คมู่ ือการใชส้ อื่ นวตั กรรม อะ้ ดเีดเอดรี เ หนุ่ จาลองอวัยวะ เพอื่ พัฒนาทักษะพนื้ ฐานทาง วทิ ยาศาสตร์ นางสาวประภาศรี สายมงคล ตาแหนง่ ครู โรงเรยี นเทศบาล ๑๐ (อนบุ าลเทศบาลเมอื งสระบรุ )ี สงั กดั สานกั การศกึ ษา เทศบาลเมอื งสระบรุ ี
2 คำนำ การเรยี นการสอนโดยใชส้ ่ือนวัตกรรมหนุ่ จาลองอวัยวะเป็นแนวคิดใหม่ในการจดั การกบั เน้ือหาทยี่ าก ซับซ้อนและมีรายละเอยี ดเป็นรูปธรรม เนื่องจากรา่ กายของเราประกอบด้วยอวยั วะภายนอกและภายใน ซงึ่ อวยั วะทสี่ ามารมองเหน็ ไดเ้ รียกวา่ อวัยวะภายนอกและอวัยวะทไ่ี ม่สามารถมองเห็นไดค้ ืออวัยวะภายใน ส่อื นวัตกรรมหนุ่ จาลองอวยั วะจึงถกู สร้างขนึ้ เพื่อให้มีการสรปุ เนอื้ หาให้เป็นรปู ธรรมและเขา้ ใจในบทเรียนอยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ และเป็นส่ือการเรยี นร้ทู ส่ี ามารถจูงใจให้ผู้เรยี นอยากค้นหาความรู้ ทง้ั น้ี การสอนโดยใช้สอ่ื นวตั กรรมหุ่นจาลองอวยั วะพัฒนาทกั ษะพ้นื ฐานทางวทิ ยาศาสตร์น้จี ะต้องใชค้ วบคู่กนั ไปกับคู่มือการใช้ส่อื นวัตกรรมหนุ่ จาลองอวยั วะเพ่ือใหเ้ กิดประสิทธภิ าพสูงสดุ สาเหตุทเี่ ลอื กผลิตสื่อนวัตกรรมหนุ่ จาลองอวยั วะพร้อมคู่มือการใช้น้ีขึน้ เพราะสามารถนาไปใช้ในการ เรียนการสอนวทิ ยาศาสตร์ได้จรงิ นอกจากน้ีแล้ว ยงั สามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับการเรียนการสอนในกล่มุ สาระการเรยี นรู้อืน่ ได้อีกด้วย ประภาศรี สายมงคล
สำรบญั 3 เน้ือหำ หนำ้ คานา 1 คมู่ ือการใชส้ ือ่ ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตาหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน 11 พทุ ธศกั ราช 2551 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 13 ส่วนประกอบของส่ือนวัตกรรมหุ่นจาลองอวยั วะ 14 กาหนดการจดั การเรียนรู้ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 19 แผนการจัดการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 อวัยวะภายนอก 20 แผนการจดั การเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 2 ตา 21 แผนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 3 หู 22 แผนการจัดการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 4 จมูก 24 แผนการจดั การเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 5 ปาก 25 แผนการจดั การเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 6 มือและนิ้วมอื 26 แผนการจดั การเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 7 ขาและเทา้ 27 แผนการจดั การเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 8 อวยั วะภายใน 29 แผนการจดั การเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 9 หน้าท่ีของอวัยวะภายใน ภำคผนวก 31 เอกสารอ้างองิ 32 แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน 33 แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลุ่ม 34 แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 36 ควิ อารโ์ คด้ อวยั วะภายนอก 37 ควิ อารโ์ ค้ดอวัยวะภายใน 38 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น
4 ใช้ประกอบในกำรประกวดแข่งขนั ส่ือนวัตกรรมทำงกำรศึกษำ ระดับภำคกลำง สพุ รรณบรุ ีวชิ ำกำร 65 ระหวำ่ งวนั ท่ี 19 - 21 สิงหำคม 2565 ณ จงั หวดั สพุ รรณบุรี คู่มอื กำรใชส้ ื่อกำรเรียนกำรสอน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ 1. ชอื่ สอ่ื นวตั กรรมหุ่นจาลองอวัยวะ 2. ชือ่ ผูผ้ ลติ สื่อ นางสาวประภาศรี สายมงคล โรงเรยี นเทศบาล 10 (อนบุ าลเทศบาลเมืองสระบุรี) สงั กัดสานกั การศึกษาเทศบาลเมืองสระบรุ ี อาเภอเมืองสระบุรี จงั หวดั สระบรุ ี 3. ใช้สื่อประกอบกำรสอน ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 4. หลักกำรและเหตผุ ล การผลิตสื่อการสอนเป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยส่งเสริมสนบั สนุนการจัดกระบวนการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ที่ง่ายและน่าสนใจกว่าการสอนด้วยวิธีการอ่านหนังสือหรือบรรยายให้ผู้เรียนฟังเป็นวิธีการแบบเก่าๆซึ่งใน ปัจจุบันมีเทคโนโลยีผลิตขึ้นมาตามวิวัฒนาการ ทาให้ครูผู้สอนต้องพัฒนาการสอนและค้นคว้าสิ่งใหม่ๆให้ ทันสมัยอยเู่ สมอ ผู้ศกึ ษาจงึ คิดผลิตส่ือโดยนาหลกั STEMศกึ ษาเขา้ มาบรู ณาการสร้างสรรคช์ ้ินงานด้วยวัสดุต่างๆ เพอ่ื ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตอ่ ผเู้ รียน ผู้ศึกษาจึงเกิดความคิดแปรสภาพของวัสดุที่สามารถหาได้ง่ายและมีความแข็งแรง มาประดิษฐ์เป็น ช้ินงาน ท่ีมีลักษณะแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร จึงได้คิดเพ่ือวางแผน ออกแบบ จัดเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ จนถึงขัน้ ปฏิบตั เิ ปน็ ช้นิ งาน 5. ประโยชนท์ ่นี กั เรียนจะไดร้ ับ 5.1 นกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ทีเ่ ปน็ กลมุ่ เป้าหมาย ได้รับการสอนโดยใช้นวัตกรรมสอ่ื การเรียนรู้ ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสงู เพอื่ พัฒนาทกั ษะพืน้ ฐานทางวิทยาศาสตร์และผลการเรียนสงู ข้ึน 5.2 นักเรียนมีความพึงพอใจในการใช้ส่ือนวัตกรรมหุ่นจาลองอวัยวะ เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทาง วทิ ยาศาสตรจ์ ดั การเรยี นการสอน 5.3 เปน็ แนวทางให้ครผู ู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆสรา้ งนวตั กรรมท่เี ป็นแบบจาลองเพ่ือใช้ประ กอบการเรียนการสอน เพ่ือพัฒนาการเรียนของนักเรียนให้มีคุณภาพมากขึ้น สนองต่อพระราชบัญญัติ การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 22 6. ลักษณะของส่ือ การผลิตส่ือการสอน นวัตกรรมหุ่นจาลองอวัยวะเป็นเน้ือหาท่เี กยี่ วข้องกับเร่ือง รา่ งกายของเราซึ่งจะมี ท้ังอวัยวะภายนอกและภายในร่างกาย อวัยวะที่สามารถมองเห็นได้เรียกว่าอวัยวะภายนอกส่วนอวัยวะท่ีไม่ สามารถมองเห็นได้เรียกว่าอวัยวะภายใน ผู้ศึกษาจึงคิดผลิตสื่อโดยนาหลักSTEMศึกษาเข้ามาบูรณาการ
5 สร้างสรรค์ชน้ิ งานด้วยวัสดุต่างๆเพื่อให้ผู้เรียนเกดิ ความเข้าใจและสามารถจาแนกอวัยวะต่างได้และยงั สามารถ มองเหน็ ช้ินงานที่เปน็ รปู ธรรม เพือ่ พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของผู้เรียนใหส้ งู ขึ้น 7. วธิ ีกำรผลติ ส่ือกำรเรยี นกำรสอน 7.1 ขั้นตอนการจัดทา ออกแบบส่ือ 7.2 วสั ดุอุปกรณ์ 7.2.1 ไมอ้ ดั ขนาด 1 นิว้ 7.2.2 เหลก็ แบน 1 เส้น 7.2.3 ตะปู 7.2.4 ผา้ สกั หลาด 7.2.5 เข็ม ด้าย 7.2.6 กาวยาง 7.2.7 ใยสังเคราะห์ 7.2.8 สที าไม้ 7.2.9 แผงวงจรไฟฟ้า 7.2.10 ชดุ RFID 7.2.11 ชดุ BUZEER MODULE 7.2.12 บอรด์ ควบคุม Node MCU ES8266 7.2.13 หลอดไฟแสดงผล LED 7.3 ขัน้ ตอนการทาสอ่ื 7.3.1 นาไม้อัดขนาด 1 นวิ้ มาตดั ใหไ้ ด้ขนาดตามทีร่ ่างไว้
6 7.3.2 นาไม้อัดที่ตดั แล้วมาประกอบกับเหลก็ ทตี่ ัดไว้ให้เป็นรูปร่างตามต้องการและทาสีพ้ืนหลงั
7 7.3.4 นาหุ่นและอวัยวะท่ีประกอบเสรจ็ แล้วไปเขียนโปรมแกรมและต่อวงจรไฟฟา้
8 7.3.5 นาหุ่นจาลองอวยั วะมาตกแตง่ ให้สวยงามเพื่อพร้อมใชป้ ระกอบการเรยี นการสอน 7.3.6 สร้างส่อื AR ด้วยโปรแกรม MyWebAR โดยมภี าพและเสยี งบรรยายอวัยวะของผู้ผลิตส่อื และตดิ คิว อาร์โค้ดไวท้ ีช่ น้ิ สว่ นอวยั วะเพ่ือใหน้ ักเรียนไดส้ แกนคิวอาร์โค้ดศกึ ษาชน้ิ สว่ นตา่ งๆ
9 8. วิธีกำรใช้สื่อ ส่ือการสอนนวัตกรรมหุน่ จาลองอวัยวะ เปน็ เนือ้ หาทเี่ ก่ียวข้องกบั เร่ือง ร่างกายของเรา กล่มุ สาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ครูผู้สอนนาสื่อนวัตกรรมหุ่นจาลองอวัยวะมาประยุกต์ใช้กับแผนการสอนในหน่วยการ เรียนรู้ที่ 2 เพอื่ พัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนกั เรียน ภาพกิจกรรมการเรียนการสอน เร่ืองอวยั วะภายนอก
10 ภำพกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน เรื่องอวยั วะภำยใน ๙. ระยะเวลำในกำรจัดทำส่ือ ระยะเวลาในการเริม่ จดั ทาสอื่ เมษายน 2564 ๑๐. งบประมำณ งบประมาณท่ใี ช้ในการทาส่ือการเรยี นการสอน สือ่ นวัตกรรมหนุ่ จาลองอวยั วะ 3,000 บาท ๑๑. ผลกำรทดลองใช้ นักเรยี นมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น เรือ่ ง รา่ งกายของเราท่ีสงู ขน้ึ
11 มำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตวั ช้ีวัด กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี รำยวิชำ วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ 11101 ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ 1 มำตรฐำน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศการ ตัวชีว้ ัด ว 1.1 ป.1/1 ถา่ ยทอดพลงั งาน การเปล่ียนแปลงแทนทีใ่ นระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ตวั ชวี้ ดั ว 1.1 ป.1/2 ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมแนวทางในการ มำตรฐำน ว 1.2 อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาส่งิ แวดล้อมรวมท้ังนาความร้ไู ปใช้ ประโยชน์ ตัวช้ีวดั ว 1.2 ป.1/1 ระบุช่อื พืชและสตั ว์ทีอ่ าศยั อยูบ่ ริเวณตา่ งๆ จากขอ้ มูลทีร่ วบรวมได้ ว 1.2 ป.1/2 บอกสภาพแวดล้อมทเ่ี หมาะสมกบั การดารงชีวิตของสตั วใ์ นบรเิ วณที่อาศยั อยู่ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออก จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และ มนษุ ยท์ ีท่ างานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวยั วะต่างๆ ของพชื ทีท่ างานสมั พนั ธ์กัน รวมทัง้ นาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ระบุช่ือ บรรยายลกั ษณะและบอกหน้าทขี่ องสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายมนุษย์ สัตว์ และพืชรวมทงั้ บรรยายการทาหนา้ ทรี่ ่วมกนั ของส่วนตา่ งๆ ของร่างกายมนุษย์ใน การทากิจกรรมต่างๆ จากขอ้ มูลท่รี วบรวมได้ ตระหนักถึงความสาคัญของส่วนต่างๆ ของร่างกายตนเอง โดยการดูแลส่วนตา่ งๆ อยา่ งถกู ตอ้ ง ใหป้ ลอดภยั และรกั ษาความสะอาดอยเู่ สมอ สำระท่ี 2 วิทยำศำสตรก์ ำยภำพ มำตรฐำน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการ เปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตวั ช้วี ดั ว 2.1 ป.1/1 อธิบายสมบัติท่ีสังเกตได้ของวัสดุท่ีใช้ทาวัตถุซึ่งทาจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลาย ชนดิ ประกอบกันโดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ว 2.1 ป.1/2 ระบุชนิดของวัสดุและจดั กลมุ่ วัสดตุ ามสมบัติทส่ี ังเกตได้ มำตรฐำน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของ
12 คลื่นปรากฏ -การณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารวมท้ังนา ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้วี ัด ว 2.3 ป.1/1 บรรยายการเกิดเสยี งและทิศทางการเคลอ่ื นท่ีของเสียงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ สำระที่ 3 วิทยำศำสตร์โลก และอวกำศ มำตรฐำน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผล ตอ่ สง่ิ มชี ีวติ และการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ ตัวชว้ี ดั ว 3.1 ป.1/1 ระบดุ าวท่ีปรากฏบนทอ้ งฟา้ ในเวลากลางวันและกลางคนื จากขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ ว 3.1 ป.1/2 อธบิ ายสาเหตทุ ่ีมองไม่เหน็ ดาวสว่ นใหญ่ในเวลากลางวันจากหลักฐานเชิงประจักษ์
13 สว่ นประกอบของสอื่ นวตั กรรมหุน่ จำลองอวัยวะ ส่อื นวตั กรรมหนุ่ จาลองอวยั วะพฒั นาทักษะพ้นื ฐานทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 1. อวัยวะภำยนอก 1.1 ตา 1.2 หู 1.3 จมกู 1.4 ปาก 1.5 มอื และนิ้วมอื 1.6 ขาและเทา้ 2. อวัยวะภำยใน 2.1 สมอง 2.2 หัวใจ 2.3 ปอด 2.4 กระเพาะอาหาร 2.5 ลาไส้ 2.6 กระดูก สื่อนวตั กรรมหนุ่ จาลองอวยั วะพฒั นาทกั ษะพน้ื ฐานทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรยี น ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 แตล่ ะอวัยวะท้งั ภายนอกและภายในมีความสอดคลอ้ งกันกบั เนื้อหาในบทเรียน วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่1 เร่ือง รา่ งกายของเรา
14 กำหนดกำรจดั กำรเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 11 ชว่ั โมง เรือ่ งร่างกายของเรา หนว่ ยกำร แผนกำรจดั จำนวน เร่ือง/เน้อื หำ สอื่ ทใ่ี ช้ เรยี นรู้ กำรเรียนรทู้ ่ี (ช่วั โมง) ประกอบกำร 1 1 ทดสอบก่อนเรียน/แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ สอน 2 ทางการเรียน 3 อวยั วะภายนอก ส่ือนวัตกรรม ตัวเรา 4 ตา หุน่ จาลอง 5 หู อวัยวะ 6 7 9 จมูก 8 ปาก 9 ความสาคัญของมอื นว้ิ มือ ความสาคัญของขาและเทา้ อวยั วะภายใน หนา้ ท่ีของอวัยวะภายใน 1 ทดสอบหลังเรยี น/แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียน รวม 11 ชั่วโมง
15 หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ 2 เรื่อง ร่ำงกำยของเรำ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี รำยวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์พน้ื ฐำน ว 11101 ช้ัน ประถมศกึ ษำปีที่ 1 เวลำ 9 ชัว่ โมง 1. มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั สำระที่ 1 สง่ิ มีชีวิตกบั กระบวนกำรดำรงชวี ิต มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ว 1.1 เขา้ ใจหนว่ ยพืน้ ฐานของสิง่ มีชีวิต ความสมั พันธ์ของโครงสร้าง และ หน้าท่ขี องระบบต่าง ๆ ของสิ่งมชี วี ิตท่ีทางานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สอื่ สารสง่ิ ทเี่ รยี นรู้ และนาความรู้ไปใช้ในการดารงชีวติ ของตนและดูแลส่งิ มชี วี ิต มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ว 1.2 เขา้ ใจสมบัตขิ องสง่ิ มีชวี ติ หนว่ ยพื้นฐานของส่งิ มชี ีวิต การลาเลยี งสาร เขา้ และออกจากเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของ โครงสร้าง และหน้าท่ขี องระบบต่างๆ ของสัตว์และมนษุ ยท์ ่ีทางาน สัมพนั ธก์ ัน ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ งและหน้าที่ของอวยั วะตา่ งๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธก์ ัน รวมทั้งนา ความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ช้ีวดั ว 1.1 ป.1/3 อวยั วะภายนอกของมนษุ ย์มีลักษณะและหน้าทแ่ี ตกต่างกัน อวัยวะเหลา่ น้ีมี ความสาคญั ต่อการดารงชวี ติ จงึ ตอ้ งดูแลรกั ษาและป้องกนั ไม่ให้อวยั วะเหลา่ นั้นได้รบั อันตราย ว 1.2 ป.1/1 ระบชุ อื่ บรรยาย ลักษณะและบอก หน้าที่ของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์ และพชื รวมทั้งบรรยายการทาหน้าที่ร่วมกันของ ส่วนตา่ ง ๆ ของ ร่างกายมนษุ ยใ์ นการทากิจกรรมตา่ ง ๆ จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ สำระท่ี 8 ธรรมชำติของวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรกู้ ารแก้ปญั หา รูว้ า่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเ่ี กิดขนึ้ ส่วนใหญ่ มรี ปู แบบท่ีแนน่ อน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเคร่ืองมือท่ีมอี ยู่ในช่วงเวลาสนั้ ๆ เขา้ ใจวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คมและสง่ิ แวดล้อมมีความเกี่ยวข้องสมั พนั ธ์กัน ตวั ชีว้ ัด ว 8.1 ป.1/1 ตั้งคาถามเกีย่ วกับเรอื่ งทจ่ี ะศึกษาตามท่กี าหนดใหห้ รอื ตามความสนใจ ว 8.1 ป.1/2 วางแผนการสังเกต สารวจ ตรวจสอบ ศกึ ษาคน้ คว้าโดยใช้ความคิด ของตนเองและครู
16 ว 8.1 ป.1/3 ใช้วสั ดอุ ุปกรณ์ในการสารวจ ตรวจสอบ และบนั ทึกผลดว้ ยวิธงี า่ ย ๆ ว 8.1 ป.1/4 จดั กลุ่มข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการสารวจ ตรวจสอบและนาเสนอผล ว 8.1 ป.1/5 ตัง้ คาถามใหมจ่ ากผลการสารวจตรวจสอบ ว 8.1 ป.1/6 แสดงความคิดเหน็ ในการสารวจ ตรวจสอบ ว 8.1 ป.1/7 บนั ทกึ และอธิบายผลการสงั เกต สารวจ ตรวจสอบ โดยการเขียนภาพ หรอื ข้อความสน้ั ๆ ว 8.1 ป.1/8 นาเสนอผลงานด้วยวาจาให้ผ้อู ื่นเขา้ ใจ 2. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด การอวัยวะภายนอกของมนุษยม์ ีลักษณะและหนา้ ทแี่ ตกต่างกนั อวยั วะเหลา่ น้ีมีความสาคญั ตอ่ การดารงชีวิตจงึ ตอ้ งดูแลรกั ษาและปอ้ งกันไม่ให้อวยั วะเหล่านน้ั ไดร้ บั อันตราย ระบชุ ื่อ บรรยาย ลกั ษณะและบอก หนา้ ท่ีของสว่ นตา่ งๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์ และพืช รวมทั้ง บรรยายการทาหนา้ ที่ร่วมกันของ สว่ นต่าง ๆ ของ ร่างกายมนษุ ย์ใน การทากจิ กรรม ต่าง ๆ จากข้อมูลที่ รวบรวมได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ ควำมรู้ ร่างกายมนุษย์ประกอบดว้ ยอวยั วะหลายอย่าง อวยั วะที่มองเห็น เชน่ แขน ขา หนา้ ตา จมูก เรียกวา่ อวัยวะภายนอก สว่ นอวยั วะทมี่ องไมเ่ ห็น เช่น ตบั หวั ใจ กระเพาะอาหาร เรยี กว่าอวยั วะภายใน อวยั วะแตล่ ะอวัยวะมีความสาคัญแตกต่างกนั ตามหน้าที่ของอวยั วะนัน้ ๆ ทักษะ/กระบวนกำร 1. การสงั เกต 2. การสารวจ 3. การตรวจสอบ 4. การจาแนกประเภท 5. การลงความคิดเหน็ จากข้อมูล 6. การตั้งสมมติฐาน 7. การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
17 คุณลกั ษณะ คุณธรรม จรยิ ธรรมและคำ่ นยิ ม 1. ความสนใจใฝ่รู้หรือความอยากรู้อยากเห็น 2. ความรบั ผดิ ชอบ ความมุ่งมั่น อดทน และเพยี รพยายาม 3. ความมเี หตผุ ล 4. ความมรี ะเบยี บและรอบคอบ 5. ความใจกวา้ ง รว่ มแสดงความคิดเหน็ และรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่นื 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซ่ือสัตยส์ จุ รติ 2. มวี นิ ัย 3. ใฝเ่ รียนใฝร่ ู้ 4. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 5. มจี ิตสาธารณะ 6. ชนิ้ งำน/ภำระงำน 1. การแสดงความคิดเหน็ ในเร่ืองทเี่ รยี นรู้ 2. การเขียนสรปุ โดยแผนภาพความคิด 3. การอภปิ รายรว่ มกัน 4. ใบกิจกรรม 7. กำรวัดและประเมนิ ผล 7.1 วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑก์ ำรประเมนิ วธิ กี ำร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ (ประเมินตามสภาพจริง) ท่ี 2 ท่ี 2 ตรวจใบงาน ใบงาน ร้อยละ 6O ผา่ นเกณฑ์
18 สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ น สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์ ในการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ 7.2 เกณฑก์ ำรประเมินชน้ิ งำน/ภำระงำน รำยกำรประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 นำ้ หนัก คะแนน 32 1.0 รวม 0.5 4 1. ความถูกต้อง มีความถูกตอ้ ง ผลงานสว่ นใหญ่ ผลงานมคี วาม ผลงานมคี วาม ชดั เจนสมบรู ณ์ ถูกต้องครบถว้ น ถกู ต้องเป็น ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ น 0.5 2 2. ความสะอาด ครบถ้วน บางสว่ น น้อย 0.5 เรียบร้อยสวยงาม ผลงานสะอาด ผลงานสะอาด ผลงานบางสว่ น ผลงานสว่ นใหญ่ 2 เรยี บรอ้ ย เรียบร้อย ไมส่ ะอาด ไม่สะอาด สวยงาม มรี อยขดี ลบน้อย ไม่เรียบรอ้ ย ไม่เรยี บร้อย 2 ไม่มรี อยขดี ลบ 3. ตรงต่อเวลา ส่งงานตรงเวลา ส่งชา้ กว่า สง่ งานชา้ กว่า สง่ งานชา้ กว่า ทก่ี าหนด กาหนด 1 วนั กาหนด 2 วัน กาหนดเกิน 2 4. เช่ือมโยงและ วัน ความคดิ คิดแปลกใหม่ คิดแปลกใหม่ คิดแปลกใหม่ คิดแปลกใหม่ สร้างสรรค์ เช่อื มโยงสัมพนั ธ์ เช่ือมโยงสมั พนั ธ์ เชื่อมโยงสมั พันธ์ เช่ือมโยงสมั พันธ์ สง่ิ ตา่ ง ๆ ได้ สง่ิ ต่าง ๆ ได้ สงิ่ ต่าง ๆ ได้ ส่งิ ตา่ ง ๆ ได้ อย่างถกู ตอ้ ง อยา่ งถูกต้อง อยา่ งถกู ตอ้ ง อย่างถูกต้อง เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางสว่ น เป็นสว่ นน้อย ระดบั คณุ ภำพ 9-10 หมายถงึ ดมี าก คะแนน คะแนน 7-8 หมายถงึ ดี คะแนน 5-6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0-4 หมายถึง ปรับปรงุ
19 8. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 อวัยวะภำยนอก จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. นกั เรยี นตัง้ คาถามเกย่ี วกับอวยั วะภายนอกได้ 2. นักเรยี นชีอ้ วัยวะภายนอกได้ 3. นกั เรียนบอกหนา้ ทีอ่ วัยวะภายนอกได้ 4. นักเรยี นทางานร่วมกับผู้อื่นได้ 5. นกั เรยี นร่วมอภปิ รายแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ บั ผู้อนื่ ได้ กจิ กรรม 1. ครใู ห้นักเรยี น 2 คน มายืนท่ีหน้าชัน้ เรยี นพรอ้ มกับหนุ่ จาลองอวัยวะ แล้วใหน้ กั เรยี น บอกวา่ เห็นอวัยวะตา่ ง ๆของร่างกายใดบ้าง ตั้งประเดน็ และร่วมอภปิ รายเก่ียวกับรา่ งกายของคนเรา 2. ครอู ธิบายเชื่อมโยงจากคาตอบของนกั เรยี นถึงรา่ งกายของเรา ประกอบดว้ ยอวยั วะ ตา่ ง ๆ ทัง้ อวัยวะภายในและอวยั วะภายนอกร่างกาย ซ่งึ อวยั วะทีเ่ ราสามารถมองเห็นไดเ้ รียกว่า อวัยวะภายนอก 3. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 6 คน คละกันตามความสามารถ 4. สมาชิกในแต่ละกล่มุ จับค่กู ัน แลว้ ให้แตล่ ะคผู่ ลัดกนั สารวจอวัยวะภายนอกของเพ่ือน แลว้ ช้บี อกตาแหนง่ ของอวัยวะตา่ ง ๆ ในใบกิจกรรม 5. ให้นกั เรียนรวมกลุ่มใหม่แล้วให้แต่ละคู่ผลดั กนั อธิบายให้สมาชิกอีกคู่อื่นฟงั และ ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง 6. ครูสุ่มนักเรียนออกมานาเสนอหน้าช้นั เรยี น ครูและเพื่อนกลุ่มอ่ืนช่วยเสนอแนะ เพม่ิ เติมในสว่ นท่ีบกพร่อง ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ ก่ียวกับอวัยวะภายนอกและหน้าที่ สอ่ื กำรเรียนรู้ 1. นกั เรียนในชนั้ เรยี น 2. ส่อื นวัตกรรมหุ่นจาลองอวัยวะ 3. ใบงานที่ 2.1 เร่ือง อวยั วะภายนอกร่างกาย
20 กำรวดั และประเมินผล วิธีกำร เครือ่ งมอื เกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงาน ใบงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และ แบบประเมินคณุ ลักษณะ มุ่งมนั่ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ ช่ัวโมงที่ 2 ตำ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1. นกั เรียนบอกความสาคัญของดวงตาได้ 2. นกั เรียนบอกวธิ ปี ้องกนั รักษาดวงตาได้ 3. นกั เรียนเขยี นแผนภาพความคิดเรอ่ื งดวงตาได้ 4. นกั เรียนรว่ มทากจิ กรรมด้วยความสนใจ กิจกรรม 1. ครูขออาสาสมคั รนักเรียน 6 คน ออกมาหน้าช้ันเรียน แล้วให้นักเรียนจบั คู่กนั เปน็ คู่ ใหค้ ทู่ ี่ 1 ปดิ ตาดว้ ยผา้ และคู่ที่ 2,3 ไมต่ ้องปิดตา แลว้ ใหน้ ักเรยี นแต่ละคหู่ ยิบดนิ สอทวี่ างอยู่ตรงหนา้ หลงั จากน้นั ใหน้ กั เรยี นทกุ คนปดิ ตาแล้วเดินหยิบสงิ่ ของท่ีครกู าหนดได้ 2. ครูใหน้ กั เรยี นตง้ั คาถามเกี่ยวกบั กิจกรรมที่ทา 3. ครูถามนักเรยี นทเี่ หลอื ว่า คูใ่ ดหยิบดนิ สอได้เรว็ กว่ากัน และเพราะอะไรคู่น้ันจึงสามารถ หยบิ ดินสอได้เรว็ กวา่ และการท่นี ักเรยี นปิดตากบั ไมป่ ดิ ตาการหยบิ สง่ิ ของแตกต่างกันอย่างไร 4. ครูอธบิ ายเพิ่มเติมจากคาตอบของนกั เรียน และสรุปร่วมกันถึงความสาคัญของดวงตา และการมองเหน็ 5. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาความรู้เร่ืองตา และการดูแลรักษาจากหนงั สือเรียนและส่ือนวัตกรรม หนุ่ จาลองอวยั วะ (ตา) โดยการสแกนควิ อารโ์ ค้ดท่ีตา 6. สมาชกิ ในกลุ่มเลือกตัวแทนกล่มุ ออกมาแสดงความคิดเหน็ ทห่ี น้าชัน้ เรยี นเกี่ยวกบั วิธีการ ดูแลรักษาตา กลุม่ ละ 1 ขอ้ จนครบทุกกลมุ่ 7. นักเรยี นแต่ละกลุ่มนาคาตอบทัง้ หมดมาเขยี นเปน็ แผนผังความคิดลงในใบงานท่ี 2.2
21 เรื่อง การดูแลรกั ษาตา 8. นักเรียนท้ังห้องร่วมกันสรุปความร้เู ก่ียวกับหน้าที่ ความสาคญั และวธิ ีการดูแลรักษาตา สื่อกำรเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.1 2. อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการทากิจกรรม 3. ส่ือนวัตกรรมหุน่ จาลองอวัยวะ (ตา) 4. ใบงานที่ 2.2 เรื่องการดแู ลรกั ษาตา กำรวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วิธีกำร ใบงาน ร้อยละ 6O ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงาน สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดับคุณภาพ 2 สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่นั ในการทางาน ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ ช่วั โมงท่ี 3 หู จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. นักเรียนบอกความสาคญั ของหไู ด้ 2. นกั เรียนบอกวิธีป้องกนั รักษาหูได้ 3. นักเรยี นเขยี นแผนภาพความคดิ เรือ่ งหูได้ 4. นกั เรยี นร่วมทากจิ กรรมดว้ ยความสนใจ กจิ กรรม 1. ครูเปิดวิทยุเสยี งดงั มาก ๆ ให้นักเรียนฟัง หลังจากนัน้ ครูหรี่เสยี งวทิ ยุลงใหด้ ังปกติ แล้วให้นักเรียนตั้งคาถาม และนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายคาถามของนักเรยี น
22 2. นักเรยี นร่วมกนั ศึกษาความรเู้ ร่ือง หู และการดูแลรักษา จากหนงั สือเรยี นและ ส่ือ นวัตกรรมหุน่ จาลองอวัยวะ (หู) โดยการสแกนควิ อาร์โค้ดที่หู 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับความสาคัญของหูและใหน้ ักเรยี น ทีเ่ คยมีปญั หาเกี่ยวกับหู ออกมาเล่าใหเ้ พ่ือนฟังทีห่ นา้ ชน้ั เรียน 4. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะหว์ า่ ถ้าเราไปอย่ใู นบรเิ วณที่มเี สยี งดงั มาก ๆ จะเป็น อันตรายต่อหูหรือไม่ และนักเรียนจะต้องปฏบิ ตั ิอย่างไร เพ่ือไม่ใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ หู 5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั สรุปความสาคญั ของการดูแลรักษาหู 6. สมาชกิ ในกลมุ่ ช่วยกันทาใบงานที่ 2.3 เรือ่ ง การดูแลรักษาหู 7. ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.3 8. นักเรยี นและครูช่วยกนั สรุปความรู้เก่ียวกับหน้าท่ีความสาคัญ และวิธีการดรู กั ษาหู สอ่ื กำรเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์ ป.1 และวีดีโอ 2. วิทยุ 3. สื่อนวัตกรรมหนุ่ จาลองอวยั วะ (หู) 4. ใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง การดูแลรักษาหู กำรวัดและประเมินผล วธิ ีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงาน สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ใบงาน ร้อยละ 6O ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ในการทางาน ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ ชวั่ โมงที่ 4 จมูก จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. นกั เรียนบอกความสาคัญของจมูกได้ 2. นักเรียนบอกวธิ ีป้องกันรักษาจมูกได้ 3. นักเรยี นเขียนแผนภาพความคดิ เรอื่ งจมูกได้ 4. นักเรียนรว่ มทากจิ กรรมดว้ ยความสนใจ
23 กิจกรรม 1. ครใู ห้นกั เรียนทุกคนนาดอกไม้มาคนละ 1 ดอก และให้ฝกึ ต้ังคาถามเกี่ยวกบั ดอกไม้ 2. ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกันอภปิ รายถงึ กลิ่นดอกไม้ท่ีนามา และเราได้กลน่ิ ดอกไม้ได้ อย่างไรและลงข้อสรปุ ร่วมกัน 3. ครใู ห้นักเรียนปิดจมกู และให้บอกความรู้สึกทเี่ กิดข้นึ กับตนเอง 4. ให้นักเรยี นศึกษาความรเู้ รื่อง จมกู ความสาคญั และการดูแลรักษา จากหนังสอื เรยี น และส่ือนวตั กรรมห่นุ จาลองอวยั วะ (จมูก) โดยการสแกนคิวอารโ์ คด้ ทจี่ มูก 5. สมาชิกในกลมุ่ ชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นวา่ นักเรียนจะมวี ิธีการดูแลรักษาจมูก ไม่ให้ ได้รบั อันตรายได้อย่างไร 6. สมาชกิ ในกลุม่ ช่วยกันทาใบงานท่ี 2.4 เรือ่ ง การดูแลรักษาจมกู 7. ครูให้นกั เรยี น ออกมาสรุปความร้เู กยี่ วกับหนา้ ท่ี ความสาคญั และวธิ กี ารดูแลรกั ษา จมกู แลว้ ให้เพื่อนกลุ่มอนื่ ชว่ ย เพมิ่ เติมในสว่ นท่ีแตกต่าง ส่อื กำรเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น วทิ ยาศาสตร์ ป.1และวดี ีโอเร่ืองจมูก 2. ดอกไม้ 3. สื่อนวตั กรรมหุน่ จาลองอวัยวะ (จมูก) โดยการสแกนคิวอารโ์ ค้ดทจ่ี มูก 4. ใบงานที่ 2.4 เรื่อง การดแู ลรกั ษาจมกู กำรวัดและประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วธิ กี ำร ใบงาน รอ้ ยละ 6O ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ตรวจใบงาน ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทางาน
24 ชัว่ โมงท่ี 5 ปำก จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. นักเรยี นบอกความสาคัญของปากได้ 2. นกั เรียนบอกวิธีป้องกันรักษาปากได้ 3. นกั เรยี นเขียนแผนภาพความคดิ เร่อื งปากได้ 4. นกั เรยี นร่วมทากิจกรรมด้วยความสนใจ กจิ กรรม 1. ครใู ห้นักเรยี นศึกษาจากหนงั สือวิทยาศาสตร์ และดภู าพวดี ีโอเรื่องระบบการยอ่ ย อาหารและรว่ มกันสรปุ ถึงอวัยวะที่สาคญั 2. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อภิปรายถงึ อวัยวะท่ีสาคัญ ๆ ในระบบย่อยอาหารไดแ้ ก่ ปาก กระเพาะอาหาร ลาไส้เลก็ 3. ครูอธิบายเพ่ิมเติมให้นกั เรยี นฟงั ว่า ปากของเรามีไวใ้ ชก้ นิ อาหารและพดู ในปากยงั มี ฟันไวเ้ คยี้ วอาหาร และมีลิน้ ไว้รับรสชาตขิ องอาหาร ถ้าปากของเราเป็นแผล เราจะพูดและกินอาหาร ไม่สะดวก เราตอ้ งดูแลปากและฟันของเราอย่เู สมอ 4. นกั เรยี นกลุ่มเดมิ รว่ มกนั ศึกษาความร้เู ร่อื ง ปาก และการดแู ลรักษา จากหนังสอื เรียนภาพและส่ือนวตั กรรมหุ่นจาลองอวัยวะ (ปาก) โดยการสแกนควิ อารโ์ คด้ ที่ปาก 5. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายเกีย่ วกบั หน้าท่แี ละวธิ กี ารดูแลรักษาปาก ครูให้นักเรยี นช่วยกันรอ้ งเพลง “แปรงฟัน” และทาท่าประกอบตามจินตนาการ เพลงแปรงฟัน ตืน่ เช้าเราแปรงฟัน กนิ อาหารแล้วเราแปรงฟัน ก่อนนอนเราแปรงฟนั ฟันสะอาดขาวเปน็ เงางาม แปรงฟนั ที่ถูกวิธี ดซู ติ อ้ งแปรงขึน้ ลง (ซำ้ ) 6. ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันวิเคราะหว์ ่า เพลงทช่ี ่วยกันร้องนเี้ ราต้องแปรงฟันในเวลาไหน บ้างครูอธบิ ายเพ่มิ เติมถงึ การแปรงฟันเปน็ วธิ ีท่ีช่วยในการดูแลรกั ษาปาก ซง่ึ ใน 1 วนั เราตอ้ งแปรงฟนั อย่างน้อยวนั ละ 2 ครัง้ คือ ตอนเชา้ หลงั ต่นื นอนและตอนเย็นก่อนเขา้ นอน ถา้ เราไม่แปรงฟนั ปากของ เราจะมกี ล่ินเหม็นและฟันผุ นอกจากน้เี ราตอ้ งแปรงฟนั อย่างถูกวธิ ี และรกั ษาความสะอาดของฟัน เพือ่ ป้องกันฟันผุ
25 7. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคนสบื คน้ ข้อมูลเก่ียวกับการแปรงฟนั ทถ่ี ูกวิธีแล้วนาไปปฏิบตั ิ แลว้ บันทกึ ลงในใบงานที่ 2.5 เรือ่ ง การแปรงฟนั และนาไปจัดปา้ ยนิเทศหนา้ ช้ันเรียน 8. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปความรเู้ รือ่ ง หน้าท่ี ความสาคญั และการดแู ลรกั ษาปาก และฟัน สือ่ กำรเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์ ป.1 เรอ่ื งความสาคัญของการดูและรักษาช่องปาก 2. เกม “บอกใบ้ทายคา” 3. เพลงแปรงฟนั 4. ส่อื นวัตกรรมห่นุ จาลองอวัยวะ (ปาก) โดยการสแกนควิ อาร์โคด้ ที่ปาก 5. ใบงานที่ 2.5 เรื่อง การแปรงฟัน กำรวดั และประเมนิ ผล วิธกี ำร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 6O ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ ชวั่ โมงที่ 6 มือและน้วิ มอื จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. นกั เรียนอธบิ ายลักษณะและองค์ประกอบของมือและน้วิ มือได้ 2. นักเรยี นบอกความสาคญั ของมอื และนิว้ มอื ได้ 3. นักเรยี นบอกประโยชนแ์ ละดูแลรกั ษามือและน้วิ มือได้ 4. นักเรียนสรุปการดแู ลรกั ษามือและน้ิวมือเปน็ ภาพความคิดได้ 5. นักเรยี นรว่ มทากจิ กรรมด้วยความสนใจ
26 กจิ กรรม 1. ครูถามนกั เรยี นวา่ ถ้านกั เรยี นมีแต่มือแต่ไม่มนี ิว้ มอื นักเรียนคดิ ว่าจะสามารถหยิบ สิง่ ของตา่ ง ๆ ไดห้ รือไม่ 2. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมจากคาตอบของนกั เรียน และให้นกั เรยี นลองกามือแล้วหยิบสิ่งของ เพ่อื ขยายความเขา้ ใจถงึ ความ สาคัญของนว้ิ มอื 3. นักเรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันศึกษาความร้เู รื่อง มอื และน้ิวมอื และการดูแลรกั ษา จากหนงั สอื เรียนภาพและส่ือนวัตกรรมหุ่นจาลองอวัยวะ (มอื ) โดยการสแกนควิ อาร์โค้ดท่ีมอื 4. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นาความร้ทู ไี่ ด้จากการศึกษามาเขียนสรปุ เป็นแผนผังความคิด ลงในใบงานท่ี 2.6 เรื่อง หนา้ ท่ีและการดแู ลรักษามือและนิ้วมือ ส่อื กำรเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน วิทยาศาสตร์ ป.1และวีดโี อ เร่อื งความสาคญั ของมือและนว้ิ มอื 2. สอ่ื นวตั กรรมหุน่ จาลองอวยั วะ (มือ) โดยการสแกนควิ อาร์โคด้ ที่มือ 3. ใบงานท่ี 2.6 เร่ือง หน้าที่และการดูแลรักษามอื และนว้ิ มอื กำรวดั และประเมินผล วธิ กี ำร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจใบงาน สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ใบงาน ร้อยละ 6O ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่นั ในการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ เกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ ชว่ั โมงที่ 7 ขำและเทำ้ จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 1. นักเรยี นอธบิ ายลักษณะและองค์ประกอบของขาและเท้าได้ 2. นักเรียนบอกความสาคญั ของขาและเทา้ ได้ 3. นักเรยี นบอกประโยชน์และดูแลรกั ษาขาและเท้าได้ 4. นักเรียนสรุปการดูแลรักษาขาและเทา้ เปน็ ภาพความคิดได้ 5. นักเรยี นรว่ มทากจิ กรรมด้วยความสนใจ
27 กิจกรรม 1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรยี นเกยี่ วกับอวัยวะทไี่ ด้เรียนไปแลว้ ทัง้ หมดวา่ มี อะไรบา้ งใหน้ ักเรียนศึกษาความรู้เรือ่ ง มือและน้วิ มือ และการดแู ลรกั ษา จากหนังสือเรยี นภาพและสอ่ื นวัตกรรมห่นุ จาลองอวัยวะ (เทา้ ) โดยการสแกนควิ อาร์โคด้ ทเี่ ทา้ 2. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นาความรู้ทไี่ ด้จากการศึกษามาสนทนารว่ มกันภายในกลุ่ม และ ชว่ ยกันเขียนแผนผังความคดิ แสดงหนา้ ทแ่ี ละการดูแลรักษาขาและเท้าลงในใบงานที่ 2.7 เร่อื ง หน้าทแ่ี ละการดูแลรกั ษาขาและเทา้ 3. นกั เรียนแต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมา 1 คน เพื่อนาคาตอบในใบงานที่ 2.7 ของกลมุ่ ตนเองไปอธบิ ายใหเ้ พ่ือนกลุม่ อ่นื ฟังเพ่ือนกลุ่มอ่ืนประเมินผลการอธบิ ายของตวั แทนกลมุ่ และให้ คะแนน พร้อมกบั แสดงความคดิ เหน็ เพิ่มเติมในสว่ นทีแ่ ตกต่าง เสร็จแล้วเก็บรวบรวมใบงานสง่ ครู สอ่ื กำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น วิทยาศาสตร์ ป.1 และวดี โี อ เรือ่ งความสาคญั ของขาและเท้า 2. สอื่ นวตั กรรมหุ่นจาลองอวยั วะ (เทา้ ) โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดทเ่ี ทา้ 3. ใบงานท่ี 2.7 เรือ่ ง หนา้ ที่และการดแู ลรักษาขาและเท้า กำรวัดและประเมนิ ผล วิธกี ำร เคร่อื งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 6O ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ทางาน ชวั่ โมงที่ 8 อวยั วะภำยใน จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นต้งั คาถามเกยี่ วกับอวัยวะภายในได้ 2. นักเรียนช้ีตาแหนง่ ของอวัยวะภายในได้ 3. นกั เรียนทางานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้ 4. นักเรยี นรว่ มอภปิ รายแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับผอู้ นื่ ได้
28 กจิ กรรม 1. ครใู ห้นกั เรียนมายนื หน้าชัน้ เรยี น 1 คน และนาสือ่ นวัตกรรมหนุ่ จาลองอวัยวะภายในมา ไวห้ น้าชน้ั เรยี นแลว้ ให้นกั เรียนบอกว่าเห็นอวยั วะต่าง ๆภายในของร่างกายใดบ้าง ต้งั ประเด็นและรว่ ม อภิปรายเกี่ยวกบั รา่ งกายของคนเรา 2. ครูอธิบายเช่ือมโยงจากคาตอบของนกั เรียนถึงรา่ งกายของเรา ประกอบดว้ ย อวัยวะ ต่าง ๆ ทั้งอวยั วะภายนอกและอวัยวะภายในรา่ งกาย ซ่ึงอวยั วะทเ่ี ราสามารถมองเหน็ ไดเ้ รียกวา่ อวัยวะ ภายนอกสว่ นอวัยวะทีเ่ ราไม่สามารถมองเห็นไดเ้ รียกวา่ อวยั วะภายใน 3. ครแู บ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความสามารถ สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มจับคู่กัน แล้วให้แต่ละคู่ผลดั กนั สารวจอวัยวะภายในจากสื่อนวัตกรรมหุน่ จาลอง อวัยวะ ที่ครผู ลติ ขึน้ แลว้ ชีบ้ อกตาแหน่งของอวัยวะต่าง ๆ และเลน่ เกมโดยการนาอวัยวะไปวางให้ตรง ตามตาแหน่ง หากนกั เรียนวางถูกตาแหน่งจะขึ้นไฟสเี ขียว แต่ถา้ หากวางผดิ ตาแหน่งจะขึ้นไฟสีแดง และมีเสยี งสญั ญาณเตือน 4. ให้นกั เรียนรวมกลุ่มใหม่แลว้ ให้แตล่ ะคูผ่ ลดั กนั อธบิ ายให้สมาชกิ อกี คูอ่ น่ื ฟัง และชว่ ยกัน ตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครสู ่มุ นักเรียนออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น ครูและเพื่อนกลุ่มอืน่ ชว่ ยเสนอแนะ เพม่ิ เติมในสว่ นทบ่ี กพรอ่ ง ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ ก่ยี วกบั อวยั วะภายในและหน้าท่ขี อง อวัยวะแต่ละอวัยวะ สื่อกำรเรียนรู้ 1. นักเรยี นชั้นเรยี น 2. สือ่ นวตั กรรมหุ่นจาลองอวยั วะ (อวยั วะภายใน) 3. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง อวยั วะภายในร่างกาย กำรวัดและประเมินผล วิธีกำร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงาน ใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ มงุ่ ม่นั ในการทางาน อันพงึ ประสงค์
29 ชว่ั โมงท่ี 9 หนำ้ ที่ของอวัยวะภำยใน จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นบอกหน้าทอ่ี วัยวะภายในได้ 2. นักเรียนทางานรว่ มกับผู้อื่นได้ 3. นกั เรียนร่วมอภปิ รายแลกเปลีย่ นเรยี นรกู้ ับผอู้ ่ืนได้ กิจกรรม 1. ครนู าส่ือนวตั กรรมหนุ่ จาลองอวยั วะ (อวยั วะภายใน) มาไว้หนา้ ชัน้ เรียน แลว้ ให้นกั เรยี น ทบทวนวา่ เห็นอวยั วะต่าง ๆภายในของร่างกายใดบ้าง 2. ครสู มุ่ นักเรียนใหอ้ อกมาเล่นเกมทบทวนความรู้ โดยการนาอวยั วะภายในไปติดใหต้ รง ตามตาแหนง่ หากนักเรียนวางถูกตาแหนง่ จะข้นึ ไฟสเี ขยี ว แต่ถ้าหากวางผดิ ตาแหน่งจะขึ้นไฟสีแดง 3. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กลุม่ กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความสามารถ สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ จบั คู่กนั แล้วให้แต่ละค่ผู ลดั กนั สารวจอวัยวะภายในจากส่ือนวัตกรรมห่นุ จาลอง อวยั วะ (อวยั วะภายใน) โดยการสแกนควิ อารโ์ ค้ดเพื่อดูและฟังหน้าที่ของอวยั วะภายใน 4. ครใู ห้นักเรียนจับคกู่ ันออกมาเล่นเกมตดิ อวัยวะภายในจากส่อื ที่ครผู ลติ 5. ครสู มุ่ นักเรยี นออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรียน ครแู ละเพอื่ นกลุ่มอนื่ ชว่ ยเสนอแนะ เพม่ิ เติมในส่วนทบี่ กพรอ่ ง ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความร้เู กย่ี วกบั อวยั วะภายในและหนา้ ท่ขี องอวยั วะ แต่ละอวัยวะ สื่อกำรเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นชน้ั เรยี น 2. ส่ือนวตั กรรมหุ่นจาลองอวยั วะ (อวยั วะภายใน) 3. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง อวัยวะภายในรา่ งกาย กำรวดั และประเมนิ ผล วิธีกำร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ตรวจใบงาน ใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และ แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ มงุ่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์
30 ภำคผนวก
31 เอกสำรอำ้ งองิ * ทศิ นา แขมมณี รูปแบบการเรียนการสอน ทางเลือกทห่ี ลากหลาย สานกั พิมพ์แหง่ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย , 2548 : 54 – 57 รูปแบบการเรยี นการสอนที่เน้นการบูรณาการโดยการสร้างเร่ือง (Storyline Method) ก.ทฤษฎี / หลกั การ พัฒนาขน้ึ โดย ดร.สตฟี เบ็ล และแซลลี่ ฮารค์ เนส (Steve Bell and Sally Harkness) จากสก็อตแลนด์ การเรียนการสอนโดยใชว้ ิธกี ารสร้างเรอื่ งน้ใี ชห้ ลกั การเรยี นรู้และการสอนอีกหลายประการ เช่น การเรียนร้จู ากสง่ิ ใกลต้ วั ไปสูว่ ิถีชีวติ จรงิ การสรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง และการเรียนการสอนโดยยึดผเู้ รียนเป็นศูนย์กลาง ข. วตั ถปุ ระสงค์ของรูปแบบ เพื่อช่วยพฒั นาความรู้ ความเข้าใจและเจตคติของผู้เรยี นในเรอื่ งทเี่ รยี น รวมท้ังทกั ษะกระบวนการตา่ งๆ เช่น ทักษะการคิด ทกั ษะการทางานร่วมกับผู้อ่นื ทกั ษะการแก้ปัญหา ทักษะการสื่อสาร เป็นตน้ ค. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ ขั้นท่ี 1 การกาหนดเส้นทางเดินเร่ืองใหเ้ หมาะสม โดยผู้สอนต้องวิเคราะห์จดุ มุ่งหมายและเนื้อหาสาระของหลักสูตร และเลือกหัวขอ้ เรื่องให้สอดคล้องกับเน้ือหาสาระของหลักสูตรท่ตี ้องการจะให้ผเู้ รยี นได้เรียนรู้ ขนั้ ที่ 2 การดาเนนิ กจิ กรรมการเรยี นการสอน ดาเนินกจิ กรรมไปตามลาดับ อาจใชเ้ วลาหลายคาบ แต่กอ่ นจะข้ึนกิจกรรมใหมผ่ ้สู อนควรเช่อื มโยงกบั เรือ่ งทคี่ า้ งไว้เดมิ ให้สานต่อกนั เสมอ และควรให้ผเู้ รยี นสรปุ ความคิดรวบยอดของแต่ละกจิ กรรม นอกจากน้ัน ควรกระตุ้นให้ผเู้ รียนศกึ ษาค้นควา้ ข้อมลู จากแหลง่ ความรู้ท่ีหลากหลาย เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนชนื่ ชมผลงานของกันและกนั และได้ปรับปรุงพัฒนางานของตน ข้นั ที่ 3 การประเมนิ ผู้สอนใช้การประเมินผลตามสภาพที่แทจ้ รงิ คอื การประเมินจากการสงั เกต การบันทกึ และการรวบรวมข้อมูลจากผลงานและการแสดงออกของผ้เู รียน และจัดลาดับท่ีเปรยี บเทียบกับกลุ่ม ง. ผลท่ผี ู้เรียนจะได้รับจากการเรียนตามรปู แบบ ผู้เรยี นจะเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ในเรอ่ื งทเ่ี รยี น ในระดับท่ีสามารถวิเคราะห์และสังเคราะหไ์ ด้ รวมทงั้ ได้พัฒนาทักษะกระบวนการต่างๆ
32 แบบประเมนิ ใช้ประเมนิ ไดท้ ุกแผนกำรสอน ขึ้นอยู่กับดุลยพินจิ ของครู แบบประเมิน คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทกี่ าหนด แลว้ ขดี ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ที่ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน 321 1 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วิธกี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม เกณฑก์ ำรตดั สินคุณภำพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............................/.................../................ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณช์ ัดเจนให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบำงสว่ นให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ให้ 1 คะแนน
33 แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกล่มุ คำช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน กำรแก้ไข ลำ ชอ่ื -สกุล ควำม กำรแสดง กำรรับฟงั ควำม ปญั หำ/ ดับ ของผรู้ ับ ร่วมมอื ควำม ควำม ต้งั ใจ หรอื รวม ที่ กำรประเมนิ กันทำ คดิ เห็น คิดเห็น ทำงำน ปรบั ปรุง 15 กิจกรรม ผลงำน คะแนน กลมุ่ 321321321321321 เกณฑ์กำรตัดสนิ คุณภำพ ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้งให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน
34 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่อง ท่ีตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงคด์ ้ำน 321 1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทสี่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษตั รยิ ์ ต่อโรงเรียน 2. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏิบัตติ ามหลักศาสนา 3. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่เี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโี่ รงเรียน 4. ใฝเ่ รียนรู้ จัดข้ึน 5. อยู่อยำ่ ง 2.1 ใหข้ ้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง พอเพียง 2.2 ปฏิบัติในสงิ่ ทถี่ กู ต้อง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั 6. มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4.1 รูจ้ กั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ิได้ 7. รกั ควำมเป็นไทย 4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม 8. มจี ิตสำธำรณะ 4.3 เชอ่ื ฟังคาสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง 4.4 ต้งั ใจเรยี น 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบัติและส่งิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรียน โรงเรียน
35 ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ำรตัดสินคุณภำพ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากว่า 30 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบำงคร้งั ให้ 1 คะแนน กำรวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ำร เครือ่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน (ประเมินตามสภาพจรงิ ) หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 ตรวจใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ในการทางาน ผา่ นเกณฑ์
36 ควิ อำรโ์ คด้ คำชี้แจง สแกนคิวอาร์โคด้ เพอ่ื เรยี นรู้เพิ่มเติมในรปู แบบของ AR เกีย่ วกบั อวัยวะตา่ งๆ อวัยวะภำยนอก ตตำ หู จมกู ปำก มือ เท้ำ
37 อวัยวะภำยใน สมอง หวั ใจ ปอด กระเพำะอำหำร ลำไส้ กระดูก
38 แบบทดสอบก่อนและหลงั เรยี น คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. อวยั วะใดท่ีทาให้เรามองเห็นส่ิงต่างๆ ได้ 6. เราควรดูแลรักษาตาอย่างไร ก. ตา ก. ตดั ขนตาให้สั้น ข. ค้ิว ข. ใชไ้ มเ้ ข่ียผงในตา ค. เปลือกตา ค. ไมใ่ ช้นวิ้ มือขยต้ี า 2. หน้าท่ีของหู คือข้อใด 7. อวัยวะใดทางานสัมพันธก์ นั ก. ใช้สมั ผสั ก. ตา ปาก ทอ้ ง ข. ใชด้ มกลน่ิ ข. ตา มอื ปาก ค. ใช้ฟังเสียง ค. ตา ลิ้น ฟนั 3. ตามปกติเราหายใจทางใด 8. ถา้ เราขาหักผลจะเปน็ อยา่ งไร ก. ปาก ก. เดินไม่ได้ ข. จมกู ข. นั่งไม่ได้ ค. ปากและจมูกพร้อมกัน ค. นอนไม่ได้ 4. ถา้ มีแมลงเขา้ หู ควรทาอยา่ งไร 9. การเดินไปมาของเราต้องใช้อวัยวะใด ก. ใช้ไมเ้ ขี่ย ก. ลาตัว ข. ตบหูแรงๆ ข. ขาและเทา้ ค. ใช้นา้ หยอด ค. แขนและมอื 5. ถ้าเรามีน้ามูกมาก ควรทาอยา่ งไร 10. ใครดแู ลอวัยวะได้ถูกต้อง ก. ใช้สาลีอุดจมกู ไว้ ก. แกว้ ใช้ไมแ้ คะขี้หูออกให้หมด ข. ส่ังน้ามกู เบาๆ ข. เกง่ ตัดเล็บมือให้สนั้ อย่เู สมอ ค. บีบจมกู แรงๆ ค. กอ้ ยย้อมสีผมเปน็ ประจา
39 11. อวยั วะใดทาหน้าทคี่ วบคุมการทางานของ 16. อวัยวะใดมหี นา้ ท่ีในการยอ่ ยอาหาร รา่ งกาย ก. ลาไส้ ข. สมอง ก. ลาไส้ ค. หวั ใจ ข. สมอง ค. ตบั 12. หวั ใจของเราทาหนา้ ทส่ี าคญั อย่างไร 17. ปอดมีทาหนา้ ทสี่ าคญั อย่างไร ก. ย่อยอาหาร ก. ยอ่ ยอาหาร ข. ฟอกอากาศ ข. ใชใ้ นการหายใจแลกเปล่ยี นแก๊ส ค. สบู ฉีดเลือดไปเล้ียงรา่ งกาย ค. ควบคุมการทางานของรา่ งกาย 13. อวัยวะภายในร่างกายขอ้ ใดมีขนาดใหญท่ ี่สุด 18. กระดูกมที าหนา้ ที่สาคญั อยา่ งไร ก. ตบั ก. หายใจ ข. หวั ใจ ข. ค้าจนุ โครงสรา้ งร่างกาย ค. กระเพาะอาหาร ค. ยอ่ ยอาหาร 14. อวัยวะใดไม่มีหน้าท่ีในการย่อยอาหาร 19. ขอ้ ใดเป็นอวัยวะภายนอกท้งั หมด ก. กระเพาะอาหาร ก. ตา หู ปอด ข. หวั ใจ ข. จมูก มอื หัวใจ ค. ลาไสเ้ ล็ก ค. ตา หู ปาก 15. กจิ กรรมใดช่วยพฒั นาสมองดีทีส่ ดุ 20. ข้อใดเปน็ อวยั วะภายในทั้งหมด ก. ทาความสะอาดบา้ น ก. ปอด หวั ใจ จมูก ข. ปลกู ต้นไม้ ข. กระเพาะอาหาร หัวใจ ปอด ค. ต่อจกิ ซอว์ ค. ลาไส้ กระดกู ปาก
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: