดำเนินงาน ผลสัมฤทธิ์ ประโยชน์ที่ได้รับ ปัจจัยความสำเร็จ บทเรียนที่ได้รับ และ ภาคผนวก ขอขอบคุณผู้อำนวยการ หัวหน้ากลุ่มสาระ คณะครู บุคลากรและนกั เรียน โรงเรยี นทีปราษฎร์พิทยา อำเภอเกาะสมุย จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี ทีใ่ หค้ ำแนะนำ คำปรึกษา และความชว่ ยเหลือ ตลอดจนความร่วมมือให้ การปฏบิ ัติงานในครงั้ นีป้ ระสบความสำเรจ็ เปน็ ทป่ี ระจักษ์ ขอขอบคุณทกุ ท่านท่ีใหก้ ารสนับสนนุ ใหก้ ำลงั ใจ ใน การปฏบิ ตั ิงานตลอดมา จงึ ขอขอบพระคณุ มา ณ โอกาสน้ี และหวงั เปน็ อย่างยง่ิ วา่ แบบเสนอผลงานฉบับนี้จะ เปน็ ประโยชน์แก่ผสู้ นใจ หากผดิ พลาดประการใด ขอรับไว้ ณ ทีนี้ นางสาวราวีญา ซอมดั

~2~ หนา้ 1 สารบัญ 2 เรอื่ ง 3 คำนำ 3 สารบัญ 4 ชอื่ ผลงาน เจ้าของผลงานและที่อยู่ 4 4 1. ความเปน็ มาและความสำคัญ 4 2. วัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน 5 3. ป้าหมาย 6 7 3.1 เชงิ ปริมาณ 7 3.2 เชิงคุณภาพ 7 4. ขน้ั ตอนการดำเนินงาน (วิธปี ฏิบัติทเี่ ป็นเลศิ ) 7 4.1 ข้ันตอนการดำเนินงานตามรูปแบบ SMS Model 7 4.2 การดำเนินการตามขน้ั ตอนทีแ่ สดงไว้ใน Flow Chart SMS Model 8 5. ผลการดำเนนิ งาน 8 6. ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั 8 6.1 ผลทเ่ี กดิ ขึน้ กบั ผเู้ รยี น 8 6.2 ผลท่เี กิดขนึ้ กับครผู ้สู อน 9 6.3 ผลท่ีเกดิ ข้นึ กบั สถานศึกษา 10 7. ปจั จยั ความสำเร็จ 8. บทเรยี นทไ่ี ด้รบั 9. การเผยแพร่/รางวลั ทไี่ ด้รบั บทสรปุ ภาคผนวก ภาคผนวกรูปภาพ ภาคผนวกแผนการจดั การเรยี นรู้

~3~ ช่อื ผลงาน ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนา คุณภาพผเู้ รยี น โดยใช้ SMS Model (Score Management System) ชือ่ เจา้ ของผลงาน นางสาวราวญี า ซอมดั ตำแหนง่ ครู คศ.1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ท่ีอยู่ โรงเรยี นทปี ราษฎรพ์ ิทยา เลขท่ี 255 หมู่ท่ี 1 ตำบลแม่นำ้ อำเภอเกาะสมุย จงั หวดั สุราษฎร์ธานี 84330 โทรศพั ท์ : 093605152 E-mail : [email protected] ________________________________________________________________________________ 1. ความเปน็ มาและความสำคญั หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 และฉบับปรับปรุง พทุ ธสกั ราช 2560 ได้ กล่าวถึงการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรูของผู้เรียนน้ันตองอยบู่ นจุดมุ่งหมายพื้นฐานสองประการ ประการแรก คือ การวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียนโดยเก็บรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับผลการเรียนและการเรียนรูของ ผู้เรียนในระหว่างการเรียนการสอนอย่างตอ่ เน่ือง บนั ทึก วเิ คราะห์ แปลความหมายขอมูลแลวนำมาใชในการ สง่ เสริมหรอื ปรบั ปรุงแกไขการเรียนรูของผู้เรียนและการสอนของครู การวดั และประเมินผลกับการสอนจึงเป็น เรื่องท่ีสัมพันธกัน หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดการเรียนการสอนกข็ าดประสิทธิภาพ จุดมุ่งหมายมายประการท่สี อง คือ การวดั และประเมินผลเพ่ือตัดสินผลการเรียน เป็นการประเมิน สรุปผลการเรียนรู้ (Summative Assessment) ซง่ึ มีหลายระดับ ได้แก่ เมอ่ื เรียนจบหนว่ ยการเรียนรู้ จบรายวชิ าเพ่ือตดั สินให้คะแนนหรือใหระดบั ผลการเรียน ใหการรับรองความรูความสามารถของผู้เรยี นวา่ ผา่ นรายวชิ าหรอื ไม่ควรได้รับการเล่อื นช้นั หรือไม่ หรือสามารถ จบหลักสูตรหรือไม่ ในการประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนที่ดีตองใหโอกาสผู้เรียนแสดงความรูความสามารถ ดว้ ยวธิ ีการทหี่ ลากหลายและพจิ ารณาตัดสนิ บนพืน้ ฐานของเกณฑผลการปฏิบตั มิ ากกวา่ ใชเ้ ปรยี บเทียบระหว่าง ผู้เรียน ระบบการจัดการคะแนนรายวิชา เป็นวิธีการที่ครูผู้สอนใช้ในการบริหารจัดการการเก็บคะแนนอย่าง เป็นระบบและมปี ระสิทธิภาพ ใช้ในการการประเมินระหว่างการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และเป็น การวัดและประเมินผลเพื่อการพัฒนา (Formative Assessment) ที่เกิดขึ้นในหองเรียนทุกวัน เป็นการ ประเมินเพื่อใหรูจุดเดน จุดท่ีตองปรับปรุง จากการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านมา ตลอดปีการศึกษา 2562 และ ปี การศึกษา 2563 พบว่า ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 รายวิชา สังคมศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ครูผู้สอนมี วิธกี ารเก็บคะแนนรายวิชาด้วยการกำกับจำนวนแตล่ ะภาระงาน ชนิ้ งาน และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และปรับปรุงเพิ่มเติม 2560 ใช้ เกณฑก์ ารใหคะแนน (Rubrics) คือ การใหขอมลู ยอนกลับแกผูเ้ รยี นในลกั ษณะคำแนะนําท่ีเช่ือมโยงความรูเดิม กบั ความรูใหม่ ทำใหการเรยี นรูพอกพนู แกไขความคดิ ความเขาใจเดิมท่ีไม่ถูกตอง และการให้ผูเ้ รียนสามารถ ติดตามภาระงาน ผลงานและชิ้นงานของนักเรียนได้ด้วยตัวของนักเรียนเอง ตลอดจนการใหผู้เรียนสามารถ ต้งั เป้าหมายและพฒั นาตนเองได้ นอกจากนีย้ ังมีวิธกี ารและเครื่องมอื การประเมินท่หี ลากหลาย เชน การสังเกต

~4~ การซักถาม การระดมความคิดเห็น การใชแฟ้มสะสมงาน การใชภาระงานที่เนนการปฏิบัติ (Active) เมื่อ นักเรียนจบการศึกษาในปีการศึกษานั้นแล้วเลื่อนชั้นในระดับสูงขึ้นไป นักเรียนได้สะท้อนมายังครูผู้สอนถึง ระบบการจดั การคะแนนรายวิชาเมื่อครั้นได้เรียนรกู้ ับครูผู้สอนว่า เป็นการจดั การคะแนนที่ดี เก็บคะแนนเป็น ระบบและมีประสทิ ธิภาพ ทำให้นักเรียนสามารถติดตามภาระงาน ชิ้นงานได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องสอบถามจาก ครูผู้สอนซ้ำ และมีแรงจูงใจที่จะทำภาระงาน ชิ้นงาน มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีความกระตือรือร้นที่จะ พัฒนาตนเอง ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทุกด้าน อีกทั้งได้ทักษะกระบวนการคิดจากการแนะนำของ ครูผู้สอน จนมีผลงานทีป่ ระสบผลสำเร็จเปน็ ทีป่ ระจกั ษ์ สง่ ผลดตี ่อนักเรยี น ครูและสถานศึกษาสืบไป จากแนวคิด ทฤษฎี ความเป็นมาและความสำคัญของกระบวนการที่ได้ปฏิบัติข้างต้น ครูผู้สอนได้ คิดค้นวิธีการเกบ็ คะแนนระหว่างเรียนผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning แล้วนำมาสร้าง ผลงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เรื่อง “ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการ เรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System)” กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2. วัตถปุ ระสงคข์ องการดำเนนิ งาน 1. เพื่อสร้างระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ SMS Model (Score Management System) 2. เพ่ือการวดั ผลและประเมินผลทม่ี ีประสทิ ธิภาพสามารถติดตามและตรวจสอบได้ 3. เพ่ือพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น 3. ปา้ หมาย 3.1 เชงิ ปริมาณ 3.1.1 จำนวนผู้เรียนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 เข้าระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากการจัดการ เรยี นรูแ้ บบ Active Learning เพือ่ พฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น โดยใช้ SMS Model (Score Management System) 3.1.2 จำนวนผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลการพัฒนาคุณภาพเป็นไปตามเป้าหมายท่ี สถานศกึ ษากำหนด 3.2 เชงิ คณุ ภาพ 3.2.1 นกั เรยี นมผี ลการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รยี นอยู่ในระดับดีขึ้นไป 3.2.2 นักเรียนมีความพงึ พอใจตอ่ ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการเรียนรู้ แบบ Active Learning เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) อยู่ ในระดับมาก

~5~ 4. ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน (วิธีปฏิบัตทิ เี่ ปน็ เลิศ) 4.1 ขน้ั ตอนการดำเนินงานตามรูปแบบ SMS Model (Score Management System) Flow Chart SMS Model มอบหมายภาระงาน การจัดการเรียนรแู้ บบ พบปญั หา/เสนอปัญหา Active Learning วัดและประเมินผล วเิ คราะหส์ ภาพปัญหา ศกึ ษา ค้นควา้ แนวทางการแก้ปัญหา S = Score คอื กำหนดคะแนน วางแผนการแก้ปัญหา รายวชิ าตอ่ ภาระงาน ดำเนินการแก้ปญั หาด้วย SMS Model M = Management คอื วธิ กี ารจดั การ ติดตามและประเมินผล ดว้ ยการกำกับหมายเลขท่ภี าระงาน สรปุ /รายงานผลคุณภาพผู้เรยี น S = System คอื ระบบการตดิ ตาม คุณภาพผเู้ รียน

~6~ 4.2 การดำเนนิ การตามขัน้ ตอนทแี่ สดงไว้ใน Flow Chart SMS Model (Score Management System) 1. ครูผู้สอนจัดการเรยี นรู้แบบ Active Learning ตามแผนการจัดกาเรียนรู้ในรายวิชาที่ครูผ้สู อนได้รับ มอบหมายให้ทำการสอน 2. ครูผู้สอนมบหมายภาระงาน ชน้ิ งาน หรอื ใบงานเพ่ือการวดั ผลการเรียนร้ตู ามแผนการจดั การเรยี นรู้ 3. ครูผู้สอนประเมินผลและติดตามการจัดทำภาระงานของผู้เรียน ด้วยการสังเกต สอบถาม หรือ วธิ ีการอ่ืนๆทเ่ี หมาะสม เพอ่ื หาสาเหตุหรอื ปญั หาเก่ียวกับการมอบหมายงานและความรับผิดชอบของผู้เรียนที่ สง่ ผลต่อคะแนนรายวิชา 4. ครูผู้สอนวิเคราะห์สภาพปัญหาจากที่ได้ประเมินผลและติดตามการจัดทำภาระงานของผู้เรียน นำมากำหนดวิธีการแก้ไขปญั หา 5. ครผู สู้ อนวางแผนการแกไ้ ขปัญหาโดยใช้ SMS Model (Score Management System) ในการ จัดการคะแนนรายวชิ า 6. ครูผู้สอนดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการ เรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) ตามข้นั ตอนดังน้ี 6.1 ชี้แจงวธิ กี ารวดั ผลและประเมินการจัดการเรยี นรู้รายวิชา 6.2 ชี้แจงระบบการจัดการคะแนนรายวชิ าจากกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี น โดยใช้ SMS Model (Score Management System) ดงั นี้ S = Score คือ กำหนดคะแนนรายวิชาต่อภาระงาน หมายถึง ในภาระงานจะมีความแตกต่าง ของนำ้ หนกั คะแนนตามแผนการวัดผลและประเมนิ ผลให้สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชี้วดั เช่น มี 10 ภาระงาน ภาระงานที่ 1 – 3 อาจให้คะแนนภาระงานละ 2 คะแนน ภาระงานที่ 4 – 5 ให้คะแนนภาระงานละ 5 คะแนน เพราะเปน็ ภาระงานเพื่อประเมินการบรรลุตามวตั ถุประงสงค์และการบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวัดของหลกั สตู ร M = Management คือ วิธีการจดั การด้วยการกำกับหมายเลขที่ภาระงานทุกภาระงานจะมี การกำกับตวั เลขเพอื่ ความสะดวกในการติดตามงาน แมใ้ นบางภาระงานจะมคี วามแตกต่างของน้ำหนกั คะแนน ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชว้ี ัดก็ตาม แต่นกั เรยี นจะต้องมภี าระงานในสมุดมากกว่าร้อยละ 60 ของภาระ งานทั้งหมด ใช้ในการวัดผลเพื่อพัฒนาผู้เรียน เช่น ภาระงานที่ 1 ครูผู้สอน ลงชื่อพร้อมกำกับตัวเลข 1 ภาระงานท่ี 2 ครูผสู้ อน ลงชอื่ พร้อมกำกบั ตวั เลข 2 จนครบทุกภาระงาน ในส่วนของใบงาน ช้ินงาน หรือ แฟม้ ผลงาน จะกำกบั ตัวเลขแยกจากภาระงานในสมุดจดบันทึก S = System คือ ระบบการติดตามคุณภาพผู้เรียน เมื่อดำเนินการตามขั้นตอน S และ M ข้างต้นแล้ว ครูผู้สอนดำเนินการติดตามคุณภาพผู้เรียนทุกด้าน ได้แก่ ด้านผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ด้านความ สนใจใฝร่ ู้ ด้านการมวี นิ ัยและความรบั ผดิ ชอบ

~7~ 6.3 ครูผู้สอนติดตามและประเมินผล ให้เป็นไปตามเป้าหมายด้านปริมาณและคณุ ภาพ ด้วยการ จัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการ เรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) เพอ่ื นำไปปรบั ปรุงหรอื พฒั นาใหด้ ียงิ่ ขน้ึ ไป 6.4 ครูผู้สอนสรุปผลการดำเนินงาน ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการ เรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) และรายงานผลต่อผู้ท่เี กีย่ วขอ้ งทราบ 5. ผลการดำเนนิ งาน จากการดำเนินการ ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) ข้างต้น พบว่า นักเรียนรอ้ ยละ 100 เข้าระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากการจัดการเรยี นรู้แบบ Active Learning เพื่อ พัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นในภาคเรียนทผ่ี ่านมา โดยปราศจากการติด 0 ร และ มส. นักเรียน มผี ลการเรียนเฉลี่ยเปน็ ไปตาม เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด คิดเป็นร้อยละ 73.22 จัดอยู่ในระดบั คุณภาพดี และนักเรียนมีความพึงพอใจ ตอ่ ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพฒั นาคุณภาพ ผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) อยู่ในระดับมากที่สุด ตลอดจนนักเรียนมี คุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ในระดับดีเยี่ยม เนื่องจากนกั เรียนสามารถติดตามภาระงาน ผลงานและช้นิ งาน ของนักเรียนได้ด้วยตัวของนักเรียนเอง ทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบมากขึ้น เพื่อให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน ตลอดจนนักเรียนมผี ลงานเปน็ ท่ีประจกั ษส์ ามารถนำมาเปน็ แบบอยา่ งได้ ระบบการจัดการคะแนนรายวิชาจากกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนา คุณภาพผู้เรียน โดยใช้ SMS Model (Score Management System) เป็นวิธีการทีแ่ ตกต่างจากวิธีการท่วั ไป แต่สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้กับทุกรายวิชาตามความเหมาะสม เพราะเปน็ วธิ กี ารสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ และการจัดทำภาระงานเพอื่ ผลสมั ฤทธ์ิท่ดี ีข้นึ ของผู้เรยี น ผเู้ รยี นทราบจดุ มงุ่ หมายของการจัดการเรียนการสอน ท่ชี ัดเจนทำใหม้ แี รงกระต้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จและเกดิ ความพงึ พอใจ 6. ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รับ 6.1 ผลทเ่ี กิดขึน้ กับผเู้ รียน 6.1.1 นักเรียนสนใจใฝร่ ูแ้ ละมีความรบั ผดิ ชอบมากข้ึน 6.1.2 นกั เรียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นทกุ คน โดยปราศจากการตดิ 0 ร และ มส. 6.1.3 นักเรยี นมีแรงจงู ใจและพงึ พอใจต่อความรบั ผดิ ชอบของตนเอง 6.1.4 นักเรยี นไดพ้ ัฒนาตนเองทกุ ด้าน สูค่ ณุ ภาพผู้เรยี นทด่ี ี 6.2 ผลท่ีเกิดขนึ้ กับครูผสู้ อน

~8~ 6.2.1 ครผู สู้ อนสามารถวัดผลและประเมินผลได้งา่ ยมากขึ้นไม่ยุ่งยาก 6.2.2 ครูผสู้ อนมรี ะบบการจดั การคะแนนท่มี ีประสทิ ธิภาพและเกิดประสทิ ธิผล 6.2.3 ครผู ู้สอนสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในการจัดการคะแนนในรายวิชาอืน่ ๆได้ 6.3 ผลทเ่ี กิดขนึ้ กับสถานศึกษา 1. สถานศึกษาไดร้ ับการสนบั สนนุ จากครูผ้สู อนในการบริหารจดั การการวัดผลและประเมนิ ผล 2. สถานศึกษามีวิธีการจัดเก็บคะแนนทดี่ ี งา่ ยตอ่ การตดิ ตามผล 7. ปัจจัยความสำเร็จ 1. ผู้บริหาร ให้การสนับสนุน ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานเพื่อพัฒนาระบบการจัดการ คะแนนรายวชิ า 2. หัวหนา้ กลุม่ สาระ ใหค้ ำปรกึ ษา แนะนำการดำเนินการเพ่ือให้ไปในทศิ ทางทีด่ ีและถกู ตอ้ งมากท่ีสดุ 3. ครู วางแผน นำไปปฏิบัติ กำกับติดตาม ดูแล ช่วยเหลือ สรุปผลและประเมินระบบการจัดการ คะแนนรายวิชา 4. นกั เรียน ให้ความรว่ มมือและมคี วามรบั ผดิ ชอบ ตลอดจนการเขา้ สู่ระบบการจัดการคะแนนรายวิชา SMS Model 5. ผปู้ กครอง ใหค้ วามรว่ มมือในการติดตาม ดแู ล ชว่ ยเหลือนักเรียนจนประสบผลสำเรจ็ 8. บทเรยี นทไี่ ด้รบั 8.1 คน้ พบวิธีการจดั การคะแนนรายวชิ าจากกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย 8.2 อำนวยความสะดวกแกค่ รูผู้สอน นกั เรยี น ในการติดตามภาระงาน คะแนน 8.3 มีนวตั กรรมในการวดั ผลและประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรูอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ 9. การเผยแพร/่ รางวัลทไี่ ด้รับ 9.1 เผยแพรผ่ ลงานของนักเรยี นผ่านชอ่ งทางออนไลน์ เช่น Facebook เว็บไซต์โรงเรยี น Google Drive 9.2 การจดั นทิ รรศการทงั้ ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา 93 แสดงผลงานนักเรยี นเมอ่ื มกี ารศกึ ษาดูงานหรือกจิ กรรมแลกเปลีย่ นเรยี นรู้

~9~ บทสรุป 1. จุดเดน่ ของระบบการจดั การคะแนนรายวิชา SMS Model (Score Management System) ระบบการจัดการคะแนนรายวิชา SMS Model (Score Management System) เป็นวิธีการที่ ครูผู้สอนใช้ในการบริหารจัดการการเก็บคะแนนระหว่างภาคของนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยนักเรียน สามารถติดตามภาระงาน ผลงานและชน้ิ งานของนกั เรยี นไดด้ ว้ ยตนเอง นำไปสู่ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นที่ดีและ มปี ระสิทธผิ ล 1.1 เปน็ การบรหิ ารจัดการการเก็บคะแนนระหว่างภาคของนกั เรียนอย่างมปี ระสิทธิภาพ 1.2 เป็นการตดิ ตามภาระงาน ผลงานและชิน้ งานของนกั เรียนไดด้ ้วยตวั ของนกั เรยี นเอง 1.3 เปน็ การวดั ผลและประเมนิ ผลที่สอดคลลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ัด 1.4 เป็นวธิ กี ารดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี นทุกระดับของความรู้ ความสามารถ 1.5 เปน็ วิธีการทส่ี ามารถยกระดับผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรยี น 1.6 เปน็ วธิ ีการทีน่ ักเรียนพงึ พอใจตอ่ ระบบการจัดการคะแนนรายวิชา 1.7 เป็นวิธกี ารท่สี ามารถประยุกต์ใชก้ ับทุกรายวิชา ทุกกลุม่ สาระ 1.8 เปน็ วิธกี ารท่ีสามารถใหข้ ้อมลู ย้อนกลบั แกผ่ เู้ รียนได้ 1.9 เปน็ วิธกี ารเกบ็ คะแนนระหว่างภาคท่งี ่ายและเป็นระบบ 1.10 เป็นวิธีการทีแ่ ตกต่างจากวธิ ีการทัว่ ไป 2. คุณคา่ ของระบบการจดั การคะแนนรายวชิ า SMS Model (Score Management System) ต่อผ้เู รียน 2.1 เกดิ แรงจงู ใจในการเรียนรแู้ ละการจดั ทำภาระงานเพอ่ื ผลสัมฤทธท์ิ ่ีดขี นึ้ ของผูเ้ รยี น 2.2 ผู้เรยี นทราบถงึ สถานภาพของคะแนนรายวชิ าและติดตามภาระงาน 2.3 ผเู้ รียนทราบจดุ มุ่งหมายของการจัดการเรียนการสอนท่ชี ัดเจน 2.4 สง่ เสรมิ การคิดและการลงมอื ปฏิบตั ิใหผ้ เู้ รยี นอย่างเป็นระบบ 2.5 กระตุ้นความรบั ผิดชอบให้ผ้เู รียนเพอื่ ใหไ้ ด้ผลการวดั และประเมนิ ดขี ้ึน 2.6 สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนรับผิดชอบตอ่ ตนเอง 2.7 ผู้เรยี นทราบความกา้ วหน้าในการเรยี น 3. จุดเด่นของระบบการจดั การคะแนนรายวิชา SMS Model (Score Management System) ที่ส่งผล ต่อการจัดการศกึ ษาและเปน็ แบบอยา่ งได้ 3.1 มีการวัดผลและประเมนิ ผลทส่ี อดคลล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวช้ีวดั 3.2 มหี ลักเกณฑ์การวดั ผลและประเมินผลทีช่ ดั เจน ตรวจสอบได้ 3.3 มมี ขี น้ั ตอนการจัดการคะแนนอย่างชัดเจนและเป็นระบบ 3.4 การกำกบั จำนวนภาระงาน เพ่อื ใหง้ ่ายตอ่ การติดตาม 3.5 เปน็ วิธีการที่สามารถประยุกตใ์ ช้กบั ทุกรายวิชา ทกุ กลุม่ สาระ

~ 10 ~ ภาคผนวก รปู ภาพ

~ 11 ~ รูปภาพกระบวนการจดั การเรียนรู้ แบบ Active Learning

~ 12 ~ รูปภาพกระบวนการจดั การเรียนรู้ แบบ Active Learning

~ 13 ~ รูปภาพจัดการคะแนนรายวชิ า

~ 14 ~ รปู ภาพระบบการจัดการคะแนนรายวชิ า

~ 15 ~ รปู ภาพระบบการจัดการคะแนนรายวชิ า

~ 16 ~ รปู ภาพระบบการจัดการคะแนนรายวชิ า

~ 17 ~ รปู ภาพผลงานนักเรียน

~ 18 ~ รปู ภาพผลงานนักเรียน

~ 19 ~ รูปภาพการแสดงผลงานนกั เรยี น

~ 20 ~ ภาคผนวก ตัวอย่างแผนการจัดการเรยี นรู้ แบบ Active Learning

~ 21 ~ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส22102 . ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 . หน่วยการเรยี นท่ี 1 เรือ่ ง มาตราส่วน ทศิ และสญั ลักษณแ์ ผนที่ . ชอ่ื หนว่ ย องค์ประกอบของแผนท่ีและมาตราสว่ น เวลา 1 ชัว่ โมง ครผู ู้สอน นางสาวราวีญา ซอมดั 1. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั 1.1 มาตรฐาน มาตรฐานที่ ส 5.1 เขา้ ใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซง่ึ มผี ลตอ่ กันและ กนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเครือ่ งมอื ทางภมู ิศาสตร์ ในการค้นหา วเิ คราะห์ สรุป และใช้ข้อมลู ภูมิ สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ 1.2 ตวั ชี้วัด ม.2/2 อธิบายมาตราสว่ น ทิศ และสัญลักษณ์ 2. สาระสำคัญ องค์ประกอบของแผนที่ ประกอบด้วยชื่อแผนที่ ขอบระวางแผนที่ ทิศ เส้นขนานละติจดู เส้นเมริเดยี น สัญลักษณ์ มาตราส่วน และคำอธิบายสัญลักษณ์ การเข้าใจถึงองค์ประกอบของแผนที่ จะทำให้เราทราบถึง ตำแหน่ง ระยะทาง และทศิ ทางของส่ิงตา่ งๆ ที่ปรากฏบนผวิ โลก สามารถอา่ นและแปลความหมายของแผนที่ ได้ มาตราสว่ น คอื อัตราส่วนระหว่างระยะบนแผนที่กับระยะจริงบนผวิ โลก 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ยกตวั อย่างองคป์ ระกอบแผนท่ีได้ถูกต้อง (K) 2. คำนวณมาตราสว่ นบนแผนที่ได้ (P) 3. ใหค้ วามสำคัญขององค์ประกอบแผนทแี่ ละมาตราสว่ น (A) 4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ ความรู้ (K) อธบิ ายองค์ประกอบของแผนที่ - องคป์ ระกอบของแผนท่ี มาตราสว่ น - ทกั ษะกระบวนการ(P) การคำนวณมาตราสว่ น - การคำนวณหามาตราส่วน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) - ประโยชน์ของแผนทแ่ี ละมาตราสว่ น

~ 22 ~ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ความสามารถในการคิด 2. ซ่ือสัตย์ สุจรติ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. อยู่อย่างพอเพียง ทกั ษะศตวรรษที่ 21 (3R 8Cs) 6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 3R 7. รกั ความเปน็ ไทย 1. อ่านออก (Reading) 8. มีจิตสาธารณะ 2. เขียนได้ (Riting) ทักษะดา้ นชีวิตและอาชีพ 3. คิดเลขเปน็ (Rithemetics) 1. ความยืดหยุ่นและการปรับตวั 8Cs 2. การรเิ ร่ิมสรา้ งสรรคแ์ ละการเปน็ ตวั ของตวั เอง 1. ทกั ษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการ 3. ทกั ษะสงั คมและสงั คมขา้ มวฒั นธรรม แก้ปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) 4. การเปน็ ผสู้ รา้ งหรอื ผู้ผลิตและความรับผิดชอบ 2. ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม เชอ่ื ถือได้ (Creativity and Innovation) 5. ภาวะผูน้ ำและความรบั ผดิ ชอบ 3. ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และ คุณลักษณะสำหรบั ศตวรรษที่ 21 ภาวะผู้นำ (Collaboration Teamwork and 1. คุณลกั ษณะดา้ นการทำงาน ได้แก่ การปรบั ตัว Leadership) ความเป็นผูน้ ำ 4. ทักษะด้านการส่อื สาร และรู้เท่าทันสือ่ 2. คุณลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำ (Communications Information and Media Literacy) ตนเอง การตรวจสอบการเรียนร้ขู องตนเอง 5. ทักษะความเข้าใจความแตกต่างทางวฒั นธรรม 3. คุณลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ เคารพผูอ้ ่นื ความซอ่ื สัตย์ สำนกึ พลเมือง กระบวนการคิดขา้ มวฒั นธรรม (Cross-cultural Understanding) 6. ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ และการรเู้ ท่าทนั เทคโนโลยี (Computing and ICT Literacy) 7. ทกั ษะทางอาชีพ และการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) 8. มีความเมตตากรณุ า มคี ุณธรรม และระเบยี บ วินยั (Compassion)

~ 23 ~ 6. การบรู ณาการตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ  บรู ณาการหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล ( Worldclass Standard School)  บรู ณาการกิจกรรมสะเต็ม (STEM)  บูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  บรู ณาการกบั คา่ นยิ ม 12 ประการ  บูรณาการกับข้อสอบโอเนต็ / ขอ้ สอบ PISA  บรู ณาการโรงเรยี นสีขาว  บูรณาการโรงเรียนคณุ ธรรม  บรู ณาการหลกั สูตรตอ่ ตา้ นทุจริต 7. กลยุทธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ รปู แบบการสอนแบบ Active Learning วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ ข้นั ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบถึงวธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชื่อเรื่องท่ี จะเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้ 2. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง มาตราสว่ น ทิศ และสัญลกั ษณแ์ ผนท่ี 3. ครูนำแผนที่มาใหน้ กั เรียนดู แล้วตงั้ คำถามกระตุ้นความคิดของนกั เรยี นดงั นี้ - แผนท่ีฉบบั นี้ เป็นแผนทีแ่ สดงที่ตงั้ ของทวีปอะไร (แนวตอบ : ทวปี ยโุ รป ทวีปแอฟรกิ า) - นอกจากทตี่ ง้ั ของทวีปยุโรปและแอฟริกาแลว้ นกั เรยี นเห็นอะไรบา้ งในแผนที่ (แนวตอบ : เส้นเม ริเดยี น เสน้ ละติจูด มาตราส่วน ทศิ ฯลฯ) - ในชีวิตประจำวันของนกั เรียนมกี ารนำแผนทีม่ าใชห้ รอื ไม่ อย่างไร 4. ครูเฉลยคำตอบและพูดคยุ เกย่ี วกับข้อมูลบนแผนท่ี จากน้นั ครูเชือ่ มโยงเขา้ สู่บทเรยี น ขั้นสอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครนู ำแผนที่ประเภทต่างๆ มาให้นกั เรยี นดู จากนั้นให้นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์เก่ียวกับ องค์ประกอบของแผนที่ 2. ให้นักเรียนจับคู่กันเพื่อทำกิจกรรมพันาการเรียนรู้โดยกำหนดหมายเลขประจำตัวของแต่ละคน จากนั้นมอบหมายให้นักเรยี นศึกษาความรู้และค้นหาข้อมูล จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภูมิศาสตร์ ม.2 ตามภาพ ดังน้ี - หมายเลข 1 ศกึ ษาความรูเ้ รอื่ ง องคป์ ระกอบของแผนท่ี - หมายเลข 2 ศกึ ษาความรู้เรื่อง มาตราสว่ น

~ 24 ~ 3. ให้นักเรียนแต่ละคู่ร่วมกันสืบค้นข้อมูลในหัวข้อที่ได้ ซึ่งครูกำหนดให้นักเรียนนำความรู้เกี่ยวกับ เครอ่ื งมอื ทางภูมศิ าสตรม์ าใชป้ ระกอบในการศกึ ษา 4. สมาชกิ แตล่ ะคู่นำข้อมูลที่ไดจ้ ากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความร้รู ะหว่างกนั 5. ครสู ุ่มนกั เรยี น 3 - 4 คน ทั้งหมายเลข 1 และหมายเลข 2 เพ่ือตอบคำถาม เช่น - แผนทปี่ ระกอบด้วยองคป์ ระกอบอะไรบา้ ง - องค์ประกอบของแผนทแ่ี ตล่ ะส่วนมีความสมั พันธก์ นั อย่างไร - หากขาดองค์ประกอบของแผนที่ส่วนใดส่วนหนึ่งไปจะส่งผลกระทบต่อการอ่านและแปล ความหมายแผนท่หี รือไม่ อยา่ งไร - มาตราสว่ นคืออะไร - มาตราสว่ นแต่ละประเภทมีความแตกตา่ งกนั อย่างไร - มาตราส่วนมคี วามสำคัญอย่างไร ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูอธิบายเกี่ยวกับองค์ประกอบของแผนที่ให้นักเรียนฟังว่า “แผนที่เป็นสื่อรูปแบบหนึ่งที่แสดง ข้อมูลของ พื้นผิวโลกในรูปแบบกราฟิก โดยการย่อส่วนให้เล็กลงด้วยมาตราส่วน การใช้สี และการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ ที่ ปรากฏอยู่บนผิวโลก องค์ประกอบที่สำคัญ เช่น ชื่อแผนที่ ขอบระวางแผนที่ ทิศ มาตราส่วน สัญลักษณ์ คำอธิบายสัญลักษณ์ เส้นเมริเดียน เส้นขนานละติจูด” เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ ควา มเข้าใจเกี่ยวกับ องคป์ ระกอบของแผนทีเ่ พ่ิมมากขึ้นใน powerpoint ดังภาพ องค์ประกอบของแผนท่ี 2. ครูอธิบายและยกตัวอยา่ งเร่ืองมาตราส่วน เพื่อให้นักเรียนมีความเขา้ ใจชัดเจนยิง่ ขึ้นและสามารถ คำนวณหามาตราสว่ นใน powerpoint ดังภาพ

~ 25 ~ มาตราส่วน 3. จากนนั้ ให้นกั เรียนคำนวณหามาตราสว่ นตามโจทย์ลงในสมุดจดบนั ทกึ ดังน้ี จากแผนที่แสดงกรุงโรม 1:600,000 วัดระยะทางจากประตูหน้านครรัฐ วาติกันไปยังโคลอสเซียมทาง ตะวันออกเฉียงใต้เป็นเส้นตรง ได้ ระยะทางบนแผนที่ 0.6 เซนติเมตร เขียนสมการเพื่อหาระยะทางบนพนื้ โลกได้เท่าไร ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเชื่อมโยงและทบทวนความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบที่พบในแผนที่ ไดแ้ ก่ มาตราสว่ น ทิศ และสญั ลักษณ์ โดยรว่ มกันสรุปสาระสำคัญของเนอื้ หาตามทีไ่ ด้ศกึ ษามา 2. ครูสอบถามถึงความสำคัญขององค์ประกอบแผนท่ีและมาตราสว่ น จากที่ได้ศกึ ษามาเพ่อื วัดผลและ ประเมนิ ผลดา้ นจติ พิสยั ขั้นสรุป ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความสำคญั และประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบ ของแผนทแี่ ละมาตราส่วน

~ 26 ~ 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 การประเมนิ ตามจุดประสงค์/ตัวช้วี ดั จดุ ประสงค์ วิธีวดั การวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารผ่าน - สอดคลอ้ งกบั รายการ รอ้ ยละ 60 ขอ้ ท่ี 1 (K) - ตรวจสมุดจด - สมดุ จดบนั ทึก ประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 ผา่ นเกณฑ์ คะแนน บันทกึ - สอดคลอ้ งกับรายการ ร้อยละ 60 ประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 3 ผ่านเกณฑ์ ขอ้ ที่ 2 (P) - การรว่ มกิจกรรม - กจิ กรรมพัฒนาการ คะแนน เรียนรู้ - สอดคล้องกับรายการ รอ้ ยละ 60 - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ประเมนิ บางสว่ น ให้ 2 ผ่านเกณฑ์ การเรยี นรู้ รายบคุ คล คะแนน - สอดคล้องกบั รายการ ข้อท่ี 3 (A) - สงั เกตพฤติกรรม - กิจกรรมพฒั นาการ ประเมินนอ้ ย ให้ 1 คะแนน การเรียนรู้ เรยี นรู้ - ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรม - ตรวจสอบการ - คำถาม สม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ตอบคำถาม - ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรม บ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน - ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรม บางครง้ั ให้ 1 คะแนน - ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรม สม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน - ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรม บอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน - ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรม บางครง้ั ให้ 1 คะแนน

~ 27 ~ 9.2 การประเมินสมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทักษะศตวรรษที่ 21 ประเด็นสมรรถนะสำคัญ วิธีการวดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน รอ้ ยละ 60 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ผ่านเกณฑ์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. ความสามารถในการคดิ - ตรวจสมุด - สมุดจดบันทกึ ร้อยละ 60 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา จดบนั ทกึ ผ่านเกณฑ์ 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ 2. ซ่อื สตั ย์สุจริต 3. มีวนิ ยั รับผิดชอบ - สังเกตความ - แบบประเมนิ 4. ใฝ่เรยี นรู้ มวี นิ ัย คุณลกั ษณะ 5. อยู่อย่างพอเพียง รับผดิ ชอบ ใฝ่ อันพึงประสงค์ 6. ม่งุ มั่นในการทำงาน เรียนรู้ และ 7. รักความเปน็ ไทย มุ่งม่นั ในการ 8. มีจติ สาธารณะ ทำงาน ทักษะศตวรรษที่ 21 3R 1. อ่านออก (Reading) 2. เขยี นได้ (Riting) 3. คดิ เลขเปน็ (Rithemetics) - ตรวจสมุด - สมุดจดบนั ทกึ 8Cs จดบนั ทกึ 1. ทักษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการ แก้ปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) 2. ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) 3. ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะ ผนู้ ำ (Collaboration Teamwork and Leadership) 4. ทกั ษะด้านการสือ่ สาร และรเู้ ท่าทันสอ่ื (Communications Information and Media Literacy)

~ 28 ~ 5. ทักษะความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม (Cross-cultural Understanding) 6. ทักษะการใชค้ อมพวิ เตอร์ และการรเู้ ท่าทนั เทคโนโลยี (Computing and ICT Literacy) 7. ทักษะทางอาชพี และการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) 8. มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวนิ ยั (Compassion) ทักษะด้านชีวิตและอาชพี 1. ความยืดหยุ่นและการปรบั ตวั - สังเกต - กิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. การรเิ รม่ิ สรา้ งสรรคแ์ ละการเปน็ ตวั ของตวั เอง พฤตกิ รรมการ พัฒนาการเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 3. ทักษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์ 4. การเป็นผู้สรา้ งหรอื ผู้ผลิตและความรับผิดชอบเชือ่ ถือได้ 5. ภาวะผู้นำและความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะสำหรับศตวรรษที่ 21 1. คุณลกั ษณะดา้ นการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความ เปน็ ผู้นำ 2. คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การช้นี ำตนเอง การ - สงั เกต - กิจกรรม ตรวจสอบการ เรียนรขู้ องตนเอง พฤติกรรมการ พัฒนาการเรยี นรู้ 3. คณุ ลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ เคารพผ้อู ่ืน ความ เรยี นรู้ ซื่อสตั ย์ สำนึกพลเมอื ง 10. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 10.1 หนงั สือเรยี น อจท. ภมู ศิ าสตร์ ม.2 10.2 แผนท่ี 10.3 Powerpoint 10.4 กิจกรรมการเรียนรู้ 11. ใบงาน -

~ 29 ~ สอ่ื การจดั การเรียนรู้ ภาพแสดง แผนทที่ วีปยุโรปและแอฟรกิ า

~ 30 ~ แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว 1. ขอ้ ใดคอื วตั ถุประสงคข์ องการนาแผนทม่ี าใชป้ ระโยชน์ 6. อทิ ธพิ ลในขอ้ ใดทท่ี าใหผ้ ใู้ ชเ้ ขม็ ทศิ ตอ้ งหมนุ ปรบั ให้ หวั ลูกศรของเขม็ ทศิ ตรงกบั ตวั อกั ษร N กอ่ น ก. คานวณเวลาและสภาพอากาศ ก. เพราะหวั ลกู ศรจะชไ้ี ปทางทศิ เหนอื ของพระอาทติ ย์ ข. คน้ หาตาแหน่งและพกิ ดั ภมู ศิ าสตร์ ข. เพราะหวั ลูกศรจะชไ้ี ปทางทศิ เหนอื ตามขวั้ แมเ่ หลก็ ค. ศกึ ษาลกั ษณะโดยรวมของพน้ื ผวิ โลก โลก ง. หาระยะทาง สณั ฐาน และเสน้ สมมตบิ นพน้ื ผวิ โลก ค. เพราะหวั ลูกศรจะชไ้ี ปทางทศิ เหนือตามระนาบ 2. หากวดั ระยะทางจากจุด ก. ไปจุด ข. ในแผนทม่ี าตรา ของโลก สว่ น 1 : 50,000 ได้ 14 เซนตเิ มตร ระยะทางจรงิ ง. เพราะหวั ลูกศรจะชไ้ี ปทางทศิ เหนือตามแรงโนม้ ในพน้ื ทจ่ี ะคานวณไดเ้ ท่าใด ถว่ งโลก ก. 3 กโิ ลเมตร ข. 7 กโิ ลเมตร 7. ทศิ ตะวนั ออกเฉียงใตต้ ามเขม็ ทศิ บอกทางในสมยั โบราณ ค. 11 กโิ ลเมตร ง. 14 กโิ ลเมตร จะหมายถงึ ทศิ ใด 3. ถ้าแผนท่ที ่นี ักเรียนนามาใช้ให้รายละเอียดเกี่ยวกบั ก. ทศิ หรดี ข. ทศิ อุดร บรเิ วณ ค. ทศิ พายพั ง. ทศิ อาคเนย์ ท่รี าบ แม่น้า ภูเขา และป่าไม้ จดั เป็นแผนทป่ี ระเภท 8. การวดั มมุ ในเขม็ ทศิ จากทศิ เหนือไปตามเขม็ นาฬกิ า ใด มคี า่ ไมเ่ กนิ 360˚ เป็นการวดั มุมทม่ี ชี ่อื เรยี กว่าอะไร ก. แผนทท่ี อ่ งเทย่ี ว ข. แผนทร่ี ฐั กจิ ก. มมุ ซลิ วา ข. มมุ แอซมิ ทั ค. แผนทท่ี างหลวง ง. แผนทภ่ี มู ปิ ระเทศ ค. มุมแบรงิ ง. มมุ ไอโซโทป 4. ลกั ษณะการทางานของเคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตรใ์ ดท่ี 9. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของแผนทไ่ี ดส้ มบูรณท์ ส่ี ดุ ให้ ก. สงิ่ ทแ่ี สดงลกั ษณะตา่ ง ๆ บนผวิ โลก แรงดงึ ดูดระหวา่ งขวั้ สนามแม่เหลก็ ขวั้ โลกกบั ข. สง่ิ ทแ่ี สดงลกั ษณะทางธรรมชาตแิ ละทม่ี นุษยส์ รา้ งขน้ึ เขม็ แมเ่ หลก็ ค. สง่ิ ทแ่ี สดงลกั ษณะต่าง ๆ โดยอาศยั การยอ่ สว่ นลง ก. ลูกโลก ข. แผนท่ี บนแผน่ ราบ ค. เขม็ ทศิ ง. บารอมเิ ตอร์ ง. สง่ิ ทแ่ี สดงลกั ษณะต่าง ๆ โดยอาศยั การยอ่ ส่วนและ 5. ถา้ นักเรยี นใชเ้ ขม็ ทศิ ประกอบการเดนิ ทางไปจงั หวดั ใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนสงิ่ ต่าง ๆ เชยี งใหม่ ระหว่างทางพบป้ายบอกทางไปจงั หวดั 10. ถา้ นกั เรยี นตอ้ งการศกึ ษาเขตการปกครองของ แมฮ่ อ่ งสอน อยากทราบวา่ จงั หวดั แมฮ่ ่องสอนอยทู่ าง กรุงเทพมหานคร นักเรยี นควรใชแ้ ผนทป่ี ระเภทใด ทิศใดในเข็มทิศ เม่อื นักเรยี นไปถึงจงั หวดั เชียงใหม่ ก. แผนทท่ี างหลวง ข. แผนทท่ี อ่ งเทย่ี ว ก. ทศิ ตะวนั ตก ค. แผนทร่ี ฐั กจิ ง. แผนทภ่ี มู ปิ ระเทศ ข. ทศิ ตะวนั ออก ค. ทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ง. ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้

~ 31 ~ 11. แผนทต่ี ามมาตราสว่ นในขอ้ ใดทใ่ี หร้ ายละเอยี ดมาก 16. ถ้านักเรยี นต้องการศึกษาสถานท่ที ่องเท่ยี วภายใน แตม่ อี าณาบรเิ วณแคบ ทวปี ก. แผนทม่ี าตราสว่ น 1 : 20,000 ยโุ รปและทวปี แอฟรกิ าอย่างละเอยี ด จะใชเ้ ครอ่ื งมอื ข. แผนทม่ี าตราสว่ น 1 : 50,000 ทางภมู ศิ าสตรข์ อ้ ใด ค. แผนทม่ี าตราส่วน 1 : 75,000 ก. ลูกโลก ข. แผนทเ่ี ลม่ ง. แผนทม่ี าตราสว่ น 1 : 250,000 ค. ภาพจากดาวเทยี ม ง. รูปถา่ ยทางอากาศ 12. การใชส้ ญั ลกั ษณส์ สี าหรบั แผนทภ่ี มู ปิ ระเทศ จะใช้ 17. “เน่ืองจากแผนท่มี ีขนาดเล็ก จึงจาเป็นต้องย่อส่วน สญั ลกั ษณ์สใี นขอ้ ใดแทนสงิ่ ทม่ี นุษยส์ รา้ งขน้ึ และ ก. สเี ขยี ว ข. สฟี ้า มกี ารกาหนดมาตราสว่ นไว”้ จากขอ้ ความ ขอ้ ใด ค. สดี า ง. สนี ้าตาล สอดคลอ้ งกบั ความหมายของมาตราสว่ น 13. ปัจจบุ นั เคร่อื งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นขอ้ ใด ทม่ี นุษยใ์ ช้ ก. การระบสุ ญั ลกั ษณท์ ใ่ี ชใ้ นแผนท่ี ประโยชน์เพ่อื สบื คน้ ขอ้ มลู การเดนิ ทางมากทส่ี ดุ ข. ความสมั พนั ธข์ องพกิ ดั ทางภมู ศิ าสตรก์ บั ทศิ ก. GIS ข. GPS ค. การกาหนดตาแหน่งทต่ี งั้ ของสถานทก่ี บั ระยะจรงิ ค. GDP ง. GMT ง. อตั ราสว่ นระหว่างระยะบนแผนทก่ี บั ระยะจรงิ บนผวิ โลก 14. ขอ้ มลู ในขอ้ ใดมกั ถูกแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์เสน้ ทงั้ หมด 18. ถา้ บา้ น B อยทู่ างทศิ ตะวนั ตกของบา้ น A มุมแอซมิ ทั ก. ถนน ป่าไม้ นาขา้ ว ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั ทศิ ของบา้ น B ต่อบา้ น A ข. ป่าไม้ แหล่งน้า ศาลากลาง ก. 90˚ ข. 150˚ ค. นาขา้ ว แมน่ ้า โรงพยาบาล ค. 180˚ ง. 220˚ ง. ถนน แม่น้า เขตการปกครอง 19. วธิ กี ารอา่ นและแปลความหมายแผนทจ่ี ะตอ้ งเรมิ่ ตน้ 15. ในการดาเนินชีวิตประจาวนั ของนักเรียน ได้ใช้ จากขอ้ ใด ประโยชน์ ก. ทราบถงึ ชนิดของแผนทท่ี ุกประเภท จากแผนทใ่ี นดา้ นใดมากทส่ี ุด ข. รจู้ กั ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทกุ พน้ื ทบ่ี นโลก ก. การเดนิ ทางท่องเทย่ี ว ค. วดั มุมแอซมิ ทั ตามทศิ ตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างแมน่ ยา ข. การสารวจสมบตั ลิ า้ ค่า ง. ศกึ ษาและทาความเขา้ ใจสญั ลกั ษณท์ ป่ี รากฏบน ค. การสารวจพชื พรรณธรรมชาติ แผนท่ี ง. การสารวจทรพั ยากรธรรมชาติ 20. ในช่วงปิดเทอมภาคฤดรู อ้ นน้นี ักเรยี นจะไปเดนิ ป่ากบั ครอบครวั ดงั นนั้ นกั เรยี นควรจะนาเคร่อื งมอื ทาง ภมู ศิ าสตรใ์ ดไปดว้ ย ก. แผนท-่ี ลกู โลก ข. แผนท-่ี เขม็ ทศิ ค. เขม็ ทศิ -ลกู โลกง. ลกู โลก-รูปถ่ายทางอากาศ เฉลย 1. ข. 2. ข. 3. ง. 4. ค. 5. ก. 6. ข. 7. ง. 8. ข. 9. ง. 10. ค. 11. ก. 12. ค. 13. ข. 14. ง. 15. ก. 16. ข. 17. ง. 18. ก. 19. ง. 20. ข.

~ 32 ~ บนั ทกึ หลังสอนแผนการจัดการเรยี นรู้ที่...... กลมุ่ สาระการเรยี นร้.ู .................................... รายวชิ า........................รหสั วชิ า.............. ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี.่ ........................... ภาคเรียนท.่ี ...........ปกี ารศกึ ษา.............. หน่วยการเรยี นที่........เรอ่ื ง.................................... ชือ่ หน่วย....................................... เวลา.............ชัว่ โมง ครูผสู้ อน.................................................. 1. สรุปผลการเรียนการสอน 1. นกั เรยี นจำนวน.................คน นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ .................... คน คิดเปน็ ร้อยละ ................. ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ................ คน คิดเป็นร้อยละ ................. นกั เรียนมคี วามรูเ้ กดิ ทกั ษะ (P) ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ .................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ................ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ................. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ .................... คน คิดเป็นร้อยละ ................. ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ................ คน คดิ เป็นร้อยละ ................. นกั เรยี นท่ีมคี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ 1........................................................................................................................................ 2........................................................................................................................................ 2. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข  ควรนำแผนไปปรับปรุง เรอ่ื ง.............................................................................................. ..............................................................................................................................................................................  แนวทางแกไ้ ขปญั หานกั เรยี นท่ไี ม่ผา่ นการประเมิน............................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ........................................ครผู ูส้ อน (..............................................) ตำแหน่ง ...... วิทยฐานะ ....................

~ 33 ~ บนั ทกึ หลังสอน ตามแผนการเรียนรู้ฉบบั นี้ ไดร้ บั การพจิ ารณาแลว้ ความคิดเหน็ หัวหนา้ กลมุ่ สาระ……………………………….... ความคดิ เห็นรองผอู้ ำนวยการ…………......................... …………………………………………………………………………….. ................................................................................... …………………………………………………………………………….. ................................................................................... ลงชอื่ ............................................. ลงชื่อ.......................................... (................................................) (นางอุไรวรรณ จนั ทร์เมือง) หวั หนา้ กลุม่ สาระ........................... รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บริหารงานวชิ าการ

~ 34 ~


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook