การเขียนเรียงความ

การเขยี นเรยี งความ

เรียงความ คือ งานเขียนร้อยแก้วที่ถ่ายทอดเร่ืองราว ความคิด ความรู้สึกของผู้เขียน โดยมีการเรียบเรียงประโยค เรียบเรียงคาด้วย ภาษาท่ีสละสลวย สาหรับเรียงความท่ีดีน้ันจะประกอบด้วย 3 ส่วน คอื คานา เนอ้ื เรื่อง และสรุป

ลกั ษณะของการเขียนเรียงความทด่ี นี น้ั ต้องประกอบไปดว้ ย 1.มีจุดหมายที่แน่นอน และประมวลข้อคิดท่ีสาคัญ ๆ เข้าสู่จุดหมายน้ัน อยา่ งมรี ะเบียบ 2.มีเอกภาพ คือ ความเป็นอันหน่ึงอันเดียวของเรื่อง หมายถึงความคิด รวบยอดของเรอื่ งเดน่ ชดั และมี สัมพันธภาพคือ มีความสัมพันธ์ กลมกลืนกบความคิดทั้งยังต้องมีสารัตถภาพ คือ การเน้นข้อคิดท่ีสาคัญ

3.มีสัดส่วนที่เหมาะสม คือ มีข้อความเปิดเร่ือง ปิดเร่ือง และดาเนินเรื่อง ตามสัดสว่ นที่พอเหมาะ 4.มีการจัดลาดับเร่ืองท่ีเหมาะสม โดยเขียนความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ เรือ่ งนัน้ เปน็ หัวขอ้ สน้ั ๆ แล้วนามาเรียงลาดับใหเ้ ปน็ ระเบยี บ 5.มีรูปแบบดีคือ หัวเร่ือง การย่อหน้าข้อความ การเว้นวรรคตอน การใช้เคร่ืองหมายต่างๆรวมถึงความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ของการเขียน

6.มโี ครงเรอ่ื งดคี ือ ความยาวของเรือ่ งพอเหมาะกบเวลาทใี่ หเ้ ขียน เหมาะกบั หวั เร่ืองและระดับของผูเ้ ขียน 7.มกี ารใชถ้ อ้ ยคาภาษาดี การเขียนเรยี งความ คอื การส่ือดว้ ยภาษา การใชถ้ ้อยคาจึงจาเป็นมากต้องใชค้ า ใหถ้ กู ตอ้ งตรงความหมาย เหมาะสมกบบคุ คลและผูกประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง สละสลวยกะทดั รดั และมี ทว่ งทานองการเขยี นดี

8. มีเนื้อหาดีคือ เนื้อหาสอดคล้องกบหัวเรื่องเน้ือความสัมพันธ์กนและ มเี นอ้ื หาพอที่จะทาให้ผ้อู ่านเกิดความรูค้ วามเขา้ ใจตามหวั เรื่องทก่ี าหนดไว้ 9. มีความคิดดีความคิดดีต่างกับเน้ือหาดี เพราะเน้ือหาเป็นสาระท่ี เกี่ยวกับความรู้หลักวิชาข้อเท็จจริงแต่ความคิดเป็นเร่ืองของความเข้าใจ ข้อเสนอแนะ ความคิดเห็น การคิดหาเหตุผลซ่ึงเป็นเร่ืองภูมิปัญญาของ ผู้เขียน

10. คานึงถึงองค์ประกอบของการเขียนเรียงความ เช่น จุดประสงค์ ของการเขียน กลุ่มผู้อ่าน รูปแบบของ การเขียน วิธีการนาเสนอ กลไกการเขยี นและอืน่ ๆ 11. มีการวางแผนการเขียน เช่น จะเลือกเขียนเรื่องอะไร ต้องการส่ือ ความหมายในประเด็นใด จะเลือก วิธีการเขียนแบบใด จะตีกรอบการ เขยี นใหก้ ว้างขนาดไหน เป็นตน้ 12. ดาเนินการเขียนตามขั้นตอนของกระบวนการเขียน เช่น การรวบรวมแนวความคิดการสังเคราะห์เน้ือหา หรือวัตถุดิบท่ีจะเขียน การวางโครงร่าง การเขียนรา่ ง การทบทวน ตรวจทานแกไข้

13. คานึงถึงหลักการใช้ภาษา เช่น การใช้ถ้อยคาที่สละสลวยถูกต้อง ตามหลักภาษาเขียนการใช้คาพังเพย สุภาษิตเปรียบเทียบ การใช้ คติพจน์หรือคากล่าวอ้างที่สมเหตุสมผล การเน้นจุดที่สนใจการให้สาระ ความรู้ ท่ีเพียงพอ การรักษาความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน ตลอดจนอกั ขรวิธีทถี่ ูกต้อง 14.การคานึงถึงความสะอาด ลายมือประณีตหรือคุณภาพของ การพมิ พ์ภาษาท่อี ่านง่ายส่ือความหมายลกึ ซ้งึ กินใจ

การเขยี นเรยี งความประกอบไปดว้ ย 3 ส่วนสาคัญ คอื คานา เนอื้ เร่ือง และสรปุ

1. หลักการเขยี นคานา

1. ยกเอาคาพังเพยหรอื สุภาษิตท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั เรื่องมากลา่ ว 2. โดยการอธบิ ายความหมายของเน้ือเร่อื ง 3. ขึ้นตน้ ดว้ ยคากลา่ วของบุคคลทีม่ คี วามสมั พนั ธ์กับเร่ืองทเ่ี ขยี น 4. เขยี นคานาด้วยการเลา่ เรอื่ ง 5. เขียนคานาดว้ ยคาถามหรือปญั หาทนี่ ่าสนใจ 6. เขียนคานาด้วยการอธบิ ายชื่อเรื่อง

7. เขียนคานาด้วยการกล่าวถงึ จดุ ประสงค์ของเรือ่ งที่เขียน 8. เขียนคานาดว้ ยการกล่าวถึงความสาคัญของเรอื่ งท่เี ขียน 9. ตอ้ งกาหนดไวใ้ นใจก่อนว่าจะเขียนคานาอยา่ งไรจึงจะดงึ ดู ความสนใจและสอดคลอ้ งกับหวั เร่อื ง 10. คานาไม่ควรมีรายละเอียดมากเกนิ ไปหรือเขียนยาวเกนิ ไป พยายามใช้เฉพาะความสาคญั เทา่ นั้น 11. ควรพยายามใชภ้ าษาใหป้ ระณีตท่สี ดุ เพอื่ ผู้อ่านจะได้เกิด ความประทับใจ

2. หลักการเขียนเน้อื เร่อื ง

1. เขียนให้มีแนวคิดอยา่ งเดียวไม่พูดนอกเรือ่ งหรอื พูดในสิง่ หยมุ หยมิ เกนิ จาเปน็ 2. เขยี นใหท้ ุกส่วนทุกตอนของเรอื่ งสัมพนั ธ์กนั โดยตลอด 3. รจู้ ักเนน้ ในส่วนที่สาคัญ 4. เขียนให้สมบูรณ์ ไม่ท้ิงส่วนท่ีสาคัญของเรอ่ื ง 5.เขยี นใหม้ คี วามชดั เจน ถกู ตอ้ งและมีเหตผุ ลดีหน้าต้องมีความสมั พันธ์ เกยี่ วเนอื่ งกนั

6.เขยี นตามลาดับเนื้อความของเรือ่ ง 7.มีการยอ่ หนา้ และแต่ละยอหนา้ ตอ้ งมีความสมั พันธก์ ัน 8.มีการเขยี นประโยคเนื้อความ การวางประโยคเนอ้ื ความอาจวางไวต้ น้ ประโยคหรอื ท้ายประโยค หรอื ทั้งต้นและทา้ ยประโยคแตต่ ้องคานึงถึง ความสมั พนั ธข์ องประโยคและยอหนา้ แต่ละยอหนา้ ดว้ ย การเขียนเน้อื เรือ่ งตอ้ งไม่เขียนวกวน การจดั ระเบียบความคดิ จะตอ้ งไม่สบั สน อาจแบ่งเป็นหลายตอนอาจมีหลายย่อหนา้ ท่สี าคญั แต่ละยอหนา้ ต้องมคี วามคดิ สาคัญเพียงอยา่ งเดียวและทกุ ยอ่

3. หลักการเขยี นสรปุ

เ รี ย ง ค ว า ม ท่ี ดี น้ั น ต้ อ ง มี ส่ ว น ส รุ ป ใ น ย่ อ ห น้ า สุ ด ท้ า ย ข อ ง เ รี ย ง ค ว า ม ด้ ว ย เ พื่ อ ทิ้ ง ท้ า ย ใ ห้ ผู้ อ่ า น รู้ สึ ก ป ร ะ ทั บ ใ จ โดยการเขียนสรุปน้ันทาได้หลายวิธี อย่างเช่น การตั้งคาถามทิ้งท้ายให้ ผูอ้ า่ นไดฉ้ กุ คดิ การชักชวน หรอื โน้มน้าวให้ผู้อ่านปฏิบัติตาม คล้อยตาม ในความคิดของเรา หรือทง้ิ ทา้ ยดว้ ยการใหก้ าลงั ใจ หรือยกคาพดู คาคมที่สอดคลอ้ งกับเน้อื เร่ือง ของเรามาปิดทา้ ยกไ็ ด้

ทั้งนี้ หลกั ๆ ก็คอื ควรเขียนสรปุ ใหก้ ระชับ ไม่เยิ่นเยอ้ และไม่ควร ตั้งประเด็นใหม่ข้ึนมาอีก เพราะจะทาให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเรียงความของเรา ยังไม่จบ และที่สาคัญ ไม่ควรสรุปด้วยการเขียนในลักษณะที่ว่าขออภัย หากมขี ้อผิดพลาดประการใด หรือออกตวั วา่ ผเู้ ขยี นไม่มีความรู้ เพราะจะ ทาให้เรียงความชนิ้ น้ีดูไมน่ ่าเชื่อถอื

การเขียนประโยคใจความสาคัญใหน้ ่าสนใจ 1. ใหค้ าจากดั ความ อธบิ ายคาหรือวลใี หผ้ ้อู า่ นเขา้ ใจ 2. ใหร้ ายละเอียด เพอ่ื ใหไ้ ดย้ ่อหน้าทีม่ เี นอ้ื หาสาระมคี วามสมบูรณ์ 3. ยกตวั อย่าง ทาใหเ้ ข้าใจความคิดสาคญั หรอื ประโยคใจความ สาคัญไดช้ ัดเจน

การเขยี นประโยคใจความสาคญั ให้น่าสนใจ 4. เปรียบเทียบ การเปรียบเทียบส่ิงใดสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหน่ึง หรอื อาจจะเปน็ ในลกั ษณะอปุ มาโวหารหรือยกเปน็ อุทาหรณ์ 5. แสดงเหตุและผล เหมาะสาหรับงานเขียนที่ต้องการ วเิ คราะหว์ จิ ารณห์ รือแสดงความคิดเห็น

ตวั อย่างการเขยี นเรียงความ

ตวั อย่าง เร่ืองซ่อื สัตย์สุจริต คุณธรรมนาชาตกิ ้าวหน้า น.ส.กฤตยา ถมั พาพงษ์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 โรงเรียนศรียานสุ รณ์ จงั หวดั จนั ทบรุ ี \"...ความซ่ือสตั ย์สุจริตเป็ นพืน้ ฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึ กฝน อบรมให้เกิดมีขึน้ ในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึน้ เป็ นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิต ท่ี ส ะ อ า ด ท่ี เ จ ริ ญ ม่ัน ค ง . . . \" เ ป็ น พ ร ะ บ ร ม ร า โ ช ว า ท ใ น พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พระบรมชนกาธิเบศรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซง่ึ แสดงให้เห็นถงึ ความสาคญั ของความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต คณุ ธรรมอนั ประเสริฐในการดารงชีวิต

ความซ่ือสัตย์สุจริต คือ ความประพฤติท่ีตรงต่อหน้าที่ และตรงต่อวิชาชีพ มีความจริงใจ ไม่มีความลาเอียงหรืออคติ ไม่ทจุ ริตคดโกงทงั้ ทางตรงและทางอ้อม รู้หน้ าท่ีการงานของตนเอง ปฏิบัติหน้ าที่การงานของตนเองอย่างเต็มกาลัง ความสามารถด้วยความบริสทุ ธิ์ใจ มีกาย วาจา และใจท่ีสุจริต ความซื่อสตั ย์สจุ ริต จึง เ ป็ น คุณ ธ ร ร มพื น้ ฐ า นที่ เ ร า ทุก ค น ค วร ต ร ะ หนัก เ ป็ น ร า ก ฐา น ส า คัญ สู่ความเจริญก้าวหน้า เปรียบดั่งเข็มทิศนาทางชาติไทยไปสู่ความเจริญ ซึ่งเราควร ปลกู ฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ของชาติไทยผ้เู ป็ นอนาคตของชาติและเป็ นกาลงั สาคญั ในการพัฒนาชาติให้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็ นคุณธรรมประจาใจ ปฏิบัติหน้าท่ี การงานอย่างซ่ือตรง ไม่มีการทุจริตคดโกง และรู้ถึงผลเสียของการทุจริตท่ีจะส่งผล ทงั้ ตอ่ ตนเองและสงั คมสว่ นรวม

การทุจริต คือ การใช้อานาจที่ได้มาหรือการใช้ ทรัพย์สินที่มีอยู่ในทางมิชอบ เพ่ือประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว หรือประโยชน์อื่นใดอันมิควรได้ ซึ่ง ก่อให้ เกิด ความเสียหายต่อประโยชน์ของผู้อื่น และส่งผลให้งานในหลายๆด้านไม่มีคุณภาพ ในปัจจุบันปัญหาการทุจริตในประเทศไทยเป็ นปัญหาท่ีส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติ ทงั้ ในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการปกครอง เป็ นปัญหาร้ ายแรงที่ต้องได้รับ การแก้ ไข โดยส่ิงสาคัญที่จะแก้ ไขปัญหานีไ้ ด้นัน้ คือเราจะต้องปลูกฝังให้คนในชาติ มีความซื่อสตั ย์สจุ ริตในการทางานทกุ ๆด้าน ให้ความรู้ ข้อคิด คตินิยมในด้านความซื่อสตั ย์ สจุ ริต และวางรากฐานทางความคิดให้ไม่กระทาการทุจริต มีความซ่ือสตั ย์เป็ นคณุ ธรรม ประจาใจ มีความสุจริตในการปฏิบัติหน้าที่การงาน ร่วมกันสร้ างชาติไทยที่ปราศจาก การทจุ ริต เพ่ือให้งานทกุ อย่างประสบความสาเร็จและมีคณุ ภาพ ซงึ่ จะเป็นการช่วยพฒั นา ชาติไทยให้เจริญก้าวหน้าอยา่ งมน่ั คง และยงั่ ยืน

ไมท่ ามาหาเงินเดินทางผิด ไมท่ จุ ริตมจิ ฉามานสาไถย ไมเ่ อาเปรียบย่าเหยียบคดโกงใคร ไมห่ วน่ั ไหวร้ายผลร้อนรนทรวง ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริตถือเป็นเครื่องมือป้ องกนั การทจุ ริต เป็นเข็มทิศนาทางชาติไทย ไปสู่ความเจริ ญ เราจึงต้ องปลุกจิตสานึกให้ คนในชาติทุกๆคนเกิด ค่านิยม แหง่ ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต เกรงกลวั ต่อโทษของการทจุ ริต มีคณุ ธรรมจริยธรรม และร่วมกนั สร้างชาติทีใ่ สสะอาดปราศจากการทจุ ริต เพ่ือให้ชาติไทยเจริญก้าวหน้าสบื ไป

ตวั อย่าง เร่ือง อาหารปลอดภยั ด้วยนา้ พระราชหฤทยั พระแม่ของแผ่นดนิ นางสาวเยน็ ฤดี ทองแก้ว โรงเรียนศรียานุสรณ์ จงั หวดั จนั ทบุรี เนื่องจากประเทศไทยของเรานัน้ ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็ นประมุข ซ่ึงพระมหากษัตริย์ของไทย คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย เดชหรือ ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้ในในนามว่า “ในหลวง” พระองค์นัน้ ทรงเป็ นพ่อของแผ่นดินท่ีคอยบาบัดทุกข์ บารุงสขุ ให้แก่ประชาชนไทย แตเ่ มอ่ื กลา่ วถงึ พอ่ ของแผ่นดินแล้ว ถ้าไมน่ กึ ถึง แมข่ องแผ่นดิน คงจะเป็นไปมิได้ เพราะพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทยในด้านต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็ นด้าน การประกอบอาชีพ การเกษตร การรักษ์ศิลปวฒั นธรรมประเพณีไทย และด้านการผลิตอาหารปลอดภยั ซ่ึง เป็ นปัจจยั สาคญั ต่อการดารงชีวิตของประชาชนไทยเป็ นอย่างมาก เพราะเมื่อเราบริโภคอาหารท่ีปลอดภยั มีประโยชน์ จะทาให้เรามีสขุ ภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส สามารถไปกระทาการงานต่าง ๆ ได้มากมาย ส่งผล ให้การทางานนนั้ ๆ มีประสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธิผลสงู สดุ ได้

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ หรือ “แม่ของแผ่นดิน” พระองค์ทรงปฏิบตั ิพระราชกรณียกิจ เพ่ือประชาชนไทยไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงพระราชกรณียกิจในการส่งเสริมคณุ ภาพชีวิต และความเป็ นอย่ขู อง ราษฎร โดยเฉพาะราษฎรผู้ยากไร้ ในชนบทห่างไกล พระองค์มีโครงการอันมาจากพระราชดาริอย่หู ลายโครงการ ข้าพเจ้าจึงได้เลือกโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้านการผลิตและบริโภคอาหารปลอดภัยที่สนใจมาทัง้ สิน้ 4 โครงการ อาทิเช่น โครงการธนาคารอาหารชุมชนตามพระราชดาริ อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ โครงการฟาร์ม ตวั อย่างตามพระราชดาริ โครงการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตราษฎร อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ โครงการฟื น้ ฟทู รัพยากร พนั ธ์ปุ ลา และสตั ว์นา้ จดื ของไทย เป็นต้น จะกลา่ วถงึ โครงการตา่ งๆ โดยสงั เขป ดงั นี ้ โครงการแรก โครงการธนาคารอาหารชมุ ชนตามพระราชดาริ อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ทงั้ อยใู่ นจังหวดั แม่ฮ่องสอน และจงั หวัดราชบรุ ี เริ่มดาเนินดารตงั้ ปี พ.ศ. 2540 มีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือเป็ นการอนรุ ักษ์และพฒั นาพืน้ ที่ ธรรมชาติ เป็ นแหล่งรวมรวบและพัฒนาพืชสมุนไพรสาหรับใช้ในชุมชน เป็ นแหล่งผลติอาหาร ตามธรรมชาติ อาทิเช่น ข้าว พืชผกั ผลไม้ สตั ว์เลีย้ ง สตั ว์ป่ า สตั ว์นา้ เป็นต้น ได้พฒั นาอาหารดงั กล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ ภาระที่ โครงการดาเนิน คือการนรุ ักษ์ พฒั นาพืน้ ทธ่ี รรมชาติ และรู้จกั ใช้พืน้ ทน่ี นั้ ๆ ให้เกิดประโยชน์สงู สดุ

โครงการที่สอง โครงการฟาร์มตวั อย่าง ตามพระราชดาริ เร่ิมดาเนินการตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2542 สมเด็จพระนางเจ้ าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยในชีวิตและความเป็ นอยู่ของราษฎร โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ยากไร้ ซ่ึงขาดความรู้ ความเข้าใจในการทาการเกษตร ซ่ึงเป็ นอาชีพหลัก ทรงมีพระราชดาริให้ดาเนินการจดั ตงั้ ฟาร์มตวั อย่าง มีสถานที่ดาเนินการ 18 จงั หวดั กระจายอยู่ใน ทุกภูมิภาคของไทย โครงการนี ้ มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้เป็ นแหล่งศึกษาเรียนรู้และเป็ นศูนย์กลาง ในการเผยแพร่ความรู้ และแหล่งวิทยาการของชุมชน เพื่อให้เกิดการขยายผลด้านการเพาะเลีย้ งสตั ว์ นา้ ท่ีเหมาะสมในพืน้ ท่ี และเพ่ือเป็ นแหล่งจ้างแรงงานให้ราษฎรที่ยากจนและราษฎรทั่วไปในพืน้ ท่ี โครงการเพื่อเป็ นแหล่งผลิตอาหารปลอดภยั และแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกรได้เรียนรู้การผลิตพืชเต็ม ศกั ยภาพของตน แล้วนาไปพฒั นาตอ่ ยอดได้ ซงึ่ การพฒั นานนั้ สามารถทาได้หลายวิธีไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อมก็สามารถพฒั นาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

โครงการท่ีสาม โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ตัง้ อยู่ที่ จงั หวดั เชียงใหมแ่ ละจงั หวดั บรุ ีรัมย์ เริ่มดาเนินการตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2543 มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือพฒั นาความรู้ ในการปลูกข้ าวพันธ์ุดีท่ีให้ ผลิตผลสูงและมีคุณภาพดีของเกษตรกร สามารถจาหน่ายทั้งใน และต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้แก่ครอบครัวมีรายได้เพ่ิมขนึ ้ เพ่ือสร้างภมู ิค้มุ กันได้อย่างดีเพื่อส่งเสริม อาชีพการเลีย้ งสัตว์ไว้ บริโภคในครัวเรือน เพราะถ้ าเราเลีย้ งปลาทานเอง ปลาจะไม่มีสารพิ ษ เม่ือเรานามาปรุงอาหาร ก็จะปลอดภยั ตอ่ ชีวิตของเราและคนอื่นด้วย

โครงการท่ีส่ี โครงการฟื น้ ฟูทรัพยากรพนั ธ์ุปลา และสตั ว์นา้ จืดของไทย มีวตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื เพิม่ ปริมาณและชนิดพนั ธ์ปุ ลาท่ีมีถ่ินกาเนิดในประเทศไทย ให้ดารงอยู่ในแหล่งนา้ ธรรมชาติ และแหล่งนา้ ที่ก่อสร้างปรับปรุงใหม่ เพื่อศกึ ษาวิจยั การเพาะเลีย้ งปลาและสัตว์นา้ จืดของไทย โดยเฉพาะท่ีหายากใกล้สูญพนั ธ์ุ เน่ืองจากปัจจุบนั สตั ว์นา้ จืดพนั ธ์ุพืน้ เมืองของไทยหลายชนิด มีปริมาณลดลงมากอย่างน่าเป็ นห่วง และพนั ธ์ุปลาบางชนิดก็มีแนวโน้มที่จะสูญพันธ์ุไปจาก แหล่งนา้ ของไทย ส่งเสริมโดยการปล่อยพนั ธ์ุปลาในแหล่งนา้ ต่างๆ เพื่อทดแทนปริมาณปลา ที่ลดลง และเพ่ิมผลผลิตปลาในแหล่งนา้ เป็ นการเพ่ิมรายได้ และเพิ่มปริมาณอาหารโปรตีน แกร่ าษฎรผ้ยู ากไร้ในชนบท ตลอดจนสามารถคืนความหลากหลายของชนิดปลา ซง่ึ รักษาสภาพ ความสมดลุ ตามธรรมชาติของแหลง่ นา้ อนั จะนามาซงึ่ การใช้ทรัพยากรสตั ว์นา้ อยา่ งยงั่ ยืนตอ่ ไป

จะเห็นได้ว่า โครงการต่าง ๆ ท่ีข้าพเจ้าได้ยกตัวอย่างมานัน้ ล้วนมีวัตถุประสงค์เพ่ือช่วยเหลือ ประชาชนทว่ั ไปให้มีชีวิตอยดู่ ีกินดี และอาหารปลอดภยั สามารถดารงชีวิตได้อย่างมีความสขุ ทรงแสดงเห็น ได้ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้า ล้นกระหม่อม ต่อพสกนิกรชาวไทย หาท่ีเปรียบมิได้ โครงการท่ีข้าพเจ้าได้ยกตวั อย่างมานนั้ เป็ นส่วนน้ อยของโครงการ ทงั้ หมดที่มาจากพระราชดาริของพระองค์ ท่ีทรงช่วยเหลือและห่วงใยราษฎรในด้านต่างๆ มากมาย ไม่ว่า จะเป็นการประกอบอาชีพเพ่ือเลีย้ งตวั เอง คนในครอบครัว และชมุ ชน การอนรุ ักษ์ฟื น้ ฟูทรัพยากรธรรมชาติ ของประเทศไทย การพฒั นาการผลตแิ ละบริโภคอาหารท่ีดี ปลอดภยั สง่ ผลให้เกิดประโยชน์ในการดารงชีวิต ของประชาชนเป็ นอย่างมาก ทาให้องค์การอาหารและการเกษตรแห่งประชาชาติ ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวาย เหรียญ ซีเรส เทิดพระเกียรตใิ นฐานะท่ีทรงเป็น “ผ้ใู ห้โดยไมเ่ ลือกที่รัก มกั ที่ชง่ั ” แดพ่ ระแมข่ องแผน่ ดนิ ถิ่นแดนไทย ขอใช้ใจบชู าพระแมศ่ รี ด้วยมงั่ คงจงรักภกั ดี สดดุ ีพระองค์ทรงพระเจริญ