ระบบคอมพวิ เตอร์ BaowJen MuangPhai PUNHOM STUDIO
ใบเนอื้ หา วชิ า เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ ภาคเรียนท่ี 1 เร่ือง ระบบคอมพิวเตอร์ ช้ันเรียน 2553 1. ความหมายของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ ( Computer ) มาจากคาคาวา่ Compute ซ่ึงแปลวา่ คานวณ ดงั น้นั คาวา่ Computer จึง แปลตามความหมายของคาไดว้ า่ \"เคร่ืองคานวณ\" คอมพิวเตอร์ (Computer) เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ท่ี ใชร้ ับขอ้ มลู หรือรับคาสง่ั แลว้ นาขอ้ มูลคาสั่ง ต่างๆไป เก็บบนั ทึก ไวใ้ นหน่วยความจา และประมวลผลขอ้ มูลโดยการคานวณ หรือเปลี่ยนแปลงขอ้ มูล ตามคาสั่ง จากน้นั จึงแสดงผลขอ้ มูลออกมาให้เห็นไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ขอ้ มูลคาสั่ง และผลท่ีไดจ้ ากการ ทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ สามารถเก็บบนั ทึกไวไ้ ดอ้ ย่างถาวร นามาใชห้ รือปรับปรุงแกไ้ ขพฒั นาได้ อยา่ งไม่จากดั 2. องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ แบง่ ได้ 3 ส่วนดงั น้ี 2.1 ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์ต่างๆ ท่ีประกอบข้ึนเป็ นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ มีลกั ษณะเป็ นโครงสร้างสามารถ มองเห็นดว้ ยตาและสัมผสั ได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คยี บ์ อร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นตน้ ภาพท่ี 1 ฮาร์ดแวร์ 2.2 ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดคาส่ังหรื อโปรแกรมที่ใช้ส่ังงานให้คอมพิวเตอร์ ทางานโดยชุดคาส่ังหรื อโปรแกรมน้ ันจะ เขียนข้ึนมาจาก ภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Language) ภาษาใดภาษาหน่ึง และมี โปรแกรมเมอร์ (Programmer) หรือนกั เขียนโปรแกรมเป็นผใู้ ชภ้ าษาคอมพิวเตอร์เหล่าน้นั เขียนซอฟตแ์ วร์ต่าง ๆ ข้นึ มา
ซอฟตแ์ วร์ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคอื 2.2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software ) คอื ซอฟตแ์ วร์ท่ีบริษทั ผผู้ ลิตสร้างข้ึนมาเพื่อใช้ จดั การกับระบบ ซ่ึงจะทาหน้าที่ควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ยกตวั อย่างเช่น ระบบปฏิบตั ิการ Windows XP, Windows 7, Unix และ Linux ภาพท่ี 2 ซอฟตแ์ วร์ระบบ 2.2.2 ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ ( Application Software ) คือ ซอฟต์แวร์ ที่เน้นในการช่วยการ ทางานต่าง ๆ ใหก้ บั ผใู้ ช้ ซ่ึงแตกตา่ งกนั ไปตามความตอ้ งการของผใู้ ชแ้ ตล่ ะคน ภาพที่ 3 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 2.3 บคุ ลากร ( Peopleware ) บคุ ลากร (people ware) หมายถึง บุคลากรในงานดา้ นคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงมีความรู้เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ สามารถใชง้ าน สงั่ งานเพอ่ื ใหค้ อมพวิ เตอร์ทางาน ตามที่ตอ้ งการ แบ่งออกได้ 4 ระดบั ดงั น้ี 2.3.1 ผจู้ ดั การระบบ (System Manager) คือ ผวู้ างนโยบายการใชค้ อมพิวเตอร์ให้เป็ นไปตามเป้ าหมายของ หน่วยงาน
ภาพท่ี 4 ผจู้ ดั การระบบ 2.3.2 นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผูท้ ่ีศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทาการวิเคราะห์ ความเหมาะสม ความเป็ นไปไดใ้ นการใชค้ อมพิวเตอร์กบั ระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็ นผูท้ ี่เขียน โปรแกรมใหก้ บั ระบบงาน ภาพท่ี 5 นกั วิเคราะห์ระบบ 2.3.3 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผูเ้ ขียนโปรแกรมสง่ั งานเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เพื่อใหท้ างานตามความ ตอ้ งการของผใู้ ช้ โดยเขยี นตาม แผนผงั ท่ีนกั วิเคราะห์ ระบบไดเ้ ขยี นไว้ ภาพท่ี 6 โปรแกรมเมอร์
2.3.4 ผูใ้ ช้ (User) คือ ผูใ้ ช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซ่ึงต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งาน โปรแกรม เพื่อใหโ้ ปรแกรม ที่มีอย่สู ามารถทางานไดต้ ามที่ตอ้ งการเน่ืองจากเป็นผกู้ าหนดโปรแกรมและใช้ งานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ภาพที่ 7 ผใู้ ชค้ อมพวิ เตอร์ 3. วิวัฒนาการของคอมพวิ เตอร์ สามารถแบ่งไดต้ ามหน่วยประมวลผลกลาง ไดด้ งั น้ี 3.1 คอมพวิ เตอร์ยคุ แรก ยคุ แรกๆน้นั จะอยรู่ ะหวา่ งปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็น คอมพิวเตอร์ท่ีใช้หลอดสุญญากาศซ่ึงใช้กาลงั ไฟฟ้ าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแมจ้ ะมีระบบระบายความร้อนท่ีดีมาก การส่ังงานใช้ภาษาเครื่องซ่ึงเป็ นรหัสตัวเลขท่ียุ่งยากซับซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยคุ น้ีมีขนาดใหญ่โต เช่น มาร์ค วนั (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยนู ิแวค (UNIVAC) ภาพท่ี 8 มาร์ค วนั
ภาพที่ 9 อินิแอค ภาพที่ 10 ยนู ิแวค 3.2 คอมพวิ เตอร์ยคุ ทส่ี อง อยรู่ ะหวา่ งปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ท่ี ใชท้ รานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็ นหน่วยความจา มีอุปกรณ์เก็บขอ้ มูลสารองในรูปของส่ือบันทึก แมเ่ หลก็ เช่น จานแมเ่ หลก็ ส่วนทางดา้ นซอฟตแ์ วร์ก็มีการพฒั นาดีข้ึน โดยสามารถเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา ระดบั สูงซ่ึงเป็ นภาษาท่ีเขียนเป็ นประโยคท่ีคนสามารถเขา้ ใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็ นตน้ ภาษาระดบั สูงน้ีไดม้ ีการพฒั นาและใชง้ านมาจนถึงปัจจุบนั ภาพที่ 11 ทรานซิสเตอร์ 3.3 คอมพวิ เตอร์ยคุ ทสี่ าม อยรู่ ะหวา่ งปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 ใชว้ งจรรวม (Integrated
Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตวั จะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอย่ภู ายในมากมายทาใหเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์จะ ออกแบบซับซ้อนมากข้ึน และสามารถสร้างเป็ นโปรแกรมย่อย ๆ ในการกาหนดชุดคาส่ังต่าง ๆ ทางดา้ น ซอฟตแ์ วร์กม็ ีระบบควบคุมท่ีมีความสามารถสูงท้งั ในรูประบบแบง่ เวลาการทางานใหก้ บั งานหลาย ๆ อยา่ ง ภาพที่ 12 วงจรรวม(Integrated Circuit : IC) 3.4 คอมพวิ เตอร์ยุคทส่ี ี่ ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบนั เป็นยคุ ของคอมพิวเตอร์ท่ีใชว้ งจร รวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ท่ีบรรจุทรานซิสเตอร์นบั หม่ืนนับแสนตวั ทาให้ขนาดเคร่ืองคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถต้งั บนโต๊ะในสานักงานหรือพกพา เหมือนกระเป๋ าหิ้วไปในท่ีต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกนั ระบบซอฟตแ์ วร์ก็ไดพ้ ฒั นาขีดความสามารถสูงข้ึนมาก มี โปรแกรมสาเร็จใหเ้ ลือกใชก้ นั มากทาใหเ้ กิดความสะดวกในการใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวาง ภาพท่ี 13 ไมโครโพเซสเซอร์ 3.5 คอมพวิ เตอร์ยคุ ท่หี ้า เป็นคอมพวิ เตอร์ท่ีมนุษยพ์ ยายามนามาเพอ่ื ช่วยในการตดั สินใจ และแกป้ ัญหาใหด้ ียง่ิ ข้ึน โดยจะมีการเกบ็ ความรอบรู้ต่าง ๆ เขา้ ไวใ้ นเครื่อง สามารถเรียกคน้ และดึงความรู้ท่ี สะสมไวม้ าใชง้ านให้เป็ นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคน้ีเป็ นผลจากวิชาการดา้ นปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ทว่ั โลกไม่ว่าจะเป็ นสหรัฐอเมริกา ญี่ป่ ุน และประเทศในทวีปยุโรปกาลงั สนใจคน้ ควา้ และพฒั นาทางดา้ นน้ีกนั อยา่ งจริงจงั
ภาพท่ี 14 หุ่นยนต์ ASIMO ของญ่ีป่ ุน ท่ีสร้างข้นึ ดว้ ยเทคโนโลยี Artificial Intelligence: AI 4. ประเภทของคอมพวิ เตอร์ สามารถแบง่ ไดต้ ามความสามารถในการประมวลผลไดด้ งั น้ี 4.1 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ มีความสามารถสูงท่ีสุดในกลุ่มมีขนาดใหญ่ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) สามารถประมวลผลขอ้ มูลในปริมาณมากรวมถึงการประมวลผลงาน ท่ีมีรูปแบบอันซับซ้อน มีความรวดเร็วในการคานวณได้มากกว่าหน่ึงล้านล้านต่อวินาที ( 1 Trillion calculations per second ) ภายในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สามารถรองรับโปรเซสเซอร์ไดม้ ากกว่า 100 ตวั หน่วย วดั ความเร็วของคอมพิวเตอร์น้ีคือ หน่วยกิกกะฟลอบ (Gigaflop) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็ นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกบั งานคานวณท่ีตอ้ งมีการคานวณตวั เลขจานวน หลายลา้ นตวั ภายในเวลาอนั รวดเร็ว เช่น งานพยากรณ์อากาศ ที่ตอ้ งนาขอ้ มูลต่าง ๆ เก่ียวกบั อากาศท้งั ระดบั ภาคพ้ืนดิน และระดบั ความช้ืนของบรรยากาศเพ่ือดูการเคลื่อนไหวและการเปล่ียนแปลงของอากาศ งานน้ี จาเป็ นตอ้ งใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงมาก นอกจากน้ีมีงานอีกเป็ นจานวนมากที่ตอ้ งใช้ซูเปอร์ คอมพิวเตอร์ (Super Computer) ซ่ึงมีความเร็วสูง เช่น งานการวิจยั นิวเคลียร์ งานควบคุมทางอวกาศ งาน ประมวลผลภาพทางการแพทย์ ดา้ นการทหาร วิศวกรรมเคมีภณั ฑป์ ิ โตรเลียม เช่น การสร้างโมเดลที่สามารถ ประมวลผลดา้ นความซบั ซอ้ นสูงในการจาลองการประมวลผล ตา่ งๆ รวมทว่ั ใชว้ จิ ยั พนั ธุกรรมในมนุษยห์ รือ โครงสร้างดีเอ็นเอ ซ่ึงมีมากกว่า 80,000 ถึง 100,000 ยีนในร่างกายของมนุษย์ งานด้านวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะทางดา้ นเคมี เภสัชวิทยา และงานดา้ นวิศวกรรมการ ออกแบบ และเน่ืองจากราคาของซูเปอร์ คอมพิวเตอร์ (Super Computer) สูงมาก จึงมักมีการใช้งานเฉพาะด้านเท่าน้ัน หน่วยงานที่มีกาลัง ความสามารถในการนาไปใช้เพ่ืองานวิจยั ก็คือหน่วยงานขององคก์ ารรัฐบาล ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มากและ มหาวิทยาลยั
ภาพท่ี 15 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 4.2 เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (mainframe computer) เคร่ื องเมนเฟรมเป็ นเครื่ องท่ีได้รับความนิยมใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วๆไป จัดเป็ นเคร่ื องท่ีมี ประสิทธิภาพรองลงมาจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ซ่ึงในช่วงปลาย ค.ศ 1950 บริษทั IBM จดั เป็ นบริษทั ยกั ษ์ ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ โดยเกิดจากการมีส่วนแบ่งตลาดในการขายเครื่องระดบั เมนเฟรม ถึง 2 ใน 3 ของผูใ้ ช้เครื่องเมนเฟรมท้งั หมด เครื่องเมนเฟรมจะเป็ นเคร่ืองท่ีมีขนาดใหญ่ ตอ้ งอยู่ในห้องท่ี ไดร้ ับการอณุ หภมู ิ และปราศจากฝ่นุ ละอองเช่นเดียวกบั ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เคร่ืองเมนเฟรมนิยมมาใชใ้ นงานที่มีการรับและแสดงผลขอ้ มูลจานวนมาก ๆ เคร่ืองรุ่นใหม่ ๆ จะไดก้ าร พฒั นาให้มีหน่วยประมวลผลหลายหน่วยทางานพร้อม ๆ กนั เช่นเดียวกบั ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ แต่มีจานวณ ประมวลผลนอ้ ยกวา่ หน่วยเมนเฟรมจดั อยใู่ นความเร็วของหน่วย เมกะฟรอป (megaflop) หรือการคานวณ หน่ึงลา้ นคร้ังในหน่ึงวนิ าที ภาพที่ 16 เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์
4.3 มนิ คิ อมพวิ เตอร์ (mini computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะนอ้ ยกวา่ เคร่ืองเมนเฟรม คอื ทางานไดช้ า้ กวา่ และควบคมุ อุปกรณ์รอบขา้ ง ไดน้ อ้ ยกวา่ อยา่ งไรก็ตามจุดเด่นสาคญั ของเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ก็คือราคาย่อมเยาวก์ วา่ เมนเฟรม การใช้ งานก็ไม่ตอ้ งใช้ บุคลากรมากนัก นอกจากน้นั ยงั มีผูท้ ่ีรู้วิธีใช้มากกว่าดว้ ย เพราะเครื่องประเภทน้ี มีใช้ตาม สถานศึกษา ระดบั อุดมศึกษาหลายแห่ง มินิคอมพิวเตอร์ เหมาะกบั งานหลากหลายประเภท คือใชไ้ ดท้ ้งั ใน งานวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ อตุ สาหกรรม เคร่ืองที่มีใชต้ ามหน่วยงานราชการระดบั กรมส่วนใหญ่ ภาพท่ี 17 มินิคอมพิวเตอร์ 4.4 ไมโครคอมพวิ เตอร์ (microcomputer) หรือ พซี ี (personal computer หรือ PC ) ไมโครคอมพิวเตอร์เป็ นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีมีขนาดเลก็ บางคนเห็นวา่ เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่ใชง้ าน ส่วนบุคคล หรือเรียกว่า พีซี (PersonalComputer : PC) อาจจะกล่าวไดว้ ่า ไมโครคอมพิวเตอร์ คือเคร่ือง คอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลกลางเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ทางานในลกั ษณะส่วนบุคคลได้ สามารถ แบง่ แยกไมโครคอมพิวเตอร์ตามขนาดของเคร่ืองไดด้ งั น้ี 4.4.1 คอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะ (desktop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเลก็ ถกู ออกแบบมา ใหต้ ้งั บนโต๊ะ มีการแยกชิ้นส่วนประกอบ เช่น จอแสดงผล ตวั เคร่ือง คยี บ์ อร์ด เมาส์ เป็นตน้
ภาพท่ี 18 คอมพวิ เตอร์แบบต้งั โตะ๊ (desktop computer) 4.4.2 แลป็ ท็อปคอมพวิ เตอร์ (laptop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเลก็ ท่ีวางใชง้ านบนตกั ได้ น้าหนกั ของเคร่ืองประมาณ 3-8 กิโลกรัมการ ทางานของแล็ปท็อปจะใชพ้ ลงั งานจากแบตเตอร่ี ในขณะเดียวกนั ก็สามารถใช้พลงั งานไดโ้ ดยตรงโดยการ เสียบปลก๊ั ไฟ ประสิทธิภาพของแล็ปท็อปโดยทวั่ ไปจะพอกบั คอมพิวเตอร์ต้งั โต๊ะแบบปกติ ในขณะท่ีราคา จะสูงกว่า โดยส่วนที่จะแตกต่างกบั คอมพิวเตอร์ทว่ั ไปคือ จอภาพจะเป็นลกั ษณะจอแอลซีดี(Liquid Crystal Display : LCD) และจะมีทชั แพดที่ใชส้ าหรับควบคุมการทางานของลูกศรบริเวณหนา้ จอ ภาพท่ี 19 แลป็ ทอ็ ปคอมพิวเตอร์ (laptop computer) 4.4.3 โน้ตบุ๊คคอมพวิ เตอร์ (notebook computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดและความหนานอ้ ยกวา่ แลป็ ทอ็ ป น้าหนกั ประมาณ 1.5-3 กิโลกรัม จอภาพแสดงผลเป็นแบบราบชนิดมีท้งั แบบแสดงผลสีเดียว หรือแบบหลายสี โนต้ บุค๊ ที่มีขายทว่ั ไปมี ประสิทธิภาพและความสามารถเหมือน กบั แลป็ ทอ็ ป ภาพที่ 20 โนต้ บคุ๊ คอมพิวเตอร์ (notebook computer)
4.4.4 ปาล์มทอ็ ปคอมพวิ เตอร์ (palmtop computer) เป็นไมโครคอมพวิ เตอร์สาหรับทางานเฉพาะอยา่ ง เช่นเป็นพจนานุกรม เป็นสมดุ จนบนั ทึกประจาวนั บนั ทึกการนดั หมายและการเกบ็ ขอ้ มูลเฉพาะบางอยา่ งท่ีสามารถพกพาติดตวั ไปมาไดส้ ะดวก การทางานของ คอมพวิ เตอร์ ภาพที่ 21 ปาลม์ ทอ็ ปคอมพวิ เตอร์ (palmtop computer) 4.4.5 พีดีเอ หรือ เครื่องช่วยงานส่วนบุคคลแบบดจิ ิทัล (PDA ยอ่ มาจาก Personal digital assistants) เป็น อุปกรณ์ท่ีสามารถพกพานาติดตัวได้ เริ่ มพัฒนามาจากเครื่ องออกาไนเซอร์มาก่อน ซ่ึงพีดีเอท่ีใช้ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โมเบิลมักถูกเรียกว่าพ็อคเกตพีซีในการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัว มีการบันทึก ประจาวนั การนดั หมายลูกคา้ ปฏิทิน เครื่องคิดเลข เคร่ืองบางรุ่นมีความสามารถเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคลสามารถติดต่อเน็ตเวิร์ค มี วายฟาย (Wifi) และ จีพีอาร์เอส (GPRS) เช่ือมเคร่ืองพีดีเอ เขา้ อินเทอร์เน็ต ได้ ภาพที่ 22 พีดีเอ ( Personal digital assistants )
4.4.6 เน็ตบ๊คุ ( Net book ) เป็นคอมพวิ เตอร์แบบพบั คร่ึงได้ แต่ มีขนาดเลก็ บางรุ่นไม่มีฮาร์ดดิสกแ์ ต่ใชห้ น่วยความจาแฟสเมมโม รี่( Flash Memory ) ใช้โปรเซสเซอร์ท่ีชื่อว่าอะตอมราคาต่ากว่า โน้ตบุ๊คผลิตมาเพื่อคนที่ต้องการใช้งาน โนต้ บุ๊ค แตไ่ มต่ อ้ งการใชง้ านฟังกช์ น่ั อะไรมากมาย หลกั ๆคือ ไวเ้ ช่ือมตอ่ กบั อินเตอร์เน็ต ภาพท่ี 23 เน็ตบุ๊ค ( Net book ) 5. การทางานของคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกเป็น 4 ส่วน ดงั น้ี ภาพที่ 24 ข้นั ตอนการทางานของคอมพิวเตอร์
5.1 หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ทาหนา้ ที่ในการรับขอ้ มลู หรือคาส่งั จากภายนอกเขา้ ไปเก็บไวใ้ น หน่วยความจา เพอ่ื เตรียมประมวลผลขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการ ไดแ้ ก่ เมาส์ คียบ์ อร์ด ไมโครโฟน สแกนเนอร์ เป็น ตน้ ภาพท่ี 25 หน่วยรับขอ้ มลู 5.2 หน่วยประมวลผลกลาง หรือไมโครโพรเซสเซอร์ของไมโครคอมพิวเตอร์ มีหนา้ ที่นาคาส่ังและขอ้ มูลที่ เก็บไวใ้ น หน่วยความจามาแปลความหมาย และกระทาตามคาส่ังพ้ืนฐานของไมโครโพรเซสเซอร์ ซ่ึงแทน ดว้ ยรหสั เลขฐานสอง ภาพท่ี 26 หน่วยประมวลผล หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยส่วนประสาคัญ 3 ส่วน คือ ภาพที่ 27 ส่วนประกอบสาคญั ของหน่วยประมวลผลกลาง
5.2.1หน่วยคานวณและตรรกะ(Arithmetic&LogicalUnitALU) หน่วยคานวณตรรกะ ทาหนา้ ท่ีเหมือนกบั เครื่องคานวณอยใู่ นเคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยทางานเกี่ยวขอ้ ง กบั การคานวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร นอกจากน้ีหน่วยคานวณและตรรกะของคอมพวิ เตอร์ ยงั มีความสามารถอีกอยา่ งหน่ึงท่ีเครื่องคานวณธรรมดาไม่มี คือความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเง่ือนไข และกฎเกณฑท์ างคณิตศาสตร์ เพ่ือให้ไดค้ าตอบออกมาว่า เงื่อนไข น้นั เป็น จริง หรือ เทจ็ 5.2.2 หน่วยควบคมุ (Control Unit) หน่วยควบคมุ ทาหนา้ ท่ีควบคมุ ลาดบั ข้นั ตอนการการประมวลผลและการทางานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายใน หน่วยประมวลผลกลาง และรวมไปถึงการประสานงานในการทางานร่วมกนั ระหวา่ งหน่วย ประมวลผลกลาง กบั อปุ กรณ์นาเขา้ ขอ้ มลู อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจาสารอง 5.2.3 หน่วยความจาของ CPU คอมพิวเตอร์จะสามารถทางานไดเ้ ม่ือมีขอ้ มูล และชุดคาสั่งท่ีใชใ้ นการประมวลผลอย่ใู นหน่วยความ จาหลกั เรียบร้อยแลว้ เท่าน้นั และหลงั จากทาการประมวลผลขอ้ มูลตามชุดคาส่ังเรียบร้อยแลว้ ผลลพั ธ์ที่ได้ จะถกู นาไปเก็บไวท้ ี่หน่วยความจาหลกั และก่อนจะถูกนาออกไป แสดงท่ีอุปกรณ์แสดงผล 5.3 หน่วยความจา (Memory) ทาหนา้ ที่ในการเกบ็ ขอ้ มูลหรือคาสงั่ ต่างๆ ที่รับจากภายนอกเขา้ มาเกบ็ ไว้ เพ่อื ประมวลผลและยงั เกบ็ ผล ที่ไดจ้ ากการประมวลผลไวเ้ พือ่ แสดงผลอีก ประเภทของหน่วยความจาของคอมพวิ เตอร์ แบ่งเป็ น 2 ประเภท ได้แก่ 5.3.1 หน่วยความจาหลกั (primary storage) อยภู่ ายในเครื่องโดยแบ่งเป็น 2 ส่วนสาคญั ดงั น้ี - รอม (ROM = Read Only Memory) เป็นหน่วยความจาท่ีจะถูกอา่ นไดอ้ ยา่ งเดียว โปรแกรมจะอยใู่ นเคร่ือง โดยถาวร ภาพที่ 28 ROM - แรม (RAM = Random access Memory) เป็นหน่วยความจาที่ใชจ้ ดจาขอ้ มลู และคาสงั่ ขณะทางาน เมื่อปิ ด เครื่องขอ้ มูลและโปรแกรมที่อยใู่ นส่วนความจาน้ีจะลบหายไป
ภาพที่ 29 RAM 5.3.2 หน่วยความจารอง (Secondary storage) หมายถึงส่ือตา่ งๆท่ีใช้ เป็นที่เกบ็ ขอ้ มลู เช่น จานบนั ทึก แถบ บนั ทึก ฯ สื่อเหล่าน้ี จะเก็บขอ้ มูลไวไ้ ดต้ ลอดไป ไมว่ า่ จะเปิ ดหรือปิ ดไฟท่ีตวั เคร่ือง ภาพที่ 30 หน่วยความจารอง (Secondary storage) 5.4 หน่วยแสดงผล ( Output Unit ) ทาหนา้ ที่แสดงผลจากการประมวลผล แสดงออกมาทางหน่วยแสดงผล หน่วยแสดงผล แบ่งออกได้ 2 ชนดิ คือ 5.4.1 หน่วยแสดงผลช่ัวคราว (Soft Copy) หมายถึงการแสดงผลออกมาให้ผูใ้ ชไ้ ดร้ ับทราบในขณะน้นั แต่เมื่อเลิกการทางานหรือเลิกใชแ้ ลว้ ผล น้นั ก็จะหายไป ไม่เหลือเป็นวตั ถุให้เก็บได้ แต่ถา้ ตอ้ งการเก็บผลลพั ธ์น้นั ก็สามารถส่งถ่ายไปเก็บในรูปของ ขอ้ มูลในหน่วยเก็บขอ้ มูลสารอง เพื่อให้สามารถใช้งานในภายหลงั หน่วยแสดงผลท่ีจดั อยู่ในกลุ่มน้ี คือ จอภาพ (Monitor)อปุ กรณ์ฉายภาพ (Projector)อุปกรณ์เสียง (Audio Output) 5.4.2 หน่วยแสดงผลถาวร (Hard Copy) หมายถึงการแสดงผลที่สามารถจบั ตอ้ ง และเคลื่อนยา้ ยไดต้ ามตอ้ งการ มกั จะออกมาในรูปของกระดาษ ซ่ึงผใู้ ชส้ ามารถนาไปใชใ้ นที่ต่าง ๆ หรือใหผ้ รู้ ่วมงานดใู นท่ีใด ๆ ก็ได้ อุปกรณ์ที่ใช้ เช่นเคร่ืองพิมพ์ (Printer) เครื่องพลอตเตอร์ (Ploter) (ใชว้ าดหรือเขียนภาพสาหรับงานท่ีตอ้ งการความละเอียดสูง ๆ )
ภาพท่ี 31 หน่วยแสดงผล ( Output Unit )
ใบงาน เร่ือง ระบบคอมพวิ เตอร์ วชิ า เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ ชื่อ ....................................................................เลขท่ี ......................... ช้ัน / ห้อง .............................. คาส่ัง ทาเครื่องหมาย ถูก หรือ ผดิ หนา้ ขอ้ คาถามที่ถกู ตอ้ งท่ีสุด ...............1) คาว่า Computer แปลตามความหมายของคาได้ว่า \"เครื่องคานวณ\" คอมพิวเตอร์ (Computer) เป็นเครื่องอิเลก็ ทรอนิกส์ ท่ีสามารถรับขอ้ มลู หรือรับคาสงั่ ประมวลผลและแสดงผลได้ ………..2) การทางานของคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลข้อมูล หน่วยความจา และหน่วยแสดงผลขอ้ มูล ……….3) แรม ,รอม ,ฮาร์ดดิสก์ เป็นหน่วยความจาหลกั ………..4) แรมจะสามารถทางานไดก้ ต็ อ่ เม่ือมีไฟเล้ียงเทาน้นั ………..5) ยคุ แรก เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ใชห้ ลอดสุญญากาศ เป็นหน่วยประมวลผล ………..6) คอมพิวเตอร์ยุคท่ีสอง เป็ นคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็ น หน่วยความจา ………..7) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) สามารถประมวลผลขอ้ มูลในปริมาณมากรวมถึงการ ประมวลผลงานที่มีรูปแบบอนั ซับซ้อน มีความรวดเร็วในการประมวลผลไดม้ ากกว่าหน่ึงลา้ นต่อวินาที ( 1 Trillion calculations per second ) ………..8) โนต้ บุ๊คคอมพิวเตอร์ (notebook computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ท่ีใชห้ น่วยประมวลผลกลาง ชนิดเดียวกนั กบั แลป็ ทอ็ ป ………..9) เคร่ืองเมนเฟรมเป็ นเคร่ืองที่ได้รับความนิยมใช้ในองคก์ รขนาดใหญ่ทว่ั ๆไป จดั เป็ นเครื่องที่มี ประสิทธิภาพรองลงมาจากซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ ……….10) เมาส์ , คียบ์ อร์ด , สแกนเนอร์ เป็นอุปกรณ์ (Input Unit) ……….11) หน่วยแสดงผลชวั่ คราว (Soft copy) ทาหนา้ ที่ในการแสดงผลลทั ธ์ที่ไดห้ ลงั จากการคานวณและ ประมวลผล สาหรับอปุ กรณ์ท่ีทาหนา้ ที่ในการแสดงผลขอ้ มลู ที่ไดน้ ้นั มีดงั น้ี คือMonitor, Printer, Plotter ……….12) หน่วยแสดงผลถาวร(Hard Copy) สามารถจบั ตอ้ งได้ และเคลื่อนยา้ ยไดต้ ามตอ้ งการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: