ครูรัจนา พวงประยงค์ นางรัจนา พวงประยงค์ แสดงดเี ปน็ พิเศษจนได้ชื่อว่า มคี วามสามารถ โดดเดน่ คอื การแสดงบทบาทและอารมณอ์ นั สมจริงในบทนางเอกละคร ครรู ัจนา พวงประยงค์ ศิลปนิ แห่งชาติ สาขา นอกแทบทุกเร่ือง ที่นบั ว่ายอดเย่ยี มคอื บทนางเมรขี ีเ้ มา บทนางวฬิ าร์ใน เร่ืองไชยเชษฐ์ บทแก้วหนา้ มา้ ตอนรําเยย้ ซมุ้ บทนางยีส่ ุน่ ในเรอื่ งลกั ษณะ ศลิ ปะการแสดง (นาฏศิลปไ์ ทย - ละคร) พทุ ธศักราช ๒๕๕๔ เป็นผ้มู ี วงศ์ นางมณฑา ตอนลงกระทอ่ ม นอกจากจะเป็นศิลปินทีม่ ีกระบวนรํางามมากแล้ว ยงั เปน็ ครผู ูร้ ักษา ความรคู้ วามสามารถสงู ส่ง และแสดงนาํ ไดห้ ลายหลากมากบทตง้ั แต่ ขนบประเพณีในการแสดง ถูกต้องครบครันตามแบบฉบบั เปน็ นางเอก รปู ลักษณง์ ดงามแขนออ่ นยากจะหาใครเหมอื น นับเป็นศิลปนิ บทนาง กระบวนราํ บทนางกษตั ริย์ บทเทวดานางฟ้า จนถึงบทนางทกุ ประเภท ท่มี คี วามสามารถสงู สง่ ตบี ทได้สมจริงทุกบทบาท ทั้งมคี วามสงา่ งาม สมทเี่ ปน็ แบบอย่างท่ีดีย่ิงแก่ศลิ ปนิ ร่นุ หลงั ละคร ไดร้ บั การคดั เลอื กใหแ้ สดงบททีต่ อ้ งใชท้ กั ษะพเิ ศษ อาทิ แสดง นางรจั นา พวงประยงคม์ ีพร้อมท้งั ความสามารถในการ อารมณโ์ กรธเกรย้ี ว หึงหวง ตลกขบขนั แม้บทนางพกิ าร กส็ ามารถตี กาํ กับการแสดง การออกแบบท่าราํ ในระบาํ ตา่ งๆ ทไ่ี ด้สรา้ งขึ้นไว้ในกรม ศิลปากรหลายชดุ มผี ลงานการแสดงทัง้ ในประเทศและตา่ งประเทศ บทได้อยา่ งงดงาม ส่ืออารมณ์ไดส้ มจรงิ เช่น แสดงโขนเปน็ นางมณี เป็นครูทีพ่ รอ้ มดว้ ยความเมตตาและมคี วามตงั้ ใจจริง ในการ ถ่ายทอดความรู้ มีศษิ ยเ์ ปน็ จาํ นวนมากได้รบั การถ่ายทอดวิชาความร้ไู ว้ เมขลา นางเบญจกาย นางสพุ รรณมัจฉา นางนารายณ์ นางวานรินทร์ ล่าสุดในปี ๒๕๕๔ได้รับพระราชทานเขม็ พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ บทนางยักษเ์ จา้ อารมณ์ เชน่ นางสาํ มนกั ขา นางแกว้ อุดร นางอดุล พระบรมราชินีนาถ ในงานแสดงโขน ตอนศึกมัยราพณส์ ะกดทพั ใน ฐานะศิลปนิ อาวุโส ปศี าจ แสดงละครใน บทนางยบุ ล บทมะเดหวี แสดงละครพันทางในบท สรอ้ ยฟา้ ตอนสรอ้ ยฟา้ ละเลงขนมเบือ้ ง เป็นคณุ ยา่ ทองประสี ตอน ขุนแผนสอ่ งกระจกมนต์ เปน็ นางตานีตวั แปลง ตอนพลาย เพชรพลายบวั ออกศึก แสดงละครดกึ ดาํ บรรพเ์ ป็นนางศรู ปนขา ตอนข้นึ หงึ เป็นนางคนั ธมาลี ตอนท้าวสนั นรุ าชชุบตัว ล้วนเป็นงานทไี่ ด้สร้าง
นางเฉลย ศุขะวณิช เป็นผู้มคี วามเมตตาเอ้ืออารี อทุ ศิ ตนเพ่ือประโยชนแ์ ก่การศึกษาและงาน ศลิ ปอ์ ย่างต่อเนือ่ งจนสามารถแสดงให้แพรห่ ลายออกไปอย่าง นางเฉลย ศขุ ะวณิช เกิดเมื่อวนั ที่ ๑๑ พฤศจิกายน กวา้ งขวางทง้ั ในและนอกพระราชอาณาจกั ร ไดร้ บั ปริญญาครศุ าสตร พทุ ธศักราช ๒๔๔๗ เป็นผู้เชย่ี วชาญการสอนและออกแบบนาฏศิลป์ บัณฑิตกิตตมิ ศกั ด์ิ สาขานาฏศิลป์ สหวิทยาลยั รตั นโกสินทร์ วิทยาลัย ไทย แหง่ วิทยาลัยนาฏศลิ ป์ กรมศิลปากร เป็นศลิ ปินอาวโุ ส ซึง่ มี ครูบ้านสมเดจ็ เจา้ พระยา ความร้คู วามสามารถสูงในกระบวนทา่ รําทกุ ประเภท เปน็ ผู้อนรุ กั ษ์แบบ แผนเกา่ และยงั ได้สร้างสรรค์และประดิษฐ์งานด้านนาฏศิลป์ข้ึนใหม่ นางเฉลย ศขุ ะวณิช สมควรไดร้ ับการยกย่องเชดิ ชเู กียรติ มากมายหลายชดุ ซึ่งกรมศลิ ปากรและวงการนาฏศลิ ป์ท่ัวประเทศได้ถือ เป็นศิลปนิ แหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (นาฏศิลป์) ประจาํ ปี เป็นแบบฉบับของศิลปะการร่ายรําสบื ทอดตอ่ มาจนถึงทุกวนั นี้ ทาง พทุ ธศักราช ๒๕๓๐ ราชการได้มอบหมายให้เป็นผู้วางรากฐานจดั สรา้ งหลกั สตู รการเรียน การสอนวิชานาฏศลิ ปต์ ง้ั แตร่ ะดับต้นจนถึงขัน้ ปรญิ ญา นิเทศการสอน ในวทิ ยาลัยนาฏศลิ ปท์ กุ สาขาท้งั ในสว่ นกลางและภมู ภิ าค ถา่ ยทอดวิชา ความรทู้ างดา้ นนาฏศลิ ป์แก่นกั ศึกษามาตลอดเวลากว่า ๔๐ ปี ให้ คาํ ปรกึ ษาด้านวชิ าการแกส่ ถานศกึ ษาและสถาบันต่าง ๆ
นางลมลุ ยมะคปุ ต์ ผลงานด้านการแสดง : ทา่ นแสดงเปน็ ตวั เอกเกอื บทกุ เรอื่ ง เพราะมีฝมี อื เปน็ เยย่ี ม บทบาทท่ีทา่ น เคยแสดง เชน่ พระสังข์ นางลมลุ ยมะคุปต์ หรืออกี ชือ่ หนง่ึ ท่ี เขยเลก็ เจา้ เงาะ ฮเนา ซมพลา พระวิษณกุ รรม พระอภัยมณี ศรี บรรดา ศษิ ยท์ ั้งหลายจะขนานนามให้ท่านด้วยความ สุวรรณ สดุ สาคร อุศเรน อิเหนา สียะตรา วิหยาสะกํา อุณรทุ เคารพรกั อยา่ งย่งิ วา่ “คณุ แม่ลมุล” เปน็ ธดิ าของร้อยโท พระราม พระลอ พระมงกฎุ อินทรชติ พระนารายณ์ พระคเณศ นายแพทย์จีน อญั ธัญภาติ กบั นางคํามอย อัญธัญภา สมิงพระราม พระไวย พลายบัว พระพันวษา เป็นตน้ ติ (เชอ้ื อนิ ตะ๊ ) เกดิ เม่ือวนั ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2448 ณ จงั หวัดน่าน ทบี่ ิดาข้นึ ไป ราชการสงครามปราบกบฏ ผลงานด้านการประดษิ ฐท์ า่ รํา : ที่ประดิษฐ์ใหก้ รมศิลปากรใน เง้ยี ว (กบฏ จ.ศ.1264 ปขี าล พ.ศ. 2445) ฐานะผ้เู ชี่ยวชาญ เช่น ราํ แมบ่ ทใหญ่ รําซัดชาตรี รําวงมาตรฐาน ราํ เถดิ เทงิ รํากิง่ ไม้เงนิ ทอง ระบํากลอง ระบาํ ฉิ่ง ระบํานกยูง ระบาํ การศกึ ษา : เรม่ิ ตน้ เรยี นวชิ าสามัญทีโ่ รงเรียน กฤดาภนิ ิ หาร ระบาํ ชุมนุมเผ่าไทย ระบําอธษิ ฐาน ระบาํ ในนา้ํ มี สตรีวทิ ยา เมื่ออายุได้ 5 ขวบ เรยี นได้เพยี งปีเดยี ว บิดา ปลา ระบําระฆงั ระบํานกสามหมู่ ระบําเชิญพระขวัญ ฟ้อนเงย้ี ว นําไปกราบถวายตวั เปน็ ละคร ณ วงั สวนกหุ ลาย ในสมเด็จ ฟ้อนเลบ็ ฟอ้ นเทยี น ฟ้อนมา่ นมยุ้ เชียงตา ฟอ้ นแพน ฟ้อนแคน พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟ้าอัษฎางค์ เดชาวุธ กรมหลวง เซงิ้ สราญ เซิง้ สัมพนั ธ์ เป็นตน้ นครราชสีมา ซงึ่ อย่ใู นความปกครองของคณุ ทา้ วนารวี ร คณารักษ์ (แจ่ม ไกรฤกษ์)
ท่านผ้หู นญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เปน็ ผู้รอบร้ใู นศลิ ปวิทยาการดา้ น นาฏศลิ ป์ เสมอื นศนู ยร์ วมศิลปวัฒนธรรมไทย ผ้เู ช่ยี วชาญใน ศิลปินแหง่ ชาติ สาขาศิลปะการแสดง พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๘ ตาํ ราฟ้อนรํา สืบมาแตส่ มัยโบราณ และมีความเช่ยี วชาญพเิ ศษ เกดิ เมือ่ วนั ที่ ๒๕ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๔๖ ทจี่ ังหวดั ในการคดิ ค้นประดิษฐ์ลีลาท่าราํ ให้เหมาะสมกับยุคสมัย และ ฉะเชงิ เทรา (ถงึ แกอ่ นจิ กรรมเม่อื วนั ที่ ๑๗ สงิ หาคม พ.ศ. ดาํ เนนิ ไปโดยถกู ตอ้ งตามระเบียบแบบแผน อนั มีมาแต่โบราณ ไม่ ๒๕๔๓) ว่าจะเป็นทว่ งท่า ทา้ วพญามหากษัตรยิ ์ ขนุ นาง และบุคคลสาํ คญั ชีวติ ครอบครวั สมรสกับ หมอ่ มราชวงศ์ตัน สนิทวงศ์ (พลตรี ตลอดจนท่าทางของสตั วต์ ่างๆ โดยสามารถคิดลีลาทา่ ราํ ไดอ้ ยา่ ง หม่อมสนิทวงศ์เสน)ี งดงาม และเหมาะสมกับบทบาท นอกจากนย้ี งั มีผลงาน การ การศกึ ษา สาํ เรจ็ หลักสตู รการศึกษาวิชาสามัญจากโรงเรยี นใน ประพันธบ์ ทสาํ หรบั แสดง ทัง้ โขนและละคร วงั สวนกุหลาบ การทํางาน รบั ราชการทก่ี รมศิลปากรเป็นผูเ้ ชี่ยวชาญ ผลงานดีเดน่ /ผลงานทส่ี ร้างชือ่ เสยี ง ได้แก่การคิดประดิษฐ์ นาฏศิลปไ์ ทย ผู้อํานวยการฝึกซ้อมการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย สอน ท่ารําสุโขทัย ทา่ รําที่ปรับปรงุ มาจากการแสดงละครตอนหนง่ึ ใน และเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ เกย่ี วกบั นาฏศิลปไ์ ทย เร่ืองอเิ หนา
ท่านผูห้ ญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ผลงานเกยี่ วกับการแสดงศลิ ปะนาฏกรรม เช่น ท่าราํ ของตัว มนี ามเดิมว่า แผว้ สทุ ธบิ ูรณ์ เกดิ เมื่อ พระ นาง ยักษ์ ลงิ และตวั ประกอบ การแสดงโขน ละครชาตรี ละคร วันท่ี ๒๕ ธนั วาคม ๒๔๔๖ เม่ืออายุ ๘ ขวบ ได้ถวายตัวในสมเดจ็ พระบรม นอก ละครใน ละครพนั ทาง และระบาํ ฟอ้ นต่างๆ เปน็ ผคู้ ดั เลือกการ วงศ์เธอ เจา้ ฟา้ อษั ฎางคเ์ ดชาวุธ กรมหลวงนครราชสมี า และได้รบั การ แสดง จัดทําบทและเป็นผูฝ้ กึ สอน ฝึกซอ้ ม อาํ นวยการแสดงถวาย ฝกึ หดั นาฏศิลป์ กับครูอาจารยผ์ ้ทู รงคุณวุฒใิ นราชสํานกั เช่น เจา้ จอม ทอดพระเนตรหน้าพระที่นัง่ ในวโรกาสตอ้ นรับพระราชอาคันตุกะ อาคันตุ มารดาวาดและเจ้าจอมมารดาเขียน ในรัชกาลที่ ๔ เจ้าจอมมารดาทับทิม ใน กร และงานของรฐั บาล หนว่ ยงานองค์กรตา่ งๆ จัดต้อนรับเป็นเกียรตแิ ก่ รชั กาลที่ ๕ หม่อมแย้ม ในนามสมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรสี ุริยวงศ์ แขกผ้มู าเยอื นประเทศไทย เป็นผ้คู ัดเลอื กตวั ละครใหเ้ หมาะสมตาม หม่อมอ่งึ ในสมเด็จพระบัณฑรู ฯ จนมคี วามรูค้ วามสามารถออกแสดงละคร บทบาทในการแสดงต่างๆ เปน็ ผูค้ ดั เลอื กการแสดงวางตวั ศลิ ปินผู้แสดง เป็นตัวเอกในโอกาสทแ่ี สดงถวายทอดพระเนตรหนา้ พระท่ีนั่ง ใน ตา่ งประเทศเพือ่ เชื่อมสมั พันธไมตรี และเผยแพร่ศลิ ปวัฒนธรรมไทยเปน็ พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หวั หลายครง้ั ท่านแสดงเปน็ อิเหนา ผู้ฝกึ สอนและอํานวยการฝึกซ้อมในการแสดงโขน ละคร การละเลน่ พื้น และนาดรสาในเรืองอเิ หนา เปน็ พระพริ าพและทศกัณฐ์ในเร่ืองรามเกียรติ์ เมิง ระบาํ รําฟ้อนต่างๆ ที่กรมศิลปากรจดั แสดงแกป่ ระชาชน ณ โรง ทางดา้ นการศกึ ษาวิชาสามัญทา่ นจบหลกั สตู รจากโรงเรยี นในวงั สวน ละครแหง่ ชาติ สังคตี ศาลา ในต่างจงั หวัดและทางสถานีโทรทัศนต์ า่ งๆ กุหลาบในรัชสมัยพระมหาธรี ราชเจ้า ตลอดท้งั รว่ มในงานของหน่วยราชการ องคก์ ร สถาบนั การศึกษา และ เอกชน เป็นวทิ ยากรบรรยายและตอบข้อซกั ถามในการอบรมวชิ านาฏศิลป์ และวรรณกรรม และเปน็ ที่ปรึกษาในการสร้างนาฏกรรมต่างๆ ท่จี ัดข้ึนด้วย
ครูรงภักดี (เจียร จารุจรณ) ตอ่ มาไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯใหม้ ีพธิ ีตอ่ ทา่ รําหน้า พาทยอ์ งคพ์ ระพิราพเป็นคร้ังที่ 2 ในวนั พฤหัสบดีท่ี 25 พ.ศ. เกดิ เม่อื วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2527 ณ ศาลาดสุ ติ าลัย พระตาํ หนักจิตรลดารโหฐาน แกศ่ ิลปิน 2442 ท่จี ังหวดั นครปฐม เป็นบตุ รของจางวางจอนและนางพริง้ กรมศิลปากรทไี่ ด้รับการคดั เลอื กว่าเปน็ ผทู้ ่ีมฝี มี อื เยยี่ ม ในขณะน้นั ครูรงภกั ดชี ราภาพมากแล้ว มีอายไุ ด้ 86 ปี โดยให้ศิลปินตอ่ ทา่ รํา ครรู งภักดีฝกึ หัดโขน (ยักษ)์ กบั พระยานฏั กานรุ กั ษ์และ จากภาพยนตร์ท่พี ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทรงบันทึกท่าราํ คุณหญิงนัฏกานุรักษ์ เมอ่ื อายุ 13 ปที ี่กรมมหรสพ สมยั รชั กาล ของครูรงภกั ดไี ว้ เมื่อปี พ.ศ. 2506 ท่ี 6 ตอ่ มาเขา้ รบั ราชการเปน็ ศลิ ปนิ ในกรมมหรสพ สมยั รชั กาลท่ี 7 นอกจากรับราชการเปน็ ตาํ รวจหลวงแลว้ ทา่ นยงั มีหนา้ ท่ีเป็น ดว้ ยเหตนุ หี้ นา้ พาทยอ์ งค์พระพิราพจึงไม่สูญไปจาก ครสู อนนาฏศลิ ป์โขนอีกด้วย นาฏศิลป์ไทย นับวา่ ครรู งภกั ดีได้เป็นผู้สืบทอดเพลงหนา้ พาทย์ สูงสุดของวชิ านาฏศลิ ปไ์ ว้เป็นมรดกของแผน่ ดิน เพื่อเยาวชนไทย ครูรงภักดีเปน็ ผ้มู คี วามสามารถในการราํ เพลงหน้าพาทย์ รุ่นหลังจะไดศ้ ึกษาเรยี นรู้ตอ่ ไป องค์พระพิราพ ซง่ึ เป็นนาฏศลิ ปส์ ูงสุดได้ พระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยู่หวั ภูมิพลอดลุ ยเดช ได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯใหน้ ายรง ภกั ดปี ระกอบพธิ คี รอบองค์พระ เม่อื วันท่ี 24 มกราคม พ.ศ. 2506 ณ บรเิ วณโรงละครพระทีน่ ัง่ อัมพรสถาน พระราชวงั ดุสติ
ครอู าคม สายาคม ผลงานดา้ นประดษิ ฐ์ท่าราํ ได้แก่ เพลงหนา้ พาทยต์ ระนาฏราช เพลงหนา้ พาทยโ์ ปรยขา้ วตอก เพลงเชดิ จนี ลลี าประกอบท่าเช่อื ม ครูอาคม สายาคม เดมิ ชอ่ื บญุ สม เกิดเม่อื ตาํ ราทา่ ราํ ผลงานดา้ นวิชาการ เขียนคําอธบิ ายนาฏยศพั ท์ บทความ วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2406 ณ บ้านส่ี เพลงพืน้ เมือง เพลงหน้าพาทย์ ความสาํ คญั ของหวั โขน ระบํา ราํ เต้น การเลอื กเดก็ เข้าฝกึ หัดละครสมัยรัชกาลที่ 7 เป็นตน้ แยกหลานหลวง จังหวัดพระนคร เปน็ บตุ รของนายเจือ ศรยี าภยั และนางผาด ศรยี าภยั สกุลเดิม อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา (นามสกุลสา ผลงานด้านวิทยกุ ระจายเสียง ตั้งคณะสายเมธี แสดงนยิ าย ยาคมเป็นนามสกลุ ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6) และบรรเลงในแบบดนตรีสากลและดนตรไี ทย ต้งั คณะสายาคม ครอู าคมไดร้ บั การฝกึ หดั โขนพร้อมกบั เรยี นหนงั สือจน แสดงเพลงพื้นเมือง เปน็ ต้น จบชน้ั มัธยมปีท่ี 3 จากนัน้ เขา้ รบั ตําแหน่ง “พระ” แผนกโขนหลวง ก ร ม พ ิณ พ า ท ย ์แ ล ะ โ ข น ห ล ว ง ก ร ะ ท ร ว ง ว งั ผลงานด้านภาพยนตร์ แสดงเปน็ พระเอกภาพยนตร์เร่อื ง อม ต่อมา พ.ศ. 2478 โอนมาประจาํ โรงเรียนศลิ ปากร ตาเทวี เรอ่ื งไซอิ๋ว แสดงเปน็ พระถังซาํ จัง๋ และเป็นผู้กาํ กับการแสดง แผนกดรุ ยิ างค์ ดาํ รงตาํ แหน่งนกั วิชาการละครและดนตรี 7 กองการ เปน็ ต้น สงั คตี กรมศิลปากร เมอ่ื เกษยี ณอายุ กรมศิลปากรได้เชิญให้เป็น ผู้เชี่ยวชาญนาฏศลิ ปส์ อนนกั ศึกษาปรญิ ญา ผลงานด้านกาํ กับเวที กํากบั การแสดงและการสอนโขนและ ตร ี ละครเร่อื งต่างๆ ผลงานด้านการแสดง ครอู าคมแสดงเป็นตัวเอก เชน่ พ.ศ. 2505 ไดร้ ับมอบใหเ้ ป็นผปู้ ระกอบพธิ ีไหว้ครู พระราม อิเหนา พระร่วง พระอภัยมณี ขุนแผน พระไวย ไกรทอง ฮเ พ.ศ. 2506 ไดร้ บั ถ่ายทอดท่ารําองค์พระพริ าพจากครูรง ภักดี นา (เรือ่ งเงาะป่า) พระลอ อุณรทุ พระสงั ข์ เป็นตน้
พ.ศ. 2507 ทําพธิ ีครอบโขนละครในพธิ ไี หว้ครูประจาํ ปี นาง สุวรรณี ชลานเุ คราะห์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั รัชกาลท่ี 9 โปรดเกล้าฯ ใหส้ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารแี ละสมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ นางสุวรรณี ชลานุเคราะห์ เกิดเมอื่ วันท่ี ๑ เจ้าฟา้ จฬุ าภรณ์วลัยลักษณฯ์ รว่ มครอบในพธิ ไี หว้ครดู ังกลา่ วด้วย พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๖๙ ท่ีจังหวัด นนทบุรี เปน็ ละครหลวง สํานักพระราชวงั รนุ่ สดุ ทา้ ย ปลายสมยั พ.ศ. 2508 เปน็ ต้นมา ไดร้ ับเชญิ เป็นประธานไหว้ครูของ พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยหู่ วั เป็นนาฏศิลปินทม่ี คี วาม สถาบนั การศึกษาต่างๆ ท้ังของราชการและเอกชน รวมท้ังทา่ นได้ เช่ยี วชาญนาฏศิลป์ไทย ทั้งแบบพนื้ เมอื งและแบบราชสาํ นัก เคยแสดง พยายามถ่ายทอดวิชาความรแู้ ละประสบการณต์ ่างๆ ของท่านใหแ้ ก่ เป็นตัวเอกในละครแบบตา่ งๆใหก้ รมศิลปากรมาแล้วมากมายหลายเรือ่ ง เยาวชนรุ่นหลังได้รบั สบื ทอดตอ่ ไป ซง่ึ นบั วา่ ครอู าคมไดป้ ฏบิ ัติภารกจิ หลายตอน บทบาททีไ่ ด้รบั การยกยอ่ งและนยิ มชมชอบจากผู้ชมมาก ดา้ นนาฏศลิ ป์ไทยอยา่ งครบถ้วนสมบรู ณ์ ที่สุด “ ตัวพระ ” เขน่ อินเหนา สังขท์ อง พระไวย ไกรทอง สัตยวาน บางครั้งก็แสดงเป็น “ นางเอก ” เชน่ ละเวงวลั ลา เป็นต้น เป็นผู้ ครอู าคม สายาคม ได้สมรสกับนางสาวเรณู วเิ ชียรนอ้ ย มี อนุรักษแ์ บบแผนท่าราํ นาฏศิลป์ไทย และละครราํ ไวไ้ ด้มากที่สุดเคย บตุ ร 3 คน ครอู าคม สายาคม เสยี ชีวติ เมื่อวนั ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. แสดงและนําคณะไปแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในหลายประเทศ ได้ 2525 ถ่ายทอดวิชานาฏศิลปใ์ หก้ ับนิสติ นักศึกษาในมหาวทิ ยาลยั วทิ ยาลัยและ โรงเรียนตา่ ง ๆ หลายแหง่ เปน็ ผ้เู พียบพร้อมด้วยจรยิ ธรรมคณุ ธรรม และอทุ ิศตนเพือ่ ประโยชนใ์ หแ้ ก่สาขาวชิ าชีพมาเปน็ เวลากวา่ ๔๐ ปี จน เป็นทยี่ อมรับกนั ในวงการนาฏศิลปินว่า เปน็ ความสามารถสูงย่งิ ตอ่ เน่ืองมาตลอด นางสุวรรณี ชลานุเคราะห์ จงึ ได้รบั การยกย่องเชิดชเู กียรติเป็นศลิ ปนิ แหง่ ชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศลิ ป์ - ละครรํา) ปีพทุ ธศกั ราช
นาย กรี วรศะรนิ เป็นอาจารยท์ ีป่ รกึ ษาและวทิ ยากรในวิชาศลิ ปะนพิ นธ์ เปน็ ผู้ที่ เพยี บพรอ้ มดว้ ยคณุ ธรรม เสียสละและอทุ ิศตนเพื่อประโยชน์แก่ นายกรี วรศะรนิ เกดิ เม่อื วนั ท่ี ๒๖ มกราคม การศกึ ษาและงานนาฏศิลป์ ให้คําปรกึ ษาแนะนําแก่ศิษยแ์ ละบคุ คล พ.ศ.๒๔๕๗ ท่กี รงุ เทพมหานคร เปน็ ศิลปินผเู้ ชี่ยวชาญการสอน ทั่วไปอยา่ งสมาํ่ เสมอมากกวา่ ๕๐ ปี จนเปน็ ท่ียอมรบั นับถอื ใน นาฏศลิ ป์โขน ของวิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร มี วงการนาฏศิลปต์ ลอดระยะเวลาอนั ยาวนาน ความสามารถรอบรูก้ ระบวนการงานนาฏศิลป์ และการแสดงโขนทกุ นายกรี วรศะรนิ สมควรได้รบั การยกย่องเชิดชเู กียรติเปน็ ศลิ ปนิ ประเภท เปน็ หลกั และแมแ่ บบโดยเฉพาะโขนตวั ลิง เป็นผอู้ นุรักษแ์ บบ แผนการแสดงโขน ท้งั ยังสร้างสรรคแ์ ละประดษิ ฐ์ผลงานดา้ นการ แห่งชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (นาฏศลิ ป์-โขน) ประจําปี แสดงโขน - ละครหลายชุด ซึ่งวทิ ยาลยั นาฏศลิ ป์ กรมศิลปากรและ พุทธศกั ราช ๒๕๓๑ วงการนาฏศลิ ป์ทวั่ ประเทศ ไดย้ ึดถอื เป็นแบบฉบบั ของการแสดงและ การเรยี นการสอนสบื ตอ่ มาจนถงึ ปัจจุบัน นอกจากนี้ยังนิเทศการสอน วชิ านาฏศลิ ป์โขนทั้งในส่วนกลางและสว่ นภูมิภาค เปน็ ผ้รู ่วมพิจารณา หลกั สตู รสาขาวิชานาฏศลิ ป์ไทย และร่วมพฒั นาหลกั สตู รรายวิชา ตลอดจนส่อื การเรยี นการสอนระดับปริญญา
ครู สมพนั ธ์ โชตนา สมาชิกในกลุม่ นางสมพนั ธ์ โชตนา เกดิ เมอื่ วันที่ ๑๕ 1. นางสาวทิพย์วัลภ์ มะแพทย์ เลขท4่ี 0 มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๔๖๔ ทค่ี ้มุ เจ้าหลวงนครเชียงใหม่ เขา้ รับการ 2. นางสาวณัฏฐพัชร์ พรมราตรี เลขท3่ี 2 ฝกึ อบรมนาฏศิลปใ์ นคุ้มเจ้าหลวงนครเชยี งใหม่เม่อื อายุ ๙ ปี โดยหัด 3. นางสางนาตยา กนิ นาวัน เลขท่3ี 5 เป็นตวั พระกับครูหมอ่ มแส ณ เชียงใหม่ ครลู ะมูล ยมะคปุ ต์ แม่ครู 4. นางสาวปรมิ ทวงศ์ กองแกว้ เลขท่2ี 4 เผือ่ น วรศลิ ปฯ์ แสดงละครราํ เป็นตวั พระ และตัวพอ่ ในละครเร่ือง ไชย 5. นางสาวชนัญชดิ า เคยรัมย์ เลขที่23 เชษฐ,์ คาว,ี สุวรรณหงส์ ฯลฯ ตอ่ มาได้ตงั้ คณะช่างฟอ้ น และคิด 6. นางสาวพัชรดิ า หวังผล เลขท2่ี 8 ประดษิ ฐ์ทา่ เตน้ ของชาวเขา เป็นระบําชาวเขาเผาตา่ ง ๆ ปรับปรงุ ทา่ รํา 7. นางสาวกวิณภัค ดาราวงษ์ เลขท3ี่ 9 ชดุ พ้นื เมอื ง ภาคเหนือใหแ้ กว่ ิทยาลัยนาฏศลิ ป์เชยี งใหม่ ได้แก่ ชุดราํ 8. นายวีรวฒั น์ สาระติ เลขที่37 ไทยเขิน ฟ้อนวี ฟ้อนกมผดั ฟอ้ นนพบุรศี รีนครพิงค์เชยี งใหม่ เป็นผู้สบื 9. นายรตพิ งษ์ ลุตะภาพ เลขท่3ี 1 สานพัฒนานาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมืองชดุ ลา้ นนา ให้ดาํ รงอยทู่ า่ มกลางกระแส 10. นายเอกนรินทร์ คําแกว้ เลขที3่ 6 ความปลี่ยนแปลงของสงั คม เคยได้รับเชดิ ชูเกียรตเิ ป็นผมู้ ีผลงานดา้ น วัฒนธรรมทอ้ งถิน่ และผอู้ นุรกั ษ์มรดกไทยจงั หวัดเชยี งใหม่ นาง สมพันธ์ โชตนา จงึ ได้รับการประกาศยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติเปน็ ศิลปิน แหง่ ชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลปพ์ น้ื เมอื งล้านนา) ประจาํ ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๒
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: