[วันท่]ี [ช่อื เอกสาร] [ช่อื เร่อื งรองของเอกสาร] RAHMAN [ช่อื บรษิ ทั ] [ที่อยบู่ รษิ ทั ]
คำชแี้ จง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยีช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดที่ 4 เรื่อง การขยายพันธุ์พืชผัก สวนครัว จัดทาข้ึนโดยกาหนดเน้ือหา และจุดประสงค์ตามหลักสูตรกลุ่มสาระ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพ่ือใช้ประกอบการจัด กจิ กรรมการเรียนการสอน ซง่ึ นักเรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง และสามารถ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามกระบวนการตามเอกสารได้ด้วยตนเอง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยีช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดที่ 4 เร่ือง การขยายพันธ์ุ พืชผกั สวนครวั จะช่วยสง่ เสริมและพัฒนาผ้เู รยี นได้ตามศกั ยภาพของตนเอง และ จะมีประโยชน์มีคุณค่าต่อนักเรียน เมื่อนักเรียนนาความรู้ที่ได้ไปเป็นแนวทาง ปฏบิ ตั ิจริงในชีวิตประจาวนั ได้ ชดุ ท่ี 4 การขยายพันธพ์ุ ชื ผกั สวนครวั 1
คำแนะนำสำหรบั ครู ในการจัดกิจกรรมการสอนโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การขยายพันธุ์พืชผักสวนครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 มคี าแนะนาสาหรบั ครูผู้สอน ดงั นี้ 1. ศึกษาเน้ือหา และกิจกรรมของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เข้าใจอย่างละเอียด ตามขัน้ ตอนทเ่ี สนอแนะไว้ 2. ศึกษามาตรฐาน ตัวชี้วดั และจดุ ประสงค์การเรยี นร้ใู หเ้ ขา้ ใจ 3. ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เล่มนี้ควบคู่กับแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง งานเกษตรน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 3 เร่ือง การขยายพันธุ์พืชผักสวนครัว พร้อมทั้งศึกษาแผนการ จัดการเรยี นรู้อย่างละเอียด 4. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้เล่มนี้ ครูสามารถนาไปใช้สอนซ่อมเสริม 4.1 นกั เรียนท่ีมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นตา่ 4.2 นักเรยี นทีต่ ้องการเรยี นซ้า 4.3 นักเรียนท่ีเรียนช้ากรณีหยุดเรียนหรือย้ายมาเข้าเรียนใหม่ในระหว่าง ปกี ารศึกษา 4.4 ใช้สอนเสรมิ กับนักเรยี นทีต่ ้องการพัฒนาทักษะเพิ่มเตมิ จากบทเรียน 5. ครแู นะนา ชแี้ จงให้นักเรยี นอ่านคาช้ีแจงใหเ้ ขา้ ใจและปฏิบัติตามลาดับขัน้ ตอน 6. แนะนาช่วยเหลือ และให้คาปรึกษา เมื่อนักเรียนมีปัญหาในการใช้ชุดกิจกรรม การเรยี นรู้และการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ชุดที่ 4 การขยายพันธพ์ุ ชื ผกั สวนครัว 2
คำแนะนำสำหรบั นกั เรยี น การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การขยายพันธ์ุพืชผักสวนครัว กลุ่ม สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 มคี าแนะนา สาหรับนักเรยี นในการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนรูใ้ หป้ ฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. ศกึ ษาจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจ 2. ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เป็นบทเรียนสาหรบั ใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาดว้ ยตนเอง 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ขอ้ เพือ่ วัดความรู้กอ่ นเรมิ่ เรยี น 3. ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และข้ันตอน เรียงตามลาดับอย่างต้ังใจ เม่ือเกิด ปญั หาไมเ่ ข้าใจนกั เรียนสามารถสอบถามครูผูส้ อนได้ 4. นักเรียนทาใบงานทบทวนทุกกิจกรรมที่กาหนดให้ ลงในกระดาษคาตอบที่ จดั เตรยี มไวใ้ ห้ 5. หลังศึกษาเน้ือหา และทากิจกรรมแต่ละตอนจบแล้ว ให้นักเรียนทา แบบทดสอบหลงั เรียน เพือ่ ทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ 6. ตรวจคาตอบใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากแบบเฉลยท้าย เลม่ และเปรยี บเทียบการเรียนรกู้ อ่ นศกึ ษาชุดกิจกรรมการเรยี นรูก้ บั หลังศึกษาชุด กจิ กรรมการเรยี นรู้ หากยังไม่เข้าใจเรือ่ งใด ให้กลับไปทบทวนบทเรียนใหม่ 7. ข้อสาคัญ นักเรียนต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่เปิดดูเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน รวมท้ังเฉลยใบงานทุกกิจกรรมก่อนเด็ดขาด และห้ามลอกเพ่ือน เพราะจะทาให้นักเรียนไม่ประสบผลสาเรจ็ ในการเรยี นด้วยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธ์พุ ชื ผกั สวนครัว 3
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระที่ 1 กำรดำรงชีวิตและครอบครวั มำตรฐำน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการ ทางานทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางานมี จิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพื่อการดารงชีวิตและ ครอบครวั ตวั ช้วี ัด ง 1.1 ป.3/1 อธิบายวิธกี ารและประโยชน์การทางาน เพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม ง 1.1 ป.3/2 ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมือ ตรงกับลักษณะงาน ง 1.1 ป.3/3 ทางานอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอนตามกระบวนการทางานดว้ ยความสะอาด ความรอบคอบ และอนรุ กั ษ์ส่งิ แวดลอ้ ม ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธ์ุพชื ผักสวนครวั 4
สำระสำคญั กำรขยำยพันธุ์พืช หมายถึง กระบวนการเพ่ิมจานวนต้นพืชให้มากขึ้นเพื่อ นาไปใชป้ ระโยชน์ในด้านต่างๆ และอนุรักษล์ กั ษณะท่ดี ีไว้ไมใ่ หส้ ญู พันธุ์ ประเภทของกำรขยำยพนั ธ์ุพืชแบ่งได้ 2 แบบ คอื 1. การขยายพนั ธพุ์ ชื แบบอาศัยเพศ 1.1 การขยายพนั ธุพืชโดยการเพาะเมลด็ 1.2 การเพาะเมล็ดพชื ในภาชนะหรือแปลงเพาะ 2. การขยายพันธพ์ุ ืชแบบไม่อาศยั เพศ 2.1 การขยายพนั ธพุ ชื โดยการปักชา 2.2 การขยายพันธพุ ชื โดยการตอนก่งิ 2.3 การขยายพนั ธพุ ืชโดยการตดิ ตา 2.4 การขยายพันธพุ ชื โดยการตอ่ กิง่ 2.5 การขยายพนั ธพุ ืชโดยการทาบกิ่ง 2.6 การขยายพันธพุ ืชโดยการแยกหน่อหรอื หวั สำระกำรเรยี นรู้ 1. ความหมายของการขยายพนั ธพุ์ ชื 5 2. ความสาคัญของการขยายพนั ธพ์ุ ชื 3. ประเภทของการขยายพนั ธุพ์ ืช 4. การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครัว ชดุ ที่ 4 การขยายพันธพุ์ ชื ผักสวนครัว
จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. สามารถบอกความหมายของการขยายพันธพุ์ ชื ได้ (K) 2. สามารถอธบิ ายความสาคญั ของการขยายพันธพ์ุ ชื ได้ (K, P) 3. บอกและจาแนกประเภทของการขยายพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครวั ได้ (K, P) 4. สามารถทากจิ กรรมหลังชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (K, P) 5. เขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การขยายพันธพ์ุ ืชผกั สวนครวั ดว้ ย ความสนกุ สนาน ชน่ื ชอบและมคี ณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคท์ างการเรยี น (A) ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผกั สวนครวั 66
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชดุ ท่ี 4 กำรขยำยพันธ์ุพชื ผกั สวนครวั คำชแ้ี จง : 1. แบบทดสอบฉบบั นี้เปน็ แบบทดสอบ 4 ตวั เลือกมี 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ให้นักเรยี นทาเครอ่ื งหมาย ( x ) ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลอื ก ข้อทถ่ี ูกทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี วเท่านั้น 1. ขอ้ ใดคือความหมายทีถ่ กู ตอ้ งของการขยายพันธ์พุ ืช ก. การเกบ็ เมล็ดพนั ธุท์ ด่ี ีไวเ้ พือ่ ขยายด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ ข. การคดั เลอื กเมล็ดพนั ธท์ุ ี่ไมส่ มบูรณอ์ อกให้ได้มากท่สี ุด ค. การเพาะปลูกเมลด็ พชื ให้เจริญเตบิ โตตามวฏั จักรเพื่อออกผลผลติ ตอ่ ไป ง. การเพ่ิมจานวนตน้ พชื ใหม้ ากขึ้นเพือ่ นาไปใชป้ ระโยชน์ดา้ นตา่ งๆ และอนรุ กั ษ์ ลกั ษณะทด่ี ไี ว้ 2. การขยายพันธพ์ุ ืชแบง่ ออกเป็น 2 วธิ ใี หญ่ ๆ ไดแ้ ก่ข้อใด ก. การตดิ ตา การต่อกิง่ ข. แบบอาศัยเพศ แบบไมอ่ าศยั เพศ ค. การขยายพนั ธ์โุ ดยการใช้หัวและหน่อ ง. การขยายพนั ธโ์ุ ดยใช้จกุ และการทาบกิง่ 3. การขยายพนั ธโุ์ ดยวธิ ใี นข้อใด จัดอย่ใู นประเภทของการขยายพันธพุ์ ชื แบบอาศยั เพศ ก. การขยายพันธโ์ุ ดยการปกั ชา ข. การขยายพันธุ์โดยการตอนกง่ิ ค. การขยายพนั ธโ์ุ ดยการใช้เมล็ด ง. การขยายพันธโุ์ ดยการแยกหน่อหรือหัว ชดุ ที่ 4 การขยายพันธพุ์ ชื ผักสวนครวั 76
4. พืชชนดิ ใดท่ี ไม่นยิ ม ขยายพนั ธโุ์ ดยการใชเ้ มลด็ ก. มะมว่ ง ข. แตงกวา ค. ผกั คะน้า ง. ถ่วั ผักยาว 5. วธิ กี ำรนำเอำสว่ นตำ่ งๆ ของพชื เช่น ลำตน้ ใบ มำใช้ในกำรขยำยพันธ์ุ เรา เรยี กวา่ การขยายพันธแ์ุ บบใด ก. การขยายพันธ์แุ บบอาศยั เพศ ข. การขยายพนั ธโ์ุ ดยใชเ้ มล็ด ค. การขยายพันธแ์ุ บบไมอ่ าศยั เพศ ง. ถกู ทุกขอ้ 6. การแยกหวั และหนอ่ จดั อยใู่ นประเภทของการขยายพนั ธพ์ุ ชื แบบใด ก. การขยายพันธแ์ุ บบไม่อาศยั เพศ ข. การขยายพนั ธ์ุแบบอาศัยเพศ ค. การขยายพนั ธแ์ุ บบโดยใชเ้ มล็ด ง .ถูกทั้งขอ้ ก และ ข 7. กำรทำใหก้ งิ่ หรือตน้ พืชเกิดรำกขณะตดิ อยูก่ ับตน้ แม่ จะทำใหไ้ ดต้ น้ พืชใหม่ ท่ีมลี ักษณะทำงสำยพันธุ์ เหมอื นกับตน้ แมท่ กุ ประกำร เราเรยี กว่า ก. การติดตา ข. การเพาะเมลด็ ค. การแยกหวั และหนอ่ ง .การตอนกงิ่ ชุดที่ 4 การขยายพนั ธ์พุ ชื ผักสวนครวั 86
8. หอม เรานยิ มขยายพนั ธโุ์ ดยวธิ ีใด ก. การตอนก่ิง ข. การเพาะเมลด็ ค. การปกั ชา ง. การแยกหนอ่ และหวั 9. ผักบ้งุ เรานยิ มขยายพันธโ์ุ ดยวิธีใด ก. การตอนกิ่ง ข. การเพาะเมล็ด ค. การปักชา ง. การแยกหน่อและหัว 10. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. ข่า นิยมขยายพนั ธโุ์ ดยวิธกี ารติดตา ข. ตะไคร้ นยิ มขยายพนั ธ์ุโดยวธิ กี ารแยกหน่อ ค. พริก นยิ มขยายพนั ธโ์ุ ดยการปกั ชา ง. ผดิ ทุกข้อ ชุดที่ 4 การขยายพันธพุ์ ชื ผกั สวนครวั 896
กระดำษคำตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชื่อ – สกลุ .............................................................ช้ัน............... เลขท.่ี ............ ข้อ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธ์พุ ชื ผกั สวนครัว 10
ใบควำมรู้ เรื่อง กำรขยำยพันธุ์พืชผกั สวนครวั ควำมสำคัญของกำรขยำยพนั ธุ์พืช การขยายพันธ์ุพืชจัดว่ามีความสาคัญในการปลูกพืช เพราะข้ันตอนแรกของ การเพาะปลกู ตอ้ งมตี ้นกล้าพืชเสยี ก่อน การเลือกวิธีการขยายพันธ์ุพชื ที่เหมาะสม จะทาให้สามารถผลิตต้นกล้าได้ตามปริมาณและคุณภาพท่ีต้องการ ซึ่งเป็นผลไป ถงึ คณุ ภาพหรือปรมิ าณของผลผลิตของพืชน้ันๆ นอกจากนี้การขยายพันธ์ุพืชยังมี ความสาคัญ ดังน้ี 1. สรา้ งอาชพี เกษตรกรรมและอาชพี ทเี่ กยี่ วข้อง เชน่ โรงงานอบลาไย เป็นต้น 2. เปน็ แหลง่ ปจั จัย 4 สาหรบั มนษุ ย์ (อาหาร, เครอื่ งนุง่ หม่ , ทอี่ ยอู่ าศัย, ยารักษาโรค) 3. สรา้ งความรม่ รื่น ชว่ ยทาให้อากาศบริสทุ ธิ์ และยังช่วยยดึ เกาะหนา้ ดิน ไมใ่ หพ้ งั ทลาย ชุดที่ 4 การขยายพนั ธ์ุพชื ผักสวนครัว 11
ควำมหมำยของกำรขยำยพันธ์พุ ืช การขยายพันธพุ ชื หมายถึง การเพิ่มจานวนตนพชื ดวยเทคนคิ วิธีการตาง ๆ เพ่อื รักษาตนพืชพันธดุ ไี วไมใหตนพืชเหลานัน้ สญู พนั ธไุ ป ไมวาจะเปนการขยาย พันธพุ ชื แบบอาศัยเพศ หรอื แบบไมอาศยั เพศ (นันทิยา วรรธนภตู ,ิ 2553 : 22) ประเภทของกำรขยำยพันธ์พุ ชื ประเภทของการขยายพนั ธุพ์ ชื แบ่งได้ 2 แบบ คอื 1. การขยายพันธุพ์ ชื แบบอาศยั เพศ 1.1 การขยายพนั ธุพชื โดยการเพาะเมล็ด 1.2 การเพาะเมล็ดพืชในภาชนะหรือแปลงเพาะ 2. การขยายพันธุ์พชื แบบไม่อาศยั เพศ 2.1 การขยายพนั ธพุ ชื โดยการปกั ชา 2.2 การขยายพันธพุ ชื โดยการตอนกิง่ 2.3 การขยายพันธพุ ชื โดยการติดตา 2.4 การขยายพันธพุ ืชโดยการต่อกง่ิ 2.5 การขยายพนั ธพุ ืชโดยการทาบกิง่ 2.6 การขยายพันธพุ ืชโดยการแยกหนอ่ หรือหัว ชุดที่ 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครัว 12
กำรขยำยพันธุพ์ ืชแบบอำศยั เพศ คือ การนาเมล็ดพันธ์ุพืชต่าง ๆ ท่ีได้ผ่านการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ดี มาทาการเพาะในวัสดุเพาะชาจนได้ต้นพืชใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนและกระบวนการ แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดพืช วิธีการน้ีทาให้ได้ต้นพืชสูงใหญ่ ระบบรากแข็งแรง แต่มักจะพบการผันแปรทางสายพันธุ์ในลักษณะที่ไม่เหมือนกับสายพันธ์ุเดิมเป็น ส่วนใหญ่ 1.กำรขยำยพนั ธ์พุ ืชโดยกำรเพำะเมลด็ 1.1 กำรเพำะในกระบะเพำะชำ กระบะเพาะชาจะต้องมีขนาดที่สามารถเอื้อมมือเข้าไปทางานได้สะดวกท้ัง สองด้าน ซ่ึงส่วนใหญ่จะกว้างประมาณ 111-121 เซนติเมตร ความยาวแล้วแต่ ขนาดของพื้นท่ี ความสูงประมาณ 11-31 เซนติเมตร ข้ึนอยู่กับชนิดพืชท่ีต้องการ เพาะ ส่วนพื้นล่างของกระบะต้องรองพื้นด้วยวัสดุช่วยระบายน้า ได้แก่ หินบด กรวด อิฐทุบ ขนาดเล็กประมาณ 1.5 เซนติเมตร ควรปูด้วยทรายหยาบข้างบน แล้วอัดพื้นให้เรียบ ความสูงของพื้นช้ันล่างท่ีระบายน้าประมาณ 2-1 เซนติเมตร รองพ้ืนขึ้นสุดท้ายด้วยใยมะพร้าวหรือเศษหญ้าแห้ง บริเวณด้านข้างกระบะ ส่วนล่างท่ีติดกับพื้นควรเจาะรูระบายน้าโดยรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้น้าขัง เพราะ จะทาให้เมล็ดเน่าเสียหายได้ เม่ือเตรียมกระบะเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเตรียมวัสดุ เพาะชา ดังน้ี ชุดท่ี 4 การขยายพันธุ์พชื ผกั สวนครัว 13
กำรเตรยี มวสั ดเุ พำะชำ วสั ดุเพาะชาสาหรบั การเพาะเมลด็ ตอ้ งสามารถเกบ็ ความช้นื และระบายนา้ ได้ดพี อสมควรอกี ทั้งไมจ่ บั กนั แนน่ เกนิ ไป ซึง่ จะสรา้ งความยงุ่ ยากในการถอนยา้ ย ต้นกล้า ไดแ้ ก่ 1.ข้ีเถ้าแกลบเกา่ ทีท่ ง้ิ ไวค้ า้ งปี ถา้ เป็นข้เี ถา้ แกลบใหม่ตอ้ งผา่ นการล้างน้ามา หลายครง้ั เพอื่ ลดความเป็นดา่ นของข้ีเถ้าแกลบ 2.ขุยมะพรา้ ว เปน็ ขยุ ทไ่ี ด้จากการตเี ปลอื กมะพรา้ วแห้งเพอื่ นาเอาเสน้ ใยไป ใชป้ ระโยชน์อยา่ งอื่นแลว้ เหลอื แตข่ ยุ ซึง่ มใี ยปะปนอยู่คอ่ นข้างน้อย เปน็ วัสดเุ พาะ ชาทีเ่ กบ็ ความชื้นได้ดีมาก 3.วสั ดเุ พาะชาผสมขยุ มะพรา้ ว ทราย ปยุ๋ คอก และดิน ในกรณีทเ่ี พาะเลย้ี ง ไวใ้ นเวลาหลาย ๆ วัน การใชข้ ุยมะพร้าวเพียงอยา่ งเดยี วอาจจะไมเ่ หมาะกบั เมลด็ พชื บางชนดิ ทีไ่ ม่ต้องการความชน้ื แฉะมาก ดังนั้นตอ้ งนาทรายเขา้ มาชว่ ยผสมเพอื่ ไม่ให้เกิดความชน้ื มากเกนิ ไป 4.ดินรว่ น ในกรณที ่ไี ม่สามารถหาวสั ดทุ ่ีกล่าวขา้ งต้นไดก้ ส็ ามารถใช้ดินรว่ น เปน็ วสั ดเุ พาะชาไดด้ ีเชน่ กนั ฉะน้นั การเลอื กใชว้ สั ดุเพาะชาแบบไหนนั้นข้ึนอยู่กบั ชนิดพชื และความ เหมาะสมในแตล่ ะพน้ื ทสี่ ภาพอากาศและ บริเวณทต่ี ้ังของกระบะเพาะชา ภาพท่ี 1 การเพาะเมลด็ ในกระบะเพาะ ทีม่ าภาพ : อบั ดลุ รอมัน มะรือมอ, 2151 ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธุ์พชื ผักสวนครวั 14
วธิ เี พำะ 1.นาเมล็ดท่ีผ่านการคัดเลือกและเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วมาเพาะในกระบะ โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นและระหว่าง แถว 11x11 หรือ 11x11 เซนติเมตร (เฉพาะไม้ผลท่ีมใี บใหญ่ เช่น มะมว่ ง ขนุน) การวางเมลด็ ควรวางสว่ นข้วั ของเมล็ด ลงในวัสดุเพาะชา เพ่ือให้รากพืชที่เกิดใหม่หาอาหารได้ง่ายและยังทาให้ระบบราก พืชต้ังตรงแข็งแรงอีกด้วย จากน้ันกลบดินหรือวัสดุเพาะชาให้มิดเมล็ด แต่พชื บาง ชนิดไม่จาเป็นต้องกลบดินจนมิดเมล็ด เช่น มะม่วง มะพร้าว ในกรณีที่ต้องกลบ วัสดุเพาะชาให้มิดเมล็ดก็ไม่ควรเกิน 2-3 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางของเมล็ดพืช นั้น ๆ 2.ทาวัสดุพรางแสงในช่วงแรก กรณีที่มีแสงเข้มมากอาจจะทาให้เมล็ดงอก ได้ไมด่ ีเทา่ ที่ควร หลังจากเมลด็ เริ่มงอกหมดแลว้ จึงนาวสั ดพุ รางแสงออกทลี ะนอ้ ย จนกวา่ จะมีใบจริง จนกระทัง่ ใบจริงชดุ แรกแกแ่ ล้วจงึ นาวัสดพุ รางแสงออกให้หมด 3.การให้น้า หลังจากทาการเพาะเมล็ด ต้องรดน้าให้ชุ่ม การให้น้าช่วงแรก อาจจะต้องใช้บัวรดน้า หรือถ้าใช้ระบบให้น้าผ่านทางท่อสายยางก็จาเป็นต้องหา ฝักบัวเสียบต่อตอนปลายท่อสายยาง เพ่ือชะลอความแรงของน้าที่จะกระแทก วัสดุ เพาะชาที่กลบเมล็ดไว้ รวมท้ังในกรณีที่ต้นอ่อนเร่ิมงอกแล้ว การให้น้าแบบ ใช้ท่อสายยางที่ไม่ได้สวมหัวบัวท่ีส่วนปลายก็อาจจะทาให้ต้นพืชที่งอกขึ้นมาใหม่ บอบช้า และหักล้มเสียหาย ชว่ งเวลาท่ีให้น้าควรเปน็ เวลาชว่ งเช้าตรู่และเยน็ ควร ใหท้ ุกวัน แต่กพ็ ิจารณาความเหมาะสมของสภาพอากาศด้วย ถ้ามีฝนตกลงมาควร งดการใหน้ ้า 4.การปฏิบัติดูแลรักษา ควรฉีดพ่นสารเคมีเพ่ือป้องกันและกาจัดโรค แมลง เม่ือพบการถูกทาลาย และกาจัดวัชพืชโดยใช้มือถือถอนออกจะดีท่ีสุด ไม่ควรใช้ สารเคมีกาจัดวัชพืชฉีดพ่นในแปลงกล้า เพราะอาจทาให้ต้นกล้าตายได้ ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธ์ุพชื ผกั สวนครวั 15
1.2 กำรเพำะในแปลงเพำะ วิธกี ารนี้เปน็ วธิ ที ี่ง่าย ลงทนุ นอ้ ย เพียงเตรยี มแปลงบนดินโดยวิธกี ารขุดดนิ ตงั้ แปลงเพาะให้ความกวา้ งของแปลงประมาณ 1-1.1 เมตร ความยาวแลว้ แต่ความ เหมาะสม วธิ ีกำรเตรยี มแปลง 1.ควรเลือกแปลงท่ีอย่ใู กล้บริเวณแหล่งน้า เป็นที่ท่ีน้าไม่ท่วมขังเม่ือมีฝนตก หนัก ห่างไกลจากจอมปลวก ขุดดินตั้งแปลงให้ส่วนด้านยาวของแปลงอยู่ในแนว ทศิ เหนือใต้หรือขวางแนวแสงจากดวงอาทติ ย์ ดินที่ทาการขุดจะตอ้ งย่อยเมลด็ ดิน ให้แตกละเอยี ดพอสมควร ตากดินไวป้ ระมาณ 11-11 วัน ในกรณที ่ีดินนั้นมีความ อุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่า อาจจะต้องใส่ปุ๋ยคอกเพิ่มคลุกเคล้าเข้ากับดินด้วย และ ถ้าพบว่าดินบริเวณนั้นเป็นกรดจะต้องใส่ปูนขาวผสมไปในดินที่เตรียม ไว้เช่นกัน เพื่อลดความเปน็ กรดของดนิ 2.ทาวัสดพุ รางแสงเพอื่ ลดอุณหภูมิและความเข้มของแสง ซ่งึ อาจจะมีผลต่อ การงอกของเมล็ดได้ เพราะถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปอาจจะทาให้เมล็ดไม่งอกได้ เช่นกัน เม่ือต้นกล้างอกหมดแล้ว จึงนาวัสดุพรางแสงออกทีละน้อยจนหมด เพราะถ้านาวัสดุพรางแสงออกหมดเลยทีเดียวก็อาจทาให้ใบต้นกล้าไหม้แห้งตาย ได้ 3.การให้น้าและการปฏิบัติดูแลรักษาก็ทาเช่นเดียวกับวิธีเพาะเมล็ดใน กระบะเพาะ ชดุ ที่ 4 การขยายพันธ์ุพชื ผักสวนครวั 16
ภาพที่ 2 การเพาะเมล็ดในแปลงเพาะ ทีม่ าภาพ : อบั ดุลรอมนั มะรือมอ, 2151 1.3 กำรเพำะในภำชนะ ภาชนะท่ีใช้เพาะได้แก่ กระถางดินเผา ถาดเพาะชาสาเร็จรูป หรือ ถุงพลาสติกสีขาวหรือสีดาก็ได้ แต่ถุงสีดาจะช่วยให้ระบบรากพืชเจริญได้ดีกว่าสี ขาว ขนาดของภาชนะขึ้นอยู่กับชนิดต้นพืชท่ีทาการเพาะ รวมทั้งเวลาในการ เพาะเลี้ยงว่ายาวนานเท่าไร ถ้าเพาะเลี้ยงนานควรใช้ภาชนะใหญ่ และภาชนะที่ นามาใชต้ ้องเป็นภาชนะท่มี รี รู ะบายนา้ ที่บริเวณส่วนก้นภาชนะ วิธกี ำรเพำะ 1.เพาะเมลด็ ลงในภาชนะโดยตรง วิธกี ารนีห้ ากหยอดเมล็ดพชื เพยี งเมล็ด เดยี วลงในภาชนะ ถา้ ตน้ กล้าไมง่ อกจะทาใหส้ ญู เสยี เน้ือที่ในการวางภาชนะและ สิ้นเปลืองคา่ ใชจ้ า่ ยในการปฏิบตั ิดแู ลรักษา ดังนั้น ในกรณที ่ีเมลด็ พืชมขี นาดเลก็ อาจจะเพิม่ จานวนเมล็ดข้ึนอกี เป็น 2-3 เมล็ด และถ้าต้นพืชงอกขึน้ ใหมใ่ นกระถาง 2-3 ต้น ก็ใหถ้ อนตน้ ทีอ่ อ่ นแอหรอื มีขนาดเล็กกวา่ ออกเหลือตน้ ทโี่ ตสมบูรณเ์ พยี ง ตน้ เดยี ว ชุดที่ 4 การขยายพนั ธุพ์ ชื ผกั สวนครวั 17
2.วธิ ยี ้ายชาตน้ กลา้ ออ่ น วธิ กี ารนเ้ี ป็นวิธีการเตรียมภาชนะเพาะชาท่ีบรรจุ ด้วยวสั ดเุ พาะชาไว้เรยี บรอ้ ยแล้ว ขณะเดยี วกันการเพาะเมลด็ พชื ทต่ี ้องการจะ เพาะในถาดเพาะชาซึ่งบรรจดุ ว้ ยวัสดุเพาะชาทส่ี ามารถทาการแยกตน้ ออ่ นออกมา ไดง้ ่าย และเมอ่ื เมล็ดงอกแล้วกอ่ นที่ใบเลย้ี งจะคล่ีออกก็ทาการยกถาดเพาะชาไป แชน่ า้ เพ่ือใหว้ สั ดุเพาะชาออ่ นตัวแลว้ คดั เลอื กกล้าออ่ นมาเพาะในภาชนะทเ่ี ตรยี ม ไว้อกี ทีหนง่ึ วิธีการน้ีจะชว่ ยให้ได้ต้นกล้าขนึ้ เตม็ ทท่ี กุ ภาชนะ และได้ตน้ พืชใหม่ทม่ี ี ขนาดเทา่ ๆ กันอกี ด้วย อกี ท้งั เป็นการช่วยลดจานวนภาชนะชาเมล็ดพนั ธแ์ุ ละลด ต้นทุนในการปฏิบตั ดิ แู ลรักษาอกี ดว้ ย (ประสาน ฉลาดคดิ , 2558 : 27) ภาพท่ี 3 การเพาะเมลด็ ในภาชนะ ท่มี าภาพ : อบั ดลุ รอมัน มะรือมอ, 2151 ชดุ ที่ 4 การขยายพันธ์ุพชื ผกั สวนครัว 18
กำรขยำยพนั ธ์พุ ชื แบบไม่อำศัยเพศ คือ เป็นวิธีการนาเอาส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ลาต้น ใบ มาใช้ในการ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอน การปักชา การติดตา การต่อกิ่ง การทาบก่ิง การแยก หนอ่ หรือหัว วธิ ีการดงั กลา่ วชว่ ยให้ดารงลักษณะที่ดขี องพืชน้ันไว้ 1. กำรปักชำ เป็นการใชส้ ่วนหนึ่งส่วนใดของพืช เช่น ลาต้น รากหรอื ใบ มาปักชาในสภาพท่ี เหมาะสมต่อการเกิดรากและแตกยอดใหม่ ต้นพืชท่ีเกิดขึ้นใหม่จะมีลักษณะ เหมือนต้นแม่ทุกประการ จึงควร เลือกต้นแม่ท่ีเป็นพันธ์ุดีตรงตามความต้องการ การปักชาเป็นวิธีท่ีง่ายท่ีสุดในบรรดาวิธีการขยายพันธ์ุแบบไม่ใช้เพศ ซึ่งทาได้ หลายวิธี ดังน้ี 1.1 กำรปักชำกิ่งหรือลำต้น ใช้กิ่งแก่ที่มีสีน้าตาล เป็นก่ิงสมบูรณ์ มีอาหาร สะสมมากเพื่อใช้เป็นอาหารสาหรับการออกรากและการเจริญของตาเป็นกิ่งใหม่ ตัดกิ่งเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 6-8 นิ้ว มีตาอย่างน้อย 2-3 ตา ตัดใบออกหมด ด้านบนและล่างตัดเฉียง 45-60 องศา ห่างจากตาสุดท้ายประมาณครึ่งนิ้ว กรีดที่ โคนกิ่งยาวประมาณ 1 นิ้ว 2-3 รอย และจุ่มฮอร์โมนเร่งรากแล้วปักชาในทราย ผสมข้ีเถ้าแกลบ อัตราส่วน 1:1 หรือขี้เถ้าแกลบอย่างเดียวก็ได้ แล้วตั้งไว้ในที่มี แสงแดดราไร มีความชนื้ สูง 1.2 กำรปักชำใบ ใช้กับพืชบางชนิด วิธีปักชาคือตัดแผ่นใบแก่ออกเป็น ส่วนๆ วางแผ่นใบลงบนวัสดุปักชา กลบด้วยวัสดุปักชาบางๆ พอไม่ให้ใบแห้ง พืช บางชนิดใชว้ ธิ นี าแผ่นใบแต่ละสว่ นปักชาบนวัสดุปักชา ต้นและรากใหมจ่ ะเกิดจาก แผ่นใบตรงบรเิ วณเสน้ ใบท่ีถูกตดั ขาด ชุดท่ี 4 การขยายพนั ธพุ์ ชื ผักสวนครัว 19
ภาพท่ี 4 การปักชาก่งิ หรือลาต้น ทีม่ าภาพ : อบั ดุลรอมนั มะรือมอ, 2151 ภาพที่ 1 การปักชาใบ ทมี่ าภาพ : อับดุลรอมนั มะรือมอ, 2151 ชุดท่ี 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผกั สวนครวั 20
2. กำรตอนกิง่ คอื การทาให้กิ่งหรอื ต้นพืชเกดิ รากขณะติดอยกู่ ับตน้ แม่ จะทาให้ได้ตน้ พชื ใหม่ ทมี่ ลี ักษณะทางสายพันธุ์ เหมือนกบั ต้นแมท่ กุ ประการ ภาพท่ี 5 การตอนก่ิง ทม่ี าภาพ : อบั ดุลรอมัน มะรือมอ, 2151 โดยมขี นั้ ตอนกำรปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1. เลอื กก่งิ กงึ่ แกก่ ึ่งอ่อนทส่ี มบรู ณป์ ราศจากโรคและแมลง 2. ควน่ั ก่งิ ลอกเอาเปลือกออก แล้วขดู เยอื่ เจริญท่เี ปน็ เมอื กลืน่ ๆ ออก 3. นาตุ้มตอน (ขยุ มะพรา้ วทแี่ ช่นา้ แล้วบบี หมาด ๆ อดั ลงในถุงพลาสติก ผูกปากถงุ ให้แนน่ ) มาผา่ ตามความยาวแล้วนาไปห้มุ บนรอยแผลของกิง่ ตอน มัด ดว้ ยเชอื กท้ังบนและล่างรอยแผล 4. เมอ่ื กง่ิ ตอนมรี ากงอกแทงผา่ นวัสดุ และเร่มิ แกเ่ ปน็ สเี หลือง สนี า้ ตาล ปลายรากมสี ีขาว และมจี านวนมากพอจงึ ตดั กิง่ ตอนได้ 5. นากิ่งตอนไปชาในภาชนะ กระถางหรอื ถงุ พลาสติก เพอื่ รอการปลกู ตอ่ ไป ชดุ ที่ 4 การขยายพันธุพ์ ชื ผักสวนครวั 21
3. กำรตดิ ตำ คือ การเชื่อมประสานส่วนของต้นพืชเข้าด้วยกัน เพื่อให้เจริญเป็นพืชต้น เดยี วกนั โดยการนาแผน่ ตาจากกิง่ พนั ธ์ดุ ี ไปติดบนตน้ ตอ การติดตาจะมีวิธกี ารทา 2 วธิ ี คอื 3.1 วิธกี ารตดิ ตาแบบลอกเน้อื ไม้ 3.2 วิธกี ารติดตาแบบไมล่ อกเนอ้ื ไม้ ซ่ึงในทนี ้ีจะแนะนำเฉพำะขัน้ ตอน กำรตดิ ตำแบบลอกเนือ้ ไม้ ดังน้ี 1. เลือกต้นตอในส่วนที่เป็นสีเขียวปนน้าตาล แล้วกรีดต้นตอจากบนลงล่าง 2 รอย ห่างกันประมาณ 1 ใน 3 ของเส้นรอบวงของต้นตอ ความยาวประมาณ 6 – 7 เซนตเิ มตร 2. ตัดขวางรอยกรดี ดา้ นบน แลว้ ลอกเปลือกออกจากด้านบนลงดา้ นลา่ ง ตดั เปลือก ที่ลอกออกให้เหลือด้านล่างยาวประมาณ 1 เซนตเิ มตร 3. เฉือนแผ่นตายาวประมาณ 7 – 10 เซนตเิ มตร ลอกเนอ้ื ไมอ้ อกแลว้ ตดั แผ่นตา ด้านลา่ งทิง้ 4. สอดแผน่ ตาลงไปในเปลอื กตน้ ตอ โดยให้ตาต้ังข้นึ แล้วพันดว้ ยพลาสติก ใหแ้ นน่ 5. ประมาณ 7 – 10 วนั จงึ เปดิ พลาสตกิ ออก แลว้ พนั ใหม่ โดยเวน้ ชอ่ งให้ ตาโผล่ ออกมา ทง้ิ ไว้ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ จึงตัดยอดต้นเดิมแลว้ กรดี พลาสตกิ ออก ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผกั สวนครัว 22
ภาพที่ 7 การตดิ ตา ทม่ี าภาพ : อับดลุ รอมนั มะรอื มอ, 2151 4. กำรตอ่ กิ่ง เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชโดยไม่ใชเ้ พศที่สามารถทาได้โดยการนากงิ่ พันธ์ุดีที่ มีตามากกว่า 1 ตา มาต่อบนต้นตอ เพ่ือให้เนื้อเย่ือเจริญทั้งสอง เช่ือมประสาน เป็นต้นเดียวกัน การขยายพันธุ์ด้วยวิธตี ่อกิ่ง จะดีกว่าการติดตามาก เพราะจะได้ รอยต่อท่ีแข็งแรงกว่ามาก การต่อก่ิงนิยมใช้อย่างแพร่หลาย และได้ผลดีกับพืช บางชนิด เช่น เฟอ่ื งฟา้ ชบาโกสน เลบ็ ครุฑ มะม่วง พทุ รา ขนนุ อง่นุ ฯลฯ วธิ กี ารต่อกิ่งทน่ี ิยม วธิ กี ารตอ่ ก่ิงมีหลากหลายรปู แบบ ซงึ่ แตล่ ะวิธมี คี วาม เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดท่ีแตกต่างกัน แต่ท่ีชาวสวนหรือผู้ประกอบการผลิต พนั ธุ์ไม้ปฏบิ ตั ิมาก เพราะสามารถทาไดง้ ่ายและไดร้ ับความสาเรจ็ สงู โดยเฉพาะ ไม้ดอกไมป้ ระดบั และไม้ผล วธิ ีท่ีนิยม ได้แก่ 1. การต่อกิง่ แบบเสยี บล่ิม 2. การตอ่ กิ่งแบบฝานบวบ 3. การตอ่ กงิ่ แบบเข้าลนิ้ ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธพุ์ ชื ผกั สวนครัว 23
4. การต่อกง่ิ เสยี บข้าง 5. การตอ่ กงิ่ เสยี บเปลอื ก ภาพท่ี 8 การตอ่ กงิ่ ทมี่ าภาพ : อับดลุ รอมัน มะรือมอ, 2151 เคร่ืองมอื และวสั ดอุ ปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นกำรต่อก่ิง 1. สว่ นของพชื ทจ่ี ะขยายพนั ธุ์ คอื กิ่งพนั ธ์ุดี 2. สว่ นของพืชทเ่ี ปน็ ระบบราก คือ ตน้ ตอ 3. มีดขยายพันธหุ์ รอื คตั เตอร์ กรรไกรตดั แตง่ กงิ่ พลาสตกิ พันกง่ิ 4. วัสดทุ ีใ่ ช้ในการคลมุ กง่ิ เชน่ เชือก ถุงพลาสตกิ ขนาดเลก็ ถุงกระดาษ คลุมกิ่ง 5. กำรทำบก่งิ คือ การนาต้นพืช 2 ต้นเป็นต้นเดียวกัน โดยส่วนของต้นตอท่ีนามาทาบกิ่ง จะทาหน้าท่ีเปน็ ระบบรากอาหารให้กบั ต้นพันธุด์ ี โดยมีขั้นตอนกำรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1. เลอื กกิ่งกง่ึ แก่กง่ึ อ่อนทสี่ มบรู ณเ์ พศปราศจากโรคและแมลง 2. เฉือนก่ิงพนั ธ์ุดใี ห้เปน็ รปู โลย่ าวประมาณ 1 – 2 นวิ้ ชุดท่ี 4 การขยายพนั ธ์ุพชื ผักสวนครัว 24
3. เฉือนตน้ ตอเปน็ รปู ปากฉลาม 4. ประกบแผลต้นตอเขา้ กับกิ่งพนั ธ์ดุ ี พนั พลาสติกให้แนน่ แล้วมดั ตน้ ตอ กบั กงิ่ พันธุ์ด้วยเชือกหรอื ลวด 5. ประมาณ 6 – 7 สปั ดาห์ แผลจะตดิ กันดี รากตมุ้ ตน้ ตอจะงอกแทงผา่ น วัสดุ และเรม่ิ มีสีนา้ ตาล ปลายรากมสี ีขาว และมจี านวนมากพอ จึงจะตัดได้ 6. นาลงถุงเพาะชา พรอ้ มปักหลังค้ายนั ต้นเพอ่ื ปอ้ งกันตน้ ลม้ ภาพที่ 9 การทาบกิง่ ที่มาภาพ : อับดลุ รอมัน มะรือมอ, 2151 6. กำรแยกหนอ่ และหัว เป็นวิธีการขยายพันธ์ุท่ีใช้กับพืชที่ไม่ค่อยมีเมล็ด ก่ิงก้าน หรือพืชท่ีมีลาต้น ผิดจากต้นพืชท่ีพบเห็นทั่วไปและพืชเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่สามารถขยายพันธุ์โดยวิธี อนื่ ได้ พชื ทข่ี ยายพันธ์ุหรอื ปลูกโดยการแยกหัวหรือ หน่อ มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี 1. มีลาต้นอยู่ใต้ดิน ซ่ึงเราเรียนส่วนของลาต้นนี้ว่า หัว เหง้า แง่ง สามารถ แยกออกไปปลกู ได้ ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธ์ุพชื ผักสวนครัว 25
2. มีลาต้นอยู่ใต้ดินและมีใบสะสมอาหารกลายเป็นหัว เมื่อมีหัวงอกออกมา กแ็ ยกไปปลูกได้ 3. ไมม่ สี ่วนของก่ิงก้านทจ่ี ะขยายพนั ธห์ุ รอื ปลูกโดยวิธีอน่ื 4. เก็บเมลด็ พันธ์ไุ ปเพาะไดย้ ากหรือต้องใช้เวลานานในการเพาะเมล็ด เมล็ด จงึ จะงอก จงึ ไมค่ อ่ ยปลกู ด้วยเมล็ด พชื ท่ขี ยำยพันธ์โุ ดยกำรแยกหนอ่ และหัว 1. ไม้ดอกไมป้ ระดบั ท่ขี ยายพนั ธด์ุ ้วยหัว ไดแ้ ก่ วา่ นสี่ทศิ ซอ่ นกลนิ่ บวั รกั เร่ บอนสี เปน็ ต้น ไมด้ อกไม้ประดับท่ีขยายพนั ธดุ์ ว้ ยหน่อได้แก่ พทุ ธรักษา สร้อยทอง หนา้ วัว เยอรบ์ รี า่ เปน็ ต้น 2. พชื ผักสวนครวั ทข่ี ยายพนั ธุ์ดว้ ยหัวได้แก่ หอม กระเทียม เป็นตน้ 3. พชื ผักสวนครวั ที่ขยายพนั ธด์ุ ว้ ยหน่อไดแ้ ก่ ขงิ ขา่ ขมน้ิ ตะไคร้ เป็นตน้ 4. พชื ชนิดอ่ืนทขี่ ยายพนั ธด์ุ ้วยหวั ไดแ้ ก่ เผอื ก สับปะรด มนั ฝรง่ั เป็นตน้ พืชชนดิ อืน่ ท่ีขยายพันธด์ุ ว้ ยหน่อไดแ้ ก่ กล้วย หวั คือ ส่วนของพชื ท่มี ีลกั ษณะกลมหรอื คอ่ นข้างกลม ซ่งึ อาจ หมายถึง 1. หัวที่เกิดจากลาต้น มีการสะสมอาหารและอัดตัวกันแน่นเป็นก้อนเช่น เผือก มนั ฝร่งั บวั ฝร่ัง 2. หัวที่เกิดจากเหง้า มีการสะสมอาหารและอัดตัวกันแน่นเช่น ขิง ข่า ว่าน สที่ ิศ 3. หัวทเี่ กิดจากรากเกิดการสะสมอาหาร มีลักษณะเด่นคือหัวของพืชชนิดนี้ ไมม่ ีข้อและปลอ้ ง เช่น มนั เทศ 4. หัวท่ีเกิดจากกาบใบ เป็นหัวของพืชใบเล้ียงเด่ียวท่ีเกิดจากกาบใบห่อหุ้ม กันเปน็ ก้อน เช่น หอม กระเทยี ม ว่านแสงอาทติ ย์ ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผกั สวนครัว 26
หน่อ คือ ส่วนของพืชท่ีเจริญเติบโตมาจากต้นเดิม พัฒนาเป็นต้นใหม่ ซ่ึง เรียกว่า “หน่อ” เพื่อให้ตัวเองมีจานวนมากข้ึน พืชที่ขยายพันธ์ุด้วยวิธีน้ีได้แก่ ขิง ข่า กระชาย กล้วย พทุ ธรกั ษา หนา้ วัว เยอรบ์ รี ่า เป็นต้น ประโยชนข์ องการขยายพนั ธพุ์ ชื การขยายพันธพุ์ ืชมีประโยชน์ ดงั นี้ 1. ทาใหม้ จี านวนตน้ พชื มากขึ้น 2. ชว่ ยรักษาพนั ธพุ์ ชื ทม่ี ลี กั ษณะดีมิใหส้ ญู พนั ธ์ 3. ทาให้ได้พนั ธุ์พชื ใหม่ทมี่ ีคุณภาพดี การคดั เลอื กพนั ธ์ุ การเลือกหวั และหน่อเพ่อื ใชเ้ ปน็ ตน้ พนั ธุ์ ควรปฏิบตั ดิ ังนี้ 1. เลอื กหวั และหนอ่ จากต้นพนั ธดุ์ ี มีลักษณะตรงตามพันธุ์ 2. เลือกหวั และหนอ่ ท่ีสมบูรณ์แขง็ แรง 3. มขี นาดเหมาะสมในการขยายพันธ์ุ ขนาดไม่เลก็ ไม่โตจนเกนิ ไป แตกใบ ออ่ นประมาณ 2-3 ใบ เลอื กหัวและหน่อที่ปราศจากโรคและแมลงรบกวน วิธีแยกหัวและหน่อ กำรแยกหัวและหน่อของต้นพืชเพ่ือนำไปปลูก มีข้ันตอน ในกำรปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 1. เมื่อเลอื กหวั และหน่อได้ตามตอ้ งการแล้ว ใชเ้ สียมหรอื ช้อนปลกู ขุดคุย้ ให้ เหน็ ส่วนของหวั และหนอ่ ทแี่ ยกออกมาจากต้นเดิม 2. ใชม้ ดี คมๆ เฉือนส่วนของหัวและหนอ่ ท่ีตดิ กบั ตน้ เดมิ ใหข้ าดออกจากกัน 3. ใชเ้ สียมหรือช้อนปลูกขดุ หวั และหน่อทเ่ี ฉือนขาดจากตน้ แม่แลว้ ข้ึนมา 4. ถา้ หัวและหน่อมีใบติดมาก ควรตัดใบทิ้งบ้างเพื่อปอ้ งกันการคายนา้ 5. ตดั รากท่ีติดมากับหวั และหน่อ 6. นาไปปลูกในภาชนะหรือแปลงทเี่ ตรยี มไว้ ชุดท่ี 4 การขยายพนั ธุพ์ ชื ผักสวนครัว 27
ตัวอยำ่ งกำรขยำยพนั ธุ์พืช โดยวธิ กี ำรแยกหัวและหนอ่ หอม เปน็ พืชสวนครัว มลี าตน้ อยู่ใต้ดิน ใชใ้ บและกาบใบเปน็ อาหาร ส่วนของกาบ ใบจะอัดกนั แนน่ กลายเปน็ ส่วนท่เี รยี กกันว่า หวั กำรขยำยพนั ธุ์ 1. เม่ือเลือกหัวท่ีจะนามาใช้ได้แล้ว แกะกาบแห้งออกให้หมด แยกออกเป็น กลบี ๆตัดรากและยอดออกเล็กน้อย 2. หากตอ้ งการจะให้หอมออกรากเร็ว ควรนาไปจ่มุ นา้ แล้วห่อผา้ ทช่ี ืน้ ท้งิ ไว้ 2-3 วันจงึ คอ่ ยนาไปปลกู กำรปลูก เม่ือเตรียมดินเสร็จแล้ว ใช้ช้อนปลูกหรือไม้แทงดินเป็นรู ระยะห่างระหว่าง แถว 15 เซนติเมตรระหว่างต้น10 เซนติเมตร ฝังหัวหอมลงไปในดิน 1½ เซนตเิ มตร ใช้แกลบหรือฟางคลุมให้มิด รดน้าให้ชุม่ ท่ัวแปลง (ประสาน ฉลาดคิด, 2558 : 33) ภาพท่ี 11 การแยกหัวและหนอ่ ท่มี าภาพ : อบั ดุลรอมนั มะรือมอ, 2151 ชุดท่ี 4 การขยายพันธุพ์ ชื ผักสวนครวั 28
กจิ กรรมที่ 1 ชอื่ -สกุล...........................................................ช้ัน...........เลขท.่ี ............... คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1) การขยายพันธุ์พชื หมายถึง ………………………………………………………………… ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 2) การขยายพันธพุ์ ชื แบง่ ออกไดเ้ ป็น.....................................ประเภท ได้แก่ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 3) การขยายพันธ์พุ ชื โดยการใช้เมล็ด จดั อยใู่ นวธิ ีการขยายพันธ์พชื แบบใด ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 4) การขยายพนั ธพ์ุ ชื แบบอาศยั เพศ หมายถงึ …………………………………………… ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ 5) ให้นกั เรียนยกตัวอยา่ ง วิธกี ารขยายพนั ธพ์ุ ชื แบบไม่อาศยั เพศ มา 3 อยา่ ง 1............................................................................................................................. 2............................................................................................................................. 3............................................................................................................................. ชดุ ท่ี 4 การขยายพันธุพ์ ชื ผกั สวนครวั 29
กิจกรรมท่ี 2 ชื่อ-สกุล........................................................ช้ัน...........เลขท่ี............ คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนเติมข้อความลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกตอ้ ง ประเภทของกำรขยำยพันธพ์ุ ชื ชุดที่ 4 การขยายพนั ธพุ์ ชื ผกั สวนครวั 30
กจิ กรรมที่ 3 ช่อื -สกุล...........................................................ชนั้ ...........เลขที.่ ............... คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนบอกวิธีการขยายพันธพุ์ ืชผกั สวนครัวต่อไปนี้ 1) ผักบุ้ง นิยมขยายพนั ธุ์โดยวธิ ี ………………………………………………………………… ................................................................................................................................ 2) หัวหอม นยิ มขยายพนั ธ์ุโดยวธิ ี ……………………………………………………………… ................................................................................................................................ 3) มะนาว นยิ มขยายพนั ธ์ุโดยวธิ ี ………………………………………………………………. ................................................................................................................................ 4) พริกขหี้ นู นยิ มขยายพนั ธโ์ุ ดยวธิ ี ……………………………………………………………. ................................................................................................................................ 5) ตะไคร้ นยิ มขยายพันธโุ์ ดยวิธี ………………………………………………………………. ................................................................................................................................ ชดุ ท่ี 4 การขยายพันธพ์ุ ชื ผักสวนครัว 31
แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ ท่ี 4 กำรขยำยพนั ธพุ์ ืชผกั สวนครวั คำช้ีแจง : 1. แบบทดสอบฉบบั นี้เป็นแบบทดสอบ 4 ตัวเลอื กมี 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ให้นกั เรียนทาเครือ่ งหมาย ( x ) ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลอื ก ข้อทถี่ กู ที่สุดเพยี งขอ้ เดยี วเทา่ นัน้ 1. พชื ชนดิ ใดท่ี ไมน่ ยิ ม ขยายพนั ธโุ์ ดยการใชเ้ มล็ด ก. มะมว่ ง ข. แตงกวา ค. ผักคะน้า ง. ถวั่ ผักยาว 2. การขยายพันธ์ุโดยวิธใี นข้อใด จดั อยู่ในประเภทของการขยายพนั ธพุ์ ชื แบบอาศัย เพศ ก. การขยายพันธ์ุโดยการปักชา ข. การขยายพันธุโ์ ดยการตอนกง่ิ ค. การขยายพนั ธโุ์ ดยการใช้เมล็ด ง. การขยายพนั ธโุ์ ดยการแยกหนอ่ หรือหัว 3. ขอ้ ใดคอื ความหมายท่ีถูกต้องของการขยายพนั ธ์พุ ชื ก. การเกบ็ เมล็ดพันธ์ทุ ดี่ ไี ว้เพือ่ ขยายดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ ข. การคัดเลอื กเมล็ดพนั ธท์ุ ่ไี มส่ มบรู ณอ์ อกให้ไดม้ ากทส่ี ุด ค. การเพาะปลกู เมลด็ พชื ใหเ้ จรญิ เตบิ โตตามวัฏจักรเพ่อื ออกผลผลิตตอ่ ไป ง. การเพม่ิ จานวนตน้ พชื ใหม้ ากข้ึนเพื่อนาไปใช้ประโยชนด์ า้ นต่างๆ และอนรุ ักษ์ ลกั ษณะท่ีดไี ว้ ชุดที่ 4 การขยายพันธุ์พชื ผักสวนครวั 362
4. ผกั บุ้ง เรานิยมขยายพันธโุ์ ดยวิธใี ด ก. การตอนกิง่ ข. การเพาะเมล็ด ค. การปักชา ง. การแยกหนอ่ และหวั 5. การขยายพันธพุ์ ืชแบง่ ออกเปน็ 2 วธิ ใี หญ่ ๆ ไดแ้ กข่ ้อใด ก. การติดตา การตอ่ ก่ิง ข. แบบอาศยั เพศ แบบไม่อาศัยเพศ ค. การขยายพนั ธ์โุ ดยการใชห้ วั และหน่อ ง. การขยายพันธโุ์ ดยใชจ้ กุ และการทาบก่งิ 6. วิธกี ำรนำเอำส่วนตำ่ งๆ ของพชื เชน่ ลำตน้ ใบ มำใช้ในกำรขยำยพนั ธ์ุ เรา เรยี กว่าการขยายพันธแ์ุ บบใด ก. การขยายพนั ธแุ์ บบอาศยั เพศ ข. การขยายพนั ธโุ์ ดยใชเ้ มล็ด ค. การขยายพนั ธแ์ุ บบไม่อาศยั เพศ ง. ถูกทุกขอ้ 7. การแยกหัวและหนอ่ จัดอยู่ในประเภทของการขยายพันธพุ์ ชื แบบใด ก. การขยายพนั ธแุ์ บบไม่อาศยั เพศ ข. การขยายพนั ธ์แุ บบอาศยั เพศ ค. การขยายพนั ธ์ุแบบโดยใชเ้ มล็ด ง .ถูกท้ังข้อ ก และ ข ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผกั สวนครัว 363
8. หอม เรานยิ มขยายพนั ธโุ์ ดยวธิ ีใด ก. การตอนกิ่ง ข. การเพาะเมลด็ ค. การปักชา ง. การแยกหนอ่ และหัว 9. กำรทำให้กง่ิ หรือตน้ พืชเกิดรำกขณะตดิ อยกู่ บั ตน้ แม่ จะทำใหไ้ ดต้ น้ พืชใหม่ ท่ีมีลกั ษณะทำงสำยพนั ธุ์ เหมอื นกับตน้ แม่ทกุ ประกำร เราเรยี กว่า ก. การติดตา ข. การเพาะเมลด็ ค. การแยกหัวและหนอ่ ง .การตอนกิ่ง 10. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ก. ข่า นิยมขยายพันธ์โุ ดยวิธกี ารตดิ ตา ข. ตะไคร้ นยิ มขยายพนั ธ์โุ ดยวธิ กี ารแยกหน่อ ค. พรกิ นิยมขยายพนั ธโ์ุ ดยการปกั ชา ง. ผดิ ทกุ ขอ้ ชุดที่ 4 การขยายพันธุ์พชื ผกั สวนครวั 364
กระดำษคำตอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ชื่อ – สกลุ ...............................................................ชัน้ ................เลขท่.ี ......... ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชุดที่ 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครัว 35
ภำคผนวก ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครัว 36
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ขอ้ ก ข ค ง ทำกนั ไดไ้ หมครบั ? เดก็ ๆ 1. X 2. X 3. X 4. X 5. X 6. X 7. X 8. X 9. X 10. X ชุดท่ี 4 การขยายพันธ์พุ ชื ผกั สวนครวั 37
เฉลยกจิ กรรมท่ี 1 คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1) การขยายพันธุ์พืช หมายถึง กระบวนการเพิ่มจานวนต้นพืชให้มากขึ้นเพื่อ นาไปใชป้ ระโยชน์ในดา้ นต่างๆ และอนรุ กั ษ์ลักษณะที่ดีไว้ไมใ่ หส้ ูญพนั ธ์ุ 2) การขยายพนั ธพ์ุ ืชแบง่ ออกไดเ้ ปน็ ............2............ประเภท ไดแ้ ก่ 1. การขยายพันธุพ์ ชื แบบอาศยั เพศ 2. การขยายพันธุ์พชื แบบไมอ่ าศยั เพศ 3) การขยายพนั ธพ์ุ ืชโดยการใช้เมล็ด จดั อยใู่ นวิธีการขยายพันธพ์ ชื แบบใด การขยายพนั ธพุ์ ืชแบบอาศยั เพศ 4) การขยายพันธ์ุพืชแบบอาศัยเพศ หมายถึง การนาเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ ที่ ได้ผ่านการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ดีมาทาการเพาะในวัสดุเพาะชาจนได้ต้น พืชใหม่ ซ่ึงมีขั้นตอนและกระบวนการแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดพืช วิธีการนี้ทา ใหไ้ ด้ตน้ พชื สงู ใหญ่ ระบบรากแขง็ แรง 5) ให้นักเรียนยกตวั อย่าง วิธกี ารขยายพนั ธพ์ุ ชื แบบไมอ่ าศยั เพศ มา 3 อยา่ ง 1. การปักชา 2. การตอนกิง่ 3. การแยกหวั และหนอ่ ( ขน้ึ อยดู่ ลุ พินิจของครผู สู้ อน ) ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธุ์พชื ผกั สวนครัว 38
เฉลยกจิ กรรมท่ี 2 คำชี้แจง : ให้นกั เรียนเติมขอ้ ความลงในชอ่ งวา่ งให้ถกู ต้อง ประเภทของกำรขยำยพนั ธพ์ุ ชื กำรขยำยพนั ธุพ์ ืชแบบอำศยั เพศ กำรขยำยพันธพุ์ ชื แบบไม่อำศัยเพศ การขยายพันธ์โุ ดยการเพาะเมลด็ การปกั ชา การเพาะเมล็ดพชื ในภาชนะหรือแปลงเพาะ กกาารรตตออนนกก่ิงิ่ง กกาารรตติดิดตตาา การตดิ ตา กกาารรตต่อ่อกกิง่ ิ่ง การต่อกิ่ง กกาารรททาาบบกกงิ่ ่ิง กกาารรทตา่อบกกงิ่ ง่ิ กกกาาารรรแตทแยอ่ายกบกหิ่งกหนิ่งน่อแอ่ ลแะลหะัวหวั การแยกหน่อและหัว กกาารรทแยาบกหกน่งิ ่อและหัว การแยกหน่อและหวั ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธ์พุ ชื ผกั สวนครวั 39
เฉลยกจิ กรรมที่ 3 ชื่อ-สกุล...........................................................ชน้ั ...........เลขท.ี่ ............... คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นบอกวธิ ีการขยายพันธ์พุ ชื ผกั สวนครวั ต่อไปน้ี 1) ผักบุง้ นิยมขยายพนั ธุ์โดยวธิ ี ………………………………………………………………… ..............การเพาะเมลด็ ........................................................................................... 2) หวั หอม นยิ มขยายพันธโุ์ ดยวิธี ……………………………………………………………… ..............การแยกหัว............................................................................................... 3) มะนาว นยิ มขยายพนั ธุ์โดยวิธี ………………………………………………………………. ..............การตอนกิ่ง................................................................................................ 4) พรกิ ขีห้ นู นิยมขยายพนั ธโ์ุ ดยวธิ ี ……………………………………………………………. ..............การเพาะเมล็ด........................................................................................... 5) ตะไคร้ นยิ มขยายพนั ธโ์ุ ดยวธิ ี ………………………………………………………………. ..............การแยกหน่อ............................................................................................. ชุดที่ 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครวั 40
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ขอ้ ก ข ค ง ทำกนั ไดไ้ หมครบั ? เดก็ ๆ 1. X 2. X 3. X 4. X 5. X 6. X 7. X 8. X 9. X 10. X ชุดท่ี 4 การขยายพันธ์ุพชื ผักสวนครัว 41
บรรณำนกุ รม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2551). เอกสำรประกอบหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำ ขัน้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ตวั ชวี้ ัดและสำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง กลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและเทคโนโลย.ี กรุงเทพฯ : โรงพมิ พค์ รุ ุสภา ลาดพรา้ ว. นนั ทิยา วรรธนธภูต.ิ 2553. กำรขยำยพันธุพืช. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชา พชื สวน คณะเกษตรศาสตร มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม สานักพมิ พ โอ.เอส.พร้ินตงิ้ เฮาส ประสาน ฉลาดคิด. 2558. หลกั กำรผลติ พชื . คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั ราชภฏั เทพสตร.ี ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธุ์พชื ผกั สวนครัว 42
ขอ้ กำหนดกำรให้คะแนนแบบประเมินผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมสภำพจรงิ กำรปฏบิ ตั ิงำนรำยกลุ่ม เล่มที่ 4 กำรขยำยพันธพุ์ ืชผกั สวนครวั รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนนที่ให้ ปฏบิ ัตงิ ำนกล่มุ 5 4 3 21 1. มกี ารวาง มกี ารวางแผน มีการวางแผน มกี ารวางแผน มกี ารวางแผน ไม่มีการ แผนการปฏบิ ตั ิงาน และการกาหนด โดยการ แต่ระบุ บ้างแต่ไม่ วางแผน ตามลาดับขัน้ ตอนที่ ข้นั ตอนในการ ปรึกษาหารือ ขั้นตอนในการ ชดั เจน กาหนด ปฏิบัตงิ านเป็น กนั ทัง้ กลุ่ม ปฏิบัตงิ านไม่ แบบอย่างท่ีดีได้ ครบถ้วน 2. มกี ารมอบหมาย มกี ารมอบหมาย มอบหมาย มอบหมาย มอบหมาย ไมม่ ีการ งานคานงึ ถึงความ งานโดยคานงึ ถึง งานโดย งานโดยไม่ งานแต่ มอบหมาย ถนดั ความสามารถ ความถนดั คานงึ ถงึ ความ คานึงถึงความ คานงึ ถึงความ งานต่างคน ของสมาชิกในกลุ่ม ความสามารถของ ถนัด ถนดั มกั จะ ใกลช้ ิดกันเป็น ต่างทา สมาชกิ ในกลุ่ม เกรงใจกนั สว่ นตวั โดยผ่าน มากกวา่ กระบวนการกล่มุ ทกุ คนเต็มใจใน การทางาน 3. มีการเตรยี มวสั ดุ มกี ารเตรยี มวัสดุ มีการเตรยี ม มีการเตรียม มีการเตรียม มีการ วสั ดอุ ปุ กรณ์ วสั ดไุ ม่ครบ วัสดอุ ปุ กรณ์ เตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ อปุ กรณ์ครบทุก ครบทกุ ขาด รายการ ไม่ครบขาด 2 ไมค่ รบ รายการแตม่ ี รายการ ขาด รายการและมี ปริมาณไม่ มากกว่า 2 เพยี งพอ รายการ ปรมิ าณเพียงพอ ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธพุ์ ชื ผกั สวนครวั 3493
ขอ้ กำหนดกำรให้คะแนนแบบประเมนิ ผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมสภำพจริง (ตอ่ ) กำรปฏิบัตงิ ำนรำยกลุ่ม เล่มที่ 4 กำรขยำยพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครัว รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนนท่ใี ห้ ปฏิบัติงำนกลมุ่ 5 4 3 21 4. ปฏบิ ัตงิ านตาม มีการปฏิบัตงิ าน มีการ มกี าร มกี าร ไม่มีการ ข้นั ตอนท่ีกาหนด ตามข้ันตอนท่ี ปฏิบตั งิ าน ปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั งิ าน ปฏิบตั งิ าน กาหนดทกุ ตามขัน้ ตอนท่ี ตามข้ันตอนท่ี ตามขัน้ ตอนท่ี ตาม ข้นั ตอน 1 ขั้นตอน กาหนดขาด 2 กาหนดขาด 3 ขน้ั ตอนที่ ข้นั ตอน ขน้ั ตอน กาหนด 5. ความรว่ มมือใน สมาชิกในกล่มุ ทกุ สมาชิกในกลุ่ม สมาชกิ ในกลุ่ม สมาชิกในกลุ่ม สมาชกิ ใน การปฏบิ ัติงาน คนใหค้ วาม ทกุ คนให้ความ บางคนไมใ่ ห้ สว่ นใหญ่ไมใ่ ห้ กลุ่มไม่ให้ รว่ มมอื กันในการ รว่ มมอื กันใน ความรว่ มมอื ความรว่ มมือ ความ ปฏบิ ตั งิ านดว้ ย การปฏบิ ตั งิ าน ในการ กันในการ ร่วมมือกัน ความขยนั ขันแขง็ ปฏิบัติงาน ปฏบิ ัตงิ าน 6. ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเร็จของงาน ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเรจ็ ของ ผลสาเร็จ ผลงานไม่ งานเรียบร้อยมี สาเร็จ ประสิทธิภาพ เรียบรอ้ ยมี งานเรียบร้อย งานเปน็ ส่วน บางส่วน คณุ ภาพ ใหญ่ ชุดที่ 4 การขยายพนั ธุพ์ ชื ผกั สวนครวั 3494
แบบสังเกตทักษะกำรทำงำน กลมุ่ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ 3 เล่มที่ 4 กำรขยำยพันธ์พุ ืชผกั สวนครัว คำชแี้ จง : พฤติกรรมการแสดงออกของนกั เรยี นกาหนดเป็นระดบั คะแนนได้ ดังนี้ ระดับคะแนน 3 ดเี ยี่ยม ระดับคะแนน 2 ดี ระดบั คะแนน 1 ผา่ น ระดบั คะแนน 0 ปรับปรุง รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน 3 2 10 1. มีความกระตือรอื รน้ ในการเรยี นรู้ 2. มีทักษะในการเรียนรู้ 3. กลา้ คดิ กล้าแสดงออก 4. ความร่วมมอื ในการรว่ มกจิ กรรม 5. มที ักษะการทางานเป็นกลุม่ รวมคะแนนแตล่ ะชอ่ ง รวมคะแนนท้ังหมด คะแนนรวมเฉลย่ี ลงชอื่ ผูป้ ระเมิน วนั ท่.ี ..........เดอื น.................................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมนิ คะแนนรวมเฉลย่ี ไปใสใ่ นแบบบันทกึ คะแนน ชุดที่ 4 การขยายพันธ์ุพชื ผกั สวนครวั 3495
แบบสงั เกตคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี 3 เลม่ ที่ 4 กำรขยำยพันธพุ์ ืชผักสวนครวั คำช้ีแจง : พฤตกิ รรมการแสดงออกของนกั เรยี นกาหนดเปน็ ระดับคะแนนไดด้ ังนี้ ระดบั คะแนน 3 ดีเยย่ี ม ระดบั คะแนน 2 ดี ระดับคะแนน 1 ผา่ น ระดับคะแนน 0 ปรบั ปรุง รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 3210 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อยา่ งพอเพียง 3. มุ่งม่ันในการทางาน รวมคะแนนแตล่ ะช่อง รวมคะแนนทัง้ หมด คะแนนรวมเฉลย่ี ลงช่ือ ผ้ปู ระเมิน วันที.่ ........เดอื น...............................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมินคะแนนรวมเฉลยี่ ไปใส่ในแบบบันทกึ คะแนน ชดุ ท่ี 4 การขยายพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครัว 3496
แบบบันทกึ คะแนน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ 3 เลม่ ท่ี 4 กำรขยำยพนั ธพ์ุ ชื ผักสวนครัว ที่ กำรสังเกต กำรสงั เกต กำรตรวจ กำรทำ ผลรวมกำร ผลกำรประเมิน ทกั ษะกำร คุณลักษณะอนั ผลงำน/ แบบฝึกหัด/ ประเมิน ร้อยละ ทำงำน (5) พึงประสงค์ (5) ชิ้นงำน(5) กำรทดสอบ (20) (5) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ลงชื่อ ผู้ประเมิน วนั ที่............เดือน.....................................พ.ศ. 2561 หมำยเหต:ุ นาผลการประเมินคะแนนรวมเฉล่ียไปใส่ในแบบบันทึกคะแนน ชดุ ที่ 4 การขยายพนั ธุ์พชื ผักสวนครวั 3497
ตำรำงกำรประเมนิ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เลม่ ที่ 4 กำรขยำยพนั ธ์พุ ชื ผกั สวนครัว ผลกำร กำรประเมิน ผลกำร ประเมนิ ที่ ประเมิน ปรบั ซอ่ ม ไม่ หมำยเหตุ เฉลีย่ รอ้ ยละ ดมี ำก ดี พอใช้ ปรงุ เสริม ผำ่ น ผำ่ น 1 เกณฑก์ ารประเมิน 2 คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 3 80-100 ดมี าก 4 คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ 5 70-79 ดี 6 คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 7 60-69 พอใช้ 8 คะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 9 50-59 ปรบั ปรุง 10 คะแนนเฉลี่ยต่ากว่า 11 รอ้ ยละ 50 ซ่อมเสริม 12 13 14 15 16 17 18 ชุดที่ 4 การขยายพันธุ์พชื ผกั สวนครวั 48
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: