สัต าสงวน เด็กชาย กฤตภาส ปรีดีวง มธั ยมศกึ ษา ท่ี 2/2 เลขท่ี 2 ีป์ษ ่ป์ว
สตั าสงวน จดั ทำโดย เด็กชาย กฤตภาส ปรีดวี ง เลขท่ี 2 มธั ยมศกึ ษา ท่ี 2/2 ่ป์วีป ์ษ
คำนำ สตั าสงวน หมายถึง สตั าหายากหรอื สัต าท่ีใก สูญพัน จึงจำเ น องสงวนและอนุรัก ไ อ างเ มงวด ้ข่ย้ว์ษ้ต็ป์ุธ้ล่ป์ว่ป์ว่ป์ว
ป่ อ่ ต้ล้ท้ ต่ฟื อ้ ควาย า เลยี งผา แมวลายหนิ อน แรดชวา นกกระเรียนไทย นกแ วแ ว องดำ เ ามะเ อง วาฬโอมูระ างองิ สารบญั 1 2 3 4 5 6 7 8 9
ควาย า มีลกั ษณะค ายควาย าน ทอ่ี ในสกุลเดยี วกนั แ ควาย ามีขนาด ลำตัวให ก า มนี สิ ยั องไวและดุ ายก าควาย านมาก สีลำตวั โดยท่ัวไปเ นสเี ทาหรือสีน้ำตาลดำ ขาทัง้ 4 มีสขี าวแ หรอื สเี ทา ค ายใ ถุงเ าสีขาว าน างของลำตัวเ นลายสีขาวรูปตัววี ควาย ามเี ขาทั้ง 2 เพศ เขามีขนาดให ก าควาย านมาก วงเขา กางออกก างโ งไปทาง านหลัง านตัดขวางเ นรูปสามเหล่ียม ปลายเขาเรยี วแหลม 1 ็ป้ด้ด้ค้ว้บ่ว่ญ่ป็ป่ล้ด้ท่ส้ล่ก็ป้บ่ว้ร่ว่ว่ญ่ป่ตู่ย้บ้ล่ป
เลียงผา เลียงผามลี กั ษณะค ายกบั กวางผา แ มีขนาดให ก า มีลักษณะ ค ายแพะแ มีรปู ห ายาวก า มลี ำตัวสน้ั แ ขายาว ตัวเมยี มขี นาด เลก็ ก าตวั มเี ขาท้งั ตัว และตัวเมีย เขางอกยาว อเนือ่ ง เลยี งผา มกี ะโหลกแบน มขี นหยาบและไ เ น 2 ชั้นเหมือนกวางผา ใ ตามี อมน้ำมันใ สำหรับถูตาม นไ หรือโขดหินเพ่ือประกาศอาณาเขต เลียงผาเ นสัต าที่อาศัยอ ตามภูเขาท่ีมีห าผาสูงชัน ซึ่ง ปกคลมุ วย าทบึ 2 ่ป้ด้นู่ย่ป์ว็ป้ม้ต้ช่ต้ต็ป่ม่ตู้ผู้ผ่ว่ต่ว้น่ต้ล่ว่ญ่ต้ล
แมวลายหิน อน แมวลายหิน อน เ นสัต เลี้ยงลูก วยนมในวง เสือที่มีขนาด เ ากับแมว าน แ มีหางยาวก าและมีขนท่ีหางมากก า หัวมี ขนาดเล็ก กลมมน สีขนมีลวดลายเ นแถบหรือเ นดวงค าย ลวดลายของเสอื ลายเมฆ หรอื ลวดลายบนหนิ อน ถิ่นอาศยั อ ใน รฐั อสั สัมทางตะวันออกเฉยี งเหนอื ของอนิ เดยี เนปาล เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใ เกาะบอ เนยี ว และเกาะสมุ าตรา เม่อื อ ใน าทึบตาม ธรรมชาตจิ ะพบเหน็ ไ อย 3 ้น้ด่ปู่ย์ร้ตู่ย่อ้ล็ป็ป่ว่ว่ต้บ่ท์ศ้ด์ว็ป่อ่อ
แรดชวา แรดชวา เ นสัต เล้ียงลูก วยนมขนาดให ในอันดับสัต กีบคี่ใน วง แรด อ ในสกุลเดยี วกนั กับแรดอินเดีย เ นหนงึ่ ใน าชนิดของ แรดทีย่ ังเหลืออ ลำตัวยาว 3.1–3.2 ม.สงู 1.4–1.7 ม.มขี นาดใก เคยี งกับแรดดำ เหนือจมกู มนี อส้ัน ๆ หนึง่ นอมีขนาดเล็กก าแรด ทกุ ชนดิ แรดชวามีอายุประมาณ 30-45 ในธรรมชาติ อาศยั อ ใน าดนิ ชน้ื าห าชืน้ แฉะ และ มน้ำขนาดให แรดชวาเ นสัต สันโดษมักอ ลำพังเพียงตัวเดียว ยกเ น วงจับ ผสมพัน และ เลย้ี งดลู ูก อน 4 ่อ์ุธู่ค่ช้วู่ย์ว็ป่ญุ่ล้ญ่ป่ปู่ยีป่ว้ลู่ย้ห็ปู่ย์ศ์ว่ญ้ด์ว็ป
นกกระเรียนไทย นกกระเรยี นไทยเ นนกขนาดให มลี ำตวั และ กสเี ทา คอตอนบน และหัวเ นหนังเปลือยสีแดงไ มีขน ตรงกระห อมเ นสีเทาหรือ เขียว คอยาวเวลาบินคอจะเหยยี ดตรงไ เหมือนกับนกกระสาซึง่ จะ งอพับไป านหลัง ขนปลาย กและขนคลุมขนปลาย กสีดำ ขน คลมุ ขน ก าน างสเี ทา ขนโคน กสีขาว ขายาวเ นสชี มพู มแี น ขนหสู เี ทา านตาสี มแดง ปากแหลมสดี ำแกมเทา นักวยั อนมี ปากสี อน างเหลืองที่ฐาน หวั สนี ำ้ ตาลเทาหรอื สเี นื้อปกคลุม วย ขน หนังเปลือยสีแดงบริเวณหัวจะแดงสดใสใน วงฤดูผสมพัน หนังบริเวณนี้จะหยาบเ นตะ มตะ มีขนสีดำตรง างแ มและ ายทอยบริเวณแคบ ๆ ท้งั สองเพศมลี กั ษณะและสคี ายกนั เพศ ให ก าเพศเมียเล็ก อย 5 ้น่ว่ญู้ผ้ล้ท้ก้ขำ่ปุ่ป็ป์ุธ่ช้ด้ข่ค่อ้ส่ม่ผ็ปีป่ล้ดีปีปีป้ด่ม็ป่ม่ม็ปีป่ญ็ป
นกแ วแ ว องดำ นกแ วแ ว องดำเ นนกท่ีมีขนาดเล็ก ประมาณ 21-22 เซนติเมตร มีสสี ัน สวยงาม ลำตวั อม หัวโต ขาแข็งแรง หางสัน ปราดเปรยี ว จดั เ นนกที่สวยงาม 1 ใน 30 ชนดิ ของโลก โดยการ จัดลำดับของ Best 50 birds of the world ตัว มสี สี นั สวยงาม ก าตัวเมีย จจุบนั ยืนยนั การพบการกระจายของ นกแ วแ ว อง ดำ คอื บริเวณท่ีราบต่ำเขานอ จี้ เขตรักษาพัน สตั าเขาประ บางคราม จังหวดั กระบ่ี 6 ่ป์ว์ุธู้จ้ท้ร้ตัป่วู้ผ็ป้ป็ป้ท้ล้ต้ท้ล้ต
เ ามะเ อง เ ามะเ อง เ นเ าทะเล จัดเ นเ าชนิดท่มี ขี นาดให ที่สุดในโลก และให เ นอนั ดับที่ 4 ในบรรดาสตั เลอ้ื ยคลานทั้งหมดทยี่ ังดำรง เ าพัน อ จนถึง จจุบัน จึงเ นเ าเพียงชนิดเดียวในวง Dermochelyidae และสกลุ Dermochelys เ ามะเ องสามารถ แยกออกจากเ าประเภทอื่นไ โดยการสังเกตที่กระดองจะมีรูป าง ลักษณะค ายกับผลมะเ อง และครีบ ห าไ มีเล็บ ตั้งแ ออก จากไ ความลกึ ทเี่ ามะเ องสามารถดำน้ำไ ถึง 1,280 เมตร 7 ้ดืฟ่ต่ข่ต่ม้นู่คืฟ้ล่ร้ด่ตืฟ่ต์ศ่ต็ปัปู่ย์ุธ่ผ์ว็ป่ญ่ญ่ต็ป่ต็ปืฟ่ตืฟ่ต
วาฬโอมรู ะ วาฬโอมูระ เ นวาฬสายพัน หายากท่ีมคี วามใก เคียงกับวาฬบรู า ถูก นพบครั้งแรกจากซากของมันใน ค.ศ. 2003 และเมื่อ พิจารณาจากซากแ วจึงพบ ามีความ างจากวาฬบรู าคือวาฬ โอมรู ะน้นั มขี นาดเล็กก าตัว ทโี่ ตเตม็ วยั ยาวเพยี ง 10 เมตร ตวั เมยี ยาวเพียง 11.5 เมตร รอยจีบใ ลำคอมจี ำนวนมากก า คอื 80 – 90 รอยจีบ และมีครีบหลังที่สูงก าและมีความโ ง อยก าของ วาฬบรู า วาฬโอมูระนั้นเ นวาฬในวง วาฬแกลบที่หายากและมี คน จัก อย ช่ือของมันน้ันตั้งตามช่ือนักวิทยาศาสต ทางทะเล ชาวญ่ี นนาม า โอมูะ ซ่งึ เ น นพบวาฬโอมูระ ใน พ.ศ. 2546 8 ีป้คู้ผ็ป่วุ่ป์ร้นู้รู้ผ์ศ็ป้ด่ว้น้ค่ว่ว้ตู้ผ่ว้ด่ต่ว้ลีป้ค้ด้ล์ุธ็ป
างอิง อมูลเกี่ยวกับสัต าสงวน http://portal.dnp.go.th/Content/WildlifeConserve? contentId=17144 9 ่ป์ว้ข ้อ
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: