แบบสรุปการดำเนนิ งาน Model Teacher โครงการ พัฒนาโรงเรียนบา้ นละกอเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community : SLC) เพ่อื พัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่ ภาคเรียนท่ี ๒ ประจำปีงบประมาณ 2564 ชือ่ – สกลุ นางอรณี กระจา่ งโพธ์ิ ตำแหนง่ ครู โรงเรียน บา้ นละกอ สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2 หนา้ ท่ปี ฏบิ ัตกิ ารสอนท่ีได้รับมอบหมาย สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายละเอยี ดการดำเนนิ งานตามกจิ กรรม Lesson Study (PLAN DO SEE) ปฏทิ ินการดำเนนิ งาน ครั้งที่ รายละเอียดกิจกรรม วนั เดอื น ปี ชว่ งเวลา (น.) จำนวนชว่ั โมง 1 ม.ค.64 1 ประชุมวางแผนจัดทำปฏิทินกิจกรรม 4 ม.ค.64 10.00 – 11.00 น. 1 ชุมชนการเรยี นรูว้ ิชาชพี 5 ธ.ค.64 7 ธ.ค.64 15.00 – 16.00 น. 1 2 ประชุมการคน้ หาปญั หาเลือกปญั หาสำคญั 10 ธ.ค.64 และหาสาเหตุของปญั หา 11 ธ.ค.64 16.30 – 17.30 น. 1 12 ม.ค.64 3 ครตู น้ แบบออกแบบร่างแผนการจัดการ 12 ม.ค.64 16.00 – 17.00 น. 1 เรยี นรูข้ อง วงรอบที่ 1 5 ก.พ.64 10.00 – 11.00 น. 1 4 ประชมุ ค้นหาปัญหา หาสาเหตุ และ 7 ก.พ.65 16.30 – 17.30 น. 1 แนวทางการแกป้ ญั หาของนักเรียน 9 ก.พ.65 9 ก.พ.65 11.00 – 12.00 1 5 ประชมุ วพิ ากษ์แผน วงรอบท่ี 1 5 พ.ค.65 15.00 – 16.00 1 6 ครูต้นแบบปรับร่างแผนการจัดการเรยี นรู้ จากผลการวพิ ากษแ์ ผน วงรอบที่ 1 14.00 – 15.00 1 7 ปฏบิ ัติการจัดการเรียนรู้ สงั เกตการเรยี นรู้ 9.00 – 11.00 น. 1 และบันทึกคลปิ วดี ีทัศนว์ งรอบที่ 1 9.00 – 10.00 น. 1 8 ประชุมสะท้อนผลการสังเกตการเรียนรู้ 11.00 – 12.00 น. 1 ของผู้เรยี น วงรอบที่ 1 14.30 – 15.30 น. 1 9 ประชมุ สรุปภาพรวมการสงั เกตการเรยี นรู้ วงรอบท่ี 1 และออกแบบการจัดการเรยี นรู้ วงรอบท่ี 2 10 ประชุมวิพากษ์แผน วงรอบท่ี 2 11 ปฏบิ ตั กิ ารจดั การเรียนรู้ สังเกตการเรยี นรู้ และบันทึกคลิปวดี ที ศั น์ วงรอบที่ 2 12 ประชมุ สะท้อนผลการสังเกตการเรยี นรู้ ของผ้เู รยี น วงรอบท่ี 2 13 ประชุมสรุปภาพรวมการสังเกตการเรยี นรู้ วงรอบที่ 2 และออกแบบการจัดการเรยี นรู้ วงรอบที่ 3
ครงั้ ที่ รายละเอยี ดกิจกรรม วัน เดอื น ปี ช่วงเวลา (น.) จำนวนชวั่ โมง 7 พ.ค.65 14 ประชมุ วิพากษ์แผน วงรอบที่ 3 9 พ.ค.65 10.00 – 11.00 1 15 ปฏบิ ตั ิการจัดการเรียนรู้ สังเกตการเรียนรู้ 9.00 – 10.00 1 และบนั ทึกคลิปวดี ีทัศน์ วงรอบที่ 3 9 พ.ค.65 10.00 – 11.00 1 16 ประชุมสะท้อนผลการสงั เกตการเรียนรู้ ของผู้เรียน วงรอบท่ี 3 10 พ.ค.65 10.00 – 11.00 1 17 ประชุมถอดบทเรยี นเพอ่ื หาแนวปฏิบตั ทิ ด่ี ี 11 พ.ค.65 11.00 – 12.00 1 และสงิ่ ทคี่ วรปรบั ปรุงต่อไป รวมจำนวนช่ัวโมง PLC 19 18 ประชุมจดั ทำรายงานผลดำเนินงาน PLC แผนการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ืองวธิ ีการเขยี นโครงงาน เบ้ืองตน้ ( แผนวงรอบท่ี 1) รหสั วิชา 14101 ชื่อรายวชิ า การงานพื้นฐานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 ชื่อ โครงงานอาชีพ เวลา 2 ช่ัวโมง
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เข้าใจความหมาย ความสาคญั ประโยชน์ หลกั การ วิธีการ ข้นั ตอน กระบวนการทางาน การจัดการ และสามารถทางานตามข้ันตอน 2. มีความคดิ ริเร่ิมในการทางาน 3. สามารถค้นคว้า รวบรวมข้อมูลเกยี่ วกบั การทางานจากแหล่งความรู้ด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ 4. มีเจตคติท่ีดีต่อการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในการทางานอย่างคุม้ คา่ และถูกวิธี มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั มาตรฐาน ง.1.1 เขา้ ใจ มีความคดิ สร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคุณธรรม มีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน เพ่ือการดารงชีวติ และครอบครัวท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งาน เกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ ง.1.2 มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถแกไ้ ขปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีต่องาน ตัวชี้วดั ขอ้ ง 1.1. 3 มีความคิดริเร่ิมในการทางาน ขอ้ ง..1. 4 ทางานดว้ ยความรับผิดชอบ ขยนั ประหยดั อดออม อดทน ขอ้ ง.1.2. 3 สามารถคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั การทางานจากแหลง่ เรียนรู้ดว้ ยวิธีต่าง ๆ ขอ้ ง.1.2.4 สามารถวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุของปัญหาและการแกป้ ัญหาดว้ ยวิธีการท่ี เหมาะสม ขอ้ ง.1.2. 5 มีความต้งั ใจเอาใจใส่ และทางานจนสาเร็จ พอใจและยอมรับการทางาน และ ทางานอยา่ งมีความสุข มีกิจนิสัยในการทางานดว้ ยความประณีต รอบคอบ ปลอดภยั และสะอาด 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ทดสอบก่อนเรียน
2. ใชห้ ลกั การเสริมแรง นกั เรียน โดยครูนาเสนอบคุ คลในทอ้ งถิ่นท่ีมีผลงานดา้ นการเกษตรแบบชีวภาพ แลว้ ครูนาสนทนาแนะนาให้นกั เรียนควรออกไปศึกษาแนวทาง เม่ือมีโอกาสอนั สมควร อาจไปกบั ผปู้ กครอง แลว้ ครูนาทางใหน้ กั เรียนไดค้ ิดตาม โดยต้งั คาถามเช่น 2.1. ทาไมจึงตอ้ งศึกษาบคุ คลในทอ้ งถ่ิน (แนวทางตอบ แกป้ ัญหาในทอ้ งถิ่นได)้ 2.2. แนวทางแกป้ ัญหาในทอ้ งถ่ินอยา่ งไรเหมาะสมที่สุด (แนวทางตอบ เศรษฐกิจพอเพียง) 2.3. มีวิธีการเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งไร 2.4. จะเรียนเรื่องน้ีไปทาไม เรียนท่ีไปท่ีใด กบั ใครอยา่ งไร 2.5. จะมีประเด็นการเรียนใดบา้ ง 2.6. จะมีวิธีการนาเสนอความรู้อยา่ งไร 2.7. จะมีวธิ ีการประเมินผลการเรียนรู้แบบใดบา้ ง 3. นกั เรียนแบ่งกล่มุ การทางาน กลมุ่ ละ 3-4 คนโดยมีนกั เรียน เก่ง ปานกลาง อ่อน หาคาตอบ จากเอกสารประกอบการสอน บทท่ี 5 4. นกั เรียนรับใบงานโครงงานแลว้ ฝึกทาโครงงาน ตามรูปแบบโดยทาเป็นการบา้ น 5. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. ผังความคิด 2. ตัวอย่างโครงงาน 3. ใบงาน/ใบความรู้ 4. เอกสารประกอบการสอน 5. หนังสือสาหรับให้นกั เรียนค้นคว้าเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั งานเกษตร จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั ข้อ 1 นักเรียนมีความเขา้ ใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคณุ ธรรม มีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งานทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน เพื่อการดารงชีวิตและครอบครัวท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งานเกษตร งาน ช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ จนสามารถเลือกงานที่ชอบมาเขียนหวั ขอ้ โครงงานได้ (K) ข้อ 2 นักเรียน มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถแกไ้ ข ปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีต่องาน และสามารถทาโครงงานจนสาเร็จ (P) ข้อ นกั เรียน คิดวิเคราะห์ วินิจฉยั งาน และยอมรับการวิภาควจิ ารณ์งาน และปรับปรุงแกไ้ ขงานใหด้ ีข้ึนได้ (A) สาระสาคัญ
โครงงานคือ ผลงานเดก็ ทเี่ กิดจากกระบวนการเรียนรู้ทีค่ รบองค์รวม คือมีท้งั การฝึ กให้คดิ ค้นคว้าศึกษาหาความรู้อย่างอสิ ระ ท้ังการกระบวนการทางานเป็ นกล่มุ และความรับผิดชอบรายบุคคล สาระการเรียนรู้ 1.หลกั การของโตรงงาน 2. วธิ ีการเขยี นโครงงาน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสารโดยการประชุมหาหวั ขอ้ โครงงาน 2. ความสามารถในการคดิ โดยการหาขอ้ ดีที่สุดของตนเอง ของเพื่อน เพื่อผลงานที่ดีที่สุด - การจาแนก การใหเ้ หตผุ ล การสรุปความรู้ การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหาโดยกระบวนการทางานช่วยกนั คิดและแกป้ ัญหาในงานที่เกิดข้ึน 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิตโดยการนาผลงานออกจดั นิทรรศการและนาเสนอใหผ้ ปู้ กครอง ยอมรับและช่ืนชมได้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ นักเรียนมีความเขา้ ใจ มีความคดิ สร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคุณธรรม มีจิตสานึกในการใช้ พลงั งานทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน เพื่อการดารงชีวิตและครอบครัวที่เกี่ยวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ ม่งุ มน่ั ในการทางาน 1. นกั เรียน มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถแกไ้ ขปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีตอ่ งาน และสามารถทา โครงงานจนสาเร็จ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั ที่ 1 การเรียนรู้ต้งั คาถาม (Learning to Question) ( 10 นาที) 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาทบทวนความรู้เดิมจากท่ีนกั เรียนไดเ้ รียนรู้มาในช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1-3เกี่ยวกบั การทางาน ความสาคญั ของงาน โดยใชค้ าถามกระตุน้ ความคิดของนกั เรียน ดงั น้ี ทาไมจึงตอ้ งศึกษาการทางานของคนในทอ้ งถ่ิน (แนวทางตอบ แกป้ ัญหาในทอ้ งถิ่นได)้ 2. แนวทางแกป้ ัญหาในทอ้ งถ่ินอยา่ งไรเหมาะสมที่สุด (แนวทางตอบ เศรษฐกิจพอเพยี ง) ข้นั ที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) (20 นาที) 2..1 ใหน้ กั เรียนพิจารณาโครงงานของรุ่นพ่ี แลว้ ครูต้งั คาถามกระตนุ้ ความคิดของนกั เรียนวา่ ในตวั นกั เรียนสามารถทางานอะไรไดด้ ีที่สุด แลว้ เขียนในกระดาษเกบ็ ไว้ โดยครูใชห้ ลกั การเสริมแรง นกั เรียน โดยครูนาเสนอบุคคลในทอ้ งถ่ินที่มีผลงานดา้ นการเกษตรแบบ ชีวภาพ และงานอ่ืนๆ แลว้ ครูนาสนทนาแนะนาใหน้ กั เรียนควรออกไปศึกษาแนวทาง เมื่อมีโอกาสอนั สมควร อาจไปกบั ผปู้ กครอง แลว้ ครูนาทางใหน้ กั เรียนไดค้ ิดตาม โดยต้งั คาถามเช่น 2.1.1 มีวธิ ีการเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งไร 2.1.2 จะเรียนเร่ืองน้ีไปทาไม เรียนที่ไปที่ใด กบั ใครอยา่ งไร 2.1.3 จะมีประเดน็ การเรียนใดบา้ ง 2.1.4 จะมีวธิ ีการนาเสนอความรู้อยา่ งไร 2.1.5 จะมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้แบบใดบา้ ง 3 .ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 4. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ การทางาน กลมุ่ ละ 3-4 คนโดยมีนกั เรียน เก่ง ปานกลาง ออ่ น หาคาตอบ จากเอกสารประกอบการสอน บทที่ 5 1. นกั เรียนรับใบงานโครงงานแลว้ ฝึกทาโครงงาน ตามรูปแบบโดยทาเป็นการบา้ น ข้นั ที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) (30 นาที) 3 ครูกาหนดกลุ่มใหน้ กั เรียน กล่มุ ละ 4-6 คน ใหน้ ากระดาษที่เขียนของแต่ละคนนามาคยุ กนั หางานที่ดีท่ีสุด เป็นไปไดด้ ีที่สุด นามาสรุปเป็นงานของกลุ่ม แลว้ แบ่งงานกนั ช่วยกนั ทา ช่วยกนั คิด และช่วยกนั เขียนโครงงาน ข้นั ที่ 4 การเรียนรู้เพื่อการส่ือสาร (Learning to Communicate) 20 นาท)ี 6. ใหน้ กั เรียน ทกุ กลมุ่ ออกมาอภิปรายและสรุปผลงานเก่ียวกบั ของตนเอง และร่วมรับฟังงานของกลุม่ อื่น ร่วมกนั วิเคราะห์ ขอ้ ดี ขอ้ เสีย ของตนเองและของกลมุ่ อื่น ข้ันที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม ((Learning to Service) (40 นาท)ี
6. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทาแผน่ ชาดร์ โครงงาน เพื่อนาเสนอต่อผปู้ กครอง และใหส้ งั คมยอมรับ สื่อการเรียนรู้ 1. ผงั ความคดิ 2. ตวั อย่างโครงงาน 3. ใบงาน/ใบความรู้ 4. เอกสารประกอบการสอน 5. หนงั สือสาหรับให้นักเรียนค้นคว้าเพมิ่ เติม เกย่ี วกบั งานเกษตรและงานอื่นๆ เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 1. ประเมินผลโดยถือเกณฑผ์ า่ นการการตรวจงาน ร้อยละ 80 2. ประเมินโดยถือเกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรม ร้อยละ 80 เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม เกณฑ์การประเมนิ คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน -4 ระดบั ควรปรับปรุง
ข้อเสนอแนะของวิชาการ ______________________________________________________________________________ ลงชื่อ__________________ฝ่ายวชิ าการ (นางสาวจิราพร ปัญญารัตนานนท)์ _____/_____/_____ ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรียนของ นางอรณี กระจ่างโพธ์ิ แลว้ มีความคดิ เห็นดงั น้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนท่ี ดีมาก ดี พอใช้ 2. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดน้ าเอาทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มาจดั กิจกรรมโดย เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั และจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมดีมาก เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั และจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมดี ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั 3. เป็นแผนการจดั การเรียนที่ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ลงช่ือ วา่ ที่ ร.ต. __________________ผบู้ ริหารสถานศึกษา (สัญญา เขยี วปาน) _____/_____/____
ภาพกจิ กรรมการประชุมวิพากษ์แผนการสอนของการเปดิ ห้องเรียน รอบท่ี 1 ณ ห้องพกั ครู โรงเรยี นบ้านละกอ ภาพที่ 1 การประชมุ วพิ ากษ์แผนการสอนของการเปดิ ห้องเรียน รอบท่ี 1 ภาพนักเรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมระหว่างการเปิดชัน้ เรยี นในกิจกรรม PLC ภาพสมาชิกเข้าร่วมสังเกตการเปดิ ชัน้ เรยี นในกิจกรรม PLC ภาพสมาชิกเขา้ ร่วมประชุมสะทอ้ นการเปดิ ชัน้ เรียนในกจิ กรรม PLC
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง การประดิษฐ์ดอกไม้ใยบวั (แผนวงรอบที่ 2) รหัสวชิ า ง 14101 ชื่อรายวชิ า งานประดษิ ฐ์ กล่มุ สาระการเรียนรู้ การงานพื้นฐานอาชีพ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ชื่อ การประดิษฐ์ดอกไม้เพื่อขาย เวลา 2 ช่ัวโมง ครูผู้สอน นางอรณี กระจ่างโพธ์ิ วนั ที่สอน 13 กรกฎาคม 2564 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2. เข้าใจความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ หลกั การ วิธกี าร ข้นั ตอน กระบวนการทางาน การจัดการ และสามารถทางานตามข้ันตอน 2. มคี วามคิดริเร่ิมในการทางาน 3. สามารถค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเกยี่ วกบั การทางานจากแหล่งความรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ 5. มีเจตคติท่ีดีต่อการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในการทางานอยา่ งคุม้ ค่าและถกู วิธี มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ง.1.1 เขา้ ใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคณุ ธรรม มีจิตสานึกในการใชท้ รัพยากร และ ส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน เพ่ือการดารงชีวิตและครอบครัวท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ ง.1.2 มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกล่มุ การแสวงหาความรู้ สามารถแกไ้ ขปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีตอ่ งาน ตัวชีว้ ัด ขอ้ ง 1.1. 3 มีความคิดริเร่ิมในการทางาน ขอ้ ง..1. 4 ทางานดว้ ยความรับผิดชอบ ขยนั ประหยดั อดออม อดทน ขอ้ ง.1.2. 3 สามารถคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั การทางานจากแหล่งเรียนรู้ดว้ ยวธิ ีตา่ ง ๆ ขอ้ ง.1.2.4 สามารถวเิ คราะห์ปัญหา สาเหตขุ องปัญหาและการแกป้ ัญหาดว้ ยวธิ ีการท่ีเหมาะสม ขอ้ ง.1.2. 5 มีความต้งั ใจเอาใจใส่ และทางานจนสาเร็จ พอใจและยอมรับการทางาน และ ทางานอยา่ ง มีความสุข มีกิจนิสยั ในการทางานดว้ ยความประณีต รอบคอบ ปลอดภยั และสะอาด
4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใชห้ ลกั การเสริมแรง นกั เรียน โดยครูนาเสนอบุคคลในทอ้ งถ่ินที่มีผลงานดา้ นการเกษตรแบบชีวภาพ แลว้ ครูนาสนทนาแนะนาใหน้ กั เรียนควรออกไปศึกษาแนวทาง เม่อื มีโอกาสอนั สมควร อาจไปกบั ผปู้ กครอง แลว้ ครูนา ทางใหน้ กั เรียนไดค้ ิดตาม โดยต้งั คาถามเช่น 2.1. ทาไมจึงตอ้ งศึกษาบคุ คลในทอ้ งถิ่น (แนวทางตอบ แกป้ ัญหาในทอ้ งถิ่นได)้ 2.2. แนวทางแกป้ ัญหาในทอ้ งถ่ินอยา่ งไรเหมาะสมที่สุด (แนวทางตอบ เศรษฐกิจพอเพยี ง) 2.3. มีวธิ ีการเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งไร 2.4. จะเรียนเร่ืองน้ีไปทาไม เรียนที่ไปท่ีใด กบั ใครอยา่ งไร 2.5. จะมีประเด็นการเรียนใดบา้ ง 2.6. จะมีวธิ ีการนาเสนอความรู้อยา่ งไร 2.7. จะมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้แบบใดบา้ ง 2. นกั เรียนแบง่ กล่มุ การทางาน กลมุ่ ละ 3-4 คนโดยมีนกั เรียน เก่ง ปานกลาง อ่อน หาคาตอบ จากเอกสารประกอบการสอน บทท่ี 5 3.นกั เรียนรับใบงานโครงงานแลว้ ฝึกทาโครงงาน ตามรูปแบบโดยทาเป็นการบา้ น 4. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 7. ผงั ความคดิ 8. ตวั อย่างโครงงาน 9. ใบงาน/ใบความรู้ 10. เอกสารประกอบการสอน 11. หนงั สือสาหรับให้นักเรียนค้นคว้าเพมิ่ เติม เกย่ี วกบั งานเกษตร จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั ข้อ 1 นกั เรียนมคี วามเขา้ ใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคุณธรรม มีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน เพื่อการดารงชีวติ และครอบครัวท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งาน เกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ จนสามารถเลือกงานท่ีชอบมาเขยี นหวั ขอ้ โครงงานได้ (K) ข้อ 2 นักเรียน มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกล่มุ การแสวงหาความรู้ สามารถแกไ้ ข ปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีต่องาน และสามารถทาโครงงานจนสาเร็จ (P) ข้อ นักเรียน คิดวเิ คราะห์ วินิจฉยั งาน และยอมรับการวิภาควจิ ารณ์งาน และปรับปรุงแกไ้ ขงานให้ดีข้ึนได้ (A)
สาระสาคญั โครงงานคือ ผลงานเดก็ ทเ่ี กิดจากกระบวนการเรียนรู้ทค่ี รบองค์รวม คือมีท้ังการฝึ กให้คดิ ค้นคว้าศึกษาหาความรู้อย่างอสิ ระ ท้ังการกระบวนการทางานเป็ นกลุ่ม และความรับผิดชอบรายบุคคล สาระการเรียนรู้ 1.หลกั การของงานประดิษฐ์ 2. วิธกี ารทาดอกไม้ใยบวั สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสารโดยการสนทนาเรื่องงานประดิษฐ์ 2. ความสามารถในการคดิ โดยการหาขอ้ ดีท่ีสุดของตนเอง ของเพ่อื น เพ่ือผลงานท่ีดีที่สุด - การจาแนก การใหเ้ หตผุ ล การสรุปความรู้ การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหาโดยกระบวนการทางานช่วยกนั คดิ และแกป้ ัญหาในงานที่เกิดข้นึ 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ โดยการนาผลงานออกจดั นิทรรศการและนาเสนอใหผ้ ปู้ กครอง ยอมรับและชื่นชมได้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ นักเรียนมีความเขา้ ใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคณุ ธรรม มีจิตสานึกในการใช้ พลงั งานทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มในการทางาน เพ่อื การดารงชีวติ และครอบครัวท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ มุ่งม่ันในการทางาน 1. นักเรียน มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกลมุ่ การแสวงหาความรู้ สามารถ แกไ้ ขปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีต่องาน และสามารถทาโครงงานจนสาเร็จ ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) 2. แผนผังความคิด 3. ใบงาน/ใบความรู้ 4. ดอกไม้ใยบวั ท่ีสาเร็จแล้ว 5. แผ่นชาดร์ตดิ ดอกไม้ หรือช่อดอกไม้ หรือแจกนั ดอกไม้
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 การเรียนรู้ต้งั คาถาม (Learning to Question) ( 20 นาท)ี 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาทบทวนความรู้เดิมจากที่นกั เรียนไดเ้ รียนรู้มาในช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 1-3เกี่ยวกบั การทางาน ความสาคญั ของงาน โดยใชค้ าถามกระตนุ้ ความคิดของนกั เรียน ดงั น้ี ทาไมจึงตอ้ งศึกษาการทางานของคนในทอ้ งถิ่น (แนวทางตอบ แกป้ ัญหาในทอ้ งถ่ินได)้ 3. แนวทางแกป้ ัญหาในทอ้ งถิ่นอยา่ งไรเหมาะสมที่สุด (แนวทางตอบ เศรษฐกิจพอเพยี ง) ข้นั ที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) (40 นาที) 2..1 ใหน้ กั เรียนพิจารณาผลงานของรุ่นพ่ี แลว้ ครูต้งั คาถามกระตุน้ ความคิดของนกั เรียนวา่ ในตวั นกั เรียน สามารถทางานอะไรไดด้ ีท่ีสุด แลว้ เขยี นในกระดาษเก็บไว้ โดยครูใชห้ ลกั การเสริมแรง นกั เรียน โดยครูนาเสนอบคุ คลในทอ้ งถิ่นที่มีผลงานดา้ นการออกแบบ ดอกไม้ และงานอื่นๆ แลว้ ครูนาสนทนาแนะนาใหน้ กั เรียนควรออกไปศึกษาแนวทาง เม่ือมีโอกาสอนั สมควร อาจไปกบั ผปู้ กครอง แลว้ ครูนาทางใหน้ กั เรียนไดค้ ิดตาม โดยต้งั คาถามเช่น 2.1.1 มีวธิ ีการเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งไร 3.1.2 จะเรียนเรื่องน้ีไปทาไม เรียนที่ไปที่ใด กบั ใครอยา่ งไร 3.1.3 จะมีประเดน็ การเรียนใดบา้ ง 3.1.4 จะมีวิธีการนาเสนอความรู้อยา่ งไร 3.1.5 จะมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้แบบใดบา้ ง 3. นกั เรียนแบง่ กลุม่ การทางาน กล่มุ ละ 3-4 คนโดยมีนกั เรียน เก่ง ปานกลาง ออ่ น แลว้ ช่วยเพือ่ นที่ออ่ น 4.นกั เรียนนางานมาประเมิน แลว้ ชาวยกนั วจิ ารญง์ านของตนเองและของเพ่ือนและแบ่งอุปกรณ์ไปทาต่อ โดยทา เป็นการบา้ น ข้ันท่ี 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) (30 นาที) 5. ครูกาหนดกลุม่ ใหน้ กั เรียน กลมุ่ ละ 4-6 คน ใหผ้ ลงานของแต่ละคนนามาคยุ กนั หางานที่ดีท่ีสุด ดีที่สุด นามาสรุปเป็นงานของกลุ่ม แลว้ แบง่ งานกนั ช่วยกนั ทา ช่วยกนั คิด และช่วยกนั เขยี นลงในแผน่ ชารท และช่วยกนั จดั ดอกไมเ้ ป็นช่อใหส้ วยงาม ข้นั ที่ 4 การเรียนรู้เพ่ือการส่ือสาร (Learning to Communicate) 10 นาที) 5. ใหน้ กั เรียน ทุกกลมุ่ ออกมาอภิปรายและสรุปผลงานเกี่ยวกบั ของตนเอง และร่วมรับฟังงานของกลุ่มอ่ืน ร่วมกนั วิเคราะห์ ขอ้ ดี ขอ้ เสีย ของตนเองและของกลุ่มอ่ืน ข้นั ท่ี 5 การเรียนรู้เพ่ือตอบแทนสังคม ((Learning to Service) (20 นาท)ี
6. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทาแผน่ ชาดร์ และผลงานเพม่ิ เติม เพื่อจดั นิทรรศการ และเพ่ือนาเสนอต่อผปู้ กครอง และใหส้ ังคมยอมรับ สื่อการเรียนรู้ 6. รูปภาพ 7. ตัวอย่างดอกไม้ใยบวั 8. ใบงาน/ใบความรู้ 9. เอกสารประกอบการสอน 10. หนงั สือสาหรับให้นกั เรียนค้นคว้าเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั งานดอกไม้ การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 1. ประเมินผลโดยถือเกณฑผ์ า่ นการการตรวจงาน ร้อยละ 80 2. ประเมินโดยถือเกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรม ร้อยละ 80 เคร่ืองมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน -4 ระดบั ควรปรับปรุง ข้อเสนอแนะของวชิ าการ ลงช่ือ__________________ฝ่ ายวิชาการ (นางสาวจิราพร ปัญญารัตนานนท)์ _____/_____/_____
ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรียนของ นางอรณี กระจ่างโพธ์ิ แลว้ มีความคดิ เห็นดงั น้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนที่ ดีมาก ดี พอใช้ 2. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดน้ าเอาทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มาจดั กิจกรรมโดย เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั และจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมดีมาก เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั และจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมดี ยงั ไม่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั 3. เป็นแผนการจดั การเรียนที่ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ลงชื่อ วา่ ท่ี ร.ต. __________________ผบู้ ริหารสถานศึกษา (สญั ญา เขยี วปาน) _____/_____/____
ภาพกจิ กรรม PLC ข้นั การเปิ ดช้ันเรียนและประชุมสะท้อนผลการเปิ ดช้ันเรียน ภาพนักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมระหว่างการเปิ ดช้ันเรียนในกิจกรรม PLC ภาพสมาชิกเขา้ รว่ มสังเกตการเปิดช้นั เรียนในกจิ กรรม PLC ภาพสมาชิกเขา้ รว่ มประชุมสะทอ้ นการเปิดชั้นเรียนในกิจกรรม PLC
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง โครงงานเพื่องานอาชีพ (แผนวงรอบที่ 3) รหสั วชิ า ง 14101 ชื่อรายวชิ า ทางานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานพืน้ ฐานอาชีพ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ช่ือ การทาโครงงานเพื่องานอาชีพ เวลา 1 ช่ัวโมง ครูผู้สอน นางอรณี กระจ่างโพธ์ิ วนั ท่ีสอน 9 พฤษภาคม 2564 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.เข้าใจความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ หลกั การ วธิ กี าร ข้นั ตอน กระบวนการทางาน การจัดการ สามารถ ทางานตามข้นั ตอน และนาความรู้มาจดั ระบบเป็ นโครงงานได้ 2. มีความคดิ ริเร่ิมในการทางาน ตามความถนดั เช่น ทางานบ้าน งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงาน ธุรกจิ 3. สามารถค้นคว้า รวบรวมข้อมูลเกย่ี วกบั การทางานจากแหล่งความรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ของงาน ทางานบ้าน งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกจิ 4. มเี จตคติที่ดีต่อการใช้ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ในการทางานอย่างค้มุ ค่าและถูกวธิ ี ตาม กระบวนการของงาน ทางานบ้าน งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกจิ และสามารถนาความรู้ ประสบการณ์ และเจตคตทิ ี่ดี นามาเขยี นเป็ นโครงงานเพื่อเผยแพ่รต่อไปได้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ง.1.1 เขา้ ใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคุณธรรม มีจิตสานึกในการใชท้ รัพยากร และ ส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน เพื่อการดารงชีวิตและครอบครัวท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ทางานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งาน ประดิษฐ์ และงานธุรกิจ ง.1.2 มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถแกไ้ ข ปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติที่ดีต่องาน ตวั ชี้วัด ขอ้ ง 1.1. 3 มีความคดิ ริเริ่มในการทางาน ขอ้ ง..1. 4 ทางานดว้ ยความรับผิดชอบ ขยนั ประหยดั อดออม อดทน ขอ้ ง.1.2. 3 สามารถคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั การทางานจากแหล่งเรียนรู้ดว้ ยวิธีตา่ ง ๆ ขอ้ ง.1.2.4 สามารถวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุของปัญหาและการแกป้ ัญหาดว้ ยวิธีการที่เหมาะสม
ขอ้ ง.1.2. 5 มีความต้งั ใจเอาใจใส่ และทางานจนสาเร็จ พอใจและยอมรับการทางาน และ ทางานอยา่ งมีความสุข มีกิจนิสัยในการทางานดว้ ยความประณีต รอบคอบ ปลอดภยั และสะอาด 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใชห้ ลกั การเสริมแรง นกั เรียน โดยครูนาเสนองานอาชีพตา่ งๆในทอ้ งถ่ิน แลว้ ครูนาสนทนาแนะนาให้ นกั เรียนคิดถึงอาชีพของตนเองในอนาคต พร้อมกบั ใหน้ กั เรียนคดิ หาเหตผุ ลประกอบในการเลือกอาชีพน้นั ๆ 2.1. ทาไมจึงชอบ และเลือกอาชีพน้นั (แนวทางตอบ ตามประสบการณ์ท่ีนกั เรียนเคยรู้มาก่อน) 2.2. แนวทางแกป้ ัญหาของอาชีพน้นั ๆ (เคยคดิ ถึงปัญหาในอาชีพน้นั หรือไม่) จะแกไ้ ขอยา่ งไร เหมาะสมที่สุด (แนวทางตอบ แกต้ ามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพยี ง ประโยชนส์ ูงประหยดั สุด) 2.3. จะเรียนเร่ืองน้ี(งานอาชีพน้ีภายในหอ้ งน้ี เวาลาน้ี)เรียนทาไม เรียนที่ใด เรียนกบั ใครอย่างไร(ไม่ เกิน 3คน) 2.4. จะมีวิธีการเริ่มตน้ (ของงานท่ีเลือก)จนถึงงานสาเร็จอยา่ งไร(เขยี นเป็นขอ้ ๆ) 2.5. จะมีวิธีการนาเสนอความรู้อย่างไร(ใครพดู แนะนาตวั ใครนาเสนอผลงานใครสรุป) 2.6. จะมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้แบบใดบา้ ง(ฟังเพ่ือนทกุ กลุ่ม หาขอ้ ดี ขอ้ เสียของแตล่ ะกลุ่มแลว้ ตดั สิน ลาดบั ที่ 1-4 โดยการตดั สินตอ้ งมีเหตผุ ลประกอบ) 2. นกั เรียนแบง่ กลุ่มการทางาน กลมุ่ ละ 3-4 คนโดยมีนกั เรียน เก่ง ปานกลาง ออ่ น 3.นกั เรียนดูตวั อยา่ งใบงานโครงงานแลว้ ฝึกทาโครงงาน ตามรูปแบบ 4. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 12. ผังความคดิ 13. ตวั อย่างโครงงาน 14. ใบงาน/ใบความรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั ข้อ 1 นกั เรียนมคี วามเขา้ ใจ มีความคดิ สร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคณุ ธรรม มีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน เพ่ือการดารงชีวิตและครอบครัวท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งาน เกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ จนสามารถเลือกงานที่ชอบมาเขยี นหวั ขอ้ โครงงานได้ (K) ข้อ 2 นักเรียน มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถแกไ้ ขปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติที่ดีตอ่ งาน และสามารถทาโครงงานจนสาเร็จ (P) ข้อ 3 นักเรียน คิดวิเคราะห์ วินิจฉยั งาน และยอมรับการวิภาควจิ ารณ์งาน และปรับปรุงแกไ้ ขงานใหด้ ีข้นึ ได้ (A)
สาระสาคัญ โครงงานคือ ผลงานเด็กทเี่ กิดจากกระบวนการเรียนรู้ท่คี รบองค์รวม คือมีท้งั การฝึ กให้คดิ ค้นคว้าศึกษาหาความรู้อย่างอสิ ระ ท้งั การกระบวนการทางานเป็ นกลุ่ม และความรับผิดชอบรายบุคคล สาระการเรียนรู้ 1.หลกั การของงาน ทางานบ้าน งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกจิ 2. วิธีการทาโครงงานอาชีพ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสารโดยการนาเสนอโครงงานได้ 2. ความสามารถในการคิดโดยการหาขอ้ ดีที่สุดของตนเอง ของเพือ่ น เพื่อผลงานท่ีดีท่ีสุด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหาโดยกระบวนการทางานช่วยกนั คิดและแกป้ ัญหาในงานที่เกิดข้นึ 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิตโดยการนาผลงานออกนาเสนอ คิดราคา กาไร ขาดทนุ หรือขายได้ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ นักเรียนมีความเขา้ ใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคณุ ธรรม มีจิตสานึกในการใช้ พลงั งานทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มในการทางาน เพอ่ื การดารงชีวติ และครอบครัวที่เกี่ยวขอ้ งกบั การทางานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจ ม่งุ มน่ั ในการทางาน 1. นักเรียน มีทกั ษะกระบวนการทางาน และการจดั การ การทางานกลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถ แกไ้ ขปัญหาในการทางาน รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีตอ่ งาน และสามารถทาโครงงานจนสาเร็จ ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)(ให้ทาเป็ นการบ้าน) 6. แผนผังความคิด 7. ใบงาน/ใบความรู้ 8. รูปเล่มโครงงาน 9. แผ่นชาดร์โครงงาน
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 การเรียนรู้ต้ังคาถาม (Learning to Question) ( 5นาที) 1.1ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาทบทวนความรู้เดิมจากที่นกั เรียนได้เรียนรู้มาในช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1-3เกย่ี วกบั การทางาน ความสาคัญของงาน ทางานบ้าน งานเกษตร งานช่าง งานประดษิ ฐ์ และงานธุรกจิ 1.2 โดยใชค้ าถามกระตนุ้ ความคิดของนกั เรียน ดงั น้ี ทาไมจึงตอ้ งศึกษาการทางานของคนในทอ้ งถ่ิน (แนวทางตอบ แกป้ ัญหาในทอ้ งถ่ินได)้ 1.3 ครูถามต่อวา่ แนวทางแกป้ ัญหาในทอ้ งถิ่นอยา่ งไรเหมาะสมที่สุด (แนวทางตอบ ยดึ หลกั เศรษฐกิจ พอเพียง) ข้ันท่ี 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) (10 นาที) 2.1. ครูต้งั คาถามแบบเปิ ดใหน้ กั เรียนคิดวา่ จะเรียนเรื่องน้ี(งานอาชีพน้ีภายในหอ้ งน้ี เวาลาน้ี)เรียน ทาไม เรียนที่ใด เรียนกบั ใครอยา่ งไร(ไม่เกิน 5 คน) เป็นการแบ่งกลมุ่ ในการเรียนต่อไป 2.2. นกั เรียนในกล่มุ ร่วมกนั ศึกษาตวั อยา่ งโครงงานท่ีทาสาเร็จแล้ว พร้อมท้งั ดูตวั อยา่ งใบงาน โครงงาน ข้ันที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) (20นาที) 10. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ แบ่งงานกนั เขยี นโครงงานตามตวั อยา่ ง คนละ 1 บท แลว้ ใหน้ าบทที่1-5 มา ประกอบเป็นรูปเล่มที่สมบรู ณ์ (นามาส่งเป็นการบา้ นในวนั หลงั ) 11. ครูติดตามสอบถามในแต่ละบท ต้งั แต่บทที่ 1-5 ที่ละบท โดยนกั เรียนคนไหนเขียนบทท่ี 1 ก็ใหม้ า ปรึกษาพร้อมกนั และไล่ไปจนครบถึงบทที่ 5 ข้นั ท่ี 4 การเรียนรู้เพ่ือการส่ือสาร (Learning to Communicate) 10 นาท)ี 5. ใหน้ กั เรียน ทกุ กล่มุ นาเสนอผลงานของตนเอง และร่วมรับฟังงานของกลุ่มอื่น ร่วมกนั วเิ คราะห์ ขอ้ ดี ขอ้ เสีย ของตนเองและของกลุ่มอื่น ข้ันที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม ((Learning to Service) ( 15 นาท)ี 6. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทาแผ่นชาดร์ และผลงานเพ่มิ เติม เพ่อื จดั นิทรรศการ และเพ่ือนาเสนอต่อผปู้ กครอง และใหส้ ังคมยอมรับต่อไป(ส่งเป็นการบา้ นภายหลงั ) สื่อการเรียนรู้ 11. ใบงาน/ใบความรู้ 12. ตัวอย่างโครงงาน
การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ พฤติกรรม/ส่ิงที่มงุ่ หวงั วธิ ีการ/เครื่องมือ 1. เข้าใจความหมาย 1. ตระหนกั มีค่านยิ มในแนว 1. วธิ ีการวัดผลประเมินผล ความสาคญั ประโยชน์ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.1 การสงั เกตพฤติกรรม หลกั การ วธิ กี าร ข้ันตอน กระบวนการทางาน การ 2. มคี วามรับผิดชอบในงานที่ได้ 1.2 การประเมินการทางาน จดั การ และสามารถทางาน รับมอบหมาย 1.3 การตรวจผลงาน ตามข้ันตอน 2. เคร่ืองมือวดั ผลประเมินผล 2. มีความคดิ ริเร่ิมใน 3. มคี วามสามัคคีภายในกล่มุ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรม 4. แสดงออกถึงการมีนา้ ใจ 2.2 แบบประเมินการทางาน การทางาน 3. สามารถค้นคว้า รวบรวม 5. ทางานสะอาดเรียบร้อย 2.3 แบบตรวจผลงาน ข้อมูลเกยี่ วกบั การทางาน 6. รักการคน้ ควา้ เพมิ่ เติม จากแหล่งความรู้ด้วยวิธีการ 2.4 แบบสรุป ต่าง ๆ 4. มีเจตคติท่ีดีต่อการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มนการทางาน อยา่ งคุม้ คา่ และถูกวธิ ี เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 1. ประเมินผลโดยถือเกณฑผ์ า่ นการการตรวจงาน ร้อยละ 80 2. ประเมินโดยถือเกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรม ร้อยละ 80 เคร่ืองมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
เกณฑ์การประเมนิ คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน -4 ระดบั ควรปรับปรุง ใหผ้ สู้ อนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั การปฏบิ ัต(ิ คะแนน) ท่ี พฤตกิ รรม เป็นประจา บางคร้ัง นอ้ ยคร้ัง ไม่ทาเลย (3) (2) (1) (0) 1 ทางานเสร็จทนั เวลาท่ีกาหนด 2 รู้จดั แบง่ งานกนั ทาภายในกลุ่มของตนเอง 3 เอาใจใส่งานที่ไดร้ ับมอบหมาย 4 แกไ้ ขงานที่บกพร่องใหด้ ียง่ิ ข้ึน 5 มีความขยนั อดทนในการทางานจนงาน สาเร็จ 6 ชื่นชมผลงานของตนเองและของเพ่ือน ข้อเสนอแนะของวชิ าการ
ลงชื่อ__________________ฝ่ายวชิ าการ (นางสาวจิราพร ปัญญารัตนานนท)์ _____/_____/_____ ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรียนของ นางอรณี กระจ่างโพธ์ิ แลว้ มีความคดิ เห็นดงั น้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนที่ ดีมาก ดี พอใช้ 2. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดน้ าเอาทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มาจดั กิจกรรมโดย เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั และจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมดีมาก เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั และจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมดี ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั 3. เป็นแผนการจดั การเรียนท่ี นาไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ลงชื่อ วา่ ที่ ร.ต. __________________ผบู้ ริหารสถานศึกษา (สญั ญา เขียวปาน) _____/_____/____
รายงานโครงงานอาชีพ อาหารแปรรูป เร่ืองนา้ พริกเหด็ อบสมุนไพรเกลือดา โดย 1. เด็กหญิวรนันท์ เส็งนา 2. เด็กหญิงณัฐิดา อุตสาหการ 3. เดก็ หญิงศุภทัย กลนิ่ เมือง (ช่วงช้ันที่ 2) โรงเรียนบ้านละกอ นายวีรพงษ์ คุรุกจิ กาจร ผ้อู านวยการโรงเรียนบ้านละกอ อาจารย์ท่ีปรึกษา 1. นางอรณี กระจ่างโพธ์ิ ครูชานาญการพเิ ศษ 2. นางกญั ญลกั ษณ์ ศิริฐาภทั รวงศ์ ครูชานาญการพเิ ศษ รายงานนี้เป็ นส่วนหนึง่ ของกิจกรรมการเรียนการสอนสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 คานา
การจดั การเรียนการสอนวชิ า การงานอาชีพและเทคโนโลยเี ร่ือง นา้ พริกเหด็ อบสมุนไพรเกลือดาโดยไดร้ ับ แนวคดิ จากการอบรมโครงการคุณธรรม และนามาประสานแนวคิดเชิงเศรษฐกิจพอเพยี ง เรียนรู้จากผรู้ ู้อยา่ งจริงจงั ทาใหร้ ู้วา่ การเรียนที่ปฏิบตั ิจริงไมไ่ ดย้ ากเลย จึงพฒั นางานอาชีพมาเป็นงานท่ีเหมาะสมกบั เดก็ ๆ และมีความรู้ แทรกคณุ ธรรม โดยการดดั แปลงตามแนวคิดอยา่ งอิสระ และไดเ้ ผยแพร่ใหก้ บั เด็ก ๆใน ระดบั ช้นั ป.4-6 ใน โรงเรียนบา้ นละกอ เด็ก ๆใหค้ วามสนใจเป็นอยา่ งดี จึงหวงั วา่ งานอาชีพที่นาเสนอมาน้ีจะไดร้ ับความสนใจจาก ทกุ ๆคน และใหป้ ระโยชน์กบั ผทู้ ่ีตอ้ งการเรียนรู้งานอาชีพต่อไปจากการทาอาหารแปรรูป นา้ พริกเห็ดอบ สมุนไพรเกลือดาจึงไดพ้ ฒั นามาเป็นรายงานฉบบั เพอื่ เพ่ิมมูลค่าใหก้ บั การเรียนการสอนงานอาชีพและส่งเสริมใหร้ ู้คุณคา่ ของอาหารในทอ้ งถ่ินไดอ้ ีกหน่ึง ช่องทาง คณะผจู้ ดั ทา 1 กนั ยายน 2562
บทท่ี 1 บทนา 1.1 ทม่ี าและความสาคญั เพราะในชุมชนของเรามีอาหารในทอ้ งถิ่นหลายอยา่ งมากมาย ส่วนใหญจ่ ะเป็นผกั และผลไม้ ซ่ึงมาจาก บรรพบุรุษของพวกเราปลูกไวก้ ินตามฤดูกาล แต่ในชุมชนของเรามกั ไมน่ ามาต่อยอด โดยนามาคดิ ดดั แปลงเพื่อหา รายได้ ในชุมชนของเรายงั มีประชาชนส่วนมากยากจน เม่ือครูในโรงเรียนสอนงานอาชีพ นกั เรียนจึงไดค้ ดิ นาเอาอาหาร ท่ีมีในทอ้ งถิ่นมาดดั แปลงเป็นอาหารแปรรูป และทดลองจาหน่ายในชุมชน ผลเป็นที่น่าพอใจ ไดร้ ับความนิยมจากผชู้ ิม อาหารแปรรูปของพวกเรา จึงเป็นที่มาของโครงงานอาหารแปรรูป เร่ือง น้าพริกเห็ดอบสมนุ ไพรเกลือดาน้ี ซ่ึงเป็นอาหารท่ีมี ประโยชนต์ ่อร่างกายและดีต่อสุขภาพมากประกอบดว้ ยวิตามิน ซี สูงทาใหม้ ีประโยชน์ตอ่ ร่างกายมาก ดงั รายละเอียดในบทที่ 2 ต่อไป 1.2 จดุ ประสงค์ในการศึกษา 1.2.1 เพ่อื ใหเ้ ดก็ นกั เรียนรุ่นใหมเ่ กิดความสนใจในส่ิงแวดลอ้ มเกี่ยวกบั ชุมชนและ อาชีพของตนเอง 1.2.2 เพอ่ื ปรับปรุงอาหารและอาชีพในทอ้ งถ่ินใหเ้ กิดความทนั สมยั 1.2.3 เพื่อเพิ่มฝึกหารายไดเ้ พื่อเป็นอาชีพในอนาคตต่อไป 1.3 ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า 1.3.1 การเรียนรู้มาจากความสนใจในการคิดสร้างสรรคห์ าอาหารและอาชีพแปลกๆ ใหม่ ๆ แลว้ จึงไปศึกษาเรื่องอาหารและอาชีพจากบุคลากรในทอ้ งถ่ิน(ชุมชน บา้ นละกอ ต. ศรีละกอ อ. จกั ราช จ. นครรรราชสีมา) 1.3.2 ไดข้ ยายงานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธุรกิจเป็นงาน อาชีพ เพอ่ื อนาคต
บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกยี่ วข้อง 2.1 หลกั การท่วั ไป ความตอ้ งการของมนุษยไ์ ม่เคยหยดุ นิ่ง จึงทาใหเ้ กิดงานข้ึนในโลกน้ีอยา่ งมากมายจากความคิด สร้างสรรคข์ องมนุษย์ และไดอ้ ยคู่ ู่กบั คนไทยทุกยคุ ทกุ สมยั การเรียนการสอนโครงงานเพ่อื อาชีพ จึงเป็นการ เรียนการสอนเร่ืองงานท่ีเก่ียวขอ้ งกบั วิถีการดารงชีวิต จึงเป็นงานที่สมควรพฒั นาต่อยอดเป็นอยา่ งยง่ิ เพ่อื ใหค้ น เป็นงานท่ีทาใหน้ กั เรียน เรียนอยา่ งมีความสุข ทาใหม้ นุษยร์ ู้จกั หยดุ นิ่ง(ฝึกสมาธิแบบลืมตา) เป็นการฝึกอยกู่ บั งาน ท่ีตนเองรัก และทางานอยา่ งมีความสุขซ่ึงเป็นเป้าหมายชองทกุ คนตามวถิ ีพุทธธรรม 2.1.1 เกลือดา: contraindicationsประโยชน์ของเกลือดาในการทาอาหาร ในรัสเซียคนุ้ เคยกบั การใชเ้ กลือขาวท่ีคนุ้ เคย ผลิตภณั ฑถ์ กู เพิ่มลงในอาหารและเครื่องด่ืมตา่ งๆ นอกจากน้ีจากองคป์ ระกอบท่ีเป็นกลุ่มใหโ้ ซลูชนั สาหรับลา้ งช่องปากรวมท้งั ห้องอาบน้าเกลือท่ีมีสียอ้ มและ รสชาติ ในส่วนที่เหลือของประเทศที่พฒั นาแลว้ ไดล้ ะทิ้งผลิตภณั ฑค์ ลาสสิกเป็นเวลานาน Mistress ใชเ้ กลือดากนั อยา่ งแพร่หลายในทกุ ๆที่ส่วนประกอบจานวนมากถือเป็นประโยชน์อยา่ งยงิ่ ตอ่ ร่างกาย องค์ประกอบทางเคมีของเกลือดา ส่วนประกอบของโพแทสเซียมทองแดงซลั ไฟดส์ ังกะสีแมงกานีสแคลเซียมฟอสฟอรัสไอโอดีน เกลือยงั มกามะถนั เหลก็ โซเดียมคลอไรดน์ กั วทิ ยาศาสตร์ใหค้ วามสนใจเป็นพิเศษกบั ผลิตภณั ฑน์ ้ี นอกเหนือจาก องคป์ ระกอบหลกั ท่ีระบุไวใ้ นเกลือสีดาแลว้ ยงั มีสารท่ีมีประโยชน์อยู่ 90 ชนิด นอกจากน้ีองคป์ ระกอบที่เป็นกล่มุ หมายถึงผลิตภณั ฑโ์ บราณและถือเป็นของที่มีอยบู่ ริสุทธ์ิ เกลือขาวมี องคป์ ระกอบที่เป็นประโยชนเ์ พยี ง 2 ชนิดเท่าน้นั เกลือดา: ข้อบ่งชีส้ าหรับการใช้ เกลือหิมาลยั มกั ใชใ้ นการรักษาโรคต่างๆ ไดม้ ีการพิสูจน์แลว้ วา่ เป็นยาธรรมชาติและมี ประสิทธิภาพ สามารถช่วยรักษาและแกป้ ัญหาใหก้ บั คนท่ีเป็นโรคต่อไปน้ี 1. 1.น้าหนกั ส่วนเกิน 2. โรคอาหารเป็นพษิ 3. .โรคหอบหืด; 4. โรคเกาต;์
5. นอนไมห่ ลบั ความผิดปกติของการนอนหลบั 6. ภาวะมีบุตรยากหญิง; 7. โรคขอ้ เขา่ เสื่อม; 8. ระบบภูมิคมุ้ กนั อ่อนแอ 9. ความเม่ือยลา้ เร้ือรัง 10. ความดนั โลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหวั ใจ 11. โรคขอ้ อกั เสบ; 12. โรคไขขอ้ , โรคร่วม; 13. อาการปวดฟัน, ฟลกั ซ์ 14. ไขห้ วดั โรคปริทนั ต;์ 15. การอกั เสบของโพรงจมูก 16. ปัญหาเก่ียวกบั ระบบสืบพนั ธุ์แบบอาศยั เพศ 17. โรคผิวหนงั 18. แมลงกดั การรักษาด้วยเกลือดา หากคณุ ตอ้ งการเพ่มิ ส่วนผสมจานวนมากลงในอาหารและผลิตภณั ฑต์ ่างๆคณุ ตอ้ งเปล่ียนเกลือเป็น ผง นอกจากน้ีจากสารที่มกั จะทาใหก้ ารแกป้ ัญหา น้าอยา่ งแทจ้ ริงกลายเป็นคลงั เกบ็ เอนไซมท์ ่ีมีประโยชน์สาหรับ ร่างกายของเหลวอดุ มดว้ ยความหลากหลายของธาตทุ ่ีเวลาเพมิ่ ฟังกช์ นั การป้องกนั และใหค้ ่าใชจ้ ่ายสาคญั ของ ความมีชีวิตชีวา พระสงฆช์ าวทิเบตกาลงั เร่ิมตน้ วนั ใหม่ดว้ ยชาเขียว พวกเขายงั เพมิ่ จานวนเลก็ นอ้ ยของเกลือสีดา กบั เคร่ืองดื่ม การใช้นา้ เกลือ ในการรักษาและเสริมสร้างร่างกายขอแนะนาใหใ้ ชน้ ้าดว้ ยการเติมเกลือสีดา คุณยงั สามารถ ปราบปรามโรคต่างๆได้ ในการทาเช่นน้ีใหเ้ ทเกลือสีดาลงในแกว้ มาตรฐาน (250-300 มล.) องคป์ ระกอบส่วนใหญ่ควรจะประมาณ 2 ซม. เทน้าบริสุทธ์ิลงในภาชนะปิ ดฝาแกว้ ดว้ ยผา้ กอซมีการจดั การเพ่ือ ไม่ใหอ้ นุภาคตา่ งประเทศเขา้ ไปในสารละลาย ปล่อยใหอ้ งคป์ ระกอบสาหรับวนั หลงั จากต้งั เวลาดูส่วนผสม สงั เกตวา่ เกลือสีดาละลายลงในน้า ถา้ มีธญั พืชที่ดา้ นลา่ งไม่มีอะไรตอ้ งเป็นห่วง เป็นผลใหค้ ุณไดร้ ับของเหลวที่มี เน้ือหาแร่ 25% เก่ียวกบั เปอร์เซ็นตเ์ ดียวกนั มีน้าในมหาสมุทร ในกรณีท่ีมีการละลายในปริมาณมากแนะนาใหเ้ พิม่ เกลือในปริมาณเลก็ นอ้ ย รอสักครู่หน่ึงอีกคร้ัง หลงั จากการ จดั การของสารละลายควรเทลงในขวดที่มีฝาปิ ด
ดงั น้นั องคป์ ระกอบจะยงั คงเป็นเวลานานไม่จาเป็นตอ้ งเอาภาชนะในตูเ้ ยน็ สาหรับการรักษาดว้ ยวิธีน้ีคุณควรด่ืม แกว้ น้าที่กรองแลว้ 10-12 มิลลิลิตร น้าเกลือ ด่ืมยาในตอนเชา้ ขณะทอ้ งวา่ ง หลงั จากผา่ นไป 15-20 นาทีคุณ สามารถรับประทานอาหารเชา้ ได้ ผลของนา้ เกลือในร่างกาย ✓ ลดความอยากมีนิสัยไมด่ ี ✓ ฟังกช์ น่ั ธรรมชาติของร่างกายถูกเรียกคนื ; ✓ อวยั วะท่ีมีสุขภาพดี ✓ ระบบยอ่ ยอาหารปกติ ✓ โลหะหนกั , สารพษิ จะถกู ลบออก; ✓ น้าหนกั ตวั ลดลง ✓ ผิวจะงอกและอ่อนวยั ประโยชน์ของเกลือดาในการทาอาหาร องคป์ ระกอบที่เป็นท่ีนิยมในหมูค่ นท่ีนาวถิ ีชีวิตท่ีมีสุขภาพดี เกลือดามีการใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายในโลก การทาอาหารบอ่ ยคร้ังเพียง 1-2 กรัมจะถูกเพิม่ ลงในน้ามะนาวธรรมชาติ กลมุ่ องคป์ ระกอบ ซอสน้ีช่วยฟ้ื นฟูความแขง็ แรงและความสมดุลของระบบการยอ่ ยอาหาร กพ็ อที่จะโรยจานโปรดของคุณ ดว้ ยน้าเจือจางผลจะไม่ใชเ้ วลานาน เป็นสิ่งสาคญั ท่ีตอ้ งทาเป็นประจาเช่นน้ี เครื่องเทศมกั ถกู เพิม่ ลงในสลดั ที่ทาจากผลไมเ้ ท่าน้นั นกั ชิมกลา่ ววา่ เม่ือเติมซอสลงในจานมงั สวิรัติมีรสชาติของ ไขแ่ ละเตา้ หู้ บอ่ ยคร้ังท่ีเกลือหิมาลยั ผสมกบั ยห่ี ร่า ผลไมเ้ ครื่องเทศ, สลดั ถวั่ , จานไก่ตา่ งๆปรุงรสดว้ ยเคร่ืองเทศน้ี รสชาติเป็นที่น่าสนใจมากเช่ือฉนั คุณจะไม่ แยแส นอกจากน้ียงั เตรียมสลดั ท่ีผดิ ปกติซ่ึงจะถูกเพ่ิมเป็นจานดา้ น ส่วนผสมหลกั คือกลว้ ยสุกแอปเปิ้ ลและส่วนผสมของเกลือสีดากบั พริกแดง รสชาติเป็นเอกลกั ษณ์ พิจารณาวา่ ผลิตภณั ฑข์ อง Himalayan มีรสชาติเหมือนไข่เม่ือผสมกบั เคร่ืองเทศอื่น ๆ จะสูญหายไป อนั ตรายของเกลือสีดาสาหรับมนุษย์ องคป์ ระกอบที่เป็นกลุม่ เป็นผลิตภณั ฑท์ ี่ไมเ่ หมือนใครเพ่ือไมใ่ หเ้ กิดอนั ตรายต่อร่างกายมนุษยเ์ กลือมีผล ไมด่ ีถา้ คณุ เกินอตั ราการบริโภครายวนั เท่าน้นั อยา่ ใชเ้ กลือสีดาเก็บในภาชนะที่ไม่ดีที่ทาใหภ้ าชนะละลายผสมในเกลือ คุณก็จะไมไ่ ดร้ ับผลกระทบจาก ผลิตภณั ฑ์ เกลือดาเรียกวา่ เกลือหิมาลยั ขอแนะนาใหเ้ ก็บผลิตภณั ฑไ์ วใ้ นภาชนะไมห้ รือภาชนะเซรามิค ผลิตภณั ฑโ์ ลหะใด ๆ เปลี่ยนองคป์ ระกอบทางเคมีของสาร นอกจากน้ีเกลือสีดาบดควรใชเ้ ครื่องบดเซรามิคหรือ ปูนตามปกติ ใชน้ ิสยั ของการแกป้ ัญหาของเกลือและเพิม่ ผลิตภณั ฑไ์ ปยงั จานปกติ
บทที่ 3 วธิ กี ารศึกษาทดลอง คงไม่มีใครปฏิเสธวา่ น้าพริก อาหารงา่ ยๆ แบบไทยๆ จะเป็นอาหารประจาสารับท่ีติดครัวของคนไทย มาชา้ นาน เพราะรสชาติของน้าพริกท่ีมีครบ ท้งั เผด็ เคม็ หวาน เปร้ียว อยา่ งพอเหมาะ หาซ้ือง่าย หรือจะทาเองก็ไมย่ ากเกินไป น้าพริกท่ีเรารู้จกั น้นั มีมากมายหลายชนิด ในคร้ังน้ีขอแนะนา \"นา้ พริกเหด็ อบสมนุ ไพร เกลือดา \" เครื่องปรุง 1. พริกแหง้ เม็ดใหญ่ 10 เมด็ 2. เห็ดนางฟ้า 1 กิโลกรัม 3. ตะไคร้ 20 ตน้ 4. ใบมะกรูด 15 ใบ 5. เกลือดาป่ นคร่ึงชอ้ นชา 6. น้ามะขามเปี ยก 1 ชอ้ นโต๊ะ 7. น้ามนั พืชสาหรับทอด 2 ถว้ ย 8. แคบเจ หรือหมหู ยอ่ ง ปลาแหง้ กงุ้ แหง้ ตามใจผบุ้ ริโภค
บทที่ 4 ผลการศึกษา ผลการศึกษาและทดลองปฏิบตั ิจริง ปรากฏวา่ การเรียนรู้อาหารแปรรูป จากอาหารในทอ้ งถ่ิน วธิ ีการทาน้าพริกเห็ดอบสมุนไพรเกลือ ดา ผลดีมากไดร้ ับความนิยมอยา่ งมากจาก ผชู้ ิมท้งั หลาย ครูและนกั เรียนจึงไดร้ ่วมมือกนั สานตอ่ โดยทาเป็น ผลิตภณั ฑเ์ พ่ือนาไปขายหารายได้ เพือ่ ฝึกประสบการณ์ในการประกอบอาชีพต่อไป ไดร้ ับความร่วมมือเป็นอยา่ งดีจากชุมชน ไดค้ วามสัมพนั ธ์ ระหวา่ งนกั เรียน โรงเรียน ชุมชน ผปู้ กครองเป็นอยา่ งดี เพราะนกั เรียนไดใ้ กลช้ ิดกบั ผปู้ กครองโดยการทางานร่วมกนั ท้งั ขอความร่วมมือเรื่อง วสั ดุในทอ้ งถ่ิน คอื พริกแหง้ และความรู้วธิ ีการทาน้าพริกใหอ้ ร่อย นอกจากน้ียงั ไดม้ ีความรู้เกี่ยวกบั อาหาร ชนิดอื่นๆ อีกมากมาย การทาอาหารแปรรูป น้าพริกเห็ดอบสมุนไพรเกลือดาเป็นประโยชนแ์ ก่พวกเรา แก่โรงเรียนได้ อยา่ งแทจ้ ริง ทาใหพ้ วกเรา รักการทางาน รู้จกั ทางานแลว้ เก็บอุปกรณ์ ทางานอยา่ งเนน้ ความสะอาด และมี ความม่งุ มน่ั ในงานเพื่อใหง้ านสาเร็จ พวกเราจึงไดเ้ ผยแพร่ใหแ้ ก่เด็กนกั เรียนช้นั อื่น ๆ ต่อไปจนทาใหเ้ ดก็ นกั เรียนช้นั อ่ืนๆ อยากชิม น้าพริกและอยาก ทาอาหารแปรรูปชนิดอ่ืนๆ ต่อไป ทาใหน้ กั เรียน ของโรงเรียนบา้ นละกอมีความ กระตือรือร้น รักในงานอาชีพสุจริต และรักทอ้ งถิ่นของพวกเรา ผลการศึกษาค้นคว้า - ทาใหเ้ ด็กนกั เรียนรุ่นใหม่เกิดความสนใจในส่ิงแวดลอ้ มเกี่ยวกบั ชุมชนของตนเอง - เป็นการปรับปรุงอาหารในทอ้ งถิ่นใหเ้ กิดความทนั สมยั - เป็นการเพิ่มประสบการณ์ฝึกวธิ ีการหารายไดเ้ พ่ือเป็นอาชีพในอนาคตตอ่ ไป - เป็นการเรียนรู้มาจากความสนใจ การคิดสร้างสรรคห์ าอาหารปลกๆ ใหม่ ๆ แลว้ จึงไปศึกษาวิธีการประกอบอาหารจากบุคลากรในทอ้ งถิ่น - เป็นการขยายงานอาชีพ เพื่ออนาคต
บทท่ี 5 สรุปผลการศึกษา 5.1 สรุปผลการศึกษา( ข้อดี ข้อเสีย) 5.1.1 ข้อดี - ได้ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชน(ฆาวาสธรรม) และพฒั นาความสัมพนั ธ์ระหว่างผู้ปกครองและ นักเรียน - ได้ผลงานที่งานอาชีพ อาหารแปรรูป น้าพริกเห็ดอบสมุนไพร เกลือดา เป็ นของท้องถ่ิน (อทิ ธิบาท 4) - ได้พฒั นางานอาชีพอื่นๆ ที่เหมาะสมกบั การใช้งานในปัจจบุ ันจริง - ได้เผยแพร่งานอาหารแปรรูปให้แก่นักเรียนช้ันอื่น ๆ ต่อไป - ได้ปลูกฝังความรัก (ฉันทะ) ในงานอาชีพให้แก่นักเรียนรุ่น ต่อๆ ไป 5.1.2 ข้อเสีย - หาพริกท่ดี ๆี ยาก ส่วนมากจะมรี า เดก็ ได้ฝึ กการทาใจไม่รังเกยี จส่ิงเน่า (นวิ รณ์ 5 ) 5.2 อภิปรายผลการศึกษา จากการศึกษาและทดลองปฏิบตั ิจริงมาทาใหไ้ ดร้ ู้ถึงวิถีชีวิตของคนปัจจุบนั วา่ มีนิสยั ง่ายง่าย ไม่ยงุ่ ยากอะไร มีอะไรในชุมชนกส็ ามารถนามาประกอบอาหารได้ จึงสมควรที่จะเนน้ ใหเ้ ดก็ นกั เรียนรุ่นใหม่หันมาสนใจงานอาชีพดา้ นอื่นๆ ใหม้ าก และจาการเรียนรู้ คร้ังน้ีปรากฎวา่ มี นกั เรียนบางส่วนท่ีใหค้ วามสนใจจริง เกิดการพฒั นางานอาชีพทาใหเ้ กิดความทนั สมยั เพ่อื แขง่ ขนั ระดบั สากลต่อไป
5.3 ประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการทารายงานนี้ ทางด้านการศึกษา - นกั เรียนไดค้ ิดคน้ ควา้ หาความรู้ในวิธีการประกอบอาหารต่าง ๆ จากชุมชน และ จากหนงั สือ - นกั เรียนไดฝ้ ึกคดิ ประดิษฐ์ผกั ผลไมใ้ หส้ วยงามเพือ่ ประกอบผลงานคอื น้าพริกทา ใหไ้ ดฝ้ ึกความปราณีตใหเ้ กิดเป็นนิสยั ติดตวั ไปได้ - นกั เรียนไดค้ วามรู้ในกระบวนการของการทารายงาน - นกั เรียนไดป้ ฏิบตั ิจริง ไดป้ ระสบการณ์ ไดฝ้ ึกกระบวนการแกป้ ัญหา ทาใหเ้ กิด ปัญญาและมีทกั ษะในการแกป้ ัญหาอื่นๆ ทางด้านเศรษฐกจิ - สามารถนาไปใชใ้ นครอบครัวไดจ้ ริงทาใหป้ ระหยดั เงินในการซ้ือ - สามารถพฒั นาเป็นอาชีพเสริมรายไดใ้ นครอบครัวได้ - สามารถรวมกลมุ่ ผลิตผลงานเป็นผลงานระดบั ตาบล ระดบั อาเภอ ระดบั จงั หวดั และยงิ่ ๆข้นึ ระดบั ประเทศได้ ทางด้านวัฒนธรรม - เป็นงานท่ีโลกช่วยสังคมทางออ้ ม คือ ช่วยใหน้ กั เรียนชอบกินผกั ทาใหไ้ ม่ เจบ็ ป่ วยง่าย - เป็นการส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่หนั มาสนใจ แ นาทางสุขภาพเพ่มิ ข้ึน - เป็นงานที่สามารถประยคุ ใหเ้ ขา้ กบั ความตอ้ งการของคนรุ่นใหมไ่ ดอ้ ยา่ งดี 5.4 อุปสรรค์/ ข้อเสนอแนะ 5.4.1 ปัญหาและอปุ สรรค์ - ปัญหางานอาชีพเป็นงานที่ตอ้ งมีความคิดสร้างสรรค์ และความอดทนสูง จึง หานกั เรียนท่ีทางานน้ีไดย้ าก 5.4.2 ข้อเสนอแนะ
- งานอาชีพ อาหารแปรรูป ยงั มีผทู้ ่ีสนใจนอ้ ย เม่ือเทียบกบั จานวนนกั เรียนท้งั หมด ผทู้ ่ีเห็นความสาคญั ในงานอาชีพควรจะพฒั นางานต่อไปควรหาวธิ ี การส่งเสริม จุดเร้าใจใหเ้ ด็กยงิ่ ๆข้นึ ไป ภาพกิจกรรม PLC ขน้ั การเปิดชนั้ เรยี นและประชมุ สะท้อนผลการเปดิ ชนั้ เรียน ภาพนักเรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมระหวา่ งการเปดิ ชน้ั เรียนในกิจกรรม PLC ภาพสมาชิกเขา้ รว่ มสังเกตการเปิดชนั้ เรยี นในกิจกรรม PLC ภาพสมาชกิ เข้าร่วมประชุมสะท้อนการเปิดชน้ั เรียนในกจิ กรรม PLC
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: