Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทอัศจรรย์ในวรรณคดีไทย

บทอัศจรรย์ในวรรณคดีไทย

Published by titasupo, 2020-05-26 20:52:36

Description: นายนพดล น้อยเหนื่อย

Search

Read the Text Version

บทอศั จรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๔๘ รวนเพรยี กแนมหลงิ่ ไสร้ เหยอ่ื หยา้ มฟมู ฟอง สนุกขา้ งน้ีแนบ จอมใจ พี่เอย สองสนุกกนั ใน ฝ่ายน้ัน ทาขวญั สนกุ ใด จักดจุ นเ้ี ลย หนีซอกซอนซา้ หน้ั เชดิ ชู้เทียมรงค์ สรงสนกุ นา้ แลว้ กลบั สนุกบก เล่านา สองรว่ มใจกนั ยก ย่างขนึ้ ขนึ้ พลางกอดกบั อก พลางจบู สนกุ ดนิ ฟา้ ฟนื้ เฟอื่ งฟงุ้ ฟองกาม สองนางนาแขกขนึ้ เรอื นสวน ปดั ฟกู ปูอาสนช์ วน ชนื่ ชู้ สองสมพาสสองสรวล สองเสพย์ สองฤดีรสรู้ เลห่ ์พรอ้ มเพรยี งกนั เสร็จสองสมพาสแล้ว กลกาม สองออ่ นสองโอนถาม ช่ือชู้ สองมาแต่ใดนาม ใดบอก ราพอ่ ใหแ้ ก่สองเผือรู้ ชอ่ื รู้เมอื งสอง (บทอศั จรรย์ระหว่าง นายแก้วนายขวัญ กับ นางโรยนางรื่น) (ลิลติ พระลอ ฉบบั หอสมุดแหง่ ชาติ , ๒๕๐๘, น. ๙๖)

สว่ นสามกษตั ริยแ์ กน่ ท้าว บทอศั จรรย์ในวรรณคดีไทย ๔๙ แนบเนอ้ื เรียงรมย์ ฯ กรโอบองค์โนม้ น้าว แสนอมฤตรสขอ้ น เชยชมชู้ปากป้อน เน้อื แนบเนอ้ื โอ่เนอ้ื สวาทเคลา้ คลงึ สมร ฯ หน้าแนบหน้าโอ่หน้า ท้องแนบทอ้ งโอท่ อ้ ง กรเกี้ยวกรกอดเกือ้ กลั้วรสกล้วั กลนิ่ กลั้ว อ่อนเนอื้ เอาใจ ฯ สร้อยแลสร้อยซอ้ นสร้อย กลางกมลยรรเย้า พักตราใสใหม่หม้า สระพระนชุ เน้ือเกลี้ยง หนมุ่ หนา้ สรสม ฯ ปลาชนื่ ชมเตน้ ต้อง นมแนบนมนม่ิ นอ้ ง อ่อนท้องทรวงสมร ฯ สมเสนห่ ์อรใหม่หมว้ั เกลสกลว้ั สงสาร ฯ บษุ บาบานคล่ีคลอ้ ย เสยี ดสร้อยสระศรี ฯ ภุมรีคลงึ คู่เคล้า ย่ัวร้องขานกนั ฯ สรงสระสวรรคไ์ ปเ่ พย้ี ง อาบโอเ้ อาใจ ฯ แสนสนกุ ในสระนอ้ ง ดอกไม้บวั บาน ฯ

บทอัศจรรย์ในวรรณคดีไทย ๕๐ ตระการฝัง่ สระแก้ว หมดเผ้าผงผอ่ งแผว้ โคกฟา้ ฤๅปูน ฯ บญุ มมี าจงึ ได้ ชมเต้าทองนอ้ งไท้ พี่เอย้ วานชม หนึ่งรา ฯ (บทอัศจรรยร์ ะหว่าง พระลอ กบั พระเพอื่ น) (ลิลติ พระลอ ฉบับหอสมุดแหง่ ชาติ , ๒๕๐๘, น. ๑๑๘) พระเพือ่ นสมสมรแล้ว ลอราชเชยชมแกว้ แก่นไทแ้ พงทอง เลา่ นา ฯ บ เหนื่อย บ ไดเ้ ว้น ละบองบรรพหลากเหล้น เห่ิมชู้สมสมร ฯ แรงเร่งเรงิ ฤทธกิ์ ลา้ ดุจอัสดรหื่นห้า งาไล่แทงงวงคว้า เร่งเร้งฤๅเยาว์ แกว้ พ่เี อยเรยี มได้ ดจุ สารเมามันบ้า อยู่เคลา้ คลุกเอา ฯ เชิญพระนชุ นมิ่ นอ้ ง ประเล้าโลมออ่ นไท้ คณนา ยากดว้ ยเยาวมาลย์ ฯ ทา่ นไท้ เอนดูวานอยา่ พร้อง อดพไ่ี ว้เอาบุญ กอ่ นเทอญ ฯ พระคณุ พระพีพ่ น้ พระเอนดนู ุชรา

เผอื ข้าไปเ่ ดียงสา บทอศั จรรย์ในวรรณคดไี ทย ๕๑ พระค่อยถนอมน้องไว้ สักหยาด พระเอย บเปน็ ใดเจ้าพี่ เพื่อนทา้ วใจบุญ ฯ รกั แมส่ ุดดนิ แดน อยา่ แคลน เรียมสงวนพระนชุ แสน กวา่ ฟา้ ยามหนึ่งบเห็นหนา้ สงวนยง่ิ ตัวนา ออ่ นทา้ วเรยี มตาย บมลายสมรเรง่ เรง้ ฤทธริ งค์ สองอ่อนระทวยองค์ ละห้อย ความรักดุจทิพยส์ รง โสรจชนื่ บดั ชืน่ บัดเศรา้ สรอ้ ย สรา่ งสร้อยสรดใส สรวงสวรรค์ สะเทือนฟา้ ฟื้นล่นั หยอ่ นไสร้ พน้ื แผ่นดนิ แดยนั ณพเฟ่อื ง ฟองนา สาครคลนื่ องึ อรร- โยกเยือ้ งอศั จรรย์ แลทวั่ ทิศไมไ้ หล้ สาวสหี ์ ลาศเหล้น ขนุ สหี คลึงคู่เคล้า ธาชืน่ ชมนา สารแนบนางคชลี ตอบเตา้ สมสมร ทรายทองยอ่ งยงกรี เมียงบวั กระต่ายกระแตเต้น ภยู่ ้า ทนิ กรกรก่ายเกยี้ ว บวั บ่ บานหบุ กลัว

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๕๒ ภมุ รภี มรมวั เมาซาบ บัวนา ซอนนอกในกลีบกล้า กล่ินกลั้วเกสร บคลาไคลนอ้ ยหนึง่ ฤๅหยุด อยู่นา ยงั ใคร่ปองประตยิ ทุ ธ ไปม่ ว้ ย ปรานีดอกบัวบษุ บชืน่ ชมนา หบุ อยบู่ บานดว้ ย ดอกสรอ้ ยสตั บนั (บทอศั จรรย์ระหวา่ ง พระลอ กับ พระแพง) (ลลิ ิตพระลอ ฉบบั หอสมุดแหง่ ชาติ , ๒๕๐๘, น. ๑๒๐)

บทอัศจรรย์ในวรรณคดีไทย ๕๓ บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดไี ทย เรื่อง จนั ทโครพ พระว่าพลางกางหัตถ์สัมผสั พลนั พัลวัลพิศสวาทสวัสดี ดงั พระยามงั กรช้อนวิเชียร ก็ชูเศยี รแหวกวา่ ยวารศี รี พระทรวงแอบแนบทรวงสดุ าดี ดังอัคคีลามไหม้จักรวาล หิมวันต์เล่ือนลัน่ สะท้านสะเทอื น สาครเคลือ่ นลกู ละลอกกระฉอกฉาน มจั ฉาโดดโลดเล่นในลาธาร เสยี งสะทา้ นเขากระทบกระทงั่ กัง ท้งั ปเู่ จ้าเขาเขนิ เนนิ พนม ถลาลม้ ลุกแลน่ ไมเ่ หลยี วหลัง พระฤๅษีอยู่ในถ้ารา่ ระฆงั ทกุ รวงรงั นกรอ้ งคะนองไพร ท้งั พฤกษากร็ ะย้าระยาบโยก ลมกระโชกกงิ่ ก้านเขย้อื นไหว พลิ กึ ลนั่ ช้ันฟา้ สุราลยั ราหไู ลค่ วา้ รถพระสุรยิ า อ้าโอษฐ์อมอับพะยับแสง ทกุ หลา้ แหล่งมืดมดิ ทกุ ทิศา พริ ณุ สาดฟาดฟองคะนองฟ้า เมขลาล่อแกว้ อยูแ่ วววาว ตลอดแลบแปรบปราบเป็นเปลวชว่ ง อสรู หน่วงขวานขว้างไปกลางหาว เปร้ียงกระเดื่องเปล่อื งกระดอนทกุ แดนดาว ก็เกรียวกราวนกกาถลาบิน ในทอ่ น้าลาธารฉานกระฉอก คลืน่ ละลอกลน้ ลบกระทบหิน กระแทกผึงกระท่มุ ผางลงกลางดนิ ก็เสร็จสนิ้ สุขเกษมท้งั สองรา (บทอัศจรรย์ระหวา่ ง จันทโครพ กบั นางโมรา) (จากนางในวรรณคดี สู่บทเพลงเพ่อื ชวี ติ , จนั ทโครพ [ออนไลน]์ ) ประคองสองตอ้ งเต้าประทุมถนั ประคองคนั้ เคลน้ ชมให้สมสมาน นาสกิ สูบจูบแก้มนางนงคราญ หตั ถ์ประสานเกย่ี วกอดประคองนาง

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๕๔ สองอารมณ์สมรักประสานกร สโมสรประดิพัทธไ์ มข่ ดั ขวาง จะเปรยี บโจรเชยชิดสนทิ นาง ดั่งเชิงชา้ งสระสนานทะยานแรง กระพือพัดพดั โบกกระโชกชิด กค็ ว้าผดิ งวงกระหวัดอยกู่ วดั แกว่ง กาลังมนั คนั งามไม่ราแรง กระแทกแทงเสยซา้ ปะราซวน ควาญขยับลงขอระยอ่ หยุด ก็ส้ินสดุ แรงชา้ งกระโหยหวน คงคาเลอื่ นเปน็ ระลอกกระฉอกฉอ่ น พระสเุ มรอุ อ่ นยุนยบุ ฟุบดิน (จากนางในวรรณค(ดบี ทสอู่บศั ทจเพรรลยงร์เพะห่ือวชา่ีวงิต,โจจรนั ปท่าโคกรบั พน[าองอโนมไรลาน) ์]) บทอศั จรรย์ในวรรณคดีไทย เร่ือง ลิลติ เพชรมงกุฎ พระเสด็จไคลสู่หอ้ ง บรรทม ถงึ อาสน์บรรจถรณ์สม ม่านแพร้ว พรวนเงนิ พรวนคาสม สายสูตร ยภ่ี ู่ทองรองเตียงแก้ว เพริศแพรว้ เพดาน พาที โอฬารสารเสนาะพรอ้ ง ผ่องแผว้ สองเกษมเปรมปรดี ์ ปราโมทย์ รวยรืน่ รสฤดี แนบเน้ือแนมนม พระตระกองกายแกว้ นวลปราง แนบไท้ ชมพกั ตรจ์ มุ พิตเนน้ ประดิพทั ธ์ กนั แฮ เอนแอบอุรานาง เม่อื เม้อื ราตรี สองร่วมภริ มยป์ าง ดจุ ลดารัดไม้

บทอัศจรรย์ในวรรณคดีไทย ๕๕ พยพุ ยับเมฆคร้ืน ครวญหาญ วริ ุณรว่ งโรยรนิ ฉาน ครึกครน้ื เวหาฮกึ มืดมวั ปาน เดอื นดบั บงกชแบผกาช้ืน กล่นิ หรน้ื รัญจวน พระภธู รธริ าช สุขสมพาสพระยพุ า มโหฬาดเิ รก เปน็ เอกโอชา สองเสน่หาสโมสร ในปัจฐรณ์ทิพรัตน์ โดยกาหนดนิยม แรกเริ่มสม สังวาส ห่อนเคล่ือนคลาดคลารส โดยกาหนดพระคานึง ถึงพี่เลี้ยงพุฒ ศรี พระมุขีกมลเศร้า จึงนาฏเจ้าประทุมา นางวันทาทูลถาม พระทรง งามไยหมอง ทา้ วสนองคานาฏ เรียมนริ าศพ่ีเล้ียง เพียงแต่จากหลายวนั เรียมบรู้สาคัญกลใด จักนฤภัยนฤทุกข์ ขุกมีเข็ญบรู้ เรียมคะนึงถึงพ่ี เลี้ยงผู้ ร่วมรู้รักกันมา แก้ปัญหาเน้ือเกล้ียง เพราะปรีชาพี่เลี้ยง จึงได้ สมศรี ฯ (บทอศั จรรยร์ ะหว่าง พระเพชรมงกฎุ กับ นางประทุมวดี) (ตหู้ นังสอื เรอื นไทย, ลิลิตเพชรมงกุฎ [ออนไลน]์ )

บทอศั จรรย์ในวรรณคดีไทย ๕๖ บทอศั จรรยใ์ นวรรณคดไี ทย เร่อื ง อิเหนา ดวงเอยดวงยิหวา อยุ่ หนา่ อยา่ หกั มอื พี่ รักนางจึงทาอยา่ งน้ี มารศรีควรฤๅมาถอื ใจ กน่ แต่โกรธขึ้งขงึ ขดั จะสะบิ้งสะบัดไปถึงไหน เมอ่ื ได้แบบเน้อื แนมใน จงหยุดยัง้ ช่งั ใจกัลยา ไมเ่ หน็ ทกุ ขท์ ว่ี ติ กเพียงอกหกั แสนรกั สุดรักน้หี นกั หนา แต่รอ้ นรุ่มกลุ้มกลัดอย่อู ตั รา พง่ึ พบทิพสธุ ายาใจ แมน้ มสิ มดังจิตที่คิดปอง จะออกจากหอ้ งทองนัน้ หาไม่ ว่าพลางอุ้มองคอ์ รไท ขึ้นไว้เหนือตักสะพกั ชม อิงแอบแนบชิดเชยพกั ตร์ แรกรักรว่ มหอ้ งสองสม กรสอดกอดเก่ียวเกลียวกลม ประคองเคยี งบรรทมประทบั กาย อศั จรรย์บันดาลไหวหวาด อัสนกี มั ปนาทคะนองสาย เปรยี้ งเปรี้ยงเสียงสน่ันลนั แลบพราย พระพิรณุ โปรยปรายอายละออง ผกาแก้วโกสมุ ประทุมมาลย์ กแ็ บง่ บานรับแสงสรู ย์ส่อง แมลงภู่ผง้ึ ภุมรินทอง รอ่ นรอ้ งเชยรสสุมาลี สองกษตั ริย์เกษมสนั ตห์ รรษา ดังได้ผ่านเมืองฟ้าราศี สมหวังดังถวิลยนิ ดี อย่ใู นแท่นทไ่ี สยา (บทอัศจรรย์ระหวา่ ง อเิ หนา กบั นางจินตะหรา) (อเิ หนา เล่ม๑ , ๒๕๔๗, น. ๒๑๔ ) แสนเอยแสนเฉลียว จะบา่ ยเบ่ยี งเลย่ี งเล้ยี วไปถงึ ไหน

บทอศั จรรยใ์ นวรรณคดีไทย ๕๗ ความจริงทกุ สิ่งไม่ใสไ่ คล้ ว่าไยอยา่ งน้ันนะเทวี พ่ีให้สัตย์สัญญาประสาซื่อ ควรฤๅนิม่ เน้ือไม่เชื่อพ่ี ยังขนื ขดั อธั ยาไม่ปรานี ชักช้าพาทพี ิรพ้ี ไิ ร เสียแรงมาหาเจ้าสเิ ฝา้ ขับ อารามรักจกั กลบั กระไรได้ ถงึ จะหยิกจะตกี ็มิไป จะอยใู่ หเ้ ห็นจรงิ ของพ่ียา ว่าพลางอมุ้ นางข้ึนใสต่ กั เชยพกั ตร์จมุ พิตขนษิ ฐา สัมผสั พวงพมุ่ ประทมุ า วญิ ญาณด์ า่ วด้นิ แดยนั เอนแอบแนบองคบ์ ังอร ตระกองกรกอดประทับรบั ขวญั เกลียวกลมสมสนทิ ตดิ พนั อยบู่ นแทน่ สุวรรณพรรณราย อศั จรรย์บนั ดาลเปน็ ฝอยฝน ดวงอุบลชื่นแชม่ แยม้ ขยาย ท่หี ่อหุ้มกลีบกล้ากจ็ าคลาย คลี่ระบายบานแบง่ รบั แสงจนั ทร์ ภุมรนิ บินรอ้ งเร่รอ่ น แทรกไซ้เกสรโกสมุ สวรรค์ สองสมสอดคล้องทานองกนั เกษมสันต์หรรษาในราตรี (บทอัศจรรย์ระหวา่ ง อเิ หนา กบั นางมาหยารัศมี) (อิเหนา เลม่ ๑ , ๒๕๔๗, น. ๒๓๑ ) ทรามเอยทรามเชย ไมเ่ อ็นดูบา้ งเลยนางสาวสวรรค์ เม่ือความรกั รอ้ นใจดงั ไฟกลั ป์ จะใหก้ ล้ันใหท้ นกลใด เจ้าจะห้ามความอื่นไม่ขนื ขัด อันจะห้ามประดิพัทธน์ ้ไี มไ่ ด้ ว่าพลางเชยปรางอรไท ลูบไลโ้ ลมน้องประคองเคียง บนั ดาลอศั จรรย์หวน่ั หวาด กมั ปนาทที่นันสน่นั เสียง

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๕๘ อสั นคี ะนองก้องสาเนียง เปรย้ี งเปร้ยี งปลาบแปลบแวบวับ เมฆหมอกตรลบกลบกลุ้ม มวั มนมอื คลุ้มชอมุ่ อบั บดบงั ดาวเดือนเล่อื นลับ เปน็ พยุพยับโพยมบน โกสมุ เสาวรสก็สดชนื่ ชุ่มชืน้ ถูกตอ้ งละอองฝน สองกษตั รยิ ์เกษมศานต์บานกมล อยู่บนแทน่ ทองรูจี (บทอศั จรรย์ระหว่าง อิเหนา กับ นางสการะวาตี) (อเิ หนา เล่ม๑ , ๒๕๔๗, น. ๒๓๙ ) ขวญั เอยขวญั ตา อนจิ จาใจจริงทุกสิ่งสม ไมล่ วงล่อโลมเลยี มให้เกรยี มตรม อยา่ ปรารมภห์ ฤทยั เทวี ซึ่งทาการหาญหักเพราะรกั ใคร่ จนได้ถกู ถือถึงมือพี่ พึ่งจะสมปรารถนาครานี้ สุดท่ีจะเงอื ดงดอดใจ ถึงชวี ติ จะเจียนจากรา่ ง จะองิ แอบแนบนางใหไ้ ด้ วา่ พลางโอบอุม้ อรไท ข้ึนไว้เหนอื ตักสะพักชม เอนองคล์ งแอบแนบนอ้ ง เชยปรางพลางประคองสองสม คลึงเคล้าเย้ายวนสารวลรมย์ เกลียวกลมสมสวาดไิ ม่คลาดคลาย กรกอดประทบั แล้วรบั ขวญั อย่าตระหนกอกสัน่ นะโฉมฉาย ฤดดี าลซา่ นจับเนตรพราย ดังสายสุนวี าบปลาบตา ฟา้ ล่นั ครนั่ ครนื้ คารณเสียง กอ้ งสนน่ั สาเนียงในเวหา ชอุ่มคล้มุ ดวงพระสุรยิ า เมขลาลอ่ แกว้ แววเวยี น รามสูรขวา้ งขวานทะยานไล่ วอ่ งไวเลีย้ วลดั ฉวดั เฉวยี น

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๕๙ หมายม่ิงชิงช่วงดวงวเิ ชียร หันเหยี นเวียนวงิ่ เป็นสงิ คลี พระพิรณุ รว่ งโรยโปรยตอ้ ง มณฑาทองทิพรสสดศรี ขยายแยม้ ผกาสมุ าลี ภมุ รภี ิรมย์ชมชิด สององค์ปรดี ิ์เปรมเกษมสนั ต์ ดงั ไดเ้ สวยสวรรคช์ ้ันดสุ ิต ตา่ งแสนเสนหากวา่ ชวี ิต สมคิดเพลดิ เพลินเจริญใจ (บทอัศจรรยร์ ะหวา่ ง อิเหนา กับ นางบษุ บา) (อเิ หนา เลม่ ๓ , ๒๕๔๗, น. ๔๓ ) วาเอยวาจา ชา่ งวา่ พ่ชี อบอชั ฌาสยั ถงึ มริ ูค้ ูข่ อสไู่ ว้ เปน็ บุญจงึ ได้เจ้าดวงตา เนื้อละมนุ อุ่นออ่ นดงั สาลี กระนฤ้ี ๅจะใช้เปน็ ทาสา พ่กี ็ไม่มีการสง่ิ ใดมา จะใชต้ ามวาสนานงเยาว์ สดุ แต่จะเป็นเพอ่ื นนอนพี่ การสง่ิ นแ้ี ลจะใชเ้ จ้า วา่ พลางอิงแอบแนบเคลา้ สพั ยอกหยอกเยา้ กลั ยา จุมพิตชิดเชยปรางทอง ค่อยประคองพุ่มพวงดวงยิหวา ภุมรินรนร่านนานช้า พง่ึ มาพบรสเสาวคนธ์ พระพายชายพัดเฉอื่ ยฉา่ พราพราพรา่ งพร้อยฝอยฝน นาคราชผาดเผ่นเลน่ ชล เลื้อยเลย้ี วตามวนวารี มจั ฉาชมช่นื ฝืนระลอก กลบั กลอกกลางนา้ ดาหนี สองกษัตรยิ ส์ ขุ เกษมเปรมปรดี ิ์ อย่ใู นแทน่ ทไ่ี สยา (บทอศั จรรยร์ ะหว่าง ปันหยี (อเิ หนาแปลง) กบั นางกนั จะหนา)

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๖๐ (อิเหนา เลม่ ๓ , ๒๕๔๗, น. ๑๑๗ ) ทรามเอยทรามสงวน งามกระบวนยวนย่วั เสนหา พีร่ กั เจ้าเทา่ เทยี มชีวา ไม่ประจักษว์ าจากจ็ าจน อันทว่ งทกี ิรยิ ามลายู พ่ึงจะร้แู ยบคายสายสน วา่ พลางเหน็บแนมแกมกล คลึงเคลา้ เสาวคนธ์มณฑาทอง พระอิงแอบแนบเนื้อนวลนาง เชยปรางปรดี ิเ์ ปรมเกษมสอง รสรักประจกั ษใ์ จในทานอง ค่อยประคองเคยี งชมภิรมย์ใจ อศั จรรย์บันดาลพายุพดั คล่นื ซัดสาครกระฉอ่ นไหว กาป่ันจอดทอดท่าชลาลัย ระลอกใหญพ่ ดั ฝนื คลื่นแคลง มัจฉาชมชลวนวา่ ย โบกบา่ ยเขา้ บงั ฝ่ังแฝง นาคราชผาดผุดพลกิ แพลง สาแดงเดชาวราฤทธิ์ ทั้งสองเกษมสนั ต์หรรษา ดงั อามฤตฟา้ ยาจิต คลึงเคล้าเฝา้ แอบแนบชิด แสนสนิทชดิ ชมภริ มยใ์ จ (บทอัศจรรยร์ ะหว่าง สงั คามาระตา กับ นางหวันยหิ วา) (อเิ หนา เล่ม๓ , ๒๕๔๗, น. ๑๓๗ ) แสนเอยแสนเฉลียว ช่างเลย่ี งเลย้ี วลน้ิ ลมคมสัน กา้ วเฉยี งเบีย่ งบา่ ยเป็นหลายชัน้ พอรู้เทา่ ทนั นางทรามวัย พระเชษฐาเมตตาจึงฟงั หา้ ม ขอ้ นีพ้ ีจ่ ะตามวาจาได้ แต่ซึ่งเชยชมภริ มยใ์ จ เป็นไรเจ้ามิห้ามพระพี่ยา ถ้ากะกังมิได้สงั วาส ตัดขาดในความเสนหา

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๖๑ พก่ี ็จะไปปะตาปา ไมท่ ยาขออยมู่ คี ่คู รอง ว่าพลางอุม้ นางขึ้นบนตกั สุดรักของพ่ีไมม่ ีสอง จมุ พติ ชดิ เชยปรางทอง คอ่ ยประคองเคยี งเคลา้ เยาวมาลย์ องิ แอบแนบนางพลางชม แรกภริ มย์รว่ มรักสมัครสมาน พายุพดั อัศจรรยบ์ นั ดาล ไหวสะทา้ นสะเทอื นสุธาดล ฟ้าลัน่ คร่ันครกึ กึกก้อง โพยมพยบั อับละอองอายฝน คงคาสาครกระฉ่อนชล โกมลไมแ่ ย้มยังแนมใบ ครั้นอทุ ยั ไขแสงสรุ ยิ ฉ์ าย กลบี กลา้ จาคลายไม่อยไู่ ด้ สองกษตั ริย์สขุ เกษมเปรมใจ ที่ในหอ้ งแกว้ แพรวพรรณ (บทอศั จรรย์ระหวา่ ง ย่าหรัน (สยี ะตราแปลง) กับ นางเกนหลง) (อเิ หนา เลม่ ๔ , ๒๕๔๗, น. ๑๖๗ ) แสนเอยแสนเฉลยี ว เลยี่ งเลี้ยวตอบความงามสม พไี่ มก่ ลา่ วแกล้งแตง่ ล้นิ ลม เจ้าอย่าปรารมภห์ ฤทัย อันวสิ ัยโจรปา่ พนาลี เช่นน้ีแลเรียกกวา่ รักใคร่ จะแทนคณุ โฉมงามตามตกไร้ ส่ิงไรมิใหอ้ นาทร วา่ พลางกมุ กรกัลยา เข้ามายงั ท่บี รรจถรณ์ ถนอมแนบแอบองค์บังอร ตระกองกรช้อนชมดว้ ยยนิ ดี คลึงเคลา้ เยา้ ยวนชวนชดิ จุมพิตปรางเปรมเกษมศรี เชยทรวงดวงประทุมมาลี ภุมรีเอาซาบอาบละออง พระพายพัดตามฤดกู าล ฝนสวรรคบ์ นั ดาลตกตอ้ ง

บทอศั จรรยใ์ นวรรณคดีไทย ๖๒ ขยายแยม้ ผกามณฑาทอง ทง้ั สองชืน่ ชมภิรมยา (บทอศั จรรยร์ ะหว่าง ยา่ หรนั (สียะตราแปลง) กับ นางดะราหวัน) (อเิ หนา เล่ม๔ , ๒๕๔๗, น. ๑๘๖ ) สดุ เอยสดุ สวาดิ แสนฉลาดตอบโตด้ ้วยโวหาร จะรักเจา้ ตราบเท่าบรรลยั ลาน ไมท่ อดทิง้ เยาวมาลย์ใหไ้ ด้อาย ถึงเจ้าเก่ยี งเลย่ี งแกป้ ระการใด พี่ก็ไมล่ ะวางนางโฉมฉาย จะประคองน้องแอบไว้แนบกาย กว่าจะสมอารมณ์หมายของพน่ี ้ี วา่ พลางกอดเก้ยี วเกลยี วกลม แสนภิรมย์รบั ขวัญมารศรี ชมแกม้ แนมดวงสมุ าลี ฤดียยี วนไปมา ภมุ เรศคลึงเคล้าเกสร แซกซอนฟอนฟ้นั บุปผา เบิกบานทานแสงสุริยา เมฆาชอุ่มอนธการ เมขลาล่อแกว้ แววไว รามสูรเลย้ี วไลข่ วา้ งขวาน เสยี งสนั่นพสธุ าบาดาล ทง้ั สองแสนสาราญบานใจ (บทอศั จรรยร์ ะหวา่ ง สงั คามาระตา กบั นางกสุ ุมา) (อิเหนา เล่ม๕ , ๒๕๔๗, น. ๕๐ ) น้องเอยน้องรัก กระบวนหนักข้นึ กว่าเกา่ เจยี วเจ้าเอ๋ย ถึงนับปมี ิใชจ่ ะละเลย เจา้ ลมื เคยพี่นี้คิดยังตดิ ใจ ขืนวา่ รักบุษบาย่ิงกวา่ เจ้า จนบอกเล่าตามตรงยงั สงสัย ส่วนใจพ่นี ีไ้ ม่ลมื ปลืม้ อาลัย จะทิ้งให้เป็นหมา้ ยเสยี ดายนัก พระว่าพลางทางประโลมลูบตอ้ ง คอ่ ยประคองอุ้มนางข้นึ วางตกั

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดีไทย ๖๓ แนบสนทิ ชดิ ชมภริ มยร์ ัก ตา่ งร้จู กั เจนเชิงละเลิงลาน เมขลาล่อแก้วแววสว่าง อสูรขว้างขวานเปร้ยี งเสียงประหาร ทั้งฝนฟ้าอาเพศใช่เทศกาล กต็ กซ่านเซ็นซา่ ลงหนา้ แลง้ ยิ่งพร้อยพราน้ามากเป่ยี มปากบอ่ ทว่ มท้งั ทอ่ เลก็ นอ้ ยรอยระแหง โกสุมปทุมาลยบ์ านแบง่ ฝงู แมลงภ่ผู ้ึงลงคลงึ เคล้า อัศจรรยบ์ นั ดาลดว้ ยถา่ นดับ พระเพลงิ กลบั ติดฮือกระพอื เผา พระเอนแอบแนบองค์นางนงเยาว์ จนเลยเข้าท่หี ลับระงับไป (บทอศั จรรย์ระหวา่ ง อิเหนา กับ นางจนิ ตะหรา) (อเิ หนา เล่ม๕ , ๒๕๔๗, น. ๒๒๐ )

บทอศั จรรย์ในวรรณคดไี ทย ๖๔ บทอศั จรรย์ในวรรณคดีไทย เรอ่ื ง โคลงทวาทศมาส เดือนถงึ ถถ่นั นา้ ตาตก สายพรณุ โชรมเชรา ฟนั่ ฟ้า ปรานแี นบกบั อก โอยแม่ กูเอย เดือนสดุ แลว้ นุชหน้า แม่ผา้ ยลองใด ฤดไู พศาขยสร้อง ฝนสวรรค์ คดิ สมุ าลย์มาไลย แหลง่ น้อง ฤดูฤดีครรภ์ รมเยศ เจ็บกระอแุ ทบทอ้ ง ทข่ี วั้นสดอื นาง คระหนฟา้ ร้องคระ โหยหา สวาดนิ า ดลดว่ นเจบ็ แดกลาง ขาดขว้า แขไขขา่ วไถนา ถถ่นั มานา อกระแหงแลง้ นา้ เนตรนอง (วชริ ญาณ, โคลงทวาทศมาส [ออนไลน]์ )

บทอศั จรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๖๕ บทอศั จรรย์ในวรรณคดีไทย เร่ือง รามเกยี รติ์ สุดเอยสุดสวาท นุชนาฏน่ิมเนือ้ มารศรี เจา้ ดวงดอกฟ้าจงปรานี อย่าให้พ่ีนแ้ี สนเวทนา ว่าพลางองิ แอบแนบนอ้ ง เชยมณฑาทองท้ังซา้ ยขวา ชมเนตรชมปรางกลั ยา เสน่หารุมรึงฤทัย วายพุ ัดพานต้องท้องสมทุ ร กระฉอกฉานดาลผดุ เป็นคล่นื ใหญ่ มัจฉาชืน่ บานสาราญใจ ท่ีในสายสนิ ธุสาคร (บทอศั จรรย์ระหวา่ ง พาลีกบั นางดารา) (รามเกียรต์ิ เลม่ ๑, น. ๙๓ ) ดวงเอยดวงสมร เจ้างามงอนชา่ งคดิ คิดประดษิ ฐ์วา่ อนั บาปบญุ คุณโทษเวลา พ่ียากแ็ จ้งประจกั ษใ์ จ ซึ่งวา่ เป็นเมยี อสุรี คานหี้ าต้องการไม่ เป็นแต่สมั ผัสกาหนดั ใน ยงั มไิ ด้ร่วมสมชมคดิ อันธรรมเนียมกษตั รยิ ์ท้ังแผ่นภพ รุกรบได้นางเปน็ สทิ ธ์ิ พ่ีก็อยใู่ นธรรมทศพิธ ใชจ่ ะไม่คิดเมื่อไรมี วา่ พลางองิ แอบแนบเคล้า จมุ พติ ยัว่ เย้าโฉมศรี เชยมณฑาทพิ ยส์ มุ าลี บษุ บงคลายคลี่ผกากาญจน์ ภมิ รินบนิ เคลา้ ละอองอาบ เชยซาบเสาวคนธห์ อมหวาน พระพริ ณุ พรอยพรมสมุ ามาลย์ เบกิ บานรับแสงทินกร

บทอศั จรรยใ์ นวรรณคดีไทย ๖๖ (บทอัศจรรย์ระหวา่ ง พาลีกับนางมณโฑ) (รามเกยี รต์ิ เล่ม ๑, น. ๑๒๗ ) สุดเอยสุดสวาท นชุ นาฏเลศิ ล้าสาวสวรรค์ รกั เจา้ เท่าดวงชีวนั ควรฤาราพันเจรจา กย็ ่อมแจ้งใจอย่ใู นอก อย่ายกโทษพ่ีเลยกนิษฐา ว่าพลางอิงแอบแนบกายา กรลอดสอดคว้ายพุ าพาล ชมเนตรเกศแกม้ แลว้ รบั ขวญั เชยมณฑาสวรรค์หอมหวาน พยบั คลุม้ ชอุ่มอนธการ ฟ้าล่ันบันดาลคารน เมขลาลอ่ แกว้ แววไว รามสูรเล้ยี วไลใ่ นเวหน เปรย้ี งเปรี้ยงเสียงสนั่นอึงอล ฝนสวรรคพ์ รอยพรมสุมาลี (บทอศั จรรย์ระหวา่ ง ทศกณั ฑ์กับนางมณโฑ) (รามเกียรติ์ เลม่ ๑, น. ๑๒๗ ) เมื่อน้ัน พระกไลโกฏฤาษี ไมร่ ูใ้ นกลสตรี ลืมท่คี าสั่งพระบดิ ร เข้าประคองตอ้ งเต้าสมุ ณฑา กายาแนบเนอ้ื ดวงสมร ใหเ้ กดิ ประดิพทั ธ์อาวรณ์ ถงึ ไมม่ ีผสู้ อนกเ็ ปน็ ไป เชยแก้มแนมเนตรเกศกรรณ เกษมสนั ตใ์ นความพสิ มัย ภุมรนิ บนิ เคล้าสุมาลัย แทรกไซรเ้ กศรปทมุ มาลย์ เชยซาบอาบสรอ้ ยเสาวรส สบุ งกชคล่ีกลบี หอมหวาน ร่วมภริ มย์สมสุขสาราญ ในสถานศาลาอารัญ

บทอศั จรรยใ์ นวรรณคดไี ทย ๖๗ (บทอศั จรรย์ระหว่าง ฤาษีกไลโกฏิกบั นางอรุณวดี) (รามเกียรติ์ เล่ม ๑, น. ๑๒๗ ) ดวงเอยดวงสมร เจ้างามงอนจาเริญเสนห่ า แสนรักสุดรักวนดิ า สดุ ปัญญาท่ีจะรงั้ รอ ถงึ เจ้าจะหยิกข่วนด้วยเล็บ ความเจบ็ นัน้ พพ่ี อทนได้ ซงึ่ จะทนประดิพทั ธ์กาหนัดใน สุดใจพี่แล้ววนดิ า วา่ พลางอิงแอบแนบชดิ จุมพติ ดว้ ยความเสนห่ า พระกรเก่ียวลอดสอดควา้ ดวงมณฑาทพิ ย์สมุ ามาลย์ หยอกเยา้ เคลา้ คลึงเก้ียวกระหวัด ประดิพทั ธก์ ลว้ั กลิ่นหอมหวาน ภุมรินบินว่อนคัคนานต์ เชยบษุ บาบานอรชร พระพายพัดต้องกลบี โกมล ขยายแย้มเสาวคนธเ์ กสร สองสมสองสุขสถาวร สองสมรสาราญทง้ั สององค์ (บทอัศจรรย์ระหว่าง พระรามกบั นางสดี า) (รามเกียรต์ิ เลม่ ๑, น. ๓๔๘ ) แลว้ มีวาจาอันสนุ ทร สายสมรเยาวยอดเสน่หา รักเจ้าเทา่ ดวงชีวา แกว้ ยาของพ่อี ยา่ ตกใจ วา่ พลางอุ้มองค์นงลกั ษณ์ ภิรมย์ชมพกั ตร์พสิ มยั เชยแกม้ แนมเนื้ออรไท คว้าไขวต่ ้องเต้าสมุ ามาลย์ ฝนสวรรค์ครนั่ ครืน้ โพยมหน โกมลบานรบั สุริยฉ์ าน กลิ่นตลบอบฟ้งุ ชลธาร สองสาราญสขุ เกษมเปรมปรดี ์ิ

บทอัศจรรย์ในวรรณคดีไทย ๖๘ (บทอัศจรรยร์ ะหว่าง หนุมานกับนางบุษมาลี) (รามเกยี รติ์ เลม่ ๒, น. ๙๙ ) นอ้ งเอยน้องรกั เยาวลักษณ์ผมู้ ง่ิ มารศรี ผลักพเ่ี สียไยนางเทวี ปรานบี ้างเถดิ นะนงคราญ ว่าพลางองิ แอบแนบชดิ จุมพิตดว้ ยความเกษมศานต์ ประคองต้องดวงปทุมมาลย์ หอมหวานกล่ินรสเสาวคนธ์ ภมุ เรศรอ่ นลงประจงเคลา้ เร่าร้องกอ้ งในโพยมหน เชยซาบเกสรโกมล ฝนสวรรคค์ รน่ั คร้นื ธาตรี (บทอัศจรรย์ระหวา่ ง หนุมานกับนางเบญกาย) (รามเกียรต์ิ เล่ม ๒, น. ๒๓๓ ) เมอื่ น้นั นุชนาฏผู้มง่ิ มารศรี รักเจา้ เทา่ ดวงชีวี อยา่ หยิกขว่ นพ่ใี ห้เจ็บนกั ความแสนพิศวาสนาฏน้อง จะต้องถอื มใิ ห้มือหนกั ใชจ่ ะลวงเจ้าเยาวลักษณ์ ดวงจักษพุ ี่จงเมตตา วา่ พลางองิ แอบแนบชิด จุมพิตปรางเปรมนาสา ค่อยประคองต้องเตา้ สมุ ณฑา วายุพดั พดั มาองึ อล พระสมทุ รตฟี องนองระลอก คลืน่ กระฉอกฟดั ฝ่ังกลุ าหล เมฆมวั ท่ัวทศิ โพยมหน ฝนสวรรค์พรอยพรมสุมาลี อันดวงโกสุมปทมุ มาลย์ กแ็ บง่ บานคลค่ี ลายเกสรศรี สองสมชมรสฤาดี ตา่ งเกษมเปรมปรีดท์ิ งั้ สองรา

บทอัศจรรย์ในวรรณคดไี ทย ๖๙ (บทอัศจรรย์ระหว่าง หนุมานกับนางสุพรรณมัจฉา) (รามเกยี รต์ิ เลม่ ๒, น. ๒๕๖ ) ทรามเอยทรามสงวน น่ิมนวลเยาวยอดพสิ มัย เจ้าดวงดอกฟา้ สมุ าลยั ขบั พ่เี สยี ไดก้ ลั ยา อนั ความรักเจา้ น้แี สนรัก สดุ ที่จะหักเสน่หา ปรานีบ้างเถิดนะแก้วตา วาสนาเคยคู่มาด้วยกนั ว่าพลางกรเกย่ี วกระหวดั สมั ผัสภริ มย์ชมขวญั อิงแอบแนบชิดพลั วนั เชยดวงบษุ บนั อรชร ภมุ รินบนิ ว่อนร่อนรอ้ ง คลงึ ซาบอาบละอองเกสร สมุ ามาลยบ์ านรับทินกร ขจรรสเสาวคนธ์รวยรนิ พระพายชายพดั พานระลอก กระฉอกฝ่ังฟองฟุง้ กระแสสินธ์ สองสมภริ มย์รสยวนยิน เกษมสขุ ซาบสิ้นท้งั สองรา (บทอัศจรรยร์ ะหวา่ ง หนุมานกบั นางวาริน) (รามเกียรต์ิ เล่ม ๓, น. ๒๐๙ ) เมอื่ น้นั วายบุ ตุ รวุฒิไกรใจกล้า ย้มิ แล้วจง่ึ กลา่ ววาจา แตพ่ ่ีเคี่ยวฆ่าไพรี ท้งั เจด็ วันเจ็ดคนื ไมย่ ้งั หยดุ ป้มิ จักสนิ้ สดุ กาลังพี่ พึ่งได้สบายในวันน้ี จะขอชมเทวีให้สาราญ ว่าพลางอิงแอบแนบชดิ จุมพติ ดว้ ยความเกษมศานต์ ค่อยประคองตอ้ งดวงปทมุ มาลย์ ซาบซา่ นในรสกรฑี า

บทอัศจรรยใ์ นวรรณคดีไทย ๗๐ ภมุ รนิ ร่อนลงประจงเคล้า เรณเู สาวคนธ์บุปผา เป็นละอองต้องท่วั กายา ก็สมเจตนาวานร (บทอศั จรรย์ระหวา่ ง หนุมานกับนางมณโฑ) (รามเกยี รต์ิ เล่ม ๓, น. ๓๓๘ ) ดวงเอยดวงสมร เจ้างามงอนนิ่มเน้ือมารศรี อนั ฝงู นางกานัลทั้งนี้ พ่ีไม่จานงจงใจ อนั ตัวของเจา้ เยาวเรศ เหมือนดวงเนตรเป็นท่ีพสิ มยั เจา้ อยา่ สลัดตัดอาลัย ใหพ้ ่ีนท้ี นเวทนา ว่าพลางองิ แอบแนบชดิ จุมพิตดว้ ยความเสน่หา เก่ียวกระหวดั รัดรงึ ตรงึ ตรา วญิ ญาณด์ ่าวดิ้นแดยัน พระสมุทรตฟี องนองระลอก กระทบฝั่งกระฉอกสะเทอื นล่ัน วาฬใหญ่พ่นนา้ อยเู่ ป็นควัน ฝนสวรรคต์ กท่วั สาคร สองรว่ มภิรมยส์ มพาส แสนสวาทในรสสโมสร แสนสุขแสนเกษมสถาวร เหนอื ทบี่ รรจถรณใ์ นราตรี (บทอัศจรรยร์ ะหว่าง หนมุ านกับนางกนั ยุมา) (รามเกียรติ์ เลม่ ๓, น. ๓๙๘ )

บรรณานกุ รม เสภาเร่ืองขุนช้างขุนแผนภาคปลาย. (๒๕๑๐). กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์คลงั วทิ ยา. ครสิ เบเคอร์,ผาสกุ พงษไ์ พจติ ร (บก.). (๒๕๕๖). ขนุ ช้างขุนแผนฉบับ วัดเกาะ. กรงุ เทพมหานคร: สานักพิมพ์ซลิ คเ์ วอร์ม. จากนางในวรรณคดี สู่บทเพลงเพื่อชีวิต. (๒๕๔๘). จันทโครพ. ค้นเม่ือ วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๘. จาก http://topicstock.pantip. com. ตู้หนังสือเรือนไทย. (๒๕๕๒). กากีกลอนสุภาพ. ค้นเม่ือวันท่ี ๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๘. จาก http://www.reurnthai.com _________________. (๒๕๕๓). ลิลิตเพชรมงกุฎ. ค้นเม่ือวันที่ ๒ มถิ ุนายน ๒๕๕๘. จาก http://www.reurnthai.com เทาชมพู. (๒๕๕๐). เสภาขนุ ชา้ งขุนแผนสานวนอ่นื ท่ีไมใ่ ช้ฉบับหอพระ สมุด. ค้นเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๖. จาก http:// www.reurnthai.com/index.php?topic=287.0;wap2. ปรามินทร์ เครือทอง. (ม.ป.ป.). ขุนช้างขุนแผน . ค้นเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๖. จาก http://readjournal.org/contents/ pramin-2/.

พุทธเลิศหล้านภาลัย,พระบาทสมเด็จพระ. (๒๕๑๐). บทละครนอก พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย. กรุงเทพมหาคร: สานักพิมพบ์ รรณาคาร. _____________ . (๒๕๑๕). บทละครเรื่องอณุ รุท. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์รงุ่ เรืองธรรม. _____________. (๒๕๔๗). บทละครเร่ืองอิเหนา (เล่ม ๑ - ๕). กรุงเทพมหานคร: องค์การค้าของครุ สุ ภา. วชริ ญาณ. โคลงทวาทศมาส. คน้ เมอ่ื วนั ท่ี ๒ มิถุนายน ๒๕๕๘. จาก http://www.vajirayana.org. วชิรารัตน์ นิรันดร์เตชาภัทร์ (บก.). (๒๕๕๕). พระอภัยมณี (ฉบับ หอสมุดแห่งชาติ). กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์ไทยควอ ลติ บ้ี ุ๊คส์. ศิลปากร,กรม . (๒๕๑๖). เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ พระประวัติและพระ นพิ นธ์บทรอ้ ยกรอง. กรงุ เทพมหานคร: เจริญรัตน์การพิมพ.์ __________. (๒๕๑๖). รวมวรรณคดี ๕ เร่ือง. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพร์ ุง่ วัฒนา. __________ . (๒๕๐๘). ลิลิตพระลอ (ฉบับหอสมุดแห่งชาติ). กรุงเทพมหานคร: ศลิ ปาบรรณาคาร. ศรีมโหสถ, หลวง. (๒๕๐๑). ลิลิตพระฤๅ. โครงการหนังสือเก่า ชาวสยาม.

ศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยกูร), พระยา. (๒๕๐๘). แบบสอน หนังสือไทย. กรงุ เทพมหานคร: บารุงนกุ ูลกจิ . สุนทรโวหาร(ภู่), พระ. (๒๕๑๕). นิทานคากลอนสุนทรภู่ (เล่ม ๑). พิมพ์ครัง้ ท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร: แพร่พิทยา. เสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์. (๒๕๓๘). ธรรมชาติในวรรณกรรมสุนทรภู่. กรุงเทพมหานคร: อมรินทร์พริ้นติ้ง เอนด์ พับลิชช่ิง จากัด (มหาชน) . หนุ่มอักษรนอนตื่นสาย. (๒๕๕๒). ขุนช้างขุนแผน สานวนครูแจ้ง. ค้นเม่ือวันท่ี ๑๒ กันยายน ๒๕๕๖. จาก http://txvocalz. blogspot.com/2009/11/blog-post_09.html. องค์การค้าของคุรุสภา. (๒๕๔๖). ขุนช้าง-ขุนแผน (เล่ม๑ – เล่ม๓). กรุงเทพมหานคร: องคก์ ารค้าครุ ุสภา. ______________ . (๒๕๔๖). สมุทรโฆษคาฉันท์. กรุงเทพมหานคร: คุรสุ ภาลาดพรา้ ว. อิ ศ ร า นุ ภ า พ ( อ้ น ) , พ ร ะ ย า . ( ๒ ๔ ๗ ๐ ) . พ ร ะ สุ ธ น ค า ฉัน ท์. กรงุ เทพมหานคร: โสภณพพิ รรฒธนากร.

ปกหน้า: THAILITSXEDU. เพศศกึ ษาระหวา่ ง มนษุ ย์ vs อมนษุ ย์ในวรรณคดีไทย. จาก https://thailitsxedu.wordpress.com ปกหลัง: THAILITSXEDU. เพศศึกษาระหว่าง มนุษย์ vs อมนุษยใ์ นวรรณคดีไทย. จาก https://thailitsxedu.wordpress.com

ท่มี า : http://thailitsxedu.wordpress.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook