Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สัทศาสตร์ภาษาจีน(汉语语音)

สัทศาสตร์ภาษาจีน(汉语语音)

Published by ขวัญฤทัย ไพรผาธรรม, 2019-09-17 03:35:40

Description: หนังสือประกอบการเรียน สัทศาสตร์ภาษาจีน(汉语语音)
-อวัยวะการออกเสียงภาษาจีน(音声器官)
-พยัญชนะ (声母)
-สระ(母音 )
-วรรณยุกต์(声调)

Keywords: Chinese,phonetic

Search

Read the Text Version

รายวชิ า สัทศาสตร์ภาษาจนี ( 汉语语音)

ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย ช้ันปี ท่ี 4

เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า สัทศาสตร์ภาษาจีน 汉语语音 ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4 ชื่อ-สกลุ ...................................................................... ช้ัน..............................เลขที่......................................... โรงเรียน SARANG INTERNATTONAL SCHOOL THAILAND จดั ทาโดย นางสาวขวญั ฤทยั ไพรผาธรรม (ตาแหน่งครูภาษาจีน)

คานา เอกสารประกอบการสอนรายวิชาสัทศาสตร์ภาษาจีน(汉语语音)จดั ทาข้ึน สาหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4ซ่ึงมีเน้ือหาเก่ียวกบั การออกเสียงในภาษาจีนและอธิบายถึง ส่วนประกอบของพยางค์เสียงภาษาจีน การใชอ้ วยั วะในช่องปาก หน่วยเสียงพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนสามารถอ่านออกเสียงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ขวญั ฤทยั ไพรผาธรรม (ตาแหน่งครูภาษาจีน) ผจู้ ดั ทา

สารบญั หนา้ ก เรื่อง ข คานา 7 สารบญั 8 บทท่ี 1 อวยั วะการออกเสียงภาษาจีน(音声器官) 9-11 12 ภาพแสดงอวยั วะส่วนที่มีหนา้ ท่ีโดยตรงในการออกเสียงพดู 13 อวยั วะส่วนท่ีมีหนา้ ที่โดยตรงในการออกเสียงพดู 14 แบบทดสอบ 15 บทที่ 2 พยญั ชนะ (声母) 16-17 ตวั อกั ขระละติน 18-24 ระบบเสียงภาษาจีนมีพยญั ชนะตน้ 23 หน่วยเสียง 25-26 การแยกใชล้ กั ษณะเด่นในการออกเสียงอวยั วะภายในช่องปาก 27 ลกั ษณะเสียงและการออกเสียงพยญั ชนะ 28 แบบทดสอบ 28-31 บทท่ี 3 สระ(母音 ) สระของภาษาจีนกลางประกอบดว้ ย สระเด่ียว

สารบัญ(ต่อ) หนา้ 31-32 เร่ือง 32-33 สระเดี่ยวพิเศษ 34-35 สระประสม 2เสียง แบบทดสอบ 36 สระประสม 3 หน่วยเสียง 36-37 สระผสมนาสิกในภาษาจีนมี 16 เสียง 38-39 แบบทดสอบ 40 บทท่ี 4 วรรณยกุ ต(์ 声调) 41 เสียง วรรณยกุ ต์ 声调 41-42 เสียงวธิ ีการเติมวรรณยกุ ต์ 43 แบบทดสอบ บรรณานุกรม

บทที่๑ อวยั วะการออกเสียงภาษาจนี 音声器官 จุดประสงค:์ เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั อวยั วะการออกเสียงใน ภาษาจีนไดถ้ ูกตอ้ งและสามารถนาไปใชไ้ ด้

บทที่๑ (第一课) อวยั วะการออกเสียงภาษาจนี 音声器官 ภาพแสดงอวยั วะส่วนทม่ี หี น้าทโ่ี ดยตรงในการออกเสียงพูด 1. ริมฝีปาก 5.เพดานอ่อน 9.โคนลิ้น 13.ลาคอ คอหอย 16.ช่องปาก 2. ฟัน 6.ลิ้นไก่ 10.ช่องคอ 14.หลอดลม 17.ช่องจมกู 3. ป่ ุมเหงือก 7.ปลายลิน้ 11.ลิน้ กล่องเสียง/ลิ้นปิ ดกล่องเสียง 4. เพดานแขง็ 8.หนา้ ลิ้น 12.เส้นเสียง 15.หลอดอาหาร

อวยั วะส่วนทมี่ หี น้าทโี่ ดยตรงในการออกเสียงพดู มีดังต่อไปนี้ 1. ริมฝี ปาก เป็นอวยั วะส่วนที่สามารถเคล่ือนไหวไดม้ ากและทาใหเ้ สียงแตกต่างกนั ไดม้ าก เราอาจจะบงั คบั ริม ฝีปากใหอ้ ยชู่ ิดกนั ห่างกนั ยนื่ ออกมาหรือห่อกลมทาเป็นรูปรี หรืออ่ืน ๆ ก็ได้ ลกั ษณะริมฝี ปากต่าง ๆน้ีลว้ นแต่ มีอิทธิพลต่อการออกเสียงและการทาใหเ้ สียงแตกตา่ งกนั ไปท้งั สิ้น 2. ฟัน เป็ นอวยั วะท่ีเกิดของเสียงหลายชนิดเช่น เม่ือฟันบนกดลงบนริมฝี ปากล่างหรือกดกนั ฟันล่างลมท่ีผา่ น ออกมาโดยแรงจะลอดช่องท่ีพอจะผา่ นไดอ้ อกมา ทาใหเ้ กิดเป็นเสียงชนิดที่เรียกวา่ เสียงเสียดแทรกท่ีเกิดที่ฟัน บา้ ง เกิดท่ีระหวา่ งฟันบา้ ง นอกจากน้ีเน่ืองจากปลายลิ้นอยใู่ กลก้ บั ฟัน ปลายลิ้นซ่ึงมกั จะทาอาการต่าง ๆบริเวณ หลงั ฟันบ่อย ๆ ทาใหเ้ กิดเสียงท่ีเรียกวา่ เสียงเกิดท่ีฟัน 3. ป่ ุมเหงอื ก เป็นส่วนนูนออกมาอยหู่ ลงั ฟันดา้ นบน ถา้ เอาลิ้นแตะดูจะรู้สึกวา่ มีลกั ษณะเป็ นคลื่น ป่ ุมเหงือกน้นั เป็ นคล่ืน ป่ ุมเหงือกเป็ นบริเวณท่ีเกิดเสียงป่ ุมเหงือก ป่ ุมเหงือกเป็ นตาแหน่งสาคญั ในการอธิบายเร่ืองเสียง ตาแหน่งหน่ึง 4. เพดานแข็ง หรือเพดานปาก หมายถึงเฉพาะเพดานท่ีโคง้ เป็ นกระดูกแข็ง เป็ นตาแหน่งสาคญั อีกตาแหน่ง หน่ึงในการอธิบายท่ีเกิดเสียงตาแหน่งหน่ึง 5. เพดานอ่อน คือส่วนของเพดานที่อยตู่ ่อจากเพดานแขง็ ไปขา้ งใน มีลกั ษณะเป็ นกระดูกอ่อนท่ีขยบั ข้ึนลงได้ เวลาหายใจเพดานอ่อนและลิ้นไก่ซ่ึงอยู่ปลายเพดานอ่อนจะลดระดบั ลงมาเป็ นช่องให้ลมออกไปทางจมูก ฉะน้นั เวลาท่ีเราไม่พูด ปลายเพดานอ่อนและลิ้นไก่จะลดระดบั ลงมา เวลาพูดส่วนใหญ่ปลายเพดานอ่อนและ ลิ้นไก่จะถูกยกข้ึนไปจรดกบั หลงั คอ นอกจากเวลาออกเสียงนาสิกเท่าน้นั ท่ีเพดานจะลดระดบั ลงมา

6. ลนิ้ ไก่ เป็นกอ้ นเน้ือเลก็ ๆอยตู่ ่อปลายเพดานอ่อนตรงกลางปาก ส่ันรัวได้ 7. ลนิ้ ลิ้นเป็นส่วนที่เคล่ือนไหวมากท่ีสุดในการออกเสียงพดู จึงตอ้ งแบ่งออกเป็ นสามส่วนดว้ ยกนั ตามหนา้ ท่ี ท่ีมีในการออกเสียง ปลายลนิ้ หมายเอาส่วนปลายซ่ึงสามารถจะยกข้ึนไปแตะอวยั วะส่วนตา่ ง ๆในปากตอนบนไดโ้ ดยง่าย หน้าลนิ้ หมายเอาส่วนที่อยตู่ รงขา้ มกนั เพดานแขง็ ถา้ วางลิ้นราบกบั ปากอยา่ งในขณะที่ไมไ่ ดพ้ ดู โคนลนิ้ หมายเอาส่วนของลิ้นซ่ึงถา้ วางลิ้นราบกนั ตามปกติจะอยตู่ รงขา้ มกบั เพดานอ่อน 8.เส้นเสียง เป็ นอวยั วะท่ีสาคญั ที่เกิดของเสียง เส้นเสียงมีลกั ษณะเป็ นกลา้ มเน้ือสองแผน่ ปิ ดขวางอยปู่ ากช่อง หลอดลมจากดา้ นหลงั มาดา้ นหนา้ ระหวา่ งเส้นเสียงจะมีช่องวา่ งซ่ึงเป็ นทางให้ลมผา่ นเขา้ ไปถึงปอดและออก จากปอดได้ ช่องวา่ งน้ีเรียกวา่ ช่องวา่ งระหวา่ งเส้นเสียง เส้นเสียงท้งั สองสามารถจะดึงออกให้ห่างจากกนั หรือ ดึงเขา้ มาชิดกนั ก็ได้ เส้นเสียงเป็นส่วนทาใหเ้ กิดเสียงพดู 9.ช่องคอ ช่องคอหรือช่องทางเดินของอากาศท่ีอยูด่ า้ นหลงั ของโคนลิ้น ในบางภาษารูปร่างของช่องคอน้ีจะ แปรผนั ไปเพือ่ ใหค้ ุณภาพเสียงท่ีเปล่งออกมามีลกั ษณะตา่ งๆ 10.ช่องจมูกหรือโพรงจมูก หมายถึงโพรงในช่องจมูกซ่ึงอยู่เหนือลิ้นไก่ข้ึนไปเป็ นช่องที่ลมซ่ึงผ่านเส้นเสียง ข้ึนมาจะผ่านออกไปทางจมูกไดเ้ มื่อเวลาหายใจและเวลาออกเสียงนาสิก ในเวลาพูดเสียงอื่น ๆลิ้นไก่จะถูก ยกข้ึนปิ ดช่องจมกู เพอ่ื ใหล้ มออกมาทางปาก 11.หลอดลม เป็นช่องทางเดินของอากาศท่ีเชื่อมโยงระหวา่ งกล่องเสียงไปยงั ปอด โดยการเช่ือมโยงของท่อลม เลก็ ๆในปอด ขณะที่มีการกินอาหารหรือการกลืนอาหาร ช่องทางเขา้ หลอดลมจะถูกปิ ดโดย ลิ้น กล่องเสียง ซ่ึง จะช่วยป้ องกนั ไมใ่ หเ้ กิดอาการสาลกั อนั เนื่องมาจากอาหารตกลงไปในหลอดลม

12.กล่องเสียง กล่องเสียงเป็ นอวยั วะท่ีอยู่ตอนบนสุดของหลอดลมมีความซับซ้อนภายในตวั กล่องเสียง ประกอบดว้ ยกระดูกอ่อนหลายชิ้นจดั ตวั เรียงกนั อยใู่ นลกั ษณะช่วงบนกวา้ ง ช่วงล่างแคบ ยึดติดกนั โดยเอ็น พงั ผดื กลา้ มเน้ือและขอ้ ตอ่ 13.เส้นเสียง มีบทบาทมากในการทาใหเ้ กิดเสียงพดู ในภาษา มีลกั ษณะที่เป็ นกลา้ มเน้ือคู่พิเศษ ซ่ึงประกอบดว้ ย แผน่ เน้ือเยอ่ื และเอน็ วางพาดอยใู่ นแนวนอน แถบช่วงกลางของกล่องเสียง ซ่ึงไม่มีบทบาทในการเปล่งเสียงพดู ตามปกติ แตส่ ามารถเปิ ดปิ ดได้ เพื่อกนั ไม่ใหอ้ ากาศออกจากหลอดลม เส้นเสียงจะทางานในรูปแบบต่างๆกนั ทาใหเ้ กิดเสียงตา่ งๆโดยทวั่ ไปการทางานของเส้นเสียงจะข้ึนอยกู่ บั รูปแบบของการส่ันของเส้นเสียงเป็ นสาคญั เปรียบเหมือนเครื่องสายลกั ษณะต่างๆผหู้ ญิงจะมีเส้นเสียงท่ีส้ันและเล็กกวา่ ผชู้ าย กล่าวคือ เสียงผหู้ ญิงจะสูง กวา่ เสียงผชู้ าย

แบบฝึ กหัด (练习) จงเตมิ หมายเลขให้ตรงกบั ส่วนอวยั วะการออกเสียงในรูปภาพดงั ต่อไปนี้ 1.ป่ ุมเหงือก………………… 6.ปลายลิ้น…………….. 2.ริมฝีปาก………………… 7.ฟัน…………………. 3.เพดานแขง็ ………………… 8.ลิน้ ไก่………………. 4.เพดานออ่ น……………… 9.เสน้ เสียง……………. 5.โคนลิน้ …………………. 10.หลอดอาหาร…………

บทท2่ี (第二课) พยญั ชนะ 声母 จุดประสงค:์ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจพยญั ชนะในภาษาจีน :เพ่ือใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจในระบบเสียงภาษาจีน

บทท2่ี (第二课) พยญั ชนะ 声母 ตวั อกั ขระละตนิ 拉丁字母 大写字母 M A B CD EFG H I J K L Z N O PQ R S T U V W X Y 小写字母 a bcd e f g h i j k l m npq r s t uv w x y z

声母 ระบบเสียงภาษาจนี มพี ยญั ชนะต้น 23 หน่วยเสียง b(ป) p (พ) m (ม) f (ฟ) d (เตอ) t(เทอ) n(เนอ) l (เลอ) g(เกอ) k(เคอ) h(เฮอ) j(จ)ี q(ชี) x(ซี) z(จอื ) c(ชือ) s(ซือ) zh จรือ(อ่านเป็ นเสียงเดยี ว) ch ชรือ(อ่านเป็ นเสียงเดยี ว) sh ซรือ(อ่านเป็ นเสียงเดยี ว) r ยรือ(อ่านเป็ นเสียงเดยี ว) y(ย)ี w(อู ) ng(ง)

การแยกใช้ลักษณะเด่นในการออกเสียงอวยั วะภายในช่องปาก พยญั ชนะ เทียบเสียง ลกั ษณะเด่นในการออกเสียง b ปัว เสียงเกิดจากริ มฝี ปาก p พวั m มวั เสียงเกิดจากปลายลิ้น f ฟัว d เตอ เสียงเกิดจากโคนลิ้น t เทอ เกิดจากหนา้ ลิ้น n เนอ l เลอ เสียงเกิดจากดา้ นหนา้ ปลายลิน้ g เกอ เสียงเกิดจากดา้ นหลงั ปลายลิ้น k เคอ h เฮอ j จี q ชี x ซี z จือ c ชือ s ซือ zh จือ ch ชือ sh ซือ

r ยรือ เสียงเกิดจากดา้ นหลงั ปลายลิ้น yย ริ มฝี ปากฉีก wว ริ มฝี ปากกลม ng ง เสียงนาสิก

ลกั ษณะเสียงและการออกเสียงพยญั ชนะ หน่วยเสียงพยญั ชนะในภาษาจีนแยกเป็นกลุม่ ตามตาแหน่งท่ีเกิดเสียงท่ีต่างกนั มี7 ลกั ษณะไดแ้ ก่ 1. ริมฝีปาก 2. ริมฝีปากล่างกนั ฟันบน 3. ปลายลิ้น(ลิ้นส่วนหนา้ ) 4. โคนลิ้น(ลิ้นส่วนหลงั ) 5. หนา้ ลิ้น(ลิ้นส่วนกลาง) 6. ปลายลิ้นแตะเพดานแขง็ 7. ปลายลิ้นกบั ป่ ุมเหงือก 1. ริมฝี ปาก หมายถึงริมฝี ปากท้งั บนและล่างที่ใชเ้ ป็ นอวยั วะสาคญั ในการออกเสียงพยญั ชนะที่เกิดที่ริมฝี ปาก3หน่วยเสียง คือ b p m b ระเบิด ไม่กอ้ ง ไม่มีลม วธิ ีออกเสียง ปิ ดริมฝี ปากแน่น กกั ลมไว้ เพดานอ่อนปิ ดช่องจมูกสกดั ไม่ให้ลมผา่ น เปิ ดริมฝี ปากออก อยา่ งรวดเร็ว ปล่อยลมออกทางปาก เส้นเสียงไมส่ ั่น ทว่ั ไปเรียกวา่ เสียงไมพ่ น่ ลม

p ระเบิด ไมก่ อ้ ง มีลม วิธีออกเสียง ข้นั ตอนเหมือนหน่วย b ต่างกนั ตรงขณะที่เปิ ดริมฝี ปาก น้นั จะมีลมแทรกออกทางปาก หน่วยเสียงน้ีจะเป็นเสียงที่มีลมซ่ึงตรงกนั ขา้ มกบั เสียงหน่วยเสียง b ท่ีไมม่ ีลม ทว่ั ไปเรียกวา่ เสียงพน่ ลม m นาสิก เสียงกอ้ ง วิธีออกเสียง ริมฝี ปากปิ ดแน่น กกั ลมไวใ้ นช่องปาก เพดานอ่อนลด ต่าลงมาปิ ดช่องจมูก เปิ ดให้ลม ผา่ นทางช่องจมูก เส้นเสียงสั่น 2. ริมฝี ปากล่างกนั ฟันบน หมายถึง หน่วยเสียงท่ีเกิดจากริมฝี ปากล่างแยกข้ึนแตะกบั ฟันบนก่อนออกเสียง หน่วยเสียงพยญั ชนะ ในภาษาจีนที่เกิดจากฐานน้ีมีหน่วยเสียงดว้ ยกนั คือ f f เสียงแทรก ไม่กอ้ ง วิธีออกเสียง ริมฝี ปากล่างยกข้ึนแตะกบั ฟันบน ลมแทรกออกมาระหว่างกลางเพดานอ่อนยกข้ึนปิ ด ช่องจมกู กกั ไมใ่ หล้ มผา่ นออกไปเส้นเสียงไมส่ ่นั 3. ปลายลนิ้ (ลนิ้ ส่วนหน้า) หมายถึง หน่วยเสียงที่เกิดข้ึนโดยมีฐานท่ีเกิดคือปลายลิ้นแตะกับบริเวณป่ ุมเหงือก หน่วยเสียง พยญั ชนะในภาษาจีนที่เกิดจากฐานน้ีมีหน่วยเสียงดว้ ยกนั คือ d t n l

d ระเบิด ไมก่ อ้ ง ไมพ่ ่นลม วิธีออกเสียง ปลายลิ้นแตะป่ ุมเหงือก ดนั เพดานอ่อนปิ ดช่องจมูก กกั ลมไม่ใหผ้ า่ นออกทางจมูก เวลา ออกเสียงมีลมบางส่วนถูกดนั ออกมาทางปลายลิ้นเส้นเสียงไมส่ ัน่ t ระเบิด ไม่กอ้ ง มีลม วธิ ีออกเสียง ข้นั ตอนการออกเสียง เหมือนเสียง d แตต่ า่ งกนั ท่ีเสียง tมีลมปล่อยออกมา n นาสิก กอ้ งเสียง วธิ ีอออกเสียง ปลายลิ้นแตะป่ ุมเหงือก ดนั เพดานอ่อนลดลงเปิ ดช่องจมูกให้ลมออกไปทางช่องจมูก เส้นเสียงส่ัน l เสียงขา้ งลิ้น กอ้ ง วธิ ีออกเสียง ปลายลิ้นแตะป่ ุมเหงือก ดนั เพดานอ่อนปิ ดช่องจมูกกกั ลมไม่ให้ผา่ นออกไปกนั ลมออก ทางปากผา่ นทางขา้ งลิ้น เสียงน้ีจึงเรียกวา่ เสียงขา้ งลิ้น 4. โคนลนิ้ (ลนิ้ ส่วนหลงั ) หมายถึงหน่วยเสียงที่เกิดจากฐานโคนลิ้นกบั เพดานอ่อน หน่วยเสียงพยญั ชนะในภาษาจีนท่ีเกิดจาก ฐานน้ีมีดว้ ยกนั 3หน่วยเสียงคือ g k h n g

g ระเบิด ไม่กอ้ ง ไม่พน่ ลม วธิ ีออกเสียง โคนลิ้นยกข้ึนแตะเพดานอ่อน ดนั ลิ้นไก่ปิ ดช่องจมกู กกั ไมใ่ หล้ มผา่ นออกไปทางจมกู ปล่อยโคนลิ้นจากเพดานอ่อนพร้อมกบั ดนั ลมปล่อยออกมา เส้นเสียงไมส่ น่ั k ระเบิด ไม่กอ้ ง มีลม วธิ ีออกเสียง ข้นั ตอนการออกเสียงน้ีเหมือน g แตกต่างกนั เพียงการออกเสียง k ขณะท่ีโคนลิ้นแยกจาก เพดานอ่อน เส้นเสียงไม่สัน่ h เสียดแทรก ไม่กอ้ ง วธิ ีออกเสียง โคนลิ้นยกใกลข้ ้นึ เพดานออ่ น เกิดเป็นช่องแคบๆ ดนั ลิ้นไก่ปิ ดช่องจมูกดนั ลมผา่ นช่อง แคบระหวา่ งโคนลิ้นกบั เพดานออ่ น เส้นเสียงไม่ส่นั ng นาสิก กอ้ ง วธิ ีออกเสียง ข้ึนตอนการออกเสียงน้ีเหมือน k g แตกต่างกนั เพียงการออกเสียง ng เพดานออ่ นลดลง เปิ ดช่องจมูกใหล้ มออกไปทางช่องจมูก เส้นเสียงส่นั หน่วยเสียงน้ีปรากฏเฉพาะทา้ ยพยางคเ์ ท่าน้นั 5.หน้าลนิ้ (ลนิ้ ส่วนกลาง) หมายถึง ส่วนกลางลิ้นยกข้ึนไปแตะเพดานแข็งก่อนท่ีจะเกิดเป็ นเสียงพยญั ชนะ หน่วยเสียงพยญั ชนะ ในภาษาจีนที่เกิดจากฐานน้ีมีดว้ ยกนั 3หน่วยเสียง คือ j q x

j ก่ึงเสียดแสร้ง ไม่กอ้ ง มีลม วธิ ีออกเสียง ยกหนา้ ลิ้นแตะเพดานแข็ง กนั ลิ้นไก่ปิ ด ช่องจมูกกกั ไม่ให้ลมผา่ น ออกไปปล่อยลิ้นให้ ห่างจากเพดานแขง็ เล็กนอ้ ย เพื่อให้มีช่องระหวา่ งหนา้ ลิ้นกบั เพดานแขง็ ดนั ลมให้ออกทางหนา้ ลิ้นกบั เพดาน แข็ง ดนั ใหอ้ อกทางหนา้ ลิ้นกบั เพดานแขง็ ปลายลิ้นดนั ดา้ นหลงั ฟันล่าง เสียงท่ีเกิดจะเป็ นเสียงกกั ในช่วงแรก แลว้ เป็นเสียงเสียดแทรกในช่วงที่สอง คือช่วงที่ลมถูกดนั ออกมาตรงบริเวณช่องแคบระหวา่ งหนา้ ลิ้นกบั เพดาน แขง็ ลกั ษณะน้ีเรียกวา่ เป็นเสียงก่ึงเสียดแทรกเส้นเสียงไม่ส่ัน q ก่ึงเสียงแทรก ไม่กอ้ ง มีลม วิธีออกเสียง ยกหนา้ ลิ้นแตะเพดาน เพดานอ่อนยกปิ ดช่องจมูกกนั ลมออกทางปากเบียดผา่ นช่องแคบ ระหวา่ งลิ้นกบั เพดานแขง็ กกั ลมไวท้ ี่ปลายลิ้นส่วนหน้า ออกเสียงเหมือน j แต่ตอ้ งพ่นลมแรงกวา่ เป็ นเสียง เสียดแรก เส้นเสียงไมส่ น่ั x เสียดแทรก ไมก่ อ้ ง วิธีออกเสียง ยกหนา้ ลิ้นชิดเพดานแข็ง เพดานอ่อนยกปิ ดช่องจมูก กนั ลมออกทางปากเบียดผา่ นช่อง แคบระหวา่ งช่องแคบระหวา่ งลิ้นกบั เพดานแขง็ ทาใหเ้ ป็นเสียงเสียดแทรก เส้นเสียงไม่ส่นั 6.ปลายลนิ้ แตะเพดานแขง็ หมายถึง ปลายลิ้นบนยกข้ึนไปแตะส่วนหน้าของเพดานแข็ง สียงท่ีเกิดข้ึนเป็ นเสียงท่ีเกิดระหว่าง ปลายลิ้นกบั เพดานเสียงพยญั ชนะท่ีเกิดในฐานนี่มี4เสียงคือ zh ch sh r

zh ก่ึงเสียดแทรก ไมก่ อ้ ง ไม่พน่ ลม วิธีออกเสียง ยกปลายลิ้นข้ึนแตะเพดานแข็ง กกั ลมไวห้ ลงั สิ้น ปล่อยลิ้นเล็กนอ้ ย เกิดเป็ นช่องแคบๆ เพ่ือให้ลมเบียดผ่านออกไปช่องปากจะเกิดเป็ นเสียงกกั ในช่วงแรกและเป็ นเสียงเสียดแทรกในช่วงที่สอง เรียกวา่ เสียงก่ึงเสียดแทรก เส้นเสียงไม่ส่นั ch ก่ึงเสียดแทรก ไมก่ อ้ ง มีลม วิธีออกเสียง ข้ึนตอนการออกเสียงเหมือน zh เพียงแต่ขณะท่ีลดปลายลิ้นลงเพ่ือออกน้นั จะมีกลุ่มลม พงุ่ ออกมา จึงเป็นเสียงก่ึงเสียดแทรกท่ีมีลม เส้นเสียงไม่สนั่ sh เสียดแทรก ไมก่ อ้ ง วธิ ีออกเสียง ยกปลายลิ้นข้ึนไปชิดเพดานแขง็ ดนั เพดานอ่อนปิ ดช่องจมูกดนั ลมออกมาทางปากแทรก ผา่ นช่องแคบๆ ระหวา่ งปลายลิ้นกบั เพดานแขง็ เส้นเสียงไม่ส่นั r เสียดแทรก เสียงกอ้ ง วธิ ีออกเสียง ข้นั ตอนการอออกเสียงคลา้ ยหน่วยเสียง sh ต่างกนั ที่หน่วยเสียง r ขณะออกเสียงเส้นเสียง จะสัน่ สะบดั แต่เวลาออกเสียง sh เส้นเสียงไม่ส่นั 7.ปลายลนิ้ กบั ป่ ุมเหงอื ก หมายถึงเสียงที่เกิดจากปลายลิ้นแตะป่ ุมเหงือกหน่วยเสียงพยญั ชนะของภาษาจีนที่เกิดจากฐานน้ีมี3 หน่วยเสียง คือ z c s

z ก่ึงเสียดแทรก ไม่กอ้ ง ไม่มีลม วธิ ีออกเสียง ปลายลิ้นแตะป่ ุมเหงือกดา้ นหลงั ฟันบน เพดานอ่อนปิ ดช่องจมูกกกั ลมไม่ให้ผา่ นออกไป ปล่อยลิ้นออกเลก็ นอ้ ยเพอื่ ใหเ้ ป็ นช่องแคบๆระหวา่ งป่ ุมเหงือกกบั ปลายลิ้น ดนั ลมใหแ้ ทรกออกมา เสียงน้ีเป็ น เป็นเสียงกกั ในช่วงแรกเป็นเสียงเสียดแทรกในช่วงหลงั c ก่ึงเสียดแทรก ไมก่ อ้ ง มีลม วิธีออกเสียง ข้นั ตอนการออกเสียงเสมือนหน่วยเสียงzต่างกนั ท่ีหน่วยเสียง c จะมีกกั ลมไวด้ า้ นหนา้ ปลายลิ้น ขณะท่ีปล่อยปลายลิ้นจากป่ ุมเหงือก มีลมพุง่ ออกมาเป็นหน่วยเสียงก่ึงเสียดแทรกที่มีลม s เสียดแทรก ไม่กอ้ ง วิธีออกเสียง กกั ลมไวห้ น้าปลายลิ้น ปลายลิ้นใกลด้ า้ นหลงั ฟันล่าง เพดานอ่อนปิ ดช่องจมูกกกั ลม ไมใ่ หผ้ า่ นออกไปทางจมูก กนั ลมผา่ นออกทางปากแทรกผา่ นช่องแคบๆระหวา่ งปลายลิ้นกบั กลางฟันดา้ นบน เส้นเสียงไม่สน่ั

แบบฝึ กหัด(练习) 1.อ่านเสียงพยญั ชนะดงั ต่อไปนี้ b tm n p h k j l r g c x sh zh ch q s z w y ng d f 2.จงเขยี นสัทอกั ษรแทนเสียงพยญั ชนะต้น 1. เสียงจากริมฝีปาก (4 เสียง) ……………………………………………………….. 2 . เสียงจากปลายลิ้น-ป่ ุมเหงือก(4 เสียง) ……………………………………………………….

3 . เสียงจากโคนลิน้ -เพดานอ่อน( 3 เสียง) ……………………………………………………………… 4. เสียงจากลิน้ ตอนหนา้ -เพดานแขง็ (3 เสียง) …………………………………………. …………………… 5. เสียงจากปลายลิน้ -เพดานแขง็ ( 4 เสียง ……………………………………………………………

บทท่ี3 (第三课) สระ 母音 จุดประสงค:์ เพื่อใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั สระเด่ียว สระประสมและ สระเสียงนาสิก :เพ่ือใหผ้ เู้ รียนอ่านออกเสียงสระในภาษาจีนไดถ้ ูกตอ้ ง

บทที่3 (第三课) สระ 母音 สระของภาษาจนี กลางประกอบด้วย 1.สระเดี่ยว 10 หน่วยเสียง 2.สระประสม สองหน่วยเสียงและสามหน่วยเสียง รวม 13 หน่วยเสียง 3.สระเสียงนาสิก16หน่วยเสียง สระเดี่ยว สระเด่ียว 10 หน่วยเสียง a o e i u ü ê - i - i er สระเดี่ยวเป็นหน่วยเสียงสรท่ีประกอบดว้ ยหน่วยเสียงเพียงหน่วยเดียว ท้งั หมดมี 10หน่วยเสียงดว้ ยกนั มี6 หน่วยเสียงท่ีเป็นเสียงสระเด่ียว อีก 4หน่วยเสียงท่ีเป็นหน่วยเสียงสระเดี่ยวพเิ ศษ สระเด่ียว สระ คาอา่ น เทียบเสียง a อา อา o เออ เออ e โอ(ออ) i อี โอ(ออ) อี

u อู อู ü อยู ี อยู ี สระเสียงตามหลงั พยญั ชนะ j q x n l เทา่ น้นั ê (เอ) (เอ) -i อื อื ใชก้ บั แพยญั ชนะz c s -i อื อือร ใชก้ บั พยญั ชนะ zh ch sh er เออร เออร a สระกลาง ต่า ปากไมห่ ่อ ( ไม่กลม) วธิ ีออกเสียง เวลาออกเสียงช่องปากเปิ ดกวา้ ง ระดบั ลิ้นอยตู่ ่าสุด ริมฝีปากไมห่ ่อ 拉 lā 咖 kā e สระหลงั ก่ึงสูง ปากไมห่ ่อ (ไม่กลม) วธิ ีออกเสียง ขณะออกเสียงช่องปากก่ึงปิ ด ลิ้นถอยไปขา้ งหลงั หนา้ ลิ้นส่วนหลงั ยกข้ึนระดบั ก่ึงสูง ปาก รี ไม่ห่อปาก 科 kē 歌 gē

o วธิ ีออกเสียง ช่องปากก่ึงเปิ ด ลิ้นถอยไปขา้ งหลงั หนา้ ลิ้นส่วนหลงั ยกข้ึนก่ึงสูง ริมฝีปากห่อกลมระ หลงั ก่ึงสูง ปากห่อกลม 莫 mò 泼 pō i สระหนา้ สูง ปากไมห่ ่อ วธิ ีออกเสียง อา้ ปากเปิ ดเล็กนอ้ ยเท่าน้นั ลิ้นยน่ื ไปดา้ นหนา้ ลิ้นส่วนหนา้ ยกสูงข้ึนจนใกลเ้ พดานปากรี 你 nǐ 鸡 jī u สระหลงั สูง ปากห่อ (กลม) วธิ ีออกเสียง ช่องปากเปิ ดนอ้ ยมาก ลิ้นถอยไปดา้ นหลงั ของช่องปาก หนา้ ลิ้นส่วนหลงั ยกข้ึนไปใกล้ เพดานอ่อน เหลือช่องทางให้ลมผา่ นออกไปแคบๆริมฝีปากห่อกลม จนเป็นรูกลมเล็กๆ 哭 Kū 苏 Sū ü สระหนา้ สูง ปากห่อ วธิ ีอออกเสียง ช่องปากเปิ ดนอ้ ยมาก ลิ้นยกข้ึนไปดา้ นหนา้ ริมฝีปากห่อกลมเป็ นช่องเล็กๆออกเสียง เหมือน i มีวธิ ีการออกเสียงที่คลา้ ยกนั เพียงแตแ่ ตกตา่ งกนั ท่ีริมฝีปากห่อกบั ไม่ห่อ

玉 Yù 需 Xū สระเด่ียวพิเศษ ê สระหนา้ ก่ึงต่า ปากไมห่ ่อ (ไม่กลม) วธิ ีออกเสียง ขณะออกเสียงช่องปากก่ึงปิ ด ลิ้นยน่ื ไปขา้ งหนา้ ใหป้ ลายลิ้นหนุนที่หลงั ฟันล่างรูปปาก ไมก่ ลม ออกเสียงคลา้ ยสระ เอ ในภาษาไทย ไม่สามารถใชส้ ะกดเสียงกบั พยญั ชนะไดโ้ ดยตรง แต่มกั จะเขียน ลดรูปเป็น e จะอยรู่ ่วมกบั สระ ei ie ü 也 Yě 学 Xué -i สระหนา้ สูง ปากไม่ห่อ วธิ ีออกเสียง ขณะออกเสียงปลายลิ้นยน่ื ไปขา้ งหนา้ เขา้ ใกลห้ ลงั ฟันบน ทาใหเ้ กิดช่องทางแคบใหล้ ม ผา่ นออกมาไดโ้ ดยไม่เกิดการเสียดแทรกริมฝีปากเหยยี ดออกดา้ นขา้ ง 次 Cì 思 Sī

-i สระหลงั สูง ปากไม่ห่อ วธิ ีออกเสียง ขณะอออกเสียงปลายลิ้นยกข้ึนดา้ นบนช่องปากเขา้ ใกลเ้ พดานแขง็ ทาใหเ้ กิดช่องแคบๆให้ ลมผา่ นออกได้ โดยไม่เกิดการเสียดแทรก ริมฝีปากเหยยี ดออกดา้ นขา้ งไม่ห่อ 只 Zhǐ 吃 Chī er สระกลาง ระดบั กลาง ปากไมห่ ่อ วธิ ีออกเสียง เวลาออกเสียงหนา้ ลิ้นยกข้ึนสูงระดบั ปานกลาง ขณะเดียวกนั ปลายลิ้นก็มว้ นข้ึนเพดาน แขง็ ริมฝีปากเหยยี ดออกเล็กนอ้ ย สระประสม 2เสียง ai ไอ หรือ อาย 百 bǎi ei เออ + อี (เอย) 美 měi ao เอา หรือ อาว 爆 bào ou โอ+อ(ู เอีย) 楼 lóu

ia อี+อา(เอีย) 虾 Xiā ie อี+เอ(อีย) 列 Liè ua อู+อา(วา) 抓 Zhuā uo อ+ู ออ(วอ) 说 Shuō üe ü+เอ(อเู อ) 学 Xué

แบบฝึ กหัด (练习) อ่านเสียงสระดงั ต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง a o üe ua e ai u o i ou ei -i u ao ü er ia uo ie

จงนาพยญั ชนะต้นผสมกบั สระเดย่ี ว จานวน 10 คา ตวั อยา่ ง b + a = ba 1…………………………………. 2………………………………………. 3…………………………………. 4……………………………………….. 5…………………………………. 6……………………………………….. 7…………………………………. 8……………………………………….. 9…………………………………. 10………………………………………. จงนาพยญั ชนะต้นผสมกบั สระประสมสองเสียง จานวน 10 คา ตวั อยา่ ง b + ai = bai 1…………………………………. 2………………………………………. 3…………………………………. 4……………………………………….. 5…………………………………. 6……………………………………….. 7…………………………………. 8……………………………………….. 9…………………………………. 10……………………………………….

สระประสม 3 หน่วยเสียง สระผสมสามเสียงในภาษาจีนมี 4 เสียง iao (เอียว /อี+อา+โอ ) 教 Jiào qiū iu ( iou ) ( อิว /อี+โอ+อู ) 秋 huài Shuì uai ( ไอว /อู+อา+ไอ ) 坏 ui ( uei ) ( อุย /อู+เอ+อี ) 睡 สระผสมนาสิกในภาษาจีนมี 16 เสียง ดงั นี้ an ( อนั ) 山 shān ian ( เอียน ) 甜 tián uan ( อวน ) 专 zhuān üan (เอวยี น) 选 xuǎn 门 mén en (เอิน) 心 chūn in ( อิน )

ün (อวนิ ) 群 qún ang (องั หรือ อาง) 长 zhǎng iang (อี+อาง หรือ เอียง) 像 xiàng uang (อ+ู อาง หรือ อวาง) 况 kuàng eng (เอิง) 疼 téng ing (อิง) ling 零 wēng ueng (อวนิ )ใชเ้ ฉพาะเสียง weng 翁 song 送 xiōng ong (อง) 胸 iong (อี+อง หรือ อียง)

แบบฝึ กหัด(练习) จงนาพยญั ชนะต้นผสมกบั สระผสมสามเสียง จานวน 10 คา ตวั อยา่ ง b + iao = biao 1…………………………………. 2………………………………………. 3…………………………………. 4……………………………………….. 5…………………………………. 6……………………………………….. 7…………………………………. 8……………………………………….. 9…………………………………. 10………………………………………. จงนาพยญั ชนะต้นผสมกบั สระพยญั ชนะ - n ตวั อยา่ ง b + an = ban 1………………………………… 2………………………………………. 3………………………………... 4………………………………………. 5………………………………... 6………….…………………………….

จงนาพยญั ชนะต้นผสมกบั สระพยญั ชนะ - ng ตวั อยา่ ง b + ang = bang 1………………………………… 2………………………………………. 3………………………………... 4………………………………………. 5………………………………... 6………….…………………………….

บทท่ี4 (第四课) วรรณยกุ ต์ 声调 จดุ ประสงค์: เพ่ือให้ผ้เู รียนได้เรียนรู้และเข้าใจเก่ียวกบั ระดบั เสียงใน วรรณยกุ ต์ภาษาจีนได้ :เพื่อใหผ้ เู้ รียนอ่านออกเสียงวรรณยกุ ตใ์ นภาษาจีนไดถ้ กู ตอ้ ง

บทท4ี่ (第四课) วรรณยุกต์ 声调 เสียงวรรณยุกต์ 声调 เสียงวรรณยกุ ต์ คือ ระดบั เสียงสูงต่าของพยางค์ ภาษาจีนมีสียงวรรณยกุ ต์ 4 ระดบั เสียง คือ เสียงวรรณยกุ ต์ สญั ลกั ษณ์ เทียบกบั เสียงวรรณยกุ ตไ์ ทย ˉ สามญั เสียงที่ 1 (阴平 Yīnpíng) ˊ จตั วา ˘ เอก เสี่ยงที่ 2 (阳平 Yángpíng) ˋ โท เสียงที่ 3 (上声 Shàngshēng) เสียงที่ 4 (去声 qù shēng) วธิ ีการเตมิ วรรณยุกต์ shí 1.ถา้ ในพยางคน์ ้นั ๆ มีสระเพยี งสระเดียว ใหเ้ ติมวรรณยกุ ตท์ ี่สระตวั น้นั ไดเ้ ลย เช่น bā mā dã kě tâ xī rì zhě 2. พยางคท์ ี่มีสระควบ 2 ตวั ถา้ สระตวั แรกเป็น a o e ใหใ้ ส่วรรณยกุ ตไ์ วบ้ นสระตวั แรก เช่น bāi nǎo tîu nâi lâi zhōu

3.หากสระตวั แรกเป็น i u ü ใหใ้ ส่เคร่ืองหมายวรรณยกุ ตไ์ วบ้ นสระตวั ท่ีสอง เช่น tiān liāng zhuā ruî jüān nüâ 4.หากในพยางคน์ ้นั ๆ มีสระ 3 ตวั ใหเ้ ติมวรรณยกุ ตไ์ วบ้ นสระตวั กลาง เช่น piào xiào shuāi 5. เมื่อตอ้ งการใส่วรรณยกุ ตไ์ วบ้ นตวั i ใหต้ ดั จุดทิ้ง เช่น bǐ pīn tuǐ qì zhǐ chī rì เส้นกราฟทแ่ี สดงลกั ษณะการออกเสียงวรรณยุกต์ 4 เสียง ดงั นี้

แบบฝึ กหัด (练习) จงบอกเสียงวรรณยุกต์ในภาษาจนี กลาง .......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................... จงเขยี นสัญลกั ษณ์วรรณยุกต์ในภาษาจนี กลาง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................... จงร่วมกนั ทาความเข้าใจเกย่ี วกบั เร่ืองวรรณยุกต์ในภาษาจนี กลาง แสะสรุปความเข้าใจ เป็ นข้อ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ...............................................................................................................................

บรรณานุกรม กิตติญา ตุย้ คา.สทั ศาตร์ภาษาจีน. สทั อกั ษรภาษาจีน.[เวบ็ บลอ็ ก]. สืบคน้ จาก http://chitnarong4567.blogspot.com e-learning : ภาษาจีนระดบั ตน้ .[เวบ็ บลอ็ ก].สืบคน้ จาก https://sites.google.com เสียงวรรณยกุ ตใ์ นภาษาจีน.[เวบ็ บลอ็ ก].สืบคน้ จาก http://www.diarybyonnie.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook