Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

Published by Thanawat Payungwong, 2021-01-24 12:38:45

Description: นาย ธนวรรธน์ พยุงวงษ์

Search

Read the Text Version

วันสําคัญทางพระพุทธศาสนา

คํานํา ๒ หนังสือE-Book เลมน้ีจัดทาํ ข้ึนเพ่ือใหผูอานไดทราบขอ มูลเก่ีบวกับวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา เชน วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และอ่ืนๆ หวังวาผูอานจะได รับประโยชนจากE-Book เลมน้ี ขอบคณุ ครบั นาย ธนวรรธน พยงุ วงษ

สารบัญ ๓ วันสําคัญทางพระพุทธศาสนา หนาที่ คํานาํ ๒ วันมาฆบูชา ๔ วันวิสาขบูชา ๕ ๖ วันอัฏฐมีบูชา ๗ ๘ วันอาสาฬหบูชา ๙ วันเขาพรรษา วันออกพรรษา

วันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ๔ วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ คาํ่ เดือน ๓ \"มาฆะ\" เปนช่ือของเดือน ๓ มาฆบูชานั้น ยอมาจากคําวา\"มาฆบุรณมี\" แปลวาการบูชาพระในวันเพ็ญ เดือน ๓ วันมาฆบูชาจึงตรงกับวันข้ึน ๑๕ ค่ํา เดือน ๓ แตถาปใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองคร้ัง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเปนวันขึ้น ๑๕ คํ่า เดือน ๔ เปนวันสาํ คัญวัน หน่ึง ในวันพุทธศาสนา คือวันท่ีมีการประชุมสังฆสันนิบาตคร้ังใหญใน พุทธศาสนา ที่เรียกวา \"จาตุรงคสันนิบาต\" และเปนวันที่พระสัมมา สัมพุทธเจาไดทรงแสดงโอวาทปฎิโมกขแกพระสงฆสาวกเปนครั้งแรก ณ เวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห เพื่อใหพระสงฆนาํ ไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อจะยังพระพุทธศาสนาใหเจริญรุงเรืองตอไป กิจกรรมตางๆ ที่ควรปฏิบัติในวันมาฆบูชา ๑. ทําบุญใสบาตร ๒. ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม และฟงพระธรรมเทศนา ๓. ไปเวียนเทียนที่วัด ๔. ประดับธงชาติตามอาคารบานเรือนและสถานที่ราชการ

วันวิสาขบูชา ๕ ตรงกับวัน ข้ึน ๑๕ ค่ํา เดือน ๖ ความหมาย คาํ วา \"วิสาขบูชา\" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชา ยอมาจาก \" วิสาขปุรณมีบูชา \" แปลวา \" การบูชา ในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ \" ถาปใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สอง หน ก็เล่ือนไปเปนกลางเดือน ๗ ความสาํ คัญ วันวิสาขบูชา เปนวันสาํ คัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเปนวันที่พระพุทธเจาประสูติ คือเกิด ไดตรัสรู คือสําเร็จ ไดปรินิพพาน คือ ดับ เกิดข้ึนตรงกันท้ัง ๓ คราวคือ ๑. เมื่อเจาชายสิทธัตถะประสูติท่ีพระราชอุทยานลุมพินีวัน ๒. เม่ือเจาชายสิทธัตถะตรัสรู ๓.เสด็จดับขันธปรินิพพาน หลักธรรมสาํ คัญที่ควรนาํ มาปฏิบัติ อริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึงความจริงของชีวิตที่ไม ผันแปร เกิดมีไดแกทุกคน มี ๔ ประการ คือ ๑) ทุกข คือ ความจริงที่วาดวยความทุกข ๒) สมุทัย คือ ความจริงท่ีวาดวยเหตุใหเกิดทุกข ๓) นิโรธ คือ ความจริงที่วาดวยความดับทุกข ๔) มรรค คือความจริงท่ีวาดวยทางแหงความดับทุกข

๖ วันอัฏฐมีบูชา ตรงกับ วันแรม ๘ คา่ํ แหงเดือนวิสาขะ (เดือน ๖) ประวัติความเปนมา เม่ือพระพุทธเจาเสด็จปรินิพพานแลว ๘ วัน มัลล กษัตริยแหงนครกุสินารา พรอมดวยประชาชน และพระสงฆอันมีพระมหา กัสสปเถระเปนประธาน ไดพรอมกันกระทําการถวายพระเพลิงพุทธสรีระ ณ มกุฏพันธนเจดีแหงกรุงกุสินารา วันน้ันเปนวันหนึ่งที่ชาวพุทธตองมีความ สังเวชสลดใจ และวิปโยคโศกเศราเปนอยางยิ่ง เพราะการสูญเสียแหง พระพุทธสรีระ เม่ือวันแรม ๘ คํ่า เดือน ๖ ซ่ึงนิยมเรียกกันวาวันอัฏฐมีนั้น เวียนมาบรรจบแตละป พุทธศาสนิกชนบางสวน โดยเฉพาะพระสงฆและ อุบาสกอุบาสิกาแหงวัดนั้น ๆ ไดพรอมกันประกอบพิธีบูชาข้ึน เปนการ เฉพาะภายในวัด เชนที่ปฏิบัติกันอยูในวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ เปนตน แตจะปฏิบัติกันมาแตเม่ือใด ไมพบหลักฐาน ปจจุบันน้ีก็ยังถือปฏิบัติกันอยู ความสําคัญ โดยที่วันอัฏฐมีคือวันแรม ๘ ค่ํา เดือน ๖ เปนวันที่มีเหตุการณสาํ คัญ ทางพระพุทธศาสนา ถือเปนวันท่ีตรงกับวันท่ีตรงกับวันถวายพระ เพลิงพระพุทธสรีระเปนวันที่ชาวพุทธตองวิปโยค และสูญเสีย พระบรมสรีระแหงองคพระบรมศาสดา ซ่ึงเปนท่ีเคารพสักการะอยาง สูงยิ่ง และเปนวันควรแสดงธรรมสังเวชและระลึกถึงพระพุทธคุณให สําเร็จเปนพุทธานุสสติภาวนามัยกุศล

วันอาสาฬหบูชา ๗ ตรงกับวันข้ึน ๑๕ ค่าํ เดือน ๘ ประวัติความเปนมา หลังจากพระพุทธเจาไดตรัสรูในวันขึ้น ๑๕ ค่าํ เดือน ๖ หรือวันวิสาขบูชา ปญจวัคคียท้ัง 5 ไดฟงปฐมเทศนาจาก พระสัมมาสัมพุทธเจาจนกระทั่ง โกณฑัญญะไดบรรลุดวงตาเห็น ธรรมเปนพระอริยบุคคลระดับโสดาบัน จึงไดรับการอุปสมบทจาก พระพุทธเจา นับไดวาวันอาสาฬหบูชาเปนวันแรกท่ีมีพระภิกษุเกิด ขึ้นในพระพุทธศาสนา ในประเทศไทยเพิ่งเริ่มมีพิธีกรรมในวัน อาสาฬหบูชาเปนครั้งแรกในป พ.ศ. ๒๕๐๑ ตามประกาศของ สังฆมนตรี ที่ไดกําหนดใหวันอาสาฬหบูชาเปนวันสําคัญในศาสนา พุทธ ออกประกาศในวันท่ี ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๐๑ นับต้ังแตวันน้ัน พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยก็กําหนดพิธีขึ้นอยางเปนทางการโดย มีการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาเทียบเทากับวันวิสาขบูชา ความสําคัญวันอาสาฬหบูชา พระพุทธเจาแสดงธรรมจากการตรัสรูครั้งแรก เรียกวา “ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร” แกปญจวัคคียทั้ง ๕ ปญจวัคคียขอบวชเพ่ือศึกษาพระธรรมวินัย จึงเกิดพิธีการ บวชคร้ังแรกโดยพระพุทธเจากระทาํ ให เรียกวา “เอหิภิกขุ อุปสัมปทา” เปนวันแรกที่พระพุทธเจาประกาศ “ศาสนา พุทธ” จึงถือวาวันนี้เปนวันที่พระรัตนตรัยเกิดข้ึนโดยสมบูรณ ทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ

๘ วันเขาพรรษา ตรงกับวันแรม ๑ คา่ํ เดือน ๘ ประวัติวันเขาพรรษา \"เขาพรรษา\" แปลวา \"พักฝน\" หมายถึง พระภิกษุสงฆตองอยูประจํา ณ วัด ใดวัดหน่ึงระหวางฤดูฝน โดยเหตุท่ีพระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหนาท่ีจะตอง จาริกโปรดสัตว และเผยแผพระธรรมคําส่ังสอนแกประชาชนไปในท่ีตาง ๆ ไม จาํ เปนตองมีที่อยูประจํา แมในฤดูฝน ชาวบานจึงตาํ หนิวาไปเหยียบขาวกลา และพืชอ่ืน ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจาจึงทรงวางระเบียบการจาํ พรรษาให พระภิกษุอยูประจาํ ท่ีตลอด ๓ เดือน ในฤดูฝน โดยแบงเปน ปุริมพรรษา หรือ วันเขาพรรษาแรก เร่ิมตั้งแตวันแรม ๑ ค่ํา เดือน ๘ ของทุกป หรือถาปใดมีเดือน ๘ สองคร้ัง ก็เลื่อนมาเปนวันแรม ๑ คา่ํ เดือน ๘ หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น ๑๕ คํ่า เดือน ๑๑ ปจฉิมพรรษา หรือ วันเขาพรรษาหลัง เริ่มต้ังแตวันแรม ๑ คํ่า เดือน ๙ จนถึงวันขึ้น ๑๕ คา่ํ เดือน ๑๒ อยางไรก็ตาม หากมีกิจธุระ คือเม่ือเดินทาง ไปแลวไมสามารถจะกลับไดในวันเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตใหไปแรมคืนได คราวหนึ่งไมเกิน ๗ คืน เรียกวา \"สัตตาหะ\" หากเกินกาํ หนดน้ีถือวาไมไดรับ ประโยชนแหงการจาํ พรรษา จัดวาพรรษาขาด สาํ หรับขอยกเวนใหภิกษุจําพรรษาท่ีอ่ืนได โดยไมถือเปนการขาด พรรษา เวนแตเกิน ๗ วัน ไดแก ๑. การไปรักษาพยาบาลภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บปวย ๒. การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิใหสึกได ๓. การไปเพ่ือกิจธุระของคณะสงฆ เชน การไปหาอุปกรณมาซอมกุฏิท่ีชาํ รุด ๔. หากทายกนิมนตไปทําบุญ ก็ไปฉลองศรัทธาในการบําเพ็ญกุศลของเขาได

๙ วันออกพรรษา ตรงกับวันข้ึน ๑๕ คํ่า เดือน ๑๑ ประวัติวันเขาพรรษา การออกพรรษา ถือเปนขอปฏิบัติตามพระวินัยสําหรับพระสงฆโดยเฉพาะ เรียกวา ปวารณา จัดเปนญัตติกรรมวาจาสังฆกรรมประเภทหน่ึงที่ถูก กาํ หนดโดยพระวินัยญัตติใหโอกาสแกพระสงฆท่ีจําพรรษาอยูรวมกันตลอด ไตรมาส ใหสามารถตักเตือนและช้ีขอบกพรองแกกันไดโดยเสมอภาคดวย จิตท่ีปราถนาดีซึ่งกันและกัน โดยใหพระสงฆที่ถูกตักเตือนมีโอกาสรับรูขอ บกพรองของตนและสามารถนําขอบกพรองนั้นไปแกไขใหดีย่ิงข้ึน เมื่อถึงวัน ออกพรรษา พุทธศาสนิกชนนับวาเปนโอกาสอันดีท่ีจะเขาวัดเพื่อบาํ เพ็ญ กุศลแกพระสงฆที่ตั้งใจจําพรรษา และต้ังใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบ ไตรมาสพรรษากาลในวันน้ี และเม่ือถึงวันถัดจากวันออกพรรษา ๑ วัน (วัน แรม ๑ ค่ํา เดือน ๑๑) พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยยังนิยมไปทาํ บุญ ตักบาตรครั้งใหญ เรียกวา ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหณะ เปนการทําบุญออกพรรษาเพื่อรําลึกถึงเหตุการณสาํ คัญในพุทธประวัติท่ี กลาววา ในวันถัดจากวันออกพรรษาหน่ึงวัน พระพุทธเจาไดเสด็จลงจาก เทวโลกกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรคช้ันดาวดึงสในพรรษาท่ี ๗ แลวลงมายังเมืองสังกัสสนคร พรอมกับทรงแสดงโลกวิวรณปาฏิหารย เปดโลกทั้งสามดวย นอกจากน้ี ในชวงเวลาออกพรรษาต้ังแตวันแรม ๑ ค่ํา เดือน ๑๑ ถึง วันข้ึน ๑๕ ค่ํา เดือน ๑๒ ถือเปนเวลากฐินกาลตามพระวินัย ปฎกดถรวาท เปนชวงเวลาที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเขารวมบาํ เพ็ญกุศล เนื่องในงานกฐินประจําปตามวัดตางๆ ซ่ึงถือวาเปนงานบาํ เพ็ญกุศลที่ไดบุญ มากอีกงานหน่ึง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook