วันสําคัญ ทางพระพุทรศาสนา
คํานํา หนังสือ E-BOOK เรองวนั สําคัญทางพระพทุ ธ มเี นอื หาเกียวกบั พระพุทธศาสนา ในวนั สาํ คัญต่างๆ หวงั วา่ ผ้ทู อี ่านหนังสอื เลม่ นจี ะไดค้ วามรู้เกยี วกับวนั ในพระพทุ ธศาสนามากขนึ หากมีข้อผดิ พลาดอะไรขอ อภยั ไว้ ณ ทนี ีด้วย ผ้จู ดั ทาํ นางสาวมานติ า โพธิอ่อง
สารบญั หนา้ ๑ วันสําคัญทางพทธศาสนา ๒ วันมาฆบูชา ๓ วนั วสิ าขบูชา ๔ วนั อัฏฐมบี ชู า ๕ วันอาสาฬหบูชา ๖ วันเข้าพรรษา วนั ออกพรรษา
วันมาฆบชู า ตรงกับวันขึน ๑๕ คาํ เดือน ๓ แตถ่ ้าปใดมเี ดือนอธิกมาส คอื มีเดอื น ๘ สองครงั วันมาฆบูชากจ็ ะเลือนไปเปนวันขนึ ๑๕ คํา เดือน ๔ มีชือเรยี กอกี อย่างหนึงว่า\"วันจาตรุ งคสันนิบาต\" เพราะเปนวันทพี ระพุทธองคป์ ระทานหลักโอวาทปาฏิโมกข์ อนั เปนหัวใจ ของพระธรรมแก่พระอรหนั ตสาวกผเู้ ปนเอหภิ ิกขุทัง 1,250 รปู ทีมาประชมุ พรอ้ มกันเขา้ เฝาพระพุทธเจา้ โดยมิไดน้ ดั หมายในวัน มาฆปรุ ณมี
วนั วสิ าขบชู า ตรงกับวัน ขนึ ๑๕ คาํ เดอื น ๖ เปนวันสําคญั ทางศาสนาพุทธสําหรับ พุทธศาสนกิ ชนทุกนิกายทวั โลกทังเปนวันหยุดราชการในหลายประเทศ และวนั สําคัญในระดับนานาชาตติ ามขอ้ มตขิ องสมชั ชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาติเพราะเปนวันคล้ายวันทเี กดิ เหตกุ ารณส์ ําคญั ทสี ุดใน ศาสนาพุทธ 3 เหตกุ ารณด์ ้วยกันคือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรนิ พิ พาน ของพระโคตมพุทธเจา้ โดยทงั สามเหตกุ ารณไ์ ดเ้ กิด ณ วันขึน 15 คํา เดือน 6 หรือวนั เพ็ญแหง่ เดือนวิสาขะ
วนั อฏั ฐมีบชู า ตรงกบั วันแรม ๘ คาํ แหง่ เดอื นวิสาขะ (เดอื น ๖) คือวนั ถวายพระเพลงิ พระพุทธสรีระของสมเดจ็ พระสัมมาสัมพุทธเจา้ (หลงั เสดจ็ ดบั ขันธปรินิพพานได้ 8 วัน) ถอื เปนวนั สําคญั ในพระพุทธ ศาสนาวันหนึงตรงกบั วันแรม 8 คาํ เดอื นวิสาขะ (เดือน 6 ของไทย) นอกจากนันวนั นีเปนวนั คลา้ ยวันทีพระนางสิริมหามายา องค์พระพุทธ มารดาสินพระชนม์(หลงั ประสูติ) และเปนวนั คลา้ ยวนั ทพี ระพุทธองค์เสวย วมิ ตุ ตสิ ุขตลอด 7 วนั (หลงั ตรสั รู้) อีกดว้ ย
วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวัน ขึน ๑๕ คํา เดอื น ๘ เปนวนั สําคญั ทางศาสนาพุทธนิกาย เถรวาทและวันหยดุ ราชการในประเทศไทยคําว่า อาสาฬหบชู า ย่อมา จาก \"อาสาฬหปรู ณมบี ูชา\" แปลวา่ \"การบชู าในวันเพ็ญเดอื นอาสาฬหะ\" อันเปนเดือนทีสีตามปฏิทินของประเทศอินเดยี ตรงกับวันเพ็ญ เดอื น 8 ตามปฏทิ ินจนั ทรคติของไทย ซึงมกั จะตรงกบั เดือนกรกฎาคมหรือเดือน สิงหาคม แต่ถ้าในปใดมเี ดือน 8 สองหน กใ็ ห้เลอื นไปทาํ ในวนั เพ็ญเดอื น 8 หลังแทน
วนั เขา้ พรรษา ตรงกับวันแรม ๑ คาํ เดอื น ๘ จนถึง วนั ขนึ ๑๕คํา เดอื น ๑๑ เปนวนั สําคัญในพุทธศาสนาวนั หนึงทีพระสงฆ์เถรวาทจะอธษิ ฐานวา่ จะพักประจาํ อยู่ ณ ทีใดทีหนงึ ตลอดระยะเวลาฤดูฝนทมี กี ําหนดระยะ เวลา 3 เดอื นตามทพี ระวินัยบญั ญัตไิ ว้ โดยไมไ่ ปคา้ งแรมทีอืน หรอื ภาษาปากวา่ จําพรรษาการเข้าพรรษานถี อื เปนขอ้ ปฏิบตั สิ ําหรบั พระสงฆ์ โดยตรง พระสงฆ์จะไม่จาํ พรรษาไม่ได้เนืองจากรูปใดไม่จําพรรษา ถอื วา่ ตอ้ งอาบตั ิทกุ กฏตามพระวนิ ยั การเข้าพรรษาตามปกติเรมิ นบั ตังแตว่ ันแรม 1 คํา เดือน 8 ของทุกป และสินสุดลงในวันขึน 15 คํา เดอื น 11 หรือวัน ออกพรรษา ตรงกับวัน ขนึ ๑๕ คํา เดอื น ๑๑
วันออกพรรษา เปนวนั สําคัญทางพุทธศาสนาวันหนงึ ในประเทศไทย เนอื งจากเปนวันสินสุดระยะเวลาจําพรรษา 3 เดือนของพระสงฆ์ เถรวาท โดยเปนวันทีพระสงฆ์จะทาํ สังฆกรรม คือ การปวารณาในวันนี วนั ออก พรรษา(ออกปรุ ิมพรรษา1) จะตรงกับวันขึน 15 คํา เดือน 11 (ประมาณ เดอื นตุลาคม)หลังวันเข้าพรรษา 3 เดือน ตามปฏิทินจันทรคติไทย การปวารณา[1]ถือเปนขอ้ ปฏิบัติตามพระวินยั สําหรับพระภิกษุโดย เฉพาะ เรยี กวา่ เปนญัตตกิ รรมวาจา(สังฆกรรม) ประเภทหนึง ให้ โอกาสแก่พระสงฆท์ จี าํ พรรษาอยูร่ ่วมกันตลอดไตรมาส (3เดอื น) สามารถว่ากล่าวตักเตือนและชีข้อบกพร่องแกก่ นั และกนั ได้โดยเสมอ ภาคดว้ ยจิต ทปี รารถนาดซี งึ กนั และกนั เพือใหพ้ ระสงฆ์ทถี กู ตักเตอื นมโี อกาสรับร้ขู ้อ บกพร่องของตนและนาํ ขอ้ บกพรอ่ งไปแก้ไขปรบั ปรงุ ตวั ให้ดียงิ ขึน
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: