วถิ ชี ีวติ ชุมชนบ้านหยงสตาร์ ชุมชมรมิ ทะเลอันดามนั คูม่ อื หลกั สูตรท้องถ่ิน โรงเรียนบา้ นหยงสตาร์ โดย นางสาวปณั ณ์นภัส เตยี วปิยกุล รหสั นิสิต 61105010067
คูม่ ือหลกั สตู รท้องถนิ่ โรงเรียนบา้ นหยงสตาร์ วถิ ชี วี ติ ชุมชนบ้านหยงสตาร์ ชมุ ชมรมิ ทะเลอนั ดามนั รายวิชา ปถ341 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม สำ�หรับครูประถมศกึ ษา 2 EL341 SOCIAL STUDIES, RELIGION AND CULTURE FOR ELEMENTARY TEACHER II ผศ.ดร. กิตตชิ ยั สธุ าสโิ นบล โดย นางสาวปณั ณ์นภัส เตยี วปยิ กลุ รหสั นิสติ 61105010067 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวชิ าการประถมศึกษา มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ
ค�ำ นำ� คู่มือหลักสูตรท้องถ่ินเล่มนี้เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษา รายวชิ า ปถ341 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมสำ�หรับครูประถม ศึกษาv2vซึ่งจัดทำ�ขึ้นเพื่อพัฒนาให้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำ� หลักสูตรท้องถิ่นตามกระบวนการและหลักการที่ได้ศึกษาcโดยศึกษา บริบทสถานศึกษาในบริเวณชุมชนของผู้จัดทำ�cเพ่ือเป็นขอบเขตใน การน�ำ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมมาบูรณาการเข้ากบั การ เรียนรู้เร่ืองราวเก่ียวกับชุมชนในรายวชิ าเพิ่มเตมิ ซ่งึ ผจู้ ดั ทำ�ได้นำ�เอา โรงเรียนบา้ นหยงสตาร์ซงึ่ ตั้งอยูใ่ นชุมชนหยงสตาร์ต�ำ บลท่าข้ามอำ�เภอ ปะเหลียนจังหวัดตรังมาเป็นบริบทในการจำ�ทำ�หลักสูตรท้องถิ่นข้ึน โดยการจดั ทำ�หลกั สตู รฉบบั นี้ส�ำ เร็จข้ึนได้ด้วยอาศัยการมีสว่ น ร่วมของชาวบ้านชุมชนหยงสตาร์ท่ีคอยให้ความช่วยเหลือvท้ังในด้าน ความร้แู ละด้านต่าง ๆ รวมถงึ ท่าน ผศ.ดร.กติ ตชิ ยั สธุ าสิโนบล อาจารย์ ประจำ�วิชาสังคมศึกษาpศาสนาและวัฒนธรรมสำ�หรับครูประถม ศกึ ษา 2 ที่ไดใ้ ห้ความรูแ้ ละให้ค�ำ ปรกึ ษาในการจดั ท�ำ เล่มหลักสูตรน้ี ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องท่ีมีส่วนที่ให้คำ�ปรึกษา ให้ข้อมูลvและความร่วมมือร่วมใจในการจัดทำ�คู่มือหลักสูตรสถาน ศกึ ษา โรงเรียนบ้านหยงสตาร์ สำ�หรบั ใช้เปน็ แนวทางใหแ้ ก่ผู้ทีส่ นใจ และศึกษาเกีย่ วกบั การพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษาตอ่ ไป ผจู้ ทั �ำ 15 กุมภาพนั ธ์ 2564 ก
สารบัญ ก ข คำ�นำ� 1 สารบญั 3 โครงสร้างรายวิชา 4 ค�ำ อธิบายรายวิชา ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 5 ค�ำ อธบิ ายรายวชิ า ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 6 คำ�อธบิ ายรายวชิ า ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 7 ค�ำ อธิบายรายวิชา ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 8 คำ�อธบิ ายรายวิชา ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 11-12 คำ�อธิบายรายวชิ า ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 13-14 ข้อมลู ท่วั ไป 15 สถานที่ส�ำ คญั 16 ประวตั ิศาสตร์ 16 ศาสนาและวฒั นธรรม 17-18 วิถชี ีวติ ค-ง ของดีหยงสตาร์ บรรณานุกรม ข
โครงสรา้ งรายวชิ าเพม่ิ เตมิ โรงเรยี นบา้ นหยงสตาร์ ระดับช้นั รายวิชา สมรรถนะ จดุ เดน3 โรงเรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร ความเปLนชุมชนริมทะเล ทำใหC มีความเปLนเอกลักษณPดCาน ช้นั ประถมศึกษาป<ท่ี 1 สิ่งแวดลCอมรอบชมุ ชน 2. ความสามารถในการคิด ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลCอมที่สมบูรณP 3. ความสามารถในการใชCทกั ษะชีวติ ความเปLนชุมชนริมทะเล ซึ่งเปLน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร สังคมพหุวัฒนธรรม มีศาสนา และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต3 ช้ันประถมศึกษาปท< ี่ 2 รCูศาสนา รักษาวัฒนธรรม 2. ความสามารถในการคดิ มีความเปLนอนั หนงึ่ อันเดยี วกนั 3. ความสามารถในการใชCทักษะชวี ิต ประวัติศาสตรP ความเปLนมาของ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร ชุมชนหยงสตารPที่มีเรื่องราว สำคญั สบื เนอ่ื งมาจนถงึ ปจX จุบัน ชน้ั ประถมศึกษาปท< ี่ 3 ประวัติศาสตรPบCานเรา 2. ความสามารถในการคิด วิถีชีวิต ความเปLนอยู3ของ 3. ความสามารถในการใชทC ักษะชีวติ ชาวบCานในชุมชน การประกอบ 1. ความสามารถในการส่อื สาร อาชีพที่เกยี่ วขCองกับทะเล 2. ความสามารถในการคิด สินคCาส3งออกที่มีชื่อเสียง สรCาง ชนั้ ประถมศกึ ษาปท< ่ี 4 วิถีชวี ติ ชาวหยงสตารP 3. ความสามารถในการใชCทกั ษะชวี ติ รายไดCใหCกับชาวบCานชุมชน หยงสตารP ควรค3าแก3การเรียนรCู 4. ความสามารถในการใชเC ทคโนโลยี และสบื สาน 1. ความสามารถในการสื่อสาร ศึกษาภูมิปXญญาของชุมชนเพื่อ ชั้นประถมศกึ ษาปท< ี่ 5 ของดหี ยงสตารP 2. ความสามารถในการคดิ นำไปสู3การพัฒนา สรCางสรรคP 3. ความสามารถในการแกCปญX หา เปLนผลิตภัณฑP นวัตกรรมเพื่อ ชุมชน 4. ความสามารถในการใชทC ักษะชีวิต 1. ความสามารถในการสอื่ สาร ช้ันประถมศกึ ษาป<ที่ 6 สรCางสรรคP พัฒนา 2. ความสามารถในการคดิ ภมู ิปXญญาบCานเรา 3. ความสามารถในการแกCปXญหา 4. ความสามารถในการใชทC กั ษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเC ทคโนโลยี 1
คำ�อธบิ าย รายวิชาเพิ่มเตมิ 2
ค�ำ อธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ส 11201 ส่งิ แวดลอ้ มรอบชุมชน สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง / ปี ศึกษา สังเกตสงิ่ แวดล้อมภายในชมุ ชน รูจ้ ักประเภทและความแตกต่างระหวา่ งสง่ิ มชี ีวติ และไม่มีชีวิตใน ชมุ ชน รวมถงึ ศกึ ษาความส�ำ คัญของทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ มภายในชุมชน โดยใช้กระบวนการเรยี นรผู้ ่านการสังเกต ตงั้ ค�ำ ถาม โดยมผี สู้ อนเป็นผู้กระต้นุ การเรยี นรู้ ตัง้ คำ�ถาม และ สร้างความเขา้ ใจ และเป็นผคู้ อยใหค้ �ำ แนะนำ�และสรุปองคค์ วามรู้อย่างเป็นระบบ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นไดม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมของชุมชน มีการ เรยี นร้โู ดยผ่านการใช้ทักษะการสงั เกตและการต้งั ค�ำ ถาม เกดิ สมรรถนะสำ�คญั ด้านการสือ่ สาร การคิด รวมถึง มีสมรรถนะในการใช้ทกั ษะชีวิต ไดต้ ระหนักถึงความส�ำ คญั ของทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของชมุ ชน และสามารถนำ�ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจ�ำ วันได้ ผลการเรยี นรู้ 1. รู้จกั ประเภท และแยกความแตกตา่ งของทรพั ยากรธรรมชาติแตล่ ะประเภท 2. อธิบายความสำ�คญั ของทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมของชุมชน 3. มที กั ษะการสังเกต 4. มีทักษะการตง้ั คำ�ถาม 5. ตระหนักถึงความส�ำ คญั และเห็นคุณคา่ ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของชุมชน รวมทัง้ หมด 5 ผลการเรียนรู้ 3
ค�ำ อธิบายรายวิชาเพิม่ เตมิ ส 12201 รศู้ าสนา รักษาวัฒนธรรม สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ปี ศกึ ษา สงั เกต และวิเคราะห์ความเชอ่ื ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของคนในชุมชน เพือ่ ทีจ่ ะไดเ้ ขา้ ใจ ความแตกต่างหลากหลายของความเชอ่ื วฒั นธรรมของคนท่ีอยู่รว่ มกนั ในสงั คม โดยใชก้ ระบวนการเรยี นร้ผู ่านการสังเกต ตงั้ ค�ำ ถาม โดยมีผูส้ อนเปน็ ผู้กระตุน้ การเรียนรู้ ตัง้ คำ�ถาม และ สร้างความเขา้ ใจ และเป็นผู้คอยให้ค�ำ แนะนำ�เสรมิ สรา้ งองคค์ วามรู้ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความเข้าใจ เพือ่ ให้ผู้เรียนไดม้ ีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับความเช่อื ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณขี องคนในชุมชน มกี ารเรียนรู้โดยผ่านการใช้ทักษะการสังเกตและการตัง้ ค�ำ ถาม เกดิ สมรรถนะส�ำ คัญด้านการสอ่ื สาร การคิด รวมถงึ มีสมรรถนะในการใช้ทักษะชวี ติ ไดต้ ระหนักถึงความส�ำ คัญของศาสนา ความเชื่อ วฒั นธรรม ประเพณี ที่คนในสังคมยึดเหนีย่ วเปน็ ท่พี ึง่ ทางจิตใจ รวมถึงเพือ่ ใหเ้ ข้าใจถึงความแตกตา่ งหลากหลายของความเชอ่ื ของ คนในชุมชน ผลการเรยี นรู้ 1. รู้จักและเข้าใจการดำ�เนนิ กิจกรรมทางศาสนาและความเชื่อของคนในชมุ ชน 2. รู้จกั และเข้าใจวฒั นธรรม ประเพณขี องคนในชุมชน 3. อธิบายความส�ำ คญั ของศาสนา ความเช่ือ วฒั นธรรม ประเพณี 4. เขา้ ใจและยอมรับในความแตกตา่ งหลากหลายของความเช่ือของคนในชุมชน 5. ตระหนักถึงความสำ�คัญของความเชอ่ื ศาสนา วัฒธรรม ประเพณใี นชุมชน รวมทัง้ หมด 5 ผลการเรียนรู้ 4
ค�ำ อธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เตมิ ส 13201 ประวัตศิ าสตร์บา้ นเรา สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 40 ช่วั โมง / ปี ศกึ ษาประวัติศาสตรค์ วามเป็นมาของชุมชน บุคคลส�ำ คญั วนั สำ�คญั รวมถงึ เหตกุ ารณส์ ำ�คัญต่าง ๆ ของ ชมุ ชน โดยใช้กระบวนการเรยี นร้ผู า่ นการสงั เกต ตง้ั คำ�ถาม โดยมีผู้สอนเป็นผู้กระตนุ้ การเรียนรู้ ต้ังคำ�ถาม และ สรา้ งความเขา้ ใจ โดยผเู้ รยี นเรียนร้จู ากการสงั เกต กระบวนการสบื คน้ ข้อมลู คดิ วิเคราะห์ และการลงส�ำ รวจใน พ้นื ทจ่ี รงิ ผา่ นกระบวนการท�ำ งานเปน็ กลุ่ม และการลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ เพอื่ ให้ผูเ้ รียนได้มีความรู้ ความเขา้ ใจประวัตคิ วามเปน็ มาของชุมชน บุคคลส�ำ คัญ วนั ส�ำ คัญ รวมถึง เหตกุ ารณ์สำ�คัญตา่ ง ๆ ของชุมชน มกี ารเรียนรู้โดยผ่านการใชท้ ักษะการสังเกต การต้ังคำ�ถาม การสืบคน้ ข้อมลู และการคิดวเิ คราะห์ เกิดสมรรถนะส�ำ คญั ด้านการส่ือสาร การคิด รวมถึงมสี มรรถนะในการใชท้ ักษะชวี ิต ได้ เรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจรากเหงา้ ของชุมชน ตระหนักถึงความสำ�คัญของคุณค่าของเหตุการณแ์ ละบคุ คลส�ำ คัญในชุมชน ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายประวตั ศิ าสตรค์ วามเป็นมาของชุมชน บคุ คลส�ำ คัญ วนั ส�ำ คญั รวมถงึ เหตุการณ์สำ�คญั ตา่ ง ๆ ของชมุ ชน 2. อธิบายความส�ำ คญั ของบคุ คลส�ำ คัญ วันส�ำ คญั รวมถึงเหตุการณ์ส�ำ คญั ตา่ ง ๆ ของชุมชน 3. ตระหนักถงึ ความสำ�คัญและเหน็ คณุ คา่ ของชุมชน 4. มที ักษะกระบวนการในการปฏิบัติงาน และมที กั ษะการสอื่ สาร. รวมท้งั หมด 4 ผลการเรยี นรู้ 5
ค�ำ อธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม ส 14201 วถิ ชี ีวติ ชาวหยงสตาร ์ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 40 ชัว่ โมง / ปี ศึกษา สงั เกตวถิ ีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบา้ นในชุมชน การใชช้ ีวติ การประกอบอาชีพ รวมถึงการ ดำ�เนินกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำ�วัน อนั ส่งผลให้เกิดเปน็ อัตลกั ษณข์ องชาวชมุ ชนหยงสตาร์ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรผู้ า่ นการสังเกต ตัง้ ค�ำ ถาม โดยมผี ู้สอนเป็นผกู้ ระตุน้ การเรยี นรู้ ต้ังคำ�ถาม และสรา้ งความเข้าใจ โดยผเู้ รียนเรียนร้จู ากการสังเกต กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มลู คดิ วิเคราะห์ และการลงสำ�รวจ ในพื้นที่จริง ผา่ นกระบวนการท�ำ งานเปน็ กล่มุ และการลงมือปฏบิ ตั ิจรงิ เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นไดม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจวิถีชวี ิต ความเป็นอยู่ของชาวบา้ นในชมุ ชน การใช้ชวี ิต การประกอบอาชีพ รวมถึงการดำ�เนนิ กิจกรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจ�ำ วนั มกี ารเรยี นรูโ้ ดยผ่านการใช้ทักษะการ สงั เกต การตงั้ คำ�ถาม การสืบค้นข้อมูล และการคิดวเิ คราะห์ เกดิ สมรรถนะส�ำ คญั ดา้ นการสือ่ สาร การคิด ทักษะ ชีวติ รวมถึงมสี มรรถนะในการใชเ้ ทคโนโลยี ได้เรียนรู้และเข้าใจวถิ ชี ีวติ ของคนในชุมชน ตระหนักถงึ ความสำ�คญั ของคุณคา่ ของวถิ ชี วี ติ อันเป็นอัตลักษณข์ องคนในชมุ ชน ผลการเรียนรู้ 1. ร้จู ักและเขา้ ใจวถิ ชี ีวิต ความเป็นอยขู่ องคนในชมุ ชน 2. อธิบายความสำ�คัญของวถิ ีชีวติ ความเปน็ อยขู่ องคนในชุมชน 3. ตระหนักถงึ ความส�ำ คัญและเหน็ คุณค่าของวถิ ีชวี ิตของคนในชุมชน 4. มีทักษะกระบวนการในการปฏิบัตงิ าน และมีทักษะการสอื่ สาร รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้ 6
คำ�อธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ ส 15201 ของดหี ยงสตาร ์ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง / ปี ศึกษา สงั เกต เรียนรสู้ ินค้าส่งออกท่เี ป็นเอกลักษณ์ของชมุ ชน ซง่ึ เปน็ สนิ ค้าที่สร้างอาชพี สรา้ งรายได้ และชอ่ื เสียงใหก้ ับชุมชน โดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ผ่านการสังเกต ตงั้ คำ�ถาม โดยมีผ้สู อนเปน็ ผู้กระตนุ้ การเรียนรู้ ตั้งคำ�ถาม และ สร้างความเข้าใจ โดยผเู้ รียนเรยี นรจู้ ากการสงั เกต กระบวนการสืบค้นข้อมูล คิดวเิ คราะห์ และการลงสำ�รวจใน พนื้ ท่จี ริง ผ่านกระบวนการทำ�งานเป็นกลมุ่ และการลงมอื ปฏบิ ัติจริง เพ่ือให้ผู้เรยี นไดม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจในสนิ คา้ สง่ ออกทเ่ี ปน็ เอกลักษณ์ของชมุ ชน ซึง่ เป็นสนิ คา้ ทส่ี ร้าง อาชพี สรา้ งรายได้ และช่อื เสียงใหก้ ับชมุ ชน มีการเรยี นรูโ้ ดยผ่านการใชท้ ักษะการสังเกต การต้ังค�ำ ถาม การ สบื คน้ ข้อมลู และการลงมือปฏิบัติจรงิ เกดิ สมรรถนะส�ำ คัญด้านการสอ่ื สาร การคิด การแก้ปญั หา รวมถงึ มี สมรรถนะในการใชท้ ักษะชีวติ ไดเ้ รยี นรูก้ ระบวนการผลิตสนิ ค้าของดีของชมุ ชน ตระหนักถึงความสำ�คญั ของ สนิ ค้าในชมุ ชน ซงึ่ สร้างอาชีพและรายได้ให้กบั ชมุ ชน ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายกระบวนการผลิตสินคา้ ของดใี นชุมชน 2. อธบิ ายความสำ�คญั ของสนิ คา้ ของดีในชุมชน 3. ตระหนักถงึ ความสำ�คัญและเห็นคณุ ค่าของสินคา้ สง่ ออกของชุมชน 4. มที ักษะกระบวนการในการปฏิบตั งิ าน รวมท้ังหมด 4 ผลการเรียนรู้ 7
ค�ำ อธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ส 16201 สร้างสรรค์ พฒั นา ภมู ิปญั ญาบา้ นเรา สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี ศึกษา สงั เกต เรียนรภู้ มู ปิ ญั ญา วิถชี ีวติ ความเป็นชุมชนหยงสตาร์ จดั ทำ�โครงการ เพื่อน�ำ ไปสร้างสรรค์ เปน็ นวตั กรรม หรือพฒั นาทรัพยากรทีม่ อี ย่ใู นชุมชนให้ดียงิ่ ข้นึ ทั้งในแงข่ องการแกไ้ ขปรับปรุงจดุ ดอ้ ย และสง่ เสรมิ จดุ เด่นของชมุ ชน โดยใชก้ ระบวนการเรียนร้แู บบ Project Based Learning โดยมีผสู้ อนเป็นผกู้ ระตนุ้ การเรียนรู้ ตงั้ คำ�ถาม และสรา้ งความเขา้ ใจ โดยผเู้ รียนเรยี นรจู้ ากการลงมือปฏิบตั ิจรงิ โดยเน้นกระบวนการทำ�งานเป็น กลุ่ม ไดฝ้ ึกกระบวนการทำ�งานด้วยตนเอง ตงั้ แตก่ ระบวนการคิด วางแผน แก้ปัญหา ลงมือปฏบิ ัติ และนำ�ไป ใชไ้ ด้จรงิ เพอื่ ให้ผู้เรียนไดม้ คี วามรู้ ความคดิ ความเข้าใจในการพัฒนา สรา้ งสรรค์สง่ เสริมภูมิปญั ญาของชมุ ชน มีการเรยี นรู้โดยผา่ นการกระบวนการเรียนร้แู บบ Project Based Learning มีการปฏบิ ตั ิด้วยตนเองในทุก กระบวนการเรยี นรู้ เกดิ สมรรถนะสำ�คัญดา้ นการสือ่ สาร การคิด การแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยี รวมถงึ มีสมรรถนะ ในการใชท้ กั ษะชวี ติ ไดเ้ รียนรแู้ ละตระหนักถงึ ความสำ�คัญของภูมปิ ญั ญาทมี่ อี ย่ใู นชมุ ชน ส่งเสรมิ ให้ผ้เู รยี นเกดิ ความรักและภาคภมู ิใจในชมุ ชนของตน ผลการเรียนรู้ 1. เขา้ ใจและวเิ คราะหว์ ถิ ีชีวิต ภมู ปิ ญั ญาของชมุ ชน 2. อธิบายความสำ�คัญของภมู ิปัญญาของชุมชน 3. มีสามารถในคดิ สร้างสรรค์ พัฒนา ต่อยอดภูมปิ ญั ญาของชุมชน 4. ตระหนกั ถงึ ความส�ำ คญั และเหน็ คณุ คา่ ของภมู ปิ ัญญาของชมุ ชน 5. มที กั ษะกระบวนการในการปฏิบตั ิงาน รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี น 8
ส่ิ ง แ ว ด ด ล้ อ ม ส ถ า น ที่ สำ � คั ญ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ข อ ง ดี ชุ ม ช น 9
ชุมชนหยงสตาร์ ชุมชนรมิ ทะเลอันดามนั 10
01 สง่ิ แวดลอ้ ม สิ่งแวดล้อมของชุมชน ข้อมลู ชุมชน อาณาเขต หยงสตาร์vหรือช่ือเต็มว่าvตันหยงสตาร์ ทิศเหนือvจดคลองท่าข้ามโดยมีคลอง หมายความว่า แหลมท่ยี น่ื ไปในทะเล (ตันหยง เล็ก ๆ เชื่อมต่อมาจากคลองสังหลัง ซึ่งอยู่ทางทิศ แปลวา่ แหลม) มที ่มี าจาก ลักษณะภมู ิประเทศ ที่ ตะวันออก และมีคลองใหญ่ที่อยู่อีกคลองหนึ่ง มีแหลมยนื่ ไปในทะเล โอบรอบหมู่บา้ นไว้ เพราะ คือคลองหลักขัน มีสะพานท่าข้าม เป็นตัวเชื่อมสู่ พ้ืนท่ีของตันหยงสตาร์vมีลักษณะเป็นแหลมย่ืน โลกภายนอก ลงสู่ทะเลอันดามันโดยมีแหลมหยงสตาร์อยู่ตรง ทิศตะวันออก จดคลองหลักขันและปาก ปลายสุด ถา้ มองจากภาพถา่ ยดาวเทยี มจะเหน็ ชุม คลองมีตะกอนและสันดอนทราย และเกาะเหลา ชนตันหยงสตารค์ ล้ายหัวเผือก คือ คอดก่วิ ดา้ นบน ตรง แล้วค่อย ๆ ปอ่ งออกตรงกลางพอไปด้านล่างจะ ทิศตะวันตก จดทะเลอันดามัน ซึ่งมีแนว คอ่ ย ๆ เรียวเล็กลงตรงจุดปลายแหลม ชายฝั่งที่ยาวเป็นแหล่งสัตว์น้ำ�หลายชนิด ทิศใต้ จดทะเลอันดามัน โดยมีหัวแหลม ทีต่ งั้ อยู่ปลายสุดของพื้นที่ ทั้งหมดห่อหุ้มไปด้วยป่า ชายเลน แต่ปัจจุบันแปลสภาพเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้ง บา้ นหยงสตาร์ หมทู่ ี่ 2 ต�ำ บลทา่ ข้าม กุลาดำ�บางส่วนโดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ส่วนตรง อำ�เภอปะเหลียน จังหวดั ตรัง เป็นกล่มุ บ้านเกา่ แก่ กลางเป็นที่ราบสูง ดังนั้น ชุมชนตันหยงสตาร์ จึง ตัง้ แต่ 4 หม่บู ้าน กลมุ่ บา้ นเก่าดัง้ เดิมยังคงใชช้ อ่ื วา่ ไม่มีภัยธรรมชาติจากวาตภัย เพราะมีป่าชายเลน บ้านออก หรอื บ้านหยงสตา ซึ่งเปน็ ภาษา มลายู ห่อหุ้ม และไม่มีอุทกภัย เพราะตั้งอยู่ในทำ�เลที่ แปลวา่ แหลมมะปราง ตอ่ มาเปลย่ี นการเขยี นเปน็ สูงจากระดับน้ำ�ทะเล จากความอุดมสมบูรณ์ของ ตนั หยงสตาร์ หรอื หยงสตาร์ ทรัพยากรธรรมชาติและไม่มีภัยธรรมชาติจึงอยู่ กันด้วยความสงบสุข 11
แผนผังชุมชนหยงสตาร์ แผนท่ีท่องเท่ียวบา้ นหยงสตาร์ ต.ท่าขา้ ม อ.ปะเหลยี น จ.ตรงั 1 ท่ีว่าการอาเภอปะเหลียน 26 2 โรงเรยี นบา้ นหยงสตาร์ 23 3 มสั ยดิ หยงสตาร์ 6 25 4 สถานีอนามยั หยงสตาร์ 7 5 อบต.ท่าขา้ ม 12 11 6 ศาลเจา้ 108-109 13 24 7 บา้ นโบราณหลงจ๋ฮู วด 8 8 โรงเก็บน้ามนั 9 ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ 14 15 10 ประติมากรรมปนู ป้ันปลาปักเป้ า 9 11 กลม่ ุ กะปิ 10 12 กลม่ ุ ไข่เค็ม 13 กลม่ ุ ผา้ บาเตะ๊ เพน้ ท,์ ปัก,เย็บ 14 ประติมากรรมปนู ป้ันปลาตีน 1 15 ท่าเทียบเรอื ด่านศลุ กากร 22 16 รงั นก ทางไปลิพงั 2 16 19 17 โรงเรยี นบา้ นท่งุ รวงทอง 345 17 18 18 กลม่ ุ แปรรปู อาหารทะเล ถนนตรัง-หยงสตาร์ 19 แปลงเกษตรอินทรยี ์ 20 หินหวั ชา้ ง 21 แหลมหยงสตาร์ 21 22 กระโจมไฟ 20 23 สนั หลงั มงั กรเกล็ดทองคา 24 เกาะเหลาตรง 25 สนั หลงั มงั กรเหลือง 26 เขาสะบนั สนบั สนนุ โดยสำนกั งำนพฒั นำชมุ ชนอำเภอปะเหลียน ลักษณะภูมปิ ระเทศ ลกั ษณะภมู ิอากาศ ทรพั ยากรธรรมชาติ พ้ืนท่ีตดิ กับทะเล เปน็ ปา่ ชาย มี 2 ฤดู คือ ฤดูฝน เริม่ ต้ังแต่ โดยภูมปิ ระเทศตดิ ทะเล มีอ่าว เลนท่ีมีระบบนิเวศชายฝั่งท่ีมี เ ดื อ น พ ฤ ษ ภ า ค ม ถึ ง เ ดื อ น คลองน�ำ้ เค็ม แตม่ คี ลองนำ�้ จดื ความอุดมสมบูรณ์และมีความ ธันวาคม กบั ฤดูร้อน เร่ิมตงั้ แต่ หลายสายมารวมกันในอา่ ว สำ�คัญต่อการดำ�รงชีวิตของ เดือนมกราคมถึงเดอื นเมษายน จึงกลายเป็นนำ�้ กรอ่ ย ประกอบ ชุมชนท้องถ่ินถัดจากป่าชาย กับมีป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ เลนขึน้ มา เปน็ พ้นื ราบ ใช้เปน็ ทะเลแถบน้ีจงึ มีกุ้ง หอย ปู ปลา พื้นที่เลีย้ งกุง้ ท่ีราบทเี่ ปน็ เนินสูง ชกุ ชมุ เปน็ ทีส่ ร้างบา้ นเรือนอยู่อาศยั 12
แหลมหยงสตา ์ร 02 สถานท่ี สำ�คัญ แหลมหยงสตาร์เป็นแหลมหินท่ีย่ืนลงไปใน ทะเลwพื้นนำ�้ หน้าแหลมหยงสตาร์มีลักษณะ เป็นอ่าวทม่ี ีท่าเทยี บเรือที่ยนื่ ออกไปในอ่าว ิหนหัว ้ชาง หินหัวช้างอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแหลมหยง สตาร์เป็นกลุ่มหินริมทะเลวางเรียงรายกันอยู่ บ้างก้อนมีลักษณะคล้ายหัวช้างจึงเป็นท่ีมา ของหินหัวช้าง ชาวบา้ นแถบนี้มคี วามเช่อื ว่า มีทวดศักด์ิสิทธสิ์ ถติ ยอ์ ยู่ตามหมู่หนิ เหล่าน้ี เกาะตะบัน เกาะตะบันหรือเกาะสะระบันเป็นเกาะหินปูน ลักษณะเป็นภูเขาสูงกลางทะเลห่างจากแห ลมหยงสตาร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เกาะตะบนั เปน็ ที่อยู่อาศัยของค้างคาวแมไ่ ก่ นบั พนั ตัว โรงพระร้อยแปด-ร้อยเ ้กา ถานที่ประกอบพิธีกรรมwประเพณีของชาว ไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในชุมชนหยงสตาร์ ชุมชนบ้านหยงสตาร์เคยเป็นชุมชนของชาว จีนไหหลำ�ท่ีอพยพมาจากประเทศจีนเข้ามา ทำ�มาหากินในพ้ืนที่นี้มาก่อนwและได้นำ�ส่ิงที่ เขาเคารพบชู าเขา้ มาแล้วตง้ั เปน็ ศาลข้ึน ัมสยิด ัตนหยงสตา ์ร มัสยิดท่ีเก่าแก่แห่งหน่ึงดำ�เนินการจัดต้ังข้ึนใน อิสลามและจริยธรรมประจำ�มัสยิด ปีพ.ศ. 2475 ศูนยร์ วมจติ ใจชาวมสุ ลมิ ทอ่ี าศัย เป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านศาสนา อยใู่ นชุมชนหยงสตาร์ ใช้ส�ำ หรับประกอบพิธี แก่เด็กและเยาวชนและเป็นสถานท่ี ละหมาดประจำ�ทุกวันมีศูนย์อบรมศาสนา ประชมุ ของหมู่บา้ น 13
กระโจมไฟอโลกวชิร ุยตต์ กระโจมไฟอโลกวชิรยุตต์เป็นกระโจมไฟบอก LAND ทิ ศ ท า ง ตำ � แ ห น่ ง ใ น ก า ร เ ดิ น เ รื อ ท า ง ฝั่ ง ท ะ เ ล MARK อันดามัน สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ใช้พลงั งาน จากแผ่นโซลาเซลล์ ปจั จุบันอยใู่ นความดูแล ของ กรมยุทธศาสตรก์ องทพั เรือ คำ�วา่ อาโลกวชริ ยทุ ธ์ หมายถงึ แสงสวา่ งแห่งโลกบอกทิศทาง ตำ�แหนง่ ใน การเดินเรอื โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ซ่งึ ตงั้ อย่ใู น ตำ�แหน่งที่สูงสุดของเกาะตันหยงสตาร์เป็นกระโจม ไฟท่มี ขี าหย่งั เป็นรูปสามเหลีย่ ม โครงสรา้ งทำ�ด้วย เหล็ก ความสงู ประมาณ ๒๐ เมตร ในอดีตชมุ ชน บ้านหยงสตาร์เป็นเมืองท่าเก่าท่ีมีการติดต่อค้าขาย กับรฐั ปีนัง ประเทศมาเลเซีย โก ัดงเก็บน้ำ�มัน ๊กาดโบราณ โกดังเกบ็ นำ�้ มันกา๊ ดโบราณ เป็นอาคารก่ออิฐถือปนู ทบึ รปู ทรงส่เี หล่ียมจตั ุรัส เป็นคลังเก็บนำ�้ มันกา๊ ด ของพ่อคา้ ชาวจีนในสมยั กอ่ นสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 ซึ่งมีคณุ ค่าความส�ำ คัญทางสถาปัตยกรรม คณะรองแ ็งง แหลง่ เรยี นรวู้ ฒั นธรรมพ้ืนบ้าน (รองแงง็ ) เกาะหยง สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ�เป็นสันทรายท่ีอยู่ ัสนหลังมังกรเก ็ลดทอง ำค� สตาร์ คณะรองแง็ง ตันหยงสตาร์ โฮมสเตยน์ ายสม กลางทะเลท่ีถูกกระแสคลนื่ ซัดของ 2 ฝงั่ ของ มิตร หนกหลงั สถานท่อี ันเปน็ ศูนย์กลางทำ�การฝกึ ตวั สัน และจะมีเกาะเปน็ หัวมังกร รวมท้งั ยงั ซ้อมการแสดงศิลปะพ้ืนบ้านรองแง็งwเพื่ออนุรักษ์ มีสันหลังเปรียบเสมือนตัวมังกรwพญานาค ศิลปวัฒนธรรมอันลำ�้ ค่าน้ีไว้ให้เป็นมรดกตกทอดถึง ใหญ่wหรืองูใหญ่wเล้ือยอยู่กลางทะเลยาม ลกู หลานสืบตอ่ ไป นำ�้ ทะเลลดwสีทองเกิดจากการทับถมของ เปลือกหอยนานาชนิดและเม่ือโผล่พ้นนำ�้ กระทบแสงแดดจะเปล่งแสงคล้ายทองคำ� ทอดยาวราวกิโลเมตรครงึ่ 14
03 ป ร ะ วั ติ ศาสตร์ ป ร ะ วั ติ ศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ สมยั เม่อื เมืองพทั ลุงขยายอำ�นาจมาปกครอง ดินแดนแถบน้ีwเมืองพัทลุงได้พัฒนาท่าเรือwบ้านหยงส ตาร์ ใหเ้ ปน็ จุดรบั สง่ สินค้าและเปน็ กลางทางการคมนาคม ทางเรือ มีการแตง่ ตั้งคนในท้องถิน่ ที่ เป็นขา้ ราชการเมอื ง พัทลุงมาปกครองเกาะตันหยงสตาร์wเก็บภาษีรายได้ส่ง ต่อเมืองพัทลุง บรเิ วณบา้ น หยงสตาร์ หมทู่ ่ี 2 น้ีเป็นท่ี ตั้งบ้านเรือนของผู้ปกครองเกาะwต่อมาเม่ือมีคนเช้ือสาย มลายูและคนเชื้อสายจีนอพยพเข้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น จึงได้ตัง้ ตลาดคา้ ขาย ต้งั มสั ยดิ ต้งั โรงพระร้อยเกา้ ตง้ั วดั ในปี พ.ศ.2440 สมยั พระยารษั ฎานปุ ระดิษฐม์ หิศรภักดี (คอซมิ บี๊ ณ ระนอง) มาเป็นผู้ว่าราชการเมอื งตรงั เมอ่ื บา้ น หยงสตาร์เจริญขึ้นแทบทุกด้านwทางราชการได้ย้ายท่ี ว่าการอำ�เภอปะเหลียนจากบ้านท่าพญาw(ตำ�บลท่าพญา ในปัจจบุ นั ) มาตงั้ ทบี่ ้านหยงสตาร์ และต้งั สถานตี �ำ รวจ ด่านป่าไม้wด่านศุลกากรwและโรงเรียนประถมศึกษา ต่อมาทางราชการได้ย้ายที่ว่าการอำ�เภอมาตั้งอยู่ในพื้นที่ ปจั จุบัน และไดย้ ้ายหนว่ ยงานบางหน่วยตามไปด้วย 15
ศาสนา ผคู้ นส่วนใหญน่ ับถอื ศาสนาอสิ ลาม ( รอ้ ยละ95 ) มี ชุมชนส่วนหน่งึ ( ประมาณร้อยละ 5 ) เปน็ ชาวไทยเชอ้ื สายจีน นับถอื ศาสนาพทุ ธ วัฒนธรรม ประเพณี ด้วยต้ังแต่เดิมมาwแม้ชุมชนหยงสตาร์เป็นสังคม พหุวัฒนธรรม มคี นตา่ งเชอ้ื ชาติ ต่างศาสนาอยรู่ วมกนั แต่ กส็ ามารถอย่รู ว่ มกนั ได้อย่างสามคั คีกลมเกลยี วกนั โดยตา่ ง ฝ่ายต่างปฏิบัติตามประเพณีของตนwคนเชื้อสายจีนได้สร้าง โรงพระรอ้ ยเก้าโรงทวดประกอบพธิ กี รรมต่างๆเชน่ วันเชงเมง้ วันตรุษจีน เป็นต้น ส่วนผ้ทู ี่นับถือศาสนาอสิ ลาม กไ็ ดม้ ี การสร้างมัสยิดข้ึนwเพ่ือประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น วนั รายอ (วนั อีด) เป็นตน้ การแสดงศลิ ปะพน้ื บา้ นรองแงง็ เป็นการเต้นรำ�ประกอบเพลงwซึ่งเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวของเสยี งดนตรี สะท้อนชีวิตของผู้คนที่ตัง้ ถ่ินฐานอยู่ บนแหลมมาลายู ตลอดถงึ เกาะต่างๆ ในทะเลอนั ดามนั ดนตรี ของรองแง็งเป็นการผสมผสาน ของไวโอลนี กลองรำ�มะนา ฆอ้ งและกรับ รองแง็งได้เขา้ มาทีบ่ า้ นหยงสตาร์ คร้ังแรกประมาณ พ.ศ. 2483 โดยขนุ พทิ ักษล์ ันตาเขต (นายยาเหล เจรญิ ฤทธิ)์ อดีตนายอำ�เภอเกาะลันตาwได้นำ�มาแสดงเป็นท่ีจับจิตจับใจ ชาวบ้านหยงสตาร์wชาวบ้านผู้รักการดนตรีได้จดจำ�ทำ�นอง เพลง น�ำ มาฝกึ หดั แล้วตง้ั คณะรองแงง็ ข้นึ มีการเลน่ สืบตอ่ กันมา วถิ ชี ีวติ วิถีชวี ิตของชาวบา้ นหยงสตาร์ในปัจจุบนั คือ การทำ� ประมงwเนื่องจากสภาพพื้นที่ท่ีเป็นเกาะมีนำ�้ ทะเลล้อมรอบ ท�ำ ใหเ้ ออ้ื ตอ่ การประกอบอาชีพการทำ�ประมง มีอาหารทะเล นานาชนิดท่ีมคี วามอดุ มสมบูรณ์ นอกจากน้ียังมกี ารประกอบ อาชีพท�ำ สวนยางพารา รวมถงึ อาชีพรับราชการ 16
04 ขหอยงงดสี ตาร์ สนิ ค้าแปรรปู จาก อาหารทะเล นำ�้ ปลาหยงสตาร์ เป็นสนิ คา้ หนงึ่ ตำ�บลหนง่ึ ผลิตภัณฑ์ (OTOP) นำ�้ ปลา แท ้ 100% เปน็ ผลิตภณั ฑท์ ่ีใช้วัตถดุ ิบทรพั ยากรทอ้ งถนิ่ อกี ทงั้ เปน็ แหล่งเรียนรูข้ องลกู หลานเยาวชนในชมุ ชนหยงสตาร์ และ เป็นแหลง่ เรียนรแู้ ก่นกั ท่องเทีย่ ว ประชาชน และผสู้ นใจ และ เชื่อมโยงกับการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรมชุมชนหยงสตาร์ 1 17
ปลาเค็มแดดเดยี ว กงุ้ แห้ง กะปิ ผา้ ปาเตะ๊ เพน้ ท์ 18
บรรณานกุ รม กรมการพฒั นาชุมชน กระทรวงมหาดไทย. (2564). ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ปลาเคม็ แดดเดยี ว ทา่ ขา้ ม จังหวัดตรงั . สืบคน้ เมื่อ 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2564, จาก https://shorturl.asia/s2otw กาจ หยงสตาร์. (2564). เอกสารแนะน�ำ ตันหยงสตา แหล่งศกึ ษาเรียนรู.้ สืบคน้ เมื่อ 9 กมุ ภาพันธ์ 2564, จาก http://digital.nlt.go.th/digital/files/original/e0aeee76ad2c898d12c0eb376f35c101.pdfธงชัย ขอ้ มูลชมุ ชนท่องเทีย่ ว-OTOP-นวตั วถิ -ี บา้ นหยงสตาร.์ (2564). บา้ นหยงสตาร์ หมู่ที่ ๒ ตำ�บลทา่ ขา้ ม อำ�เภอปะ เหลยี น จงั หวัดตรงั . สืบค้นเมอ่ื 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2564, จาก https://shorturl.asia/jhzID โครงการรกั ษป์ ่า สร้างคน ๘๔ ตำ�บล วิถพี อเพยี ง. (2564). ต�ำ บลทา่ ขา้ ม อ�ำ เภอปะเหลยี น จังหวดั ตรัง พน้ื ท่ีป่า ชายเลน สร้างแกนนำ� สู่ความพอเพยี ง. สืบคน้ เมือ่ 9 กุมภาพนั ธ์ 2564, จาก http://www.84tambonsforking.com/content/library/48-File2.pdf ไทยตำ�บล ดอท คอม. (2564). นำ�้ ปลาตราหยงสตาร.์ สบื ค้นเมอื่ 9 กมุ ภาพันธ์ 2564, จาก https://www.thaitambon.com/product/0391985829 นกชายเลน. (2564). ท่องเทยี่ วชมุ ชนหยงสตาร์. สบื ค้นเมอื่ 9 กมุ ภาพันธ์ 2564, จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/greenproject/2009/05/24/entry-1 ค
นิติรฐั สวุ รรณ; และ นัยนา ค�ำ กนั ศลิ ป;์ และจันทร์สวา่ ง งามผ่องใส. (2561, กรกฎาคม - สิงหาคม). ศกั ยภาพการทอ่ งเทย่ี วเชงิ อนรุ กั ษป์ มู า้ โดยชมุ ชนประมงบา้ นหยงสตาร์ จงั หวดั ตรงั . วารสารวจิ ยั เพอื่ การ พฒั นาเชิงพ้นื ท.่ี 10(4): 239-305. สบื คน้ เมอื่ 9 กุมภาพันธ์ 2564, จาก https://so01.tcithaijo.org/index.php/abcjournal/article/view/137961/102603 บษุ ยมาศตรัง. (2564). สร้างงาน สร้างอาชีพ ร้างรายได้ นำ�้ ปลาหยงสตาร.์ สบื คน้ เมื่อ 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2564, จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/trangnaewnanews/2008/12/01/entry-2วกิ ิพเี ดีย. (2564). ศนู ยข์ อ้ มลู กลางทางวฒั นธรรม กระทรวงวฒั นธรรม. (2564). มัสยดิ ตนั หยงสตาร์. สบื คน้ เม่อื 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2564, จาก http://m-culture.in.th/search หมู่บ้านตนั หยงสตาร์. สบื ค้นเมอ่ื 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2564, จาก https://shorturl.asia/qOUwo องค์การบรหิ ารสว่ นต�ำ บลทา่ ขา้ ม อ�ำ เภอปะเหลียน จังหวดั ตรงั . (2564). สินคา้ OTOP. สบื คน้ เม่ือ 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2564, จาก https://www.takham.go.th/otop/view.php?No=4 ง
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: