การนาเสนอแผนธรุ กิจ Business plan presentation
คำนำ การนาเสนอแผนธุรกิจ โดยแท้จรงิ แลว้ ถอื ไดว้ า่ เป็นข้นั ตอนที่สาคญั ขั้นตอนหนง่ึ ไมน่ อ้ ยกว่าขัน้ ตอนหรอื กระบวนการจัดทา หรือการ เขียนแผนธรุ กิจในปจั จบุ นั ท่แี ผนธรุ กิจถอื เป็นเรอื่ งสาคัญสาหรับผปู้ ระกอบการทตี่ อ้ งมีความรคู้ วามเขา้ ใจอย่างสูงเนื่องจากแผนธรุ กจิ ถอื ไดว้ า่ เป็นเอกสารหรอื เครอื่ งมอื สาคญั ในการรับการสนับสนุนทางการเงินของผปู้ ระกอบการหรือธุรกิจแต่ในสว่ นใหญ่มักจะมุ่งเนน้ ในเรือ่ งของวธิ ีการหรือความสามารถในการเขียนแผนธุรกจิ
สารบัญ การนาเสนอแผนธรุ กิจ ............................................................................................................1 ซึง่ การนาเสนอแผนธรุ กิจสามารถแบ่งเป็ น 2 ลกั ษณะคอื การนาเสนอแบบทางการ และ การนาเสนอแบบไม่เป็ นทางการ .............................................................................................2 วตั ถปุ ระสงค์ท่ตี อ้ งมีการนาเสนอแผนธรุ กิจของผปู้ ระกอบการหรอื ผจู้ ดั ทาแผนธรุ กจิ นัน้ มีวตั ถหุ ลัก 5 ประการประกอบดว้ ย ......................................................................................2 เอกสารแผนธรุ กิจ....................................................................................................................3 การนาเสนอดว้ ยภาพ ..............................................................................................................4 การจัดทา PowerPoint ท่ใี ชใ้ นการนาเสนอแผนธรุ กจิ ............................................................4 การนาเสนอดว้ ยเสยี ง..............................................................................................................5 การตอบขอ้ ซกั ถาม..................................................................................................................6 ตวั อย่างคาถามของผพู้ จิ ารณาแผนจะประกอบดว้ ยตวั อย่างดงั ต่อไปน้ี.............................6
1 การนาเสนอแผนธรุ กิจ (Business plan presentation) การนาเสนอแผนธรุ กจิ โดยแท้จริงแล้วถือไดว้ า่ เป็นขน้ั ตอนทสี่ าคญั ขัน้ ตอนหนึ่งไม่นอ้ ยกว่าขน้ั ตอนหรอื กระบวนการจัดทา หรือการ เขยี นแผนธรุ กิจในปจั จบุ ัน ทแ่ี ผนธรุ กิจถือเป็นเรือ่ งสาคญั สาหรับผปู้ ระกอบการทตี่ อ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจอยา่ งสูงเน่ืองจากแผนธุรกจิ ถือไดว้ ่าเป็ นเอกสารหรอื เคร่อื งมอื สาคญั ในการรับการสนับสนุนทางการเงนิ ของผปู้ ระกอบการหรือธุรกิจแตใ่ นสว่ นใหญม่ ักจะม่งุ เนน้ ในเรอื่ งของวิธกี ารหรอื ความสามารถในการเขียนแผนธุรกจิ โครงสรา้ งของแผนธุรกจิ อย่างไรจะแสดงขอ้ มูลรายละเอียดใดจึงจะ ถูกตอ้ งเหมาะสมโดยละเลยในเร่อื งของการนาเสนอแผนธรุ กิจ ซ่งึ อาจเป็นขั้นตอนสาคญั ภายหลังไดจ้ ดั ทาแผนธรุ กจิ เป้ นทเี่ รียบร้อย และธนาคารหรอื สถาบันการเงินหรอื หน่วยงานท่ีใหก้ ารสนับสนนุ ผปู้ ระกอบการแลว้ ถา้ ผปู้ ระกอบการสามารถนาเสนอแผนรุ กิจไดด้ ี กจ้ ะเป้ นส่งิ ที่ชว่ ยทาใหแ้ ผนธรุ กจิ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากผพู้ จิ าราณาแผน หรอื จากทางธนาคารหรอื สถายนั การเงนิ ดว้ ยเชน่ กนั นอกจากนใ้ี นกรณที ผี จู้ ดั กรทาแผนอาจเป็นนกั เรยี นในสถาบนั การศึกษา ท่มี ีหลกั สตู รเกี่ยวกับการจดั การทาแผนธุรกิจในการเรียน หรือใชเ้ พ่ือการประกวดแขง่ ขัน หรอื แมแ้ ต่ผปู้ ระกอบการการที่เขา้ รับการอบรมในโครงการพฒั นาผปู้ ระกอบการเชน่ ศนู ย์บ่มเพาะ ธรุ กจิ หรือโครงการผปู้ ระกอบการใการทเี่ ขา้ รบั การอบรมในโครงการพฒั นาผปู้ ระกอบการเชน่ ศนู ยบ์ ่มเพาะธุรกจิ หรอื โครงการ ผปู้ ระกอบการใหม่เป็นตน้ หมเ่ ป็นตน้ ในการนาเสนอแผนธุรกิจทถี่ กู ตอ้ งและมปี ระสิทธภิ าพ ประกอบกับ ไม่มีการสอน หรอื กลา่ วเรื่อง ของการนาเสนอแผนธุรกจิ นี้ กม็ สี ่วนสาคญั อยา่ งไรต่อการพิจารณาแผนธุรกิจของผปู้ ระกอบการดังนนั้ ผเู้ ขยี นจงึ เหน็ สมควรจะ กลา่ วถงึ เรื่องของการนาเสนอแผนธรุ กิจว่ารายละเอยี ดและความสาคญั อย่างไรดว้ ยหวงั วา่ จะเป็นประโยชนต์ อ่ ผปู้ ระกอบการและ นักศึกษาในการจดั ทาแผนธุรกจิ ต่อไปในอนาคต การนาเสนอแผนธรุ กจิ ถอื เป็ นการสอ่ื สารแบบเผชญิ หนา้ ระหว่างผปู้ ระกอบการซ่ึงอัดเป็ นผจู้ ดั ทาหรอื ผเู้ ขียนแผนธรุ กจิ กับผพู้ ิจารณาซง่ึ อาจเป็ นเจา้ หนา้ ที่ของธนาคารหรอื สถาบันการเงินหรอื เป็ นบุคคลภายนอกเชน่ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ กรรมการพิจารณาแผนธรุ กจิ ผรู้ ว่ มลงทนุ ลกู คา้ หรือคู่คา้ ในธรุ กจิ เป็ นตน้
2 ซึ่งการนาเสนอแผนธรุ กจิ สามารถแบ่งเป็ น 2 ลักษณะคือการนาเสนอแบบทางการ และ การนาเสนอแบบไมเ่ ป็ นทางการ รปู แบบของการนาเสนอแบบเป็ นทางการจะเป็ นรปู แบบทนี่ าเสนอแผนธรุ กจิ ต่อหนา้ คณะกรรมการเจา้ หนา้ ท่ี ผทู้ รงคณุ วฒุ ิหรอื บุคคลภายนอก ภายในสถานทเี่ ฉพาะเช่นห้องประชมุ ห้องสัมมนามวี าระการนาเสนอท่ีมี ขอ้ กาหนดและวัตถปุ ระสงคท์ ่ีชัดเจน มกี ารกาหนดระยะเวลาการนาเสนอหรอื กาหนดเวลาในการซักถามหรอื ไม่ก็ได้ รปู แบบเป็ นทางการมักจะเกดิ ขนึ้ สาหรบั การประกวดหรอื การแข่งขันดา้ นธรุ กิจหรอื การนาเสนอแผนธรุ กิจของ ผปู้ ระกอบการทีเ่ ขา้ อบรมในหนว่ ยงานเท่านัน้ . รปู แบบการนาเสนอทไ่ี ม่เป็ นทางการจะอย่ใู นรปู แบบการพดู คุยการสมั มนาการสอบถามการตอบขอ้ สงสยั ระหวา่ ง ผนู้ าเสนอแผนกบั ผพู้ จิ ารณาแผน โดยปกตแิ ลว้ การนาเสนอแผนธรุ กิจสาหรับผปู้ ระกอบการ SME S จะอยใู่ น รปู แบบของการนาเสนอที่ไมเ่ ป็ นทางการกับทงั้ สิ้นเพราะแทบจะไมม่ ีเหตุการณ์ ทผี่ ปู้ ระกอบการหรอื ผจู้ ดั ทาแผน ไดร้ บั การนาเสนอทีเ่ ป็ นทางการตอ่ หนา้ คณะกรรมการของธนาคารหรอื สถาบนั การเงิน ท่ใี ห้การสนบั สนนุ โดยจะ เป็ นหนา้ ทข่ี องหนว่ ยงาน ขอ้ มูลประกอบอ่ืนๆของธรุ กจิ ซ่ึงวิธกี ารและรปู แบบการนาเสนอดังกลา่ วนีจ้ ะคลา้ ยคลงึ กบั การนาเสนอแบบเป็ นทางการดงั นั้นถ้าผปู้ ระกอบการหรอื ผจู้ ัดทาแผนทราบถึงวธิ กี ารนาเสนอแผนธรุ กิจแบบ เป็ นทางการอย่างถูกตอ้ งกจ็ ะเกดิ ประโยชน์ตอ่ การนาเสนอแผนธรุ กจิ อยา่ งมีประสิทธภิ าพในอนาคต วัตถปุ ระสงค์ทต่ี อ้ งมีการนาเสนอแผนธรุ กจิ ของผปู้ ระกอบการหรือผจู้ ัดทาแผนธรุ กจิ น้ัน มีวัตถหุ ลัก 5 ประการประกอบดว้ ย เพื่อเป็ นการอธบิ ายแนวคิดสาํ คัญของธรุ กจิ โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่อื ใหผ้ นู้ าเสนออธิบายถึงทีม่ าของ แนวความคิดในการเริม่ ตน้ หรือการ ดาเนินธรุ กิจ หรืออาจเป็ นประเดน็ สาคญั ในตวั ผลิตภัณฑ์สินคา้ หรือบริการ ของธรุ กจิ อนั มาจากแนวความคดิ ใหม่ ซ่งึ อาจมาเป็ นจดุ เด่นในการแกไ้ ขลกู คา้ หรอื ผบู้ รโิ ภคในการใบผ้ ลิตภณั ฑ์ สินคา้ หรอื บริการทม่ี ีอย่ใู นตลาด หรือท่ไี ม่เคยมีในตลาดมากอ่ นก็ตาม เพอ่ื ทราบถึงการวางแผน และการดําเนนิ ธรุ กิจ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ให้ผพู้ ิจารณาแผนทราบถึงวธิ กี าร ดาเนนิ การของธรุ กจิ ไมว่ า่ จะเป็ น ดา้ นการบริหารจดั การ ดา้ นการตลาด ดา้ นการผลิต และดา้ นการเงนิ ว่า เหมาะสมกับธรุ กิจมีเหตผุ ลมากนอ้ ยเพยี งใด เพอ่ื สอบทานความถกู ตอ้ ง และขอ้ มูลในแผนธรุ กิจ โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ให้ผนู้ าเสนออธบิ ายถึงขอ้ มลู ตา่ งๆ ในแผนธรุ กิจ เพ่ือเป็ นการสอบทานขอ้ มูลของผพู้ จิ ารณาแผน ว่าผนู้ าเสนอ หรือตัวผปู้ ระกอบการนั้นมคี วามรคู้ วาม เขา้ ในแผนธรุ กิจที่จดั ทาข้นึ เน่อื งจากในปจั จบุ ันทผ่ี ปู้ ระกอบการมีการวา่ จา้ งทป่ี รึกษา หรือผเู้ ช่ยี วชาญในการจดั ทา แผนธรุ กิจให้แก่ตนเอง ซงึ่ อาจเขียนรายละเอียดต่างๆของ แผนธรุ กจิ จนดีเกินกวา่ ความเป็ นจริง เพ่ือใหข้ อ้ มลู เพ่มิ เติม หรอื ตอบขอ้ สงสยั เก่ยี วกบั ธรุ กิจ โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ผพู้ จิ ารณาแผนสอบถามผนู้ า เสนอเก่ียวกบั ขอ้ มลู บางสว่ น ทอี่ าจมีขอ้ สงสยั หรอื ยงั ไมม่ คี วามชัดเจนเพยี งพอ ภายหลงั จากการอา่ นรายละเอยี ด ในแผนธรุ กิจแลว้ ซง่ึ ส่วนใหญแ่ ลว้ จะเป็ นเรอ่ื งของ ประมาณการ หรอื สมมตฐิ านต่างๆทรี่ ะบุไวเ้ ช่น ทม่ี าของรายได้ ยอดขาย ตน้ ทนุ หรอื อตั ราการเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ รวมถงึ เหตผุ ล สาคัญต่างๆในการกาหนดกลยทุ ธ์ เพื่อการตดั สินใจให้การสนับสนุน โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ใชใ้ นการตัดสินใจข้ันสดุ ทา้ ย หรือตดั สินใจเลอื กในการ สนบั สนนุ การตัดสนิ ตา่ งๆ ซ่ึงมักใชใ้ นการประกวดแข่งขันดา้ นแผนธรุ กจิ เชน่ แผนธรุ กิจทีม่ คี ะแนนใกลเ้ คียงกัน การตัดสนิ ผลแพช้ นะในการแข่งขนั ก็อาจจะขนึ้ อย่กู บั ความสามารถในการนาเสนอแผนของผจู้ ัดทาว่าสามารถ
3 สอื่ สารสามารถแสดงรายละเอียดของแนวคิดสาคญั ของธรุ กิจ หรือสามารถแสดง ให้เห็น จดุ เดน่ หรือขอ้ แตกต่าง ของกระบวนการในการวางแผนของธรุ กิจอย่างไร รวมทง้ั การตัดสนิ ใหค้ ะแนนของการจัดทาแผนธุรกจิ ถา้ เป็ นการนาเสนอที่ใชใ้ นการศึกษา เป็ นตน้ การนาเสนอแผนธรุ กจิ มอี งคป์ ระกอบสาคญั 4 ส่วนประกอบดว้ ย 1. เอกสารแผนธรุ กจิ (Business plan document) 2. การนาเสนอดว้ ยภาพ (Visual presentation) 3. การนาเสนอดว้ ยคาพดู (Verbal Presentation) 4. การตอบขอ้ ซักถาม (Answering from questions) เอกสารแผนธุรกจิ ถือเป็ นองคป์ ระกอบแรก และอาจถือไดว้ ่าเป็นองค์ประกอบสาคัญที่สดุ ของการ นาเสนอเพราะเอกสารแผนธรุ กจิ ถอื เป็ นจดุ เริ่มตน้ ในการนาเสนอ ไม่ว่าจะอย่ใู นรปู แบบการนาเสนอ แบบเป็ นทางการ หรือไมเ่ ป็ นทางการก็ตาม แมว้ า่ ในเบ้ืองตน้ ผปู้ ระกอบการ อาจจะใหร้ ายละเอยี ดแก่ ผพู้ จิ ารณาแผน หรือเจา้ หนา้ ที่ธนาคาร หรอื สถาบันการเงิน จากการพดู คยุ ช้แี จงเกย่ี วกบั ธรุ กิจ โดย ไม่มีเอกสารแผนธรุ กิจ ประกอบเลยก็ตาม แต่กจ็ ะเป็ นไดเ้ พยี งการนาเสนอความคิด หรอื รายละเอยี ด ทวั่ ไปของธรุ กจิ เทา่ น้ัน ซ่งึ ผพู้ จิ ารณาแผน หรอื เจา้ หนา้ ท่กี จ็ าเป็ นตอ้ งรอ้ งขอใหผ้ ปู้ ระกอบการ หรอื ผนู้ าเสนอไปดาเนินการจัดทาแผนธรุ กจิ ซึ่งเป็ นลายลักษณอ์ ักษรมาสง่ อกี ครั้งหนง่ึ เพราะการ พจิ ารณา แผนธรุ กิจนัน้ จะยึดถือตามขอ้ มลู หรอื รายละเอียดตา่ งๆทีร่ ะบุไวเ้ อกสารแผนธรุ กิจ โดย องค์ประกอบอ่นื ๆในการนาเสนอนั้นเป็นส่วนเสรมิ เพอื่ ใหผ้ พู้ ิจารณาแผนมคี วามเขา้ ใจในรายละเอียด ต่างๆ ทีร่ ะบไุ วใ้ นเอกสารแผนธรุ กจิ มากขน้ึ ดงั นน้ั สาหรบั ผปู้ ระกอบการแลว้ จงึ ควรดาเนนิ การ จดั ทาแผนธรุ กิจใหเ้ ป็ นทีเ่ รียบรอ้ ย หรอื อยา่ งนอ้ ยก็มีรายละเอยี ดสาคัญ หรือจาเป็ นใหแ้ ลว้ เสร็จ ก่อนท่ีจะไปทาการนาเสนอ เพ่ือมิใหเ้ ป็ นการเสียเวลาท้งั สองฝ่ าย ประกอบการบางสว่ นท่ีมกั ดาเนินการไปนาเสนอแผนธรุ กจิ กบั ทางธนาคาร หรอื สถาบันการเงนิ กอ่ นทีจ่ ะจัดทาแผนธรุ กจิ เพื่อ ดวู า่ ตนเองมีโอกาสมากนอ้ ยเพยี งใดในการไดร้ ับการสนับสนนุ ซึง่ ถา้ มีโอกาสจงึ จะไปดาเนินการ จดั ทาแผนธรุ กิจ เพราะไม่ตอ้ งการเสียคา่ ใชจ้ า่ ย หรอื เสยี เวลาในการจดั ทาแผนธรุ กจิ ซ่ึงเป็ นความ เขา้ ใจท่ผี ิดเป็ นอย่างยิ่ง เพราะไม่มผี พู้ จิ ารณาแผน หรือเจา้ หนา้ ที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินใด ที่ สามารถตัดสนิ ใจไดว้ ่าธรุ กจิ นน้ั ดหี รือไม่ จากเพยี งคาพดู หรอื จากการนาเสนอเพยี งอยา่ งเดยี ว เพราะตอ้ งพิจารณาจากรายละเอียดตา่ งๆ โดยเฉพาะความถกู ตอ้ ง ตวั เลข ผลคานวณ ประมาณการ ตา่ งๆ ซึ่งตอ้ งเป็ นลายลักษณ์อกั ษรและใชเ้ วลาในการตรวจสอบพอสมควร ซ่งึ ในชว่ งเวลาจากการ นาเสนอนั้นไม่สามารถลงลึก หรอื ผพู้ จิ ารณา สามารถจดจาในรายละเอียดในระดับดังกลา่ วได้ ถงึ แมว้ ่าจะมีการใช้ Notebook ประกอบการนาเสนอกต็ าม ดงั นั้นผปู้ ระกอบการ ควรตระหนกั ถึง ความสาคัญของเอกสารแผนธรุ กจิ ทคี่ วรจดั ทาใหเ้ รียบรอ้ ย หรือมีขอ้ มลู เพยี งพอสาหรับผพู้ ิจารณา แผน
4 การนาเสนอดว้ ยภาพ จัดเป็ นองคป์ ระกอบที่สองจากเอกสารแผนธรุ กจิ โดยการนาเสนอดว้ ยภาพ นหี้ มายถึง สง่ิ ทผี่ นู้ าเสนอแผนนาเสนอ รายละเอยี ดต่างๆของธรุ กิจ ใหก้ ับผพู้ ิจารณาแผนธรุ กจิ หรอื เจา้ หนา้ ทีข่ องธนาคาร หรอื สถาบันการเงนิ เช่นผลติ ภัณฑส์ ินคา้ ของธรุ กจิ ไมว่ า่ จะเป็ นรปู ถา่ ย สนิ คา้ ตวั อย่าง สถานประกอบการ กระบวนการในการผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารกจิ กรรมต่างๆของ ธรุ กจิ เป็ นตน้ ซงึ่ โดยส่วนใหญแ่ ลว้ ก็จะมภี าพดังกล่าวอยแู่ ลว้ ในเอกสารแผนธรุ กจิ โดยภาพดงั กลา่ ว นจ้ี ะเป็ นส่งิ ท่ชี ว่ ยอธบิ าย หรอื สรา้ งความเขา้ ใจ ใหผ้ พู้ จิ ารณา แผน เขา้ ใจในรายละเอียดต่างๆของ ธรุ กิจไดด้ ียงิ่ ขนึ้ มากกวา่ การอธิบายหรอื แปลความหมายจากตัวอกั ษร โดยเฉพาะเก่ยี วกบั ตวั สนิ คา้ หรือบรกิ าร การนาเสนอดว้ ยภาพยงั รวมถงึ ภาพลักษณ์สง่ิ ทป่ี รากฏ หรอื รปู แบบใน การนาเสนอ แผนธรุ กิจ ระหว่างผนู้ าเสนอแผนกบั ผพู้ ิจารณาแผนอกี ดว้ ย เช่น บคุ ลิกของผนู้ าเสนอแผน การแตง่ กายที่ เหมาะสม ท่าทาง หรอื การใชภ้ าษากาย (Body language) การนาเสนอดว้ ยการใชโ้ ปรแกรม คอมพวิ เตอร์สาหรบั การนาเสนอ เชน่ PowerPoint การใชว้ ดี ีโอ การสาธติ การทดสอบ เป็ นตน้ การจัดทา PowerPoint ท่ใี ชใ้ นการนาเสนอแผนธรุ กจิ ควรมีแนวทางในการจัดทาดงั นค้ี อื - อยา่ คดั ลอกขอ้ มลู ทั้งหมดของแผนธรุ กจิ มาจดั ทา Slide ในการนาเสนอ เพราะจะทาให้ Slide มี จานวนมาก และใชเ้ วลานานในการนาเสนอ รวมถงึ ไมม่ คี วามจาเป็ นเพราะผพู้ จิ ารณาแผนสามารถ อา่ นไดจ้ ากเอกสารแผนธรุ กิจอยแู่ ลว้ -อยา่ ใชว้ ธิ กี ารอา่ น Slide ทจ่ี ดั ทามา แตค่ วรใชก้ ารสรปุ เฉพาะประเดน็ เน้ือหาสาคญั หรืออาจกล่าวได้ วา่ \"ไม่ตอ้ งเขยี นทกุ อยา่ งทีพ่ ดู และไมต่ อ้ งพดู ทกุ อยา่ งที่เขยี น\" - ใน Slide 1 แผน่ ในส่วนเนื้อหาควรมปี ระมาณ 5-7 บรรทดั โดยเป็ นการสรปุ เฉพาะประเด็น (Topic) หรอื เน้ือหาสาคญั ท่จี ะนาเสนอ หรือกล่าวถึงเทา่ น้นั - ผนู้ าเสนอควรใชเ้ วลานาเสนอประมาณ 10-15 นาทโี ดยมากทสี่ ดุ ไมค่ วรเกิน 20 นาทเี พราะผู้ พจิ ารณาจะมีความสนใจ หรือสามารถตดิ ตาม เนอ้ื หาของแผนธรุ กิจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพใน ชว่ งเวลาดังกลา่ วเท่านน้ั โดยใชเ้ วลาส่วนที่เหลือในการตอบขอ้ ซักถามจะเป็ นประโยชนม์ ากกวา่ - จานวน Slide หลักในการนาเสนอประมาณ 10-15 Slide แต่อาจจัดทา Slide สาหรับขอ้ มลู ประกอบ หรอื ขอ้ มลู สนับสนนุ เตรยี มไวใ้ นกรณีตอบขอ้ ซกั ถาม ซง่ึ อาจใช้ Function-Hide slides ใน โปรแกรม PowerPoint เพือ่ ไมใ่ หแ้ สดง Slide ในสว่ นดงั กล่าวไวก้ ่อน หรอื อาจเตรียมขอ้ มลู สนับสนนุ ไว้ ในรปู เอกสารกไ็ ด้ - พื้นหลัง (Background) ของ Slide ถา้ เลอื กใชส้ ีเขม้ เชน่ นา้ํ เงิน ดา นาํ้ ตาล ใหเ้ ลอื กใชต้ วั อักษร (Text) สีออ่ นเชน่ ขาว เหลือง ครีม เป็ นตน้ โดยในทางกลบั กนั ถา้ พื้นหลงั Slide สอี ่อนใหใ้ ชต้ ัวอกั ษรสี เขม้ และอยา่ ใชส้ ีท่ตี ดั กนั หรือเป็ นค่สู ตี รงขามหลายๆสใี น Slide เดียวกนั และผพู้ จิ ารณาแผนจะเหน็ หรืออา่ นรายละเอียดไดโ้ ดยยาก
5 - ขนาดของตัวอกั ษรตอ้ งเห็นไดช้ ัดเจนในระยะพอสมควร เพราะอาจตอ้ งมีการนาไปฉายผา่ น Projector เพราะอาจมผี พู้ ิจารณาแผนหลายคน โดยถา้ ใช้ Font ภาษาไทย เชน่ Font ตระกลู Angsana, Cordia, Browallia ขนาดอักษรหวั เรอื่ ง(Heading) ควรมขี นาดตงั้ แต่ 40-48 point ขนาดอกั ษรเน้ือหา (Context) ควรมีขนาดตัง้ แต่ 28-36 point แต่สาหรับ Font ภาษาองั กฤษ เชน่ Font ตระกลู Arial, Times New Roman ควรใชข้ นาดที่เล็กลงมา เนอื่ งจากในขนาด Point เดียวกันFont ภาษาอังกฤษจะมี ขนาดใหญก่ ว่า Font ภาษาไทย เช่น ขนาดอกั ษรหัวเร่ืองถา้ ใช้ Font ควรมขี นาดต้งั แต่ 32-36 point ขนาดอักษรเนอ้ื หา ควรมีขนาดต้ังแต่ 24-30 point แต่ทัง้ นใี้ หพ้ ิจารณาตามความเหมาะสม และ ความสวยงาม 5 - การใชภ้ าพถา่ ย กราฟ แผนภมู ิตาราง ท่ีเกีย่ วขอ้ งอย่างเหมาะสม ประกอบ Slide ในการนาเสนอ จะเป็ นการช่วย อธิบายใหผ้ พู้ ิจารณาเขา้ ใจ ในรายละเอียดต่างๆ ของธรุ กจิ ไดด้ ียิ่งขน้ึ แตต่ อ้ งไม่มีรายละเอยี ดมาก จนเกินไปในการแปลความหมาย - หลกี เลีย่ งการใช้ Clipart ทไ่ี ม่เกยี่ วขอ้ งกบั ธรุ กจิ โดยเฉพาะทีเ่ ป็ น Clipart ประเภทการต์ นู ภาพเคล่อื นไหว หรือAnimation เนือ่ งจากจะดึงความสนใจของผพู้ จิ ารณา แผนออกไป และ Clipart ประเภทน้เี หมาะกับการบรรยายในการเรียนการสอน มากกว่าท่ีจะใชใ้ นการนาเสนอแผนธรุ กจิ - ถา้ มผี ลติ ภัณฑห์ รอื สินคา้ ตวั อย่าง ควรนามาใชป้ ระกอบใหผ้ พู้ ิจารณาแผนไดเ้ ห็น ประกอบการ อธิบายจาก Slide ในการนาเสนอดว้ ย การนาํ เสนอดว้ ยเสียง จดั เป็ นองค์ประกอบท่สี ามต่อจากการนาเสนอดว้ ยภาพ แตจ่ ะเป็ นสง่ิ ที่ เกดิ ขน้ึ พรอ้ มกนั คอื ในขณะท่ีมีการนาเสนอดว้ ยภาพผนู้ าเสนอกจ็ ะนาเสนอดว้ ยเสยี งไปพรอ้ มๆกนั หรือกลา่ วง่ายๆก็คือ การอธบิ าย หรือชีแ้ จงขอ้ มลู รายละเอยี ดตา่ งๆ ของธรุ กจิ จาก Slide ทีใ่ ชใ้ น การนาเสนอ หรอื จากขอ้ มลู ในเอกสารแผนธรุ กจิ นนั่ เอง การนาเสนอโดยการอธบิ ายในขน้ั ตอนนี้ดจู ะ เป็ นปัญหาสาคญั สาหรบั ผปู้ ระกอบการในการนาเสนอแผนธรุ กิจ โดยเฉพาะการนาเสนอในรปู แบบที่ เป็ นทางการ เพราะผปู้ ระกอบการสว่ นใหญ่จะไม่มีความคนุ้ เคยตอ่ การพดู หนา้ สาธารณชน หรือตอ่ หนา้ คนท่ีไมร่ จู้ ัก โดยเฉพาะในการพดู ถงึ รายละเอยี ดตา่ งๆของธรุ กิจ จึงมักใชว้ ิธีการอ่านเนือ้ หา ทัง้ หมดจาก Slide ทจี่ ดั ทาข้นึ ซง่ึ กม็ กั จะเป็ นการคัดลอกขอ้ มลู ท้งั หมดในแผนธรุ กิจ มาจดั ทาเป็ น Side เพอ่ื การนาเสนอ
6 การตอบขอ้ ซักถาม จดั เป็ นองคป์ ระกอบสาคัญสดุ ทา้ ยในการนาเสนอแผนธรุ กจิ เพราะจะเป็ นสงิ่ ท่ี บอกว่าผปู้ ระกอบการ หรือผจู้ ัดทา แผนธรุ กจิ นั้น มคี วามเขา้ ใจในส่ิงทนี่ าเสนอน้นั มากนอ้ ยเพยี งใด รวมถึงคาตอบของผนู้ าเสนอทผ่ี พู้ ิจารณาแผนน้นั อาจเป็ นปัจจยั สาคัญ ท่ีผพู้ จิ ารณาแผนใชต้ ัดสินใจ วา่ จะใหก้ ารสนับสนนุ ตอ่ ธรุ กจิ ของผปู้ ระกอบการ หรอื ไม่ โดยคาถามดงั กลา่ วก็มักมาจากขอ้ มลู ใน เอกสารของแผนธรุ กิจนนั่ เอง เนอ่ื งจากในแผนธรุ กจิ อาจใหร้ ายละเอียดท่ไี ม่เพยี งพอ หรือมคี วาม ขัดแยง้ กันเอง รวมถงึ ในการนาเสนอกม็ ิไดม้ ีการกลา่ วถงึ ในเรือ่ งดงั กลา่ ว ทาใหผ้ พู้ จิ ารณาแผนตอ้ งมี การซกั ถาม หรือขอขอ้ มลู เพิม่ เติมจากผนู้ าเสนอ ซ่งึ ถา้ ผนู้ าเสนอแผนไดศ้ ึกษารายละเอียดในเอกสาร แผนธรุ กจิ และจัดเตรยี มขอ้ มลู สนบั สนนุ ท้งั ภาพ ตัวอย่างคําถามของผู้พิจารณาแผนจะประกอบด้วยตัวอยา่ งดังตอ่ ไปน้ี •รปู แบบการจดั ตัง้ ธรุ กจิ เหมาะสม หรือไม?่ ธรุ กจิ ประเภทน้มี ขี อ้ ดีและขอ้ เสียอยา่ งไร? แน่ใจอยา่ งไร ว่าสนิ คา้ หรือบรกิ ารจากธรุ กจิ เป็นท่ตี อ้ งการของตลาด? ขอ้ กาหนด หรอื กฎหมายที่เกีย่ วขอ้ งเป็ น อย่างไร? สามารถจัดตั้งไดใ้ นวงเงนิ ลงทนุ ทกี่ าหนดไดห้ รอื ไม?่ •สภาวะตลาด หรืออตุ สาหกรรมของธรุ กจิ เป็ นอย่างไร และมผี ลกระทบต่อธรุ กิจอยา่ งไร? รายละเอียดของธรุ กจิ ที่เป็นค่แู ขง่ ขนั ? ขอ้ แตกตา่ งระหว่างสนิ คา้ หรอื บรกิ ารของคณุ กับคแู่ ข่ง? อัตราการเตบิ โตของความตอ้ งการของตลาดเป็นอยา่ งไร? •รายละเอยี ดทัง้ หมดของลกู คา้ ในธรุ กิจเป็นอยา่ งไร? เหตผุ ลที่ลกู คา้ ตัดสินใจซ้ือสนิ คา้ หรือใชบ้ ริการ ของธรุ กิจ? ราคาขายสนิ คา้ หรอื บริการทีต่ ้งั ไวเ้ หมาะกับลกู คา้ หรือไม่? สถานท่ขี ายสนิ คา้ หรือ ใหบ้ ริการของคณุ สะดวกสาหรบั ลกู คา้ หรอื ไม่ เหตผุ ลที่เลือกวิธกี ารโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ •ขัน้ ตอนการผลติ หรือการใหบ้ ริการในธรุ กิจเป็ นอยา่ งไร? เป้ าหมายของการผลติ หรือการ ใหบ้ รกิ ารเป็ นอย่างไร? ตน้ ทนุ การผลติ หรอื บรกิ ารคานวณอยา่ งไร? ตน้ ทนุ ขายสนิ คา้ เป็ นเทา่ ใด •โครงสรา้ งการบรหิ ารทก่ี าหนดข้ึนเหมาะกับธรุ กิจของคณุ หรอื ไม?่ เป้ าหมายตา่ งๆของธรุ กิจใน อนาคตเป็ นเช่นใด? จานวนพนกั งานในธรุ กิจเหมาะสม หรือไม่? คา่ ใชจ้ า่ ยต่างในการบรหิ ารจัดการ เป็ นเท่าใด? เป้ าหมายในระยะสัน้ ระยะกลาง และระยาวของธรุ กิจ จะเป็ นจริงไดห้ รือไม?่ •ประมาณการตา่ งๆเกย่ี วกับธรุ กิจในอนาคตเป็นไปไดจ้ รงิ หรอื ไม?่ รายละเอียดเกี่ยวกบั รายรับ- รายจา่ ยของธรุ กิจเป็นอยา่ งไร? ตัวเลขต่างๆท่ีปรากฏในบดลุ งบกาไรขาดทนุ และงบกระแสเงินสด มาจากอะไร? ผลกาไรของธรุ กจิ อย่ใู นเกณฑ์อตั ราผลตอบแทนท่ีดหี รือไม่? จะดาเนินการอย่างไร ถา้ ธรุ กจิ ไม่ไดก้ าไรตามเป้ าหมาย
7 การนําเสนอแผนธรุ กิจ และจํานวนการจดั ทาSlide และใชเ้ วลาท่ีเหมาะสม โดยประกอบดว้ ย 10 หัวขอ้ ดังตอ่ ไปนี้ 1. ขอ้ มลู พืน้ ฐาน หรอื รายละเอียดทวั่ ไปของธรุ กจิ – (จานวน 1 Slide) โดยเป็ นการกลา่ วถึงถึงช่ือ โครงการ / บรษิ ัท / หา้ งหนุ้ ส่วน / กิจการ กลา่ วถงึ ที่ตงั้ ของธรุ กิจ กล่าวถงึ ชื่อผนู้ าเสนอวา่ เป็ นใคร มตี าแหนง่ ใดในกจิ การ 2. แนวความคิดในการดาเนินธรุ กจิ – (จานวน 1 Slide) โดยเป็ นการกล่าวถงึ เหตผุ ลในการเลอื ก ดาเนินธรุ กิจ เหตผุ ลในการเลือกผลติ ภัณฑส์ ินคา้ หรือบริการ ซงึ่ เป็ นสิง่ ที่ธรุ กจิ ในการแกป้ ัญหาของ ลกู คา้ หรอื การสอดคลอ้ งกับสภาวะความตอ้ งการของตลาด 3. ผลิตภณั ฑ์สินคา้ หรือบรกิ ารของธรุ กจิ – (จานวน 1-2 Slide) โดยเป็ นการกล่าวถึงรายละเอียด ของผลิตภณั ฑส์ ินคา้ หรอื บรกิ าร เชน่ แบบ ขนาด การใชป้ ระโยชน์สคี อร์ส เป็ นตน้ ราคาขายของ ผลิตภัณฑห์ รอื สนิ คา้ ราคาคา่ บริการ สถานที่จาหนา่ ย หรือสถานท่ีใหบ้ รกิ ารผลติ ภัณฑส์ ินคา้ หรือ บริการ รปู แบบการโฆษณา ประชาสมั พันธผ์ ลติ ภณั ฑส์ นิ คา้ หรอื บริการ ในสว่ นน้ีถา้ มสี ินคา้ ตัวอย่าง ควรมีการอธิบาย 4.สภาวะตลาด – (จานวน 1 Slide) โดยเป็ นการกลา่ วถงึ สภาพทวั่ ไปของตลาด หรืออตุ สาหกรรมวา่ เป็ นเช่นใด สภาวะการแข่งขนั ในธรุ กจิ รนุ แรงหรือไม่กลา่ วถงึ ขอ้ มลู ของค่แู ขง่ ขนั เกย่ี วกับผลติ ภัณฑ์ สนิ คา้ หรือบริการ โดยถา้ มีตวั อยา่ งภาพถ่ายผลิตภัณฑส์ ินคา้ หรือบริการ ควรนาเสนอประกอบ 5. ความสามารถทางการแข่งขัน – (จานวน 1 Slide) โดยเป็ นการกลา่ วถึงวธิ กี ารทธ่ี รุ กจิ เลอื กใน การแขง่ ขนั กบั ผลิตภัณฑส์ ินคา้ หรอื บริการ ของคแู่ ขง่ หรอื ธรุ กิจอน่ื ในตลาด โดยการเปรียบเทยี บ ตาม 4Ps คือ ดา้ นผลิตภณั ฑ์ดา้ นราคา ดา้ นชอ่ งทางจัดจาหนา่ ย หรอื ดา้ นการสง่ เสริมการตลาด เชน่ คณุ สมบัติหรือรปู แบบผลติ ภัณฑส์ นิ คา้ หรอื บริการ ราคาขาย หรอื ราคาคา่ บรกิ ารทถี่ กู กวา่ 6. ลกู คา้ เป้ าหมาย – (จานวน 1 Slide) โดยเป็ นการกลา่ วถึงลักษณะของลกู คา้ เป้ าหมายของธรุ กิจที่ กาหนด โดยควรระบุรายละเอยี ดใหม้ ากท่ีสดุ เทา่ ทจี่ ะเป็ นไปไดเ้ ช่น เพศ อายรุ ายไดจ้ านวน รายได้ การศกึ ษา พฤติกรรม เหตผุ ลในการตดั สินใจซ้อื ผลิตภัณฑส์ ินคา้ หรอื บรกิ าร เป็ นตน้ 7. กลยทุ ธท์ างการตลาด – (จานวน 1-2 Slide) โดยเป็ นการกล่าวถงึ วิธกี าร และเหตผุ ลในการ กาหนดในการสรา้ งรปู แบบ ผลิตภณั ฑ์สนิ คา้ หรือบรกิ าร ว่าเพราะเหตใุ ดจึงสามารถแกป้ ัญหา และ สามารถสรา้ งความพึงพอใจของลกู คาใหเ้ กิดขน้ึ ได้ 8. แผนการผลิต หรือการบรกิ าร (จานวน 1-2 Slide) โดยเป็ นการกลา่ วถงึ รายละเอยี ดสถานท่ตี ัง้ โรงงาน หรอื สถานทีใ่ หบ้ รกิ าร เชน่ รปู แบบ ขนาด พ้นื ที่ จานวนเครื่องจกั ร อปุ กรณ์ในการผลติ ถา้ เป็ นธรุ กจิ การผลติ
8 9. การบริหารจดั การ (จานวน 1-2 Slide) โดยเป็ นการกล่าวถึงรายละเอยี ดโครงสรา้ งการบรหิ าร จัดการ หรือการแสดงใหเ้ ห็นถงึ Organization Chart ทแี่ สดงสายงานบงั คบั บญั ชา 10. สรปุ ผลทางการเงนิ (จานวน 1-2 Slide) โดยเป็ นการกลา่ วถึงประมาณการเกี่ยวตัวเลขยอดขาย หรือตน้ ทนุ สรปุ ผลกาไรของธรุ กิจ ผลจากการวเิ คราะห์ทางการเงนิ เช่น ระยะเวลาคืนทนุ จดุ คมุ้ ทนุ NPV IRR เป็ นตน้ สุดท้ายน้ีหวังว่ารายละเอียดท้ังหมดของการนาเสนอแผนธรุ กิจน้ีจะเป็ นประโยชน์ต่อ ผปู้ ระกอบการ ผจู้ ดั ทาแผนธรุ กิจ นกั เรยี นักศึกษา ในการนาเสนอแผนธรุ กิจไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ทง้ั ในเร่ืองของรปู แบบการนาเสนอ การใชเ้ วลารวมถึงเขา้ ใจ และตระหนกั ถงึ ความสาคัญของการ นาเสนอแผนธรุ กิจวา่ มคี วามสาคญั ไม่นอ้ ยกว่าการเขยี น หรือการจดั ทาแผนธุรกิจ และเป็ นปัจจัย หนงึ่ ต่อโอกาสในความสาเร็จในการขอรับการสนับสนนุ ของธรุ กิจอกี ดว้ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: