Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การอ่านบทร้อยกรอง

การอ่านบทร้อยกรอง

Published by Nihusnee Nirong, 2022-01-06 14:51:34

Description: การอ่านบทร้อยกรอง

Search

Read the Text Version

วชิ าภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔ สอนโดย นางสาวพรรณทริ าภรณ์ อนิ ทรพ์ รหม (ครบู วิ )

กิ จกรรมวันน้ี ช่วงน้ีช้ีแนน ทาความเข้าใจเนื้อหาเรอื่ ง การอา่ นออกเสยี งร้อยกรอง ทบทวน การอ่านออกเสียงรอ้ ยกรอง ก า ร บ้ า น

การอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว บทรอ้ ยแกว้ คอื ถอ้ ยคาทเ่ี รยี บเรยี งขน้ึ อยา่ งไพเราะ เปน็ ความเรยี งท่ีไมบ่ งั คับคาสัมผสั แต่มคี วามสละสลวย ไพเราะดว้ ยเสยี งและความหมาย คาประพนั ธ์ทเี่ ปน็ บทร้อย แกว้ เชน่ เรียงความ สารคดี บทความ

การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว นอกจากหลักในการอ่าน ออกเสยี งแลว้ ควรคานึงถงึ โวหารท่ีใช้ในงานเขียน ซ่ึงย่อมแตกต่าง กันไปตามประเภทของเรื่องนั้น ๆ การรู้จักโวหารทาให้อ่านได้ ถูกต้องตามลักษณะของเร่ือง เพิ่มอรรถรสในการอ่าน ผู้ฟังเกิด อารมณ์คลอ้ ยตามและเขา้ ใจข้อความหรือเร่ืองน้ันได้ชดั เจนย่ิงข้นึ

การอา่ นบทรอ้ ยกรอง



การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะ บทรอ้ ยกรอง คอื ถอ้ ยคาทเ่ี รยี บเรยี งให้เปน็ ระเบียบตาม ข้อกาหนดของคาประพันธแ์ ต่ละประเภท คาในบทรอ้ ยกรองมี ความหมายเท่ากบั พยางค์ เชน่ คาว่า พนู พิพัฒน์ สวสั ดี นับเปน็ ๓ คา

การเตรียมอ่านออก เสยี งบทร้อยกรอง ก่อนการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองควรศึกษาบทรอ้ ยกรองในประเด็น ตอ่ ไปนี้ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความเข้าใจและซาบซึ้งในบทรอ้ ยกรองนั้น

๑ ศกึ ษาคาศัพท์ท้งั เสียงอา่ นและความหมายของคา ๒ ศึกษารูปแบบของบทรอ้ ยกรองและจังหวะในการอา่ น ๓ ศกึ ษาเนอ้ื ความของบทร้อยกรอง

หลกั การอ่านออกเสียง บทร้อยกรอง

๑ อ่านออกเสียงคาใหช้ ดั เจนและถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ๒ อา่ นเว้นจังหวะใหถ้ กู ตอ้ งตามฉันทลกั ษณ์และ ท่วงทานองของบทร้อยกรองแต่ละประเภท ถ้าอ่านทานอง เสนาะต้องรจู้ ักทอดเสยี ง เอ้อื นเสียง หรอื หลบเสียง

๓ นา้ เสียงชัดเจน ไพเราะนา่ ฟัง เปลง่ เสยี ง ๔ ไมเ่ บาหรือดงั เกินไป เน้นเสียงแสดงอารมณ์ให้เปน็ ไปตามเนอื้ ความของ บทร้อยกรอง เชน่ รัก ร่าเริง โกรธ เศรา้

จังหวะการอ่านออก เสียงบทร้อยกรอง จังหวะการออกเสียงบทรอ้ ยกรองแตล่ ะประเภทแตกตา่ งกันไปตาม จานวนคาในแต่ละวรรค และจังหวะการลงสัมผัส ดงั นี้

กาพย์ยานี ๑๑ วรรหนา้ ใชจ้ งั หวะการอ่าน ๒/๓ วรรหลงั ใชจ้ งั หวะการอา่ น ๓/๓ / / //

ตวั อยา่ ง ศรศี ร/ี กวแี ก้ว// ประกาศแล้ว/ก้องโลกา// ยอดกว/ี ผปู้ รีชา// สนุ ทรภู่/ชเู กยี รตไิ ทย// อภวิ าท/ปราชญเ์ กรียงไกร// ภูมิใจ/ไทยทั้งชาติ// ด้วยบุปผา/มาลาพรรณ บชู ติ /จิตแจม่ ใส// สดุดีรัตนกวี ของฐะปะนยี ์ นาครทรรพ

กลอนสภุ าพ (กลอน ๘) ใชจ้ งั หวะการอ่าน ๓/๒/๓ หรอื ๓/๓/๓ ขึ้นอยกู่ บั จานวนคาในแตล่ ะวรรค // // // //

ตวั อย่าง จะพูดจา/ปราศรัย/กบั ใครนน้ั // อยา่ ตะคน้ั /ตะคอก/ให้เคืองห/ู / ไมค่ วรพูด/อ้อื อึง/ข้นึ มึงก/ู / คนจะหลู่/ลว่ งลาม/ไม่ขามใจ// แม้จะเรียน/วิชา/ทางค้าขาย// อย่าปากร้าย/พูดจา/อัชฌาสยั // จงึ ซ้ืองา่ ย/ขายดี/มีกาไร// ดว้ ยเขาไม่/เคืองจติ /ระอิดระอา// สภุ าษติ สอนหญิง ของสุนทรภู่

กลอนเสภา กลอนเสภา คอื กลอนทน่ี ยิ มแตง่ เล่าเรือ่ งค่อนขา้ งยาว ใช้ขบั เช่น เสภาขุนชา้ งขุนแผน เวลาขบั มกี รับเปน็ เคร่อื งประกอบจังหวะ ตอ่ มาใช้ ปี่พาทย์รับ การอา่ นกลอนเสภามลี ักษณะเช่นเดียวกับกลอนสุภาพ คือใช้ จังหวะการอ่าน ๓/๒/๓ หรือ ๓/๓/๓ ขนึ้ อย่กู ับจานวนคาในแต่ละวรรค

ตวั อยา่ ง แมร่ ักลูก/ลกู ก็ร/ู้ อย่วู ่ารัก// คนอื่นสกั /หมน่ื แสน/ไม่แม้นเหมือน// จะกินนอน/วอนวา่ /เมตตาเตอื น// จะจากเรือน/รา้ งแม่/ไปแต่ตัว// แม่วันทอง/ของลกู /จงกลับบา้ น// เขาจะพาล/ว้าว่นุ /แมท่ ูนหัว// จะกม้ หน้า/ลาไป/มไิ ด้กลวั // แม้อยา่ มวั /หมองนกั /จงหกั ใจ เสภาเรือ่ ง ขุนชา้ ง-ขนุ แผน ตอน กาเนิดพลายงาม ของสุนทรภู่

กลอนบทละคร กลอนบทละครแต่ละวรรคจะมีจานวนคา ๖-๙ คา มีจังหวะการอา่ น คอื / /ถ้าคาในวรรคมี ๖ คา ควรใชจ้ งั หวะการอ่าน ๒/๒/๒ ตามผงั ดังน้ี / / / /ถ้าคาในวรรคมี ๗ คา ควรใชจ้ ังหวะการอา่ น ๒/๒/๓ หรอื ๓/๒/๒ ตามผงั ดงั นี้ / /ถา้ คาในวรรคมี ๘ คา ควรใช้จงั หวะการอ่าน ๓/๒/๓ ตามผงั ดงั น้ี / /ถ้าคาในวรรคมี ๙ คา ควรใชจ้ ังหวะการอ่าน ๓/๓/๓ ตามผงั ดังนี้

ตัวอย่าง บัดนนั้ // มัจฉานุ/ผูม้ /ี อัชฌาสยั // ได้ฟงั /อัดอน้ั /ตนั ใจ// บงั คมไหว้/แลว้ ตอบ/วาที// ข้อน้ี/ขัดสน/เปน็ พ้นคดิ // พระบดิ า/จงโปรด/เกศ/ี / ดว้ ยพญา/ไมยราพ/อสรุ ี// ไดเ้ ลย้ี ง/ลูกนี้/จนใหญม่ า// พระคณุ /ดงั่ คณุ /บติ เุ รศ// ซงึ่ บัง/เกิดเกศ/เกศา// อนั ซงึ่ /จะบอก/มรคา// ดงั่ ขา้ /ไมม่ ี/กตัญญู// บดิ า/ลงมา/ทางไหน// ทางน้ัน/จะไป/ยังมอี ย/ู่ / จงเรง่ /พนิ ิจ/พศิ ดู// กจ็ ะ/รดู้ ้วย/ปรีชาชาญ บทละครเรื่อง รามเกยี รติ์ ตอน ศกึ ไมรยาราพ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช

โครงส่สี ุภาพ / / /( )วรรหนา้ ใช้จังหวะการอ่าน ๒/๓ หรือ ๓/๒ วรรคหลังใชจ้ งั หวะการอ่าน ๒/๒ // //( )

ตวั อยา่ ง ความรู้/ดยู ง่ิ ล้า// สนิ ทรพั ย์// คิดค่า/ควรเมืองนบั // ย่ิงไซร้// เพราะเหตุ/จักอยูก่ บั // กายอาต/มานา// โจรจกั เบียน/บ่ได้// เรง่ รู้/เรยี นเอา โคลงโลกนติ ิ พระนพิ นธใ์ นสมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร

การอ่านออกเสยี ง บทร้อยกรอง เป็นทานองเสนาะ การออกเสียงบทร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะให้ถกู ตอ้ ง ฟงั ไพเราะ มีหลักการ ดงั นี้

๑.ร้ลู กั ษณะบงั คับของบทรอ้ ยกรอง เช่น จานวนคา สมั ผัส เสียงวรรณยกุ ต์ เสยี งหนักเบา การแบง่ จังหวะ แล้วอา่ นตามทว่ งทานองใหไ้ พเราะชดั เจน เนน้ อารมณต์ ามเน้อื ความของบทร้อยกรอง ๒. อา่ นเน้นคาในตาแหน่งสมั ผัสนอก เชน่ เรามาผเู้ ดยี วก็เหน็ อยู่ เมอื่ ตราชยู นต์ของยักษี ครา่ คร่ามานานกวา่ แสนปี ไม่ดหี ักเองจะโทษใคร บทละครเรอ่ื ง รามเกียรต์ิ ตอน ศกึ ไมยราพ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช

๓. อา่ นเอื้อสมั ผสั ในเพอ่ื เพิม่ ความไพเราะ เชน่ - ขา้ ขอเคารพอภิวนั ท์ อา่ นวา่ อบ-พ-ิ วนั (ปกติอา่ นว่า อะ-พ-ิ วัน) - จงึ ดารัสอธิษฐานสมานจิต อ่านวา่ อดั -ทิด-ถาน (ปกติอา่ นวา่ อะ-ทิด-ถาน) - ขอ้ น้ขี ัดสนเปน็ พ้นคิด พระบดิ าจึงโปรดเกศี อา่ นวา่ บิด-ดา (ปกตอิ ่านว่า บิ-ดา) ๔. ฝึกอา่ นบ่อย ๆ เออื้ นเสียงใหไ้ พเราะ โดยฟงั จากแถบบันทกึ เสียงหรอื ฝกึ ฝนจากผ้เู ชี่ยวชาญ

ตัวอย่าง บทร้อยกรองทเี่ ปน็ บรรยายโวหาร เจ้าพลายน้อย/สร้อยเศรา้ /แลว้ เลา่ ว่า หมอ่ มพ่อพา/เวยี นวง/ให้หลงใหล// แลว้ ทบุ ถีบ/บบี จมกู /ของลกู ไว/้ / เอาขอนไม/้ ทับคอ/แทบมรณา// พอพวกพอ้ ง/ของขนุ แผน/แลน่ มาช่วย// จึงไมม้ ้วย/แมค่ ุณ/บุญหนกั หนา// ยงั ชา้ ชอก/ยอกเหนบ็ /เจ็บกายา// พดู น้าตา/ผ็อยผอ็ ย/ด้วยน้อยใจ เสภาเรื่อง ขนุ ชา้ ง-ขุนแผน ตอน กาเนดิ พลายงาม ของสนุ ทรภู่

ตวั อย่าง บทร้อยกรองท่ีเปน็ พรรณนาโวหาร พอฟา้ คลา้ /ค่าพลบ/เสยี งกบเขยี ด// ร้องกรดี เกรียด/เกรียวแซ/่ ดงั แตรสงั ข/์ / เหมือนเสียงฆ้อง/กลองโหม/ประโคมวงั // ไม่เห็นฝง่ั /ฟั่นเฟอื น/ดว้ ยเดือนแรม// ลาพรู าย/ชายตล่ิง/ล้วนห่ิงห้อย// สว่างพรอย/แพรง่ พราย/ขน้ึ ปลายแขม// อร่ามเรอื ง/เหลอื งงาม/วามวามแวม// กระจ่างแจม่ /จับนา้ /เห็นลาเรอื นิราศวดั เจ้าฟ้า ของสุนทรภู่

ตัวอย่าง บทรอ้ ยกรองท่ีเป็นอุปมาโวหาร ดูผวิ /สนิ วล/ละอองออ่ น// มะลิซ้อน/ดดู า/ไปหมดสน้ิ // สองเนตร/งามกว่า/มฤคิน// นางนี้/เปน็ ปนิ่ /โลกา// งามโอษฐ/์ ดังใบ/ไมอ้ อ่ น// งามกร//ดงั ลาย/เลขา// งามรปู /เลอสรร/ขวญั ฟา้ // งามยงิ่ /บปุ ผา/เบง่ บาน บทละครเรอื่ ง ศกุนตลา พระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว

ตวั อย่าง บทรอ้ ยกรองทเี่ ปน็ สาธกโวหาร เป็นมนษุ ย/์ สดุ ดี/ทท่ี าชอบ// จงประกอบ/กรรมดไี ว/้ ไม่สูญหาย// มเี รื่องจะ/ทาดี/ไดม้ ากมาย// วรี ชน/ของไทย/ใจกล้าหาญ// อย่าเหน่อื ยหน่าย/ท้อใจ/ใฝ่ทาด/ี / แม่ยา่ โม/ท้าวสรุ /นารี// ได้ตอ่ สู้/ศตั รูพาล/สมศักดศ์ิ ร/ี / ยอดสตรี/นามระบือ/ลอื ทั่วไทย สจุ รติ เพียรชอบ

ตวั อยา่ ง บทรอ้ ยกรองทเ่ี ปน็ สาธกโวหาร หน่ึงนักปราชญ์/ราชคร/ู ซงึ่ รหู้ ลัก// อยา่ ถอื ศักด/์ิ สนทนา/อชั ฌาสยั // อุตส่าหถ์ าม/ตามประสงค/์ จานงใน// จงึ จกั ได/้ รู้รอบ/ประกอบการ// หนึ่งบรรดา/ข้าไท/ทใ่ี จซื่อ// จงนบั ถือ/ถ่อมศกั ด/์ิ สมัครสมาน// หน่ึงคน/มนต์ขลงั /ชา่ งชานาญ// แมพ้ บพาน/ผกู ไว/้ เปน็ ไมตรี เพลงยาวถวายโอวาท ของสุนทรภู่

สรปุ ความรู้ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ งตาม ลักษณะคาประพนั ธแ์ ละอักขรวิธี รจู้ ักเอ้อื นเสยี ง แสดงอารมณต์ ามเนอ้ื ความ จะทาให้บทร้อยกรองน้ัน เกิดความไพเราะน่าฟังยง่ิ ขึ้น

ฝกึ อา่ นหนงั สอื สม่าเสมอนะคะนักเรยี น

แบบฝึกหดั

ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วตอ่ ไปนี้ โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย / แบง่ วรรคตอน ให้ถูกตอ้ ง อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ประเสรฐิ สุดซอ่ นใสเ่ สียในฝกั สงวนคมสมนึกใครฮกึ ฮัก จงึ คอ่ ยชักเชอื ดฟันใหบ้ รรลัย จับให้มนั่ คน้ั หมายใหว้ ายวอด ช่วยให้รอดรักให้ชดิ พสิ มัย ตัดใหข้ าดปรารถนาหาสงิ่ ใด เพียรจงได้ดงั ประสงคท์ ตี่ รงดี เพลงยาวถวายโอวาท ของ สนุ ทรภู่ คาประพนั ธป์ ระเภท.................................... ใชจ้ งั หวะการอ่าน....................................

ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วตอ่ ไปน้ี โดยใชเ้ คร่อื งหมาย / แบ่งวรรคตอน ใหถ้ ูกต้อง อนั ความคดิ /วทิ ยา/เหมือนอาวุธ ประเสรฐิ สุด/ซ่อนใส/่ เสยี ในฝกั สงวนคม/สมนกึ /ใครฮกึ ฮัก จึงค่อยชัก/เชือดฟัน/ใหบ้ รรลัย จบั ให้มั่น/คัน้ หมาย/ให้วายวอด ชว่ ยให้รอด/รกั ให้ชดิ /พิสมัย ตดั ให้ขาด/ปรารถนา/หาส่งิ ใด เพยี รจงได/้ ดังประสงค/์ ทต่ี รงดี เพลงยาวถวายโอวาท ของ สุนทรภู่ ใคชา้จปังรหะวพะันกธา์ปรรอะา่ เนภ.ท.๓...../...๒.ก...../.ล..๓..อ......น..ห...ส.ร....ภุ.ือ.....า...๓.พ..../....๓....../....๓.......


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook