จดั ทาโดยนางสาวทิพยกมล คงเมือง เลขที่ 9 ปวช.2 แผนกคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ
Social Media คืออะไร คาว่า “Social” หมายถึง สังคม ซ่ึงในท่ีนี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซงึ่ มีขนาดใหมม่ ากในปจั จุบัน คาว่า “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหาเร่ืองราว บทความ วีดโี อ เพลง รูปภาพ เป็นต้น ดังนั้นคาว่า Social Media จึงหมายถึง ส่ือสังคมออนไลน์ท่ีมีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกน้ีสามารถมปี ฏิสัมพนั ธโ์ ต้ตอบกนั ไดน้ น่ั เอง พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กันจากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซ่ึงก็คือเว็บท่ีแสดงเนื้อหาอย่างเดียวบุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ท่ีเรียกว่าweb application ซ่ึงก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆท่ีมีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกนั ได้ผา่ นหน้าเวบ็
เวบ็ ไซต์ ทีใ่ หบ้ รกิ าร Social Network หรือ Social MediaGoogle Group – เวบ็ ไซต์ในรูปแบบ Social Networking Wikipedia – เวบ็ ไซต์ในรูปแบบขอ้ มูลอา้ งองิ
MySpace – เวบ็ ไซตใ์ นรปู แบบ Social NetworkingFacebook -เว็บไซต์ในรปู แบบ Social Networking
MouthShut – เวบ็ ไซตใ์ นรูปแบบ Product Reviews Yelp – เว็บไซตใ์ นรูปแบบ Product Reviews
Youmeo – เว็บทร่ี วม Social NetworkLast.fm – เว็บเพลงสว่ นตวั Personal Music
YouTube – เว็บไซต์ Social Networking และ แชรว์ ดิ ีโอAvatars United – เว็บไซตใ์ นรปู แบบ Social Networking
Second Life – เวบ็ ไซต์ในรูปแบบโลกเสมอื นจริง Virtual Reality Flickr – เว็บแชรร์ ูปภาพ
Social Media มีลกั ษณะดังนี้1.) เปน็ สือ่ ทีแ่ พร่กระจายด้วยปฏสิ ัมพนั ธ์เชงิ สังคม ตรงนี้ไมต่ ่างจากคนเราสมัยก่อนครับ ที่เกิดเร่ืองราวท่ีน่าสนใจอะไรขึ้นมาก็พากันมาน่ังพูดคุยกันจนเกิดสภาพTalk of the town แต่เม่ือมาอยู่ในโลกออนไลน์การ แพ ร่ ก ร ะ จา ย ข อง สื่อ ก็ท าไ ด้ง่ าย ขึ้ นโ ดย เกิ ดจ าก กา ร แ บ่ง ปัน เนื้ อห า(Content Sharing) จากใครก็ได้ ทั้งนี้ Social media อาจจะอยู่ในรูปของ เน้ือหารูปภาพ เสยี งหรือวิดีโอ(2)เป็นสือ่ ท่เี ปลยี่ นแปลงสอ่ื เดิมทแ่ี พรก่ ระจายข่าวสารแบบทางเดยี ว(one-to-many) เป็นแบบการสนทนาท่ีสามารถมีผู้เข้าร่วมได้หลายๆคน (many-to-many)เม่ือมีสภาพของการเป็นสื่อสังคม สิ่งสาคัญก็คือการสนทนาพาทีที่เกิดข้ึน อาจจะเป็นการรว่ มกลุ่มคยุ ในเร่ืองทส่ี นใจร่วมกนั หรือการวิพากษ์วิจารณ์สินค้าหรือบริการต่างๆโดยที่ไม่มีใครเข้ามาควบคุมเนื้อหาของการสนทนา แม้กระท่ังตัวผู้ผลิตเนื้อหานั่นเองเพราะผู้ที่ได้รับสารมีสิทธิท่ีจะเข้าร่วมในรูปแบบของการเพ่ิมเติมความคิดเห็น หรือแมก้ ระท่ังเขา้ ไปแก้ไขเนื้อหาน้นั ไดด้ ้วยตวั เอง(3) เปน็ สอ่ื ที่เปลยี่ นผคู้ นจากผบู้ ริโภคเนอื้ หาเปน็ ผู้ผลิตเน้อื หา จากคนตัวเลก็ ๆในสังคมทแี่ ตเ่ ดิมไม่มปี ากมเี สยี งอะไรมากนกั เพราะเป็นเพียงคนรับส่ือ ขณะทส่ี ื่อ จาพวก โทรทศั น์ วทิ ยุ หรอื หนังสอื พมิ พจ์ ะเป็นผู้ทรงอทิ ธิพลอย่างมาก สามารถช้ชี ะตาใครต่อใครหรือสนิ ค้าหรือบรกิ ารใดโดยท่ีเราแทบจะไมม่ ีทางอทุ ธรณ์ แต่เม่ือเปน็ Social Media ทแ่ี ทบจะไมม่ ีต้นทนุ ทาใหใ้ ครๆก็สามารถผลิตเนอ้ื หาและกระจายไปยังผ้รู ับสารได้อย่างเสรี หากใครผลติ เนอื้ หาที่โดยใจคนหมมู่ ากกจ็ ะเปน็ ผู้ทรงอิทธิพลไป ยง่ิ หากเป็นในทางการตลาด กส็ ามารถโน้มนาผู้ตดิ ตามในการตดั สินใจซอ้ื สนิ คา้ หรือบริการได้โดยงา่ ย
ประเภทของ Social Media(1) Blog บล็อก (Blog) คือเว็บไซดร์ ปู แบบหน่งึ ทีม่ ลี กั ษณะรูปรา่ งหน้าตาคล้ายๆกับการเขยี นไดอารี่หรือบันทึกส่วนตัวซ่ึงเป็นที่นิยมกันมากในปจั จุบันเนอื่ งจากเราใช้ฟรี ไม่ต้องเสียเงนิ - คาว่า\"Blog\"มาจากคาเต็มว่า\"Weblog\" (ตัด We ทิ้งคงเหลือแต่ blog)ซ่ึงโดยนัยแล้วหมายถึงการบันทึกข้อมูล(Log)บนเว็บ(Web)– โดยผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพจะถูกเรียกกันว่า \"บล็อกเกอร์\"(Blogger)- จุดเด่นท่ีสาคัญของ Blog คือ จะมีระบบท่ีผู้อ่านและผู้เขียนสามารถแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันได้ โดยผ่าน ทางระบบComment ของบล๊อก
(2 )Twitter และ Microblog อืน่ ๆ เป็นรูปแบบหนึ่งของ Blog ท่ีจากัดขนาดของการ Postแต่ละครัง้ ไวท้ ี่ 140 ตวั อกั ษรโดยแรกเริ่มเดิมทีผู้ออกแบบ Twitterต้องการให้ผู้ใช้เขียนเรื่องราวว่าคุณกาลังทาอะไรอยู่ในขณะน้ี(What are you doing?) แต่กิจการต่างๆกลับนา Twitterไปใช้ในทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการสร้างการบอกต่อเพ่ิมยอดขายสร้างBrandหรอื เปน็ เครอ่ื งมือสาหรบั การบริหารความสมั พันธ์ลูกค้า
(3) Social Networking จากชื่อก็สามารถแปลความหมายได้ว่าเป็นเครือข่ายท่ีเชื่อมโยงเรากับเพ่ือนๆจนกลายเป็นสังคม ทั้งน้ีผู้ใช้จะเร่ิมต้นสร้างตัวตนของตนเองขึ้นในส่วนของ Profile ซึ่งประกกอบด้วยข้อมูลสว่ นตวั (Info) รูป (Photo) การจดบันทึก (Note) หรือการใส่วิดีโอ (Video) และอื่นๆ นอกจากนี้ Social Networking ยังมีเครื่องมือสาคัญในการสร้างจานวนเพื่อนให้มากขึ้น คือ ในส่วนของ Invite Friend และ Find Friend รวมถึงการสร้างเพื่อนจากเพอ่ื นของเพอื่ นอีกดว้ ย
(4) Media Sharing เปน็ เว็บไซตท์ เี่ ปิดโอกาสใหเ้ ราสามารถ upload รูปหรือวิดีโอเพ่ือแบ่งปันให้กับครอบครัว เพ่ือนๆ หรือแม้กระท่ังเพ่ือเผยแพร่ต่อสาธารณชนเราอาจจะใช้กล้องดิจิตอลราคาถูกๆถ่ายทอดความคิดเป็นรูปแบบวิดีโอ จากน้ันนาข้ึนไปสู่เว็บไซต์Media Sharing อย่าง Youtube หากความคิดของเราเป็นที่ชนื่ ชอบ กท็ าใหเ้ กิดการบอกตอ่ อย่างแพร่หลาย
(5) Social News and Bookmarking เป็นเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังบทความหรือเน้ือหาใดในอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้เป็นผู้ส่งและเปิดโอกาสให้คะแนนและทาการโหวตได้ เป็นเสมอื นมหาชนชว่ ยกลนั่ กรองว่าบทความหรือเน้ือหาใดนนั้ เป็นที่นา่ สนใจทสี่ ดุ
(6) Online Forums ถือเปน็ รปู แบบของ Social Media ที่เก่าแก่ท่ีสุด เป็นเสมือนสถานที่ท่ีให้ผู้คนเข้ามาพูดคุยในหัวข้อที่พวกเขาสนใจซึ่งอาจจะเป็นเรื่อง เพลง หนัง การเมือง กีฬา สุขภาพหนังสือ การลงทุน และอ่ืนๆอีกมากมาย ได้ทาการแลกเปล่ียนความคิดเหน็ แสดงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะนาสินค้าหรือบรกิ ารตา่ งๆ นกั การตลาดควนสนใจ
ประโยชนเ์ ครือขา่ ยสังคมออนไลน์1.สามารถแลกเปลยี่ นข้อมลู ความรู้ในส่งิ ท่สี นใจร่วมกนั ได้2.เป็นคลงั ขอ้ มลู ความรขู้ นาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเหน็ แลกเปล่ียนความรู้ หรือต้ังคาถามในเรื่องต่างๆ เพื่อใหบ้ ุคคลอน่ื ทส่ี นใจหรือมคี าตอบไดช้ ่วยกันตอบ3.ประหยดั คา่ ใช้จ่ายในการตดิ ตอ่ ส่อื สารกบั คนอืน่ สะดวกและรวดเร็ว4.เปน็ ส่อื ในการนาเสนอผลงานของตวั เอง เช่น งานเขียน รูปภาพวดี โิ อต่างๆ เพอ่ื ให้ผูอ้ ่ืนได้เข้ามารบั ชมและแสดงความคิดเหน็5.ใช้เปน็ ส่ือในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรอื บริการลกู ค้าสาหรับบริษทั และองค์กรตา่ งๆ ชว่ ยสร้างความเชอื่ มน่ั ใหล้ ูกคา้6.ชว่ ยสร้างผลงานและรายได้ใหแ้ ก่ผูใ้ ชง้ านเกดิ การจา้ งงานแบบใหม่ๆข้นึ7.คลายเครยี ดไดส้ าหรบั ผใู้ ชท้ ต่ี ้องการหาเพ่ือนคุยเลน่ สนกุ ๆ8.สรา้ งความสมั พนั ธ์ที่ดีจากเพ่อื นสเู่ พ่อื นได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: