Areeya_T

สรุปองค์ความรู้ การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา นางสาวอารียา ทะสูงเนิน รหัสนักศึกษา 62003161029

หลักการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 5 รู้จักวัยรุ่น รายงานการวิจัย 11 14 การวิเคราะห์หลักสูตร แผนการจัดการเรียนรู้ 19

1 หลักการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

2 สาระสำคัญของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวด 4 แนวทางการจัดการศึกษา มาตรา 22 การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เเละถือว่าผู้เรียน สำคัญสุด มาตรา 23 การจัดการศึกษาเน้นความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการ ตามความเหมาะสม มาตรา 24 จัดกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ มาตรา 25 ส่งเสริม สนับสนุนและจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตุกรูปแบบอย่างหลากหลายเพียงพอ และมีประสิทธิภาพ มาตรา 26 สถานศึกษาจัดการประเมินผู้เรียนโดยใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อพัฒนาผู้เรียนและนำผล การประเมินมาพิจารณาจัดสรรโอกาสการเข้าศึกษาต่อ มาตรา 27 คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นผู้กำหนดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถานศึกษามีหน้าที่จัดทำสาระของหลักสูตรให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง มาตรา 28 การจัดหลักสูตรการศึกษาระดับต่างๆต้องมีลักษณะหลากหลายและมุ่งพัฒนาตนให้มีความ สมดุลทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดีงามและความรับผิดชอบต่อสังคม มาตรา 29 สถานศึกษาร่วมกับบุคคล ครอบครัว องค์กรต่างๆ จัดกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ สภาพปัญหาและความต้องการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาความเข้มเเข็งของชุมชน มาตรา 30 ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้ผู้สอน สามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับการศึกษา

3 การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ INPUT PROCESS OUTPUT เนื้อหาสาระ กิจกรรม สร้างองค์ การลงมือปฏิบัติ ความรู้ด้วยตนเอง หลักการสำคัญของการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ พัฒนาผู้เรียน บทบาทผู้เรียน ออกแบบกิจกรรม หลายด้าน ผู้เรียนมีส่วนร่วม Child สื่อ/เทคโนฯ Center ที่หลากหลาย ครูเป็นพี่เลี้ยง ปฏิสัมพันธ์ ของผู้เรียน

4 1.การทดลอง 2.สำรวจธรรมชาติ กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3.การแก้ปัญหา เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ 4.การทำโครงงาน 5.ศึกษานอกสถานที่ 6.สร้างแบบจำลอง

5 รู้จักวัยรุ่น

6 พัฒนาการ (DEVELOPMENT) ความหมายของพัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงหรือกระบวนการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์อย่างเป็นระบบตั้งแต่แรกเกิด มีความต่อเนื่องกันในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆจนตลอดชีวิต ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของมนุษย์ 1. ปัจจัยด้านชีวภาพ 1.1 พันธุกรรม 1.2 ปัจจัยที่สัมพันธ์กับสุขภาพ 2. ปัจจัยด้านจิตใจ 2.1 ปัจจัยการรับรู้ภายในตนเอง 2.2 ปัจจัยด้านความคิด 2.3 ปัจจัยด้านอารมณ์ 2.4 ปัจจัยด้านบุคลิกภาพ 3. ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม 3.1 ปัจจัยสัมพันธภาพระหว่างบุคคล 3.2 ปัจจัยด้านสังคม 3.3 ปัจจัยด้านวัฒนธรรม 3.4 ปัจจัยด้านมนุษย์วิทยา หลักการพัฒนาการในมนุษย์ 1. พัฒนาการของคนเราดำเนินไปอย่างมีแบบแผนที่ละขั้น 2. พัฒนาการของคนเราดำเนินไปพร้อมกันทั้ง 4 ด้าน และทุกด้านสัมพันธ์กันอยู่ตลอด เวลา 3. พัฒนาการเริ่มจากส่วนหยาบไปหาส่วนย่อย 4. เด็กปกติจะผ่านพัฒนาการตามลำดับขั้นแต่ด้วยอัตราที่ไม่เท่ากัน 5.พัฒนาการทั้งหลายทำนายได้เพราะพัฒนาการเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีแบบแผน ประเภทของพัฒนาการ 1. พัฒนาการด้านร่างกาย 2. พัฒนาการด้านสติปัญญา 3. พัฒนาการด้านอารมณ์ 4. พัฒนาการด้านสังคม

7 ทฤษฎีพัฒนาการ กลุ่มที่ 1 ทฤษฎีของซิกมันด์ ฟรอยด์ ฟรอยด์มีความเชื่อว่า เเรงขับทางเพศที่เรียกว่า \"ลิบิโด\" เป็นพลังกระตุ้นที่สำคัญต่อ กระบวนการพัฒนาการ จะปรากฏตั้งแต่วัยเริ่่มต้นของชีวิตจะกระตุ้นพฤติกรรมในรูปแบบต่างๆ ในแต่ละช่วงวัยไม่เหมือนกัน ฟรอยด์แบ่งขั้นของการพัฒนาการเป็น 5 ขั้นดังนี้ 1. พัฒนาการขั้นปาก 2. พัฒนาการขั้นทวารหนัก 3. พัฒนาการขั้นอวัยวะเพศ 4. พัฒนาการขั้นแฝง 5. ขั้นสนใจเพศตรงข้าม กลุ่มที่ 2 ทฤษฎีของอีริก เอช อีริกสัน อีรัคสัน เชื่อว่าพัฒนาการทางความรู้สึกและอารมณ์ของบุคคลเริ่มต้นจากความ สัมพันธ์ของบุคคลกับครอบครัว การอบรมเลี้ยงดูและวิธีการตอบสนองความต้องการต่างๆ แนวคิดหลักของอีริคสันมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1.พัฒนาการทางจิตใจและสังคม ของบุคคลเปลี่ยนแปลงไปตามความพึงพอใจและไม่พึง พอใจของบุคคลที่ได้รับจากสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น 2. พัฒนาการเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิตของบุคคลตั้งเเต่แรกเกิดจนกระทั้งเข้า สู่วัยชราซึ่งเเบ่งเป็นช่วงวิกฤตเป็นระยะๆ 3.พัฒนาการทางจิตใจและสังคมในแต่ละระยะจะพัฒนาเป็น 2 ขั้ว คือ อาจจะพัฒนาลักษณะ ในทางที่ดีหรือในลักษณะที่ไม่ดีขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ได้รับ 4. พัฒนาการในระยะต้นๆของชีวิตจะเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการในระยะที่จะตามมา อิริคสันแบ่งลำดับขั้นของพัฒนาการเป็น 8 ขั้น คือ 1.ขั้นความรู้สึกไว้วางใจ - ไม่ไว้วางใจ 2.ขั้นความรู้สึกอิสระ - ความสงสัยไม่มั่นใจในตนเอง 3.ขั้นความคิดริเริ่ม - ความรู้สึกผิด 4.ขั้นความขยันหมั่นเพียร - ความรู้สึกด้อย 5.ขั้นความรู้จักตนเอง - ความสับสนไม่รู้จักตนเอง 6.ขั้นความรู้สึกผูกพัน - การแยกตัว 7.ขั้นความรู้สึกรับผิดชอบแบบผู้ใหญ่ - ความรู้สึกเฉื่อยชา 8.ขั้นความรู้สึกมั่นคง - ความรู้สึกสิ้นหวัง

8 ทฤษฎีพัฒนาการ กลุ่มที่ 3 ทฤษฎีของฌอง เพียร์เจต์ เพียร์เจต์ เชื่อว่าการได้มีโอกาส \"ปะทะสัมพันธ์\" ระหว่างเด็กกับสภาพเเวดล้อมที่อยู่ รอบๆตัวเด็กจะทำให้เด็กเกิดความคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นทำให้เด็กเข้าใจวัตถุ เข้าใจตนเอง สามารถแยกตนเองออกจากสิ่งเเวดล้อมได้ แนวคิดหลักเกี่ยวกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์มีดังนี้ 1. พัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กเป็นไปตามวุฒิภาวะนั้นคือเมื่อเด็กอายุมากขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น ระดับสติปัญญาก็จะพัฒนาขึ้นตาม 2.พัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กเป็นผลมาจากการ \"สะสมการเรียนรู้\" ที่เกิดจากการ \"ปรับตัว\" เข้ากับสภาพเเวดล้อม 3.การได้ปะทะสัมพันธ์กับสิ่งเเวดล้อม ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างวุฒิภาวะและการ เรียนรู้ทำให้กระบวนความคิดและสติปัญญาก้าวหน้ามากขึ้น ลำดับขั้นของพัฒนาการความคิดความเข้าใจ 1. ขั้นประสาทสัมผัสการเคลื่อนไหว ระยะที่ 1 เรียกว่าระยะปฏิกิริยาสะท้อน ระยะที่ 2 เรียกว่าระยะปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวเบื้องต้น ระยะที่ 3 เรียกว่าระยะปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวที่มีจุดมุ่งหมาย ระยะที่ 4 เรียกว่าระยะการประสานอวัยวะ ระยะที่ 5 เรียกว่าระยะคิดแบบลองผิดลองถูก ระยะที่ 6 เป็นระยะที่ใช้โครงสร้างสติปัญญาเบื้องต้น 2.ขั้นก่อนการคิดปฏิบัติการที่สมบูรณ์ ระยะที่ 1 เรียกว่า ขั้นตอนการเกิดสังกับที่สมบูรณ์ ระยะที่ 2 เรียกว่า ขั้นการคิดด้วยญาณหยั่งรู้ 3.ขั้นคิดปฏิบัติการด้านรูปธรรม 3.1 เข้าใจเรื่องความคงที่ 3.2 เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ 3.3 สามารถคิดย้อนกลับ 3.4 ความเข้าใจในเรื่องการจัดหมวดหมู่ 4.ขั้นคิดปฏิบัติการด้านนามธรรม

9 ทฤษฎีพัฒนาการ กลุ่มที่ 4 ทฤษฎีของลอเรนซ์ โคลเบิร์ก โคลเบิร์ก เชื่อว่า 1. พัฒนาการทางจริยธรรมของแต่ละคนจะพัฒนาไปบนพื้นฐานของการใช้เหตุผลเชิง ตรรกศาสตร์ 2. การรับรู้ทางสังคมและบทบาททางสังคมย่อมมีความสัมพันธ์กับลักษณะจริยธรรมของ บุคคล 3. บุคคลที่มีจริยธรรมสูงย่อมเป็นผู้ที่สามารถรับรู้ทางสังคมสูงเเละสามารถใช้เหตุผลเชิง ตรรกศาสตร์ได้ดี ระดับพัมนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก 1. ระดับก่อนกฎเกณฑ์ 1.1 ขั้นการหลบหลีกมิให้ถูกลงโทษ 1.2 ขั้นการเเสวงหารางวัล 2.ระดับตามกฎเกณฑ์ 2.1 ขั้นทำตามความเห็นชอบของกลุ่ม 2.2 ขั้นทำตามกฎระเบียบของสังคม 3.ระดับเหนือกฎเกณฑ์ 3.1 ขั้นการมีเหตุผลเคารพตนเองและผู้อื่น 3.2 ขั้นคุณธรรมสากล

พัฒนาการของเด็กระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 10

11 รายงานการวิจัย

12 การวิจัย เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ ความจริง และคลายปัญหา ข้อสงสัยต่างๆ ด้วยวิธีการที่มีระบบระเบียบเชื่อถือได้ กระบวนการวิจัย ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดปัญหาวิจัย 1. การกำหนดประเด็นปัญหาและกรอบแนวคิดการวิจัย 2. การกำหนดวัตถุประสงค์การวิจัย 3. การกำหนดสมมติฐานการวิจัย ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบการวิจัย 1. การกำหนดตัวแปรที่จะศึกษา 2. การเลือกแบบแผนการวิจัย 3. ออกแบบการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง 4. ออกแบบการวัดตัวแปร 5. การออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นตอนที่ 3 การเก็บรวบรวมข้อมูล 1. การสร้างเครื่องมือ 2. การดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 3. การติดตามการเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล 1. การจรวจสอบข้อมูล 2. การจัดเตรียมข้อมูล 3. การวิเคราะห์ข้อมูล 4. การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นตอนที่ 5 การสรุปและการเขียนรายงานวิจัย 1. การสรุปผลการศึกษาให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการวิจัย 2. การอภิปรายผลการวิจัย 3. การเสนอแนะตามผลการวิจัย 4. การเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป 5. การเขียนรายงานการวิจัย

13 สมมติฐาน หมายถึง การคาดเดาคำตอบล่วงหน้าอย่างมีเหตุผล การจะเดาได้อย่างมีเหตุผลจึงต้องมีการ ศึกษาแนวคิดทฤษฎีเเละงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาอย่างดีเเล้วจึงจะสามารถนำมากำหนดเป็น สมมติฐานได้ นัยสำคัญทางสถิติ ระดับนัยสำคัญ คือค่าแสดงความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้เกิดขึ้นได้ ทั่วไปนิยมให้ผิดพลาดได้ 1 % หรือ 5 % หมายความว่าในการทดสอบ 100 ครั้ง ยอมให้ผิดพลาดได้เพียง 1 ครั้ง หรือ 5 ครั้ง การ ทำวิจัยมีความเชื่อมั่นถึง 99 % หรือ 95 % หากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปตามสมมติฐานนิยม ใส่เครื่องหมาย * เเทนนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ ** แทนนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ตัวแปร ตัวแปร หมายถึง คุณลักษณะบางประอย่างของประชากรหรือกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งอาจเป็น คุณลักษณะที่ผู้วิจัยสนใจศึกษา 1.ตัวแปรต้นหรือตัวแปรอิสระ เป็นตัวแปรต้นเหตุที่เป็นผลให้ตัวแปรอื่นเปลี่ยนแปลงตาม 2.ตัวแปรตาม เป็นตัวแปรที่เป็นผลมาจากตัวแปรต้น 3.ตัวแปรเกินหรือตัวแปรเเทรกซ้อน เป็นตัวแปรที่ไม่ต้องการศึกษาที่เกิดขึ้นระหว่างการ ทดลองและส่งผลต่อตัวแปรอิสระ 4.ตัวแปรสอดแทรก เป็นตัวแปรที่ร่วมกับตัวแปรอิสระส่งผลต่อตัวแปรตาม ตัวแปรประเภทนี้ ส่วนใหญ่เป็นตัวแปรเชิงจิตวิทยาเป็นที่สังเกตและวัดได้ยาก ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร หมายถึง หน่วยทั้งหมดของสิ่งที่ต้องการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง หมายถึง ตัวแทนของสิ่งที่ต้องการศึกษาที่เลือกมาเพียงบางส่วน การวิเคราะห์ข้อมูล 1. การวิเคราะห์เชิงปริมาณ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลโดยอาศัยวิธีการทางสถิติหรือตัวเลข เช่น หาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็นต้น 2. การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เป็นการวิเคราะห์โดยไม่อาศัยวิธีการทางสถิติแต่เป็นการวิเคราะห์ ผลที่ได้จากสิ่งที่พบเห็นตามสภาพจริง จากการสังเกตหรือสัมภาษณ์ สถิติพื้นฐานที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย

14 การวิเคราะห์หลักสูตร

15 การวิเคราะห์หลักสูตร เป็นการแยะแยะหลักสูตรให้เห็นองค์ประกอบย่อยที่มีอยู่ในหลักสูตรของแต่ละระดับชั้นว่าประกอบ ด้วยอะไร มีรายละเอียดไว้อย่างไร เอกสารหมายเลข ๑ - สาระที่ หมายถึงลำดับสาระการเรียนรู้ - สาระการเรียนรู้ ๑. วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ๒. วิทยาศาสตร์กายภาพ ๓. วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ ๔. เทคโนโลยี (คุณครูสาขาเทคโนโลยีการศึกษารับผิดชอบ ยกเว้นกรณีที่โรงเรียนดังกล่าวไม่มี คุณครูสาขาเทคโนโลยีการศึกษา คุณครูสาขาวิทยาศาสตร์ต้องรับผิดชอบสอน) - มาตรฐานการศึกษา ๑. สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต กับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด พลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ ประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มี ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไข ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์ กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย ทาง ชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ๒.สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของ สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปลี่ยนแปลง สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิด ปฏิกิริยาเคมี มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะ การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุรวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอน พลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้ง นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

16 ๓. สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของ เอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมี ชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ เปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้า อากาศ และภูมิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม - ตัวชี้วัด หมายถึง ดัชนีชี้วัด หรือหน่วยวัดความสำเร็จของการปฏิบัติงานที่ถูกกำหนดขึ้น ซึ่งแต่ละมาตรฐานการเรียนรู้จะมีจำนวนตัวชี้วัดที่แตกต่างกัน โดยตัวชี้วัดที่กำหนดในแต่ละ ระดับชั้นแตกต่างกัน บางระดับชั้นในมาตรฐานนั้นๆอาจไม่ปรากฏตัวชี้วัด ขึ้นอยู่กับการกำหนด ให้ระดับชั้นดังกล่าวว่าต้องการให้เรียนรู้ในตัวชี้วัดใดในสาระการเรียนรู้แกนกลาง โดยในเอกสารหมายเลข ๑ ในหัวข้อตัวชี้วัดให้กำหนดเพียงตัวเลขตัวชี้วัด - สาระการเรียนรู้เเกนกลาง หมายถึง รายละเอียดที่เป็นองค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมตาม กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการวิเคราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระ และช่วงชั้น ซึ่งสาระการเรียนรู้เเกนกลางจะถูกกำหนดให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดใน สาระการเรียนรู้นั้น - ชื่อหน่วยการเรียนรู้ กำหนดชื่อหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดและเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ - เวลา เวลาในการจัดการเรียนรู้โดยกำหนดให้เหมาะสมกับเนื้อหา

17 เอกสารหมายเลข ๒ - ตัวชี้วัด เขียนตัวชี้วัดที่ได้กำหนดไว้ในสาระการเรียนรู้และมาตรฐานในหลักสูตรแกนกลาง เช่น ๑. ระบุชื่อพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณต่าง ๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ - ตัวแปรที่ศึกษา ๑. ตัวแปรที่ ๑ กำหนดสิ่งที่นักเรียนต้องได้รับ เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๒. ตัวแปรที่ ๒ กำหนดสิ่งที่นักเรียนต้องปฏิบัติ ประกอบไปด้วย ๒.๑ ความสามารถในการแก้ปัญหา ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ๒.๒ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ๓. ตัวแปรที่ ๓ (ถ้ามี) นวัตกรรมที่เกิดขึ้นในการจัดการเรียนรู้ -ชิ้นงาน สิ่งที่นักเรียนต้องสร้างขึ้นมาในการจัดการเรียนรู้ซึ่งต้องสอดคล้องกับตัวชี้วัดและเนื้อหาที่ศึกษา เช่น แบบจำลองการอธิบายการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหาร -ฐานคิดการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ครูเป็นผู้กำหนดในการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ เช่น การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน

เอกสารหมายเลข ๓ 18 - หน่วยการเรียนรู้ ลำดับหน่วยการเรียนรู้ เช่น หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ - เรื่อง ชื่อเรื่องในหน่วยการเรียนรู้นั้นๆ เช่น เรื่อง ระบบนิเวศ -จำนวน เวลาในการจัดการเรียนรู้ทั้งหมดในหน่วยการเรียนรู้นั้น -หน่วยย่อยที่ ลำดับหน่วยย่อยที่ถูกกำหนดในหน่วยการเรียนรู้นั้น เช่น หน่วยย่อยที่ ๑ , หน่วยย่อยที่ ๒ เป็นต้น -เรื่อง ชื่อเรื่องของหน่วยการเรียนรู้ย่อย เช่น เรื่อง องค์ประกอบของระบบนิเวศ , ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมี ชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต เป็นต้น -จำนวน เวลาในการจัดการเรียนรู้ในหน่วยย่อยนั้นๆ เช่น จำนวน 2 ชั่วโมง , จำนวน 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวน เนื้อหาของหน่วยย่อยนั้น -สาระสำคัญ เนื้อหาที่กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในหน่วยย่อยนั้นๆ เช่น กลุ่มสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ที่อยู่ร่วมกันและมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศ จะมี ความสัมพันธ์กันในแง่ที่เป็นอาหาร ถ่ายทอดพลังงานต่อกันเป็นทอด ๆ ในลักษณะของห่วงโซ่อาหาร เรียกลักษณะความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันอย่างซับซ้อน ของแต่ละห่วงโซ่อาหารว่า สายใยอาหาร -ตัวชี้วัดที่ ระบุตัวชี้วัดในหน่วยย่อยนั้นๆ เช่น ตัวชี้วัดที่ ๑ , ตัวชี้วัดที่ ๒ เป็นต้น

19 แผนการจัดการเรียนรู้

20 ในการวิเคราะห์หลักสูตรและการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรแกน กลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) และศึกษาโครงสร้าง หลักสูตรของโรงเรียน บริบทโรงเรียน ชุมชน สังคม เพื่อให้สามารถออกแบบการจัดการเรียนรู้ ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์ สูงสุดต่อผู้เรียน จากการวิเคราะห์หลักสูตรสามารถสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ได้ดังนี จุดประสงค์การเรียนรู้ หมายถึงการกำหนดสิ่งที่ต้องการให้ผู้ เรียนมีหรือบรรลุ ซึ่งการกำหนดจุกประสงค์ต้องสอดคล้องกับ ตัวชี้วัด กิจกรรมการเรียนรู้ ในแต่ละขั้นขึ้นและจำนวนขั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบในฐานคิด การจัดการเรียนรู้ซึ่งอาจจะมากหรือน้ อยกว่านี้ก็ได้ เช่น ฐานคิดการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน สามารถ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ดังนี้ 1.ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหา 2.ขั้นที่ 2 วางแผนและดำเนินการ 3.ขั้นที่ 3 วิเคราะห์และสังเคราะห์ความรู้ 4.ขั้นที่ 4 นำเสนอผลการศึกษา 5.ขั้นที่ 5 ประเมิน สื่อ/นวัตกรรม และแหล่งเรียนรู้ 1. สื่ อการเรียนรู้ สื่อที่ผู้สอนใช้ในการจัดการเรียนรู้ 2. แหล่งเรียนรู้ แหล่งที่ผู้เรียนใช้ในการศึกษาข้อมูล เช่น - อินเทอร์เน็ต - หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

21 ประเด็นในการวัดและประเมินผล จะประกอบไปด้วย 3 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านความรู้ 2. ด้านทักษะสำคัญการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2.1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.2 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 3.ด้านเจตคติทางวิทยาศาสตร์ วิธีการประเมิน เป็ นวิธีการประเมินผู้เรียนในเรื่ องนั้นๆ เครื่ องมือ เป็ นเครื่ องมือที่ใช้ในการประเมินผู้เรียนในเรื่ องนั้นๆ เกณฑ์ การกำหนดเกณฑ์ในแต่ละโรงเรียนมีความแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผ่านมาและผลการ ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (o-net) แบบบันทึกหลังการสอน เป็ นการบันทึกในประเด็นด้านพฤติกรรมผู้เรียน และด้านการเรียนการสอนที่พบหลังจากการ จัดการเรียนรู้เเล้วพร้อมบันทึกพฤติกรรมที่พบ และหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป

22 การประเมินด้านความรู้ บันทึกหลังจากการจัดการเรียนการ สอน ซึ่งจะประกอบไปด้วย 1. ตารางรายชื่ อผู้เรียนเเละผลการ ประเมิน 2. การชี้เเจงรายระเอียดของผล คะเเนนในช่องดังกล่าวและช่วง คะเเนนเทียบกับระดับคุณภาพ 3.ตารางรายการการประเมิน เป็น เกณฑ์ที่ผู้สอนกำหนดขึ้นหากผู้ เรียนปฏิบัติตามเกณฑ์ในระดับใด จะได้คะเเนนตามนั้น

23 การประเมินทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 บันทึกหลังจากการจัดการเรียนการ สอน ซึ่งจะประกอบไปด้วย 1. ตารางรายชื่ อผู้เรียนเเละผลการ ประเมิน 2. การชี้เเจงรายระเอียดของผล คะเเนนในช่องดังกล่าวและช่วง คะเเนนเทียบกับระดับคุณภาพ 3.ตารางรายการการประเมิน เป็น เกณฑ์ที่ผู้สอนกำหนดขึ้นหากผู้ เรียนปฏิบัติตามเกณฑ์ในระดับ ใดจะได้คะเเนนตามนั้น

24 การประเมินด้านเจตคติทางวิทยาศาสตร์ บันทึกหลังจากการจัดการเรียนการสอน ซึ่งจะประกอบไปด้วย 1. ตารางรายชื่ อผู้เรียนเเละผลการ ประเมิน 2. การชี้เเจงรายระเอียดของผล คะเเนนในช่องดังกล่าวและช่วง คะเเนนเทียบกับระดับคุณภาพ 3.ตารางรายการการประเมิน เป็น เกณฑ์ที่ผู้สอนกำหนดขึ้นหากผู้ เรียนปฏิบัติตามเกณฑ์ในระดับใด จะได้คะเเนนตามนั้น

You have to learn the rules of the game, and then you have to play better than anyone else. Albert Einstein