Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 1

เล่มที่ 1

Description: ความรู้พื้นฐานของการเกษตร

Keywords: ความรู้พื้นฐานของการเกษตร

Search

Read the Text Version

คำช้ีแจง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยีชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ชุดท่ี 1 เรื่อง ความรู้พื้นฐานของ การเกษตร จัดทาขึ้นโดยกาหนดเนื้อหา และจุดประสงค์ตามหลักสูตรกลุ่มสาระ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อใช้ประกอบการจัด กจิ กรรมการเรียนการสอน ซ่ึงนกั เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง และสามารถ ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามกระบวนการตามเอกสารไดด้ ว้ ยตนเอง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยีช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดท่ี 1 เรื่อง ความรู้พื้นฐานของ การเกษตร จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนได้ตามศักยภาพของตนเอง และจะ มีประโยชน์มีคณุ คา่ ต่อนกั เรียน เม่อื นกั เรียนนาความร้ทู ่ีได้ไปเป็นแนวทางปฏิบัติ จริงในชวี ติ ประจาวนั ได้ ชุดที่ 1 ความร้พู น้ื ฐานของการเกษตร 1

คำแนะนำสำหรบั ครู ในการจัดกิจกรรมการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความรู้ พ้ืนฐานของการเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 มีคาแนะนาสาหรับครผู ู้สอน ดังนี้ 1. ศึกษาเน้ือหา และกิจกรรมของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เข้าใจอย่างละเอียด ตามข้นั ตอนทีเ่ สนอแนะไว้ 2. ศึกษามาตรฐาน ตวั ชว้ี ดั และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้เข้าใจ 3. ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เล่มน้ีควบคู่กับแผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 3 เร่ือง ความรู้พ้ืนฐานของการเกษตร พร้อมท้ังศึกษาแผน การจัดการเรียนรูอ้ ยา่ งละเอยี ด 4. ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เล่มน้ี ครูสามารถนาไปใชส้ อนซ่อมเสริม 4.1 นกั เรยี นที่มีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นต่า 4.2 นกั เรยี นทตี่ ้องการเรยี นซ้า 4.3 นักเรียนท่ีเรียนช้ากรณีหยุดเรียนหรือย้ายมาเข้าเรียนใหม่ในระหว่าง ปีการศึกษา 4.4 ใชส้ อนเสรมิ กับนักเรยี นท่ีตอ้ งการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมจากบทเรยี น 5. ครูแนะนา ชี้แจงใหน้ ักเรียนอา่ นคาช้ีแจงให้เข้าใจและปฏบิ ัติตามลาดับขนั้ ตอน 6. แนะนาช่วยเหลือ และให้คาปรึกษา เมื่อนักเรียนมีปัญหาในการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรแู้ ละการปฏิบัติกิจกรรม ชุดท่ี 1 ความร้พู ้ืนฐานของการเกษตร 2

คำแนะนำสำหรบั นกั เรียน การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง ความรู้พ้ืนฐานของการเกษตร กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 มีคาแนะนา สาหรบั นกั เรยี นในการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้ปฏบิ ตั ิ ดังนี้ 1. ศกึ ษาจดุ ประสงค์การเรยี นรขู้ องชุดกจิ กรรมการเรยี นรูใ้ ห้เข้าใจ 2. ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เปน็ บทเรียนสาหรับให้ผู้เรยี นศึกษาด้วยตนเอง 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ขอ้ เพ่ือวัดความร้กู ่อนเรม่ิ เรียน 3. ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และขั้นตอน เรียงตามลาดับอย่างต้ังใจ เม่ือเกิด ปญั หาไม่เขา้ ใจนักเรยี นสามารถสอบถามครูผสู้ อนได้ 4. นักเรียนทาใบงานทบทวนทุกกิจกรรมท่ีกาหนดให้ ลงในกระดาษคาตอบที่ จดั เตรียมไวใ้ ห้ 5. หลังศึกษาเนื้อหา และทากิจกรรมแต่ละตอนจบแล้ว ให้นักเรียนทา แบบทดสอบหลงั เรยี น เพ่ือทดสอบความรูค้ วามเข้าใจ 6. ตรวจคาตอบใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากแบบเฉลยท้าย เล่มและเปรยี บเทียบการเรยี นรูก้ อ่ นศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรูก้ บั หลงั ศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ หากยังไม่เขา้ ใจเรอื่ งใด ใหก้ ลับไปทบทวนบทเรียนใหม่ 7. ขอ้ สาคญั นกั เรียนต้องซอ่ื สตั ย์ต่อตนเอง ไม่เปดิ ดเู ฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลงั เรียน รวมท้ังเฉลยใบงานทุกกจิ กรรมก่อนเดด็ ขาด และห้ามลอกเพื่อน เพราะจะทาใหน้ ักเรยี นไม่ประสบผลสาเร็จในการเรยี นด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการเกษตร 3

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระท่ี 1 กำรดำรงชวี ิตและครอบครวั มำตรฐำน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการ ทางานทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางานมี จิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม เพ่ือการดารงชีวิตและ ครอบครัว ตวั ชีว้ ดั ง 1.1 ป.3/1 อธิบายวิธกี ารและประโยชนก์ ารทางาน เพื่อชว่ ยเหลือตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม ง 1.1 ป.3/2 ใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมอื ตรงกับลักษณะงาน ง 1.1 ป.3/3 ทางานอย่างเปน็ ข้นั ตอนตามกระบวนการทางานด้วยความสะอาด ความรอบคอบ และอนรุ กั ษ์สง่ิ แวดลอ้ ม ชดุ ที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการเกษตร 4

สำระสำคัญ กำรเกษตร คอื การปฏิบตั ติ อ่ ดินเพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลผลติ ท้งั การปลกู พืช เลีย้ ง สตั ว์ การทาประมง และการเกษตรผสมผสานโดยอาศยั ความรู้ ประสบการณ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ และเงนิ ทุน เพ่ือให้ได้ผลผลิตตา่ ง ๆ กำรเกษตร แบง่ ไดเ้ ป็น 4 ประเภท ได้แก่ การปลูกพชื การเลยี้ งสัตว์ การประมง และการเกษตรแบบผสมผสาน สำระกำรเรียนรู้ 1. ความหมายของการเกษตร 2. ความสาคญั ของการเกษตร 3. ประเภทของการเกษตร ชุดที่ 1 ความร้พู ืน้ ฐานของการเกษตร 5

จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 1. สามารถบอกความหมายและความสาคัญของการเกษตรได้ (K) 2. สามารถจาแนกประเภทของการเกษตรได้ (K, P) 3. สามารถทากจิ กรรมหลงั ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดอ้ ย่างถูกต้อง (K, P) 4. เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ความรพู้ นื้ ฐานของการเกษตร ดว้ ยความสนกุ สนาน ชน่ื ชอบและมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงคท์ างการเรียน (A) ชุดที่ 1 ความร้พู ืน้ ฐานของการเกษตร 6

เดยี๋ วเรำไปทำแบบทดสอบ ก่อนเรียนกันเลยดีไหมครบั เพอื่ น ๆ ชุดท่ี 1 ความรูพ้ ้นื ฐานของการเกษตร 7

แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที่ 1 ควำมรพู้ น้ื ฐำนของกำรเกษตร คำชแี้ จง : 1. แบบทดสอบฉบับนี้เปน็ แบบทดสอบ 4 ตัวเลือกมี 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ให้นกั เรยี นทาเครือ่ งหมาย ( x ) ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลือก ข้อที่ถกู ที่สดุ เพียงขอ้ เดยี วเทา่ น้ัน 1. ขอ้ ใดไม่ใช่การเกษตร ข. การเล้ยี งสัตว์ ก. การปลูกพชื ง. ต้งั โรงงานแปรรูปผลติ ผลทางการเกษตร ค. การเลยี้ งสตั วน์ า้ 2. ปัจจยั 4 ของมนษุ ยท์ ไ่ี ดร้ ับจากพืช ขอ้ ใดสาคญั ทส่ี ดุ ก. อาหาร ข. ทอ่ี ยอู่ าศยั ค. เครอ่ื งนงุ่ ห่ม ง. ยารักษาโรค 3. พชื ชนดิ ใดมีความสาคญั ตอ่ ชีวติ คนไทยมากที่สุด ก. ขา้ วสาลี ข. ข้าวโพด ค. ขา้ วจา้ ว ง. ขา้ วฟ่าง 4. ขอ้ ใดเป็นการแบ่งประเภทการปลูกพชื ตามลกั ษณะการปลูก ก. ป่าไม้ พืชไร่ พชื สวน ข. ธัญพชื พชื เส้นใย พืชนา้ มนั ค. พชื ไร่ พืชสวน พืชตระกลู ถวั่ ง. ไม้ดอก ไมป้ ระดับ ไม้ผล 5. พืชในข้อใดจัดอยู่ในประเภทพืชไร่ ก. ส้มโอ ข. ขา้ วฟ่าง ค. กระทอ้ น ง. มะปราง ชุดท่ี 1 ความร้พู ้นื ฐานของการเกษตร 8

6. พนั ธไ์ุ มช้ นดิ ใดไม่จัดอยู่ในกลมุ่ เดยี วกนั ก. ดาวเรอื ง ข. มะลิ ค. กหุ ลาบ ง. สน 7. ข้อใดท่ีไมจ่ ดั อยใู่ นปจั จยั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเจรญิ เตบิ โตของพชื ก. อุณหภูมิ ข. ความชนื้ ค. แสงสว่าง ง. เปอร์เซน็ ต์ความงอก 8. ขอ้ ใดไม่ใชว่ ิธีการอนรุ กั ษป์ ่า ข. การทาพิธีบวชต้นไม้ ก. การทาไร่เลือ่ นลอย ง. ตดั ต้นไมเ้ มอ่ื ได้รับสมั ปทาน ค. ตดั ต้นไมท้ ไี่ ดข้ นาดเหมาะสม 9. ข้อใดไม่ใชค่ วามสาคญั ของพืชซึ่งชว่ ยรักษาสภาพแวดล้อมและสภาพสมดลุ ของ ธรรมชาตไิ ด้ ก. ทาให้อากาศบรสิ ุทธ์ิ ข. ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ ภัยธรรมชาติ ค. ทาให้ธุรกิจการคา้ ไมเ้ จรญิ เติบโตขึ้น ง. ทาใหส้ ภาพแวดลอ้ มรม่ ร่นื สวยงาม 10. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระโยชน์ของการเกษตรแบบผสมผสาน ก. เพือ่ ใช้ทรพั ยากรทมี่ อี ยใู่ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสดุ ข. เพอื่ ให้เกษตรกรมรี ายไดม้ ากข้ึน รา่ รวย ค. เพอ่ื ยังชพี ใชก้ นิ เป็นอาหารภายในครอบครวั ง. เพือ่ รักษาดลุ ยภาพทางธรรมชาติและปรบั ปรงุ ส่ิงแวดลอ้ ม ชดุ ที่ 1 ความรพู้ น้ื ฐานของการเกษตร 9

กระดำษคำตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชอ่ื – สกุล .............................................................ชน้ั ...............เลขท่.ี ............ ข้อ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชดุ ท่ี 1 ความรูพ้ นื้ ฐานของการเกษตร 10

ใบควำมรู้ เรื่อง ควำมรู้พนื้ ฐำนของกำรเกษตร กำรเกษตร เป็นอาชีพหลักของคนไทย ซ่ึงคนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ทาให้การเกษตรมีความสาคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจ ประเทศ เน่ืองจากรายได้สว่ นใหญ่มาจากสนิ คา้ เกษตร ภาพท่ี 1 การเกษตร ท่มี าภาพ : อบั ดุลรอมัน มะรอื มอ , 2651 ควำมหมำยของกำรเกษตร 1.กำรเกษตร หรือกำรเกษตรกรรม (Agriculture) หมายถึง การ เพาะปลูกพืชต่างๆ รวมทั้ง การเล้ียงสัตว์และการประมง ผู้ที่ทาการเกษตรน้ัน เรียกว่า เกษตรกร สว่ นคาว่า กสิกร นน้ั หมายถึง ผู้ท่ที าการกสิกรรม คือ ผู้ที่ปลูก พืชเพียงอยา่ งเดียว เชน่ ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน การเกษตรจึงเป็นการจัดการกับ ทรัพยากรธรรมชาติ แรงงาน และทุน โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ เพ่ือให้ ไดม้ าซึ่งผลผลติ จากทง้ั พืชและสตั ว์ ซ่ึงเรานิยมเรยี กวา่ ผลผลติ ทำงกำรเกษตร ชุดที่ 1 ความรพู้ ื้นฐานของการเกษตร 11

2.กำรเกษตร คือ การปฏิบัติต่อดินเพื่อให้เกิดผลผลิต ทั้งการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ การทาประมง และการเกษตรผสมผสานโดยอาศัยความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ และเงนิ ทนุ เพื่อใหไ้ ดผ้ ลผลิตต่าง ๆ 3.กำรเกษตร ยังหมายถึง วิธีการยังชีพอย่างหน่ึงของมนุษย์ เก่ียวข้อง สัมพันธ์กับการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ การเกษตรเป็นการทางานเพื่อควบคุม ธรรมชาติในอันท่จี ะผลติ พชื และสตั ว์ใหไ้ ด้ตามความตอ้ งการของมนุษย์ โดยอาศัย การเจริญเติบโตของพืชและสัตว์เป็นพ้ืนฐาน มีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมดาเนินการ อย่างมีระบบ แบบแผน มีการวางแผนปฏิบัติงานล่วงหน้า คิดคานวณรายได้- รายจา่ ยในการดาเนินการทงั้ หมดในการเกษตร พืช หมายถึง พืชสวน พืชไร่ ปา่ ไม้ สตั ว์ หมายถึง สัตว์บก สัตวน์ ้า ท้ังท่ีเป็น สตั วเ์ ลย้ี งและสัตว์ป่า ดงั น้นั การเกษตรจงึ มีขอบเขตครอบคลุมการปลกู พืช การ เล้ียงสัตว์ และการประมงนอกจากน้ียังรวมไปถึงการสร้างเสริมบรรยากาศ การ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ซ่ึงในปัจจุบันประเทศไทยได้ต่ืนตัว เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างจริงจัง เพราะ ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้ถูกทาลายลงอย่างมหาศาล และขาดการ ดูแลบารงุ รกั ษาป่าไม้อย่างต่อเน่ือง จนเป็นสาเหตหุ นง่ึ ท่ีทาให้เกิดน้าท่วม ฝนแล้ง และไฟไหม้ปา่ ทกุ ปี (อร่าม คุม้ ทรัพย์, 2554 : 8) ควำมสำคัญของกำรเกษตร การเกษตรมีความสาคัญต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ต้ังแต่ดึกดาบรรพ์ โดยมนุษย์รู้จักใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายจากพืช สัตว์ ในชีวิตประจาวัน โดย ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปัจจัย 4 คือ อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ท่ีอยู่อาศัย และ ยารักษาโรค โดยมนุษย์รู้จักเก็บเก่ียวผลผลิตทางเกษตร นาไปประกอบอาหาร รับประทาน สร้างความเจริญเติบโตแก่ร่างกาย นาส่วนต่าง ๆ ของพืชเส้นใย ชุดที่ 1 ความรพู้ ื้นฐานของการเกษตร 12

ไปผลติ สิ่งทอหรือใช้หนังสัตวท์ าเครื่องนงุ่ ห่ม ปลูกป่าเพ่อื นาไมไ้ ปเปน็ อปุ กรณ์การ กอ่ สรา้ ง สร้างท่ีพักอาศยั อาคารสถานที่ ทาเฟอรน์ ิเจอร์เครือ่ งใช้ต่าง ๆ และปลูก พืชสมุนไพร เพ่ือนาไปใช้เป็นยารักษาโรค ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีล้วนมีความจาเป็นต่อการ ดารงชีวิตของมนุษย์ท้ังส้ินการผลิตพืชในปัจจุบันมีความสาคัญต่อชีวิตประจาวัน ของมนษุ ย์และสัตว์เปน็ จานวนมากโดยเฉพาะพืชช้ันสูงหรือพชื สเี ขยี ว ส่วนพชื ช้ัน ตา่ บางชนิดก็มีประโยชน์ เช่น สาหร่ายชนิดต่าง ๆ บางชนิดก็มีโทษ เช่น เห็ดบาง ชนิด ราดา ซ่ึงโดยทวั่ ไปสามารถแบง่ ความสาคญั ของพชื ออกได้ ดงั นี้ 1) เป็นแหล่งอำหำรของมนุษย์ ทาให้มนุษย์ดารงชีวิตอยู่ได้โดยมีอาหาร รับประทาน ได้แก่ พืชชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าว ผักสด ผลไม้ต่าง ๆ รวมไปถึงพืชท่ี ใหผ้ ลผลติ นา้ มันต่างๆ เชน่ ถั่วเหลือง ทานตะวัน มะพรา้ ว 2) เป็นที่อยอู่ ำศัยของมนุษย์ โดยใชผ้ ลผลติ จากพืชที่เปน็ ไมย้ ืนต้น เช่น สัก เต็ง รัง ประดู่ มะค่า เป็นต้นนามาใช้สร้างอาคารบ้านเรือนที่อยู่อาศัย รวมถึง เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช้ในชวี ติ ประจาวัน เชน่ เครอ่ื งเรือนชนดิ ต่าง ๆ เปน็ ต้น 3) เปน็ ยำรักษำโรคชนดิ ตำ่ ง ๆ ต้ังแต่สมยั โบราณ โดยการนาสว่ นต่าง ๆ ของพืช เชน่ ราก ลาตน้ ใบ ดอก ผล ของพชื หลายชนิดมาปรงุ ใหเ้ ขา้ กนั ใชร้ ักษา และบรรเทาอาการเจบ็ ป่วยของมนษุ ยแ์ ละสตั วเ์ ลี้ยง ซึ่งเราเรียกพืชท่ีนามาใช้ทายารักษาโรคต่างๆ ว่า “พืชสมุนไพร” เช่น ต้น ฟ้าทะลายโจรช่วยรักษาและบรรเทาอาการเจ็บคอ อันเน่ืองมาจากการเป็นโรค หวัด ดอกและใบ ของต้นขี้เหล็กช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ ขิงช่วยลดอาการ ท้องอืด ขับลมในกระเพาะอาหาร กระเทียมช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลหรือ ไขมนั ใน เส้นเลือด 4) ใช้ทำเครือ่ งนงุ่ ห่ม โดยนาผลผลิตของพชื เสน้ ใยชนดิ ตา่ ง ๆ ฝ้าย ปา่ น ปอ น่นุ มาป่ันเปน็ เส้นด้าย แลว้ นาเส้นด้ายมาทอเป็นผา้ ตดั เย็บเป็นเสื้อ กางเกง ท่ี นอน หมอน มงุ้ เครอื่ งในชีวติ ประจาวันได้อีกมากมาย ชุดที่ 1 ความร้พู น้ื ฐานของการเกษตร 13

5) ใช้เปน็ อำหำรของสตั วเ์ ลย้ี ง โดยเฉพาะสตั ว์กนิ พชื เช่น โค กระบอื ชา้ ง ม้า แพะ แกะ ซึ่งใช้หญ้าเป็นอาหารหลักในการดารงชีวิต แม้กระทั่งสัตว์ปีก เช่น เป็น ไก่ ห่าน นกชนิดต่าง ๆ ก็ใช้รา ปลายข้าวข้าวโพดป่น มันสันปะหลัง บดละเอียด ใบกระถินป่น มาเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารสัตว์ทุกประเภท เปน็ ตน้ 6) มีควำมสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะมีการนาเอาพืชและ ผลผลิตของพืชส่งเป็นสินค้าออกไปขายยังต่างประเทศ เพ่ือนาเงินตราจาก ต่างประเทศ มาเป็นรายได้ของแผ่นดิน ทาให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจาก ทุกประเทศ ทั่วโลกว่า เปน็ ประเทศท่ีเปน็ แหล่งผลิตอาหารรายใหญ่แหง่ หนึง่ ของ โลก พืชที่ส่งออกเป็นสินค้ามากท่ีสุด คือ พืชไร่ เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสาปะหลัง ยาสูบ อ้อย สับประรด เป็นต้น รองลงมา ได้แก่ พืชส่วน เช่น มะม่วง ทุเรียน มังคุด ลาใย มะพร้าวน้าหอม กล้วยหอมทอง ส้มโอ นอกจากนี้ยังมีพืชประเภท ไม้ดอกไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ดอกหน้าวัว ปาล์มประดับ หมากต่าง ๆ เป็นต้น ส่งออกไปขายยังต่างประเทศท้ังในรูปของต้นและดอก นับเป็นการสร้าง รายได้ ให้กบั ประเทศเป็นจานวนมาก 7) ก่อให้เกดิ อำชีพหลักสำคัญคนไทย เช่น ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ซึ่งเรา เรียกบุคคลท่ีประกอบอาชีพเกษตรกรรมเหล่าน้ีว่า “เกษตรกร” อาชีพ เกษตรกรรม ทาให้ประชากรในประเทศมีงานทามีรายได้จากการผลิตพืชตลอด ทั้งปี ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม และยังก่อให้เกิดธุรกิจต่อเนื่องท่ีเก่ียวข้องกับ การเกษตรอีกมากมาย เชน่ ธุรกจิ การขายวสั ดุอปุ กรณ์ทางการเกษตร ปยุ๋ สารเคมี ทางการเกษตร เครื่องจักรวาลการเกษตรชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ การผลิตพืชยัง กอ่ ใหเ้ กิดโรงงานอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การเกษตร เช่น อุตสาหกรรม การ แปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมแช่แข็ง อุตสาหกรรมห้องเย็น โรงงานอุตสาหกรรม ผลิตน้ามันปาล์ม โรงงานผลิตอาหารกระป๋อง โรงงานผลิตซอสมะเขือเทศและ โรงงานผลติ นา้ นมถว่ั เหลือง เปน็ ตน้ ชดุ ที่ 1 ความรพู้ ืน้ ฐานของการเกษตร 14

8) เป็นแหล่งสันทนำกำรและกำรท่องเท่ียวทำงธรรมชำติ ก่อให้เกิด อตุ สาหกรรมการทอ่ งเท่ยี วนารายไดเ้ ข้าประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก และชุมชนมี รายได้จากการส่งเสริมไทยเที่ยวไทยอีกด้วย เช่น วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ภูกระดึง ทงุ่ แสลงหลวง เขาค้อ ดอยอินทนนท์ เป็นต้น 9) ช่วยรักษำสภำพแวดล้อมและสภำพสมดุลของธรรมชำติ เพราะการ ผลิตพืช มีส่วนช่วยทาให้อากาศบริสุทธ์ิ สภาพแวดล้อมร่มร่ืน สวยงาม ถ้าผู้ปลูก ร้จู ักหลักในการจัดภูมิทศั น์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ท่เี ปน็ ภัยธรรมชาติ เชน่ น้าทว่ มฉับพลัน ช่วยลดความรนุ แรงของกระแสนา้ และ ยังช่วยทาให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล รวมทั้งลดปัญหาภาวการณ์แห้งแล้งได้เป็น อย่างดี (อรา่ ม คมุ้ ทรพั ย์, 2554 : 12) ประเภทของกำรเกษตร กำรเกษตร แบง่ ได้เปน็ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. กำรปลูกพืช ได้จัดแบ่งลักษณะตามการปลูกและดูแลรักษาเป็น 3 ชนิด ได้แก่ 1.1 พืชสวน หมายถึง พืชท่ีปลูกในเน้ือท่ีน้อย สามารถให้ผลตอบแทนสูง ตอ้ งการดูแลรักษามาก แบง่ ยอ่ ยไดเ้ ปน็ 3 กลุ่มใหญ่ๆ คอื ไมด้ อกไมป้ ระดบั พชื ผกั ไมผ้ ล ภาพท่ี 2 ไมด้ อกไมป้ ระดบั ทม่ี าภาพ : อบั ดลุ รอมนั มะรือมอ , 2651 15 ภาพที่ 3 พืชผัก ท่ีมาภาพ : อับดลุ รอมัน มะรอื มอ , 2651 ภาพท่ี 4 ไม้ผล ทม่ี าภาพ : อบั ดลุ รอมัน มะรือมอ , 2651 ชุดท่ี 1 ความรูพ้ นื้ ฐานของการเกษตร

1.2 พืชไร่ หมายถงึ พืชท่ีปลกู โดยใช้เนอื้ ทม่ี าก มกี ารเจรญิ เตบิ โตเรว็ ไม่ตอ้ งการดแู ลรกั ษามากเหมอื นพืชสวน สว่ นใหญ่เป็นพชื ล้มลุก มีอายตุ ัง้ แต่ 2 เดือน ถึง 1 ปี หรือมากกว่า ผลผลิตของพืชไรม่ ีความสาคญั ทางเศรษฐกจิ และ ชีวติ ประจาวนั ของคนไทย โดยใช้บรโิ ภคเป็นอาหารหลัก และส่งเป็นสนิ ค้าออก จัดเปน็ พืชเศรษฐกิจของประเทศซงึ่ สามารถนารายไดเ้ ขา้ ประเทศเป็นจานวนมาก เช่น ข้าว ข้าวโพด ออ้ ย ยาสูบ ฝา้ มนั สาปะหลัง ถว่ั ตา่ งๆ เปน็ ต้น ภาพที่ 6 พชื ไร่ ทม่ี าภาพ : อบั ดุลรอมัน มะรอื มอ , 2651 1.3 พืชสมุนไพร หมายถึง พืชทุกชนิดท่ีมีสรรพคุณทางยารักษาบาบัดโรค แตก่ ระน้ันกจ็ าเปน็ ตอ้ งมีความรู้ในพชื แต่ละชนิดเพราะหากใช้ผิดวิธหี รือไม่ตรงกับ อาการของโรคอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เช่นหอมแดง บรรเทาโรคหวัด ว่านหางจระเข้รักษาแผลน้าร้อนลวก ขี้เหล็กรักษาโรคท้องผูก มะระลดน้าตาล ในเลือด เสลดพังพอนแก้พษิ แมลง กระเทียมรักษากลากเกลื้อน ดอกบานไม่รโู้ รย แกโ้ รคหอบหดื เป็นตน้ ชดุ ท่ี 1 ความรูพ้ น้ื ฐานของการเกษตร 16

ภาพที่ 5 พืชสมนุ ไพร ทม่ี าภาพ : อับดุลรอมนั มะรอื มอ , 2651 2. กำรเล้ียงสัตว์ ปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์ในแง่การใช้แรงงานลดน้อยลง แต่จะมีบทบาทมากใน แงข่ องการเลี้ยงเพ่ือใชเ้ ป็นอาหารเนื่องจากผูบ้ ริโภคนิยม บริโภคเน้ือสตั ว์กันอย่าง แพร่หลาย อีกทัง้ ยงั สามารถส่งออกจาหนา่ ยยังต่างประเทศอกี ด้วย ภาพที่ 7 การเลี้ยงสตั ว์ ท่ีมาภาพ : อบั ดุลรอมัน มะรือมอ , 2651 ชุดท่ี 1 ความรพู้ นื้ ฐานของการเกษตร 17

วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรเลยี้ งสัตว์ แบง่ ออกได้ ดงั น้ี 1. เพอ่ื ไวใ้ ช้บรโิ ภค 2. เพื่อไว้ใชแ้ รงงาน 3. เพอ่ื ประกอบอาชีพ 4. เพ่ือเสรมิ รายได้ 5. เพอ่ื ใช้ผลิตภณั ฑจ์ ากสตั ว์ทาเครอ่ื งนงุ่ หม่ ของใช้และรักษาโรค 6. เพื่อความสวยงามและความเพลิดเพลิน 7. เพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ในการทดลองทางวทิ ยาศาสตร์หรอื ทางการแพทย์ 3. กำรประมง เป็นการเกษตรเกีย่ วกบั การเลีย้ งและการจบั สัตวน์ า้ ทกุ ชนดิ ของประเทศไทย ซง่ึ การทาประมงน้ีสามารถสรา้ งรายได้ให้ประชาชน และประเทศเปน็ จานวนมาก การทาประมงในประเทศไทยสามารถแบง่ ออกตามลกั ษณะของแหลง่ นา้ ได้ 3 ประเภท คอื 3.1 การประมงนา้ จดื 3.2 การประมงนา้ เคม็ 3.3 การประมงนา้ กรอ่ ย ภาพที่ 8 การประมง 18 ท่มี าภาพ : อับดลุ รอมนั มะรือมอ , 2651 ชดุ ท่ี 1 ความรู้พ้นื ฐานของการเกษตร

4. กำรเกษตรแบบผสมผสำน การเกษตรผสมผสานเป็นการจัดระบบกิจกรรมการเกษตรได้แก่ ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ประมง ให้มีการผสมผสานและเก้ือกูลในการผลิตซ่ึงกันและกัน โดยใช้ ทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างเหมาะสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีความสมดุลของ สภาพแวดล้อม เพ่ิมความสมบูรณ์ของอาหารพืชหรือสัตว์การทาเกษตร หลายๆ อย่างร่วมกัน ทาให้เกษตรกรมีรายได้จากผลผลิตเพิ่มข้ึน ตลอดจน ไม่เสี่ยงต่อสภาวะการขาดทุนจากราคาผลผลิตเพียงอย่างเดียวที่มีราคา ไม่แน่นอนปัจจุบนั รัฐบาลส่งเสรมิ และสนับสนุนแนวทางในการทาการเกษตร เชน่ 4.1 เกษตรทฤษฎีใหม่ คือ แนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ท่ีส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรได้บริหาร และจัดการเกี่ยวกับดิน น้า ให้มีประโยชน์สูงสุดเพื่อบังเกิดผลผลิตและรายได้มาเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยน้อมนาเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดาเนินชีวิตอย่าง เพียงพอเพ่ือคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้นพร้อมกับช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชนด้วย ความร่วมมือจากองค์กรภายนอก เช่น สถาบันการเงินและหน่วยงานต่างๆ ของ รัฐ ภาพที่ 9 การเกษตรแบบผสมผสาน ทมี่ าภาพ : อบั ดลุ รอมัน มะรอื มอ, 2651 ชุดท่ี 1 ความรพู้ นื้ ฐานของการเกษตร 19

4.2 กำรเกษตรแบบยังชีพ คือ การผลิตเพื่อยังชีพใช้กินเป็นอาหารภายใน ครอบครวั ไมไ่ ดผ้ ลติ หรอื ปลูกมากเหลอื ใชพ้ อท่ีจะสง่ ไปขายนอกทอ้ งถิน่ ได้ 4.3 กำรเกษตรธรรมชำติ คือ การเกษตรแบบที่กลับไปหาธรรมชาติหรือ การเกษตรแบบฟืน้ ฟธู รรมชาติให้คืนกลบั มา 4.4 กำรเกษตรแบบย่ังยืน คือ การเกษตรท่ีเก้ือกลู ซึ่งกันและกันเพ่ือรักษา ดุลยภาพทางธรรมชาติและปรับปรุงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันซึ่งการเกษตร แบบนี้เป็นการทาการเกษตรเพ่ือต้องการให้ เกษตรกรพ่ึงพาตนเองไดท้ ้ังการผลิต และการดารงชีพโดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างประหยัดและคุ้มค่าท่ีสุด (ปรชี า พงศภ์ มร, 2553 : 5) ประโยชน์ของกำรเกษตร ประโยชนข์ องกำรเกษตรที่สำคัญ มดี ังน้ี 1. ชว่ ยให้มีรายได้เล้ยี งตนและครอบครวั 2. ช่วยให้มีความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึนจากการปฏิบัติตามแนวทฤษฎีเศรษฐกิจแบบ พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั 3. ช่วยให้มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงจากการทางานเกษตร เพราะการทางาน เกษตรส่วนใหญ่ตอ้ งใช้กาลัง เชน่ การปลกู พืช การเลยี้ งสัตว์ และประมง 4. นาผลผลิตมาใช้เป็นอาหาร และยารกั ษาโรคได้ 5. ทาให้มีความรู้จากการศึกษาค้นคว้า และพัฒนางานเกษตรอย่างต่อเน่ือง เช่น ใชป้ ๋ยุ หมกั แทนปุ๋ยเคมี ใชส้ ารสกดั จากพืชแทน สารเคมี เป็นตน้ 6. เป็นอาชีพเสริมอาชีพหลัก คือการทาการเกษตรเป็นอาชีพที่เสริมอาชีพอื่น ทท่ี าเปน็ งานหลักอยู่แล้ว เช่น เล้ียงสุกร 5 - 10 ตัว ในขณะรบั ราชการครู 7. เป็นอาชีพธุรกิจและบริการทางการเกษตร เช่น จาหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ รับจัดสวนหย่อมจาหน่ายเคร่อื งมอื ทางการเกษตรจาหน่ายผลผลิตเกษตร ชุดท่ี 1 ความร้พู ืน้ ฐานของการเกษตร 20

8. เปน็ อาชพี หลกั ได้แกก่ ารทาการเกษตรเพ่อื เป็นรายไดห้ ลกั ของครอบครวั เช่นปลูกผัก เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงกุ้ง ฯลฯ นอกจากนี้การเกษตรกรรมยังมีบทบาทที่ สาคัญ ต่อประเทศในหลายๆ ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการเมือง การปกครองและด้านความสัมพันธ์ระหวา่ งประเทศ (วีระพงศ์ เจรญิ สนั ติ, 2546 : 10) ประโยชน์ของกำรเกษตรที่มีส่วนเกยี่ วข้องกบั นกั เรยี น 1) ช่วยเพ่ิมพูนความรอบรู้ทางการศึกษาด้านการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ เปน็ พนื้ ฐานทจี่ ะประกอบอาชพี หรือศกึ ษาตอ่ ในระดับสงู ต่อไป 2) ช่วยให้นักเรียนได้เห็นแนวทางการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซ่ึงเป็น อาชีพทีส่ าคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ 3) ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติงานด้านการเกษตร ซึ่งจะได้รับผลผลิตทาง การเกษตรตามมา สามารถนาผลผลิตไปใชบ้ ริโภคหรือจาหนา่ ยเป็นรายได้ระหว่าง เรยี นได้ 4) ช่วยให้เกิดแนวคิด การดัดแปลง แก้ไข และการค้นพบส่ิงใหม่ ๆ อยู่เสมอ เช่น การขยายพันธ์ุพืชโดยการเพาะเล้ียงเนื้อเย่ือ การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน การใช้ พืชสมุนไพรป้องกันกาจัดศัตรูพืช เทคโนโลยีการเพ่ิมผลผลิตพืชและสัตว์ เป็นต้น (อัจฉรา นาคเมธี และคณะ, 2559 : 21) ชุดท่ี 1 ความรู้พนื้ ฐานของการเกษตร 21

กิจกรรมที่ 1 ชอ่ื -สกลุ .........................................................ชั้น...........เลขที่................ คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี 1) การเกษตร หรอื เกษตรกรรม หมายถึง...………………………………………………… ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 2) ความสาคญั ของการเกษตร คอื ………………….…………………………………………. ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 3) พชื สวน หมายถงึ ………………………………………………………………………………… ................................................................................................................................ แบง่ ย่อยได้เป็น.............กลุ่มใหญ่ๆ คือ .................................................................. ................................................................................................................................ 4) พชื ไร่ หมายถึง ............................................................................................... ................................................................................................................................ ยกตัวอยา่ ง ............................................................................................................. ................................................................................................................................ 5) พชื สมนุ ไพร หมายถงึ ..................................................................................... ................................................................................................................................ ยกตวั อยา่ ง ............................................................................................................. ................................................................................................................................ ชุดท่ี 1 ความรู้พนื้ ฐานของการเกษตร 22

กิจกรรมที่ 2 ชอ่ื -สกุล............................................................ช้ัน...........เลขท่.ี ............. คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นทาเครอ่ื งหมาย / หน้าขอ้ ความท่ีถกู ตอ้ ง และทา เคร่ืองหมาย X หนา้ ข้อความทผ่ี ิด 1. การเกษตรแบง่ ออกเปน็ 4 ประเภท ได้แก่ การปลูกพืช การเล้ียงสัตว์ ประมง และการเกษตรแบบผสมผสาน 2. การทาการเกษตรไมส่ ามารถเปน็ อาชีพเสรมิ อาชพี หลกั ได้ ตอ้ ง ใชเ้ วลาและความใส่ใจมาก 3. ช่วยให้มีความเปน็ อยทู่ ี่ดีข้ึนจากการปฏบิ ตั ติ ามแนวทฤษฎี เศรษฐกจิ แบบพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั 4. นาผลผลติ มาใช้เปน็ อาหาร และยารกั ษาโรคได้ 5. ทาใหเ้ สียคา่ ใช้จ่าย เช่น การซ้อื ปยุ๋ เคมี หรือสารเคมี เปน็ ตน้ 6. ช่วยให้มรี ายไดล้ ดลงและครอบครวั เดอื ดร้อน 7. การเกษตรกรรมยังมีบทบาททสี่ าคญั ต่อประเทศในหลายๆ ด้าน ไดแ้ ก่ ด้านเศรษฐกจิ ด้านสังคม ดา้ นการเมอื งการปกครอง และ ด้านความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศ 8. ช่วยให้มีรา่ งกายสมบูรณอ์ อ่ นแอ เหนอ่ื ยล้าจากการทางานเกษตร เพราะการทางานเกษตรส่วนใหญ่ต้องใช้กาลงั เชน่ การปลกู พชื การเลี้ยงสตั ว์ และประมง 9. เปน็ อาชีพธุรกจิ และบรกิ ารทางการเกษตร เช่น จาหนา่ ยไม้ ดอกไมป้ ระดับ รับจัดสวนหยอ่ ม จาหน่ายเครอ่ื งมอื ทาง การเกษตรจาหน่ายผลผลติ เกษตร 10. เปน็ อาชีพหลัก ไดแ้ ก่การทาการเกษตรเพอ่ื เปน็ รายได้หลกั ของ ครอบครวั เช่น ปลกู ผัก เล้ียงไก่ไข่ เลย้ี งกงุ้ ชุดท่ี 1 ความรูพ้ ้นื ฐานของการเกษตร 23

กจิ กรรมท่ี 3 ชอ่ื -สกุล.........................................................ชน้ั ...........เลขท่.ี ............... คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนบอกประโยชน์ของการเกษตรมาเปน็ ข้อ ๆ 1) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 2) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 3) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 4) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 5) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ ชดุ ท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานของการเกษตร 24

งำ่ ย ๆ แบบน้ี ผมทำได้อย่แู ล้วครับ ชดุ ที่ 1 ความรูพ้ ืน้ ฐานของการเกษตร 25

แบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ ท่ี 1 ควำมรพู้ ื้นฐำนของกำรเกษตร คำชแี้ จง : 1. แบบทดสอบฉบับนเี้ ป็นแบบทดสอบ 4 ตัวเลอื กมี 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ใหน้ ักเรียนทาเครอ่ื งหมาย ( x ) ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลอื ก ข้อที่ถกู ท่ีสดุ เพียงขอ้ เดยี วเทา่ นน้ั 1. พืชชนิดใดมีความสาคญั ตอ่ ชีวติ คนไทยมากท่สี ดุ ก. ขา้ วสาลี ข. ข้าวโพด ค. ข้าวจา้ ว ง. ข้าวฟ่าง 2. ปจั จัย 4 ของมนษุ ยท์ ีไ่ ดร้ ับจากพืช ข้อใดสาคัญทสี่ ดุ ก. อาหาร ข. ท่อี ยอู่ าศัย ค. เครอ่ื งน่งุ ห่ม ง. ยารักษาโรค 3. ขอ้ ใดไม่ใชก่ ารเกษตร ข. การเลยี้ งสัตว์ ก. การปลูกพชื ง. ตั้งโรงงานแปรรูปผลติ ผลทางการเกษตร ค. การเลย้ี งสตั วน์ า้ 4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ความสาคญั ของพืชซ่งึ ชว่ ยรกั ษาสภาพแวดล้อมและสภาพสมดลุ ของ ธรรมชาตไิ ด้ ก. ทาให้อากาศบรสิ ุทธิ์ ข. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ ภัยธรรมชาติ ค. ทาให้ธรุ กจิ การคา้ ไมเ้ จริญเตบิ โตขน้ึ ง. ทาให้สภาพแวดลอ้ มร่มรื่น สวยงาม ชดุ ท่ี 1 ความรพู้ น้ื ฐานของการเกษตร 26

5. พชื ในขอ้ ใดจดั อยใู่ นประเภทพชื ไร่ ก. สม้ โอ ข. ข้าวฟ่าง ค. กระทอ้ น ง. มะปราง 6. ขอ้ ใดเปน็ การแบง่ ประเภทการปลกู พืชตามลกั ษณะการปลกู ก. ปา่ ไม้ พืชไร่ พืชสวน ข. ธัญพชื พชื เส้นใย พชื นา้ มนั ค. พชื ไร่ พชื สวน พืชตระกลู ถว่ั ง. ไมด้ อก ไมป้ ระดับ ไมผ้ ล 7. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องการเกษตรแบบผสมผสาน ก. เพอ่ื ใช้ทรัพยากรทมี่ อี ยใู่ ห้เกิดประโยชน์สูงสดุ ข. เพ่อื ใหเ้ กษตรกรมีรายได้มากขนึ้ รา่ รวย ค. เพื่อยังชพี ใชก้ ินเป็นอาหารภายในครอบครัว ง. เพือ่ รักษาดุลยภาพทางธรรมชาตแิ ละปรับปรุง สงิ่ แวดล้อม 8. พนั ธไ์ุ ม้ชนิดใดไมจ่ ดั อยู่ในกล่มุ เดยี วกนั ก. ดาวเรอื ง ข. มะลิ ค. กุหลาบ ง. สน 9. ขอ้ ใดทไี่ มจ่ ดั อยู่ในปจั จัยท่ีเก่ยี วข้องกบั การเจริญเติบโตของพืช ก. อุณหภูมิ ข. ความช้นื ค. แสงสวา่ ง ง. เปอร์เซน็ ต์ความงอก 10. ขอ้ ใดไม่ใช่วิธกี ารอนรุ ักษป์ ่า ข. การทาพธิ บี วชต้นไม้ ก. การทาไร่เล่อื นลอย ง. ตัดตน้ ไมเ้ ม่ือได้รบั สมั ปทาน ค. ตัดต้นไม้ทีไ่ ดข้ นาดเหมาะสม ชุดท่ี 1 ความรู้พ้นื ฐานของการเกษตร 27

กระดำษคำตอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ชื่อ – สกลุ .............................................................ชน้ั ...............เลขที.่ ............ ข้อ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชดุ ท่ี 1 ความรูพ้ ้นื ฐานของการเกษตร 28

ภำคผนวก ชุดที่ 1 ความรพู้ ื้นฐานของการเกษตร 29

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ข้อ ก ข ค ง ทำกนั ไดไ้ หมครับ ? เด็ก ๆ 1. X 2. X 3. X 4. X 5. X 6. X 7. X 8. X 9. X 10. X ชุดท่ี 1 ความรพู้ ื้นฐานของการเกษตร 30

เฉลยกจิ กรรมท่ี 1 คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1) การเกษตร หรือเกษตรกรรม หมายถึง การปฏิบัติต่อดินเพื่อให้เกิดผลผลิต ท้ังการปลูกพืช เลี้ยง สัตว์ การทาประมงและการเกษตรผสมผสานโดยอาศัย ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและเงินทุนเพ่ือให้ได้ผลผลิตต่าง ๆ2) ความสาคัญของการเกษตร คอื เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ เปน็ ท่อี ยู่อาศัย ของมนุษย์ เป็นยารักษาโรค ใช้ทาเคร่ืองนุ่งห่ม ใช้เป็นอาหารของสัตว์เล้ียง มี ความสาคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศก่อให้เกิดอาชีพหลักสาคัญคนไทย เป็น แหล่งสันทนาการและการท่องเท่ียวทางธรรมชาติ และช่วยรักษาสภาพแวดล้อม และสภาพสมดลุ ของธรรมชาติ 3) พชื สวน หมายถงึ พืชท่ีปลูกในเนอ้ื ที่น้อย สามารถใหผ้ ลตอบแทนสูง ต้องการ ดแู ลรักษามาก แบ่งย่อยได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ไม้ดอกไมป้ ระดับ พืชผัก และ ไม้ผล 4) พืชไร่ หมายถึง พืชที่ปลูกโดยใช้เนื้อที่มาก มีการเจริญเติบโตเร็ว ไม่ต้องการ ดูแลรักษามากเหมือนพืชสวน ส่วนใหญ่เป็นพืชล้มลุก มีอายุต้ังแต่ 2 เดือน ถึง 1 ปี หรือมากกว่า ผลผลิตของพืชไร่มีความสาคัญทางเศรษฐกิจและชีวิตประจาวัน ของคนไทย ยกตวั อยา่ ง ขา้ ว ขา้ วโพด อ้อย ถวั่ ต่างๆ ยาสบู ฝา้ มันสาปะหลัง เป็นต้น 5) พชื สมุนไพร หมายถงึ พชื ท่ีมีสรรพคุณทางยารักษาบาบดั โรคแต่จาเปน็ ต้องมี ความรใู้ นพชื แตล่ ะชนดิ เพราะหากใช้ผิดวิธีหรอื ไม่ตรงกับอาการของโรคอาจ กอ่ ให้เกิดอันตรายถงึ ชวี ติ ได้ ยกตัวอย่าง หอมแดง ว่านหางจระเข้ ข้ีเหล็ก มะระ เสลดพังพอน กระเทียม ดอกบานไมร่ ้โู รย ชุดท่ี 1 ความรพู้ นื้ ฐานของการเกษตร 31

เฉลยกจิ กรรมที่ 2 คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นทาเครอื่ งหมาย / หนา้ ข้อความทถี่ ูกต้อง และทา เครือ่ งหมาย X หนา้ ข้อความทผ่ี ิด / 1. การเกษตรแบ่งออกเปน็ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ การปลกู พืช การเล้ียงสัตว์ ประมง และการเกษตรแบบผสมผสาน x 2. การทาการเกษตรไม่สามารถเปน็ อาชีพเสรมิ อาชีพหลกั ได้ ตอ้ ง / ใชเ้ วลาและความใสใ่ จมาก 3. ชว่ ยให้มีความเป็นอยทู่ ่ดี ขี นึ้ จากการปฏิบตั ิตามแนวทฤษฎี / เศรษฐกิจแบบพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั 4. นาผลผลติ มาใชเ้ ปน็ อาหาร และยารกั ษาโรคได้ x 5. ทาให้เสียคา่ ใช้จ่าย เช่น การซอ้ื ปุ๋ยเคมี หรอื สารเคมี เปน็ ต้น / 6. ชว่ ยให้มรี ายได้ลดลงและครอบครวั เดอื ดรอ้ น 7. การเกษตรกรรมยงั มบี ทบาททส่ี าคญั ตอ่ ประเทศในหลายๆ ด้าน / ได้แก่ ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นสังคม ด้านการเมืองการปกครอง และ ด้านความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ x 8. ช่วยให้มีรา่ งกายสมบูรณอ์ อ่ นแอ เหน่ือยลา้ จากการทางานเกษตร เพราะการทางานเกษตรส่วนใหญ่ต้องใช้กาลงั เช่น การปลูกพชื การเลยี้ งสัตว์ และประมง x 9. เป็นอาชพี ธุรกิจและบริการทางการเกษตร เช่น จาหนา่ ยไม้ ดอกไมป้ ระดบั รับจัดสวนหย่อม จาหนา่ ยเครอ่ื งมอื ทาง การเกษตรจาหนา่ ยผลผลิตเกษตร / 10. เป็นอาชีพหลัก ไดแ้ ก่การทาการเกษตรเพอ่ื เป็นรายไดห้ ลกั ของ ครอบครวั เชน่ ปลูกผกั เลยี้ งไกไ่ ข่ เลยี้ งกงุ้ ชดุ ที่ 1 ความรพู้ ืน้ ฐานของการเกษตร 32

เฉลยกจิ กรรมที่ 3 คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นบอกประโยชน์ของการเกษตรมาเป็นข้อ ๆ 1) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 2) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 3) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 4) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ 5) ..……………………………………………………………………......................................... ................................................................................................................................ ชุดที่ 1 ความรพู้ ้ืนฐานของการเกษตร 33

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ขอ้ ก ข ค ง ทำกนั ไดไ้ หมครบั ? เดก็ ๆ 1. X 2. X 3. X 4. X 5. X 6. X 7. X 8. X 9. X 10. X ชดุ ท่ี 1 ความร้พู ื้นฐานของการเกษตร 34

บรรณำนกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย. กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). เอกสำรประกอบหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำ ขน้ั พนื้ ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 ตวั ชว้ี ัดและสำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง กลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและเทคโนโลย.ี กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พค์ รุ ุสภา ลาดพรา้ ว. ปรีชา พงศ์ภมร. (2553). คู่มอื กำรเลยี้ งสัตว์และกำรเพำะปลกู . กรงุ เทพฯ : สานักงานหอสมดุ กลาง. วีระพงศ์ เจรญิ สนั ต.ิ (2546).เกษตรเพอ่ื กำรบริโภคและสิง่ แวดลอ้ ม. กรงุ เทพมหานคร. ศนู ยพ์ ฒั นาหนงั สอื , กรมวชิ าการ. อัจฉรา นาคเมธแี ละคณะ. (2559). หนังสือเรยี นกำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ป.3 ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำชัน้ พืน้ ฐำน พ.ศ. 2551. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั . อรา่ ม ค้มุ ทรพั ย์. (2554).เกษตรธรรมชำตแิ บบไทยไทย พชื ผัก กรงุ เทพมหานคร. บกิ๊ บุ๊ค เซนเตอร์ จากดั . อรา่ ม คุ้มทรพั ย.์ (2553). เกษตรธรรมชำตเิ ชิง ธรุ กิจ : พชื . กรงุ เทพฯ : หา้ งหุน้ ส่วนจากดั โรงพิมพ์อกั ษรไทย (น.ส.พ. ฟ้า เมืองไทย). ชดุ ท่ี 1 ความรู้พื้นฐานของการเกษตร 35

ขอ้ กำหนดกำรใหค้ ะแนนแบบประเมนิ ผลกำรปฏิบัติงำนตำมสภำพจริง กำรปฏบิ ตั งิ ำนรำยกลุ่ม เลม่ ท่ี 1 เรอื่ ง ควำมรพู้ นื้ ฐำนของกำรเกษตร รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนนท่ีให้ ปฏบิ ัติงำนกลมุ่ 5 4 3 21 1. มีการวาง มกี ารวางแผน มีการวางแผน มกี ารวางแผน มกี ารวางแผน ไมม่ ีการ แผนการปฏบิ ัตงิ าน และการกาหนด โดยการ แตร่ ะบุ บ้างแตไ่ ม่ วางแผน ตามลาดบั ขน้ั ตอนที่ ขัน้ ตอนในการ ปรึกษาหารือ ขนั้ ตอนในการ ชดั เจน กาหนด ปฏบิ ัติงานเป็น กนั ท้งั กลุ่ม ปฏบิ ตั งิ านไม่ แบบอยา่ งทดี่ ีได้ ครบถ้วน 2. มีการมอบหมาย มกี ารมอบหมาย มอบหมาย มอบหมาย มอบหมาย ไมม่ ีการ งานคานึงถึงความ งานโดยคานงึ ถึง งานโดย งานโดยไม่ งานแต่ มอบหมาย ถนดั ความสามารถ ความถนดั คานงึ ถึงความ คานงึ ถึงความ คานึงถงึ ความ งานตา่ งคน ของสมาชิกในกลุ่ม ความสามารถของ ถนดั ถนัดมกั จะ ใกลช้ ิดกนั เปน็ ต่างทา สมาชกิ ในกลุ่ม เกรงใจกนั ส่วนตวั โดยผ่าน มากกวา่ กระบวนการกลุ่ม ทุกคนเต็มใจใน การทางาน 3. มกี ารเตรียมวสั ดุ มกี ารเตรียมวสั ดุ มีการเตรียม มกี ารเตรยี ม มีการเตรียม มกี าร อปุ กรณ์ อปุ กรณ์ครบทุก วัสดอุ ปุ กรณ์ วัสดุไมค่ รบ วัสดุอุปกรณ์ เตรียมวัสดุ รายการและมี ครบทุก ขาด รายการ ไมค่ รบขาด 2 ไมค่ รบ ปริมาณเพียงพอ รายการแตม่ ี รายการ ขาด ปรมิ าณไม่ มากกวา่ 2 เพยี งพอ รายการ ชุดท่ี 1 ความรูพ้ ืน้ ฐานของการเกษตร 36

ขอ้ กำหนดกำรให้คะแนนแบบประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั ิงำนตำมสภำพจริง (ตอ่ ) กำรปฏบิ ตั ิงำนรำยกลมุ่ เลม่ ที่ 1 เร่ือง ควำมรู้พนื้ ฐำนของกำรเกษตร รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนนทใ่ี ห้ ปฏบิ ัตงิ ำนกลมุ่ 5 4 3 21 4. ปฏบิ ตั ิงานตาม มกี ารปฏบิ ัตงิ าน มีการ มกี าร มีการ ไมม่ ีการ ขั้นตอนที่กาหนด ตามข้นั ตอนที่ ปฏิบัตงิ าน ปฏบิ ตั งิ าน ปฏบิ ัตงิ าน ปฏิบัติงาน กาหนดทกุ ตามข้ันตอนที่ ตามขั้นตอนที่ ตามขั้นตอนที่ ตาม ขน้ั ตอน 1 ข้ันตอน กาหนดขาด 2 กาหนดขาด 3 ขน้ั ตอนที่ ขน้ั ตอน ขน้ั ตอน กาหนด 5. ความร่วมมอื ใน สมาชิกในกล่มุ ทุก สมาชิกในกลมุ่ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกลุ่ม สมาชิกใน การปฏบิ ตั ิงาน คนใหค้ วาม ทุกคนให้ความ บางคนไม่ให้ สว่ นใหญไ่ ม่ให้ กลุ่มไม่ให้ ร่วมมอื กนั ในการ ร่วมมอื กนั ใน ความรว่ มมอื ความรว่ มมือ ความ ปฏบิ ตั ิงานดว้ ย การปฏิบตั งิ าน ในการ กันในการ ร่วมมือกนั ความขยนั ขนั แขง็ ปฏิบตั งิ าน ปฏบิ ัตงิ าน 6. ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเร็จของงาน ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเร็จของ ผลสาเร็จ ผลงานไม่ งานเรียบรอ้ ยมี เรียบรอ้ ยมี งานเรยี บรอ้ ย งานเป็นส่วน บางสว่ น สาเร็จ ประสทิ ธิภาพ คุณภาพ ใหญ่ ชดุ ที่ 1 ความร้พู นื้ ฐานของการเกษตร 37

แบบสงั เกตทักษะกำรทำงำน กลมุ่ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เล่มที่ 1 เร่ือง ควำมรู้พนื้ ฐำนของกำรเกษตร คำชี้แจง : พฤติกรรมการแสดงออกของนักเรยี นกาหนดเปน็ ระดบั คะแนนได้ ดงั นี้ ระดบั คะแนน 3 ดีเยย่ี ม ระดบั คะแนน 2 ดี ระดบั คะแนน 1 ผา่ น ระดบั คะแนน 0 ปรบั ปรุง รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 3 210 1. มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการเรยี นรู้ 2. มที ักษะในการเรยี นรู้ 3. กลา้ คิด กลา้ แสดงออก 4. ความรว่ มมอื ในการรว่ มกิจกรรม 5. มีทกั ษะการทางานเป็นกลุ่ม รวมคะแนนแต่ละช่อง รวมคะแนนท้งั หมด คะแนนรวมเฉล่ีย ลงชือ่ ผู้ประเมนิ วันที่...........เดอื น.................................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมินคะแนนรวมเฉลย่ี ไปใส่ในแบบบนั ทกึ คะแนน ชุดท่ี 1 ความร้พู น้ื ฐานของการเกษตร 38

แบบสังเกตคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ กลมุ่ สำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เล่มที่ 1 เรอื่ ง ควำมร้พู น้ื ฐำนของกำรเกษตร คำชแี้ จง : พฤติกรรมการแสดงออกของนกั เรยี นกาหนดเป็นระดบั คะแนนได้ดงั น้ี ระดับคะแนน 3 ดีเย่ยี ม ระดบั คะแนน 2 ดี ระดบั คะแนน 1 ผา่ น ระดับคะแนน 0 ปรับปรงุ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 32 1 0 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. อยอู่ ย่างพอเพียง 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน รวมคะแนนแตล่ ะช่อง รวมคะแนนทงั้ หมด คะแนนรวมเฉลีย่ ลงชื่อ ผู้ประเมิน วันท.่ี ........เดอื น...............................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมินคะแนนรวมเฉลยี่ ไปใส่ในแบบบันทกึ คะแนน ชุดที่ 1 ความร้พู ื้นฐานของการเกษตร 39

แบบบันทกึ คะแนน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 3 เล่มที่ 1 เรือ่ ง ควำมรพู้ น้ื ฐำนของกำรเกษตร กำรสงั เกต กำรสังเกต กำรตรวจ กำรทำ ผลรวมกำร ผลกำรประเมิน ท่ี ทกั ษะกำร คุณลักษณะอัน ผลงำน/ แบบฝกึ หัด/ ประเมนิ รอ้ ยละ ทำงำน (5) พึงประสงค์ (5) ชน้ิ งำน(5) กำรทดสอบ (20) (5) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ลงช่ือ ผู้ประเมนิ วนั ที่............เดือน.....................................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมินคะแนนรวมเฉลยี่ ไปใส่ในแบบบนั ทกึ คะแนน ชุดที่ 1 ความรูพ้ น้ื ฐานของการเกษตร 40

ตำรำงกำรประเมนิ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 1 เร่ือง ควำมรู้พนื้ ฐำนของกำรเกษตร ผลกำร กำรประเมิน ผลกำรประเมิน ที่ ประเมนิ ดีมำก ดี พอใช้ ปรับ ซ่อม ผ่ำน ไมผ่ ่ำน หมำยเหตุ เฉล่ยี ร้อยละ ปรุง เสริม 1 เกณฑก์ ารประเมิน 2 คะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 3 80-100 ดมี าก 4 คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ 5 70-79 ดี 6 คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 7 60-69 พอใช้ 8 คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 9 50-59 ปรับปรุง 10 คะแนนเฉลี่ยต่ากว่า 11 รอ้ ยละ 50 ซอ่ ม 12 เสริม 13 14 15 16 17 18 ชุดที่ 1 ความร้พู ้นื ฐานของการเกษตร 41


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook