Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Green Monochrome Forest Roadtrip Photo Thriller E-Book Cover (1)

Green Monochrome Forest Roadtrip Photo Thriller E-Book Cover (1)

Description: Green Monochrome Forest Roadtrip Photo Thriller E-Book Cover (1)

Search

Read the Text Version

ปณณวชิ ญ์ จิตไพศาลวัฒนา History ประวัติศาสตรย์ ุโรป

สารบญั 2 บทที1 ยคุ คลาสสิก บทที2 ยคุ กลาง บทท3ี ยุคใหม่ บทที4 ยโุ รปในศตวรรษที21 บทที5 พัฒนาการด้านการเมอื งการปกครอง บทที6 พฒั นาการด้านเศรษฐกจิ บทท7ี อทิ ธิพลทมี ีต่อสงั คมโลก 1

บทท1ี ยคุ คลาสสกิ 2

กรกี ภาพ 1.1 การจดั กองกําลังแบบ phalanx ของกรกี ทีใชใ้ นการสรู้ บในยคุ โบราณ โดยจัดทหารราบถือหอกเปน แถวโดยมีเกราะกาํ บงั อยู่ดา้ นหน้า เคลอื นทีช้าแต่สามารถทาํ ลายกองกาํ ลงั ศัตรูไดง้ ่าย อารยธรรมกรกี เปนอารยธรรมของชาวอินโด-ยโู รเปยน(Indo- European) ทีอพยพเขา้ มาตังรกรากในเอเชียไมเบอร(์ Asia Minor) อารยธรรมกรกี เปนรากฐานของอารยธรรมโรมันและอารยธรรมโลกตะวัน ตกในเวลาตอ่ มา กรกี ประกอบด้วยนครรฐั หลาายนครรฐั โดยมกี ษัตรยิ ห์ รอื ผ้ทู ไี ด้ รบั การเลอื กตงั ขนึ ปกครองแลว้ แต่นครรฐั นครรฐั ใดทีเจรญิ รุง่ เรอื งใน เวลานันก็จะเปนศูนยก์ ลางของภมู ภิ าค เชน่ เมือเอเธนส์ (Athens) มี อาํ นาจทางการคา้ เอเธนส์ก็จะเปนผ้นู ําในการรบกับเปอรเ์ ซยี (Persia War) หรอื สปารต์ า (Spartar) รบชนะเอเธนส์ในสงครามเพโลพอนเน เซีย (Peloponnesian War) เอเธนสก์ ็ตกเปนเมืองขนึ ของสปารต์ า อารยธรรมกรกี นันให้ความสําคัญกับงานเขียนศิลปะ ปรชั ญา และ ศาสนา ทงั สีอย่างนไี ดต้ กทอดมานบั พนั ปแมว้ า่ ช่วงเวลาอนั รุง่ โรจน์ของ กรกี จะได้จบลงไปแลว้ หลงั จากพา่ ยแพ้แก่โรมใน สงครามไพรกิ (Phyrric War)

ศาสนากรีก ชาวกรกี บูชาเทพเจ้าหลายองค์ ในลกั ษณะของพหเุ ทวนิยม โดยเชือว่า เทพเจา้ อาศัยอยู่บนเทอื กเขาโอลิมปส (Olympus) เทพเจา้ ทีชาวกรกี บูชามนี บั รอ้ ยองค์ แตช่ าวกรกี เชือว่าเทพเจ้าทีสาํ คญั ทีสุดมอี ยู่ 12 องค์ เรยี กวา่ โอลิมเปยน (Olympians) ภาพ 1.2 รูปวาดของซสุ (Zeus) หรอื จปู เตอร์ (Jupiter) เทพทีชาวกรกี -โรมันเชอื ว่าเปนราชาแหง่ เทพ เทพตามความเชือของชาวกรกี นนั มีลักษณะความด-ี ชวั เหมือนมนุษย์ กล่าวคอื เทพของกรกี นันยงั คงสามารถทําความผิดและถกู ลงโทษได้ชาวโรมนั ก็ นับถอื เทพองค์เดยี วกบั ชาวกรกี แต่เปลยี นชอื จากภาษากรกี เปนภาษาละติน เช่น ซุส (Zeus) เปน จูปเตอร์ (Jupiter) หรอื เฮรา่ (Hera) เปน จูโน่ (Juno) ชาวกรกี มีการสรา้ งวหิ ารเพือสักการะเทพเจา้ วิหารเหล่านยี งั คงเหลือรอดในปจจุบนั ทาํ ให้คนรุน่ หลังยังได้มีโอกาสเหน็ งานสถาปตยกรรมแบบกรกี อยู่ เชน่ วหิ ารพารเ์ ธนนอน (Parthenon)

ปรชั ญาและวทิ ยาศาสตรก์ รกี ชาวกรกี ไม่ใชค่ นกลมุ่ แรกทตี ้องการคน้ หาความจรงิ เกียวกบั โลก มนุษย์ และ ธรรมชาติ แต่เปนคนกลมุ่ แรกทีไดจ้ ัดบนั ทึกแนวคิดไว้อยา่ งเปนลายลกั ษณอ์ ักษร โสคราตีส (Socrates) ได้รบั การยกยอ่ งวา่ เปนบิดาแหง่ ปรชั ญา และเขาก็ได้สง่ ทอด ความรูใ้ หก้ บั ศิษย์ของเขา เพลโต (Plato) และต่อไปใหอ้ รสิ โตเตลิ (Aristotle) ผู้กอ่ ตังไลเซยี ม (Lycium) ทีเปนโรงเรยี นทีสอนเกยี วกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ละปรชั ญา นอกจากนี ชาวกรกี ยังคน้ หาความจรงิ ผ่านวทิ ยาศศาสตรอ์ กี ด้วย นัก วทิ ยาศาสตรท์ ีสาํ คญั ในยุคกรกี โบราณมหี ลายคน เชน่ ธาลีส (Thales) พีทาโกรสั (Pythagoras) ยูคลิด (Euclid) ปโตเลมี (Ptolemy) อาคิมีดสิ (Archimedes) อรี า ทอสเธนสี (Eratosthenes) ภาพ1.3 (ซา้ ย) หนงั สอื Elements ของยคู ลดิ เปนหนังสือคณติ ศาสตรเ์ ลม่ แรกๆ ของโลก ยู คลิดพิสจู นท์ างคณิตศาสตรใ์ นเวลาต่อมา นอกจากนหี นงั สอื เล่มนยี งั กลา่ วถึงหลักพนื ฐานของ เรขาคณิต ทาํ ให้เรขาคณิตแบบทียูคลดิ กลา่ วถึงถูกเรยี กวา่ เรขาคณิตแบบยคู ลดิ (Euclidean Geometry) ภาพ1.4 (ขวา) หลกั การในการหาควมยาวรอบโลกของอีราทอสเธนสี โดยการวัดความยาวของ เงาในเมอื งสองเมืองและใชอ้ ตั ราสว่ นมาชว่ ย เขาคาํ นวณวา่ โลกมีเส้นรอบวง 40,000 กโิ ลเมตร ซงึ หา่ งจากความเปนจรงิ เพยี งไมก่ รี อ้ ยกโิ ลเมตรเทา่ นนั

โรมนั โรมยคุ โบราณ (Ancient Rome) แบง่ ออกเปนสามยุค ไดแ้ ก่ 1. ยุคอาณาจักร (Roman Kingdom) (753-509 ก่อน ค.ศ.) 2. ยุคสาธารณรฐั (Roman Republic) (509-27 ก่อน ค.ศ.) 3. ยุคจกั รวรรดิ (Roman Empire) (27 ก่อน ค.ศ.-ค.ศ.395) โรมยุคเรมิ ต้นตงั อยบู่ นเทือกเขาพาลาไทน์ (Palatine Hill) และไดข้ ยาย อาณาเขตออกไปจนครอบคลุมอิตลี (Italy) และเกาะซีซลิ ิ (Sicily) ในจดุ สูงสดุ อาณาเขตของโรมกวา้ งไกลจรดสเปน (Spain) ในทศิ ตะวันตก เกาะบรเิ ตน (Britain) ในทิศเหนอื อยี ิปต์ (Egypt) ในทิศใต้ และเอเชียไมเนอร์ (Asia Minor) ในทิศตะวัน ออก ชาวโรมนั เปนชนตา่ งชาติกลุ่มแรกทเี ข้าไปในเกาะบรเิ ตนโดยการล่องเรอื ของ จเู ลียส ซซี าร์ (Julius Caesar) หนงึ รอ้ ยปหลงั จากนนั ชาวโรมนั ก็เข้าไปตงั รกรากในเกาะบรเิ ตนรว่ มกบั ชนพืนเมอื ง ทาํ ใหภ้ าษาองั กฤษมีคาํ ทมี ีรากฐานมาจาก ภาษาละตนิ มาก ภาพ1.5 อาณาจักรโรมนั ในจดุ สงู สุด ใน ค.ศ. 117

ระบอบสาธารณรฐั ในโรม ภาพ1.6 ภาพวาดรฐั สภา (Senate) ของสาธารณรฐั โรมัน หลังจากขับไลก่ ษัตรยิ ์คนสุดทา้ ยทาควินอิ สุ (Tarquinius the Proud) ออก ไปจากเมือง ชาวโรมนั ก็ลม้ เลิกระบอบกษัตรยิ แ์ ละเปลียนมาเปนระบอบสาธารณรฐั แทนโดยมกี ารเลอื กตังกงสุล (Consul) ปละสองคนมาดาํ รงตาํ แหนง่ ผ้นู าํ ประเทศ โดยมวี าระ 1 ป และมวี ุฒิสมาชิก (Senate) ออกกฎหมายให้กับสาธารณรฐั โดย แตล่ ะปจะมีการเลอื กตังวุฒสิ มาชิก (Senator) 20 คน เขา้ มาในวฒุ ิสภา ซงึ สามารถ เปนวฒุ สิ มาชิกไดต้ ลอกชีพ ระบอบสาธารณรฐั สินสุดลงใน 27 ปก่อน ค.ศ. เมือออตเตเวียน (Octavian) บุตรบุญธรรมของจเู ลยี ส ซซี าร์ (Julius Caesar) สภาปนาตนเองขนึ เปนจกั รพรรดิ ออกุสตสุ (Augustus) ภาพ1.7 ชเิ คอโร (Cicero) กงสลุ รฐั บรุ ุษ นักกฎหมาย และนกั ปรชั ญา ผลงานทีสําคญั คือการออกกฎอัยการ ศกึ (Senatus Consultum Ultimum) ใน 63 ปกอ่ น ค.ศ. เพือปองกนั สงครามกลางเมืองระหวา่ งรฐั สภาและ คาตลิ นิ า (Catilina) เขายังมงี านเขียน มากมายทเี ลา่ เรอื งราวในยุคสมยั ของ เขาเขาได้รบั การยกย่องจากนกั ประวัติศาสตรว์ า่ เปนนักการเมอื งที สําคญั ทสี ดุ ของโรม

โรมยุคจักรวรรดิ ในยุคจกั รวรรดโิ รมมีราชวงศ์อยสู่ รี าชวงศ์ โดยจกั รพรรดิของโรมกม็ ีชอื เสยี งทงั ในทางบวกและทางลบ เช่น เนโร (Nero) ซงึ ไดช้ อื วา่ เปทรราชและทําให้ ราชวงศ์ของตนสินสดุ ลง หรอื จัสตเิ นยี นที1 (Justinian I) ผู้ประกาศให้ศาสนา ครสิ ตเ์ ปนศาสนาหลกั เปลียนจากศาสนากรกี ทอี ยู่มากว่าหา้ รอ้ ยป ใน ค.ศ. 395 หลังการตายของทโี อดอซอิ สุ ท1ี (Theodosius I) จกั รวรรดิ ได้แบ่งแยกออกเปนอาณาจกั รโรมนั ตะวันออกและตะวนั ตก อาณาจักรตะวันออกมี ศูนยก์ ลางอยู่ทีไบแซนเทยี ม (Byzantium) และคอนสแตนติโนเปล (Constantinople) ในเวลาตอ่ มา สว่ นอาณาจักรตะวนั ตกทศี นู ย์กลางอย่ทู มี ลิ าน (Milan) และโรมได้ลดสถานะลงเปนเพยี งแคศ่ นู ย์กลางทางศาสนาเท่านัน ภาพ1.8 ภาพวาดจกั รพรรดเิ นโร ผ้สู งั เผากรุงโรม เขาอ้างว่าเปนความรบั ผดิ ชอบ ของชาวครสิ ต์ ทาํ ให้ชาวครสิ ต์ทังหมดถูกกวาดลา้ งอย่างหนกั Historia Civilis เปนแชแนล Youtube ทีนําเสนอเกียว กับการเมืองและสงคราม ในยคุ คลาสสิกผ่านแอนนเิ ม ชันสีเหลยี มหลายสี https://www.youtube.com/channel/UCv_vLHiWVBh_FR9vbeuiY-A

อาณาจกั รไบแซนไทน์ ภาพ 1.9 อิสตันบลู (Istanbul) ประเทศตุรกี ชอื ในอดตี คือคอนสแตนติโนเปล ใจกลางเมืองคอื มสั ยดิ โซเฟย (Little Hagia Sophia) ทเี ปนอดตี มหาวิหารของอาณาจักรไบแซนไทน์ ถกู เปลยี น เปนมสั ยิดหลังจากไบแซนไทน์เสียเมอื งให้กับออตโตมัน (Ottoman) ใน ค.ศ. 476 ชนเผา่ ทางเยอรมนไี ดต้ อ่ ตา้ นการปกครองของโรม โรมลุ ุส ออกุ สตสุ (Romulus Augustus) จักรพรรดิแห่งอาณาจักรตะวันออกไมส่ ามารถตอ่ สกู้ ับ ชนเผ่าได้ ทาํ ให้ตอ้ งหนีออกจากเมืองไป และเปนจุดสนิ สดุ ของอาณาจกั รโรมนั ตะวนั ตก บรรดาเมอื งตา่ งๆ ทีเคยอยู่ภายใตโ้ รมกลายเปนนครรฐั ทีปกครองตนเอง แต่อารยธรรมโรมนั ยังคงอย่ตู ่อไปในอาณาจกั รตะวันออก หรอื ไบแซนไทน์ (Byzantine) และยังคงอยไู่ ปตลอดยุคกลางถงึ แม้ในตอนท้ายเหลอื ความเปนโรมันอยู่ เพยี งไมก่ ีอย่าง แมแ้ ตภ่ าษาละตินทเี ปนภาษาหลัก ก็ถูกเปลยี นเปนภาษากรกี ในรอ้ ย กวา่ ปต่อมา ภาพ1.10 ภาพโมเสกของจกั รพรรดจิ สั ตเิ นยี น ผปู้ ระกาศให้ศาสนาครสิ ตเ์ ปนศาสนาหลกั ของ อาณาจักรโรมนั ตะวันออก และไดร้ บั การแตง่ ตงั เปนนกั บญุ จากพระสันตะปาปา อนึงโมเสกเปน หนงึ ในสถาปตยกรรมโรมันทพี บได้บอ่ ยครงั ใน งานศลิ ปะปจจุบัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook