Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาภาษาและวัฒนธรรม

วิชาภาษาและวัฒนธรรม

Published by HOLLE, 2021-12-21 11:03:32

Description: ความสัมพันธ์ระหว่างวรรณคดีกับดนตรีและเพลงไทย

Keywords: เรียน

Search

Read the Text Version

วิชาภาษาและวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ ระหว่าง วรรณคดี กับ ดนตรี และ เพลงไทย

ความหมาย วรรณคดี หมายถึง วรรณกรรมหรืองานเขียนที่ยกย่องกันว่าดี มีสาระ และมีคุณค่าทาง วรรณศิลป์ การใช้คำว่าวรรณคดีเพื่อประเมินค่าของวรรณกรรมเกิดขึ้นในพระราช กฤษฎีกาตั้งวรรณคดีสโมสรในสมัยรัชกาลที่ 6 วรรณคดีเป็นวรรณกรรมที่ถูกยกย่องว่า เขียนดี มีคุณค่า สามารถทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์สะเทือนใจ มีความคิดเป็นแบบแผน ใช้ภาษาที่ไพเราะ เหมาะแก่การให้ประชาชนได้รับรู้ เพราะสามารถยกระดับจิตใจให้สูง ขึ้น รู้ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร และทรงคุณค่า ดนตรี เสียง และโครงสร้างที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ซึ่งมนุษย์ใช้ประกอบกิจกรรม ศิลปะที่เกี่ยวข้องกับเสียง โดยดนตรีนั้นแสดงออกมาในด้าน ระดับเสียง (ซึ่งรวมถึง ท่วงทำนอง และ เสียงประสาน ) จังหวะ และ คุณภาพเสียง ได้แก่ ความต่อเนื่องของ เสียง เนื้อเสียง ความดังค่อย และพรรณลักษณ์ของเสียง ดนตรีในความหมายอย่าง กว้าง หมายถึง กิจกรรมการแสดงออกทางวัฒนธรรมของมนุษย์ที่เกี่ยวกับการขับร้อง รวมถึงการสร้างจังหวะและทำนอง ดนตรีจึงมีความสำคัญ ไม่เพียงแค่ในเชิง การ สื่อสาร หรือการใช้เพื่อ ความบันเทิง และใน พิธีกรรม แต่ยังรวมถึงความสำคัญในด้าน ศิลปะ และด้าน สุนทรียศาสตร์ อีกด้วย เพลงไทย หมายถึง เพลงที่มีทำนองเป็นเอกลักษณ์แบบไทย การบรรเลง การขับร้องที่เป็นแบบ ไทย และแต่งตามหลักของดนตรีไทย เพลงไทยที่ได้ยินกันอยู่มีทั้ง เพลงร้อง เพลง บรรเลง เป็นเพลงสั้นบ้าง ยาวบ้าง เป็นชุดบ้าง ช้าบ้าง เร็วบ้าง สำเนียงแปลก ๆ บ้าง ชื่อแปลก ๆ บ้าง เพลงไทยต่าง ๆ ที่บรรเลงกัน แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1.เพลงบรรเลง 2.เพลงขับร้อง

ดนตรีไทย เป็นศิลปะแขนงหนึ่งของไทย ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศ ต่าง ๆ เช่น อินเดีย , จีน , อินโดนีเซีย และอื่น ๆ เครื่อง ดนตรีมี 4 ประเภท ดีด สี ตี เป่า สมัย กรุงศรีอยุธยา มีวงปี่ พาทย์ที่ยังคงรูปแบบปี่ พาทย์เครื่องห้า เหมือนเช่นสมัยกรุงสุโขทัย แต่เพิ่ม ระนาดเอก เข้าไป นับแต่นั้นวงปี่ พาทย์จึงประกอบด้วย ระนาดเอก ปี่ ใน ฆ้องวงใหญ่ กลองทัด ตะโพน ฉิ่ง ส่วนวงมโหรีพัฒนาจากวงมโหรีเครื่องสี่ เป็นมโหรีเครื่องหก เพิ่ม ขลุ่ย และรำมะนา รวมเป็นมี ซอสามสาย กระจับปี่ ทับ (โทน) รำมะนา ขลุ่ย และกรับพวง

ถึงสมัย รัตนโกสินทร์ เริ่มจาก รัชกาลที่ 1 เพิ่มกลองทัดเข้าวงปี่ พาทย์ อีก 1 ลูก รวมเป็น 2 ลูก ตัวผู้เสียงสูง ตัวเมียเสียงต่ำ รัชกาลที่ 2 ทรง พระปรีชาสามารถการดนตรี ทรง ซอสามสาย คู่พระหัตถ์คือซอสายฟ้า ฟาด และทรงพระราชนิพนธ์เพลงไทย บุหลันลอยเลื่อน รัชสมัยนี้เกิด กลองสองหน้าพัฒนามาจาก เปิงมาง ของ มอญ พอใน รัชกาลที่ 3 พัฒนาเป็นวงปี่ พาทย์เครื่องคู่ มีการประดิษฐ์ ระนาดทุ้ม คู่กับ ระนาดเอก และ ฆ้องวงเล็ก ให้คู่กับ ฆ้องวงใหญ่ รัชกาลที่ 4 เกิดวงปี่ พาทย์เครื่องใหญ่พร้อมการประดิษฐ์ระนาดเอก เหล็ก และระนาดทุ้มเหล็ก รัชกาลที่ 5 สมเด็จฯ กรมพระยานริศรานุวัติ วงศ์ ทรงคิดค้นวงปี่ พาทย์ดึกดำบรรพ์ประกอบการแสดง ละคร ดึกดำบรรพ์ ใน รัชกาลที่ 6 นำวงดนตรีของมอญเข้าผสมเรียกวงปี่ พาทย์มอญโดย หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) มีการนำ อังกะลุงเข้ามาเผยแพร่เป็นครั้งแรก และนำเครื่องดนตรีต่างชาติ เช่น ขิม ออร์แกน ของฝรั่งมาผสมเป็นวงเครื่องสายผสม แล้วจึงเป็น ดนตรีไทยที่เราได้เห็นจนถึงปัจจุบันนี้ ทั้งความแตกต่างระหว่างวงต่าง ๆ ผู้ประพันธ์ ท่าน

ความสัมพันระหว่าง วรรณคดีกับดนตรีและเพลงไทย ดนตรีในความหมายอย่าง กว้าง หมายถึง กิจกรรมการ คือ เสียงและ โครงสร้างที่จัดเรียง อย่างเป็นระเบียบ แสดงออกทางวัฒนธรรม แบบแผน ซึ่ง มนุษย์ใช้มาประกอบกับกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเอาเข้ามาผสมกับดนตรีได้เพื่อ ให้ได้ผงานศิลปะอย่างหนึ่งออกมา เพลงไทย เพลงที่แต่งขึ้นตามหลักของดนตรีไทยมีการขับร้องและบรรเลงแบบ ไทย แตกต่างจากเพลงของชาติอื่น เพลงไทยมักจะมีประโยคสั้นๆ และมีจังหวะ ค่อนข้างเร็ว มีต้นกำเนิดมาจากเพลงพื้นบ้านหรือเพลงสำหรับประกอบการรำ เต้นเพื่อความสนุกสนานต่อมาเมื่อต้องการจะใช้เป็นเพลงสำหรับร้องขับกล่อม และประกอบการแสดงละครก็จำเป็นต้องประดิษฐ์ทำนองให้มีจังหวะช้ากว่าเดิม และมีประโยคยาวกว่าเดิม ความสัมพันธ์ระหวา่งวรรณคดีกับดนตรีเเละเพลงไทย เพลงไทยสากลได้รับ อิทธิพลจาก วรรณคดีไทยทั้งในด้านเนื้อหาเเละความ คิดใน4ลักษณะ คือ เอา เนื้อหามาจาก วรรณคดีโดยตรงหรือมีการเเต่งขยาย เพิ่ม เเละยังมีการเปลี่ยน เนื้อหาในบาง ตอนหรือเเต่งเพิ่มโดยอาศัยเค้าโครง เรื่องเดิมไว้

วิธีการอนุรักษ์ สืบสาน และเผยแพร่ ศึกษาเกี่ยวกับดนตรีไทยและวรรณคดีไว้เป็นความรู้เพื่อส่งต่อให้ แก่คนรุ่นหลังๆ รวมไปถึงการสืบสานวัฒธรรมของวรรณคดีและ ดนตรีไทยเอาไว้ จัดธรรมหรือสร้างผลงานวรรณคดีที่รวมกับ ดนตรีไทยในรูปแบบการแสดงโชว์หรือแบบต่างๆ ให้กับคนทั่วโลก ดูถึงความสวยงาม ไพรเราะ และความน่าสนใจของสิ่งที่คนไทย สร้างขึ้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook