Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PlAN

PlAN

Published by chaweewan ch, 2022-07-03 03:17:36

Description: PlAN

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ 01 02 รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี 05 03 04 (วทิ ยาการคาํ นวณ) ม.5ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั หลกั ตสวัตู อรยป่ารงบั ปรงุ ’60 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจดั การเรยี นรู้ หปลรกั ับสปตู รรงุ '60 รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ัด กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 M;S*LOY _EDÿ ;ETDI-þ T@Yh;2T;Iþ9DTJTL7E _9'a;aGDW¥Iþ9DT$TE'U;I5¦C«² ม.5 M;*S LOY _EÿD;ETDI-þ T@;hY 2T;I9þ DTJTL7E ม.5 นร. เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.4 -;;V 9EOBV-T7V เทคโนโลยี -;V;9E_,GVCLZ% ISBN : 978 - 616 - 203 - 767 - 2 OBV-T7V 'U=GVI (วิทยาการคำนวณ) บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จำกดั www.aksorn.com 52.-9 7 8 6 1 6 2 0 3 7 6 7 2 00.- บ1โทร41รโwษิท2.4w/รทั 2แถ.w/ฟอนแถ.กัaฟนกนkษตนซกsรต.์ซะoนเ0.์ะrจน0nา2รา.2วcญิว6o6เ2ขmเท2ขต2ศัต22พ2พนร์ร99อะะ99นนจA99คคทkรsร.((อoอจกกตัrตัำรnรโกโงุนงุนAดัเมทเมCทตั พTตั พิ 2มิ 2ม0ห0หาคนาสู่คคนาสู่ รคยาร1)ย01)2002000 -Sh;CS:DCJX$KT=9Wg² 7TCCT7E2T;$TE_EÿD;E`[ GR7IS -hÿI6S $GCZ LTER$TE_EDÿ ;EI[ þ9DTJTL7E ¥,<S<=E<S =EZ*@«J«2560¦ 7TCMG$S L[7E`$;$GT*$TEJX$KT%;hS @hY;2T;@Z9:JS$ET-¯²²® 28

























แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี น 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทีเ่ ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดข้นึ 2. ซ่อื สตั ย์ สุจริต 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัติในส่ิงท่ีถูกต้อง 3. มวี นิ ยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เช่ือฟังคาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรยี น 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ 6. มงุ่ ม่ันในการทางาน 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ใหง้ านสาเร็จ 7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู กั การดูแลรกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มของห้องเรยี นและโรงเรยี น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 51-60 ดีมาก พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41-50 ดี 30-40 พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ างครั้ง ให้ 1 คะแนน ปรับปรงุ ตา่ กวา่ 30 41

แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดบั คุณภาพ) ระดับ ประเมนิ คุณภาพ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) 1. การออกแบบฉลาก ดมี าก ผลติ ภณั ฑส์ นิ ค้า OTOP ใชโ้ ปรแกรมในการ ใช้โปรแกรมในการ ใชโ้ ปรแกรมในการ ไม่สามารถใช้โปรแกรม ดี 2. ยกระดับและเพมิ่ มูลคา่ ออกแบบฉลาก ออกแบบฉลาก ออกแบบฉลาก ในการออกแบบฉลาก ใหผ้ ลติ ภณั ฑ์ พอใช้ ผลิตภณั ฑส์ ินคา้ OTOP ผลติ ภณั ฑ์สินคา้ OTOP ผลิตภณั ฑส์ นิ คา้ OTOP ผลติ ภณั ฑส์ ินคา้ OTOP 3. ความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ปรับปรุง ได้ดมี าก ได้ดี ไดค้ อ่ นขา้ งดี ได้ 4. ความสมบรู ณข์ องผลงาน สามารถยกระดบั และ สามารถยกระดบั และ สามารถยกระดบั และ ไม่สามารถยกระดบั และ 5. สง่ งานตรงเวลา เพ่มิ มูลคา่ ให้กับสนิ คา้ เพมิ่ มูลค่าให้กบั สนิ ค้า เพิ่มมลู ค่าใหก้ ับสนิ ค้า เพิม่ มลู ค่าให้กับสินคา้ ได้ดมี าก ได้ดี ได้คอ่ นขา้ งดี ได้ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ ไม่สามารถออกแบบ ผลิตภณั ฑ์ท่แี ตกต่างไป ผลติ ภณั ฑท์ แี่ ตกตา่ งไป ผลิตภณั ฑท์ แ่ี ตกต่างไป ผลติ ภณั ฑ์ที่แตกตา่ งไป จากเดิมไดด้ ีมาก จากเดิมไดด้ ี จากเดมิ ได้ค่อนข้างดี จากเดมิ ได้ ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น สมบูรณ์ดมี าก สมบรู ณ์ค่อนขา้ งดี สมบูรณด์ เี ปน็ บางส่วน สมบรู ณ์น้อย ส่งภาระงานภายในเวลา สง่ ภาระงานชา้ กวา่ สง่ ภาระงานชา้ กว่า สง่ ภาระงานช้ากว่า ท่ีกาหนด กาหนด 1 วนั กาหนด 2 วัน กาหนดเกิน 3 วนั ข้ึนไป เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 10-15 ดี 7-9 พอใช้ 1-6 ปรับปรุง 42

แบบประเมนิ ชิน้ งาน คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานของนักเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 2 1 ความถกู ต้องของเนือ้ หา   2 ความคดิ สร้างสรรค์    3 การจัดองค์ประกอบสมบูรณ์   4 การนาไปใช้ประโยชน์    5 ส่งงานตรงเวลา      รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง 43

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอรก์ ับการดาเนนิ ชวี ติ เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปญั หาหรือเพ่มิ มลู คา่ ให้กบั บรกิ ารหรือผลิตภณั ฑท์ ่ีใช้ในชวี ติ จรงิ อยา่ งสร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ได้ (K) 2. สืบคน้ ข้อมลู ท่ีเกย่ี วข้องกับวิทยาการคอมพิวเตอรไ์ ด้ (P) 3. เลง็ เห็นถงึ ความสาคัญของวิทยาการคอมพิวเตอร์ (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น การนาความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา เทคโนโลยสี ารสนเทศ มาใช้แกป้ ัญหากับชีวิตจริง 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีการคานวณทางคอมพิวเตอร์ และทฤษฎีการ ประมวลผลสารสนเทศ ทั้งด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเครือข่าย โดยวิทยาการคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหัวข้อท่ีเก่ียวข้อง ตั้งแตร่ ะดบั นามธรรมไปจนถึงระดับรูปธรรม ท้งั น้เี พ่ือตอบสนองต่อความต้องการของการใชเ้ ทคโนโลยขี องคนในสงั คมไทย 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 7. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 8. ทกั ษะการสอื่ สาร 9. ทักษะการทางานร่วมกนั 44

6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ข้นั นา ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศ กบั การดาเนนิ ชีวติ เพอ่ื วัดความร้เู ดิมของนกั เรียนกอ่ นเข้าสูก่ ิจกรรม 2. ครูถามคาถามประจาหวั ข้อวา่ “นกั เรยี นคดิ ว่าวทิ ยาการคอมพิวเตอรม์ ีความสาคัญต่อเทคโนโลยีที่จะเกดิ ขึ้นอนาคตอย่างไร” (แนวตอบ : วิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นศาสตร์ที่เก่ียวข้องกับการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีการคานวณทางคอมพิวเตอร์ และ ทฤษฎีการประมวลผลสารสนเทศต่าง ๆ และประกอบไปด้วยหัวข้อที่มีความเก่ียวข้องกับขั้นตอนวิธี ต้ังแต่ ระดับนามธรรมไปจนถึงระดับรูปธรรม ดังนั้น เทคโนโลยีท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคตจะต้องมีประสิทธิภาพ และ ตอบสนองตอ่ ความต้องการของคนในสงั คม) 3. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนฟังเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันผู้คนในสังคมไทยต้องการอะไรท่ีเร็วขึ้น สะดวกข้ึน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนน้ั เพอ่ื ตอบสนองแกค่ วามตอ้ งการเหลา่ นจี้ ึงทาให้เกิดวิทยาการคอมพิวเตอร์ขึ้น เพ่ือนาไปสู่การคิดค้นทฤษฎี เทคโนโลยี และนวตั กรรมใหม่ ๆ” ขัน้ สอน ขัน้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนศึกษาความหมายของวิทยาการคอมพิวเตอร์ และค้นหาหัวข้อท่ีควรศึกษาเกี่ยวกับวิทยาการ คอมพวิ เตอรจ์ ากหนังสือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หรือศกึ ษาเพ่มิ เติมจากอินเทอร์เนต็ ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 2. ครสู ่มุ นกั เรียน 2-3 คน ออกมาอธิบายความหมายและหัวข้อท่ีเก่ียวข้องของวิทยาการคอมพิวเตอร์เพื่อขยายความเข้าใจของ ตนเองและเพือ่ นร่วมชน้ั 3. ครถู ามคาถามกระตุ้นความคดิ ของนกั เรยี นวา่ “ถ้าหากไมม่ ีวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ในสังคมไทยจะเปน็ อย่างไร” (แนวตอบ : จะไม่มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการ และจะทาให้สังคมไทยเป็นสังคมท่ีล้าหลัง ต่อการเปลี่ยนแปลง) 4. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทาการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ นักเรียนได้เข้าใจว่าการคิดค้นทฤษฎี เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ มีความซับซ้อนและเป็นลาดับข้ันตอน ทั้งน้ีก็เพื่อ ผลงานทตี่ รงตามความต้องการและมปี ระสิทธิภาพมากย่ิงข้นึ 5. ครูให้นกั เรียนจับกล่มุ กลมุ่ ละ 4–5 คน พรอ้ มส่งตัวแทนออกมาจับสลากหัวข้อเรือ่ ง โดยหวั ข้อเรื่องทก่ี าหนดให้ มีดงั น้ี 1. การพัฒนาซอฟต์แวร์ 2. โครงสร้างและการควบคุมระบบคอมพวิ เตอร์ 3. การสอื่ สารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ หรอื อุปกรณ์สือ่ สาร 4. การนาไปใช้งานด้านกราฟิก และมลั ติมเี ดยี 5. การประยุกต์ใช้งานอย่างชาญฉลาด 6. การคานวณและการประยุกตใ์ ช้งานระดบั สงู 45

ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 6. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนไดท้ าการศกึ ษา และสืบคน้ ขอ้ มลู ทางอินเทอร์เนต็ ตามหวั ข้อทแ่ี ต่ละกลุม่ ได้รับ 7. จากน้ันครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอข้อมูลตามที่ได้ไปสืบค้น และเปิดโอกาสให้นักเรียนกลุ่มอื่นสามารถซักถาม กลุม่ ท่นี าเสนอเพือ่ ขยายความรใู้ หเ้ ข้าใจมากยิ่งขึ้น 8. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ว่า “วิทยาการคอมพิวเตอร์ย่อมาจากวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ โดยเป็น ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีการคานวณสาหรับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ และในแง่ของศาสตร์ท่ีเก่ียวกับ คอมพิวเตอร์นัน้ วิทยาการคอมพิวเตอร์ถือว่าเปน็ ส่วนประกอบหนึ่งในห้าของสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ โดยสาขาท่ีเก่ียวข้องกับ คอมพวิ เตอร์จะประกอบไปด้วย สาขาวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ สาขา เทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ” ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 9. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน การนาเสนอข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องของ ขอ้ มลู ข้นั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกบั วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ และหวั ข้ออน่ื ๆ ท่เี กยี่ วข้อง 7. การวดั และประเมินผล รายการวัด วิธวี ัด เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ - ประเมินตามสภาพจริง 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ระดับคุณภาพ 2 - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น ผา่ นเกณฑ์ - ระดบั คณุ ภาพ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง ผา่ นเกณฑ์ - ระดับคณุ ภาพ 2 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ผา่ นเกณฑ์ - ระดับคุณภาพ 2 สือ่ ดิจทิ ัล และเทคโนโลยี ผ่านเกณฑ์ สารสนเทศกับการดาเนินชวี ติ 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัด กิจกรรม 1) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม รายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอผลงาน - ผลงานทนี่ าเสนอ 3) พฤติกรรมการทางานกล่มุ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม 4) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ คุณลักษณะ ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ และม่งุ มนั่ ในการทางาน 46

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 ส่อื การเรยี นรู้ - หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง วิทยาการคอมพิวเตอร์ สือ่ ดจิ ทิ ัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนนิ ชีวิต 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - อนิ เทอรเ์ น็ต 47

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ................................. ) ( ................................ ตาแหนง่ ...... . 10. บันทึกผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน  ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข 48

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 ส่ือดจิ ทิ ลั กับการดาเนนิ ชวี ิต เวลา 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแกป้ ญั หาหรอื เพิม่ มลู ค่าให้กบั บรกิ ารหรือผลิตภณั ฑ์ท่ีใชใ้ นชวี ติ จรงิ อย่างสรา้ งสรรค์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของส่ือดจิ ิทลั ได้ (K) 2. บอกองคป์ ระกอบของสือ่ ดจิ ทิ ลั ได้ (K) 3. ยกตัวอยา่ งประเภทของส่อื ดิจทิ ลั ได้ (K) 4. สรา้ งช้ินงานอธิบายขอ้ ดี-ขอ้ เสยี ของสือ่ ดจิ ิทลั ได้ (P) 5. เหน็ ประโยชนข์ องสือ่ ดจิ ิทัล (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น การนาความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา เทคโนโลยสี ารสนเทศ มาใชแ้ กป้ ญั หากบั ชีวิตจรงิ 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ปจั จุบันไดม้ กี ารนาส่อื ดจิ ทิ ัลเข้ามาใช้ในการดาเนินชวี ติ เพราะเปน็ ส่ือท่ีสามารถเข้าถึงขอ้ มูลได้อย่างไม่จากัด โดยเป็นการ นาข้อความ ภาพน่ิง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และวิดีโอ มาจัดรูปแบบโดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ผสมผสานกับ ความคิดสร้างสรรค์ของผู้สร้างส่ือ เพ่ือผลิตออกมาเป็นส่ือดิจิทัลท่ีตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ โฆษณา การต์ ูน เกมออนไลน์ หรือสือ่ การสอน 5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 7. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 8. ทักษะการให้เหตุผล 9. ทักษะการคิดสรา้ งสรรค์ 49

6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขนั้ นา ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคาถามท้าทายความคิดของนักเรียนว่า “นักเรียนคิดว่าส่ือดิจิทัลในรูปแบบใดมีผลต่อการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ มากทีส่ ดุ ” (แนวตอบ : สื่อดิจิทัลในรูปแบบวิดีโอ เนื่องจากเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมเพราะสามารถนาเสนอข้อมูลทุกอย่างได้ท้ัง ขอ้ ความ เสยี ง ภาพน่ิง หรือภาพเคลอ่ื นไหว และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ดังน้ัน ผู้สูงอายุก็จะ สามารถสืบคน้ ข้อมลู ในการดแู ลสขุ ภาพตา่ ง ๆ เช่น อาหารทค่ี วรรบั ประทาน การออกกาลงั กายทีเ่ หมาะสม) 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับส่ือดิจิทัลว่า “ส่ือดิจิทัล คือ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ซ่ึงทางานโดยใช้รหัสดิจิทัล ปัจจุบันการเขียน โปรแกรมถกู แปลงใหอ้ ยู่ในรปู แบบของเลขฐานสองเพื่อใหค้ อมพวิ เตอรเ์ ข้าใจในสง่ิ ทโี่ ปรแกรมเมอรต์ ้องการจะสือ่ สาร” ขั้นสอน ขั้นท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครเู ปิดคลปิ วิดีโอ เรื่อง สือ่ ดจิ ิทัลกบั การดาเนนิ ชวี ิต ให้นกั เรียนดพู ร้อมถามนกั เรียนว่า “นกั เรยี นเห็นส่อื ดิจทิ ัลใดบ้างในคลปิ วดิ โี อ” (แนวตอบ : ขอ้ ความ ภาพนิง่ ภาพเคลื่อนไหว เสยี ง) 2. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า “มีสื่อดิจิทัลต่าง ๆ ที่นักเรียนพบเห็นในคลิปวิดีโอไม่ว่าจะเป็นข้อความภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง ส่ิงเหล่านี้ถูกนามารวมกันและจัดรูปแบบโดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ผสมผสานกับความคิด สรา้ งสรรค์จึงทาใหอ้ อกมาเป็นสอื่ ดิจทิ ัลทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ” 3. ครูอธิบายความรู้เสริมจากเนื้อหาเพื่อขยายความรู้ของผู้เรียน (Com Sci Focus) เกี่ยวกับดิจิทัลคอนเทนต์ว่า “ดิจิทัล คอนเทนต์ คอื สารสนเทศที่มีรูปแบบเป็นดิจิทัล โดยอาศัยการแสดงเน้ือหาผ่านทางอุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สอ่ื สาร โทรทศั น์ โรงภาพยนตร์” 4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาเก่ียวกับองค์ประกอบสาคัญของส่ือดิจิทัล 5 ประการ จากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หรอื คน้ คว้าขอ้ มลู เพม่ิ เติมจากอนิ เทอรเ์ น็ต ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 5. ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอธบิ ายเกย่ี วกับองคป์ ระกอบสาคญั ของสื่อดจิ ิทัล 5 ประการ โดยนกั เรยี นในช้ันเรียนสามารถ ซักถามเพื่อขยายความเข้าใจได้ ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 6. ครูยกตัวอย่างสื่อดิจิทัลประเภทต่าง ๆ ที่พบเห็นได้ในปัจจุบัน โดยมีลักษณะท่ีแตกต่างกันมาให้นักเรียนดูเพ่ือให้นักเรียน เขา้ ใจมากข้ึนวา่ การดารงชวี ติ ในปัจจุบันเกี่ยวขอ้ งกับดิจิทลั อยา่ งไรบา้ ง 7. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า “เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังน้ัน ส่ือดิจิทัลที่มีความหลากหลาย นอกจากให้คุณประโยชน์ท่ีสามารถนาส่ือดิจิทัลมาปรับใช้ในงานได้หลากหลายวิธีและมีคุณภาพคงทน มีโอกาสท่ีจะเกิด ขอ้ ผดิ พลาดได้ยากแลว้ กอ็ าจจะใหโ้ ทษได้อีกด้วย เพราะสื่อดิจิทัลเป็นสิ่งที่สามารถนาไปกระทาความผิดได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น การนาภาพของบุคคลอื่นมาตดั ต่อเปน็ ภาพลามกอนาจารหรอื การนาผลงานของผู้อน่ื มาใชโ้ ดยไมได้รับอนญุ าต เป็นต้น” 50

8. ครูมอบหมายให้นักเรียนสร้างชิ้นงานโดยใช้โปรแกรมที่ตนเองถนัดเพื่อสร้าง Infographic โดยมีหัวข้อเก่ียวกับข้อดี-ข้อเสีย ของสอ่ื ดจิ ทิ ัล โดยจะต้องมีองค์ประกอบของสื่อดิจทิ ลั มากกวา่ 1 ส่วน 9. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า “การสร้างภาพ Infographic หมายถึง การนาข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศผสมผสานกับ ความคดิ สรา้ งสรรคข์ องตนเองออกมาในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบแล้วสามารถสื่อให้ผู้ชมดูแล้วเข้าใจง่ายและชัดเจนใน เวลาอันรวดเร็ว” 10. ครตู ัวอยา่ งภาพ Infographic มาให้นักเรียนดูเพือ่ ใหน้ ักเรยี นไดเ้ ขา้ ใจรปู แบบของการสร้างภาพ Infographic มากยิ่งขึ้น ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 11. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น และตรวจสอบการสร้างชิน้ งานของนักเรียน ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนสรุปถึงความหมาย องค์ประกอบ ประเภท และข้อดี-ข้อเสียของส่ือดจิ ทิ ัล 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั - แบบประเมินชนิ้ งาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ กจิ กรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 1) การสรา้ งช้นิ งาน - ตรวจชิน้ งาน - แบบประเมินคุณลกั ษณะ - ระดบั คุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์ Infographic 2) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม รายบคุ คล การทางานรายบุคคล 3) คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตความมวี นิ ัย ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทางาน 8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง วิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่อื ดจิ ิทัล และเทคโนโลยสี ารสนเทศกับการดาเนินชวี ิต 2) คลิปวิดีโอ เรอื่ ง สอื่ ดจิ ิทัลกับการดาเนินชวี ติ 3) ตวั อย่างภาพ Infographic 4) ตวั อย่างสอ่ื ดิจิทัลประเภทตา่ ง ๆ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ - อินเทอร์เนต็ 51

ตวั อยา่ งภาพ Infographic  แหลง่ ข้อมลู : www.skinnymom.com, www.kapook.com 52

ตวั อยา่ งภาพ Infographic  แหล่งข้อมลู : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จงั หวัดชลบุรี , www.ddc.moph.go.th 53

ตวั อย่างภาพ Infographic  แหล่งข้อมูล : นติ ยสาร Health & Cuisine, www.resource.thaihealth.or.th 54

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ................................. ) ( ................................ ตาแหนง่ ...... . 10. บันทึกผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่มี ีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข 55

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การดาเนินชีวิต เวลา 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปญั หาหรือเพม่ิ มลู ค่าใหก้ บั บรกิ ารหรือผลติ ภัณฑท์ ี่ใชใ้ นชวี ติ จรงิ อย่างสร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ (K) 2. บอกประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนินชีวิตได้ (K) 3. สบื คน้ ขอ้ มลู โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (P) 4. สนใจใฝ่รใู้ นการศกึ ษา (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถนิ่ การนาความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา เทคโนโลยสี ารสนเทศ มาใชแ้ ก้ปัญหากับชวี ิตจริง 4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ประมวลผลข้อมูล จดั เกบ็ ขอ้ มูล แลกเปลยี่ นข้อมูล หรอื เผยแพรข่ อ้ มูล และปจั จุบันเทคโนโลยสี ารสนเทศ จึงมีความสาคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ และสมรรถภาพในการดาเนินชวี ติ เปน็ อยา่ งมาก 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ม่งุ มั่นในการทางาน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 7. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 8. ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 9. ทักษะการให้เหตุผล 56

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชวั่ โมงท่ี 1 ขนั้ นา ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครถู ามคาถามประจาหัวขอ้ วา่ “เทคโนโลยีสารสนเทศมปี ระโยชน์ตอ่ การดาเนนิ ชีวิตอยา่ งไร” (แนวตอบ : เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยอานวยความสะดวกในการจัดการกับข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การ ประมวลผลข้อมูล การจัดเกบ็ ขอ้ มลู การแลกเปลีย่ นขอ้ มูล และการเผยแพรข่ ้อมูล) ขน้ั สอน ขั้นท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนทาการศึกษาภายใต้หัวข้อเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนินชีวิต จากหนังสือเรียน รายวิชา พ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 พร้อมกับสืบค้นข้อมูลอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นประวัติความเป็นมาของ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือตัวอย่างสารสนเทศท่ีใช้ในชวี ติ ประจาวนั ผ่านทางอินเทอรเ์ นต็ ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 2. ครสู ุม่ นักเรียน 2-3 คน ออกมาอธบิ ายเกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนินชวี ิต โดยให้เพ่อื นรว่ มช้ันสามารถซกั ถาม เพื่อขยายความเขา้ ใจของนักเรียนให้เข้าใจมากยง่ิ ขน้ึ 3. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ “เทคโนโลยสี ารสนเทศ คือ การนาเอาเทคโนโลยีเขา้ มาจดั การกับข้อมูล และข้อมูลในท่ีน้ี คอื ข้อความ ภาพน่ิง ภาพเคลื่อนไหว เสยี ง วิดีโอ เป็นต้น” ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 4. ครอู ธิบายกับนักเรียนว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทสาคัญต่อการดาเนินชีวิตเป็นอย่างมาก และช่วยให้เกิดผลดี ต่อผู้ใชง้ านได้ทุกระดบั ไม่วา่ จะเป็นด้านการเรียน การทางาน หรอื การใช้งานในชวี ิตประจาวนั ” 5. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาใบงานที่ 1.3.1 เร่ือง ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยให้นักเรียนอ่านสถานการณ์ท่ี กาหนดให้ พรอ้ มระบุวา่ พบเทคโนโลยีสารสนเทศใดบา้ งในสถานการณ์ จากน้ันให้นักเรียนวิเคราะห์ว่าเทคโนโลยีสารนเทศที่ พบมีประโยชนต์ ่อการดาเนินชีวิตของตนเองอย่างไร ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 6. ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และตรวจสอบการทาใบงานท่ี 1.3.1 ข้นั สรปุ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศท่มี ีตอ่ การดาเนนิ ชีวติ ประจาวัน 57

7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ดั เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ รายการวดั - ตรวจใบงานท่ี 1.3.1 - ใบงานที่ 1.3.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 7.1 การประเมินระหวา่ งการจัด - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2 กจิ กรรม การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 1) ประโยชนข์ องเทคโนโลยี - สังเกตความมวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ - แบบประเมนิ คุณลักษณะ - ระดับคณุ ภาพ 2 สารสนเทศ และมุ่งม่ันในการทางาน อนั พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทางาน รายบุคคล 3) คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ 8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง วิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดจิ ทิ ัล และเทคโนโลยสี ารสนเทศกับการดาเนนิ ชีวิต 2) ใบงานท่ี 1.3.1 เรอ่ื ง ประโยชนข์ องเทคโนโลยสี ารสนเทศ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ - อินเทอร์เน็ต 58

ใบงานท่ี 1.3.1 เรือ่ ง ประโยชนข์ องเทคโนโลยสี ารสนเทศ คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนอ่านสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ พร้อมระบุว่าพบเทคโนโลยีสารสนเทศใดจากสถานการณ์ จากน้ันให้ นักเรยี นวิเคราะห์วา่ เทคโนโลยีสารสนเทศท่พี บมปี ระโยชน์ต่อการดาเนนิ ชีวิตอยา่ งไร สถานการณ์ พอใจเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการท่ีห้องคอมพิวเตอร์ โดยมีหน้าที่ดูแลรักษา ซ่อมแซม ให้คาปรึกษา และคาแนะนาเก่ียวกับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ แต่วันน้ีเคร่ืองปรับอากาศท่ีห้องคอมพิวเตอร์เสีย จึงทาให้พอใจร้อนมาก และต้องใช้พัดลมในการให้ความเย็นแทนไปก่อน จากนั้นคุณแม่ของพอใจ โทรศัพท์เข้ามาหาพอใจและบอกกับพอใจว่า“แม่ได้รับโทรทัศน์ที่ส่งมาแล้ว คุณยายดีใจมาก ต่อไปน้ีไม่ต้องฟังข่าวสารจากวิทยุ หรือเสียงตามสายแล้ว เพราะโทรทัศน์ท่ีส่งมามีภาพ ข้อความ และเสยี งท่ชี ดั เจนเลยทีเดียว” เทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีพบ เทคโนโลยสี ารสนเทศที่พบ มีประโยชนต์ อ่ การดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งไร ..................................................... ..................................................... 1. ..................................................................... ..................................................... 2. ..................................................................... ..................................................... 3. ..................................................................... ..................................................... 4. ..................................................................... ..................................................... 5. ..................................................................... ..................................................... 6. ..................................................................... ..................................................... 7. ..................................................................... 8. ..................................................................... 9. ..................................................................... 10...................................................................... 59

ใบงานที่ 1.3.1 เฉลย เร่อื ง ประโยชนข์ องเทคโนโลยีสารสนเทศ คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนอ่านสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ พร้อมระบุว่าพบเทคโนโลยีสารสนเทศใดจากสถานการณ์ จากน้ันให้ นักเรียนวิเคราะหว์ ่าเทคโนโลยีสารสนเทศทพ่ี บมปี ระโยชนต์ อ่ การดาเนนิ ชวี ติ อยา่ งไร สถานการณ์ พอใจเป็นเจ้าหน้าท่ีปฏิบัติการท่ีห้องคอมพิวเตอร์ โดยมีหน้าท่ีดูแลรักษา ซ่อมแซม ให้คาปรึกษา และคาแนะนาเก่ียวกับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ แต่วันนี้เครื่องปรับอากาศท่ีห้องคอมพิวเตอร์เสีย จงึ ทาให้พอใจรอ้ นมาก และตอ้ งใช้พัดลมในการให้ความเย็นแทนไปก่อน จากนั้นคุณแม่ของพอใจ โทรศัพท์เข้ามาหาพอใจและบอกกับพอใจว่า“แม่ได้รับโทรทัศน์ท่ีส่งมาแล้ว คุณยายดีใจมาก ต่อไปน้ีไม่ต้องฟังข่าวสารจากวิทยุ หรือเสียงตามสายแล้ว เพราะโทรทัศน์ท่ีส่งมามีภาพ ข้อความ และเสียงที่ชดั เจนเลยทเี ดียว” เทคโนโลยีสารสนเทศทพ่ี บ เทคโนโลยสี ารสนเทศทีพ่ บ มปี ระโยชน์ต่อการดาเนินชวี ิตอยา่ งไร ...ค..อ..ม..พ...ิว.เ.ต..อ..ร..์ ................................. ..................................................... 1. .ช..ว่..ย..ล..ด..เ.ว..ล..า.ใ.น...ก..า.ร..ท..า..ง.า..น.................................... ..................................................... 2. .ล..ด..ต..น้..ท...นุ ..ใ.น..ก..า..ร.ด..า..เ.น..ิน..ง..า..น.................................. ..................................................... 3. .ช..่ว..ย..ใ.ห..ก้..า..ร..ส..ื่อ..ส.า..ร..เ.ป..น็..ไ.ป...อ..ย..า่ .ง..ร.ว..ด..เ.ร..ว็ .................... ..................................................... 4. .ช..ว่..ย..ใ.ห..ท้...า.ง..า.น..ร..ว่..ม..ก..ัน..เ.ป..น็..ไ..ป..อ..ย..่า..ง.ร..า.บ...ร.ื่น................. ..................................................... 5. .ช..ว่..ย..ใ.น..ก..า..ร..ต..ดั ..ส..นิ ..ใ.จ............................................ ..................................................... 6. .เ.ส..ร..ิม..ส..ร..า้ .ง..ค..ุณ...ภ..า.พ...ช..ีว.ติ..ท...ด่ี ..ีข..นึ้ ............................... ..................................................... 7. .ส..ร..้า.ง..ค..ว..า.ม..ไ..ด..้เ.ป..ร..ีย..บ..ใ.น..ก..า..ร.แ..ข..่ง..ข..นั ......................... 8. .ส..า..ม..า.ร..ถ..ร..ับ..-.ส..ง่..ไ.ฟ..ล..์ข..้อ..ม..ลู..ไ.ด..้อ..ย..า่..ง..ร.ว..ด..เ.ร..ว็ ................ 9. .ส..า..ม..า.ร..ถ..ส..ืบ..ค..น้..ข..้อ..ม..ลู..ไ..ด..ต้ ..ล..อ..ด..เ.ว..ล..า........................ 10..ท..า..ใ.ห..ท้...ัน..ส..ม..ยั ...แ..ล..ะ..ร.ู้เ.ท...่า.ท...นั ..เ.ท..ค..โ.น..โ..ล..ย..ี .................. 60

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ................................. ) ( ................................ ตาแหนง่ ...... . 10. บันทึกผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น  ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่มี ีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข 61

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 การเพ่ิมมูลคา่ ใหก้ บั สนิ คา้ และบรกิ าร เวลา 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปญั หาหรอื เพิ่มมูลคา่ ให้กบั บริการหรือผลติ ภัณฑท์ ี่ใช้ในชวี ติ จรงิ อย่างสรา้ งสรรค์ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกเทคโนโลยีทช่ี ่วยเพม่ิ มลู ค่าให้กับสินคา้ และบรกิ ารได้ (K) 2. ออกแบบสนิ ค้าหรอื บริการเพ่อื ยกระดบั และเพิ่มมลู ค่าใหก้ ับสินคา้ ได้ (P) 3. เหน็ ประโยชนข์ องการเพิม่ มลู คา่ ใหก้ บั สินคา้ และบรกิ าร (A) 4. สนใจใฝร่ ้ใู นการศึกษา (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่ - การนาความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล และ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ มาใชแ้ ก้ปัญหากับชวี ิตจรงิ ได้ - การเพิม่ มลู ค่าใหบ้ รกิ ารหรอื ผลติ ภัณฑ์ 4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ปัจจุบนั วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศนับเป็นเทคโนโลยีท่ีเข้ามามีบทบาทในการดาเนินชีวิต ของมนุษย์ท่ัวโลก เพราะช่วยให้การดาเนินชีวิตของมนุษย์มีความสะดวกสบายข้ึนและยังช่วยให้การทางานต่าง ๆ ที่นา เทคโนโลยีเข้ามาใช้สาเร็จลุล่วงได้ในเวลาอันรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าส่ิงเหล่าน้ีสามารถทาให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจาวันเป็น อย่างมาก ดังน้ัน มนุษย์จึงสามารถนาเทคโนโลยีทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีทางด้านฮาร์ดแวร์ เทคโนโลยีทางด้านซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีดา้ นการจดั การขอ้ มูล ไปช่วยเพิ่มมูลค่าใหก้ บั สนิ คา้ และบรกิ ารได้ 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 7. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 8. ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้ 9. ทักษะการสอ่ื สาร 10. ทักษะการให้เหตผุ ล 11. ทักษะการทางานรว่ มกนั 62

6. กิจกรรมการเรียนรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1 ขัน้ นา ขัน้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคาถามประจาหัวข้อว่า “การให้บริการรถโดยสารสาธารณะควรนาเทคโนโลยีด้านใดมาช่วยในการเพ่ิมมูลค่าของ การบริการ” (แนวตอบ : ควรนาเทคโนโลยีทางดา้ นฮารด์ แวร์เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าของการบริการ เน่ืองจากเป็นการสร้างอุปกรณ์ต่าง ๆ เพอ่ื นามาชว่ ยกระบวนการผลติ เพื่อทาให้สามารถสร้างผลิตภัณฑต์ า่ ง ๆ ได้มากขึ้น) ข้นั สอน ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนศึกษาเทคโนโลยีท่ีสามารถนาไปช่วยเพ่ิมมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.5 ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 2. ครูสุม่ นักเรยี น 2-3 คน มาอธบิ ายความเข้าใจท่ีนักเรียนมีต่อเทคโนโลยีท่ีสามารถนาไปชว่ ยเพิ่มมลู คา่ ใหก้ ับสินคา้ และบริการ 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพ่ิมมูลค่าให้กับสินค้าและบริการว่า “ในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการควรคานึงถึงความ ทนทาน ความปลอดภัย ความเหมาะสม และความคดิ สรา้ งสรรค์ เพราะจะทาใหส้ นิ คา้ ที่ไดพ้ ัฒนามีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน” ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน เพื่อทากิจกรรมท่ีสอดคล้องกับเน้ือหาโดยให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาความรู้ (Com Sci activity) และใหน้ กั เรียนทาการออกแบบสินค้าและเสนอแนวคิด เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า OTOP ในจังหวดั ของตน พรอ้ มกับวเิ คราะห์วธิ กี ารในการเพม่ิ คุณภาพสินค้าหรือบริการในแต่ละด้าน เมื่อทากิจกรรมเสร็จเรียบร้อย แล้วให้นักเรยี นส่งตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 5. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน การทางานร่วมกันภายในกลุ่ม และการทากิจกรรม ทส่ี อดคล้องกบั เนอื้ หา ขนั้ สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนินชีวิต จากหนังสอื เรยี น เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นได้ทบทวนสาระสาคญั ประจาหน่วยการเรยี นรู้ 2. จากนน้ั ครใู ห้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองโดยพิจารณาขอ้ ความวา่ ถูกหรือผดิ แลว้ บันทึกลงในสมดุ หากพิจารณา ว่าขอ้ ความไม่ถูกต้อง ให้กลับไปทบทวนเนื้อหาตามหวั ข้อที่กาหนดให้ 3. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง วิทยาการคอมพิวเตอร์สื่อดิจิทัล และเทคโนโลยี สารสนเทศกบั การดาเนนิ ชีวิต 63

4. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดประจาหน่วยการเรียนรู้ และให้นักเรียนตอบคาถามลงในสมุด และทาชิ้นงาน/ภาระ งาน (รวบยอด) เร่ือง การเพ่ิมมูลค่าสินค้า OTOP โดยให้นักเรียนใช้โปรแกรมที่ตนเองถนัดออกแบบฉลากผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP เพ่อื ยกระดับและเพิ่มมูลค่าใหผ้ ลติ ภณั ฑน์ า่ สนใจมากย่งิ ขนึ้ และนามาสง่ ในช่ัวโมงถดั ไป 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วธิ ีวัด เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การประเมนิ ระหว่างการจัด - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ กจิ กรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2 การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 1) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - ผลงานท่ีนาเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2 - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล การทางานรายบุคคล อันพงึ ประสงค์ - ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทางานกลุม่ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบทดสอบหลังเรยี น การทางานกลุ่ม - ประเมนิ ตามสภาพจริง - แบบประเมินชนิ้ งาน/ 3) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอ ภาระงาน (รวบยอด) - ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน 4) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตความมวี นิ ัย ความรับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ ในการทางาน 7.2 การประเมนิ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง วิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทลั และเทคโนโลยี สารสนเทศกับการดาเนนิ ชีวิต - การประเมินช้ินงาน/ - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน ภาระงาน (รวบยอด) (รวบยอด) เรื่อง การเพิ่มมูลคา่ สนิ ค้า OTOP 8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ - หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง วิทยาการคอมพิวเตอร์ สอื่ ดิจิทลั และเทคโนโลยสี ารสนเทศกับการดาเนินชีวิต 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - อนิ เทอรเ์ นต็ 64

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ................................. ) ( ................................ ตาแหนง่ ...... . 10. บันทึกผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน  ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข 65


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook