โครงสร้าง ภาษาไทย ม๓ เทอม ๒ เสาวนีย์ สมบูรณ์

โครงสรา้ งรายวิชา วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน รหสั วิชา ท๒๓๑๐๑ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ นางสาวเสาวนีย์ ต๊ะต๋า ตาแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ สงั กดั สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ



ก คานา โครงการสอนทีจ่ ดั ข้นึ นี้ เพื่อให้ครูผู้สอนได้เตรียมการในการจัดการเรียนการสอน รายวิชา ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทยพื้นฐาน โดยมีการศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พืน้ ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๕ ตามสาระ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ดั วิเคราะห์หลักสตู รของสถานศึกษาและหลักสูตรกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย จัดท้าคา้ อธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา ก้าหนดเวลาเรียน น้าหนัก คะแนน ก้าหนดทกั ษะกระบวนการในการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผลการ เรียนการสอนของครู หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ส้าหรับครูผู้สอนในการพัฒนา คุณภาพการเรียนรู้และผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ อา้ เภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดส้านักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ส้านักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐานต่อไป เสาวนีย์ ต๊ะต๋า

สารบญั ข เรื่อง หนา้ ค้าน้า ก สารบญั ข ค้าชี้แจงรายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน รหัส ท๒๓๑๐๑ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ๑ คา้ อธิบายรายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน รหัส ท๒๓๑๐๑ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ๑๐ มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด ๑๑ ผงั มโนทัศน์ ๑๓ โครงสร้างรายวิชา ๑๔ อตั ราส่วนคะแนน ๑๖ การวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วดั ๑๗ ก้าหนดการสอนและกิจกรรมตลอดภาคเรียน ๒๗

๑ คาชีแ้ จง รายวชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๓๑๐๑ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ๑. แนวคิดหลัก หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กา้ หนดสาระการเรียนรู้ จ้านวน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ครผู ู้สอนตอ้ งจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยน้าความรู้ด้านเน้ือหาวิชามาจัด กิจกรรมการเรียนการสอน โดยการฝึกทกั ษะให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และเกิดสมรรถนะส้าคัญ ของผู้เรียน ๕ ประการ และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๘ ประการ ดงั น้ี สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๕ ประการ ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เปน็ ความสามารถในการรบั สารและสื่อสาร มีวัฒนธรรมในการ ใช้ภาษา ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การคิดอย่างเป็นระบบเพื่อน้าไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรือสารสนเทศ เพือ่ ใช้ในการตดั สนิ ใจ เกี่ยวกับตนเอง สงั คมอย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่ าง ๆ ที่ เผชิญได้ถูกต้อ งเหมาะสมบนพื้นฐานของ หลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการเข้าใจและเคารพตนเอง สามารถ น้ากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในการด้าเนินชีวิตประจ้าวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้อย่าง ตอ่ เนอ่ื ง การทา้ งานและการอยู่ร่วมกนั ในสงั คมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การ จดั การปัญหาและความขดั แย้งตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโน โลยี การ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ถูกต้อ งเหมาะสม มีคุณธรรมด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทาง เทคโนโลยี เพือ่ การพัฒนาตนเอง สังคม ในการเรียนรู้ การส่อื สาร การท้างาน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่าง มี ความสุขในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี ๑. รักชาติ ศาสตร์ กษตั ริย์ ๒. ซื่อสัตย์ สจุ ริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้

๒ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุ่งมนั่ ในการท้างาน ๗. รักความเปน็ ไทย ๘. มีจิตสาธารณะ หลักการออ กแบบกิจกรรมด้านคุณลักษณะที่ปรากฏในแผนการจัดการเรียนรู้ค้านึงถึง คุณลกั ษณะทีม่ ุ่งเนน้ ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีทกั ษะด้านภาษาหลังการเรียนรู้ สอดคล้องตามเป้าหมาย ของการเรียนรู้ มีเจตคติที่ดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีจิตอาสา ครูผู้สอนควร ปลกู ฝังคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ให้แก่ผู้เรียนทกุ แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์และเปน็ คนดขี องสงั คม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเปน็ กลุ่มที่มีความส้าคัญยิ่ง เน่ืองจากภาษาเป็นเอกลักษณ์ของ ความเป็นชาติ เป็นสมบัติทาง วัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ ใช้เป็นเครื่อง มือในการ ตดิ ตอ่ สื่อสาร เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความสมั พันธ์ที่ดตี อ่ กัน ภาษาเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้ แลประสบการณ์จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความรู้ให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและ ความก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการนา้ ไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นและ การพฒั นาอาชีพ นอกจากนีภ้ าษาไทยยงั เป็นส่อื แสดงถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม เป็น สมบัตขิ องชาตซิ ึ่งคนรุ่นหลังควรอนุรักษ์ สืบสานต่อไป แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยเป็นสาระการเรียนรู้ซึ่งผู้เรียนต้องมีคว ามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักภาษาไทย การใช้ ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรมไทย ๒. กระบวนการจดั การเรียนรู้ แนวคิดสา้ คญั ของการจดั การศกึ ษาทีเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ ส้าคัญ คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิด โอกาสให้ผู้เรียนคิดและลงมือปฏิบัตดิ ้วยกระบวนการทีห่ ลากหลาย เพื่อเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เตม็ ตามศกั ยภาพ การประเมินการเรียนรู้จึงมีความส้าคัญและจ้าเป็นอย่างยิ่งต่อการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ในห้องเรียน เพราะสามารถทา้ ให้ผู้สอนประเมินระดับพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน การจดั การศกึ ษาตอ้ งยึดหลกั ว่า ผู้เรียนทกุ คนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และ ถือว่าผู้เรียนมีความสา้ คัญทีส่ ดุ กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริ มให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตาม ธรรมชาตแิ ละเตม็ ตามศักยภาพ ให้ความสา้ คญั ของการบูรณการความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ ตามความสามารถของระดบั การศกึ ษา ได้ระบุให้ผู้ทีเ่ กีย่ วข้องดา้ เนนิ การ ดังน้ี สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกีย่ วข้อง ๑. จดั เน้ือหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดย ค้านงึ ถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล

๓ ๒. ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้ เพือ่ ป้องกนั และแก้ไขปัญหา ๓. จดั กิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ท้าได้ คิดเป็น ท้าเป็น รกั การอ่าน และเกิดการใฝ่เรียนรู้อย่างตอ่ เน่อื ง ๔. จัดกาเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ดา้ นตา่ ง ๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน รวมท้ัง ปลูกฝังคุณธรรม ค่านยิ มที่ดงี าม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในเน้ือหาวิชา ๕. ส่งเสริมสนับสนนุ ให้ผู้สอนสามารถจดั บรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอ้านวย ความสะดวกเพือ่ ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหน่ึงของ กระบวนการเรียนรู้ ท้ังน้ีผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนรู้ การสอน และแหล่ง วิทยาการประเภทตา่ ง ๆ ๖. การจดั การเรียนรู้ให้เกิดขึน้ ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ มีการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง และบุคคลในชมุ ชนทกุ ฝ่าย เพือ่ ร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศกั ยภาพ ครูผูส้ อน การจดั การเรียนรู้ตามแนวดังกล่าว จา้ เป็นตอ้ งเปลีย่ นแปลงพฤติกรรม การเรียนการสอนท้ังของ ผู้เรียนและผู้สอน กล่าวคือ ลดบทบาทของครูผู้สอนจากการเป็นผู้บอกเล่า บรรยาย สาธิต เป็นการ วางแผนจัดกิจกรรมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ กิจกรรมตา่ ง ๆ จะต้องเน้นที่บทบาทของผู้เรียนต้ังแต่เริ่ม คือ ร่วมวางแผนการเรียน การวดั ผล ประเมินผล และตอ้ งค้านงึ ว่ากิจกรรมการเรียนนั้น เน้นการพัฒนา กระบวนการคิด วางแผน ลงมือปฏิบตั ศิ กึ ษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมลู ด้วยวิธีการต่าง ๆ จากแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลาย ตรวจสอบ วิเคราะห์ แก้ปัญหา การมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน การสร้างค้าอธิบาย เกี่ยวกบั ข้อมูลทีส่ บิ ค้นได้ เพื่อน้าไปสู่คา้ ตอบของปัญหาหรือค้าถามตา่ ง ๆ ในที่สดุ สร้างอง ค์ความรู้ ท้ังน้ี กิจกรรมการเรียนรู้เหล่าน้ีต้องพฒั นาผู้เรียนให้มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย ท้ังทางร่างกาย อารมณ์ สงั คม และสตปิ ญั ญา โดยค้านงึ ถึงเรือ่ งตา่ ง ๆ ดงั น้ี  ควรให้นักเรียนทุกคนมีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดเวลา ด้วยการกระตุ้นให้ นกั เรียนลงมือทดลองและอภิปรายผล โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ ของการสอน เช่น การ นา้ เข้าสู่บทเรียน การใช้ค้าถาม เกมกระตนุ้ และเตรียมพร้อมก่อนเรียน ท้าให้การเรียน การสอนนา่ สนใจและมีชีวิตชีวา  ครูควรมีการวางแผนการใช้ค้าถามอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะน้านักเรียนเข้าสู่ บทเรียน และลงข้อสรุปได้โดยที่ไม่ใช้เวลานานเกินไป ครูควรเลือกใช้ค้าถามที่มีความ ยากง่ายเหมาะสมกบั ความสามารถของผู้เรียน  เมือ่ นักเรียนถาม อย่าบอกค้าตอบทนั ที ควรให้คา้ แนะน้าที่จะช่วยให้นักเรียนหาค้าตอบ ได้เอง ครคู วรให้ความสนใจต่อค้าถามของนักเรียนทุก ๆ คน แม้ว่าค้าถามนั้นจะไม่ เกีย่ วกับเรื่องทีก่ า้ ลงั เรียนอยู่ก็ตาม ครูควรจะชี้แจงให้ทราบและเบนความสนใจของ

๔ นักเรียนกลับมาสู่เรื่องที่ก้าลังอภิปรายอยู่ ส้าหรับปัญหาที่นักเรียนถ ามนั้น คว ร อภิปรายภายหลงั จากการอภิปรายเน้ือหาเกี่ยวกับเรื่องในบทเรียน  การส้ารวจตรวจสอบซ้า เป็นส่งิ จ้าเป็น เพือ่ ให้ได้ข้อมลู ที่น่าเชือ่ ถือ ดังน้ัน ในการจัดการ เรียนรู้ ครคู วรย้าให้นกั เรียนได้ส้ารวจตรวจสอบซ้า เพื่อน้าไปสู่ข้อสรุปที่ถูกต้องและ เชื่อถือได้ แนวการจดั การเรียนรภู้ าษาไทย หลกั การจดั กระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ มุ่งเน้น ให้ผู้เรียนฝึกทกั ษะทางภาษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ และศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง นอกจากน้ีครูผู้สอน ควรใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้อย่างหลากลาย เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญ (Student Centered) และให้ ผู้เรียนได้ลงมือกระท้า ได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้กระท้าลงไป (Active Leaning) โดย ครผู ู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีโอกาสลงมือกระท้ามากกว่าการฟังเพียงอย่าเดียว โดยให้ ผู้เรียนเรียนรู้โดยการอ่าน การเขียน การโตต้ อบ การวิเคราะห์ปญั หา อีกทั้งให้ผู้เรียนฝึกกระบวนการคิด อย่างหลากหลาย ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมินค่า นอกจากน้ันครูผู้สอนต้ องจัดกิ จรรมการเรียนรู้ทีใ่ ห้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย โดยการร่วมมือระหว่างครูกับผู้เรียน ครูต้องลด บทบาทในการสอนโดยเป็นผู้ชี้แนะ กระตนุ้ ให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ และปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ มากขนึ้ มีความหลากหลายและนา่ สนใจ กระบวนการเรียนรู้กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ การศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง ทศั นศกึ ษานอกสถานที่ การเรียนรู้ จากห้อง สมุด แหล่งเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้อ งถิ่น ปราชญ์ชาว บ้าน งานวิเคราะห์จากการศึกษา ภาคสนาม พิเคราะห์แหล่งเรียนรู้ การสอนโดยให้ผู้เรียนเรียนรู้โดยอิสระจากศูนย์การเรียนรู้และการ เรียนรู้ตามความสนใจ การเรียนรโู้ ดยผเู้ รียนลงมือปฏิบตั ิ ได้แก่ เกม การศกึ ษาสถานการณ์ กรณีตัวอย่าง บทบาท สมมุติ โครงงาน การทดลอง ศลิ ป์สร้างสรรค์การสอน เขียนบคุ ลาธิษฐาน คือ โวหารชนิดหน่ึงในโวหาร ภาพพจนท์ ีม่ ีลกั ษณะการสมมตุ ใิ ห้ส่ิงที่ไม่ใช้มนุษย์มีอากัปกิริยาท่าทางความรู้สึกเหมือนมนุษย์ การเรียน การสอนทีเ่ นน้ กระบวนการกลุ่ม ประกอบด้วย การอภิปรายกลุ่มย่อย การแก้ปัญหากลุ่ม การสืบค้น ความรู้ กลุ่มสัมพนั ธ์ การเรียนรู้แบบร่วมมือ การอภิปราย การเรียนการสอนโดยใช้หวั เรือ่ ง การเรียนรู้ผา่ นกระบวนการคิด ได้แก่ การแก้สถานการณ์ การตอบค้าถาม การสืบสอบ ความคิดรวบยอด การพัฒนากระบวนการคิด การใช้ทกั ษะกระบวนการ การสอนการอ่านโดยวิธีการตั้ง คา้ ถามผู้เรียน การเรียนการสอนที่เน้นความจ้า การเรียนการสอนโดยใช้แผนผังความคิด (Graphic Organizers) การเรียนการสอนที่กระตุ้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสอนกระบวนการคิด ๑๐ มิติ การคิดเปรียบเทียบ การคิดสังเคราะห์ การคิดประยกุ ต์ การคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ การคิดกล ยทุ ธ์ การคิดบูรณาการ การคิดแบบมโนทัศน์ และการคิดวิพากษ์

๕ การเรียนรผู้ า่ นสื่อเทคโนโลยี ได้แก่ โปรแกรมส้าเร็จรูป ชุดการสอน ชุดการสอนรายบุคคล ชดุ การสอนสา้ หรบั การเรียนเป็นกลุ่มย่อย ชุดการสอนประกอบการบรรยายของครู คอมพิวเตอร์ช่วย สอน (CAI) และการนา้ เสนอโดยวีดทิ ศั น์ ๓. สื่อการจัดการเรียนรู/้ แหล่งเรียนรู้ สื่อการจดั การเรียนรู้ เป็นเครือ่ งมือสนบั สนุนการจดั กระบวนการเรียนรู้ให้นักเรียนได้รับความรู้ ทักษะกระบวนการ ได้ง่ายในระยะเวลาส้ัน ช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดอย่างถูกตอ้ งรวดเร็ว สือ่ ที่ปรากฏในแผนการจัดการเรียนรู้ มีดังน้ี ๑. ใบความรู้ ใบงาน แผนภาพนา้ เสนอข้อมลู ๒. คลิป/วีดทิ ัศน์ ๓. ตวั อย่าง หรือสถานการณ์สมมตุ ิ ๔. สือ่ บุคคล แหล่งเรียนรู้ เปน็ เครือ่ งมือสร้างคุณลักษณะการใฝ่เรียนรู้ที่ทุกคนตอ้ งใฝ่รู้ตลอดชีวิต ดังน้ี ๑. แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ๒. แหล่งเรียนรู้ภายนอกโรงเรียน ได้แก่ ชมุ ชน ท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ห้องสมุดประชน เปน็ ตน้ ห้องสมุดเป็นแหล่งเรียนรู้ทีส่ ้าคญั และเปน็ หวั ใจสา้ คัญของผู้เรียนในการศึกษาค้นคว้า โรงเรียน ควรจัดห้องสมุดกลาง ห้องสมดุ หมวดวิชา มุมหนงั สอื ในห้องเรียน ห้องสมุดเคลื่อนที่ นอกจาก เป็นแหล่งเรียนรู้แล้ว ยงั ปลกู ฝังลกั ษณะนสิ ัยที่ดใี นสง่ เสริมนสิ ัยรกั การอ่าน ๓. แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ - สา้ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน - เว็บไซต์ออนไลนต์ า่ ง ๆ ฯลฯ ๔. การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ส้าคัญของการประเมินผลการเรียนรู้ คือ การช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตาม วัตถุประสงค์ที่ผู้สอนหรือหลักสูตรวางไว้ ปัญหาที่พบในปัจจุบันก็คือ ผู้บริหาร ผู้สอน ตลอดจน ผู้ปกครองจ้านวนมากยงั ให้ความส้าคญั กบั การเรียนรู้แบบท่องจา้ เพื่อสอบ หรือการเรียนรู้เพื่อแข่งขัน ซึ่ง ถือเป็นการเรียนรู้แบบผิวเผินมากกว่า การประเมินการเรียนรู้ระหว่างการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่ง ผลสมั ฤทธิ์ของการเรียนรู้จะยั่งยืนกว่า ในการจัดการเรียนรู้เพือ่ พัฒนาสมรรถนะด้านต่าง ๆของผู้เรียนจ้าเป็นต้ องมีการประเมินการ เรียนรู้อย่างตอ่ เน่อื ง ตง้ั แตเ่ ริ่มตน้ ระหว่าง และสนิ้ สดุ กระบวนการเรียนรู้ โดยใช้การประเมินในรูปแบบที่

๖ หลากหลายสอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ รปู แบบการประเมินการเรียนรู้ ได้แก่ ก ารประเมิน การเรียนรู้ระหว่างเรียน (Formative Assessment) การประเมินการเรียนรู้สรุปรว ม (Summative Assessment) และการประเมินการเรียนรู้ตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ในการประเมินเพื่อ พฒั นาการเรียนรู้และการประเมินตามสภาพจริงน้ัน ผู้สอนจ้าเป็นต้องสะท้อนการประเมินให้ผู้เรียน รับทราบ เพื่อปรบั ปรงุ และพัฒนาตนเอง และผู้สอนตอ้ งน้าผลการประเมินมาพิจารณาเพื่อทบทวนและ ปรับแผนการจดั การเรียนรู้เพื่อให้สามารถดา้ เนนิ การแก้ไข ช่วยเหลือ หรือหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ ผู้เรียนแตล่ ะคนเกิดการเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ตามแต่ละจุดประสงค์การเรียนรู้หรือเป้าหมายของ ตัวชี้วดั ตา่ ง ๆ (กุศลิน, ๒๕๕๕) การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐาน ๒ ประการ คือ การ ประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อการตดั สนิ ผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ ประสบความส้าเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัด เพื่ อให้บรรลุตาม มาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะส้าคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ซึ่งเป็น เป้าหมายหลกั ในการวดั และประเมินการเรียนรู้ในทุกระดบั (กระทรวงศกึ ษาธิการ, ๒๕๕๒) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่ปรากฏในแผนการจัดการเรียนรู้ ให้ความส้าคัญของการ ประเมินพฤติกรรมการปฏิบตั ิ ดงั น้ี ๑. วธิ ีการประเมิน ๑) การวดั และประเมินก่อนเรียน เพือ่ ตรวจสอบความพร้อม และความรู้เดิมของนักเรียน (ผสมผสานในการเรียนรู้ข้ันนา้ ) ๒) การวัด และประเมินระหว่างเรีย น ได้แก่ ด้านความรู้ ทักษะการปฏิบัติ และ คณุ ลกั ษณะ โดยวิธีการสังเกตพฤติกรรม ถามตอบพร้อมแสดงเหตุผล ตรวจชิ้นงาน การน้าเสนอ (ผสมผสานในกิจกรรมการเรียนรู้ขั้นสอน) จดุ มุ่งหมายของการประเมินระหว่างเรียน มีดงั น้ี ๒.๑ เพือ่ ค้นหาและวินิจฉัยว่าผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเน้ือหา มีทักษะความช้านาญ รวมถึงมีเจตคตทิ างการเรียนรู้อย่างไรและในระดบั ใด เพือ่ เป็นแนวทางให้ผู้สอนสามารถวางแผนการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม เพือ่ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างเต็มศกั ยภาพ ๒.๒ เพื่อใช้เปน็ ข้อมูลป้อนกลับให้กับผู้เรียนว่ามีผลการเรียนรู้อย่างไร ๒.๓ เพื่อใช้เป็นข้อมลู ในการสรุปผลการเรียนรู้และเปรียบเทียบระดับพั ฒนาการด้าน การเรียนรู้ของผู้เรียนแตล่ ะคน ๓) การวัดและประเมินหลงั เรียน เพื่อตรวจสอบความส้าเร็จตามจุดประสงค์รายแผน เปน็ การพัฒนาในจุดทีผ่ ู้เรียนอาจจะเข้าใจคลาดเคล่ือนหรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง (ผสมผสานในกิจกรรมข้ัน สรุป) และเพือ่ ตนั สนิ ผลการจัดการเรียนรู้ เป็นการประเมินหลังจากผู้เรียนได้เรียนไปแล้ว อาจเป็นการ ประเมินหลงั จบหนว่ ย การเรียนรู้หนว่ ยใดหนว่ ยหนง่ึ รวมทั้งการประเมินกลางภาคเรียน และปลายภาค

๗ เรียน ผลจากการประเมินประเภทน้ีใช้ในการตัดสนิ ผลการจัดการเรียนการสอน หรือ ตัดสินใจว่าผู้เรียน คนใดควรจะได้รบั ระดับคะแนนใด ๔) ประเมินรวบยอดเมือ่ สิน้ สุดหน่วยการเรียนรู้ เพือ่ ตรวจสอบคุณภาพผู้เรียนว่าบรรลุ เป้าหมายของหนว่ ยการเรียนรู้ตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด สมรรถนะ คุณลักษณะ และเจตคติ หรือไม่ เช่น การท้าโครงงาน การน้าความรู้ไปใช้เพือ่ พฒั นาสังคมในรูปแบบตา่ ง ๆ การทาแบบบันทึกการเรียนรู้ (Learning Log) นอกจากนี้ ควรให้ผู้เรียนได้ประเมินการเรียนรู้ของตนเอง เพื่อเปิดโอกาสได้สะท้อนคิดสิ่งที่ เรียนรู้ทั้งที่ทา้ ได้ดแี ละยงั ตอ้ งพัฒนา โดยการท้าแบบบันทึกการเรียนรู้ (Learning Log) (ภาคผนวก ค.) ควรให้ผู้เรียนได้ประเมินการเรียนรู้ย่อยหลงั จบการเรียนรู้แต่ละหน่วยการเรียนรู้ และประเมินการเรียนรู้ รวมในช่วงกลางภาคเรียน และปลายภาคเรียน โดยครูสามารถเลือกใช้ชุดค้าถามและจ้านวนข้อให้ เหมาะสมกบั บริบทของผู้เรียน ชาวงเวลาและธรรมชาตขิ องแต่ละวิชา ท้ังน้ีในครั้งแรกครูควรท้าร่วมกับ นกั เรียนเพือ่ แนะนา้ วิธีการเขียนแบบสะท้อนคิด และควรอ่านสง่ิ ที่นักเรียนบันทึกพร้อมให้ข้อมูลย้อนกลับ เสนอแนะในเชิงบวกและสร้างสรรค์ รวมท้ังใช้ประโยชน์จากข้อมูลในแบบบันทึกเพื่อพัฒนาการสอนของ ตนเอง และช่วยเหลือนกั เรียนเปน็ รายบุคคลตอ่ ไป ๒. ผู้ประเมิน ได้แก่ เพื่อนประเมินเพื่อน ครูประเมินผู้เรียน ผู้เรียนประเมินตนเอง และ ผู้ปกครองร่วมประเมิน การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ด้านภาษา เป็นงานที่ต้องการความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ พฒั นาการทางภาษา ดังนนั้ ครผู ู้สอนจะวัดผลการเรียนรู้ด้านภาษาต้องเข้าใจหลักการของการเรียนรู้ ภาษาเพื่อดา้ เนนิ การ ดงั น้ี ๑. ทักษะทางภาษาทั้งการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูดมีความส้าคัญเท่าๆ กนั และทกั ษะเหล่าน้ีครผู ู้สอนควรบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน ไม่ควรฝึกทักษะทีละอย่าง แต่ ควรฝึกทกั ษะไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งทกั ษะทางภาษาหนง่ึ จะส่งผลตอ่ การพฒั นาทักษะทางภาษาอืน่ ๆ ด้วย ๒. ผู้เรียนตอ้ งได้รบั การพฒั นาความสามารถทางภาษาพร้อมกับการพัฒนาความคิด เพราะสือ่ ภาษาเปน็ สอ่ื ของความคิด ผู้ที่มีทกั ษะความสามารถในการใช้ภาษา มีคลังค้ามาก จะช่วยให้ ผู้เรียนมีความสามารถในการคิด ๓. ผู้เรียนตอ้ งเรียนรู้การใช้ภาษาพดู และภาษาเขียนอย่างถูกต้องด้วย การใช้ภาษาไม่ใช่ เรียนรู้กฎเกณฑ์ทางภาษาอย่างเดียว การเรียนภาษาต้องเรียนรู้ไวยากรณ์หรือหลักภาษา การสะกดค้า การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และน้าความรู้ดังกล่าวไปฝึกฝน ๔. ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการพัฒนาทักษะทางภาษาเท่ากัน แต่การพัฒนาทักษะทาง ภาษาไม่เท่ากัน และวิธีการเรียนรู้ต่างกนั

๘ ๕. ภาษากบั วฒั นธรรมมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด การจัดกิจกรรมภูมิหลังของ ภาษาและการใช้ภาษาถิ่นของผู้เรียนช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาภาษาไทยของตน และพัฒนาความรู้สึกที่ดี เกีย่ วกับภาษาไทย ๖. ภาษาไทยเป็นเครื่องมือของการเรียนรู้ ทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ต้องใช้ภาษาไทยเป็น เครื่องมือการส่อื สาร ดังนนั้ ครูผู้สอนจะตอ้ งใช้ภาษาที่เปน็ แบบแผนเป็นตัวอย่างที่ดแี ก่ผู้เรียน ๕. คาแนะนาสาหรบั ครู ๑. การเตรียมตัวของครู (๑) ศกึ ษาทา้ ความเข้าใจคา้ ชี้แจง และท้าความเข้าใจเชื่อมโยงท้ังเป้าหมาย กิจกรรม การวดั ผลและประเมินผลระหว่างหนว่ ยการเรียนรู้กับแผนการจดั การเรียนรู้รายชั่วโมง (๒) ศกึ ษาค้นคว้าความรู้เพิม่ เตมิ จากแหล่งเรียนรู้ หน่วยงาน องค์กรให้ความรู้ที่เชื่อถือ ได้ รวมทั้งเทคนคิ การจัดการเรียนรู้เพื่อพฒั นาความสามารถของผู้เรียนอย่างรอบด้าน (๓) ปรับประยกุ ต์หรือเพิ่มเป้าหมายท้ังเน้ือหา ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะที่เป็น จุดเนน้ และเปน็ ปจั จบุ นั ตามบริบทของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน กิจกรรมการเรียนรู้ รวมถึงการวัดและ ประเมินผล (๔) จดั เตรียมใบงาน บันทึกการเรียนรู้ สือ่ อุปกรณ์ ๒. การนาแผนการจัดกาเรียนรู้ไปใช้ (๑) ครูผู้สอนควรศกึ ษาและท้าความเข้าใจก่อนนา้ แผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้ เตรียมส่ือ ให้พร้อมล่วงหนา้ ก่อนน้าไปใช้สอนจริง (๒) ครูผู้สอนควรน้าแผนการจดั การเรียนรู้ออกมาเตรียม แล้ววางแผนการจัดกิจกรรม ให้เหมาะสมกับผู้เรียน หรือมีการปรับปรุงแผนการสอนหลังการสอนให้มีความทันสมัยต่อความ เปลีย่ นแปลงอย่างสม่า้ เสมอ ปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยม เจตคติ ทุกแผนการจัดการ เรียนรู้ รวมทั้งวดั และประเมินผลทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียน และตามสภาพ จริง ๓. การจดั สภาพแวดลอ้ มสง่ เสริมการเรียนรู้ (๑) จัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน หรือนอกห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ สะอาด ปลอดภยั มีความเปน็ ระเบียบ ตกแตง่ หองเรียนให้น่าอยู่ มีมุมต่าง ๆ ในห้องเรียน มีที่เก็บวัสดุอุปกรณ์ และง่ายตอ่ การนา้ มาใช้ มีป้ายนเิ ทศให้ความรู้ ภายนอกห้องเรียนจัดบรรยากาศให้เป็นธรรมชาติ น่าอยู่ ร่มรื่น และเหมาะกับกิจกรรมการเรียนรู้ ถูกสุขลกั ษณะ และปลอดภยั (๒) จัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบตั กิ าร (๓) จัดสื่อ อุปกรณ์ ที่เกีย่ วกบั การเรียนรู้อย่างเพียงพอเหมาะสม

๙ (๔) จัดหาเครื่องมือแสวงหาความรู้ หรือช่องทางเสนอข่าวสารตา่ ง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับ รู้ข้อมลู ข่าวสารที่ทันสมัยและเปน็ ปัจจุบนั อยู่เสมอ ๔. การบันทึกหลงั การสอนของครู (๑) บนั ทึกการใช้แผนการจัดการเรียนการสอนของตนเอง โดยสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ระหว่างเรียนและประเมินตนเอง ใช้เทคนคิ หรือวิธีการที่ท้าให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม มีความรู้ มีทักษะ และ คณุ ลกั ษณะตามจุดประสงค์ (๒) บนั ทึกสาเหตุของความส้าเร็จ หรืออุปสรรคของการสอน เช่น การจดั บรรยากาศ สิง่ แวดล้อม การเตรียมตัว เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลตุ ามเป้าหมายหรือตัวชี้วัดทีก่ ้าหนดไว้ในแผนการ จดั การเรียนรู้

๑๐ คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน รหสั วชิ า ท๒๓๑๐๑ ชือ่ วชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด การวิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินค่า วรรณคดีและวรรณกรรม โดยศึกษาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง การอ่ านจับ ใจความสา้ คัญ การอ่านตคี วาม ระบคุ วามแตกต่างของคา้ ความหมายโดยตรงและโดยนัย อ่านเพื่อเขียน กรอบแนวคิด บันทึก รายงาน ใช้ถ้อยค้าเขียนส่ือสารถูกต้องตามระดับภาษา เขียนชีวประวัติ เขียน อธิบายชี้แจงและแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล กรอกแบบสมคั รงาน แสดงความคิดเห็น ประ เมินค่า วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดู น้าข้อคิดความรู้ไปประยุกต์ใช้ พูดรายงาน พูดโน้มน้าว พูดใน โอกาสตา่ ง ๆ ตามวตั ถุประสงค์ จา้ แนกและใช้ค้าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย วิเคราะห์ระดับภาษา อธิบายความหมายค้าศัพท์ ใช้ค้าทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ แต่งบทร้อยกรอง สรุปเน้ื อหา วิเคราะห์ คุณค่า ข้อคิดความรู้จากวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจา้ บทอาขยานและบทร้อยกรองทีม่ ีคุณค่า โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้ความคิด น้าไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการด้าเนิน ชีวิต กระบวนการเขียนเพือ่ การส่อื สารอย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการฟงั การดู และการพูด สามารถ เลอื กฟัง ดู และพูดแสดงความรู้ ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ เพื่อให้เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา พลังภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่างเห็นคุณค่า น้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิต จริง รักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ส่งเสริมนสิ ยั รักการอ่าน การเขียน มีมารยาทในการอ่าน การ เขียน การฟงั การดู การพูด และส่งเสริมให้มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ รหสั ตัวชีว้ ัด ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ , ม.๓/๕ , ม.๓/๙ ท ๑.๑ ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๖ , ม.๓/๘ ท ๒.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ , ม.๓/๕ ท ๓.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ , ม.๓/๕ , ม.๓/๖ ท ๔.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ ท ๕.๑ รวม ๕ มาตรฐาน ๒๓ ตัวชี้วดั

๑๑ รายวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง รหสั วชิ า ท๒๓๑๐๑ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต สาระที่ ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวิตและมีนิสัยรกั การอ่าน ตัวชี้วัด : ท ๑.๑ ม.๓/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกับ เรื่องทีอ่ ่าน ท ๑.๑ ม.๓/๒ ระบคุ วามแตกต่างของคา้ ทีม่ ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ท ๑.๑ ม.๓/๓ ระบุใจความส้าคัญและรายละเอียดของข้อมลู ที่สนับสนนุ จากเรือ่ งทีอ่ ่าน ท ๑.๑ ม.๓/๔ อา่ นเรื่องตา่ ง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความและ รายงาน ท ๑.๑ ม.๓/๕ วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องที่อ่านโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ เพือ่ ให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดขี นึ้ ท ๑.๑ ม.๓/๙ ตคี วามและประเมินคุณค่าและแนวคิดที่ได้จากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพื่อน้าไปใช้แก้ปญั หาในชีวิต สาระที่ ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสือ่ สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และ เขียนเรือ่ งราวในรปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด : ท ๒.๑ ม.๓/๒ เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยค้าได้ถกู ต้องตามระดับภาษา ท ๒.๑ ม.๓/๓ เขียนชีวประวัตหิ รืออัตชีวประวัตโิ ดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติ ในเรือ่ งตา่ ง ๆ ท ๒.๑ ม.๓/๖ เขียนอธิบาย ชี้แจง แสดงความคิดเหน็ และโตแ้ ย้งอย่างมีเหตุผล ท ๒.๑ ม.๓/๘ กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียนบรรยายเกี่ยวกับความรู้และทักษะของ ตนเองที่เหมาะสมกบั งาน

๑๒ สาระที่ ๓ : การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชีว้ ดั : ท ๓.๑ ม.๓/๑ แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู ท ๓.๑ ม.๓/๒ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดู เพื่อน้าข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการ ด้าเนนิ ชีวิต ท ๓.๑ ม.๓/๓ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ สนทนา ท ๓.๑ ม.๓/๔ พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ท ๓.๑ ม.๓/๕ พูดโน้มน้าวโดยน้าเสนอหลักฐานตามล้าดับเน้ือหาอย่างมีเหตุผลและ นา่ เชื่อถือ สาระที่ ๔ : หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของ ภาษา และพลังของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา รกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ ตัวชี้วัด : ท ๔.๑ ม.๓/๑ จา้ แนกและใช้ค้าภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ท ๔.๑ ม.๓/๓ วิเคราะห์ระดบั ภาษา ท ๔.๑ ม.๓/๔ ใช้คา้ ทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ ท ๔.๑ ม.๓/๕ อธิบายความหมายค้าศพั ท์ทางวิชาการและวิชาชีพ ท ๔.๑ ม.๓/๖ แตง่ บทร้อยกรอง สาระที่ ๕ : วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด : ท ๕.๑ ม.๓/๑ สรปุ เน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิน่ ในระดบั ทีย่ าก ยิ่งขึน้ ท ๕.๑ ม.๓/๒ วิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรปุ ความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพื่อน้าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง รวม ๕ มาตรฐาน ๒๓ ตวั ชี้วัด

๑๓ รายวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน ผังมโนทัศน์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง หนว่ ย ๑ วิวิธพินิจภาษา จา้ นวน ๑๓ ชวั่ โมง หน่วย ๒ คุณค่าวรรณคดี หนว่ ย ๓ พาทีสมั พันธ์ จา้ นวน ๑๒ ชัว่ โมง จ้านวน ๘ ชว่ั โมง ภาษาไทยพื้นฐาน ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง หนว่ ย ๔ สรรคานามาใช้ หนว่ ย ๕ ภูมิใจในถิน่ ตน จ้านวน ๑๐ ชัว่ โมง จ้านวน ๗ ชัว่ โมง หมายเหตุ - สอบกลางภาค ๑ ชวั่ โมง - สอบปลายภาค ๑ ชั่วโมง

๑๔ โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ชือ่ หน่วย ตัวชี้วดั สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้าหนกั คะแนน รวมคะแนน หนว่ ย การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) K P A ๑๓ ๑ วิวิธพินิจภาษา ท ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, อ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง ระบุความแตกต่างของ ๑๕ ๗ ๔ ๒ ม.๓/๓, ม.๓/๕, ม.๓/๙ ค้าทีม่ ีความหมายโดยตรง โดยนัย ระบุใจความส้าคัญและ ท ๒.๑ ม.๓/๒, ม.๓/๖ รายละเอียดขอ ง ข้อ มูลที่สนับสนุนจากเรื่อ ง ที่อ่าน ท ๓.๑ ม.๓/๑ วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องที่อ่านโดยใช้กลวิธีการ ท ๕.๑ ม.๓/๓ เปรียบเทียบตคี วาม ประเมินคุณค่าและแนวคิดที่ได้จาก งานเขียน เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยค้าถูกต้องตามระดับ ภาษา เขียนอธิบาย ชี้แจง แสดงความคิดเห็นโต้แย้งอย่าง มีเหตุผล แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟัง และดู สรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม ๒ คุณค่าวรรณคดี ท ๑.๑ ม.๓/๑ อ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรองถูกต้อง เขียนชีวประวัติโดย ๑๔ ๗ ๓ ๒ ๑๒ ท ๒.๑ ม.๓/๓ เล่าเหตุการณ์ สรุปเนือ้ หา วิเคราะห์คณุ ค่า ข้อคิด ความรู้จาก ท ๕.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓ วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนา้ ไปประยกุ ต์ ใช้ในชีวิตจริง สอบกลางภาค ๑ ๒๐ - - ๒๐

๑๕ ๓ พาทีสมั พันธ์ ท ๒.๑ ม.๓/๓, ม.๓/๘ เขียนแสดงข้อคิดเหน็ และทัศนคติในเรื่องต่าง กรอกแบบ ๙ ๓ ๓ ๒ ๘ ท ๓.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, สมคั รงานพร้อมเขียนบรรยาย แสดงความคิดเห็นและประเมนิ ม.๓/๕ วิเคราะห์และวิจารณ์เรือ่ งจากการฟงั และการดู เพือ่ น้าข้อคิด มาประยุกต์ใช้ในการด้าเนินชีวิต พดู รายงานเรือ่ งหรือประเดน็ ที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา พดู โน้มนา้ ว โดยน้าเสนอหลกั ฐานตามล้าดับเนื้อหาอย่างมีเหตุผลและ น่าเชื่อถือ ๔ สรรค้าน้ามาใช้ ท ๑.๑ ม.๓/๔, ม.๓/๕ อ่านเรือ่ งต่าง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด และ ๑๒ ๕๓๒ ๑๐ ท ๒.๑ ม.๓/๒ รายงาน วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องที่อ่านโดยใช้ ท ๓.๑ ม.๓/๔ กลวิธีการเปรียบเทียบ เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยค้าได้ถูกต้อง ท ๔.๑ ม.๓/๔, ม.๓/๕ ตามระดบั ภาษา พดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ท ๕.๑ ม.๓/๓ ใช้ค้าทับศพั ท์และศพั ท์บญั ญัติ อธิบายความหมายค้าศัพท์ ทางวิชาการและวิชาชีพ สรปุ ความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพือ่ น้าไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง ๕ ภูมิใจในถิ่นตน ท ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๙ อ่านออกเสียงร้อยกรองได้ถูกต้อง ตีความและประเมินคณุ ค่า ๘ ๓ ๒ ๒ ๗ ท ๔.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๓, ม. ๓/๖ แนวคิดที่ได้จากงานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อน้าไปใช้ แก้ปญั หาในชีวิต จ้าแนกและใช้ค้าภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน ภาษาไทยวิเคราะห์ระดบั ภาษา และแต่งบทรอ้ ยกรองประเภท โคลงสีส่ ุภาพ สอบปลายภาค ๑ ๓๐ - - ๓๐ รวมตลอดภาคเรียน ๖๐ ๗๕ ๑๕ ๑๐ ๑๐๐

๑๖ อตั ราสว่ นคะแนน = ๗๕ : ๑๕ : ๑๐ = ๗๐ : ๓๐  อตั ราสว่ นคะแนน K : P : A = ๒๕ คะแนน  คะแนนเก็บระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค = ๒๐ คะแนน = ๒๕ คะแนน  คะแนนเกบ็ ก่อนสอบกลางภาค = ๓๐ คะแนน  สอบกลางภาค = ๑๐๐ คะแนน  คะแนนเกบ็ ก่อนสอบปลายภาค  สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรียน

๑๗ การวิเคราะหม์ าตรฐานและตัวชีว้ ดั รายวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ : ววิ ธิ พินิจภาษา (เวลา ๑๓ ช่วั โมง) มาตรฐาน ตวั ชี้วดั ร้อู ะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๓/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว - หลักเกณฑ์การอ่านออกเสียง สอบอ่านออกเสียงร้อยแก้วบท - การสื่อสาร - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ ใช้กระบวนการอ่านสร้าง และบทร้อยกรองได้ถูกต้องและ ร้อยแก้ว ร้อยกรอง อ่านที่ก้าหนด (รายบคุ คล) - รกั ความเปน็ ไทย ความ รู้และความ คิดเพื่อ เหมาะสมกับเรื่องทีอ่ ่าน - อ่าน ออก เสียง ร้อยแก้ว ร้อย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน น้าไปใช้ตดั สินใจแก้ปัญหา กรองบท/เรือ่ งทีก่ า้ หนด ในการดา้ เนินชีวิตและมนี ิสยั ม.๓/๒ ระบคุ วามแตกต่างของค้าที่ - ลักษณะของคา้ ที่มีความ หมาย ใบง าน เรื่อง ค วาม ห ม าย - การสือ่ สาร รักการอ่าน มี ค ว า ม ห ม า ย โ ด ย ต ร ง แ ล ะ โดยตรง โดยนยั โดยตรงและโดยนัย - การคิด ความหมายโดยนยั - ระบุ อธิบายความหมายของค้าที่ - การใช้เทคโนโลยี มีความหมายโดยตรง โดยนัย ม.๓/๓ ระบุใจความส้าคัญแล ะ - ความหมาย ลกั ษณะ หลักเกณฑ์ ใบง าน เรื่อง ก ารอ่า น จับ - การสือ่ สาร - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน รายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนุน การจบั ใจความสา้ คญั ใจความส้าคญั (สารคดี) - การคิด - ใฝ่เรียนรู้ จากเรื่องที่อ่าน - จบั ใจความส้าคญั (สารคดี)และ - มุ่งม่ันในการทา้ งาน ระบรุ ายละเอียดสนับสนุนอย่าง ละเอียด ม.๓/๕ วิเค ราะห์ วิจารณ์ แล ะ - ห ลักเกณฑ์วิธีการวิเคราะห์ ใบงาน เรื่อง ต้นไม้ - การสื่อสาร ประเมินเรือ่ งที่อ่านโดยใช้กลวิธีการ วิจารณ์ ประเมินเรือ่ งที่อ่านโดยใช้ - การคิด เปรียบเทียบเพือ่ ให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดี กลวิธีการเปรียบเทียบ ขนึ้ - วิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินเรื่องที่ อ่านโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ

ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่า - ตวั อย่างและหลักเกณฑ์วิธีการ ใบง าน เรื่อง ก ารตีค วาม - การสื่อสาร ๑๘ - ใฝ่เรียนรู้ แนวคิดที่ได้จาก งานเขียนอย่าง ตีความ ประเมินคุณค่า แนวคิด ประเมินคณุ ค่า - การคิด - มุ่งมั่นในการทา้ งาน หลากหลายเพื่อนา้ ไปใช้แก้ปัญหา จากงานเขียน - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ ในชีวิต - ตีความ ประเมินคณุ ค่า แนวคิด - มุ่งม่นั ในการท้างาน จากงานเขียนที่กา้ หนด - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งม่นั ในการทา้ งาน มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/๒ เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคา้ - หลักเก ณฑ์การเขียนแล ะใช้ กิจกรรม : เรียงร้อยถ้อยคา้ นา้ - การสือ่ สาร ใช้กระบวนการเขียนเขียน ได้ถกู ต้องตามระดับภาษา ถ้อยคา้ ที่ถูกต้องตามระดับภาษา สอนใจ (ชนิ้ งาน) - การคิด สือ่ สาร เขียนเรียงความ ย่อ - ใช้ถ้อยคา้ สร้างสรรค์งานเขียน - การแก้ปัญหา ความ และเขียนเรื่องราวใน ตรงตามวัตถปุ ระสงค์และถูกต้อง รปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงาน ตามระดบั ภาษา ข้อมู ล ส าร ส น เ ท ศ แ ล ะ ม.๓/๖ เขียนอธิบาย ชี้แจง แสดง - ห ลักเก ณฑ์การเขียน อธิบาย ใบงาน เรื่อง การเขียนอธิบาย - การสื่อสาร รายงานการศึกษาค้นคว้า ความคิดเห็นและโต้แย้งอย่าง มี ชี้แจง แส ดง ความคิดเห็น แล ะ - การคิด อย่างมีประสิทธิภาพ เหตผุ ล โต้แย้งอย่างมีเหตผุ ล - การใช้ทกั ษะชีวิต - เขียนอธิบาย ชีแ้ จง แสดงความ คิดเห็ น แ ล ะ โ ต้ แ ย้ ง เ กี่ ย ว กั บ เ รื่ อง หรือประเด็น ที่ก้าห น ด อย่าง มี เหตผุ ล มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๓/๑ แสดงค วามคิด เห็นแล ะ - วิธีก ารแ สด ง ค วาม คิด เห็น ใบง าน เรื่อง ก ารวิเคราะห์ - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งม่ันในการทา้ งาน สามารถเลือกฟังและดอู ย่าง ประเมินเรื่องจากการฟังและดู ประเมินเรื่องจากการฟงั และดู วิจารณ์เรือ่ งทีฟ่ งั และดู - การคิด มีวิจารณญาณ แ ล ะพูด - แสดงความคิดเห็น ประเมินเรื่อง - การใช้เทคโนโลยี แสดงความรู้ ความคิด และ จากการฟงั และดอู ย่างมีเหตุผล ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณแล ะ สร้างสรรค์

มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/ ๓ ส รุป เ นื้อห าวรรณค ดี - หลักเกณฑ์การสรุปเนื้อหาเรื่อง ใบงาน เรือ่ ง เห็นแก่ลูก - การสือ่ สาร ๑๙ - การคิด - ใฝ่เรียนรู้ เข้าใ จแ ล ะ แ ส ด ง ค วา ม วรรณก รรม แล ะวรรณก รรม ทีศ่ ึกษา - มุ่งม่ันในการทา้ งาน คิดเห็น วิจารณ์วรรณค ดี ท้องถิ่นในระดบั ทีย่ ากยิง่ ขนึ้ - สรุปเนื้อหาวรรณคดีที่ศึกษา และวร ร ณก ร ร ม ไ ท ย อย่ า ง (เหน็ แก่ลูก) เ ห็ น คุ ณ ค่ า แ ล ะ น้ า ม า ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง

๒๐ การวิเคราะหม์ าตรฐานและตวั ชี้วัด รายวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน รหสั วชิ า ท๒๓๑๐๑ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ : คุณคา่ วรรณคดี (เวลา ๑๒ ช่วั โมง) มาตรฐาน ตัวชี้วัด รอู้ ะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะ - การสือ่ สาร มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๓/๑ อ่านออกเสียงบทร้อย - หลักเกณฑ์วิธีการอ่านออกเสียง ท่องจา้ และอ่านท้านองเสนาะ อันพึงประสงค์ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้ แก้ว บทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง ร้อยแก้ว ร้อยกรอง บทอาขยาน (บทพากย์เอราวัณ - มีวินยั แล ะ ค ว า ม คิ ดเ พื่ อ น้ า ไ ป ใ ช้ และเหมาะสมกบั เรือ่ งทีอ่ ่าน - อ่านออกเสียงร้อยแ ก้ว (บทที่ และบทรอ้ ยกรองเสริม) - ใฝ่เรียนรู้ ตัดสินใจแก้ปญั หาในการด้าเนิน กา้ หนดหรือสนใจ) และร้อยกรอง - รักความเป็นไทย ชีวิตและมีนิสัยรกั การอ่าน (วรรณคดีที่ก้าหนด) มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/๓ เขียนชีวประวัติหรือ - หลักเกณฑ์วิธีการเขียนชีวประวัติ กิจกรรม : กิจการงานของพ่อ - การสือ่ สาร - ใฝ่เรียนรู้ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสือ่ สาร อั ต ชี ว ป ร ะ วั ติ โ ด ย เ ล่ า - เขียนชีวประวัติบุคคลส้าคัญ (ใน - การคิด - มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน เขียนเรียงความ ย่อความ และ เหตกุ ารณ์ ข้อคิดเห็น และ หลวง รชั กาล ที่ ๙) - การแก้ปัญหา - อยู่อย่างพอเพียง เขียนเรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ ทศั นคติในเรื่องต่าง ๆ เขียนรายง า น ข้ อ มู ล ส า ร ส น เ ท ศ และร า ย ง า น ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น คว้ า อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/๑ สรุปเนอื้ หาวรรณคดี - หลักเกณฑ์การสรุปเนื้อหาเรื่องที่ กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ : สรุป - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ เข้า ใจและแสดงควา มคิดเห็ น วรรณกรรมและวรรณกรรม ศึกษา และนา้ เสนอวรรณคดี เรื่อง บท - การคิด - มุ่งมัน่ ในการทา้ งาน วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม ท้องถิน่ ในระดบั ทีย่ ากยิ่งขึน้ - สรุปเนอื้ หาวรรณคดีที่ก้าหนด พากย์เอราวัณ - รกั ความเปน็ ไทย ไทยอย่างเห็นคุณค่าและน้ามา ม.๓/๒ วิเคราะห์วิถีไทยและ - หลกั เกณฑ์วิธีการวิเคราะห์คุณค่า - ใบงาน เรือ่ ง คุณค่าจากพระ - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการท้างาน ประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง คุณค่าจากวรรณค ดีแ ล ะ วรรณคดี วรรณกรรม บรมราโชวาท - การคิด วรรณกรรมที่อ่าน - วิ เค ร าะ ห์ คุณ ค่ าว ร รณ ค ดี - วิเคราะห์คุณค่าบทพาก ย์ - การใช้เทคโนโลยี - รกั ความเป็นไทย วรรณกรรมที่ศึกษา เอราวณั และกิจกรรมศัพท์น่ารู้

ม.๓/ ๓ ส รุป ค วาม รู้แ ล ะ - วิธีการสรุปความรู้ ข้อคิดจากการ กิจกรรมกลุ่ม : ค้าประพัน ธ์ - การสือ่ สาร ๒๑ - ใฝ่เรียนรู้ ข้อคิดจากการอ่าน เพือ่ น้าไป อ่าน หรรษา - การคิด - มุ่งมั่นในการทา้ งาน - รักความเป็นไทย ประยกุ ต์ ใช้ในชีวิตจริง - สรปุ ความรู้และข้อคิดทีไ่ ด้จากการ - การแก้ปญั หา - มีจติ สาธารณะ วรรณคดีหรอื เรือ่ งทีศ่ ึกษา เสนอแนะ วิธีการนา้ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตจริง

๒๒ การวิเคราะหม์ าตรฐานและตัวชีว้ ดั รายวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ : พาทีสัมพนั ธ์ (เวลา ๘ ชวั่ โมง) มาตรฐาน ตวั ชีว้ ดั รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/ ๓ เขียน ชีวป ระวัติห รือ - หลกั เกณฑ์วิธีการเขียนเล่า ศิล าจารึก ชีวป ระวัติ (ง าน - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมนั่ ในการทา้ งาน ใช้ก ระบ วน ก ารเขียน เขียน อตั ชีวประวตั ิโดยเล่าเหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ เสนอความคิดเห็น ห้องเรียน) - การคิด - อยู่อย่างพอเพียง - มีจติ สาธารณะ สื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อ ข้อคิดเห็น และทัศนคติในเรื่อง และทศั นคติ - การแก้ปัญหา ความ และเขียนเรื่องราวใน ต่าง ๆ - เขียนเล่าเหตุการณ์ เสน อ รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงาน ค วาม คิด เห็ น แ ล ะทัศ น ค ติ ข้อมลู สารสนเทศและรายงาน เกีย่ วกบั เรื่อง/ประเด็นทีก่ า้ หนด ก ารศึก ษ าค้น ค ว้ าอย่าง มี ม.๓/๘ กรอก แบบสมัครงาน - หลักเกณฑ์วิธีการกรอกแบบ กรอกใบสมัครงาน - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ - การคิด - มุ่งม่ันในการท้างาน ประสิทธิภาพ พร้อม เขียน บรรยายเกี่ยวกับ สมคั รงาน ความรู้และทักษะของตนเองที่ - กรอกแบบสมัครงาน เหมาะสมกบั งาน มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๓/๑ แสดงความคิดเห็นและ - วิธีการแสดงความคิดเห็น ใบงาน เรื่อง ก ารพูด แสด ง - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งม่ันในการท้างาน สามารถเลือกฟังและดูอย่างมี ประเมินเรือ่ งจากการฟังและดู และประเมินเรื่องจากการฟัง ความคิดเห็น - การคิด วิจารณญาณ และพูดแสด ง และดู - การใช้เทคโนโลยี ค ว า ม รู้ ค ว า ม คิ ด แ ล ะ - แส ด ง ค วาม คิด เห็น แ ล ะ ความ รู้สึกใน โอกาสต่าง ๆ ประเมินเรือ่ งที่ฟังและดู อย่า ง มี วิจ าร ณญ าณ แ ล ะ ม.๓/๒ วิเคราะห์และวิจารณ์ - หลกั เกณฑ์ วิธีการวิเคราะห์ กิจก ร รม ก ลุ่ ม สัม พัน ธ์ : - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน สร้างสรรค์ เรื่องทีฟ่ ังและดู เพื่อนา้ ข้อคิดมา วิจารณ์เรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์วิจารณ์เรือ่ งที่ฟังและ - การคิด - มีจติ สาธารณะ ประยกุ ต์ใช้ในการด้าเนินชีวิต - วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่ฟัง ดอู ย่างมีเหตผุ ล - การใช้เทคโนโลยี และดูอย่างมีเหตุผล

ม.๓/๓ พูดรายงานเรื่องหรือ - หลกั เกณฑ์วิธีการพูดรายงาน - โมเดลจ้าลองภมู ิปัญญา/ของ - การสือ่ สาร ๒๓ - มีวินัย ประเดน็ ที่ศึกษาค้นคว้าจากการ - พูดรายงานเรื่องหรือประเด็น จริง/ PowerPoint - การคิด - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการท้างาน ฟัง การดู และการสนทนา ทีศ่ ึกษาค้นคว้าจากการฟัง การ - น้าเสนองาน - การแก้ปัญหา - มีจติ สาธารณะ - มีวินัย ดู และการสนทนา - การใช้เทคโนโลยี - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมัน่ ในการทา้ งาน ม.๓/๕ พดู โน้มน้าวโดยน้าเสนอ - หลักเกณฑ์ วิธีการพูดโน้ม พูดโน้มน้าวใจใน ประเด็น ที่ - การสือ่ สาร หลกั ฐานตามลา้ ดบั เนือ้ หาอย่าง น้าวใจ กา้ หนด - การคิด มีเหตผุ ลและน่าเชือ่ ถือ - พูด โน้ม น้าวใจเกี่ยวกั บ - การใช้ทักษะชีวิต ประเดน็ ที่กา้ หนดหรือสนใจ

๒๔ การวิเคราะห์มาตรฐานและตวั ชี้วัด รายวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ : สรรคานามาใช้ (เวลา ๑๐ ชั่วโมง) มาตรฐาน ตัวชี้วัด รูอ้ ะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสาคัญ คณุ ลักษณะฯ มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๓/๔ อ่านเรือ่ งต่าง ๆ แล้ว - วิธีกา รเ ขีย นกร อบแนว คิด ผั ง กิจกรรม : คิดเชื่อมโยง - การสือ่ สาร - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทา้ งาน ใช้กร ะบวนการ อ่านสร้างความรู้และ เขี ย น ก รอ บ แ น วคิ ด ผั ง ความคิด ส่งสาร - การคิด - ใฝ่เรียนรู้ ความคิดเพือ่ นา้ ไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาใน ความคิด บันทึก ย่อความและ - เขียนกรอบแนวคิดหรือผังความคิด -การใช้ทักษะชีวิต - มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน การดา้ เนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน รายงาน จากเรือ่ งทีก่ ้าหนดให้ - มีวินยั - ใฝ่เรียนรู้ ม.๓/๕ วิเคราะห์ วิจารณ์ - หลกั เกณฑ์วิธีการวิเคราะห์ วิจารณ์ กิจกรรม : ฝึกสมอง - การสื่อสาร - มุ่งมน่ั ในการท้างาน และประเมินเรื่องที่อ่านโดย และประเมินเรือ่ งทีอ่ า่ นโดยใช้วิธีการ ประลองความคิด - การคิด - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ ใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ เปรียบเทียบ - การแก้ปัญหา - มุ่งม่นั ในการท้างาน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดขี นึ้ - วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่อง ทีอ่ า่ นโดยใช้วิธีการเปรียบเทียบ มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/๒ เขียนข้อความโดยใช้ - ถ้อยคา้ และระดบั ของภาษา เขียน สุน ทรพ จน์ใน - การสื่อสาร ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียน ถ้อยค้าได้ถูกต้องตามระดับ - ใช้ถ้อยค้าเขียนสื่อสารให้ถูกต้อง หั ว ข้ อ ที่ ส น ใ จ - การคิด ตามระดบั ของภาษา เรียงความ ย่อความ และเขียนเรือ่ งราวใน ภาษา (กิจกรรมคู่) - การใช้ทักษะชีวิต รูป แบ บต่ า ง ๆ เ ขี ย นร า ย งานข้ อ มู ล สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๓/๔ พดู ในโอกาสต่าง ๆ - หลักเกณฑ์วิธีการและมารยาทของ - เขียนบทพูดอภิปราย - การสื่อสาร ส า ม า ร ถ เ ลื อ ก ฟั ง แ ล ะ ดู อ ย่ า ง มี ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ การพูดในโอกาสต่าง ๆ - แสดงบทบาทสมมุติ - การคิด วิจ า ร ณ ญ า ณ และ พู ดแสดงคว า มรู้ - พู ด ใ น โ อ ก า ส ต่ า ง ๆ ต า ม - การใช้ทกั ษะชีวิต ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ วัตถุประสงค์ทีก่ ้าหนด อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์

มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๓/๔ ใช้ค้าทับศัพท์และ - ความหมาย ลกั ษณะและหลกั การ ใบงาน เรื่อง ค้าทับ - การสือ่ สาร ๒๕ - ใฝ่เรียนรู้ เข้าใจ ธ รรม ช าติข อ ง ภ าษ า ห ลั ก ศัพท์บัญญัติ ใช้ค้าทับศัพท์และศพั ท์บัญญัติ ศพั ท์และศพั ท์บญั ญัติ - การคิด - มุ่งมั่นในการท้างาน ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา - อธิบายความหมาย จ้าแนก และใช้ - การใช้เทคโนโลยี - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมัน่ ในการทา้ งาน พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา ค้า ทั บ ศั พ ท์ กั บ ค้ า ศั พ ท์ บั ญ ญั ติ - ใฝ่เรียนรู้ และรักษาภ า ษ า ไ ท ย ไ ว้ เ ป็ น ส ม บั ติ ข อง ถูกต้อง - มุ่งมั่นในการทา้ งาน - รักความเป็นไทย ชาติ ม.๓/๕ อธิบายความหมาย - ที่ม า ค วา ม ห ม าย ประเภ ท - เกมปริศนาอกั ษรไขว้ - การสื่อสาร ค้าศัพท์ทาง วิชาการและ ลกั ษณะ และหลกั การใช้ค้าศพั ท์ทาง ศัพ ท์ วิช า ก าร แ ล ะ - การคิด วิชาชีพ วิชาการและ วิชาชีพ วิชาชีพ - การแก้ปญั หา - จ้าแนกประเภท และใช้ค้าศัพท์ - ใบงาน เรื่อง ศัพ ท์ - การใช้เทคโนโลยี ทางวิชาการและ วิชาชีพถูกต้อง ท า ง วิ ช า ก า ร แ ล ะ วิชาชีพ มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรุปคว ามรู้และ - หลกั เกณฑ์วิธีการสรปุ ความรู้และ ใบงาน เรื่อง อิศรญาณ - การสือ่ สาร เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ ข้อคิดจากการอ่านเพื่อน้าไป ข้อคิดจากวรรณคดีทีศ่ ึกษา ภาษิต - การคิด วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น ประยกุ ต์ ใช้ในชีวิตจริง - ส รุปค วาม รู้แ ล ะข้อคิด จา ก คุณค่าและนา้ มาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง วรรณคดี เรือ่ ง อิศรญาณภาษิต

๒๖ การวิเคราะหม์ าตรฐานและตัวชี้วัด รายวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ : ภูมิใจในถิ่นตน (เวลา ๗ ช่ัวโมง) มาตรฐาน ตวั ชี้วดั รอู้ ะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๓/๑ อ่านออกเสียงบทร้อย - หลกั เกณฑ์ เทคนิควิธีการอ่านออก อ่านโคลงสีส่ ุภาพบท - การสือ่ สาร - ใฝ่เรียนรู้ - รกั ความเป็นไทย ใช้ก ระบวน ก ารอ่าน ส ร้าง แก้ว แล ะบทร้อ ย กรอ ง ไ ด้ เสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง ทีก่ า้ หนด - มีวินัย ค วาม รู้แ ล ะค ว าม คิ ด เพื่ อ ถูกตอ้ งและเหมาะสมกับเรื่อง - อ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรองตาม - ใฝ่เรียนรู้ ความสนใจ - มุ่งม่นั ในการทา้ งาน นา้ ไปใช้ตดั สินใจแก้ปัญหาใน ทีอ่ ่าน การดา้ เนินชีวิตและมีนิสัยรัก ม.๓/๙ ตีความและประเมิน - หลัก เกณฑ์วิธีการประเมิน คุณค่า กิจกรรม : - การสือ่ สาร การอ่าน คุณค่าและแนวคิดที่ได้จาก แนวคิด จากงานเขียน บทกวีมีความหมาย - การคิด งานเขียนอย่างหลากหลาย - สร้างสรรค์งานเขียนของตนเองจาก เพือ่ น้าไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต การประเมินคุณค่า แนวคิด จากงาน เขียนที่สนใจศึกษา มาตรฐาน ท ๔.๑ ม .๓ /๑ จ้า แน กแล ะใ ช้ค้ า - ค้าภาษาบาลี สนั สกฤต และค้าสมาส อ่านโคลงสี่สภุ าพ - การสือ่ สาร - ใฝ่เรียนรู้ บททีก่ ้าหนด - การคิด - มุ่งมั่นในการท้างาน เข้าใจธรรมชาติของภาษา หลกั ภา ษา ต่า ง ป ระ เท ศที่ ใช้ ใ น สนธิ ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลง ภาษาไทย - วิเคราะห์และใช้คา้ ภาษาบาลี สนั สกฤต ของภาษา พลงั ของภาษา ภูมิ และค้าสมาส สนธิ ปญั ญาทางภาษา และรักษา ม.๓/๓ วิเคราะห์ระดบั ภาษา - ระดบั ภาษา ใบงาน เรื่อง ระดับ - การสื่อสาร - ใฝ่เรียนรู้ ภาษา - การคิด - มุ่งมัน่ ในการทา้ งาน ภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ - วิเคราะห์และระบรุ ะดบั ของภาษา ม.๓/๖ แตง่ บทร้อยกรอง - หลกั เกณฑ์วิธีการแต่งบทร้อยกรอง แต่งโคลงสี่สุภาพ - การสือ่ สาร - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ ประเภท โคลงสี่สภุ าพ ๑ บท - การคิด - แต่งบทรอ้ ยกรองประเภทโคลงสีส่ ภุ าพ - การใช้เทคโนโลยี - มุ่งมนั่ ในการท้างาน - รักความเป็นไทย

๒๗ กาหนดการสอนและกิจกรรมตลอดภาคเรยี น รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ๓ คาบ/สปั ดาห์ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ สปั ดาห์ วัน/เดือน/ปี หน่วยการเรียนร/ู้ แผนการเรียนร้ทู ี่ มาตรฐาน กิจกรรม/กระบวนการ เวลา ๑ การเรียนรู้ เรียนรู้ (เวลา) (เรือ่ งที่สอน) และตัวชี้วดั (ช่ัวโมง) ๒ - แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้/รายละเอียด - - จดบันทึก ๒ ๓ โครงสร้างวิชา/ก้าหนดข้อตกลงในชั้นเรียน ท ๑.๑ ม.๓/๑ - แ บ บ ท ด ส อ บ ก่ อ น เ รี ย น ๔ ร่วมกัน (ออนไลน์) ๕ - ทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยที่ ๑ ท ๑.๑ ม.๓/๓ ๖ สอบอ่านออกเสียงร้อยแก้วบท ๑ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ วิวิธพนิ ิจภาษา ท ๑.๑ ม.๓/๙ อ่านทีก่ ้าหนด (รายบุคคล) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง อ่านออก ท ๓.๑ ม.๓/๑ เสียงร้อยแก้ว ท ๑.๑ ม.๓/๒ - ใบงานที่ ๑ เรื่อง การอ่านจับ ๒ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การอ่าน ท ๒.๑ ม.๓/๖ ใจความส้าคญั (บทความ) จบั ใจความสา้ คญั (บทความและสารคดี) ท ๑.๑ ม.๓/๕ - ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง การอ่านจับ ๑ ท ๕.๑ ม.๓/๓ ใจความส้าคัญ (สารคดี) ๒ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง ตีความ ท ๒.๑ ม.๓/๒ ใบงานที่ ๓ เรื่ อง กา รตีควา ม ๑ และประเมินคณุ ค่า ประเมินคณุ ค่า ๒ ท ๑.๑ ม.๓/๑ ใบงานที่ ๔ เรื่อง การวิเคราะห์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ เรื่อง การเลือกดู วิจารณ์เรื่องที่ฟังและดู และฟงั สิง่ ที่เป็นประโยชน์จากโฆษณา ใบงานที่ ๕ เรื่ อง คว ามหมา ย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง ค้าที่มี โดยตรงและโดยนัย ความหมายโดยตรงและโดยนยั ใบงานที่ ๖ เรื่อง การเขียนอธิบาย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ เรือ่ ง การเขียน ใบงานที่ ๗ เรือ่ ง ต้นไม้ ๑ อธิบาย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง บทละคร ใบงานที่ ๘ เรือ่ ง เหน็ แก่ลกู ๒ พดู เรื่องเหน็ แกลกู แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง ข้อคิดจาก กิจกรรม : เรียงร้อยถ้อยค้าน้า ๑ บทละครพูดเรื่องเหน็ แกลูก สอนใจ (ชนิ้ งาน) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๙ เรือ่ ง การเขียน คา้ คม คติพจน์ ท่องจ้าและอ่านท้านองเสนา ะ บ ท ๒ - ทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ ๑ อาขยาน (บทพากย์เอราวัณและ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ คณุ คา่ วรรณคดี บทร้อยกรองเสริม) - ทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ ๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การอ่าน ออกเสียงบทร้อยกรอง และอ่านท้านอง เสนาะ (กาพย์ฉบงั ๑๖)

๒๘ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรื่อง คา้ พ่อสอน ท ๒.๑ ม.๓/๓ กิจกรรม : กิจการงานของพ่อ ๑ ในพระบรมราโชวาท ๗ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓ เรื่อง คณุ ค่าจาก ท ๕.๑ ม.๓/๒ ใบงานที่ ๙ เรือ่ ง คุณค่าจากพระ ๒ พระบรมราโชวาท บรมราโชวาท แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรือ่ ง บทพากย์ ท ๕.๑ ม.๓/๑ กิจกรรมกลมุ่ สมั พันธ์ : สรุปและ ๑ เอราวณั น้าเสนอวรรณคดี เรื่อง บทพากย์ เอราวณั ๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง วิเคราะห์ ท ๕.๑ ม.๓/๒ กิจกรรม : ศัพท์น่ารู้ ๒ ความหมายของค้าในวรรณคดี แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง บทพากย์ ท ๕.๑ ม.๓/๓ กิจกรรมก ลุ่ม : ค้าปร ะพันธ์ ๑ เอราวณั หรรษา ๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรือ่ ง วิเคราะห์ ชิน้ งาน (วิเคราะห์คณุ ค่าบทพากย์ ๒ คุณค่าวรรณคดีไทย เอราวณั ) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง วิเคราะห์ กิจกรรมกล่มุ สัมพันธ์ (กิจกรรม ๑ คณุ ค่าวรรณกรรม ท ๕.๑ ม.๓/๒ ต่อเนือ่ ง) ๑๐ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง วิเคราะห์ ๒ คุณค่าและวิถีไทยในวรรณกรรมท้องถิน่ - ทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ ๒ สอบกลางภาค ภาคเรียนที่ ๒/๖๓ ๑ ๑๑ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ พาทีสมั พันธ์ ท ๓.๑ ม.๓/๑ ใบงานที่ ๑๐ เรือ่ ง การพูดแสดง ๒ - ทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ ๓ ความคิดเห็น แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การพูด แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการ ฟังและการดู แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การพูด ท ๓.๑ ม.๓/๒ กิจกรรมกลุ่ม ๑ วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องจากการฟงั และดู ๑๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การพูด ท ๓.๑ ม.๓/๓ - โมเดลจ้าลองภูมิปัญญา/ของ ๒ รายงานกา รศึกษาค้นคว้า เกี่ยว กับภู มิ จริง/ PowerPoint ปัญญา - น้าเสนองาน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง เขียน ท ๒.๑ ม.๓/๓ ศิ ลา จ า รึ ก ชี ว ป ร ะ วั ติ (งา น ๑ ชีวประวตั ิหรืออัตชีวประวัติ (สนุ ทรภู่) ห้องเรียน) ๑๓ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง การพูด ท ๓.๑ ม.๓/๕ พดู โน้มน้าวใจในประเดน็ ทีก่ ้าหนด ๒ โน้มน้าวใจ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ เรือ่ ง การกรอก ท ๒.๑ ม.๓/๘ กรอกใบสมัครงาน ๑ แบบฟอร์มสมคั รงาน - ทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยที่ ๓ ๑๔ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ สรรคานามาใช้ ท ๑.๑ ม.๓/๔ กิจกรรม : คิดเชือ่ ม โยงส่งสาร ๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การอ่าน เพื่อเขียนกรอบแนวคิด

๒๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การอ่าน ท ๑.๑ ม.๓/๕ กิจกรรม : ฝึกสมองประลอ ง ๑ เชิงวิเคราะห์วิจารณ์ ความคิด ๑๕ แผนกา รจั ดการ เรี ยนรู้ ที่ ๓ เรื่ อง สื่ อ ท ๑.๑ ม.๓/๔ กิจกรรม : คิดให้ถึง ๒ ความคิด แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง อิศรญาณ ท ๕.๑ ม.๓/๓ ใบงานที่ ๑๑ เรื่อง อิศรญา ณ ๑ ภาษิตกับชีวิ ตปร ะจ้าวั น (ป ระยุกต์ ใ ช้ ภาษิต ความรู้) ๑๖ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง การพูด ท ๓.๑ ม.๓/๔ - เขียนบทพูดอภิปราย ๒ อภิปรายพาเพลิน - แสดงบทบาทสมมุติ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๖ เรื่อง ค้าทบั ศัพท์ ท ๔.๑ ม.๓/๔ ใบงานที่ ๑๒ คา้ ทับศัพท์และศพั ท์ ๑ และศพั ท์บญั ญัติ บัญญตั ิ ๑๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง ศพั ท์ทาง ท ๔.๑ ม.๓/๕ - เ กมปริศนา อักษรไ ขว้ ศัพท์ ๒ วิชาการและวิชาชีพ วิชาการและวิชาชีพ - ใบงานที่ ๑๓ เรื่อง ศัพท์ทาง วิชาการและวิชาชีพ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง การเขียน ท ๒.๑ ม.๓/๒ เขียนสุนทรพจน์ในหัวข้อที่สนใจ ๑ สนุ ทรพจน์ (กิจกรรมคู่) - ทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยที่ ๔ ๑๘ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ ภมู ิใจในถิน่ ตน ท ๔.๑ ม.๓/๖ แต่งโคลงสีส่ ุภาพ ๑ บท ๒ - ทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยที่ ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การแต่ง โคลงสีส่ ภุ าพ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การอ่าน ท ๑.๑ ม.๓/๑ อ่านโคลงสีส่ ภุ าพบททีก่ า้ หนด ๑ โคลงสี่สภุ าพ ๑๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรือ่ ง การเขียน ท ๔.๑ ม.๓/๓ ใบงานที่ ๑๔ เรื่อง ระดบั ภาษา ๒ ให้ถกู ต้องตามระดับของภาษา แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง การอ่าน ท ๑.๑ ม.๓/๙ - กิจกรรม : บทกวีมีความหมาย ๑ ตีความบทกวี - แบบทดสอบ เรื่อง การอ่าน ตีความบทกวี ๒๐ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง หลักการ ท ๔.๑ ม.๓/๑ กิจกรรม : สังเกตค้าจ้าแนกได้ ๒ สงั เกตคา้ ภาษาบาลี สันสกฤต (ภาษาบาลี สันสฤต) สอบปลายภาค ภาคเรียนที่ ๒/๖๓ ๑ หมายเหตุ วัน/เดือน/ปี (เวลา) ใช้ข้อมูลตามก้าหนดในปฏิทินวิชาการโรงเรียน ภาคเรียนที่ ๒/๖๓