47 ๑๒. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ๑๓. บันทกึ ผลหลงั การสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน นกั เรียนทงั้ หมดจำนวน.....................คน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จำนวนนักเรียนทผี่ า่ น จำนวนนกั เรียนท่ีไม่ผ่าน ขอ้ ท่ี จำนวนคน รอ้ ยละ จำนวนคน รอ้ ยละ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ....................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. .......................................
48 ๑๕. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................... .............................. ................................................................................................ .......................................................... ... ลงชื่อ........................................................................ (………………………………………………………..) ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ....................................... ลงชอ่ื ................................................................ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ (………………………………………………………..) ลงชอื่ .......................................................... รองผู้อำนวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ (………………………………………………………..) ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา ได้ทำการตรวจแผนการเรียนรู้ของ....................................................แลว้ มีความคดิ เหน็ ดงั น้ี ๑. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ ๒. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไมเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... .................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ............................................................................................... ( ………………………………………………… ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน…………………………………………………………..
49
50
51
52
53
54
55 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ รายวชิ าภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ เวลา ๑๐ ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง วิเคราะหง์ านวรรณคดี ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่า และนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง ตัวช้ีวัด ท ๕.๑ ม. ๑/๑ การสรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรม ท ๕.๑ ม. ๑/๒ การวเิ คราะห์วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่อี ่านพร้อมยกเหตผุ ลประกอบ ท ๕.๑ ม. ๑/๓ การอธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน ท ๕.๑ ม. ๑/๔ การสรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่านเพอื่ ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) - นักเรยี นสามารถสรุปเน้ือหาวรรณคดีทอ่ี า่ นได้ (K) - นกั เรียนสามารถสรุปเนื้อหาวรรณกรรมทีอ่ ่านได้ (K) - นักเรยี นสามารถสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอ่านเพือ่ ประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริงได้ (K) - นกั เรียนสามารถวิเคราะหว์ รรณคดีท่ีอ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบได้ (K) - นักเรยี นสามารถวิเคราะห์วรรณกรรมที่อา่ นพร้อมยกตัวอยา่ งเหตผุ ลประกอบได้ (K) - นกั เรียนสามารถอธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีท่ีอา่ นได้ (K) - นกั เรียนสามารถอธิบายคณุ คา่ ของวรรณกรรมท่ีอา่ นได้ (K) ด้านทักษะ (P) - นักเรยี นสามารถนำเสนอการสรุปเนื้อหาวรรณคดีท่อี า่ นไดถ้ ูกตอ้ ง (P) - นักเรยี นสามารถนำเสนอการสรปุ เนื้อหาวรรณกรรมที่อ่านไดถ้ ูกตอ้ ง (P) - นักเรียนสารมาถนำเสนอความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพ่ือประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจริงได้ถูกต้อง (P) - นักเรยี นสามารถนำเสนอการวเิ คราะห์วรรณคดีทอี่ ่าน พร้อมยกตัวอยา่ งเหตผุ ลประกอบไดถ้ ูกตอ้ ง (P) - นกั เรียนสามารถนำเสนอการวิเคราะหว์ รรณกรรมท่อี ่านพร้อมยกตวั อยา่ งเหตุผลประกอบได้ถูกต้อง (P) - นกั เรียนสามารถอภปิ รายคุณค่าของวรรณคดที ี่อา่ นได้ถกู ตอ้ ง (P) - นกั เรียนสามารถอภปิ รายคุณคา่ ของวรรณกรรมท่ีอา่ นได้ (P)
56 ดา้ นจติ พสิ ัย (A) - นักเรียนเอาใจใส่ในการสรุปเนอ้ื หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น (A) - นกั เรยี นเห็นความสำคัญของการสรุปความรู้และข้อคดิ จากการอ่านเพ่ือประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จริง (A) - นักเรียนเหน็ ความสำคัญของการวเิ คราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านพรอ้ มยกเหตุผลประกอบ (A) - นกั เรยี นเห็นความสำคญั ของคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น (A) ๓. สาระสำคัญ งานเขียน หรือวรรณกรรม ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณคดี ล้วนแล้วแต่เปน็ เร่ืองที่มีความดีงามแฝงฝัง ไว้ทั้งสิ้น เหมือนเป็นกุศโลบายของผู้แต่ง นอกจากมีคุณค่าทางวรรณศิลป์แล้ว ก็ยังมีสาระ ข้อคิด ที่สามารถ ยกระดบั จิตใจให้สูงข้ึนได้ ที่จะเชิญชวนให้เราได้ค้นหาคุณค่าของงานวรรณกรรมนน้ั จึงต้องรู้จักพินิจวิเคราะห์เพ่ือ สรุปเนื้อหาของวรรณคดีและวรรณกรรม พร้อมยกเหตุผลประกอบเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และสามารถ อธบิ ายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ ๑. การสรปุ เน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒. การสรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากการอา่ นเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจรงิ ๓. การวเิ คราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ นพร้อมยกเหตผุ ลประกอบ ๔. การอธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ า่ น ๕. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น (เฉพาะทเี่ กิดในหน่วยการเรยี นรู้น)ี้ ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลย ๖. ทักษะของผเู้ รียนในศตวรรษท่ี ๒๑ (๓R ๘C + ๒L) (จุดเน้นสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน) ทักษะการอ่าน (Reading) ทักษะการเขียน (Writing) ทกั ษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)
57 ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork and leadership) ทักษะด้านความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding) ทกั ษะด้าน การส่อื สาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันส่อื (Communication information and media literacy) ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing) ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Skills) ภาวะผูน้ ำ (Leadership) ๗. ชน้ิ งานหรือภาระงาน ( หลักฐาน / รอ่ งรอยแสดงความรู้ ) ๗.๑ ผงั มโนทัศน์ เร่ือง การสรุปเน้อื หาวรรณคดีและวรรณกรรม ๗.๒ ผงั มโนทศั น์ เรือ่ ง การสรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอา่ นเพื่อประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง ๗.๓ ใบงาน เร่อื ง การวเิ คราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอ่านพร้อมยกเหตผุ ลประกอบ ๗.๔ ใบงาน เรื่อง การอธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น ๘. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ เรือ่ ง การสรุปเนื้อหาวรรณคดแี ละวรรณกรรม ชว่ั โมงท่ี ๑ - ๓ (ใชร้ ูปแบบการเรยี นรู้แบบผงั มโนทศั น์) ขัน้ ที่ ๑ ตรวจสอบมโนทัศน์พนื้ ฐาน ๑. ครูถามนกั เรียนวา่ นักเรียนเคยสรปุ เนือ้ หาจากสงิ่ ทอี่ า่ นไหม และมปี ระโยชนต์ ่อนักเรียนอยา่ งไร พร้อมทงั้ ยกตัวอย่างประกอบ ๒. ครเู ลา่ เรอ่ื งสน้ั ใหน้ กั เรยี นฟัง และให้นักเรียนชว่ ยกนั สรปุ เนอ้ื หาจากเร่ืองท่ีฟัง ขนั้ ท่ี ๒ ระบแุ ละเสริมมโนทัศน์พ้นื ฐานทีผ่ ู้เรียนขาด ๓. ครแู จกใบความรู้ เร่ืองการสรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมผ ๔. ครอู ธบิ ายหลกั การสรปุ เนอื้ หาจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเพิม่ เติม ๕. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นถามข้อสงสยั เก่ยี วกบั การสรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรม ขนั้ ที่ ๓ การเรียนรู้ ๖. ครสู อนการสรุปเนือ้ หาจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม เรื่องกาพย์เหช่ มเครอ่ื งคาวหวาน ๗. ครสู อนการเขียนผังมโนทัศน์หลาย ๆ รูปแบบ เพ่ือให้นักเรียนนำไปใช้ในการเขยี นไดอ้ ยา่ ง สรา้ งสรรค์ และเหมาะสมกบั งานท่ีสรปุ
58 ขั้นที่ ๔ สรุปด้วยกรอบมโนทัศน์ ๘. ครูทบทวนการสรปุ เน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรม เร่ืองกาพย์เห่ชมเครือ่ งคาวหวานทไี่ ด้เรียน เมอ่ื คาบที่ผา่ นมา ๙. ครูแจกใบงานให้นกั เรยี น โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนสรปุ ความรเู้ ร่ืองวรรณคดี เรื่องกาพย์เหช่ ม เคร่ืองคาวหวาน พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ และวาดรปู ตกแตง่ ใหส้ วยงาม ๑๐. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะคนออกมานำเสนอผงั มโนทัศน์ของตนเองหนา้ ช้ันเรยี น ขน้ั ท่ี ๕ ประเมินผล ๑๑. ครูสมุ่ ถามนักเรียนรายบุคคลวา่ การสรุปเน้อื หาวรรณคดีและวรรณกรรม เรื่องกาพยเ์ หช่ ม เคร่อื งคาวหวานมีประโยชน์ต่อนักเรยี นอยา่ งไร และนักเรียนคิดวา่ การสรุปเนอ้ื หาเปน็ ผังมโนทศั น์มปี ระโยชน์ อยา่ งไร และเกิดผลดตี ่ออนาคตของผเู้ รียนอย่างไรบ้าง หน่วยย่อยท่ี ๒ เร่ือง การสรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่านเพ่อื ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ช่ัวโมงท่ี ๑ - ๒ (ใชร้ ปู แบบการเรียนรู้แบบผงั มโนทศั น์) ขน้ั ท่ี ๑ ตรวจสอบมโนทศั น์พื้นฐาน ๑. ครูถามนกั เรียนวา่ การสรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่านเพอ่ื ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ มี ความสำคัญอย่างไร ขัน้ ที่ ๒ ระบุและเสริมมโนทัศน์พ้ืนฐานที่ผูเ้ รยี นขาด ๒. ครูแจกใบความรู้ เรอ่ื งการสรุปความรแู้ ละขอ้ คดิ จากการอ่านเพื่อประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ ๓. ครูอธบิ ายหลักการสรปุ ความร้แู ละข้อคิดจากการอ่านเพ่ือประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง ขน้ั ที่ ๓ การเรียนรู้ ๖. ครสู อนการสรปุ ความรู้และข้อคิดจากการอา่ นเร่ือง กาพยเ์ ห่ชมเครื่องคาวหวาน ๗. ครสู อนการนำความรแู้ ละข้อคดิ จากเรื่อง กาพย์เหช่ มเคร่ืองคาวหวานประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ ข้นั ท่ี ๔ สรปุ ด้วยกรอบมโนทัศน์ ๘. ครทู บทวนการสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากการอ่านเพื่อประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ จริง เรอ่ื งวรรณคดีเรื่อง กาพยเ์ ห่ชมเครือ่ งคาวหวานที่ได้เรียนเม่ือคาบท่ีผ่านมา ๙. ครแู จกใบงานใหน้ ักเรียน โดยใหน้ ักเรยี นแต่ละคนสรปุ ความรู้และขอ้ คดิ จากการอา่ นเพ่ือ ประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จรงิ เรอ่ื งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พร้อมยกตวั อย่างประกอบ และวาดรปู ตกแตง่ ให้สวยงาม ๑๐. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคนออกมานำเสนอผงั มโนทศั น์ของตนเองหนา้ ชนั้ เรียน ขนั้ ท่ี ๕ การประเมินผล ๑๑. ครสู ุม่ ถามนักเรียนรายบุคคลวา่ การสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คดิ จากการอ่านเพอ่ื ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ เกิดผลประโยชนต์ ่อนักเรียนมากน้องเพยี งใด และนกั เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวันได้อย่างไร
59 หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๓ เรอื่ ง การวเิ คราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ ช่ัวโมงที่ ๑ - ๓ (ใช้รูปแบบการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ) ขน้ั ที่ ๑ ขั้นเตรียม ๑. ครถู ามนักเรียนว่านักเรียนสามารถวเิ คราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ ่านพร้อมยกเหตุผล ประกอบไดห้ รือไม่ ๒. ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ ๓ - ๔ คน ข้ันท่ี ๒ ข้ันสอน ๓. ครอู ธิบายการวเิ คราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพรอ้ มยกเหตุผลประกอบ ๔. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นถามข้อสงสัย กอ่ นเร่ิมทำกจิ กรรม ขัน้ ท่ี ๓ ขัน้ ทำกจิ กรรม ๕. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ อ่านวรรณคดีเร่ือง นิราศภเู ขาทอง ๖. ครใู ห้นักเรยี นช่วยกันวิเคราะห์วรรณคดีทีอ่ า่ นพร้อมยกตวั อย่างประกอบ และทำใบงานทคี่ รูได้ เตรียมไว้ ๗. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานจากการวเิ คราะหว์ รรณคดเี รื่อง นิราศภูเขาทอง หนา้ ช้นั เรยี นใหเ้ พ่อื น ๆ ฟัง ขั้นที่ ๔ ข้นั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ ๘. ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกนั สรุปการวิเคราะห์วรรณคดีเร่อื ง นิราศภูเขาทอง และครูตง้ั คำถามให้ นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ เพอ่ื ทดสอบความเข้าใจ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๔ เรอื่ ง การอธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน ช่ัวโมงที่ ๑ (ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบรว่ มมือ) ขั้นที่ ๑ ขั้นเตรียม ๑. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ กลุม่ กลุ่มละ ๓ - ๔ คน ๒. ครถู ามนักเรยี นวา่ นักเรยี นเคยอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านบา้ งไหม ถ้า เคยนักเรียนอธิบายคณุ คา่ เร่อื งอะไร ขั้นท่ี ๒ ขั้นสอน ๓. ครูสอนการอธบิ ายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น ๔. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนถามขอ้ สงสยั ก่อนเริ่มทำกจิ กรรม ขั้นที่ ๓ ขนั้ ทำกจิ กรรม ๔. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันอ่านเรอ่ื ง นริ าศภูเขาทอง และวเิ คราะห์หาคุณคา่ ของเรอื่ ง ๕. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันอภปิ ราย และใหน้ ักเรียนอธิบายคณุ คา่ ของเรื่อง นิราศภเู ขา ทอง ลงในใบงานท่คี รูเตรียมไว้ให้
60 ขนั้ ท่ี ๔ ขน้ั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ ๖. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ สรุปวรรณคดีเรอ่ื ง นริ าศภเู ขาทอง และครูถามคำถามนักเรียนแต่ละ กลมุ่ เพื่อทดสอบความเข้าใจ ๙. สอื่ การสอน ๙.๑ ใบความรู้ ๙.๒ ใบงาน ๑๐. แหล่งเรยี นรใู้ นหรือนอกสถานท่ี - หอ้ งสมดุ ๑๑. การวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ วี ดั เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การ ประเมนิ ๑.นักเรียนสามารถสรปุ เนื้อหา สังเกตพฤติกรรมของ แบบสงั เกต ๒-๓คะแนนระดบั ดี ผ่านเกณฑใ์ น วรรณคดที ีอ่ ่านได้ นกั เรยี นในการทำ พฤตกิ รรมการกระทำ ๑ คะแนนระดบั พอใช้ ระดบั พอใช้ ขน้ี ไป ๒.นักเรียนสามารถสรปุ เนื้อหา กิจกรรม ๐ คะแนนระดับควรปรบั ปรุง ผ่านเกณฑ์ใน วรรณกรรมท่อี ่านได้ สังเกตพฤติกรรมของ แบบสงั เกต ๒-๓คะแนนระดับดี ระดบั พอใช้ นักเรยี นในการทำ พฤติกรรมการกระทำ ๑ คะแนนระดับพอใช้ ข้ีนไป ๓.นักเรยี นสามารถนำเสนอการ ผา่ นเกณฑใ์ น สรุปเน้อื หาวรรณคดที ี่อ่านได้ กจิ กรรม ๐ คะแนนระดบั ควรปรบั ปรุง ระดบั พอใช้ ถูกตอ้ ง ตรวจใบงานผงั มโน ช้ินงานผังมโนทศั น์ ๑๖–๒๐คะแนนระดบั ดมี าก ขี้นไป ทศั น์ เรื่องการสรุป เร่อื งการสรุปเน้ือหา ๑๑–๑๕คะแนนระดบั ดี ๔.นักเรยี นสามารถนำเสนอการ เน้อื หาวรรณคดีและ ผา่ นเกณฑใ์ น สรปุ เนื้อหาวรรณกรรมทอ่ี า่ นได้ วรรณคดแี ละ ๖–๑๐ คะแนนระดับพอใช้ ระดับพอใช้ ถูกต้อง วรรณกรรม วรรณกรรม ๑–๕คะแนนระดับปรบั ปรงุ ตรวจใบงานผงั มโน ช้นิ งานผงั มโนทศั น์ ๑๖–๒๐คะแนนระดับดีมาก ขน้ี ไป ๕.นักเรียนเอาใจใสใ่ นการสรปุ ทัศน์ เรอ่ื งการสรุป เร่อื งการสรปุ เนอ้ื หา ๑๑–๑๕คะแนนระดบั ดี เนอ้ื หาวรรณคดีและวรรณกรรมที่ เน้อื หาวรรณคดแี ละ วรรณคดแี ละ ๖–๑๐ คะแนนระดับพอใช้ ผา่ นเกณฑ์ใน อ่าน วรรณกรรม ๑–๕คะแนนระดับปรบั ปรุง ระดับพอใช้ วรรณกรรม แบบสงั เกต ๒-๓คะแนนระดบั ดี สงั เกตพฤตกิ รรมของ พฤติกรรมการกระทำ ๑ คะแนนระดบั พอใช้ ขน้ี ไป นักเรียนในการทำ ๐ คะแนนระดบั ควรปรบั ปรุง กจิ กรรม
61 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การ ประเมนิ ๖.นกั เรียนสามารถสรปุ ความรู้และ สังเกตพฤตกิ รรมของ แบบสังเกต ๒-๓คะแนนระดับดี ผ่านเกณฑใ์ น ระดับพอใช้ ข้อคิดจากการอา่ นเพื่อประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นในการทำ พฤตกิ รรมการกระทำ ๑ คะแนนระดบั พอใช้ ขีน้ ไป ในชวี ติ จริงได้ กิจกรรม ๐ คะแนนระดับควรปรบั ปรุง ๗.นกั เรียนสารมาถนำเสนอความรู้ ตรวจใบงานผังมโน ชนิ้ งานผังมโนทัศน์ ๑๖–๒๐คะแนนระดับดีมาก ผ่านเกณฑ์ใน และขอ้ คดิ จากการอ่านเพ่ือ ทศั น์ เรือ่ งการสรปุ เร่ืองการสรุปความรู้ ๑๑–๑๕คะแนนระดบั ดี ระดับพอใช้ ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ ไดถ้ ูกต้อง ความรู้และข้อคิดจาก และขอ้ คิดจากการ ๖–๑๐ คะแนนระดับพอใช้ อ่านเพอ่ื ประยุกตใ์ ช้ ๑–๕คะแนนระดบั ปรบั ปรุง ขน้ี ไป ๘.นกั เรียนเห็นความสำคัญของ การอา่ นเพื่อ การสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากการ ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ในชีวติ จรงิ ผ่านเกณฑ์ใน อา่ นเพอื่ ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจริง ระดับพอใช้ ๙.นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ จรงิ แบบสงั เกต ๒-๓คะแนนระดบั ดี วรรณคดที ีอ่ า่ นพรอ้ มยกเหตผุ ล สงั เกตพฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมการกระทำ ๑ คะแนนระดับพอใช้ ข้นี ไป ประกอบได้ นกั เรียนในการทำ ผา่ นเกณฑใ์ น ๑๐. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์ ๐ คะแนนระดับควรปรบั ปรุง ระดับพอใช้ วรรณกรรมท่ีอา่ นพรอ้ มยกตวั อยา่ ง กิจกรรม แบบสังเกต ๒-๓คะแนนระดับดี เหตผุ ลประกอบได้ สงั เกตพฤติกรรมของ พฤติกรรมการกระทำ ๑ คะแนนระดับพอใช้ ขีน้ ไป ๑๑. นักเรยี นสามารถนำเสนอการ นักเรยี นในการทำ ผา่ นเกณฑ์ใน วิเคราะหว์ รรณคดีท่ีอ่านพรอ้ ม ๐ คะแนนระดบั ควรปรบั ปรุง ระดบั พอใช้ ยกตัวอย่างเหตผุ ลประกอบได้ กจิ กรรม แบบสังเกต ๒-๓คะแนนระดับดี ถูกต้อง สงั เกตพฤติกรรมของ พฤตกิ รรมการกระทำ ๑ คะแนนระดับพอใช้ ขี้นไป นกั เรียนในการทำ ผา่ นเกณฑ์ใน ๐ คะแนนระดบั ควรปรบั ปรงุ ระดบั พอใช้ กิจกรรม ชิ้นงานการวิเคราะห์ ๑๖–๒๐คะแนนระดับดมี าก ตรวจใบงานการ ขีน้ ไป วิเคราะหว์ รรณคดี วรรณคดีและ ๑๑–๑๕คะแนนระดับดี และวรรณกรรมทอ่ี ่าน วรรณกรรมท่อี า่ น ๖–๑๐ คะแนนระดบั พอใช้ พร้อมยกเหตผุ ล พร้อมยกเหตผุ ล ๑–๕คะแนนระดบั ปรบั ปรุง ประกอบ ประกอบ
62 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีวัด เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การ ประเมิน ๑๒. นกั เรยี นสามารถนำเสนอการ ตรวจใบงานการ ช้ินงานการวิเคราะห์ ๑๖–๒๐คะแนนระดับดมี าก ผ่านเกณฑใ์ น วเิ คราะหว์ รรณกรรมที่อา่ นพรอ้ ม ระดับพอใช้ ยกตวั อย่างเหตผุ ลประกอบได้ วิเคราะหว์ รรณคดี วรรณคดีและ ๑๑–๑๕คะแนนระดบั ดี ขี้นไป ถกู ตอ้ ง และวรรณกรรมทอ่ี ่าน วรรณกรรมทอ่ี า่ น ๖–๑๐ คะแนนระดบั พอใช้ พรอ้ มยกเหตุผล พรอ้ มยกเหตุผล ๑–๕คะแนนระดับปรบั ปรงุ ประกอบ ประกอบ ๑๓.นักเรียนเห็นความสำคัญของ สังเกตพฤตกิ รรมของ แบบสังเกต ๒-๓คะแนนระดับดี ผา่ นเกณฑ์ใน การวิเคราะห์วรรณคดีและ นกั เรยี นในการทำ พฤติกรรมการกระทำ ๑ คะแนนระดับพอใช้ ระดับพอใช้ วรรณกรรมท่ีอ่านพรอ้ มยกเหตผุ ล ประกอบ กิจกรรม ๐ คะแนนระดบั ควรปรบั ปรงุ ขี้นไป ๑๔. นักเรยี นสามารถอธบิ ายคุณค่า ของวรรณคดีที่อา่ นได้ สงั เกตพฤติกรรมของ แบบสงั เกต ๒-๓คะแนนระดบั ดี ผ่านเกณฑ์ใน นักเรียนในการทำ พฤติกรรมการกระทำ ๑ คะแนนระดบั พอใช้ ระดบั พอใช้ ๑๕. นักเรยี นสามารถอธบิ ายคณุ ค่า ของวรรณกรรมทีอ่ า่ นได้ กจิ กรรม ๐ คะแนนระดับควรปรบั ปรงุ ขี้นไป สังเกตพฤติกรรมของ แบบสงั เกต ๒-๓คะแนนระดับดี ผ่านเกณฑใ์ น ๑๖. นักเรยี นสามารถอภปิ ราย นกั เรียนในการทำ พฤตกิ รรมการกระทำ ๑ คะแนนระดับพอใช้ ระดบั พอใช้ คณุ คา่ ของวรรณคดีทีอ่ ่านได้ ถกู ตอ้ ง กิจกรรม ๐ คะแนนระดับควรปรบั ปรุง ขี้นไป ตรวจใบงานการ ชน้ิ งานการอธิบาย ๑๖–๒๐คะแนนระดบั ดมี าก ผา่ นเกณฑใ์ น ๑๗. นกั เรยี นสามารถอภปิ ราย อธิบายคณุ คา่ ของ คณุ ค่าของวรรณคดี ๑๑–๑๕คะแนนระดับดี ระดับพอใช้ คุณคา่ ของวรรณกรรมท่ีอ่านได้ วรรณคดีและ และวรรณกรรมท่ี ๖–๑๐ คะแนนระดับพอใช้ วรรณกรรมทีอ่ า่ น ขน้ี ไป ๑๘. นักเรยี นเหน็ ความสำคญั ของ ตรวจใบงานการ อ่าน ๑–๕คะแนนระดบั ปรบั ปรุง คุณคา่ ของวรรณคดแี ละ อธบิ ายคุณคา่ ของ ช้ินงานการอธบิ าย ๑๖–๒๐คะแนนระดับดมี าก ผ่านเกณฑใ์ น วรรณกรรมท่อี ่าน วรรณคดแี ละ คุณค่าของวรรณคดี ๑๑–๑๕คะแนนระดับดี ระดบั พอใช้ วรรณกรรมทอ่ี า่ น และวรรณกรรมท่ี ๖–๑๐ คะแนนระดับพอใช้ สงั เกตพฤติกรรมของ ขนี้ ไป นกั เรียนในการทำ อ่าน ๑–๕คะแนนระดบั ปรบั ปรุง แบบสังเกต ๒-๓คะแนนระดบั ดี ผ่านเกณฑ์ใน กิจกรรม พฤติกรรมการกระทำ ๑คะแนนระดบั พอใช้ ระดับพอใช้ ๐ คะแนนระดับควรปรบั ปรงุ ขนี้ ไป
63 เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงาน ประเดน็ การประเมิน คะแนน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรงุ ) ผลงานไม่สอดคลอ้ ง ๑.ผลงานตรงตาม ผลงานมคี วามสอดคล้อง ผลงานมีความสอดคล้อง ผลงานมคี วามสอดคล้อง กบั เนอ้ื หาทีเ่ รียน จุดประสงค์ กับจดุ ประสงค์ของ กับจดุ ประสงคข์ อง กับจุดประสงค์ของ เนอ้ื หาสาระไม่ถกู ต้อง เนอ้ื หาท่เี รียนทกุ เน้ือหาทเี่ รยี นเป็น เนื้อหาที่เรียนบาง ผลงานไม่มีความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย ประเดน็ สว่ นใหญ่ ประเด็น สง่ งานชา้ เลยเวลาท่ี ๒.ผลงานมคี วาม เนื้อหาสาระถูกต้อง เน้อื หาสาระถูกต้อง เนอ้ื หาสาระถูกต้อง กำหนด ๓ วัน ถูกตอ้ ง สมบูรณ์ ครบถ้วน เป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น ๓.ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานมีความเปน็ ผลงานค่อนข้างเป็น ระเบียบเรยี บรอ้ ย ระเบียบเรยี บร้อย ระเบยี บเรยี บน้อยแต่ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยแต่ น่าอา่ น ยังมขี อ้ บกพรอ่ ง มีข้อบกพร่อง บางสว่ น เล็กน้อย ๔.การสง่ งานตรงต่อ สง่ งานตรงตามเวลา สง่ งานชา้ เลยเวลาที่ สง่ งานชา้ เลยเวลาท่ี เวลา ทก่ี ำหนด กำหนด ๑ วัน กำหนด ๒ วัน เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ระดบั คุณภาพ ๑๖ - ๒๐ ดีมาก ๑๑ – ๑๕ ดี ๖ - ๑๐ พอใช้ ๑-๕ ปรับปรงุ
64 เกณฑ์การประเมินผล เรื่อง มารยาทในการอ่าน การประเมนิ ใบงานน้ี ให้ผูส้ อนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง ระดับคะแนน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) เกณฑ์การประเมนิ มมี ารยาทในการอ่าน มีมารยาทในการอา่ น มมี ารยาทในการอา่ น มมี ารยาทในการอา่ น มารยาทในการอ่าน อยเู่ สมอจนเปน็ นิสยั อย่เู สมอจนเป็นนสิ ยั เกือบตลอดเวลา เปน็ บางเวลา แตไ่ ม่สามารถ และรู้สกึ ตัว สามารถประเมนิ สามารถประเมนิ ประเมินตนเอง เม่อื มีผู้แนะนำ และปรับปรงุ และปรบั ปรุง เพอื่ ปรับปรงุ ตนเองได้ รวมทัง้ ตนเองได้ ข้อบกพรอ่ งได้ แนะนำใหผ้ ู้อน่ื ต้องใหผ้ ้อู น่ื แนะนำ ปฏิบตั ิดว้ ย
65 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำกิจกรรมรายบุคคล คำชแี้ จง ให้ทำเคร่ือง หมายลงในชอ่ งรายการสงั เกตพฤติกรรมท่นี ักเรียนปฏบิ ัติ รายการ ใหค้ วาม มคี วามกลา้ ปฏบิ ัตติ าม สรปุ ผลการ เลขที่ ช่อื -สกุล ร่วมมอื ในการ แสดงออก คำสัง่ ในการ ประเมนิ ทำกิจกรรม ทำกจิ กรรม ๐ ๑ ๐ ๑ ๐ ๑ ผา่ น ไมผ่ า่ น ลงชอื่ …………………………………….ผปู้ ระเมิน (…………………………………….) …………/……………./…………
66 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำกจิ กรรมกลุ่ม คำช้แี จง ใหท้ ำเครื่อง หมายลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่นักเรียนปฏบิ ัติ รายการ ให้ความ มคี วามกลา้ ปฏบิ ัตติ าม สรุปผลการ เลขที่ ช่ือ-สกุล ร่วมมือในการ แสดงออก คำสงั่ ในการ ประเมนิ ทำกจิ กรรม ทำกจิ กรรม ๐ ๑ ๐ ๑ ๐ ๑ ผ่าน ไมผ่ า่ น ลงช่อื …………………………………….ผู้ประเมิน (…………………………………….) …………/……………./…………
67 ๑๒. กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ๑๓. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นักเรียนทงั้ หมดจำนวน.....................คน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จำนวนนักเรยี นที่ผา่ น จำนวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ น ข้อที่ จำนวนคน ร้อยละ จำนวนคน รอ้ ยละ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘
68 ๑๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ................................................................................................................................. ................................. ๑๕. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ลงช่อื ........................................................................ (………………………………………………………..) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ....................................... ลงชอื่ ................................................................ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (………………………………………………………..) ลงชอ่ื .......................................................... รองผูอ้ ำนวยการกล่มุ บริหารวิชาการ (………………………………………………………..)
69 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา ได้ทำการตรวจแผนการเรยี นรูข้ อง....................................................แลว้ มคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี ๑. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ ๒. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ลงช่อื ............................................................................................... ( ………………………………………………… ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..
70
71
72
73
74
Search
