Made by Pitsanun Bomrungchit
ยโุ รปเป็ นทวีปท่ีตง้ั อยใู่ นซีกโลกเหนือและสว่ นมากอย่ใู นซีกโลก ตะวนั ออก ทางทิศเหนือติดกบั มหาสมทุ รอารก์ ติก ทางทิศใตต้ ิด กบั ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียน ทางทิศตะวนั ออกติดกบั ทวีปเอเชีย ทางทิศตะวนั ตกติดกบั มหาสมทุ รแอตแลนติก เป็ นอนทุ วีป ทางดา้ นตะวนั ตกของทวีปยเู รเชีย มนษุ ยโ์ ฮโมอีเรคตสั กบั มนษุ ยน์ ีแอนเดอรธ์ อล อาศยั อยใู่ นยโุ รปมา นานกอ่ นที่มีมนษุ ยป์ ัจจบุ นั กระดกู ของมนษุ ยย์ คุ แรก ๆ ในยโุ รปถกู พบที่เมือง Dmanisi ประเทศจอรเ์ จีย ซ่ึงกระดกู เหลา่ นนั้ คาดว่า มีอายรุ าว ๆ 2 ลา้ นปี กอ่ นครสิ ตกาล หลกั ฐานของมนษุ ยท์ ่ีมี โครงสรา้ งสรรี ะคลา้ ยมนษุ ยป์ ัจจบุ นั ที่ปรากฏในยโุ รปที่เกา่ ท่ีสดุ นนั้ คือประมาณ 35,000 ปี กอ่ นครสิ ตกาล แต่หลกั ฐานแสดงการตง้ั รกรากถาวรนน้ั แสดงอยรู่ าว ๆ 7000 ปี กอ่ นครสิ ตกาลในประเทศ บลั แกเรยี โรมาเนีย และ กรซี
ยโุ รปกลางเขา้ ส่ยู คุ หินใหม่ ในช่วงราว ๆ 6000 ปี กอ่ นครสิ ตกาลกอ่ นหลาย ๆ ท่ีในยโุ รปเหนือซ่ึงเขา้ สู่ ยคุ หินใหม่ในช่วงราว ๆ 5000 ถึง 4000 ปี กอ่ น ครสิ ตกาล ราว ๆ 2000 ปี กอ่ นครสิ ตกาลเรม่ิ มีอารย ธรรมที่มีความรทู้ างการอ่าน-เขียนในยโุ รปคืออารย ธรรมของพวกมิโนน ท่ีเกาะ crete และตามดว้ ย พวกไมเซเนียน ราว ๆ 400 ปี กอ่ นครสิ ตกาล วฒั นธรรมลาทีเน่ ซ่ึง Minoans เป็ นวฒั นธรรมในยคุ เหลก็ ไดแ้ พรก่ ระจายไป เกือบทวั่ ภาคพ้ืน พวกอีทรสั กนั ไดเ้ ขา้ ไปตง้ั รกรากในตอนกลางของอิตาลีและลอมบา ดี ซ่ึงอยตู่ อนเหนือของอิตาลีปัจจบุ นั crete Myceneans Etruscans
สงครามกรกี -เปอรเ์ ซีย คือ สงครามของพวกกรีกกบั ชาว เปอรเ์ ซียที่บกุ มาจากทางฝั่ งอาหรบั เขา้ มาทางตอนเหนือ ประวตั ิศาสตร์ ไดจ้ ดบนั ทึกวีรกรรมของชาวสปารต์ า ที่ไปรบขวางพวกเปอรเ์ ซียท่ีมีเป็ น แสนไดด้ ว้ ยกาลงั คนไมก่ ่ีพนั ท่ีชอ่ งเขา เทอรม์ อพิลี นาโดยกษตั ริยล์ โี อไนดาส ท่ี 1 หยดุ พวกเปอรเ์ ซียไวไ้ ดห้ ลายวนั กอ่ นที่จะถกู ทาลาย ถ่วงเวลาใหช้ าว กรกี มีเวลาตง้ั ตวั ต่อกรกบั ชาว เปอรเ์ ซียไดส้ าเร็จในภายหลงั
เป็ นสงครามกลางเมืองระหวา่ ง รฐั ของชาวเอเธนส์ มหาอานาจทาง ทะเลกบั ชาวสปารต์ าชนชาตินกั รบ หลงั จากสงครามกบั พวกเปอรเ์ ซียได้ ไมน่ าน ชาวสปารต์ าไปขอความ ชว่ ยเหลือจากพวกเปอรเ์ ซียใหช้ ว่ ยต่อ เรือไปสกู้ บั ชาวเอเธนส์ ตดั เสบียงทาง ทะเลจนชาวเอเธนสอ์ ดอยากตอ้ งยอม แพไ้ ปในที่สดุ หลงั จากสงครามครง้ั น้ี รฐั กรกี ก็เร่ิมทาสงครามกนั เร่ือยมา ทาใหเ้ สื่อมอานาจลงอยา่ งรวดเร็วจน การมาถึงของชาวมาซีดอน
พวกโรมนั มีกษตั รยิ ป์ กครองกนั เรอื่ ยมาหลงั ตานานโรมู ลสุ กษตั รยิ ล์ กู หมาป่ าที่กอ่ ตง้ั กรงุ โรม จนมาถึงรน่ ุ ของกษตั รยิ ์ ทาควิน เป็ นองคส์ ดุ ทา้ ย ว่ากนั ว่าชาวโรมนั ไม่พอใจที่ทาควินส รา้ งส่ิงกอ่ สรา้ งต่าง ๆ มากมายจนประชาชนเดือดรอ้ นทาใหม้ ี ตระกลู ชน้ั สงู พวกแพทรเิ ซียน ท่ีมีอานาจในกรงุ โรมนาโดยสกลุ บรตู สั พากนั ขบั ไลพ่ ระองคล์ งจากบลั ลงั ก์
ตงั้ แต่นนั้ มาชาวโรมนั ก็ใชก้ ารปกครอง แบบสาธารณรฐั ปกครองโดยสภาซีเนต มาถึง 400 ปี จวบจนมาถึงยคุ ของ จกั รพรรดิออกสั ตสั จกั รพรรดิพระองค์ แรกของจกั รวรรดิโรมนั
พวกคนเถื่อนทางตอนเหนือของยโุ รปกา้ วรา้ วบกุ รกุ อาณาจกั รโรมนั กนั เป็ นวา่ เลน่ หนึ่งในนนั้ มี “แอตติลา” ผนู้ าของคนเถ่ือนที่เป็ นตานาน รวบรวมเหลา่ คนเถื่อน มาไวด้ ว้ ยกนั นากาลงั บกุ เขา้ ไปในอาณาจกั รโรมนั แต่ถึง กระนน้ั ก็ไมส่ ามารถท่ีจะบกุ เขา้ ไปถึงกรงุ โรมไดถ้ กู พวก โรมนั หยดุ ยง้ั ไวไ้ ดก้ อ่ น แลว้ ก็มาดว่ นตายไป แต่การกระทาของแอตติลาก็สง่ ผลใหพ้ วกคนเถ่ือน บกุ เขา้ ไปในจกั รวรรดิโรมนั จนในท่ีสดุ กรงุ โรมก็ถกู ตี แตกโดยพวกเยอรมนั เป็ นการส้นิ สดุ อิทธิพลของพวก โรมนั ในยโุ รปตะวนั ตก คงเหลอื แต่พวกโรมนั ที่กรงุ คอนสแตนติโนเบิลเท่านนั้ ท่ียงั คงแผอ่ ิทธิพลออกไป
ยคุ กลาง เรยี กอีอยา่ งว่ายคุ มืดหมายถึงช่วงเวลาของความเสื่อม โทรมทงั้ ทางวฒั นธรรมและทางสงั คมในยโุ รปหลงั จากการ ลม่ สลายของจกั รวรรดิโรมนั มาจนถึงในสมยั ท่ีมีการฟ้ื นฟู การศึกษากนั ข้ึนอีกครงั้ แต่ความเขา้ ใจท่ีเพิ่มข้ึนในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 19 ของ ความสาเรจ็ ต่างๆท่ีเกิดข้ึนในยคุ น้ีทาใหภ้ าพพจนข์ องลกั ษณะ ความเป็ นยคุ มืดเปล่ยี นไป ฉะนนั้ คาว่ายคุ มืดจึงจากดั เฉพาะ ช่วงเวลาหน่ึงภายในยคุ กลาง ที่สาคญั คือยคุ กลางตอนตน้ แต่การ จากดั น้ีก็ยงั ไม่เป็ นที่ตกลงกนั ในหม่นู กั วิชาการสมยั ใหม่ผมู้ กั จะ เลย่ี งการใชค้ าน้ี
กรงุ โรมลม่ สลายพรอ้ มกบั การกา้ วข้ึนมาของคนเถื่อนทางเหนือ พวกแฟรงค์ คนเถ่ือนทางประเทศฝรงั่ เศสกา้ วข้ึนมาเป็ นใหญ่โดยการ นาของ “พระเจา้ ชารเ์ ลอมาญ” เม่ือรวบรวมดินแดนทางยโุ รปตะวนั ตก ไวไ้ ดม้ ากมายแลว้ ชาเลอรม์ าญกไ็ ปทาสญั ญากบั พระสนั ตะปาปาข้ึน เป็ นจกั รพรรดิของอาณาจกั รโรมนั ตะวนั ตก ตง้ั อาณาจกั รโรมนั ตะวนั ตกข้ึนมาใหม่จากที่เคยลม่ สลายลงไป ภายใต้ ช่ือ \"จกั รวรรดิโรมนั อนั ศกั ด์ิสิทธ์ิ\" ทง้ั น้ีกเ็ พื่อจะไดเ้ ป็ นอิสระจาก อิทธิพลของอาณาจกั รโรมนั ตะวนั ออก
พระสนั ตะปาปาเรยี กรอ้ งใหช้ าวครสิ ตท์ กุ คนนากาลงั ไป ช่วยเหลือจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ออกที่กาลงั ถกู พวกอาหรบั กลนื กนิ กองทพั ของผศู้ รทั ธานากาลงั บกุ เขา้ ไปถึงกรงุ เยร ู ซาเลม ดินแดนอนั ศกั ดิ์สิทธิ์ในพระคาภีรฉ์ บบั เกา่ ของโมเสส ที่ถกู ชาวอาหรบั ครอบครอง กองทพั ครเู สดยดึ ดินแดนไดแ้ ถบรมิ ฝ่ังตะวนั ออกของทะเล เมดิเตอรเ์ รเนียนแลว้ ตง้ั เป็ นประเทศ อยมู่ าจนการมาถึงของ ซาลาดิน สลุ ต่านอาหรบั ท่ีสามารถบกุ ยดึ กรงุ เยรซู าเลมจาก พวกครเู สดได้ ตง้ั แต่นน้ั มานกั รบครเู สดท่ีถกู สง่ มาอีกหลาย ๆ ครงั้ กไ็ มส่ ามารถที่จะยดึ คืนกรงุ เยรซู าเลมกลบั มาไดอ้ ีกเลย
สงครามรอ้ ยปี เป็ นความขดั แยง้ ระหวา่ งองั กฤษและฝรงั่ เศส นาน 116 ปี นบั จาก พ.ศ. 1880 ถึง พ.ศ. 1996 เรม่ิ จากการอา้ งสิทธิ์ของกษตั รยิ ์ องั กฤษเหนือบลั ลงั กฝ์ รง่ั เศส คาที่นกั ประวตั ิศาสตรใ์ ชน้ ิยามสงคราม ความขดั แยง้ แบ่งไดส้ ามถึงสชี่ ว่ ง คือ สงครามยคุ เอ็ดเวิรด์ สงครามยคุ แครอไลน์ สงครามยคุ แลงคาสเตอร์ องั กฤษกบั ฝรงั่ เศสเป็ นไมเ้ บ่ือไมเ้ มากนั มานาน ชาวนอรม์ งั ดีบกุ ไปชิงราช บงั ลงั กท์ ่ีเกาะองั กฤษเพราะยงั อยากที่จะไดด้ ินแดนของบรรพบรุ ษุ กลบั มาอีกครง้ั องั กฤษกบั ฝรงั่ เศสจึงทาสงครามกนั เรอ่ื ยมา ชว่ งหลงั ของสงครามองั กฤษสามารถบกุ เขา้ ไปยดึ ดินแดนของฝรง่ั เศสได้ จนเกอื บจะส้นิ ชาติ แต่ก็มีการมาถึงของหญิงสาว “ฌานดารค์ ” (โจน ออฟอารค์ ) สาวชาวนาผไู้ ดร้ บั นิมิตจากพระเจา้ ใหน้ าฝรง่ั เศสไปสเู่ อกราช จากพวกองั กฤษ แต่ไมท่ นั ท่ีจะจบสงครามโจนก็ถกู จบั ไปเผาในขอ้ หาว่า เป็ นแม่มด แต่การกระทาของโจนก็ไม่เสยี เปลา่ พวกฝรงั่ เศสขบั ไล่องั กฤษ ออกจากประเทศไดส้ าเรจ็
หลงั จากการลม่ สลายของกรงุ โรม โรมนั ทางฝั่งตะวนั ออกก็ค่อยๆ ลมื เลอื นความยิง่ ใหญ่ของตวั เองในฟากตะวนั ตกไปหมด จกั รพรรดิองค์ ต่อๆ มากไ็ มใ่ ช่คนจากอิตาลีอีกต่อไป แต่เป็ นชาวกรกี ดง้ั เดิมท่ีอยมู่ า กอ่ นพวกโรมนั พวกกรกี เม่ือไม่รสู้ ึกถึงคณุ ค่าของความเป็ นโรมนั ก็ตงั้ ชื่ออาณาจกั รใหมเ่ ป็ น “ไบแซนไทน”์ ตามชื่อเกา่ ของเมืองคอนสแตนติ โนเบิลเมืองที่มงั่ คงั่ ท่ีสดุ ในยโุ รปยคุ มืด แต่ชาวอาหรบั ท่ีขยายอานาจออกมาก็ทาใหไ้ บแซนไทนเ์ สื่อมอานาจลง เรอื่ ยๆ จนในท่ีสดุ ก็มาเสยี กรงุ ใหก้ บั ชาวเติรก์ ทาใหก้ รงุ ไบเซนติอมุ กลาย เป็ นเมืองหลวงในชื่อ อิสตนั บลู
หรอื เรอแนซ็องส์ เป็ นชว่ งเวลาท่ีเกดิ การเปลยี่ นแปลงทางวฒั นธรรมใน ทวีปยโุ รป ซ่งึ เป็ นจดุ เรม่ิ ตน้ ของวฒั นธรรมยคุ ใหม่ สมยั ฟ้ื นฟศู ิลปวิทยา เป็ นการเคลอ่ื นไหวทางวฒั นธรรมที่กนิ เวลาตง้ั แตร่ าวครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 14 ถึง 17 ประกอบดว้ ยการเปลยี่ นแปลงทางวรรณกรรม วิทยาศาสตร์ ศิลปะ ศาสนาและการเมือง การฟ้ื นฟกู ารศึกษาโดยอาศยั ผลงานคลาสสกิ การพฒั นาจิตรกรรม และการปฏิรปู การศึกษาอยา่ งคอ่ ยเป็ นค่อยไป ซ่ึงการเปลย่ี นแปลง ดงั กลา่ วไดอ้ าศยั พลงั ของนกั มนษุ ยนิยมและปัจเจกชนนิยมเป็ นเครอ่ื ง จงู ใจ เป็ นที่ยอมรบั กนั โดยทว่ั ไปวา่ สมยั ฟ้ื นฟศู ิลปวิทยาเกิดข้นึ ในฟลอ เรนซ์ แควน้ ทสั กานี ในช่วงครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 14
หลงั จากสงครามครเู สดอนั ยาวนานรว่ ม 300 ปี ส้ินสดุ ลง ยโุ รปก็ เขา้ ส่สู มยั ฟ้ื นฟศู ิลปวิทยา โดยในช่วงแรกความรทู้ างศิลปะและ วิทยาการของกรีกและโรมนั ไดถ้ กู นาเขา้ มาผ่านเอกสารและ หนงั สือท่ีนกั วิชาการมสุ ลมิ ในโลกอาหรบั ไดแ้ ปลไว้ เช่น ปรชั ญา ของอริสโตเติล และคณิตศาสตรข์ องกรกี ต่อมาการลม่ สลายของนครคอนสแตนติโนเปิ ล ศนู ยก์ ลางแห่งจกั รวรรดิไบ แซนไทน์ ในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 จากการรกุ รานของสลุ ต่านเมหเ์ หม็ด ท่ี 2 แห่งจกั รวรรดิออตโตมนั ทาใหบ้ รรดาพระ และผมู้ ีวิชาความรใู้ นเมือง หอบตาราสาคญั ท่ีคดั ลอกดว้ ยมือ ต่างๆอนั เป็ นความรแู้ ละสมบัติทาง วฒั นธรรมท่ีตกทอดมาจากอารยธรรมกรกี และโรมนั ออกมาเผยแพรเ่ พื่อต่อสงั คมยโุ รปในวงกวา้ ง และเน่ืองจากในขณะนน้ั เทคโนโลยีการพิมพ์ และการพิมพแ์ บบตวั เรยี ง เพิ่งไดร้ บั การประดิษฐข์ ้ึน โดยกเู ทนเบิรก์ ในยโุ รป ความรศู้ ิลปวิทยาการในสมยั คลาสสิคจึง แพรก่ ระจายไปไดเ้ ร็วมาก
ทาใหย้ โุ รปไดน้ าศิลปวิทยาการที่ไดร้ บั การเผยแพรใ่ หม่ เหลา่ น้ี มาสอนในมหาวิทยาลยั ตลอดจนนามาปรบั ปรงุ ดดั แปลงใหม่ ทาใหย้ โุ รปมีความเจรญิ กา้ วหนา้ ใน ศาสตรท์ กุ ๆ ดา้ น อาทิเช่น 1.ศิลปศาสตร์ ศิลปิ นและผลงานที่มีช่ือเสียง เช่น เลโอนารโ์ ด ดา วิน ชี ผวู้ าดรปู โมนาลิซา มีเกลนั เจโล ผปู้ ้ันรปู ปั้นเดวิด ซง่ึ เชื่อวา่ เป็ นชาย ที่มีสดั สว่ นสมบรู ณท์ ี่สดุ ในโลก ราฟาเอลผกู้ ากบั การสรา้ งและ ตกแต่งมหาวิหารนกั บญุ เปโตร เป็ นตน้ 2.เทคโนโลยี เทคโนโลยที ี่สาคญั คือ เทคโนโลยกี ารต่อเรอื โดยชาติที่ เป็ นผรู้ เิ รม่ิ คือ โปรตเุ กสและสเปน ซง่ึ ทาใหก้ ารติดต่อคา้ ขายกบั เอเชีย สะดวกข้นึ 3.วิทยาศาสตร์ แนวคิดที่สาคญั ไดแ้ ก่ การเลน่ แรแ่ ปรธาต ุ โดยพารา เซลซสั , แนวคิดระบบดวงอาทิตยเ์ ป็ นศนู ยก์ ลาง โดยนิโคเลาส์ โค เปอรน์ ิคสั และความรดู้ า้ นการแพทย์ โดยแอนเดรยี ส เวซาเลียส และ วิลเลียม ฮารว์ ีย์
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: