[วันท่]ี [ช่อื เอกสาร] [ช่อื เร่อื งรองของเอกสาร] RAHMAN [ช่อื บรษิ ทั ] [ที่อยบู่ รษิ ทั ]
คำชแี้ จง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยีชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ชุดที่ 3 เร่ือง รู้จักพืชผักสวนครัว จัดทาขึ้นโดยกาหนดเน้ือหา และจุดประสงค์ตามหลักสูตรกลุ่มสาระการงาน อาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อใช้ประกอบการจัดกจิ กรรมการ เรียนการสอน ซ่ึงนักเรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง และสามารถปฏิบัติ กิจกรรมตามกระบวนการตามเอกสารไดด้ ้วยตนเอง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง งานเกษตรน่ารู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยชี ้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 ชุดที่ 3 เร่ือง รู้จักพืชผักสวนครัว จะ ช่วยส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนได้ตามศักยภาพของตนเอง และจะมีประโยชน์มี คุณค่าต่อนักเรียน เม่ือนักเรียนนาความรู้ท่ีได้ไปเป็นแนวทางปฏิบัติจริงใน ชีวติ ประจาวันได้ ชุดท่ี 3 รจู้ กั พชื ผกั สวนครวั 1
คำแนะนำสำหรบั ครู ในการจัดกิจกรรมการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง รู้จักพืชผัก สวนครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษา ปีท่ี 3 มคี าแนะนาสาหรับครผู สู้ อน ดังนี้ 1. ศึกษาเนื้อหา และกิจกรรมของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เข้าใจอย่างละเอียด ตามขน้ั ตอนทเ่ี สนอแนะไว้ 2. ศึกษามาตรฐาน ตัวชว้ี ดั และจุดประสงค์การเรียนร้ใู ห้เขา้ ใจ 3. ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เล่มน้ีควบคู่กับแผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 3 เร่ือง รู้จักพืชผักสวนครัว พร้อมท้ังศึกษาแผนการจัดการ เรยี นรอู้ ย่างละเอียด 4. ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้เลม่ น้ี ครูสามารถนาไปใช้สอนซอ่ มเสรมิ 4.1 นักเรียนทม่ี ผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นตา่ 4.2 นักเรยี นท่ีต้องการเรียนซา้ 4.3 นกั เรียนท่ีเรียนช้ากรณีหยดุ เรียนหรือย้ายมาเข้าเรยี นใหม่ในระหว่างปี การศกึ ษา 4.4 ใช้สอนเสรมิ กับนักเรยี นทต่ี ้องการพัฒนาทกั ษะเพ่ิมเตมิ จากบทเรยี น 5. ครูแนะนา ชแ้ี จงใหน้ ักเรยี นอา่ นคาชแ้ี จงให้เข้าใจและปฏบิ ัตติ ามลาดบั ขั้นตอน 6. แนะนาช่วยเหลือ และให้คาปรึกษา เม่ือนักเรียนมีปัญหาในการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรแู้ ละการปฏิบตั ิกจิ กรรม ชดุ ที่ 3 รูจ้ ักพืชผักสวนครวั 2
คำแนะนำสำหรบั นกั เรียน การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง รู้จักพืชผักสวนครัว กลุ่มสาระการ เรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคาแนะนาสาหรับ นกั เรียนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรูใ้ ห้ปฏบิ ัติ ดังน้ี 1. ศึกษาจดุ ประสงค์การเรียนรู้ของชุดกิจกรรมการเรยี นร้ใู หเ้ ขา้ ใจ 2. ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เป็นบทเรยี นสาหรบั ให้ผเู้ รยี นศกึ ษาดว้ ยตนเอง 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ขอ้ เพอื่ วดั ความรู้กอ่ นเร่ิมเรยี น 3. ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และขั้นตอน เรียงตามลาดับอย่างตั้งใจ เม่ือเกิด ปัญหาไมเ่ ข้าใจนกั เรยี นสามารถสอบถามครผู ้สู อนได้ 4. นักเรียนทาใบงานทบทวนทุกกิจกรรมที่กาหนดให้ ลงในกระดาษคาตอบที่ จัดเตรยี มไวใ้ ห้ 5. หลังศึกษาเนื้อหา และทากิจกรรมแต่ละตอนจบแล้ว ให้นักเรียนทา แบบทดสอบหลงั เรียน เพ่ือทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ 6. ตรวจคาตอบใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากแบบเฉลย ท้ายเล่มและเปรียบเทียบการเรียนรู้ก่อนศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้กับหลัง ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หากยังไม่เข้าใจเรื่องใด ให้กลับไปทบทวนบทเรียน ใหม่ 7. ข้อสาคัญ นักเรียนต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่เปิดดูเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน รวมท้ังเฉลยใบงานทุกกิจกรรมก่อนเด็ดขาด และห้ามลอกเพื่อน เพราะจะทาให้นักเรยี นไม่ประสบผลสาเร็จในการเรยี นดว้ ยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดท่ี 3 ร้จู ักพชื ผกั สวนครัว 3
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระที่ 1 กำรดำรงชวี ติ และครอบครัว มำตรฐำน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการ ทางานทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางานมี จิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพ่ือการดารงชีวิตและ ครอบครัว ตวั ชี้วดั ง 1.1 ป.3/1 อธิบายวิธกี ารและประโยชน์การทางาน เพอื่ ช่วยเหลอื ตนเอง ครอบครวั และสว่ นรวม ง 1.1 ป.3/2 ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมอื ตรงกับลกั ษณะงาน ง 1.1 ป.3/3 ทางานอย่างเปน็ ขนั้ ตอนตามกระบวนการทางานด้วยความสะอาด ความรอบคอบ และอนรุ กั ษ์สง่ิ แวดลอ้ ม ชดุ ท่ี 3 ร้จู กั พชื ผกั สวนครวั 4
สำระสำคัญ พืชผักสวนครัว หมายถึง พืชท่ีใช้ส่วนต่างๆ เป็นอาหาร เช่น ลาต้น ใบ ดอก ผล และหัว พืชผักสวนครัวสามารถปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพ่ือใช้บริโภค ภายในครอบครัว ถ้าเหลือก็สามารถนาไปจาหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับ ครอบครัว พชื ผักสวนครัว แบ่งตำมสว่ นทีน่ ำมำใช้ประโยชน์ คือ 1. ประเภทกนิ ใบ 2. ประเภทกนิ ดอก 3. ประเภทกนิ ผลหรือฝกั 4. ประเภทกินหวั หรือราก สำระกำรเรียนรู้ 1. ความหมายของพืชผักสวนครวั 2. ประเภทของพชื ผกั สวนครวั 3. ประโยชน์ของพชื ผักสวนครัว ชดุ ท่ี 3 รู้จักพืชผักสวนครวั 5
จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. สามารถบอกความหมาย และประโยชนข์ องพชื ผักสวนครวั ได้ (K) 2. สามารถจาแนกประเภทของพชื ผักสวนครวั ได้ (K, P) 3. สามารถทากิจกรรมหลังชดุ กิจกรรมการเรียนร้ไู ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (K, P) 4. เข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง รูจ้ ักพชื ผกั สวนครัว ดว้ ยความ สนกุ สนาน ชืน่ ชอบและมคี ณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ างการเรยี น (A) ชดุ ที่ 3 รูจ้ ักพชื ผักสวนครัว 6
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชดุ ท่ี 3 รู้จักพืชผกั สวนครวั คำชีแ้ จง : 1. แบบทดสอบฉบับนเี้ ป็นแบบทดสอบ 4 ตัวเลือกมี 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย ( x ) ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลือก ขอ้ ทีถ่ กู ท่ีสดุ เพียงขอ้ เดยี วเทา่ น้นั 1. ขอ้ ใดคอื ความหมายของ “พืชผักสวนครวั ” ก. ผกั ท่ีปลูกไวเ้ พอื่ จาหน่าย ข. ผักทีป่ ลูกไวเ้ พอื่ รับประทานในครอบครัว ค. ผกั ทป่ี ลกู ไวเ้ พือ่ ประดับบ้าน ง. ผักที่ปลูกไวเ้ พอ่ื แจกเพอ่ื นบา้ น 2. เราควรเลอื กรับประทานผักชนดิ ใดทป่ี ลอดภัยจากสารเคมมี ากทส่ี ดุ ก. กะหลา่ ปลี ข. คะน้า ค. ผกั กาดขาว ง. ชะอม 3. หอมหัวใหญ่ จดั อยูใ่ นประเภทใด ข. ใช้ดอกเป็นอาหาร ก. ใช้ใบและลาต้นเป็นอาหาร ง. ใชห้ วั หรอื รากเป็นอาหาร ค. ใชผ้ ลหรอื ฝกั เปน็ อาหาร 4. ผกั ขอ้ ใดที่นาใบและลาตน้ มาเปน็ อาหาร ก. ผักกาดขาว ข. กระชาย ค. มะเขอื เทศ ง. แตงกวา 5. ข้อใด ไมใ่ ช่ พืชผักสวนครวั ที่ใช้ใบเป็นอาหาร ก. คะนา้ ข. มะเขอื ค. ผกั บุ้ง ง. ตาลงึ ชดุ ที่ 3 รู้จกั พชื ผกั สวนครวั 7
6. พืชผักสวนครวั ในขอ้ ใดใชผ้ ลเป็นอาหาร ก. คะนา้ ข. ผักบงุ้ ค. มะเขอื ง. ตาลงึ 7. จากภาพมีชอื่ วา่ อะไร ข. ตะไคร้ ก. ขมิน้ ง. ขิง ค. ข่า 8. ข้อใด ไมใ่ ช่ ประโยชน์ของการปลูกพืชสวนครัว ก. เพิม่ รายไดใ้ หค้ รอบครัว ข. เพอ่ื ความสวยงาม ค. เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรค ง. ใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ 9. พชื ผักสวนครวั ในขอ้ ใดใช้ดอกเป็นอาหาร ก. แครอท ข. มะเขือเทศ ค. บร็อคโคล่ี ง. สะระแหน่ 10. จากภาพมีชอ่ื วา่ อะไร ข. กะเพรา ก. คะน้า ง. ตาลงึ ค. ผักชี ชดุ ท่ี 3 รู้จักพืชผกั สวนครวั 8
กระดำษคำตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ชอ่ื – สกุล .............................................................ชั้น...........เลขที่............... ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชดุ ที่ 3 ร้จู กั พืชผักสวนครวั 9
ใบควำมรู้ เร่อื ง รจู้ ักพชื ผกั สวนครัว ควำมสำคัญของพชื ผัก ผักเป็นพืชอาหารท่ีมีความสาคัญทางเศรษฐกิจของโลก ประเทศต่าง ๆ ใน โลกนี้อาจมีการปลูกพืชต่าง ๆ กันเพื่อเป็นอาหารหลัก บางประเทศปลูกข้าวเป็น อาหาร แต่บางประเทศปลูกขา้ วโพด ข้าวสาลี หรอื มนั ฝรัง่ มนั สาปะหลงั เพื่อเป็น อาหาร แต่พชื ท่ที ุก ๆ ประเทศตอ้ งปลูกเพือ่ การบริโภคเป็นอาหาร อยา่ งขาดไมไ่ ด้ เลยคือ พืชผัก เพราะพืชผักมีความสาคัญต่อการดารงชีวิตของร่างกายให้ดารงอยู่ ไดต้ ามปกติ บางประเทศมีการปลกู ผกั ในพื้นท่กี ว้าง และเปน็ พืชเศรษฐกจิ ทีส่ าคัญ สามารถทารายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล ประเทศปลูกผักท่ีสาคัญของโลก ได้แก่ อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สเปน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ประเทศ ไทยก็เป็นประเทศที่มีการปลูกผักเพ่ือการบริโภค และมีการส่งพืชผักบางชนิด อาทิเชน่ ข้าวโพดฝกั ออ่ น หนอ่ ไมฝ้ ร่ัง เป็นตน้ พืชผักสวนครัวมีความสาคัญตอมนุษย์ใช้ในชีวิตประจาวันเพ่ือประกอบ อาหาร มนุษย์เร่มิ มกี ารคดิ ปลูกพืชสวนครวั มาตั้งแต่รนุ่ สมัยกอ่ น โดยการหาพันธุ์ พืชที่มีความจาเป็นใช้ในการประกอบอาหารมาเพื่อปลูกไว้ในครัวเรือน เพื่อลด ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและปลอดสารพิษ พืชผักสวนครัวมีหลากหลายชนิดและ วิธกี ารปลกู ทแี่ ตกตา่ งกัน มีท้งั กินใบ กนิ ต้น และกนิ ผล ดังนั้นในแต่ละครอบครัว จะปลูกพืชผักสวนครัวท่ีไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความจาเป็นใช้และสภาพดิน อากาศท่เี หมาะสมกับการปลูก (ชอ่ ขวญั วงศ์สวุ รรณ และคณะ, 2554 : 12) ชดุ ที่ 3 รู้จักพืชผักสวนครวั 10
ควำมหมำยของ“พชื ผักสวนครัว” ผกั หมายถึง พชื ที่ปลูกเพื่อใช้ประโยชนจ์ ากใบ ราก ดอก หวั หรือลาต้นเป็น อาหาร ผักท่ีนามาใช้เป็นอาหารน้ีสามารถจะรับประทานสดๆ หรือทาให้สุก เช่น แกง ต้ม น่ึง ตุ๋น เป็นตน้ พืชผกั เป็นอาหารท่คี นต้องรับประทานอยเู่ ป็นประจา ถ้า มีเวลาและมีที่ว่างเหลืออยู่ที่บ้าน หรือโรงเรียน ควรปลูกพืชผักไว้สาหรับ รับประทานเอง เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าจ่ายของครอบครัวแล้ว ยังทา ให้ได้รับประทานผักสดที่มีคุณคา่ ทางอาหารสูงและถ้าปลูกจานวนมากก็ สามารถ นาไปจาหน่ายหารายได้ให้กับครอบครัวได้ด้วย พืชผักท่ีปลูกสาหรับรับประทาน เองทีบ่ า้ น หรือโรงเรียนตามลกั ษณะท่ีกล่าวเรยี กว่า“พืชผักสวนครัว” พืชผักสวนครัว หมายถึง พืชท่ีใช้ส่วนต่างๆ เป็นอาหาร เช่น ลาต้น ใบ ดอก ผล และหัว พืชผักสวนครัวสามารถปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพื่อใช้บริโภค ภายในครอบครัว ถ้าเหลือก็สามารถนาไปจาหน่ายเพ่ือเป็นรายได้เสริมให้กับ ครอบครัว พืชผักสวนครัว เป็นแหล่งรวมสารอาหารท่ีเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เกลือแร่ และวิตามิน (อจั ฉรา นาคเมธี และคณะ, 2559 : 25) ชดุ ท่ี 3 รู้จกั พืชผักสวนครวั 11
ซ่ึงสำมำรถแบง่ ตำมสว่ นท่ีนำมำใชป้ ระโยชนใ์ นกำรนำมำประกอบอำหำร ได้ 4 ประเภท ดังน้ี คอื 1. ประเภทกินใบและลำต้นเป็นอำหำร คือ ผักท่ีเรารับประทานต้น ใบ ยอด ซึ่งก็จะได้แก่ ผักบุ้ง ผักคะน้า ตาลึง กะหล่าดอก กะหล่าปลี ผักกาดเขียว ผักกาดขาว ผักกาดหอม ผักกวางตุ้ง ผกั ตงั โอ๋ ผกั ชี หอม หนอ่ ไม้ฝรง่ั สะระแหน่ เป็นตน้ ภาพท่ี 1 ผักกนิ ใบและลาตน้ เปน็ อาหาร ที่มาภาพ : อับดลุ รอมนั มะรอื มอ , 2651 2. ประเภทกินดอกเปน็ อำหำร คอื ผักทเี่ รารบั ประทานดอกเป็นอาหาร ซง่ึ ก็จะได้แก่ เชน่ กะหลา่ ดอก ดอกแค บรอ็ คโคลี่ ขจร โสน สะเดา และดอกผักชนดิ ต่างๆ ชุดท่ี 3 ร้จู กั พชื ผักสวนครัว 12
ภาพที่ 2 ผักกนิ ดอกเป็นอาหาร ทม่ี าภาพ : อบั ดุลรอมัน มะรอื มอ, 2651 3. ประเภทกินผลหรือฝกั เปน็ อำหำร คือ ผักทีเ่ รารบั ประทานผลและฝัก ซ่ึงก็จะได้แก่ พริก มะเขอื ฟกั แตงกวา ถั่วฝกั ยาว มะเขือเทศ บวบ มะระ ถวั่ พู สะตอ เปน็ ตน้ ภาพท่ี 3 ผักกนิ ผลหรอื ฝักเป็นอาหาร ทีม่ าภาพ : อับดุลรอมัน มะรอื มอ ,2651 ชดุ ท่ี 3 ร้จู กั พืชผกั สวนครัว 13
4. ประเภทกินหัวหรือรำกเป็นอำหำร คอื ผักท่ีเรารบั ประทานหวั และราก ซง่ึ กจ็ ะไดแ้ ก่ ขงิ ข่า ตะไคร้ กระเทยี ม หอมหัวใหญ่ แครอท กระชาย หวั ไชเทา้ หอมแดง ขมิ้น เป็นต้น ภาพท่ี 4 ผกั กินหัวหรอื รากเป็นอาหาร ทม่ี าภาพ : อับดลุ รอมัน มะรอื มอ, 2651 ชดุ ที่ 3 รจู้ กั พชื ผักสวนครวั 14
กำรจำแนกประเภทของผัก การจาแนกประเภทของผัก ออกเป็นประเภทต่างๆน้ัน มีเกณฑ์อยู่หลาย อย่าง ท่ีสามารถใช้ในการจาแนก ประเภทของผักได้ แต่ที่นิยมกันหลักๆแล้ว ใช้ เกณฑ์จาแนกตามลักษณะทางพฤกษศาสตร์, จาแนกส่วนที่ใช้ในการบริโภค และ จาแนกตามฤดูปลูกท่ีเหมาะสม รายละเอียดของเกณฑก์ ารจาแนกดังกล่าว 1. กำรจำแนกผักตำมลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ การจาแนกประเภทนี้ เป็นท่ี นยิ มใชใ้ นแวดวงการศึกษา การวจิ ยั ต่างๆ และค่อนข้างจะเปน็ เกณฑก์ ารจาแนกท่ี เป็นสากล โดยอาศัยความเก่ียวข้องใกล้เคียงกันของผัก มีการเจริญเติบโตใน สภาพภูมปิ ระเทศ และภูมอิ ากาศคล้ายคลงึ กนั นอกจากน้ีผักประเภทเดียวกันมัก มีระบบการเจริญเตบิ โต ทางราก ลาต้น และใบ ระบบการสืบพันธ์ุ ได้แก่ ดอก ผล และเมล็ด ที่คล้ายคลึงกัน และส่วนมาก นิยมจาแนกผักตามลักษณะทาง พฤกษศาสตร์นี้ ถงึ แคร่ ะดบั ตระกลู (Family) ยกตวั อยา่ ง เช่น ตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่าดาว กะหล่าดอก กะหล่าปลี กวางตุ้ง คะน้า ผักกาดขาวปลี ผกั กาดเขียวปลี ผักกาดหัว บรอคโคลี ตระกูลแตง ได้แก่ แตงกวา แตงเทศ แตงโม ตาลึง บวบเหล่ียม บวบ หอม น้าเตา้ ฟกั ทอง มะระ ตระกูลถ่ัว ได้แก่ กระถิน แค ชะอม ถั่วแขก ถั่วฝักยาว ถ่ัวลันเตา มันแกว โสน ตระกูลมะเขือ ได้แก่ พริก พรกิ ยักษ์ พรกิ หวาน มะเขอื มะเขอื เทศ มะแว้ง ตระกลู หอม ได้แก่ กระเทียม หอมแดง หอมแบ่ง หอมหวั ใหญ่ ตระกูลอ่ืนๆ ได้แก่ ข้าวโพดหวาน ขึ้นฉ่าย เคร่ืองเทศ ผักกาดหอม ผักชี ผกั บุง้ จนี ชดุ ที่ 3 รู้จักพชื ผักสวนครัว 15
2. กำรจำแนกผักตำมส่วนท่ีใชบ้ ริโภค ส่วนของผกั ทใี่ ชบ้ รโิ ภค ได้แก่ ใบ ลาต้น ราก ดอก ผล และเมล็ด การผลติ ผัก เพ่ือต้องการส่วนของใบ และลาต้น ส่วนทใ่ี ชบ้ รโิ ภคของผกั จาแนกได้ดังนี้ รำก – รากแกว้ ไดแ้ ก่ แครอท ผกั กาดหวั – รากแขนง ไดแ้ ก่ มนั เทศ ลำตน้ – ลาตน้ เหนือดิน ได้แก่ กะหล่า หนอ่ ไมฝ้ รง่ั – ลาต้นใต้ดิน ไดแ้ ก่ ขิง ข่า เผือก มันฝร่ัง หนอ่ ไม้ ใบ – ตระกลู หอม ไดแ้ ก่ กระเทยี ม กระเทยี มต้น หอมแดง หอมแบ่ง หอมหวั ใหญ่ – กลมุ่ ใบกว้าง ไดแ้ ก่ กะหล่าปลี คะน้า ผกั กาดขาวปลี ผกั กาดหอม ดอก – ตาดอกออ่ น ไดแ้ ก่ กะหลา่ ดอก บรอคโคลี่ – ดอกแก่ ไดแ้ ก่ แค โสน ผล – ผลออ่ น ไดแ้ ก่ กระเจยี๊ บเขยี ว ข้าวโพดฝกั ออ่ น แตงกวา ถัว่ ฝักยาว ถ่วั ลนั เตา บวบเหลีย่ ม มะเขือ มะระ – ผลแก่ ได้แก่ ตระกลู แตง เชน่ แตงเทศ แตงโม ฟักทอง ตระกลู มะเขอื ไดแ้ ก่ พรกิ มะเขอื เทศ ชดุ ท่ี 3 รจู้ ักพชื ผักสวนครัว 16
3. จำแนกตำมฤดูปลูกทเี่ หมำะสม การใช้เกณฑ์ฤดูปลูกที่เหมาะสมในการจาแนกผักนั้น จะข้ึนอยู่กับฤดูกาล อันมีผลเก่ียวเนือ่ งจากลักษณะทางสภาพภมู ิอากาศและภูมิประเทศของพ้ืนที่นน้ั ๆ สาหรบั ประเทศไทยนนั้ อยู่ในเขตรอ้ นชนื้ ตลอดปี มี 3 ฤดู ไดแ้ ก่ ฤดฝู น เดอื น มถิ นุ ายน-กันยายน ฤดหู นำว เดอื น ตุลาคม-มกราคม ฤดรู ้อน เดือน กุมภาพนั ธ์-พฤษภาคม โดยทว่ั ไปพืชผัก สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่ในปัจจุบันมกี ารปรับปรุงพันธ์ุผัก ให้สามารถปลูกในแต่ละฤดูได้อยา่ งเหมาะสม สามารถจาแนกผักที่เจริญเติบโตได้ อยา่ งปกตใิ นสภาพอุณหภูมติ า่ งๆ ดงั น้ี ผักฤดูหนาว สามารถเจรญิ เตบิ โตไดด้ ีระหวา่ งอุณหภมู ิ 18-28 องศาเซลเซยี ส ผักกลุ่มนี้ สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตสูงในฤดูหนาว หากต้องการปลูกใน ฤดูร้อนและฤดูฝนควรเลือกปลูกพันธุ์ท่ีทนร้อนและฝนหรือพันธุ์เบา สามารถ เจริญเติบโตและให้ผลผลิตสูงเช่นกัน หากเลือกใช้พันธ์ุท่ีไม่เหมาะสมอาจทาให้ ผลผลิตต่าหรือเสียหาย ได้แก่ กะหล่าดอก กะหล่าปลีกระเทียม แครอท บรอคโคลี่ ผกั กาดเขียวปลี ผักกาดหัว ผักกาดหอม มนั ฝรั่ง และหอมหัวใหญ่ ผักฤดูร้อน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอุณหภูมิระหว่าง 25-35 องศาเซลเซียส การปลูกในประเทศไทยสามารถเจริญเติบโตให้ผลผลิตสูง ตลอดปี ได้แก่ กระเจ๊ียบเขียว ข้าวโพดหวาน ผักตระกูลแตงทุกชนิด ผักตระกูล มะเขือท้ังหมด ยกเว้น พริกยักษ์ พริกหวาน สาหรับผักตระกูลถั่ว ยกเว้น ถั่ว ลนั เตา ผักฤดูฝน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอุณหภูมิระหว่าง 25-35 องศาเซลเซียสและทนฝน ได้แก่ ผักตระกูลแตงทั้งหมด ยกเว้น แตงเทศ ผัก ตระกูลมะเขือ และถ่ัวฝักยาว ผักกลุ่มน้ีเจริญเติบโตได้ผลดีในทุกฤดู (วรรณี แต้, 2642 : 18) ชดุ ท่ี 3 รู้จกั พชื ผักสวนครวั 17
ประโยชน์ของ พชื ผักสวนครวั 1. ใช้รับประทานเป็นอาหารโดยอาจรับประทานสดๆ เช่น แตงกวา กะหล่าปลี หรือนาไปปรุงเป็นอาหารก่อน ซึ่งผักแต่ละชนิดจะมีสารอาหารที่ แตกตา่ งกัน เชน่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วติ ามนิ เกลือแร่ เป็นตน้ 2. ใช้เป็นพชื สมุนไพรรักษาโรค เชน่ หอม กระเทยี ม ขงิ สะระแหน่ เป็นต้น 3. ใชข้ ายเพอื่ เป็นรายไดข้ องครอบครัว 4. ทาใหผ้ ปู้ ลูกมรี า่ งกายแข็งแรง เพราะตอ้ งพรวนดนิ รดน้า ใสป่ ยุ๋ และดแู ล ผักอยเู่ สมอ ทาให้ไดอ้ อกกาลังกายไปในตัว 5. ทาเป็นรว้ั บ้านได้ คือ ปลูกลอ้ มกั้นเป็นเขตของบ้าน ซ่ึงเป็นที่มาของคาว่า “ผักสวนครัว ร้ัวกินได้” เช่น กระถิน ชะอม ตาลึง มะระ เป็นต้น (ช่อขวัญ วงศส์ ุวรรณ, 2544 : 14) ชดุ ที่ 3 ร้จู กั พชื ผักสวนครวั 18
กิจกรรมท่ี 1 ช่ือ-สกุล...............................................................ชั้น...........เลขที่............ คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1) พชื ผักสวนครวั หมายถึง ……………………………………………………………… ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 2) เราสามารถแบง่ พืชผักสวนครัวตามส่วนท่นี ามาใชป้ ระโยชน์ในการนามา ประกอบอาหารได้ ออกเป็น...................ประเภท คือ ………………………………………………………………………………………………………………… ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 3) ใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ ง พืชผกั สวนครวั ประเภทกนิ ใบและลาตน้ เป็น อาหาร มา 3 ชนิด ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 4) การจาแนกผกั ตามลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ พืชจาพวก ตำลงึ บวบ เหล่ียม ฟักทอง มะระ จัดอยู่ในพืชตระกูลใด ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 5) ใหน้ ักเรยี นบอกประโยชน์ ของพชื ผักสวนครวั มา 2 ประโยชน์ คอื 1............................................................................................................................ 2............................................................................................................................. ชุดท่ี 3 รู้จักพืชผกั สวนครวั 19
กิจกรรมที่ 2 ชอ่ื -สกลุ .........................................................ช้ัน...........เลขท.่ี ............ คำชี้แจง : ให้นักเรียนแยกแยะช่ือพืชผักสวนครัวที่กาหนดให้ ตามประเภทและ สว่ นทน่ี ามาใช้ประโยชน์ในการนามาประกอบอาหารให้ถูกต้อง ผักบ้งุ พริก บวบ ขงิ กวำงตุ้ง ขำ่ ดอกแค กระชำย แตงกวำ บรอ็ คโคลี่ สะเดำ สะตอ กะหล่ำดอก ตำลงึ ขม้นิ หัวหอมใหญ่ ผักชี ถ่ัวพู ผักกำดหอม โสน 1.ประเภทกินหวั หรอื รำกเป็น 2.ประเภทกินใบและลำตน้ เปน็ อำหำร คอื .................................... อำหำร คอื ..................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... กำรแบ่งพชื ผักสวนครวั ตำมส่วนท่ี นำมำใชป้ ระโยชนใ์ นกำรนำมำ ประกอบอำหำร 3.ประเภทกนิ ดอกเป็นอำหำร 4.ประเภทกินผลเป็นอำหำร คือ คือ.................................................. ...................................................... ....................................................... ................................................. ....................................................... ................................................ ชุดที่ 3 รู้จกั พชื ผกั สวนครัว 20
กจิ กรรมท่ี 3 ช่ือ-สกลุ ............................................................ช้ัน...........เลขท.่ี ............... คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นโยงเสน้ จบั คู่รปู พืชผกั สวนครัวกบั ชอ่ื ให้ถูกต้อง พืชผัก ชื่อ สวนครัว 1. กะเพรำ ■ ■ 2. ตำลงึ ■ ■ 3. กระชำย ■ ■ 4. ตะไคร้ ■ ■ 5. ข่ำ ■■ ชุดท่ี 3 รู้จกั พืชผักสวนครวั 21
แบบทดสอบหลงั เรยี น ชุดท่ี 3 ร้จู ักพชื ผกั สวนครัว คำชี้แจง : 1. แบบทดสอบฉบับน้ีเป็นแบบทดสอบ 4 ตัวเลือกมี 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ให้นักเรยี นทาเคร่ืองหมาย ( x ) ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลือก ข้อท่ีถูกท่สี ดุ เพยี งขอ้ เดยี วเท่าน้นั 1. ผกั ข้อใดท่นี าใบและลาต้นมาเป็นอาหาร ก. ผักกาดขาว ข. กระชาย ค. มะเขอื เทศ ง. แตงกวา 2. หอมหัวใหญ่ จดั อยู่ในประเภทใด ข. ใช้ดอกเป็นอาหาร ก. ใช้ใบและลาตน้ เป็นอาหาร ง. ใชห้ ัวหรือรากเปน็ อาหาร ค. ใชผ้ ลหรอื ฝกั เปน็ อาหาร 3. ข้อใด ไมใ่ ช่ พืชผกั สวนครัวที่ใชใ้ บเป็นอาหาร ก. คะน้า ข. มะเขือ ค. ผักบงุ้ ง. ตาลงึ 4. ขอ้ ใดคอื ความหมายของ “พชื ผักสวนครัว” ก. ผักทป่ี ลกู ไวเ้ พอื่ จาหน่าย ข. ผักท่ปี ลูกไวเ้ พอ่ื รบั ประทานในครอบครวั ค. ผกั ที่ปลกู ไวเ้ พอ่ื ประดบั บา้ น ง. ผักทปี่ ลูกไว้เพอ่ื แจกเพอื่ นบ้าน 5. เราควรเลอื กรบั ประทานผกั ชนดิ ใดทปี่ ลอดภัยจากสารเคมมี ากทส่ี ดุ ก. กะหล่าปลี ข. คะนา้ ค. ผักกาดขาว ง. ชะอม ชุดท่ี 3 รู้จักพชื ผกั สวนครัว 22
6. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ประโยชนข์ องการปลกู พืชสวนครวั ก. เพ่มิ รายไดใ้ หค้ รอบครัว ข. เพอื่ ความสวยงาม ค. เปน็ พืชสมุนไพรรกั ษาโรค ง. ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ 7. พืชผักสวนครวั ในข้อใดใชผ้ ลเปน็ อาหาร ก. คะน้า ข. ผักบุง้ ค. มะเขอื ง. ตาลึง 8. จากภาพมีชอื่ วา่ อะไร ข. ตะไคร้ ก. ขม้ิน ง. ขิง ค. ขา่ 9. จากภาพมชี อ่ื วา่ อะไร ข. กะเพรา ก. คะน้า ง. ตาลึง ค. ผกั ชี 10. พชื ผักสวนครวั ในขอ้ ใดใชด้ อกเป็นอาหาร ก. แครอท ข. มะเขือเทศ ค. บรอ็ คโคล่ี ง. สะระแหน่ ชุดที่ 3 รูจ้ ักพชื ผกั สวนครัว 23
กระดำษคำตอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ช่อื – สกุล .............................................................ชั้น...........เลขที่............... ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชดุ ท่ี 3 ร้จู ักพชื ผักสวนครวั 24
ภำคผนวก ชดุ ที่ 3 รจู้ ักพชื ผักสวนครวั 25
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน ข้อ ก ข ค ง ทำกันไดไ้ หมครับ ? เด็ก ๆ 1. X 2. X 3. X 4. X 5. X 6. X 7. X 8. X 9. X 10. X ชุดที่ 3 รู้จักพชื ผักสวนครวั 26 25
เฉลยกิจกรรมท่ี 1 คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1) พชื ผักสวนครัว หมายถึง พชื ท่ีใช้ส่วนต่างๆ เปน็ อาหาร เชน่ ลาต้น ใบ ดอก ผล และหัว พืชผักสวนครัวสามารถปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพื่อใช้บริโภค ภายในครอบครัว ถ้าเหลือก็สามารถนาไปจาหน่ายเพ่ือเป็นรายได้เสริมให้กับ ครอบครวั 2) เราสามารถแบง่ พชื ผักสวนครัวตามส่วนทน่ี ามาใช้ประโยชน์ในการนามา ประกอบอาหารได้ ออกเป็น........4...........ประเภท คอื 1. ประเภทกินใบและลาตน้ เป็นอาหาร 2. ประเภทกนิ ดอกเป็นอาหาร 3. ประเภทกินผลเปน็ อาหาร 4. ประเภทกนิ หัวหรือรากเป็นอาหาร 3) ให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ ง พืชผักสวนครวั ประเภทกินใบและลาตน้ เป็น อาหาร มา 3 ชนิด ผักบ้งุ กวางตุง้ ผักกาดหอม (ขน้ึ อยูก่ ับดลุ พนิ ิจอง ครูผสู้ อน) 4) การจาแนกผกั ตามลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ พืชจาพวก ตำลึง บวบ เหลย่ี ม ฟกั ทอง มะระ จดั อยใู่ นพชื ตระกูลใด พชื ตระกลู แตง 5) ใหน้ ักเรียนบอกประโยชน์ ของพืชผกั สวนครวั มา 2 ประโยชน์ คือ 1. ใชร้ บั ประทานเปน็ อาหารโดยอาจรับประทานสดๆ 2. ใช้เป็นพืชสมนุ ไพรรกั ษาโรค (ขึน้ อยู่กบั ดลุ พินจิ องครูผสู้ อน) ชุดท่ี 3 รจู้ กั พืชผักสวนครวั 27 25
เฉลยกจิ กรรมท่ี 2 คำช้ีแจง : ให้นักเรียนแยกแยะชื่อพืชผักสวนครัวท่ีกาหนดให้ ตามประเภทและ สว่ นทน่ี ามาใช้ประโยชน์ในการนามาประกอบอาหารใหถ้ กู ตอ้ ง ผกั บุ้ง พรกิ บวบ ขิง กวำงต้งุ ขำ่ ดอกแค กระชำย แตงกวำ บร็อคโคลี่ สะเดำ สะตอ กะหล่ำดอก ตำลึง ขมิน้ หวั หอมใหญ่ ผักชี ถ่ัวพู ผกั กำดหอม โสน 1.ประเภทกินหวั หรือรำกเปน็ 2.ประเภทกินใบและลำตน้ เป็น อำหำร คอื ขงิ ขำ่ ขมิน้ อำหำร คอื กวำงตงุ้ ผักชี กระชำย หวั หอมใหญ่ ตำลงึ ผกั กำดหอม ผักบงุ้ กำรแบ่งพชื ผักสวนครวั ตำมส่วนที่ นำมำใช้ประโยชนใ์ นกำรนำมำ ประกอบอำหำร 3.ประเภทกนิ ดอกเป็นอำหำร 4.ประเภทกนิ ผลเป็นอำหำร คอื คือ ดอกแค บรอ็ คโคล่ี พริก บวบ แตงกวำ กะหล่ำดอก สะเดำ โสน สะตอ ถ่วั พู ชุดท่ี 3 รูจ้ กั พชื ผักสวนครัว 28 25
เฉลยกจิ กรรมท่ี 3 คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นโยงเส้นจบั ครู่ ูปพืชผกั สวนครัวกับชอ่ื ใหถ้ ูกตอ้ ง พืชผกั ชื่อ สวนครัว 1. กะเพรำ ■ ■ 2. ตำลึง ■ ■ 3. กระชำย ■ ■ 4. ตะไคร้ ■ ■ 5. ข่ำ ■■ ชุดที่ 3 ร้จู ักพชื ผักสวนครัว 29
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ข้อ ก ข ค ง ทำกันไดไ้ หมครบั ? เด็ก ๆ 1. X 2. X 3. X 4. X 5. X 6. X 7. X 8. X 9. X 10. X ชุดท่ี 3 รจู้ กั พชื ผักสวนครัว 30
บรรณำนกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช 2551.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตร แหง่ ประเทศไทย. ช่อขวญั วงศส์ วุ รรณ . (2544). ผกั สวนครัว. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์เกษตร สาสน์. วรรณา แต.้ (2547). ผกั ท่ปี ลกู ได้ทงั้ ปี. กรุงเทพฯ : บรษิ ทั สานกั พมิ พแ์ มค็ จากัด. อัจฉรา นาคเมธแี ละคณะ. (2559). หนงั สอื เรียนกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ป.3 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำชั้นพืน้ ฐำน พ.ศ. 2551. กรุงเทพฯ : บริษทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั . ชดุ ที่ 3 รจู้ กั พืชผักสวนครวั 31
ขอ้ กำหนดกำรใหค้ ะแนนแบบประเมินผลกำรปฏบิ ัติงำนตำมสภำพจรงิ กำรปฏิบัตงิ ำนรำยกลุ่ม เล่มที่ 3 รูจ้ ักพชื ผักสวนครวั รำยกำรประเมิน ระดับคะแนนทีใ่ ห้ ปฏบิ ตั งิ ำนกล่มุ 5 4 3 21 1. มีการวาง มีการวางแผน มีการวางแผน มีการวางแผน มกี ารวางแผน ไม่มีการ แผนการปฏิบตั ิงาน และการกาหนด โดยการ แต่ระบุ บา้ งแต่ไม่ วางแผน ตามลาดบั ข้นั ตอนที่ ข้ันตอนในการ ปรกึ ษาหารือ ข้นั ตอนในการ ชัดเจน กาหนด ปฏบิ ัตงิ านเป็น กนั ทั้งกลุ่ม ปฏบิ ตั ิงานไม่ แบบอยา่ งที่ดีได้ ครบถ้วน 2. มกี ารมอบหมาย มีการมอบหมาย มอบหมาย มอบหมาย มอบหมาย ไมม่ ีการ งานคานงึ ถึงความ งานโดยคานึงถึง งานโดย งานโดยไม่ งานแต่ มอบหมาย ถนดั ความสามารถ ความถนัด คานึงถึงความ คานึงถงึ ความ คานงึ ถงึ ความ งานต่างคน ของสมาชิกในกลุ่ม ความสามารถของ ถนัด ถนัดมกั จะ ใกล้ชิดกนั เปน็ ต่างทา สมาชกิ ในกล่มุ เกรงใจกัน ส่วนตัว โดยผ่าน มากกวา่ กระบวนการกลมุ่ ทุกคนเต็มใจใน การทางาน 3. มกี ารเตรียมวัสดุ มกี ารเตรยี มวสั ดุ มีการเตรียม มีการเตรียม มีการเตรียม มีการ อุปกรณ์ อุปกรณ์ครบทุก วัสดุอปุ กรณ์ วัสดไุ มค่ รบ วัสดุอุปกรณ์ เตรยี มวสั ดุ รายการและมี ครบทกุ ขาด รายการ ไม่ครบขาด 2 ไม่ครบ ปริมาณเพียงพอ รายการแต่มี รายการ ขาด ปริมาณไม่ มากกว่า 2 เพียงพอ รายการ ชุดที่ 3 รจู้ กั พชื ผกั สวนครัว 32
ข้อกำหนดกำรใหค้ ะแนนแบบประเมนิ ผลกำรปฏบิ ัติงำนตำมสภำพจรงิ (ตอ่ ) กำรปฏบิ ตั งิ ำนรำยกลุม่ เล่มท่ี 3 ร้จู กั พชื ผกั สวนครัว รำยกำรประเมิน ระดับคะแนนที่ให้ ปฏบิ ตั ิงำนกล่มุ 5 4 3 21 4. ปฏบิ ัติงานตาม มกี ารปฏิบัติงาน มกี าร มีการ มกี าร ไมม่ ีการ ขนั้ ตอนที่กาหนด ตามขัน้ ตอนท่ี ปฏิบัตงิ าน ปฏิบัตงิ าน ปฏบิ ตั งิ าน ปฏบิ ตั ิงาน กาหนดทกุ ตามข้ันตอนท่ี ตามขั้นตอนที่ ตามขั้นตอนที่ ตาม ข้ันตอน 1 ข้ันตอน กาหนดขาด 2 กาหนดขาด 3 ข้ันตอนที่ ขั้นตอน ข้นั ตอน กาหนด 5. ความร่วมมือใน สมาชิกในกลมุ่ ทุก สมาชิกในกลมุ่ สมาชิกในกลมุ่ สมาชิกในกลุม่ สมาชกิ ใน การปฏบิ ัติงาน คนใหค้ วาม ทุกคนให้ความ บางคนไม่ให้ ส่วนใหญไ่ ม่ให้ กลมุ่ ไม่ให้ รว่ มมือกันในการ รว่ มมือกันใน ความรว่ มมอื ความร่วมมือ ความ ปฏิบตั งิ านดว้ ย การปฏิบัติงาน ในการ กันในการ ร่วมมอื กนั ความขยนั ขันแขง็ ปฏบิ ตั งิ าน ปฏิบัตงิ าน 6. ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเรจ็ ของงาน ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเรจ็ ผลงานไม่ งานเรยี บรอ้ ยมี เรยี บร้อยมี งานเรียบร้อย งานเป็นส่วน บางสว่ น สาเรจ็ ประสทิ ธิภาพ คุณภาพ ใหญ่ ชดุ ท่ี 3 รูจ้ ักพชื ผกั สวนครัว 33
แบบสงั เกตทักษะกำรทำงำน กลุม่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เล่มท่ี 3 รจู้ ักพชื ผกั สวนครวั คำชีแ้ จง : พฤตกิ รรมการแสดงออกของนกั เรยี นกาหนดเป็นระดบั คะแนนได้ ดงั นี้ ระดับคะแนน 3 ดีเยย่ี ม ระดบั คะแนน 2 ดี ระดบั คะแนน 1 ผ่าน ระดบั คะแนน 0 ปรบั ปรุง รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน 3 210 1. มีความกระตือรอื รน้ ในการเรียนรู้ 2. มที กั ษะในการเรียนรู้ 3. กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก 4. ความร่วมมอื ในการรว่ มกิจกรรม 5. มที กั ษะการทางานเปน็ กลมุ่ รวมคะแนนแตล่ ะชอ่ ง รวมคะแนนท้ังหมด คะแนนรวมเฉล่ยี ลงช่ือ ผปู้ ระเมนิ วันท่.ี ..........เดือน.................................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมินคะแนนรวมเฉลยี่ ไปใส่ในแบบบนั ทกึ คะแนน ชดุ ที่ 3 รจู้ ักพืชผักสวนครัว 34
แบบสังเกตคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ กล่มุ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เล่มท่ี 3 รจู้ ักพชื ผกั สวนครวั คำชแ้ี จง : พฤตกิ รรมการแสดงออกของนกั เรยี นกาหนดเป็นระดับคะแนนได้ดังน้ี ระดับคะแนน 3 ดเี ยี่ยม ระดบั คะแนน 2 ดี ระดับคะแนน 1 ผ่าน ระดับคะแนน 0 ปรับปรงุ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 32 1 0 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. อย่อู ย่างพอเพียง 3. มุ่งม่นั ในการทางาน รวมคะแนนแตล่ ะชอ่ ง รวมคะแนนท้ังหมด คะแนนรวมเฉลย่ี ลงชอ่ื ผปู้ ระเมนิ วนั ที.่ ........เดือน...............................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมนิ คะแนนรวมเฉลยี่ ไปใสใ่ นแบบบนั ทึกคะแนน ชดุ ที่ 3 รจู้ ักพชื ผกั สวนครวั 35
แบบบันทกึ คะแนน กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 3 รจู้ ักพืชผักสวนครวั กำรสงั เกต กำรสังเกต กำรตรวจ กำรทำ ผลรวมกำร ผลกำรประเมิน ท่ี ทกั ษะกำร คุณลักษณะอัน ผลงำน/ แบบฝึกหดั / ประเมนิ รอ้ ยละ ทำงำน (5) พงึ ประสงค์ (5) ชน้ิ งำน(5) กำรทดสอบ (20) (5) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ลงชอื่ ผู้ประเมนิ วนั ท่ี............เดือน.....................................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมินคะแนนรวมเฉล่ียไปใส่ในแบบบันทกึ คะแนน ชดุ ที่ 3 รู้จกั พชื ผกั สวนครวั 36
ตำรำงกำรประเมนิ กลุ่มสำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษำปีที่ 3 เลม่ ที่ 3 รจู้ ักพืชผกั สวนครวั ผลกำร กำรประเมนิ ผลกำรประเมิน ท่ี ประเมนิ ดมี ำก ดี พอใช้ ปรบั ซอ่ ม ผ่ำน ไม่ผำ่ น หมำยเหตุ เฉล่ียร้อยละ ปรุง เสริม 1 เกณฑก์ ารประเมนิ 2 คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 3 80-100 ดีมาก 4 คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 5 70-79 ดี 6 คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 7 60-69 พอใช้ 8 คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 9 50-59 ปรบั ปรุง 10 คะแนนเฉล่ียต่ากวา่ 11 รอ้ ยละ 50 ซ่อม 12 เสริม 13 14 15 16 17 18 ชุดที่ 3 รจู้ กั พชื ผกั สวนครัว 37
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: