1 เอกสารประกอบการสอน DIGITAL MEDIA PRODUCTION รายวชิ าการผลติ ส่ือระบบดจิ ิทัล 1031502 ฟิ สิกส์ ฌอณ บวั กนก การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
2 บทที่ 5 ภาพดจิ ิทลั ภาพถ่ายดิจิทัลไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไปในยุคของโซเชียลมีเดีย(Social Media) การถ่ายภาพและอัพ โหลดภาพดิจิทัลไว้อวดกันเป็นเรื่องง่ายในยุคท่ีโทรศัพท์มือถือมีกล้องจับภาพดิจิทัล ส่วนกล้องท่ีเราใช้ บันทกึ ภาพในปจั จบุ นั กถ็ กู เปลี่ยนให้เปน็ กล้องดจิ ทิ ลั ซึ่งไม่มีการบันทึกลงฟิลม์อีกต่อไป ภาพดิจิทัล หรือ Digital Images เปน็ การจับภาพจากสิ่งแวดลอ้ มให้อย่ใู นรปู แบบของ รหสั Binary (0 และ 1) โดย Digital images จะ อยู่ในรูปของแผ่นตารางโดยแต่ละช่องจะเป็นส่วนหน่ึงของภาพ เรียกแต่ละจุดหรือช่องน้ันว่า \"pixel” ดังนั้น พื้นฐานการศึกษาภาพดจิ ทิ ลั จงึ ควรเรียนรู้ องค์ประกอบพ้นื ฐาน อันได้แก่ พิกเซล (Pixel), บิต(Bit), ไบต์(Byte) เพื่อจะได้เขา้ ใจหลกั การผลติ ภาพดจิ ทิ ัลอย่างแท้จริง 1. พิกเซล (Pixel), บิต(Bit), ไบต์(Byte) พิกเซล (Pixel), บิต(Bit), ไบต์(Byte) เป็นองค์ประกอบพ้ืนฐานที่ประกอบร่างขึ้นเป็นภาพอันแสน สวยงามท่ีเราเหน็ ตามภาพถ่ายต่างๆ หรอื แมแ้ ตภ่ าพถ่ายตวั เอง(selfie) ซง่ึ เนื้อหาของแต่อยา่ งมดี ังนี้ 1.1 พกิ เซล (pixel) คาว่า \"พิกเซล\" (pixel) มาจากคาว่า \"พิกเจอร์\" (picture) กับ \"เอเลเมนต์\" (element) โดย picture แปลวา่ รูปภาพ สว่ น element แปลว่า องค์ประกอบ ดังน้นั Pixel คือ ส่วนประกอบที่เลก็ ทส่ี ุดของภาพดิจิทัล เป็นส่วนของการแสดงผลภาพบนสื่อดิจิทัลที่มาจากสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์หรือแสดงโดยค่าเลขฐานสอง(พิก เซล คืออะไร, 2555) ภาพหน่ึงภาพจะประกอบด้วยพิกเซลที่มีลักษณะเป็นช่องส่ีเหล่ียมเล็กๆหลายๆมาเรียง ต่อกนั (ภาพที่ 5.1) พิกเซลเป็นค่าบนอุปกรณ์แสดงผล เช่นในกล้องถ่ายภาพแบบดิจิทัล (photo sensor) และ สามารถใช้เปน็ หน่วยของการวดั ความละเอียดของภาพ เช่น: 640 x 480 Pixel หมายความว่า มีความละเอียด 307,200 Pixel 1 pixel ภาพที่ 5.1 แสดงภาพจาลองขนาดของ Pixel (ขนาดเทา่ สี่เหลีย่ มเล็กๆ คือ 1 Pixel) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
3 ทม่ี า : http://www.smspower.org จากภาพท่ี 5.1 ขนาดของ 1 Pixel จะเป็นสีหนึ่งสีใดเพียงสีเดียวเท่าน้ันจะมีสีอ่ืนไม่ได้ เน่ืองจากเป็นส่วนที่เล็ก ท่ีสุดของการแสดงผล ฉะน้ันรูปภาพต่างๆท่ีนักศึกษาเห็นจึงประกอบด้วยหลายๆ Pixel มาเรียงต่อกันจนเกิด ภาพ แสดงดงั ภาพท่ี 5.2 ภาพที่ 5.2 แสดงการเรียงตอ่ กันของพกิ เซลให้เปน็ ภาพ ทม่ี า : http://www.shinyshiny.tv รูปภาพจะมีความคมชัดหรือไม่ชัดขึ้นอยู่กับจานวนพิกเซลของภาพน้ัน หากภาพมีจานวนพิกเซลมาก ภาพก็จะมีความชัดมากกว่าภาพท่ีประกอบด้วยพิกเซลน้อยๆ สามารถเปรียบความคมชัดของภาพจากการ เปรยี บเทียบจานวนพกิ เซลต่อภาพได้ดงั ภาพที่ 5.3 ภาพที่ 5.3 แสดงการเปรียบเทียบความคมชดั ของภาพจากจานวนพกิ เซล ที่มา : http://cdn.thegadgetflow.com การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
4 จากภาพที่ 5.3 จะเห็นว่าย่ิงมีจานวนพิกเซลต่อภาพมาเท่าไหร่ ความคมชัดยิ่งมากเท่านั้น ดังนั้นการ โฆษณาโทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายรูปได้ ทางบริษัทผู้ผลิตจะเอาจานวนพิกเซลท่ีกล้องของโทรศัพท์มือถือ รองรบั ไดม้ าเป็นจดุ เสนอขาย เพราะมันคือการยนื ยันว่ากลอ้ งของโทรศัพทน์ น้ั ๆสามารถถ่ายภาพได้ชดั เจนกว่า 1.2 บิต คาว่า “บิต” (bit) ย่อมาจาก binary digit คือลาดับช้ันของข้อมูลที่เล็กที่สุด ดังที่บรรยายไว้ในบทที่1 ว่าข้อมูลท่ีจะทางานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้นั้น จะต้องถูกแปลงให้อยู่ในรูปของเลขฐานสองเสียก่อน คอมพิวเตอร์ถึงจะเข้าใจ และทางานตามคาสั่งที่ต้องการ เม่ือแปลงเเล้วจะได้ตัวเลขเเทนสถานะเปิดและปิด ของสัญญาณไฟฟ้าคือ 0 และ 1 ซ่ึงไม่ว่าจะ 0 หรือ 1 เรียกว่า บิต น่ันเอง หากจะเรียกเต็มๆท่ีคือ bit 0 และ bit 1 ยกตวั อย่างเชน่ เลข 9 ในระบบเลขฐานสิบ เมื่อแปลงเป็นฐานสอง คือ 1001 นั้นคือประกอบด้วย 4 บิต นั่นเอง 1.3 ไบต์ คาว่า “ไบต์” (Byte) เป็นหน่วยของข้อมูลเลขฐานสอง 8 หลัก หรือ 8 บิต (1 Byte = 8 bits) โดย Byte เป็นหน่วยที่คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ใช้แสดงตัวอักษร ตัวเลข หรือ สัญลักษณ์ต่าง ๆ Byte สามารถเก็บ ข้อความของบิตท่ีต้องการใช้ในหน่วยท่ีใหญ่ตามวัตถุประสงค์ของ โปรแกรมประยุกต์ (เช่นกลุ่มของบิตที่สร้าง เปน็ ภาพสาหรบั โปรแกรม เพือ่ แสดงภาพหรอื ข้อความของบิต ซง่ึ เปน็ ภาษาเคร่อื งของโปรแกรมคอมพวิ เตอร์) ในระบบคอมพิวเตอร์บางระบบ ใช้ 4 ไบต์(32 บิต) ประกอบเป็น 1 word โดยโพรเซสเซอร์ของ คอมพิวเตอร์ สามารถออกแบบให้หน่วยมีประสิทธิภาพในการอ่าน และประมวลผลแต่ละคาส่ัง ใน โพรเซสเซอร์บางรุ่นสามารถดูแลคาสง่ั แบบ 2-Byte หรอื 1-Byte Byte มีคาย่อเป็น \"B\" (bit ใช้คาย่อเป็นอักษรตัวเลข \"b\") หน่วยเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ จะวัดเป็น ทวีคูณของไบต์ เช่น ฮาร์ดดิสก์ขนาด 820 MB หมายถึง ข้อมูล 820 ล้านไบต์ หรือ megabyte ทวีคูณของ ไบต์มีพื้นฐานจากยกกาลังของ 2 และ แสดงออกเป็นเลขฐานสิบ เช่น 1 megabyte (1 ล้านไบต์) ซ่ึงมีค่าจริง คือ 1,048,576 ไบต์ (แต่ยังมีความสับสนจากผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ และดิกชันนารีบางส่วน ช้ีว่าไบต์ของหน่วยเก็บ ข้อมูลของคอมพิวเตอร ค์ วรจะคานวณด้วยกาลังของ 10 ดังนั้น megabyte จะต้องเป็น 1 ล้านไบต์แบบ เลขฐานสบิ ) นอกเหนือจากหน่วยของการแสดงเป็น Pixel แล้วยังมีคาว่า bpp ย่อมาจากคาว่า bits per pixel (บิตต่อพิกเซล) คือค่าของจานวนสีที่สามารถแสดงได้ในหนึ่งพิกเซล ดังที่บอกไปในข้างต้นว่า 1 Pixel จะ สามารถแสดงผลแสดงผลไดเ้ พียงสเี ดยี วเท่าน่ัน ดังน่นั ค่า bpp จะเป็นตวั บอกว่าใน 1 Pixel จะสามารถเปล่ียน สีได้ก่ีสี (รูปภาพจะไม่สวยถ้า Pixel หลายอันมาเรียงต่อกันแต่ทุกพิกเซลเป็นสีเดียวกัน) อาจเรียกว่า บิต (ฺbit) กไ็ ด้ เช่น ภาพขนาด 640x480x24b, 640x480x24bit หรือ 640x480x24บติ ดงั ตารางที่ 5.1 การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
5 ตารางท่ี 5.1 แสดงค่าของจานวนสที สี่ ามารถแสดงไดใ้ นหนึ่งพกิ เซล 1 bpp, =2 สี (ขาวดา) 14 bpp, =16,384 สี 2 bpp, =4 สี 15 bpp, =32,768 สี 3 bpp, =8 สี 16 bpp, =65,536 สี ( \"High color\") 4 bpp, =16 สี 17 bpp, =131,072 สี 5 bpp, =32 สี 18 bpp, =262,144 สี 6 bpp, =164 สี 19 bpp, =524,288 สี 7 bpp, =128 สี 20 bpp, =1,048,576 สี 8 bpp, =256 สี 21 bpp, =2,097,152 สี 9 bpp, =512 สี 22 bpp, =4,194,304 สี 10 bpp, =1,024 สี 23 bpp, =8,386,088 สี 11 bpp, =2,048 สี 24 bpp, =16,777,216 สี หรอื 16.8 million สี Truecolor 12 bpp, =4,096 สี 32 bpp, =4,294,967,296 สี 13 bpp, =8,192 สี ทีม่ า : พกิ เซล คืออะไร, (2555) คา่ ภาพถา่ ยท่วั ไปจะมีคา่ แสดงผล 8 bpp =256 สี (การแสดงผลในคอมพิวเตอร์รนุ่ เกา่ ๆ) 16 bpp=65,536 สี (รนุ่ ใหม่มานดิ นึ่ง) 24 bpp=16,777,216 สี (ไฟลร์ ปู สกลุ .jpg) 32 bpp=4,294,967,296 สี (การแสดงผลในจอคอมปจั จุบนั ) 2. ลกั ษณะภาพดจิ ิทลั ลักษณะของภาพดิจิทัล (Digital Images) มีความหมาย คือการทาให้ภาพเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และจัดเก็บอยู่ในรูปเลขฐานสอง ไม่ได้เก็บในลักษณะภาพถ่าย หรือ ภาพวาด ท่ีสามารถสัมผัสได้นั่นเอง เป็น การจับภาพจากส่ิงแวดล้อม หรือทาสาเนาภาพจากเอกสารภาพถ่ายให้อยู่ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ ภาพ ดิจิทัลจะอยู่ในรูปของแผ่นตาราง ซ่ึงแต่ละช่องจะเป็นส่วนหน่ึงของภาพหรืออักษร เรียกแต่ละจุดหรือช่องนั้น ว่า \"พิกเซล\" แต่ละพิกเซลจะถูกกาหนดให้มีระดับของความเข้ม ( สีดา สีขาว สีเทาหรือสีอ่ืนๆ) ซ่ึงแสดงให้อยู่ ในรูปของ รหัส Binary (0 และ 1) ตามท่ีได้กล่าวไว้แต่ต้น ซึ่งพบว่าแต่ละพิกเซลก็จะแทนด้วย Binary digital (bits) และจะถกู ลดขนาดลงดว้ ยวธิ กี ารทางคณติ ศาสตร์ (บีบอัดให้เลก็ ลง) แล้วถูกเก็บใน computer ดังภาพที่ 5.4 โดยแต่ละ bit จะถูกแปลและอ่านโดย computer (ถ้ายังจาได้จะเรียกว่า Decoder) ให้เป็นแบบ Analog ซงึ่ เปน็ รปู ภาพ หรือ แผน่ พิมพ์ทีม่ นุษย์เข้าใจและมองเห็นได้เป็นภาพ การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
6 ภาพที่ 5.4 ภาพแสดงตารางพิกเซลของภาพดจิ ิทลั ท่มี า : http://www.stou.ac.th ค่าทก่ี าหนดความคมชดั ของภาพเรียกว่า Resolution ความหมายของ Resolution เข้าใจอย่างง่ายๆ คือ ค่าความละเอียดในการแสดงผลของภาพ ยิ่ง Resolution มีค่ามากก็จะย่ิงมีความละเอียดสูง ความคมชัด ความชัดเจนของภาพก็จะเยอะ ความละเอียดของภาพ กาหนดเป็นตัวเลขคูณกัน เช่น 640 x 480, 1072 x 468, 1792 x 1344, 2560x1920 เป็นต้น ซึ่งเราคุ้นตากับตัวเลขคูณกันเหล่านี้อยู่แล้วเม่ือค้นหาภาพใน Google แม้กระท้งั เคร่อื งมอื อเิ ล็กทรอนิกส์ท่เี กีย่ วกับการสร้างภาพ รวมไปถงึ โปรแกรมตัดแต่งภาพ เป็นต้น Resolution เป็นความสามารถในการแสดงความละเอียดของภาพดิจิทัลอย่างท่ีกล่าวไป โดยความถี่ ของพิกเซลในการแสดงภาพหน่ึงๆจะถูกระบุในรูปของ dot per inch (dpi) หรือ pixels per inch (ppi) เป็น คาทั่วไปที่ใช้เรียกหรือบ่งบอกว่ามีการแสดงภาพอยู่ท่ีระดับ Resolution ที่เท่าไร โดยทั่วไปการระบุความ คมชัดของภาพจะ เรียกว่า “Pixel Dimension” คือการวัดขนาดทั้งในทางแนวนอนและแนวต้ังของภาพเป็น Pixel โดยบอกเป็น dpi เช่น 2,048 x 3,072 ประโยชน์ของการทราบค่า Pixel Dimension นอกจากทาให้ ทราบระดับความชัดของภาพแล้ว ถ้าสามารถทราบขนาดของ Pixel Dimension ก็สามารถคานวนขนาดไฟล์ ภาพ (File Size) เพือ่ สารองความจุในอุปกรณจ์ ดั เกบ็ ไฟลใ์ ห้เพียงพอต่อการจดั เกบ็ ได้ การคานวณหาขนาดไฟล์ภาพ (File Size) เป็นการคานวนหาขนาดพ้ืนที่หน่วยความจา มีประโยชน์ เพ่ือใช้ในการจัดเกบ็ ไฟล์ หน่วยทใี่ ชใ้ นการวัดขนาดไฟล์ เริ่มต้นจากหน่วยที่เล็กที่สุด ก็คือ บิต (Bit), 8 บิต = 1 ไบท์ (Byte), 1,024 Bytes = 1 กิโลไบท์ Kilobyte (KB), 1,024 KB = 1 เมกกะไบท์ Magabyte (MB), 1,024 MB = 1 เทราไบท์ Terabyte (TB) การคานวณหาขนาดไฟล์ภาพ จาเป็นต้องรู้ค่า Pixel Dimensions ของภาพ โหมดสี และ bit depth เสียก่อน ยกตัวอย่างเช่น Image Size ท่ีได้จากกล้องดิจิทัลท่ีมีขนาด Pixel Dimensions = 3,000 x 2,000 pixels โหมดสี RGB และจัดเก็บไฟล์เป็นแบบ JPEG (bit depth 24 bits) (กล้องดิจิทลั , 2553). จากขอ้ มลู ดงั กลา่ วสามารถคานวณหาขนาดไฟล์ได้ดังนี้ คอื การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
7 ขนาดไฟล์ = 3,000 x 2,000 = 6,000,000 pixels (แต่ละ Pixels ใช้เนื้อที่สาหรับเก็บข้อมูล 24 Bits หรือ 3 Bytes) = 6,000,000 x 3 = 18,000,000 byte คิดเป็น KB = 18,000,000/1024 = 17,578.125 KB คิดเปน็ MB = 17,578/1024 = 17.166 MB ดังน้ัน ไฟล์ภาพขนาด 3,000 x 2,000 Pixels ต้องใช้เนื้อท่ีในการจัดเก็บไฟล์ = 17.166 เมกกะไบท์ ค่าท่ีคานวณได้เป็นขนาดไฟล์จริงจะเห็นได้เมื่อไฟล์ดังกล่าวถูกเปิดในโปรแกรมตกแต่งภาพเช่น Photoshop ซ่ึงเม่ือเราส่ังให้โปรแกรม Photoshop จัดเก็บไฟล์ภาพ (Save file) โดยกาหนดให้เลือกจัดเก็บไฟล์ภาพเป็น แบบ Photoshop file (psd) โปรแกรมจะจัดเก็บไฟล์ภาพตามขนาดไฟล์จริง (ขนาดไฟล์ภาพไม่ถูก เปล่ียนแปลง) แต่ถ้าเลือกจัดเก็บไฟล์ภาพเป็บแบบ jpeg file ไฟล์ภาพที่เก็บจริงจะถูกบับอัดให้เล็กลงเพ่ือ ประหยดั เน้อื ทใี่ นการจดั เก็บ สิ่งจาเป็นหลักในการถ่ายภาพ คือ กล้องดิจิทัล โดยกล้องดิจิทัลได้เข้ามามีความสาคัญ และทดแทน กล้องถ่ายภาพแบบฟิมล์ ด้วยกล้องดิจิทัลมีคุณลักษณะองค์ประกอบ(Attribute) และหน้าที่(Function) ท่ีใช้ งานท่ีสะดวก ง่าย เพียงปลายนิ้วสัมผัส กล้องถ่ายภาพระบบดิจิทัล เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีได้รับความ นิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องด้วยสามารถโอนย้ายภาพเข้าสู่คอมพิวเตอร์ได้ทันที สามารถเผยแพร่ผ่าน อินเทอร์เน็ตได้สะดวกรวดเร็ว โดยอุปกรณ์กล้องดิจิทัลจะทางานด้วยตัวสร้างประจุไฟฟ้าท่ีเรียกว่า CCD (Charge Coupled Device) ภายในตัวกล้อง ผ่านการกระตุ้นด้วยแสงท่ีเข้ามาทางเลนส์ ส่งผลให้เกิดภาพบน ส่ือบันทึกภายในกล้อง เช่น Memory Stick, Memory Card ในหน่วยน้ีนักศึกษาจะได้เรียนรู้ทฤษฎีและการ ใช้งานกลอ้ งดจิ ทิ ลั 2 ประเภทคอื กล้องถ่ายภาพนง่ิ และภาพเคลื่อนไหว สาหรับใช้ภา่ ยภาพดจิ ิทัล 3. กลอ้ งถ่ายภาพดิจิทลั (Digital Camera) ความหมายของกล้องถ่ายภาพดิจิทัล (Digital Camera) ท่ีเข้าใจกันได้ง่ายคือ กล้องถ่ายภาพที่ไม่ต้อง อาศัยฟิล์ม แต่จะบันทึกข้อมูลภาพเป็นแบบดิจิทัล สามารถ พิมพ์ออกมา(print out) และการย้ายไปเก็บไว้ใน อุปกรณ์ดิจิทัล อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ memory card รวมไปถึงการจัดเก็บบนอินเตอร์เน็ตได้ น่ันเอง ซึ่งในความเป็นจริงกล้องดิจิทัลสามารถถ่ายภาพได้ทั้งภาพน่ิงและเคล่ือนไหว ซ่ึงกล้องถ่ายภาพ (Digital Camera) มดี ้วยกนั อยู่ 4 ชนดิ ดงั น้ี (กลอ้ งดจิ ิทลั , 2553). 3.1 กล้องดิจิทลั แบบพกพา (Digital Compact) กล้องดิจิทัลแบบพกพา เป็นกล้องใช้สาหรับการพกพา ตัวกล้องดิจิทัลมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ปัจจุบันมีการออกแบบรูปทรงให้สวยงาม ใช้งานง่ายเน่ืองจากระบบต่างๆจะถูกสร้างให้ทางานอัตโนมัติ มีการ ปรับความความชดั ด้วยตนเอง สามารถการกาหนดจุดโฟกับในการถ่ายภาพ บางรุ่นบางยี่ห้อยังสามารถลดการ ถ่ายภาพแล้วดวงตาเป็นสีแดงได้ เป็นต้น กล้องดิจิทัลแบบพกพาปกติราคาจะไม่แพงมากแต่มีข้อจากัดคือ การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
8 กล้องดิจิทัลแบบพกพาไมส่ ามารถเปล่ียนเลนสไ์ ด้ จดุ เด่นของกล้องชนิดน้ีคือไม่จาเป็นต้องมีทักษะการถ่ายภาพ กส็ ามารถถา่ ยออกมาใหช้ ดั เจนสวยงาม ตวั อย่างลกั ษณะกล้องดิจทิ ัลแบบพกพาแสดงไว้ดังภาพท่ี 5.5 ภาพที่ 5.5 แสดงกล้องดจิ ิทลั แบบพกพา (Digital Compact) ที่มา : http://www.gadgetspeak.com 3.1.1 ข้อดี กลอ้ งดจิ ิทัลคอมแพ็ค มดี งั น้ี 3.1.1.1 มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก 3.1.1.2 ราคาไมส่ ูงมาก 3.1.1.3 มคี วามเปน็ แฟช่ัน มรี ปู ร่างสวยงามน่าใช้ 3.1.2 ข้อเสยี ของกลอ้ งดจิ ิทลั คอมแพ็ค 3.1.2.1 มขี อ้ จากดั ของเลนส์ ทาใหไ้ ม่สามารถใชเ้ ทคนิคการถ่ายภาพได้หลากหลาย 3.1.2.2 คณุ ภาพของไฟล์ไมส่ งู มากดว้ ยขนาดเซ็นเซอร์ท่ีเล็กทาให้สีสันมีขอ้ จากดั 3.1.2.3 ด้วยความท่เี ป็นระบบอตั โนมัติดงั น้นั จึงมคี วามไมท่ นทาน ระบบรวนง่าย 3.1.2.4 กนิ แบตเตอร่ี เนือ่ งจากต้องเปิดจอ LCD ทุกครัง้ เวลาถ่ายรปู 3.1.2.5 ถ่ายภาพชัดเจน ได้อาจไมส่ ามารถถ่ายทอดอารมณท์ ี่แตกตา่ งหลากหลาย 3.2 กล้องโปรซมู เมอร์ Prosumer หรือ DSLR-Like กล้องโปรซูมเมอร์ Prosumer เป็นกล้องคอมแพคระดับสูง ท่ีพัฒนาข้ึนจากคอมแพคให้มี ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น CCD ใหญ่ขึ้น ซ่ึง CCD ย่อมาจาก Charge Coupled Device เป็น Sensor ของแต่ละ พิกเซล จะทาหน้าที่รับแสงและเปล่ียนค่าแสงเป็นสัญญาณแอนะล็อก ส่งเข้าสู่วงจรเปล่ียนค่าแอนะล็อกเป็น สญั ญาณดิจิทลั อกี ที เมอ่ื CCD ใหญข่ ้นึ เลนสก์ ็ต้องใหญข่ ึ้น ทาให้สามารถเก็บแสงได้มากข้ึนสีสันและมิติภาพจึง มีมากกว่าคอมแพค แต่อย่างไรกล้องประเภทน้ีก็ยังจัดว่าเป็นกล้องประเภท Compact แต่รูปลักษณ์คล้าย การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
9 กลอ้ ง DSLR จึงเรยี กว่า DSLR-Like ตวั กล้องไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้แต่จะมีเลนส์ซูมอเนกประสงค์ติดมาให้ อยู่แลว้ จึงเรยี กกันว่า Prosumer กลอ้ งประเภทน้จี ะมีบางส่วนทีเ่ ราสามารถปรับค่าต่างๆได้ (Manual) จึงทา ให้สามารถเพิม่ ลูกเลน่ ได้บา้ ง ลกั ษณะกลอ้ ง Prosumer แสดงไวด้ งั ภาพที่ 5.6 ภาพท่ี 5.6 แสดงกลอ้ งโปรซูมเมอร์ Prosumer หรอื DSLR-Like ทีม่ า : http://www.digital2home.com กล้อง DSLR-Like ภายในมีพื้นฐานมาจากกล้องคอมแพ็ค แม้จะมีขนาดเซ็นเซอร์ท่ีใหญ่ข้ึนแต่ ความเร็วในการถ่ายภาพก็ยังไม่สูงมาก ข้อดีอย่างหนึ่งท่ีเหนือกว่ากล้องคอมแพ็ค คือ ช่วงซูมค่อนข้างมาก เนื่องจากสามารถใส่ช้ินเลนส์ลงไปได้มากกว่ากล้องดิจิทัลคอมแพ็ค อีกทั้งชิ้นเลนส์ก็มีคุณภาพดีกว่ากล้องคอม แพ็คทั่วไป เหมาะสาหรับผู้เริ่มถ่ายภาพ เพราะความสามารถในการปรับค่ากล้องได้อย่างอิสระแบบกล้อง DSLR แตร่ าคายงั ไมแ่ พง รวมทงั้ ไม่ตอ้ งภาระการเปลี่ยนเลนส์ด้วยชว่ งซูมคอ่ นข้างมากอยู่แลว้ 3.2.1 ข้อดีของกล้องดจิ ิทลั DSLR Like มดี งั นี้ 3.2.1.1 ปรบั ตง้ั ค่ากลอ้ ง อาทิ สปีดชตั เตอร์, รูรบั แสง, และ ISO ได้อย่างอิสระ 3.2.1.2 ชว่ งซูมค่อนข้างมาก อาจจะซมู ไดต้ ้ังแต่ 10 – 20 เทา่ 3.2.2 ขอ้ เสยี ของกล้องดิจิทัลแบบ DSLR Like มดี งั น้ี 3.2.2.1 ความเร็วในการโฟกสั และความเรว็ ในการถา่ ยภาพต่อเนือ่ งไม่มากนัก 3.2.2.2 คุณภาพของภาพยังไมค่ ่อยสูง เนือ่ งจากขนาดเซ็นเซอร์เล็ก 3.2.2.3 ความทนทานนอ้ ย 3.3 กลอ้ ง DSLR (Digital Single Lense Reflex) กล้อง Digital Single Lense Reflex (DSLR) คาว่า SLR ย่อมาจาก Single Lense Reflex แปลว่า ใช้การสะทอ้ นของเลนส์ชุดเดียวทั้งแสงท่ีจะตกลงใน CCD และแสงที่เข้าสู่ตาในช่องมองภาพ ส่วนใหญ่ภาพที่ การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
10 เกิดในช่องมองภาพจะเกิดจากแสงจริงสะท้อนผ่านช้ินเลนส์เข้าสู่ตา ไม่ได้เกิดจากการรับภาพของ CCD จึงไม่ สามารถมองภาพผ่านทาง LCD ได้ ตัวกล้องมีเลนส์ขนาดใหญ่เพราะมีขนาด CCD ท่ีใหญ่ CCD รับแสงเฉพาะ ตอนท่ีม่านชัตเตอร์เปิดให้แสงผ่านเท่านั้น สามารถถอดเปล่ียนเลนส์ได้ เพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ มีท้ังเลนส์ที่มี ความยาวโฟกสั ทีต่ ายตัว(Fixed) หรอื เปล่ยี นความยาวโฟกัสได้ (Zoom) แต่มีกล้อง DSLR บางชนิดท่ีสามารถ มองภาพจาก LCD ได้โดยแยก CCD ออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกเอาไว้ประมวลผลภาพออกทาง LCD อีกชุดไว้ บันทึกภาพ กล้องประเภทนี้มีตัวกล้องท่ีใหญ่ กลไกการทางานของกล้องประเภทน้ีถือว่าเป็นพ้ืนฐานไปสู่การ ทางานของกล้องอ่ืนๆด้วย กล้อง DSLR มีเลนส์ตัวเดียว การReflexเกิดจากกระจกสะท้อนภาพอันหนึ่งซึ่งวาง อยดู่ า้ นหนา้ เซนเซอรร์ บั ภาพ ซ่ึงจะทาหนา้ ท่สี ะทอ้ นแสงทีผ่ ่านเขา้ มาทางเลนส์ข้ึนสู่ช่องมองภาพ (Viewfinder) กล้อง DSLR เป็นกล้องท่ีอาศัยการหักเหของกลไกกระจกภาพในตัวกล้องเพื่อให้เห็นภาพจากเลนส์โดยตรง (ต่างกับกล้องดิจิทัลคอมแพ็คที่จะเห็นภาพที่เกิดจากการประมวลผลแล้วจึงนามาแสดงผลผ่านจอLCD) กล้อง ชนดิ น้ีเป็นกลอ้ งที่มือสมัครเลน่ ใช้เพ่อื พฒั นาฝีมอื ไปจนถงึ ระดบั มืออาชีพได้ เป็นกล้องท่ีสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ เพื่อสร้างสรรค์ภาพในรูปแบบต่างๆตามคุณสมบัติของเลนส์แต่ละตัว และกล้องประเภทนี้จะมีขนาดเซ็นเซอร์ ภาพท่ใี หญก่ ว่ากลอ้ งสองชนดิ แรก จงึ ทาให้ได้คุณภาพของภาพและมิติภาพท่ีดีกว่า ลักษณะกล้อง DSLR แสดง ไวด้ งั ภาพท่ี 5.7 ภาพท่ี 5.7 แสดงกล้อง DSLR (Digital Single Lens Reflex) ที่มา : http://www.whitegadget.com ประเภทกล้อง DSLR สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การแบ่ง เช่นแบ่ง ตามการใช้งาน แบ่งกลุ่มตามการใช้เซ็นเซอร์รับภาพ เป็นต้น กล้องดิจิทัลแบบ DSLR เหมาะสาหรับผู้ที่ ตอ้ งการคุณภาพของภาพถ่ายที่มากย่ิงขึ้น โดยกล้องแบบนี้จะให้คุณภาพของภาพถ่ายท่ีสูงกว่ากล้องคอมแพ็ค หรือ DSLP Like คณุ ภาพไฟลด์ มี าก รวมท้ังยังเพ่ิมเติมเสริมแต่งอุปกรณ์ได้อย่างไม่จากัด แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ ราคาค่อนข้างแพงมาก ขนาดใหญ่ และน้าหนักค่อนข้างมาก รวมทั้งยังมีเสียงการทางานท่ีค่อนข้างดังอีก การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
11 ดว้ ย แตส่ ามารถสรา้ งสรรคภ์ าพถา่ ยอย่างไร้ขีดจากัด เนอื่ งจากมีเลนส์ให้เลือกมากมาย รวมท้ังความสามารถใน การปรับต้ังค่ากล้องต่างๆ สามารถทาได้อย่างอิสระ และนอกจากน้ันกล้องประเภทนี้ให้คุณภาพไฟล์สูง เหมาะสมกับการนาไปแต่งหรือขยายได้ และท้ายท่ีสุดเป็นเร่ืองของความเร็วและความทนทาน ท่ีสามารถ นาไปใชถ้ า่ ยในงานต่างๆได้เป็นอย่างดี 3.3.1 ขอ้ ดขี องกลอ้ ง DSLR มดี ังน้ี 3.3.1.1 คุณภาพของภาพถา่ ยดีมาก 3.3.1.2 มีความเรว็ ในการทางานค่อนข้างมาก 3.3.1.3 แข็งแรง ทนทาน 3.3.2 ขอ้ เสียของกล้อง DSLR มีดงั นี้ 3.3.2.1 ราคาแพง 3.3.2.2 นา้ หนักมาก 3.3.2.3 มเี สยี งการทางานท่ีคอ่ นข้างดัง 3.4 กล้องดิจิทัล Hybrid ปัจจุบันกล้องดิจิทัลแบบ Hybrid เป็นกล้องดิจิทัลรูปแบบใหม่ โดยย่ีห้อแรกม่ีผลิตข้ึนคือ Olympus กลอ้ งดิจิทลั แบบ Hybrid มีคณุ ภาพของภาพสงู และขนาดไม่ใหญ่มาก ราคาไม่แพง สาหรับนักศึกษาสุภาพสตรี ที่อยากได้กล้องดิจิทัลที่ให้คุณภาพไฟล์ดีๆ แต่ไม่อยากได้กล้องที่มีขนาดใหญ่ กล้องดิจิทัล Hybrid จึงเป็น คาตอบของความต้องการน้ัน หากจะเปรียบเทียบขนาดกล้องก็ประมาณว่าใหญ่กว่ากล้องคอมแพ็คเล็กน้อย มี เซ็นเซอร์รับภาพท่ีมีขนาดใกล้เคียงกับกล้องแบบ DSLR รวมท้ังยังสามารถเปล่ียนเลนส์เพ่ือสร้างสรรค์ภาพได้ อยา่ งไม่จากดั ลักษณะกล้องดิจิทัล Hybrid ดังภาพที่ 5.8 ภาพท่ี 5.8 แสดงกล้องดจิ ิทัล Hybrid ที่มา : http://www.whatsonxiamen.com การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
12 จากที่กล่าวมา จะเห็นว่ากล้องแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามฟังช่ันการใช้งาน แต่เรื่อง ของส่วนประกอบภายในของกล้องแต่ละชนิดต่างมีส่วนประกอบที่คล้ายคลึงกันซ่ึงเป็นส่วนประกอบสาคัญ พ้นื ฐานมดี ังนี้ 3.4.1 ตัวกล้อง (Body) ทาหน้าที่เป็นห้องมืด ป้องกันแสงภายนอกเข้าไปถูกฟิล์มที่บรรจุอยู่ ภายในและเปน็ ท่ียดึ ส่วนประกอบ ตลอดจนอปุ กรณต์ ่าง ๆ ที่ช่วยในการถา่ ยรปู 3.4.2 เลนส์ (Lens) ทาหนา้ ท่ีรับแสงสะทอ้ นจากวัตถุ สง่ ไปยังฟลิ ์มที่บรรจอุ ยู่ในตัวกล้องฟิล์ม จะบึนทึกภาพเอาไว้ กล้องบางชนิดสามารถถอด เปล่ียนเลนส์ได้ตามความต้องการ เช่น กล้องประเภท SLR (Single len Reflex) เลนส์จะผนึกอยู่ข้างหน้าตัวกล้อง ซึ่ง มีขนาดความยาวโฟกัสแตกต่างกนั เชน่ 50 มม . 35 มม . 105 มม . เป็นต้น 3.4.3 ชอ่ งมองภาพ (View Finder) ปกติชอ่ งมองภาพจะอยู่ดา้ นหลังของตัวกล้องเป็นจอมอง ภาพ ช่วยในการจัดองคป์ ระกอบของภาพ ใหม้ ีความสวยงามตามหลกั การศิลปะ 3.4.4 ชัตเตอร์ (Shutter) ทาหน้าที่ควบคุมเวลาฉายแสง (Exposure Time) หรือเรียกอีก อย่างหนึง่ ว่า ความไวของชัดเตอร์ (Shutter Speed) 3.4.5 แผน่ ไดอะแฟรม (Diaphram) ทาหน้าทีค่ วบคมุ ปริมาณความเข้มของการส่องสว่างของ แสงที่ตกลงบนแผน่ ฟลิ ์ม มีลักษณะเป็นแผน่ โลหะบาง ๆ หลาย ๆ แผ่นซ้อนเหลี่ยมกัน 3.4.6 รูรบั แสง (Aperture) เป็นรเู ปดิ ของแผน่ ไดอะแฟรมให้มีขนาดต่าง ๆ ตามต้องการ เช่น เม่ือตอ้ งการให้แสงเขา้ มากกเ็ ปิดรรู ับแสงให้มขี นาดใหญ่ และทางตรงกันข้าม ถา้ ต้องการปริมาณแสงเขา้ ไปถกู ฟลิ ์มนอ้ ยกเ็ ปิดรใู หเ้ ล็กลง การเปดิ ขนาดของรรู ับแสง แตกต่างกันน้ีมีตัวเลขกาหนดเอาไว้ ซ่ึงตัวเลขน้ีจะเป็นวงแหวน ติดอยู่ที่ตัวเลนส์เรียก ตวั เลขตา่ ง ๆ ว่าเอฟสตอป (F-Stop) หรือ เอฟนมั เบอร์ (F-Number) นอกจาก สว่ นประกอบทส่ี าคัญ ๆ ของกลอ้ งถ่ายรปู ดงั กล่าวแล้ว ผู้ใช้ควรจะศกึ ษาปุ่มปรับ ควบคมุ ต่าง ๆ ท่ีอยบู่ นกลอ้ ง 4. องคป์ ระกอบภาพและเทคนิคการถา่ ยภาพดว้ ยกลอ้ งดิจิทัลเพอื่ การสื่อสาร การถ่ายภาพเพื่อใหส้ วยงามและสามารถส่ืออารมณ์ ถา่ ยทอดความหมายจากภาพได้ ผู้ถ่ายจาเป็นต้อง เข้าใจองค์ประกอบภาพและเทคนคิ การถา่ ยภาพดว้ ยกลอ้ งดจิ ิทัล ซึ่งนอกจากจะทาให้ภาพถ่ายสวยงามแล้ว ยัง สามารถใช้ส่อื สารไดด้ ้วย พื้นฐานองค์ประกอบภาพและเทคนิคการถ่ายภาพด้วยกลอ้ งดิจิทลั มีดงั น้ี 4.1 ภาษากล้อง ลักษณะภาพที่เกิดจากมุมกล้อง สามารถทาให้ภาพมีความสวยงาม และทรงประสิทธิภาพในการ สื่อสาร ผู้ศึกษาการผลิตส่ือระบบดิจิทัล จึงควรเข้าใจและเลือกใช้ให้ถูกต้องเพื่อการส่ือความหมายได้ตาม วัตถุประสงค์ โดยภาษากลอ้ งที่นิยมใช้กนั โดยทว่ั ไปได้สรปุ ไว้ในตารางที่ 5.2 การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
13 ตารางที่ 5.2 ภาษากลอ้ ง/มมุ กลอ้ ง ซ่ึงใช้ระบลุ กั ษณะและขนาดของภาพ ลกั ษณะภาพ ภาพ ภาษา/ชอ่ื เรียก ภาพท5่ี .9 : Close-up : เ น้ น ค ว า ม ส า คั ญ ใ น CU ร า ย ล ะ เ อี ย ด ข อ ง object นั้นๆขนาด ของ ที่มา ภาพจะเห็นประมาณ http://www.toddmckim หวั ถึงคาง mey.com ภาพท5ี่ .10 : Medium ใช้ในกา รจับภาพผู้ Close-up : MCU ประกาศข่าวส่วนใหญ่ จะมีระยะใกล้ต้ังแต่ ทมี่ า ศรี ษะลงมาระดับบ่า http://www.thestar.com ภาพท5่ี .11 : Medium ภาพคร่ึงตัว จะเร่ิม Shot : MS ตั้งแต่หัวถึงเอว หรือ ลงมาอีกหน่อยถึงเข่าก็ ทม่ี า ได้ แยกเป็น medium http://image.desk7.net close up , medium Long shot และอื่นๆ ภาพ ข น า ด นี้ จ ะ เ น้ น ที่ ตั ว object รวม ๆ เห็น รายละเอยี ดภาพรวม การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
14 ภาพ ภาษา/ชอ่ื เรียก ลักษณะภาพ ภาพท5ี่ .12 : Long Shot : ภาพระยะไกล เป็น LS ภ า พ เ ต็ ม ตั ว ใ น ร ะ ย ะ ไ ก ล เ ห็ น ที่มา ร า ย ล ะ เ อี ย ด ข อ ง http://www.mentalhealt สภาพแวดล้อม ว่าทา h.org.uk อะไรที่ไหน ส่วนใหญ่ จ ะ ใ ช้ เ ล่ า เ ก่ี ย ว กั บ สถานท่ี เวลา ภาพท5่ี .13 : Moving Shot ภ า พ ท่ี เ กิ ด จ า ก ก า ร เ ค ล่ื อ น ก ล้ อ ง ด้ ว ย หรอื Dolly Shot หรือ ทิ ศ ท า ง อิ ส ร ะ ต า ม ผู้ กากับต้องการ Traveling Shot ท่ีมา http://jpotterxo.files.wor dpress.com ภาพท5่ี .14 : Point of ภาพแทนสายตา View Shot(P.O.V) ท่มี า http://ak.picdn.net การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
15 ภาพ ภาษา/ชอื่ เรียก ลกั ษณะภาพ ภาพท5ี่ .15 : Bird Eye ภาพมุมสูง กล้องอยู่ View : สงู ถ่ายลงมาหาวตั ถุ ท่มี า https://stmarystelford.ta w.org.uk ภาพท5่ี .16 : Ant Eye ภาพมมุ ตา่ กล้องอยู่ต่า View : ถา่ ยเสยข้นึ ไปหาวัตถุ ทม่ี า http://3.bblogspot.com ภาพท่ี5.17 : Over- ภาพผ่านไหล่ คือภาพ shoulder Shot ที่เห็นตัวแสดงคนหน่ึง ทีม่ า http://i.imgur.com โดยมองจากมุมมองท่ี ผา่ นไหล่ของตัวอกี คน การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
16 ภาพ ภาษา/ช่ือเรยี ก ลกั ษณะภาพ + ภาพท5ี่ .18 : Soft Shot ภาพท่ีให้อารมณ์อ่อน - น่มุ มกั ใช้เป็นภาพฟ้งุ ๆ ที่มา เ บ ล อ ๆ ด้ ว ย วิ ธี http://news.bcimg.co.uk ต่ า ง ๆ กั น ไ ป ข อ ง ช่ า ง กลอ้ งแต่ละคน ภาพท5ี่ .19 : Zoom In : ภ า พ ท่ี เ กิ ด จ า ก ก า ร ป รั บ เ ล น ส์ ก ล้ อ ง เ ข้ า Z/ I ใกล้วัตถุ ไม่ว่าจะเป็น ตัวละคร สตั ว์ สงิ่ ของ ที่มา http://www.webdgn.org ภาพที่5.20 : Zoom Out : ภาพท่ีเกิดจาการปรับ Z/O เลนส์กล้องให้ถอยห่าง ที่ ม า จากวัตถุนนั้ http://www.webdgn.org การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
17 ภาพ ภาษา/ชอ่ื เรยี ก ลกั ษณะภาพ ภาพท5ี่ .21 : Dolly In / Dolly In : D/ I ภาพที่ Dolly Out เ กิ ด จ า ก า ร เ ค ลื่ อ น กล้องเข้ารับภาพใกล้ ทม่ี า วตั ถุ http://origenarts.com Dolly Out หรือ Pull Back : D/ O ภาพที่เกิด จากเคลื่อนกล้องถอย ห่างจากวัตถุ ภาพท5ี่ .22 : Tilt Up / Tilt Tilt Up : T/U ภาพท่ีเกิด Down จากการยกหน้ากล้อง ขึ้น เปน็ ภาพมุมต่า ทมี่ า http://origenarts.com Tilt Down : T/D ภาพท่ี เ กิ ด จ า ก ก า ร ก ด ห น้ า กล้องลง เป็นภาพมุม สูง ภาพท5่ี .23 : Pan Right / Pan Right : ภาพท่ีเกิด Pan Left จากการผันหน้ากล้อง ไปทางขวา ทมี่ า http://origenarts.com Pan Left : ภาพท่ีเกิด จากการผันหน้ากล้อง ไปทางซา้ ย การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
18 ทม่ี า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2557) 4.2 องคป์ ระกอบภาพ ในการผลิตส่ือระบบดิจิทัลองค์ประกอบภาพที่ถูกต้องจะส่งผลให้ผู้ชมมีความเข้าใจหรือเกิดความช่ืน ชม ซ่ึงการจัดองคป์ ระกอบภาพสามารถใช้แนวทางดังตอ่ ไปนี้ (Digital Camera Technic, 2009) 4.2.1 ตาแหน่งจุดสนใจ (Point of Interest) ตาแหน่ง \"หน่ึงในสาม\" หรือจุดตัดเก้าช่องเป็นจุดที่เหมาะสาหรับจัดวาง \"จุดสนใจ\" ตรงจดุ ใดจุดหน่ึง หากมีจุดสนใจรองก็ให้วางในลักษณะทะแยงมุมต่อกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องวางจุด สนใจลงใน \"จดุ ตัด\" อยา่ งเคร่งครดั สามารถวางในตาแหน่งใกล้เคียง หรือวางไว้ที่ใดของภาพก็ได้ ตราบใดที่ทา ให้ดูแล้วมีความเหมาะสมสวยงาม ไม่ถือว่าผิดหลักการแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าถ้าวางจุดสนใจอยู่ตรงตาแหน่ง ที่ว่านี้ นับเป็นตาแหน่งทแี่ รงและสะดุดตาผ้ชู มไดง้ า่ ย ดงั ภาพท่ี 5.24 ภาพที่ 5.24 แสดงตาแหนง่ จุดตัดเก้าชอ่ ง ทีม่ า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2555) 4.2.2 เส้นกับมวล (Lines & Masses) ในภาพถ่ายทุกภาพต้องมีเส้นหรือมวล มวลก็คือกลุ่มก้อน ท้ังกลุ่มก้อนของคน หรือ ของวัตถุ ส่วนเส้นในที่น้ีหมายรวมทั้งเส้นบาง เส้นหนา เส้นตรง เส้นเฉียง เส้นคดเค้ียว ท้ังสองส่วนล้วนมี ความสาคัญไม่แพ้กัน เส้นและมวลควรมีช่องว่างที่มีจังหวะสวยงาม ไม่ควรให้ทับซ้อน หรืออยู่ห่างกันเกินไป ภาพท่ีมีเส้นหรือกลุ่มก้อนทับซ้อนกัน ดูแล้วเกิดความยุ่งเหยิง เป็นสิ่งท่ีควรหลีกเล่ียงภาพใดก็ตาม หาก ปราศจากเส้นหรือมวลใด ๆ จะเป็นภาพขึ้นมาไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าภาพน้ัน จะเน้นเส้น หรือกลุ่มก้อนให้ดูโดด การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
19 เด่นโดยเฉพาะเทา่ น้ัน แสงจะมบี ทบาทท่ีสาคญั ในเรอื่ งน้ี หากถา่ ยภาพในห้องถ่ายภาพ ผู้ถ่ายสามารถเลือกสรร ในการจัดแสงอย่างไรกไ็ ด้ ดงั ภาพที่ 5.25 ภาพที่ 5.25 แสดงเส้นกับมวล ที่มา : ฟิสิกส์ ฌอณ บวั กนก (2556) 4.2.3 ทิศทาง (Direction) การถ่ายภาพควรพยายามกาหนดทิศทางให้แก่ภาพ จะเป็นทิศทางจากซ้ายไปขวา ตามลักษณะของการอ่านหนังสือ จากล่างขึ้นบนหรือเป็นลักษณะทะแยงมุม เม่ือภาพมีทิศทางจะทาให้สายตา ของผู้ชมมกี ารเคลื่อนทีไ่ ปตามทศิ ทางนนั้ ภาพทด่ี ตี ้องสามารถทาใหผ้ ู้ชมกวาดสายตามองภาพอย่างชื่นชมไปทั่ว ทง้ั ภาพได้นาน (รถหรือเรอื ต้องแสดงใหเ้ หน็ ว่ากาลังเดนิ หน้าหรือถอยหลงั ) ดงั ภาพท่ี 5.26 การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
20 ภาพที่ 5.26 แสดงทิศทางของภาพ ท่ีมา : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2555) 4.2.4 เส้นนาสายตา (Leading Lines) ภาพท่ีมีเส้นนาสายตาจะทาให้ผู้ชมภาพเข้าใจเร่ืองราวของภาพง่ายขึ้น ในบางภาพ อาจไม่มีเสน้ นาสายตา ขน้ึ อยูท่ ีผ่ ูส้ ร้างผลงานจะใช้เส้นดงั กลา่ วเป็นการเจาะจงหรือไม่ เส้นนาสายตาอาจไม่เห็น เปน็ เสน้ ชดั เจน หรือรูปธรรมเสยี ทีเดยี ว เชน่ เสน้ ของสายตาที่มองไป เส้นนาสายตามีส่วนทาให้ภาพมีความลึก หรือมิตทิ ดี่ ีด้วย ดงั ภาพที่ 5.27 ภาพท่ี 5.27 แสดงเส้นนาสายตา ทมี่ า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2556) 4.2.5 ดุลยภาพ (Balance) ดุลยภาพหรือความสมดุล อาจเกิดข้ึนได้จากส่ิงท่ีมีรูปร่างและลักษณะคล้ายคลึงกัน วางอยู่ทางด้านซ้ายกับด้านขวา หรือข้างล่างกับข้างบนประกอบให้ภาพมีความสมดุล หรือแม้ว่าด้านใดด้าน หนง่ึ มสี งิ่ ท่มี ีรูปร่างไมค่ ลา้ ยกนั กบั อีกดา้ นหนงึ่ ก็อาจทาให้เกดิ ดุลยภาพขนึ้ ได้เช่นกัน โดยอาศัยท่ีว่างหรือช่องไฟ ทางดา้ นหนา้ หรอื ทางด้านหลังของจุดสนใจทาให้เกิดดุลยภาพในภาพข้ึน ดุลยภาพท่ีดีต้องไม่ปล่อยให้ข้างหนึ่ง ข้างใดมีส่ิงมากเกินไปแล้วอีกข้างหนึ่งมีน้อยเกินไป ทั้งน้ีมิได้หมายความว่า ถ้าข้างซ้ายมีของ 5 อย่างแล้วข้าง ขวากต็ อ้ งมี 5 อยา่ งดว้ ย จึงจะได้ชื่อว่ามีการสมดุล แต่อยา่ งไรตอ้ งคานึงขนาดด้วยถ้าของขนาดไม่เท่ากันอาจไม่ การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
21 ต้องมีจานวนเท่ากันก็ได้ทั้งสองฝั่ง หลักการน้ีค่อนข้างจะกาหนดออกมาเป็นหลักการตายตัวได้ยาก ตราบใดท่ี ภาพนน้ั ดูแลว้ สบายตา ดแู ล้วสบายใจ ภาพไมเ่ อียงไปข้างใดข้างหนง่ึ ก็ถือว่ามดี ลุ ยภาพ ดงั ภาพท่ี 5.28 ภาพที่ 5.28 แสดงดุลยภาพ (Balance) ทม่ี า : ฟิสิกส์ ฌอณ บัวกนก (2556) 4.2.6 ลีลาและชอ่ งไฟ (Rhythm) เส้นและมวลท่ีทาให้เกิดลีลาชวนดู เพราะมีช่องว่างหรือช่องไฟที่พอเหมาะพอควร อยู่ในระยะที่สวยงามตามขนาดของวัตถุน้ัน ๆ จะสามารถสร้างความประทับใจได้มาก ลักษณะเส้นโค้งลีลา อ่อนช้อยและมีระยะห่างกันพอควร สามารถดึงดูดสายตาให้มองตามเน้ือหาอย่างมีจังหวะจะโคนการจัดระยะ ชิด-ห่างของวตั ถุ ดงั ภาพที่ 5.29 การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
22 ภาพท่ี 5.29 แสดงลีลาและชอ่ งไฟ (Rhythm) ท่มี า : ฟิสิกส์ ฌอณ บัวกนก (2555) 4.2.7 นา้ หนกั ของสี (Tone) น้าหนักของสีในภาพถ่ายมีตั้งแต่สีอ่อนมากไปจนถึงสี เขม้ มาก ภาพท่ีมีน้าหนักสีจากอ่อนสุดไปจนถึงสีเข้มสุด เรียกว่า น้าหนัก สีต่อเน่ือง (continuous) ภาพที่มีน้า หนักสีไปทางสีอ่อนเป็นปริมาณมากเกือบทั้งภาพ เรียกวา่ ภาพ \"บนั ไดสีออ่ น\" (High key) ส่วนภาพท่ีมีน้า หนักสีไปทางเข้มเป็นส่วนใหญ่ก็เป็นภาพ \"บันไดสีแก่\" (Low key) ภาพบันไดสีอ่อน แสดงถึงความบริสุทธิ์ ความรา่ เริง แจ่มใส ส่วนภาพบันไดสีแก่ หมายถึงความ กดดัน น่ิง สุขุมจึงควรใช้บันไดสีให้ตรงกับอารมณ์ของ ภาพด้วยการตัดกันของสี คือความเปรียบต่างของน้า หนกั สี (Tone contrast) สร้างความชดั เจนในภาพตาม ความตอ้ งการท่ีอยากสือ่ สารดงั ภาพท่ี 5.30 ภาพที่ 5.30 แสดงน้าหนกั ของสี (Tone) ทมี่ า : ฟสิ กิ ส์ ฌอณ บวั กนก (2555) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
23 4.2.8 การเนน้ สี (Colour Emphasis) บางเทคนิคภาพควรมีการเน้นสีใดสีหน่ึง โดยเฉพาะ หากมีหลากหลายสีอยู่ในภาพ เดียวกันดูแล้วจะเกิดการละลานตา ทางท่ีดี ควรแสดงสีเอกให้เด่นชัด โดยมีสีอ่ืนเป็นสี รอง เป็นการเน้นจุดเด่นและจุดรองของ ภาพให้ดูดี (สีแดงนับเป็นสีท่ีเด่นที่สุดใน ภาพ) การเน้นสีจางบนพื้นสีเข้มกับการเน้น สเี ขม้ บนพื้นสจี างก่อให้เกิดความเปรียบต่าง (contrast) การเน้นสีแบบนี้เป็นการเลือก เน้ือหาของภาพให้เกิดผลโดยไม่ต้องอาศัย สิง่ อืน่ ๆ มาช่วย ดงั ภาพที่ 5.31 ภาพท่ี 5.31 แสดงการเน้นสี (Colour Emphasis) ทมี่ า : ฟิสิกส์ ฌอณ บัวกนก (2555) 4.2.9 ล้อมกรอบ (Framework) การล้อมกรอบ คือการจัดหาบางสิ่ง บางอย่างท่ีอยู่ฉากหน้าให้ทาหน้าท่ีคล้าย กรอบหรือฉาก เพอ่ื นาสายตาใหด้ สู ่ิงท่ีอยู่ถัด ออกไป ทาให้ภาพเกิดความลึกหรือมิติ การ ล้อมกรอบ เพื่อสร้างความลึกมักนิยมใช้ กรอบสีเข้มล้อมจุดสนใจสีอ่อน การล้อม กรอบด้วยพ้ืนท่ีสีเข้มหากมีมากกว่า 3 ใน 4 ส่วนของภาพ จะเป็นการสร้างภาพประเภท บันไดสีแก่ (Low key) ดงั ภาพท่ี 5.32 ภาพท่ี 5.32 แสดงการลอ้ มกรอบ (Framework) ทม่ี า : ฟสิ กิ ส์ ฌอณ บวั กนก (2555) 4.2.10 อารมณแ์ ละบรรยากาศ (Mood & Atmosphere) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
24 อารมณ์ในภาพมีหลายลักษณะ เช่น ความสดช่ืน ร่าเริง แจ่มใส สนุกสนาน หรือความเศร้าสร้อย หดหู่และอ่ืน ๆ ส่วนบรรยากาศจะให้ความรู้สึกสุข ทุกข์ ร้อน หนาว ปลอด โปรง่ เวง้ิ วา้ ง อึดอัด หรือปลดปล่อย ภาพที่สามารถเล่าเร่ือง แจ่มชดั แสดงอารมณ์และบรรยากาศพร้อมทั้งมีสุนทรียภาพ ยิ่งดูยิ่งเพลินหรือภาพท่ีเป็นเลิศด้วยคุณสมบัตินี้ สามารถทา ให้ช่ืนชมไปได้นาน ดูเมื่อไหร่ก็เข้าใจ เข้าถึงอารมณ์ ดังภาพ ท่ี 5.33 ภาพท่ี 5.33 แสดงอารมณส์ นุกสนานและบรรยากาศปลอดโปรง่ ปลดปลอ่ ย (Mood & Atmosphere) ท่มี า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2555) 4.2.11 ทัศนมิติ (Perspective) ทัศนมิติอาจแบ่งออกเป็นหลายแบบ เช่น ทัศนมิติลึก ทัศนมิติอากาศ และอื่น ๆ คา ว่าทัศนมติ ิหมายถงึ ระยะระหว่างสิ่งทอ่ี ยใู่ กล้ ไปถงึ ไกล สิง่ ท่มี ขี นาดและความสงู เท่ากันจะมีขนาดไม่เท่ากันหาก วางให้อยู่ต่างระยะกัน เมื่อดจู ากระยะไกลออกไปเร่ือย ๆ ส่งิ นน้ั จะแลดูเล็กหรอื เตีย้ ลง ดังภาพที่ 5.34 ภาพท่ี 5.34 แสดงทศั นมติ ิ (Perspective) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
25 ที่มา : ฟสิ กิ ส์ ฌอณ บวั กนก (2555 4.2.12 สามมติ ิ (Three Dimensions) ในแผ่นภาพมีเพียงสองมิติ คือมิติ ทางยาวและมติ ิทางกว้าง เปน็ หน้าทขี่ องผู้ถ่ายภาพท่ีจะทาให้ ภาพเกิดผลคล้ายกับมีความลึกหรือเชิงสามมิติ ด้วยวิธีจัด แสง ด้วยการถ่ายภาพย้อนแสงหรือแสงข้าง ใช้ทัศนมิติ อากาศ หรือปรับชัดเฉพาะแห่ง ความลึกท่ีเกิดจากทัศนมิติ อากาศหรือทัศนมิติอะไรก็ตาม หากมีใกล้มีไกล ไม่ว่าจะไกล มากหรือ ไกลน้อยล้วนแต่เกิดสามมิติขึ้นได้ท้ังส้ิน ดังภาพที่ 5.35 ภาพที่ 5.35 แสดงการจดั แสงจาลองท้องฟ้าเหมือนถ่ายนอกสถานที่(Outdoor) แม้อยู่ในห้องใหญๆ่ (Indoor) ทม่ี า : ฟิสิกส์ ฌอณ บัวกนก (2555) 4.2.13 การแสดงซา้ การแสดงซ้าคือ ภาพเรขาคณิตที่ แสดงซ้าๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงถ้าเป็นเส้นหลาย ๆ เส้นก็จะ เกิดภาพลวดลายข้ึน เส้นเพียงเส้นเดียวจะไม่สามารถสร้าง ภาพลวดลายได้ การแสดงซ้ายิ่งมากคร้ังจะย่ิงเกิดภาพ ลวดลายไดง้ ่าย ภาพทัว่ ๆ ไปหากมกี ารแสดงซ้าหรือล้อเลียน จะทาใหภ้ าพมคี วามนา่ ดูดงั ภาพท่ี 5.36 ภาพท่ี 5.36 แสดงการจัดการแสดงซ้า ท่ีมา : ฟสิ กิ ส์ ฌอณ บวั กนก (2555) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
26 4.3 เทคนคิ การถา่ ยภาพด้วยกล้องดิจิทลั นอกจากการใช้มุมกล้อง การจัดองค์ประกอบแล้ว มีเทคนิคง่ายๆท่ีใช้ในการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัล ช่วยทาใหภ้ าพสวยงามได้ 4.3.1 การใช้ Symmetry คือรูปร่างท่ีสมมาตร ปกติแลว้ ถา้ ถ่ายภาพใหส้ มมาตร สองฝ่ังซ้าย-ขวา มีน้าหนักเท่ากัน ภาพจะดูน่าเบื่อ แต่ถ้าเใช้ เทคนิคอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น การเล่นกับ แสงเงา pattern หรือคู่สี ก็สามารถเป็นท่ีสะดุด ตาได้ไม่ยาก ดังน้ันถ้าจะใช้ความสมมาตรใน ภาพถ่ายแล้ว ควรใส่เทคนิคอื่นประกอบด้วย ดัง ภาพที่ 5.37 ภาพท่ี 5.37 แสดงตวั อยา่ งภาพแบบ Symmetry ท่ีมา : http://photo.elsoar.com 4.3.2 การใช้ Movement ภาพถ่ายท่ีดูมีความเคลื่อนไหวมักจะสื่อถึง เร่ืองราว การมีชีวติ และการกระทาในภาพได้เป็น อย่างดี เพียงแค่ใช้สปีดชัตเตอร์ช้าลงอีกสักนิด เพ่ิมความเคล่ือนไหวลงไปในภาพ ภาพก็จะ น่าสนใจดงั ภาพท่ี 5.38 ภาพท่ี 5.38 แสดงตวั อยา่ งภาพแบบ Movement ทม่ี า : http://wallpaperzh.blogspot.com 4.3.3 การใชท้ ฤษฏีสี ใช้สีประกอบในภาพถา่ ย เชน่ การใชส้ คี ตู่ รงขา้ ม จะทาใหภ้ าพมี Contrast ทโี่ ดดเดน่ การใช้สีโทนใกล้เคียงกันก็ จะทาให้ภาพเตม็ ไปด้วยอารมณ์มากขน้ึ การศึกษาเพิม่ เติมในเรือ่ งทฤษฏีสี ช่วยให้ภาพถ่ายเราดูดีขึ้นได้มาก สีก็ เป็นองค์ประกอบสาคัญอย่างหนึ่งของงานศิลปะ และเป็นองค์ประกอบท่ีมีอิทธิพลต่อความรู้สึก อารมณ์ และ การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
27 จิตใจ ได้มากกว่าองค์ประกอบอ่นื ๆ ในชีวติ ของมนษุ ยม์ ีความเกี่ยวขอ้ งสมั พนั ธ์กบั สตี ่าง ๆ ดังนั้นในการผลิตสื่อ ระบบดิจทิ ลั สีคอื ปจั จัยสาคัญในการถ่ายทอดให้บรรลุวัตถปุ ระสงค์ดงั ภาพท่ี 5.39 สี คือลักษณะของแสงที่ปรากฏแก่สายตาให้เห็นเป็นสี (พจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน) ในทางศิลปะ สีคือ ทัศนธาตุอย่างหนึ่งท่ีเป็นองค์ประกอบสาคัญของงานศิลปะ และใช้ใน การสร้างงานศิลปะโดยจะทาให้ผลงานมีความสวยงาม ช่วยสร้างบรรยากาศ มีความสมจริง เด่นชัดและ น่าสนใจมากขึน้ ภาพท่ี 5.39 แสดงสตี ่างๆทสี่ ามารถใช้ในการสร้างงานการถ่ายภาพ ที่มา : http://www.skintourage.com 4.3.3.1 สีแดง มีความอบอุ่น ร้อนแรง เปรียบดังดวงอาทิตย์ นอกจากน้ียังแสดงถึง ความมีชีวิตชีวา ความรัก ความปรารถนา เชน่ ดอกกุหลาบแดงวัน วาเลนไทน์ ในทางจราจรสแี ดงเป็นเครอื่ งหมายประเภทห้าม แสดง ถึง ส่ิงที่อันตราย เป็นสีท่ีต้องระวัง เป็นสีของเลือด ในสมัยโรมัน สีของราชวงศ์เป็นสีแดง แสดงความมั่งค่ังอุดม สมบูรณ์และอานาจ ดงั ภาพที่ 5.41 ภาพท่ี 5.40 แสดงสีแดง ที่มา : http://www.bourncreative.com 4.3.3.2 สีเขียว แสดงถึงธรรมชาติสีเขียว ร่มเย็น มักใช้สื่อความหมายเกี่ยวกับการ อนุรักษ์ธรรมชาติ เกี่ยวกับ ส่ิงแวดล้อม การเกษตร การเพาะปลูก การเกิดใหม่ ฤดูใบไม้ผลิ การงอกงาม ในเครื่องหมายจราจร หมาย ถึง การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
28 ความปลอดภัย ขณะเดยี วกนั ก็หมายถึงอันตราย ยาพิษ เนื่องจากยาพิษ และสัตว์มีพิษ ก็มักจะมีสีเขียวเช่นกัน ดังภาพท่ี 5.41 ภาพท5่ี .41 แสดงสีเขยี ว ทม่ี า : http://www.bourncreative.com 4.3.3.3 สีเหลอื ง แสดงถงึ ความสดใส ความเบกิ บาน โดยเรามักจะใช้ดอกไม้สีเหลือง ในการไปเย่ียมผู้ป่วย และ แสดงความรงุ่ เรืองความมงั่ ค่ัง และฐานันดร ศักดิ์ ในทางตะวันออกเป็นสขี องกษัตริย์ จักรพรรด์ิของจีนใช้ฉลอง พระองค์สีเหลอื ง ในทางศาสนาแสดงความเจิดจา้ ปญั ญา พุทธศาสนา และยงั หมายถึงการเจ็บป่วย โรคระบาด ความรษิ ยา ทรยศ หลอกลวงดงั ภาพท่ี 5.42 ภาพท่ี 5.42 แสดงสีเหลอื ง ที่มา : http://www.bourncreative.com 4.3.3.4 สนี ้าเงนิ แสดงถึงความเป็นสภุ าพบุรษุ มคี วามสุขุม หนักแน่น และยังหมายถึง ความสูงศักด์ิ ในธงชาติ ไทย สีน้าเงินหมายถึงพระมหากษัตริย์ ในศาสนา สีน้าเงินหมายถึงโลก ซ่ึงเราจะ เรียกว่า โลกสีน้าเงิน (Blue Planet) เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ที่มองเห็น จากอวกาศโดยเห็นเป็นสีน้าเงินสดใส เนื่องจากมีพื้นน้าท่ีกว้าง ใหญ่ ดงั ภาพที่ 5.43 ภาพท่ี 5.43 แสดงสีนา้ เงิน ทมี่ า : http://www.bourncreative.com การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
29 4.3.3.5 สีม่วง แสดงถึงพลัง ความมีอานาจ ในสมัยอียิปต์สีม่วงแดงเป็นสีของกษัติรย์ ต่อเนื่องมาจนถึงสมัย โรมัน นอกจากน้ี สีม่วงแดงยังเป็นสีแห่ง ความผูกพัน ส่วนสีม่วงอ่อนหมายถึง ความเศร้า ความผิดหวังจาก ความรัก ดังภาพท่ี 5.44 ภาพที่ 5.44 แสดงสีม่วง ท่ีมา : http://www.bourncreative.com 5.3.3.6 สีฟ้า แสดงถึงความสว่าง ความปลอดโปร่ง เปรียบเหมือนท้องฟ้า เป็นอิสระ เสรี เป็นสีของความ สะอาด ปลอดภัย สีขององค์การอาหารและยา (อย.) เป็นสีแห่ง ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ไม่มี ขอบเขต ดังภาพที่ 5.45 ภาพท่ี 5.45 แสดงสฟี า้ ทมี่ า : http://www.bourncreative.com 5.3.3.7 สีขาว แสดงถึงความสะอาด บริสุทธิ์ แสดงถึงความว่างเปล่า ปราศจากกิเลส ตัณหา ความเชื่อถือ ความดงี าม ความศรทั ธา ความอ่อนโยน บางกรณอี าจหมายถงึ ความอ่อนแอ ภาพท่ี 5.46 ภาพท่ี 5.46 แสดงสขี าว ท่มี า : http://www.bourncreative.com การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
30 5.3.3.8 สดี า แสดงถงึ ความมืด ความลกึ ลบั สนิ้ หวัง ความตาย โดยทสี่ ที กุ สี เม่ืออยู่ในความมืด จะเห็นเป็นสีดา นอกจากนี้ยังหมายถึง ความช่ัวร้าย ความโหดร้าย แต่ยังหมายถึงความอดทน กล้าหาญ เข้มแข็ง เสียสละดัง ภาพท่ี 5.47 ภาพท5่ี .47 แสดงสีดา ที่มา : http://www.bourncreative.com (9) สีชมพู แสดงถึงความอบอุ่น อ่อนโยน ความอ่อนหวาน นุ่มนวล ความน่ารัก แสดงถึง ความรัก เป็นสีของความ เอื้ออาทร ปลอบประโลม เอาใจใส่ดูแล ความปรารถนาดี และอาจ หมายถึงความ เป็นมิตร เป็นสขี อง ผู้หญิงภาพที่ 5.48 ภาพท5่ี .48 แสดงสีชมพู ท่ีมา : http://www.bourncreative.com การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
31 5. ไฟล์รูปภาพดจิ ทิ ัล (Picture file) ไฟล์รูปภาพดจิ ิทัลแบ่งตามลกั ษณะการเกิดออกไดเ้ ป็น 2 รูปแบบ ดงั นี้ 5.1 ภาพดจิ ิทลั แบบบติ แมป (Bitmap) ภาพดิจิทัลแบบ บิตแมป (Bitmap) อาจเรียกว่า ราสเตอร์( Raster ) คือ ภาพที่เกิดจากหน่วยภาพ เล็กๆมารวมกันจนเป็นภาพใหญ่คล้ายจ๊ิกซอร์ โปรแกรมปรับแต่งภาพส่วนใหญ่ใช้ภาพบิตแมปในการทางาน ภาพแบบบิตแมปใช้ กริดของตารางเล็ก ๆ ท่ีชื่อ “พิกเซล” (pixel) สาหรับการแสดงภาพ แต่ละพิกเซลจะมี ลักษณะ เป็นรูปส่ีเหล่ียมที่เก็บข้อมูลของสีโดยถูกกาหนดตาแหน่งไว้บนเส้นกริดของแนวแกน x และ y ใน ลักษณะคล้าย “แผนท่ี (map) ” จงึ เป็นท่ีมาของคาว่าบิตแมป (bitmap) เช่น พิกเซลของ ภาพ 8 บิต จะเก็บ ขอ้ มูลของสี 8 บิต ทจ่ี อภาพ แตล่ ะพิกเซลก็จะมีค่าของตาแหน่งและค่าสีของตัวเอง (สมาน เฉตระการ, 2554) ด้วยเหตุท่ีพิกเซลมีขนาดเล็กจึงเห็นว่าภาพ มีความละเอียดสวยงามไม่มีลักษณะของกรอบสี่เหล่ียมให้เห็น แต่ หากขยายขนาดของภาพ ก็จะเห็นกรอบเล็ก ๆ ท่ีประกอบกันขึ้นมาเป็นภาพดังภาพที่ 5.49 ดังนั้นเม่ือทางาน กับภาพแบบบิตตแมป จึงเป็นการทางานกับพิกเซลเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่วัตถุหรือรูปทรงที่เห็น ภาพแบบบิตแมปเป็น ภาพที่ข้ึนอยู่กับความละเอียด (resolution) นั่นคือ จานวนของพิกเซลท่ีแสดงต่อหน่วยของความยาวในภาพ จะถกู เรยี กวา่ ความละเอียดของภาพ ภาพท่ีมีความละเอียดสูงจะประกอบไปด้วยพิกเซลจานวนมากแต่มีขนาด เล็กกว่าภาพเดียวกันที่มีความละเอียดน้อยกว่า ตัวอย่าง เช่น ภาพขนาด 1 x 1 น้ิว ที่ความละเอียด 72 ppi จะประกอบด้วยพิกเซล 5,184 พิกเซล (ความกว้าง 72 พิกเซล x ความยาว 72 พิกเซล = 5,184) และภาพ เดียวกันที่ความละเอียด 300 ppi จะประกอบด้วยพิกเซล 90,000 พิกเซลท่ีมีขนาดของพิกเซลเล็กกว่า (300 x 300 = 90,000) ภาพที่มีความละเอียดมากกว่าก็จะใช้พ้ืนท่ีในการ จัดเก็บมากกว่า ด้วยภาพบิตแมพมีจานวนพิกเซลที่แน่นอนใน การแสดงภาพ เม่ือภาพท่ีมีความละเอียดต่าถูกขยาย หรือพิมพ์ ด้วยความละเอียดไม่มากพอภาพจะสูญเสียรายละเอียด และ ป ร า ก ฏ เ ป็ น ร อ ย ก ร อ บ ส่ี เ ห ล่ี ย ม เ ล็ ก ๆ อ ย่ า ง ชั ด เ จ น ดั ง ภ า พ ที่ ดังน้ันการเลือกใช้ความละเอียดภาพในการจัดเก็บเพ่ือนาไปใช้ งาน ควรเลือกให้ถูกกับประเภทของงาน ถ้างานท่ีต้องพิมพ์ภาพ ออกมาเป็นแผ่นใหญ่ก็ควรใช้ตวามละเอียด(resolution) สูงๆ เป็นต้น ภาพท่ี 5.49 แสดงภาพขยายเพ่อื แสดงลกั ษณะพกิ เซล(PIXEL) ทม่ี า : http://www.wired.com/wiredscience การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
32 ภาพแบบ Bitmap เหมาะสาหรับงานกราฟิก และการทางานกับภาพเหมือนจริงประเภท ภาพถา่ ยทต่ี ้องการใหแ้ สงเงาในรายละเอียด เพราะ Bitmap มี Channel พิเศษ เรียกว่า Alpha Channel ซ่ึง เป็น 32 bit หรือ true color คือสีสมจริงดังภาพท่ี 5.50 ส่วนใหญ่ภาพท่ีนามาใช้กับ Photoshop จะเป็น ภาพเหมือน ภาพถ่าย เพราะไฟล์ท่ีได้จาก Photoshop เป็น Bitmap นอกจากนี้ยังเหมาะสาหรับภาพที่ ต้องการระบายสี สรา้ งสี กาหนดสีท่ีละเอียดและสวยงาม ไฟล์ภาพแบบ Bitmap ในระบบวินโดวส์คือ ไฟล์ที่มี นามสกุล .BMP, .PNG. , .TIF, .GIF, .JPG เป็นตน้ (นกั ศึกษาสามารถศึกษาลักษณะ จุดเด่น จุดด้อย ของแต่ละ นามสกุลในตารางด้านล่าง) สาหรับโปรแกรมท่ีใช้สร้างกราฟิกคือ โปรแกรม Paint ต่างๆ เช่น Paintbrush, Photoshop, Photos Tyler เปน็ ตน้ อย่างไรก็ตามภาพแบบ Bitmap ก็มีข้อดีและข้อเสียซึ่งแสดงไว้ในตาราง ท่ี 5.3 ภาพท่ี 5.50 แสดงตัวอยา่ งภาพBitmap ประเภทภาพถา่ ยที่ตอ้ งการให้แสงเงาในรายละเอียด ทม่ี า : http://spinningmusic.files.wordpress.com ตารางท่ี 5.3 แสดงคุณสมบตั ิและจดุ เด่นจุดดอ้ ยของตัวอยา่ งไฟลใ์ นรูปบติ แมป ช่ือไฟล์ภาพ ลักษณะ จุดเดน่ จดุ ดอ้ ย BMP (Bitmap) ไฟล์ภาพประเภทที่เก็บจุดของภาพแบบจุดต่อจุด •ภาพจะมีรายละเอยี ดท่ีสมบรู ณ์ •ใช้เน้ือที่ในการ ตรงๆ เรียกว่าไฟล์แบบ บิตแมพ( Bitmap ) ไฟล์ เก็บจานวนมาก ประเภทน้ีจะมีขนาดใหญ่แต่สามารถเก็บรายละ ทาให้ขนาดของ เอียดของภาพไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ แต่เนื่องจากการเก็บ ไฟลภ์ าพมีขนาด แบบ Bitmap ใชเ้ น้ือที่ในการเก็บจานวนมาก จึงได้ ใหญ่ มีการคิดค้นวิธีการเก็บภาพให้มีขนาดเล็กลงโดย ยังคงสามารถเก็บภาพได้เชน่ เดมิ ขนึ้ มาหลายวธิ กี าร การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
33 ช่ือไฟล์ภาพ ลกั ษณะ จุดเดน่ จุดด้อย เชน่ JPEG PNG และ GIF JPEG ( Joint เปน็ การเก็บไฟล์ภาพแบบที่บีบอัด สามารถทาภาพ •สนับสนุนสไี ดม้ ากถงึ 24 bit •ไ ม่ ส นั บ ส นุ น Graphics Expert ใหม้ ีขนาดของไฟล์ภาพเลก็ กว่าแบบ Bitmap หลาย •สามารถกาหนดคุณภาพและต้ังค่าการ ภาพเคล่ือนไหว Group ) สิบเท่า แต่เหมาะจะใช้กับภาพที่ถ่ายจากธรรมชาติ บบี อัดไฟลภ์ าพได้ เพราะไฟล์แบบ เท่าน้ัน ไม่เหมาะกับการเก็บภาพเหมือนจริง เช่น •ใช้ใน Internet (Worl Wild Web) มี นี้ไมส่ ามารถเก็บ GIF ( Graphics ภาพการ์ตูน เปน็ ต้น นามสกุล.jpg ภาพหลายภาพ Interchange •มีโปรแกรมสนับสนุนการสร้างจานวน ไว้ดว้ ยกนั ได้ Format ) เป็นวิธีการเก็บไฟล์ภาพแบบบีบอัดคล้ายกับ JPEG มาก โ ด ย ทั่ ว ไ ป แ ล้ ว ไ ม่ ส า ม า ร ถ เ ก็ บ ภ า พ ที่ ถ่ า ย จ า ก •เรยี กดภู าพไดใ้ น Graphic Browser •แสดงภา พได้ PNG (ออกเสียง ธรรมชาติได้มีขนาดเล็กเท่ากับแบบ JPEG แต่ เพยี ง 256 สี ping สาหรับ สามารถเก็บภาพที่ไม่ใช่ภาพถ่ายจากธรรมชาติเช่น •เป็นที่นิยมมากท่ีสุดสาหรับภาพท่ีจะ •ไม่เหมาะหากมี Portable ภาพการ์ตูน ได้เป็นอย่างดี นากจากนี้ GIF ยัง แสดงบน Web/Internet การนาเสนอ Network สามารถเก็บภาพไว้ได้หลายๆภาพ ในไฟล์เดียว จึง •มีขนาดเลก็ มาก ภ า พ ถ่ า ย ห รื อ Graphics) ถูกนาไปใช้สร้างภาพเคล่ือนไหวง่ายๆ เช่น ใน •สามารถทาพ้ืนให้เป็นแบบโปร่งใสได้ ง า น ที่ ต้ อ ง ใ ช้ อินเตอรเ์ น็ต (Transparent/Opacity) ความคมชัดสูง TIFF ( Tagged •สามารถทาเป็นภาพเคลื่อนไหวบน Image File เป็นภาพท่ีเกิดจากการนาเอาคุณสมบัติของภาพ WebPage ได้ โดยใช้เคร่อื งมือช่วยสร้าง •ไ ม่ ส นั บ ส นุ น Format ) JPG และ GIF มาผสมผสานกันให้ได้ลักษณะเฉพาะ เช่น JAVA, Flash ภาพเคล่ือนไหว โดยมจี ุดเดน่ จุดดอ้ ยดังนี้ •มี โ ป ร แ ก ร ม ส นั บ ส นุ น ใ น ก า ร ส ร้ า ง เพราะไฟล์นี้ไม่ จานวนมาก ส า ม า ร ถ เ ก็ บ คือการเก็บไฟล์ภาพในลักษณะเดียวกับไฟล์ BMP •สามารถเรียกดูภาพได้ใน Graphic ภาพหลายภาพ แต่มี Tagged File ที่ช่วยควบคุมการแสดงภาพ Browser ทกุ ตัว ไว้ดว้ ยกนั ได้ เช่น การแสดงหรือไม่แสดงภาพบางส่วนได้ ภาพท่ี เกบ็ ไว้ในลกั ษณะของ TIFF จึงมคี วามพิเศษกว่าการ •เอาคุณสมบัติของ(JPEG+GIF) มาใช้คือ เน่ือ งจา กกา ร เก็บแบบอื่น ที่กล่าวมา นอกจากนี้ยังมีไฟล์ภาพ สี ม า ก ก ว่ า 256สี แ ล ะ โ ป ร่ ง ใ ส ไ ด้ จัดเก็บภาพ ไม่มี แบบตา่ งๆ อีกหลายแบบ โดยแตล่ ะแบบจะมีจุดเด่น (Transparent) การบีบอดั ข้อมูล แตกต่างกันไป มกั นิยมใช่ในงานกราฟกิ การพิมพ์ •PNG มีการบีบอัดข้อมูลโดยไม่เสีย ทาให้ขนาดภาพ คุณภาพ ค่อ น ข้ า ง ใ ห ญ่ •ทาให้โปร่งใสได้(Transparency)และ กวา่ รการจัดเก็บ ยั ง ส า ม า ร ถ ค ว บ คุ ม อ ง ศ า ข อ ง ค ว า ม ลกั ษณะอื่น โปร่งใส(Opacity)ไดด้ ้วย •เกบ็ บันทึกภาพด้วยสีจริง(True Color) ได้เช่นเดียวกับตารางสี(Pallete) และสี เทา(Grayscale)แบบ GIF เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ เป็นรูปแบบไฟล์ แบ บ บิ ตแ มป ที่ค่อ นข้ า ง สา มา รถ เปลี่ยนไปมาระหว่างพีซี กับเคร่ืองแมค อินทอช ได้ ท่มี า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2556) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
34 5.2. ภาพดจิ ิทัลแบบเวคเตอร์ (Vector) เป็นภาพประเภท Resolution-Independent ทม่ี ลี ักษณะของการสร้างให้แต่ละส่วนเป็นอิสระต่อกัน โดยภาพท่ีเกิดข้ึน เกิดจากเส้นโค้ง, เส้นตรง และคุณสมบัติสีของเส้นน้ันๆ ที่เกิดจากการคานวณทาง คณิตศาสตร์ กล่าวคือ ที่จุดๆหนึ่งของภาพที่ซูมเข้าไปจะเกิดจากการกาหนดคุณสมบัติไว้ว่า ภาพนั้นเกิดจาก เส้นตรง หรือเส้นโค้งท่ีเอียงกี่องศา เก็บค่ารหัสสีและข้อมูลต่างๆของภาพ เมื่อซูมขยายภาพไม่ว่าจะขนาด เทา่ ไหร่ ภาพจะ ไมส่ ญู เสยี ความละเอยี ดไป เพราะการซูมภาพเป็นการคูณจานวนเท่าคุณสมบัติภาพ ดังนั้น ถ้า แก้ไขภาพ คือการแก้ไขคุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ ย่อหรือขยายภาพจะยังคมชัดเท่าเดิม ภาพ Vector ได้แก่ ภาพ .wmf เชน่ Clipart ภาพใน Adobe Illustrator, Macromedia Freehand ลักษณะเด่นของ Vector คือ สามารถยืดหรือหดภาพ ปรับขนาด เปลี่ยนสี เปล่ียนรูปทรง เท่าใดก็ได้ โดยท่ีภาพจะไม่แตก ความละเอียดของภาพไม่เปลี่ยนแปลง โดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพดังภาพ ท่ี 5.51 เพราะภาพแบบเวกเตอร์ เป็นภาพที่ไม่ขึ้นกับ ความละเอียด แต่ข้ึนอยู่กับคุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ อย่างท่ีกล่าวไป น่ันคือสามารถปรับขนาดและพิมพ์ที่ความละเอียดใด ๆก็ได้ โดยไม่สูญเสียความชัดเจน ภาพ แบบ Vector มีไฟล์ขนาดเล็กกว่าภาพ Bitmap จึงเหมาะสาหรับงานแบบวาง Layout งานพิมพ์ตัวอักษร Line Art หรอื ภาพลายเสน้ ต่าง ๆ เชน่ ตัวอกั ษร โลโก้ รวมถึงงาน Illustration ภาพที่ 5.51 แสดงภาพแบบเวคเตอร์ (Vector) ทม่ี า : www.bpsthai.org ไฟล์รูปภาพแบบ Vector ในระบบวินโดวส์คือ ไฟล์ที่มีนามสกุล .EPD, .WMF, .CDR, .AI, .CGM, .DRW, .PLT เป็นต้น โดยมีโปรแกรมประเภทวาดรูป (Drawing Program) เช่น CorelDraw หรือ AutoCAD เป็นโปรแกรมสร้าง ขณะที่บนแมคอินทอชใช้ Illustrator และ Freehand ในกรณีที่โปรแกรมท่ีใช้ งานอยู่ไม่สามารถอ่านไฟล์แบบ Vector ต้นฉบับได้ วิธีท่ีดีท่ีสุดก็คือ บันทึกไฟล์เป็นนามสกุล .EPS การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
35 (Encapsulated Postscript) ไฟลป์ ระเภทนส้ี ร้างขึ้นจาก Vector ซ่งึ ทาใหม้ คี ุณสมบัติเปน็ แบบ Vector และ ยงั สามารถบันทึกไฟล์ Bitmap ให้เป็นแบบ EPS ได้ เนื่องจากโปรแกรมกราฟิกทุกประเภทสนับสนุนไฟล์แบบ EPS ท้ังส้ิน อย่างไรก็ตามอุปกรณ์แสดงผล ไม่ว่าจะเป็นจอภาพ เคร่ืองพิมพ์แบบ Dot Matrix รวมท้ัง Laser จะแสดงผลแบบ Raster Devices หรือแสดงผลในรูปของ Bitmap โดยอาศัยการรวมกันของ Pixel ออกมา เป็นรูปภาพ แม้ว่าภาพกราฟิกที่สร้างจะเป็นแบบ Vector แต่เม่ือแสดงภาพบนหน้าจอหรือทาการพิมพ์จะมี การเปล่ียนเป็นการแสดงผลแบบ Bitmap หรือเป็น Pixel ซึ่งคุณสมบัติความแตกต่างระหว่างภาพดิจิทัลแบบ Bitmap และ Vector แสดงไว้ดงั ตาราง 5.4 ตารางท่ี 5.4 แสดงความแตกต่างระหวา่ งภาพดจิ ิทลั แบบ Bitmap และ Vector Bitmap Vector 1. ลักษณะภาพประกอบขึ้นดว้ ยจดุ ต่างๆ มากมาย 1. ใช้สมการทางคณิตศาสตร์เป็นตัวสร้างภาพ โดยรวม เอา Object (เช่น วงกลม เส้นตรง) ต่างชนดิ มาผสมกัน 2. ภาพมีจานวนพิกเซลคงท่ีจึงต้องการค่าความ 2. สามารถย่อและขยายขนาดได้มากกว่า โดยสัดส่วน ละเอียดมากขึ้นเมื่อขยายภาพ โดยจะคานวณค่าสี และลักษณะของภาพยังเหมือนเดิม ความละเอียดของ ทลี ะ pixels ทาใหภ้ าพแตกเมื่อขยายใหใ้ หญ่ ภาพไม่เปลย่ี นแปลง 3. เหมาะสาหรับงานกราฟิก ในแบบต้องการให้ 3. เหมาะสาหรับงานแบบวาง Layout งานพิมพ์ แสงเงาในรายละเอียด ตัวอักษร Line Art หรอื Illustration 4. แสดงภาพบนจอทันที เมื่อรับคาสั่งย้ายข้อมูล 4. คอมพิวเตอร์จะใช้เวลาในการแสดงภาพมากกว่า จากหน่วยความจาที่เก็บภาพไปยังหน่วยความจา เน่ืองจากตอ้ งทาตามคาสั่งท่มี ีจานวนมากกว่า ของจอภาพ ทมี่ า : ฟสิ กิ ส์ ฌอณ บัวกนก (2556) 6. การใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ ในการผลิตภาพดิจิทัล เม่ือมีการถ่ายภาพเราสามารถตกแต่งภาพให้สมบูรณ์ตามต้องการด้วย โปรแกรมตกแต่งภาพสาเร็จรูป อาทิ photoshop illustrator เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้งานได้ง่ายได้ หากทาการ ฝกึ ฝนบ่อยๆก็จะทาใหส้ ามารถแกไ้ ขและพัฒนาภาพให้สวยงามได้ ซึ่งการใช้งาน photoshop ได้อธิบายไว้แล้ว บ้างในหน่วยของการสร้างข้อความดิจิทัล ในหน่วยนี้จึงขอกล่าวเพ่ิมเติมในส่วนของเครื่องมือของ Photoshp สาหรบั การสร้างและตกแต่งภาพ 6.1 สิ่งทค่ี วรรู้ เมื่องาน Photoshop เพ่ือตกแตง่ 6.1.1 ความละเอยี ดของภาพ (Resolution) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
36 คาความละเอียดของภาพ มหี นวยเปน Pixels ตอตารางนิ้ว ซึ่งหากคาความละเอียด มาก จานวนพิกเซลกจ็ ะมากตามไปดวย และทาใหภาพมีคุณภาพมากข้ึน สามารถตรวจสอบได โดยคลิกที่เมนู Image –> Image Size ดังภาพที่ 5.52 ภาพท่ี 5.52 แสดงการต้งั ขนาด Image size ที่มา : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2556) 6.1.2 เลเยอร Layers) การตกแตงภาพต้ังแตสองภาพข้ึนไปบนหนาผลงานเดียวกันใน Photoshop จะ อาศยั การซอนภาพเปนช้ัน เรียกวา เลเยอร Layers) ดงั ภาพท่ี 5.53 ภาพท่ี 5.53 แสดงการซอนภาพเปนช้ันๆในโปรแกรม ทีม่ า : http://www.sketchpad.net การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
37 6.1.3 โหมดสี โหมดสมี หี ลายชนิดและมีคุณสมบัติทแี่ ตกตางกนั ควรเลอื กใหเหมาะสมกับการใชงาน แตละประเภท การเลอื กโหมดสีคือไปท่เี มนู Image --> Mode ซง่ึ โหมดสีที่สาคัญ และนยิ มแพร่หลาย มดี ังนี้ 6.1.3.1 Gray scale เปนโหมดสีขาว/ดา ท่ีใหเฉดสี 256 สี มีการไล่โทน แสงเงา ดงั ภาพท่ี 5.54เหมาะกบั งานออกแบบสีเดียว สามารถนาไปเปล่ียนเปนสีอื่นแทนสีดาไดเม่ือเขาสูระบบ การพมิ พ ไฟลภาพมีขนาดเล็กกว่า ไฟลขาว/ดาชนิดอื่นๆ ภาพที่ 5.54 แสดงภาพโหมดสีขาว/ดา ทีม่ า : http://technolomo.com 6.1.3.2 Duotone เปนภาพที่มีสีมากกวาแบบขาว/ดา สามารถใชสีไดสอง โทนสมี าผสมกนั ดงั ภาพที่ 5.55 เหมาะกับงานท่ตี องการสีสัน แตใชตนทนุ การพมิ พไมมาก ภาพท่ี 5.55 แสดงภาพโหมด Duotone การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
38 ทมี่ า : http://technolomo.com 6.1.3.3 RGB Color เปนโหมดสีที่นิยมใชกันมาก สามารถพบไดท่ัวไปจาก ภาพถ่ายดิจิทัล งานออกแบบที่ แสดงผลทางจอมอนิเตอร สีกลุมนี้เกิดจากการผสมของสามแมสีแสง ไดแก สี แดง (Red) สีเขียว (Green) และ สีน้าเงนิ (Blue) ดงั ตัวอยา่ งภาพที่ 5.56 ภาพท่ี 5.56 แสดงภาพโหมด RGB Color ทีม่ า : http://technolomo.com 6.1.3.4 CMYK Color เปนโหมดสีท่ีใชในระบบงานพิมพ ประกอบดวยสีส่ี สี คือ สีฟา (Cyan) สีชมพูบานเย็นหรือชมพูมวง (Magenta) สีเหลือง (Yellow) และสีดา (Black) ใน ระบบงานพิมพมักจะเรียกวา พิมพส่ีสี ซึ่งก็คือการใชแมสีสี่สีนี้มาซอนกันจนเกิดเปนสีใหมมากมาย ที่ทาใหได ภาพสีสันสมจรงิ ข้นึ มา ดังตวั อย่างภาพที่ 5.57 ภาพท่ี 5.57 แสดงภาพโหมด CMYK Color ทมี่ า : http://technolomo.com การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
39 6.2 ความรพู้ ื้นฐานการสรา้ งไฟลภ์ าพ โดยใช้ Photoshop Cs6 6.2.1 การสร้างไฟลภ์ าพใหม่ ขน้ั ตอนในการสรา้ งไฟลภ์ าพใหม่ มดี ังน้ี 6.2.1.1 คลกิ ทเ่ี มนู File > New 6.2.1.2 กาหนดขนาดความกวา้ ง และความยาวของภาพตามต้องการ 1) Width : ความกวา้ งของภาพ 2) Height : ความสงู ของภาพ 6.2.1.3 กาหนดความละเอยี ดของภาพ (Resolution) 6.2.1.4 เลอื กโหมดสขี องภาพ (Color Mode) 6.2.1.5 เลือกลักษณะของพน้ื หลงั ซงึ่ มีอยู่ 3 แบบ คือ 1) White : ใหพ้ ื้นหลังมสี ีขาว 2) Background Color : ให้พน้ื หลังเป็นสีตามท่กี าหนด 3) Transparent : ให้พื้นหลงั เปน็ แบบโปรง่ ใส 6.2.1.6 คลิกปุ่ม Ok ภาพท่ี 5.58 แสดงการสร้างไฟล์ภาพใหม่ ที่มา : ฟสิ กิ ส์ ฌอณ บวั กนก (2556) 6.2.2 การเปดิ ไฟลภ์ าพ มขี ้ันตอนในการเปิดไฟล์ภาพ มดี งั นี้ 6.2.2.1 คลกิ ที่เมนู File > Open ดังตัวอยา่ งภาพท่ี 5.59 6.2.2.2 คลกิ เลอื กไฟล์ที่ต้องการเปดิ การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
40 6.2.2.3 คลกิ ปุม่ Open 6.2.2.4 ไฟล์ภาพจะปรากฏบนพ้ืนที่ ของโปรแกรม ภาพที่ 5.59 แสดงการเปิดไฟล์ภาพ ทม่ี า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บวั กนก (2556) 6.2.3 การปรบั ขนาดและความละเอียดของภาพ ทาไดโ้ ดยทาการปรับ Document Sizeดงั นี้ 6.2.3.1 คลกิ ทีเ่ มนูหลกั เลือกคาสัง่ Image > Image Size ดงั ภาพท่ี 5.60 6.2.3.2 คลกิ Resample Image ออก เพอื่ ให้จานวน Pixel คงเดิม 6.2.3.3 กาหนดคา่ Width , Height และ Resolution ใหม่ 6.2.3.4 คลิกปมุ่ Ok ภาพท่ี 5.60 แสดงการปรับขนาดของภาพดว้ ยวธิ ีปรบั Document Size ที่มา : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บวั กนก (2556) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
41 6.2.4 การปรับรปู ทรงของภาพ (Transform) มีขน้ั ตอนในการปรับรูปทรงของภาพ ดงั นี้ 6.2.4.1 คลกิ ที่เมนูหลักเลือก Edit > Transform ดงั ภาพท่ี 5.61 6.2.4.2 คลกิ เลือกคาส่ังปรบั รูปทรง โดยคาสั่งในการปรบั รูปทรง มดี ังนี้ 1) Scale : ปรับขนาด 2) Rotate : หมุนภาพ 3) Skew : บิดด้านมุมของภาพไปตามแนวกรอบด้านใดด้านหนึง่ 4) Distort : บดิ ด้านหรอื มุมของภาพไปตามแนวอยา่ งอิสระ 5) Perspective : บดิ ภาพให้เกดิ สัดส่วนแบบใกล้ไกล 6) Warp : บดิ และดงึ ส่วนต่าง ๆ อย่างอสิ ระ ภาพท่ี 5.61 แสดงการปรบั รปู ทรงของภาพ ท่มี า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2556) ท่ีกล่าวไปเป็นเพียงบางส่วนของการใช้งานเครื่องมือ นักศึกษาสามารถฝึกฝนและทดลองใช้เคร่ืองมือ ต่างๆในการตกแต่งภาพดิจิทัล ซ่ึงจะทาให้เกิดความชานาญและมีทักษะการผลิตส่ือภาพดิจิทัล นอกจากนี้ นักศึกษาควรทาการศึกษาเพ่ิมเติ่มในการใช้โปรแกรมจากแหล่งเรียนรู้อื่นๆ อาทิ ตารา ข้อมูลสารสนเทศ อนิ เตอรเ์ นต็ คลปิ วิดีโอการสาธิตการใช้ Photoshop หรือแม้แต่ผู้ที่เช่ียวชาญงานด้านนี้ และจะเป็นประโยชน์ อยา่ งย่ิงหากมกี ารแลกเปลยี่ นเรียนรู้ ทาการศึกษารว่ มกนั เปน็ การสง่ เสรมิ ทกั ษะการสื่อสาร การทางานเป็นทีม (team work) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
42 6.2.5 เครื่องมือต่างๆ ในโปรแกรม Photoshop ไม่ว่าเวอร์ช่ันใด จะมีเคร่ืองมือสาหรับ ทางานกบั ภาพคล้ายคลึงกัน สรุปได้ดงั ภาพท่ี 5.62 Marquee: ใช้ในการเลือกพ้ืนท่ีบนภาพเปน็ Move: ใชใ้ นการยา้ ยพืน้ ท่ที เี่ ลอื กไว้ หรือยา้ ย เรขาคณิต Guide Lasso: ใช้เลือกพ้นื ท่บี นภาพแบบอสิ ระ Quick Selection: ใช้เลอื กทตี่ ้องการอย่างเร็ว Crop: ใช้ตัดขอบภาพ Eye Dropper: ใช้เลอื กสี หรอื วดั ระยะและมมุ Healing / Patch / Red Eye: ใช้ตกแตง่ ลบ ระหวา่ งจุดต่างๆบนภาพ รอยตาหนิในภาพ และแก้ปญั หาตาสีแดง Brush / Pencil: ใช้ระบายสภี าพเหมอื นพ่กู ัน Clone / Patters Stamp: ใช้ทาสาเนาภาพ หรอื ดนิ สอ เพ่ือเปลย่ี นสีให้กบั วตั ถุ โดยการคดั ลอกภาพจากบริเวณอน่ื ๆ มา ระบาย History: ใช้ระบายภาพด้วยภาพเดมิ ที่ผ่านมา Eraser: ใช้ลบภาพ Gradient: ใช้เติมสแี บบไล่ระดบั โทนสี Blur/Sharpen/Smudge: ใช้ระบายสีให้ เบลอหรอื คมชัด Dodge: ใช้ระบายเพือ่ เพม่ิ ความสว่าง/มืด Pen/Anchor Point: ใชว้ าดเสน้ Path Type: ใช้พิมพต์ วั อกั ษรหรอื ข้อความบนภาพ Path/Direction Selection: ใช้ปรับเสน้ Rectangle tool: ใช้วาดรปู ทรงเรขาคณิต Path Hand tool: ใช้ลากยา้ ยมมุ มองในพื้นท่ี Zoom tool: ใช้ย่อขยายพ้ืนทท่ี างาน พ้นื ทภี่ าพ ทางาน ภาพที่ 5.62 แสดงเครอ่ื งมอื ตา่ งๆสาหรบั ตกแตง่ ภาพบนเมนูบาร์ ทม่ี า : ฟสิ ิกส์ ฌอณ บัวกนก (2556) การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
43 7. สรุปทา้ ยบท Pixel คือ ชอ่ งตารางสี1ช่องเล็กๆ แต่เมื่อนามาต่อกนั หลายๆพกิ เซลจะ ทาให้เกิดภาพขึ้นมา ส่วน bit คอื หน่วยที่เล็กทีส่ ุดของการจัดเก็บ แสดงในรูปบติ 0 หรือ 1 แต่บิตมีขนาดเล็กเกินไปท่ีจะนามาใช้ จัดเก็บเพื่อ ประมวลป็นข้อมูล ดังนั้นจึงมีกลุ่ม 8 บิตในหนึ่งไบต์ (One byte = grouping of 8 bits) เช่น 0 1 0 1 1 0 1 0 ซึ่งไบต์สามารถทาให้เกิดเป็นอักษร หรือ ตัวเลขข้ึนมาได้ การสร้างภาพิจิทัลจาเป็นต้องอาศัยกล้องถ่ายภาพ ดิจิทัล (Digital Camera) อุปกรณ์รับภาพเปล่ียนจากฟิล์มมาเป็น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ที่เรียกกันว่า Charge Coupled Device (CCD) ความคมชัดข้ึนอยู่กับ แสง โฟกัส และ BIT Resolution ของ CCD เมื่อได้ภาพท่ี ต้องการ ภาพจะถูกเก็บลง หน่วยความจา (Memory) ที่อยู่ในกล้อง ส่วนประกอบพื้นฐานที่กล้องดิจิทัลคือ 1. ตัวกล้อง (Body) 2. เลนส์ (Lens) 3. ช่องมองภาพ (View Finder) 4. ชัตเตอร์ (Shutter) 5. แผ่น ไดอะแฟรม (Diaphram) 6. รูรับแสง (Aperture) ในการใช้กล้องดิจิทัลทางานถ่ายภาพจะต้องมีหลักการ องค์ประกอบภาพท่ีดี ลักษณะและเทคนิคการใช้แสงเงา สี รวมไปถึงสัดส่วนต่างๆในภาพเพื่อให้เกิด ประสิทธิผลในการใช้ภาพเพ่ือส่ือความหมายและสร้างการเรียนรู้ ซ่ึงการถ่าภาพจะมีการจัดเก็บไฟล์รูปภาพ ดจิ ิทลั แบ่งตามลักษณะการเกิดออกได้เป็น 2 รูปแบบ คือ ภาพดิจิทัลแบบ บิตแมป (Bitmap) และภาพดิจิทัล แบบเวคเตอร์ (Vector) หลงั ถา่ ยภาพและจดั เก็บในไฟล์ตามต้องการแล้ว ยังสามรถตกแตง่ ภาพถ่ายไดอ้ กี โดย ใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ Photoshop ซ่ึงเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีรวบรวมเครื่องมือสาหรับตกแต่งภาพ ประสทิ ธภิ าพสงู เพอื่ การทางานระดับมาตรฐานสาหรบั นกั ออกแบบมอื อาชพี ท่ีต้องการสร้างสรรค์งานกราฟิกที่ โดดเด่น หรอื แมแ้ ตน่ กั ตกแต่งภาพสมัครเล่นก็สามารถทจ่ี ะใชง้ านโปรแกรมน้ไี ด้ การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
44 8. แบบฝึกหัดท้ายบท 1. จงอธบิ ายความหมายของ พกิ เซล บติ ไบต์ เพราะบอกความสัมพนั ธ์ของท้งั 3คาในการทางานภาพดิจิทลั 2. อะไรคือความแตกตา่ งชองลักษณะภาพดิจทิ ัลท่ีแตกต่างจากภาพธรรมดาทว่ั ไป 3. CCD ยอ่ มาจากอะไร และทาหน้าท่อี ย่างไร 4. สว่ นประกอบพืน้ ฐานของกลอ้ งดิจทิ ลั มอี ะไรบ้าง 5. จงบอกความแตกต่างระหวา่ งกล้อง DSLR และ DSLR like 6. จงบอกขนาดไฟล์ภาพตอ่ ไปนใี้ นหนว่ ยของ KB,MB ในแต่ละข้อทกี่ าหนดให้ 6400 x 4800 คดิ เป็น..........KB 10720 x 4680 คิดเป็น..........KB 17920 x 13440 คดิ เป็น..........MB 25600x19200 คิดเป็น..........MB 7. จงอธิบายถึงมุมกล้องประเภทต่างๆและสามารถประยุกต์ใช้อย่างไร 8. เทคนคิ การถา่ ยภาพประเภทใดทค่ี ุณชอบใช้ เพราะเหตุใด 9. หากทางานตกแต่งภาพดว้ ยโปรแกรม Photoshop จะไดภ้ าพชนดิ ใด 10. จงจับคู่เครอ่ื งมอื tool ทต่ี รงกับหนา้ ทีก่ ารใชง้ าน Clone / Patters Stamp: ค่กู บั ....... A. ใช้ในการเลอื กพ้นื ท่บี นภาพเป็นเรขาคณิต Dodge:คกู่ ับ ....... B. ใช้เลือกพน้ื ท่ีบนภาพแบบอิสระ Healing / Patch / Red Eye: คูก่ บั ....... C. ใช้ตกแตง่ ลบรอยตาหนิในภาพ และแก้ปัญหาตาสีแดง History: คูก่ บั ....... D. ใช้ระบายเพ่ือเพม่ิ ความสว่าง/มดื Rectangle tool: คู่กบั ....... E. ใช้วาดรูปทรงเรขาคณิต Marquee: ค่กู ับ ....... F. ใช้ลากย้ายมมุ มองในพ้ืนทีท่ างาน Hand tool: คกู่ บั ....... G. ใช้ทาสาเนาภาพโดยการคดั ลอกภาพจากบรเิ วณอ่ืนๆ มา Blur/Sharpen/Smudge: คกู่ ับ ....... Lasso: คูก่ ับ ....... ระบาย Eye Dropper: คู่กบั ....... H. ใชเ้ ลอื กสี หรือ วัดระยะและมุมระหว่างจดุ ต่างๆบนภาพ I. ใช้ระบายภาพด้วยภาพเดมิ ท่ีผา่ นมา ใช้ระบายสใี ห้เบลอหรือคมชัด การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
45 9. ใบงาน “The good thing calling love” งานเดย่ี ว : 10 คะแนน Folder / File ตั้งชอ่ื DMP1035102-workshop3-รหสั นกั ศกึ ษา กาหนดส่งงาน : นักศึกษาส่งงานภายใน 14 วันที่ได้รับคาสังให้ดาเนินการทางาน โดยส่งผลงานที่ [email protected] ต้ังชื่อหัวข้อ DMP1035102-workshop3- รหัสนักศึกษา และรวบรวมไว้ในแฟ้ม สะสมงานของตนเอง เพอ่ื การวัดประเมินปลายภาคการศกึ ษา คาชี้แจง: 1. นักศึกษาถ่ายภาพสร้างสรรค์ช่ือ “The good thing calling love” โดยมีองค์ประกอบของรายการดังน้ี ดังนี้ เปน็ ภาพท่ีสามารถสื่อสารสะทอ้ นมุมมองและทัศนคติทด่ี จี ะคาว่า รกั ต้องมีข้อมความ“The good thing calling love” ปรากฏอยู่ในภาพแต่ไม่จากัดว่าตาม แหน่งใดหรือขนาดเทา่ ใด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและองค์ประกอบภาพ ให้ใชเ้ ทคนิคการถา่ ยภาพตา่ งๆ เพ่ือความสวยงามเหมาะสมตามทฤษฎี สามารถใช้ Photoshop ในการตกแตง่ ภาพตามจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ เป็นภาพท่ีมคี วามคดิ สร้างสรรคเ์ ป็นพน้ื ฐานในการถา่ ย เกณฑก์ ารให้คะแนน: มคี วามเหมาะสมในองคป์ ระกอบทกุ อย่างทีส่ อดคล้องสัมพันธก์ ัน มีความคดิ สรา้ งสรรค์ น่าสนใจ สะท้อนมุมมองและทัศนคติทีด่ จี ะคาวา่ รกั มคี ุณภาพของภาพที่ดี มีเทคนิคดี การผลิตสือ่ ระบบดิจิทลั 1031502
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: