ระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล สอน ชนั มธั ยมศึกษาปที 5 ครู เกมส์ (นาย พลฤทธิ พัดด)ี
คําวา่ ระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล จะใชเ้ ฉพาะกบั ระบบดาวเคราะห์ทมี โี ลกเปนสมาชกิ และไม่ควร เรยี กวา่ ระบบสรุ ยิ ะจกั รวาลอยา่ งทเี รยี กกนั ตดิ ปาก เนื องจากไมเ่ กยี วขอ้ งกับคําวา่ จักรวาล ตามนั ยทใี ชใ้ นปจจบุ นั ระบบสรุ ยิ ะ ประกอบดว้ ยดวงอาทติ ย์และวัตถอุ นื ๆ ทโี คจรรอบดวง อาทติ ย์ เชน่ ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์น้ อย ดาวหาง และดาวบรวิ าร โลกเปนดาวเคราะห์ทอี ยู่ ห่างจากดวงอาทติ ยเ์ ปนลําดบั ที 3 โดยทวั ไป ถา้ ให้ถกู ตอ้ งทสี ุดควรเรยี กวา่ ระบบดาวเคราะห์ เมอื กลา่ วถงึ ระบบทมี วี ตั ถตุ า่ งๆ โคจรรอบดาวฤกษ์
ระบบสรุ ยิ ะประกอบดว้ ยดวงอาทติ ยแ์ ละวตั ถอุ นื ๆ ทโี คจรรอบดวงอาทติ ยเ์ นืองจากแรงโน้มถว่ ง ไดแ้ ก่ ดาวเคราะห์ 8 ดวงกบั ดวงจนั ทรบ์ รวิ าร (Moon) ทคี น้ พบแลว้ 166 ดวง ดาวเคราะห์แคระ (Dwarf planet) 5 ดวงกบั ดวงจนั ทรบ์ รวิ ารทคี น้ พบแลว้ 4 ดวง กบั วตั ถขุ นาดเลก็ อนื ๆ อกี นับ ลา้ นชนิ ซงึ รวมถงึ ดาวเคราะห์น้อย (Asteroid) วตั ถใุ นแถบไคเปอร์ (Kuiper Belt) ดาวหาง (Comet) สะเกด็ ดาว (Meteoroid) และฝนุ ระหวา่ งดาวเคราะห์ (Interplanetary dust cloud)
โดยทวั ไปแลว้ จะแบง่ ยา่ นตา่ ง ๆ ของระบบสรุ ยิ ะ นั บจากดวง อาทติ ยอ์ อกมาดงั นี คือ ดาวเคราะห์ชนั ในจํานวน 4 ดวง แถบดาว เคราะห์น้ อย (Asteroid belt) ดาวเคราะห์ขนาดใหญร่ อบนอก จํานวน 4 ดวง และแถบไคเปอร์ (Kuiper Belt) ซงึ ประกอบด้วย วตั ถทุ เี ยน็ จดั เปนนาแขง็ พ้นจากแถบไคเปอรอ์ อกไปเปนเขตแถบ จานกระจาย (Scattered disc) ขอบเขตเฮลิโอพอส (Heliosphere) (เขตแดนตามทฤษฎที ซี งึ ลมสรุ ยิ ะสินกําลังลง เนื องจากมวลสารระหว่างดวงดาว) และพ้นไปจากนั นคือย่านของ เมฆออรต์ (Oort cloud)
แถบดาวเคราะห์น้ อย (Asteroid belt) แถบดาวเคราะห์น้ อย เปนบรเิ วณในระบบสุรยิ ะทีอยู่ ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี ประกอบ ไปด้วยวัตถุรูปรา่ งไม่แน่ นอนจํานวนมาก เรยี กว่าดาว เคราะห์น้ อย (Asteroid หรอื Minor planet) บางครงั ก็ เรยี กแถบดาวเคราะห์น้ อยว่า \"แถบหลัก\" เพือแยกแยะมัน ออกจากดาวเคราะห์น้ อยกลุ่มอืน ๆ ทีมีอยู่ในระบบสุรยิ ะ เชน่ แถบไคเปอรม์ วลกว่าครงึ หนึ งของแถบดาวเคราะห์ น้ อยอยู่ในดาวเคราะห์น้ อยทีมีขนาดใหญ่ทีสุด4 ดวง ได้แก่ ซรี สี , เวสตา, พัลลัส และไฮเจียทังสีดวงนี มีเส้นผ่าน ศูนย์กลางเฉลียมากกว่า 400 กิโลเมตร สําหรบั ซรี สี ซงึ ถือ เปนดาวเคราะห์แคระเพียงดวงเดียวในแถบดาวเคราะห์ น้ อยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 950 กิโลเมตร ส่ วนทีเหลือมีขนาดลดหลันกันไปจนถึงเศษฝุน
แถบไคเปอร์ (Kuiper Belt) แถบไคเปอร์ หมายถงึ บรเิ วณทอี ยเู่ ลยวงโคจรของดาวเนปจูน ออกไป ทดี า้ นนอกระบบสรุ ยิ ะรอบนอก มบี รเิ วณกว้าง 3,500 ลา้ นไมล์ มกี อ้ นวตั ถแุ ข็ง เปนนาแข็งขนาดเลก็ จํานวนมาก โคจรรอบดวงอาทติ ย์ ลกั ษณะคลา้ ยกับแถบดาวเคราะห์น้ อย ทอี ยรู่ ะหวา่ งวงโคจรของดาวองั คารกบั ดาวพฤหัสบดี วตั ถทุ ี อยใู่ นแถบไคเปอร์ มชี อื เรยี กวา่ วัตถแุ ถบไคเปอร์ (Kuiper Belt Object - KBO) หรอื อกี ชอื หนึ งวา่ วตั ถุพ้นดาวเนปจนู (Trans-Neptunian Object - TNO) ซงึ มอี งค์ประกอบส่วน ใหญเ่ ปนนาแขง็ เชอื กนั วา่ ก้อนนาแข็งเหลา่ นี เปนแหล่ง กําเนิ ดของดาวหางคาบสัน โดยชอื แถบไคเปอรน์ ี ไดต้ ังเพือ เปนเกยี รตแิ ก่ เจอรารด์ ไคเปอร์ (Gerard Kuiper) ผคู้ ้นพบ
แถบจานกระจาย (Scattered disc) แถบจานกระจาย หรอื แถบหินกระจาย (Scattered disc) คือย่านวตั ถไุ กลในระบบสุรยิ ะทมี ี ดาวเคราะห์นาแขง็ ขนาดเลก็ กระจดั กระจายอยหู่ ่าง ๆ กัน เรยี กชอื ว่า วัตถใุ นแถบหินกระจาย (องั กฤษ: Scattered disc objects; SDO) ซงึ เปนกลมุ่ ย่อยอยใู่ นบรรดาตระกลู วตั ถพุ ้นดาว เนปจนู (Trans-Neptunian object; TNO) วตั ถใุ นแถบหินกระจายมคี ่าความเยืองศนู ยก์ ลาง ของวงโคจรสงู สดุ ถงึ 0.8 ความเอยี งวงโคจรสงู สดุ 40° มรี ะยะไกลดวงอาทติ ยท์ สี ดุ มากกวา่ 30 หน่ วยดาราศาสตร์ วงโคจรทไี กลมากขนาดนี เชอื ว่าเปนผลจากแรงโน้ มถว่ งที กระจดั กระจายโดยดาวแกส๊ ยกั ษ์
ขอบเขตเฮลโิ อพอส (Heliosphere) เฮลโิ อสเฟยร์ (Heliosphere) มลี ักษณะคล้ายฟองอากาศอย่ใู นห้วง อวกาศ ทพี องตวั อยใู่ นสสารระหวา่ งดาว ซงึ เปนผลจากลมสรุ ยิ ะ ทํา หน้ าทปี กปองระบบสรุ ยิ ะเอาไวจ้ ากรงั สีคอสมกิ แมจ้ ะมอี ะตอมที เปนกลางทางไฟฟาส่วนหนึ งจากสสารระหว่างดาวสามารถลอดเขา้ มา ภายในเฮลโิ อสเฟยรไ์ ด้ แตโ่ ดยทวั ไปแลว้ สสารส่วนใหญ่ทอี ยู่ ภายในเฮลโิ อสเฟยรล์ ว้ นมตี น้ กําเนิ ดมา จากดวงอาทติ ยท์ งั สิน ใน รศั มี 10,000 ลา้ นกโิ ลเมตรแรก ลมสรุ ยิ ะเคลือนทดี ว้ ยความเรว็ มากกวา่ 1 ลา้ นกโิ ลเมตรตอ่ ชวั โมง[1][2] จากนั นจึงเรมิ ชะลอและ สลายไปในสสารระหวา่ งดาว ลมสรุ ยิ ะจะชะลอความเรว็ ลงจนหยดุ ลงในทสี ดุ และรวมไปในมวลสารเหล่านั น จุดทลี มสรุ ยิ ะชะลอ ความเรว็ ลงเรยี กวา่ กําแพงกระแทก (Termination shock) จุดที แรงดนั ของสสารระหว่างดาวกบั ลมสรุ ยิ ะเขา้ ส่สู มดลุ กันเรยี กวา่ เฮลิ โอพอส (Heliopause) จดุ ทสี สารระหวา่ งดาวเคลอื นทใี นทางตรง กนั ขา้ ม คือชะลอตวั ลงเมอื ปะทะเข้ากบั เฮลโิ อสเฟยร์ เรยี กว่า โบว์ ชอ็ ค (Bow shock)
ยา่ นของเมฆออรต์ (Oort cloud) เมฆออรต์ (Oort cloud) คือ ชนั เมฆในอวกาศทลี อ้ มรอบระบบ สรุ ยิ ะอยเู่ ปนทรงกลม บรเิ วณเมฆเหลา่ นี อยหู่ ่างจากดวงอาทติ ย์ ออกไปราว 50,000 - 100,000 หน่ วยดาราศาสตร์ จากดวงอาทติ ย์ ไกลออกไปจากขอบระบบสรุ ยิ ะรอบนอก ตําแหน่ งของเมฆออรต์ อ ยใู่ นระยะความห่าง 1 ใน 4 ของดาวแคระแดงพรอ็ กซมิ าคนครงึ มา้ ในกลมุ่ เมฆออรต์ นี มวี ตั ถพุ ้นดาวเนปจนู อยา่ งดาวเคราะห์แคระ 90377 เซดนา ทถี กู ค้นพบเมอื วนั ที 14 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2546 อยู่ ดว้ ย วตั ถใุ นกลมุ่ เมฆออรต์ คือเศษเหลอื จากการสรา้ งดาวเคราะห์ เปนกอ้ นนาแขง็ สกปรก มสี ่วนประกอบไปดว้ ยนาแขง็ คารบ์ อนไดออกไซด์ มเี ทน แอมโมเนี ย ฝนุ และหิน มขี นาดเส้น ผา่ นศนู ยก์ ลางตงั แตไ่ มก่ กี โิ ลเมตรไปจนถงึ หลายสิบกโิ ลเมตร โดยนั กดาราศาสตรเ์ ชอื กนั วา่ กลมุ่ เมฆออรต์ เปนแหลง่ ตน้ กําเนิ ด ของดาวหาง
ทฤษฎกี ารกําเนิ ดของระบบสรุ ยิ ะ หลกั ฐานทสี ําคัญของการกําเนิ ดของระบบสรุ ยิ ะกค็ ือ การเรยี งตัว และการเคลือนทอี ย่างเปนระบบ ระเบยี บของดาว เคราะห์ ดวงจันทรบ์ รวิ าร ของดาวเคราะห์ และดาวเคราะห์น้ อย ทแี สดงให้เห็นว่า เทหวตั ถุ ทงั มวลบนฟา นั นเปนของ ระบบสรุ ยิ ะ ซงึ จะเปนเรอื งทเี ปนไปไม่ไดเ้ ลย ทเี ทหวัตถุทอ้ งฟา หลายพันดวง จะมรี ะบบ โดยบงั เอิญโดยมไิ ดม้ จี ดุ กําเนิ ด รว่ มกนั Piere Simon Laplace ได้เสนอทฤษฎี จดุ กําเนิ ดของระบบสรุ ยิ ะ ไวเ้ มอื ป ค.ศ.1796 กลา่ วว่า ในระบบสุรยิ ะจะ มีมวลของกา๊ ซรูปรา่ งเปนจาน แบนๆ ขนาดมหึมาหมนุ รอบ ตัวเองอยู่ ในขณะทหี มนุ รอบตวั เองนั นจะเกิดการหดตวั ลง เพราะแรงดึงดูด ของมวลกา๊ ซ ซงึ จะทาํ ให้ อตั ราการหมนุ รอบตัวเองนั น จะเกิดการหดตวั ลงเพราะแรงดงึ ดดู ของก๊าซ ซงึ จะทาํ ให้อตั ราการ หมนุ รอบตังเอง มีความเรว็ สงู ขนึ เพือรกั ษาโมเมนตัมเชงิ มุม (Angular Momentum) ใน ทสี ดุ เมอื ความเรว็ มอี ตั ราสงู ขึน จนกระทงั แรงหนี ศนู ยก์ ลางทขี อบของกลมุ่ กา๊ ซมีมากกวา่ แรงดงึ ดดู ก็ จะทาํ ให้เกดิ มวี งแหวน ของกล่มุ กา๊ ซแยก ตัวออกไปจากศุนย์กลางของกลมุ่ กา๊ ซเดิม และเมอื เกิดการหด ตวั อกี กจ็ ะมวี งแหวนของกล่มุ ก๊าซเพิมขนึ ขึนตอ่ ไปเรอื ยๆ วงแหวนทแี ยกตวั ไปจากศนู ย์กลางของวงแหวน แตล่ ะวงจะมคี วามกว้างไมเ่ ทา่ กัน ตรงบรเิ วณ ทมี ีความ หนาแน่ นมากทสี ุดของวง จะคอยดงึ วตั ถทุ งั หมด ในวงแหวน มารวมกนั แลว้ กลันตวั เปนดาวเคราะห์ ดวงจนั ทรข์ องดาว ดาวเคราะห์จะเกดิ ขนึ จากการหด ตวั ของดาวเคราะห์
สําหรบั ดาวหาง และสะเกด็ ดาวนั น เกิดขึนจากเศษหลงเหลอื ระหวา่ ง การเกดิ ของดาวเคราะห์ดวง ตา่ งๆ ดงั นั น ดวงอาทติ ยใ์ นปจจบุ นั กค็ ือ มวลก๊าซ ดงั เดมิ ทที ําให้เกิดระบบสรุ ยิ ะขนึ มานั นเอง นอกจากนี ยงั มอี กี หลายทฤษฎที มี คี วามเชอื ในการเกดิ ระบบสุรยิ ะ แตใ่ นทสี ดุ กม็ คี วามเห็นคลา้ ยๆ กบั แนวทฤษฎขี อง Laplace ตวั อยา่ งเชน่ ทฤษฎขี อง Coral Von Weizsacker นั กดาราศาสตรฟ์ สิกส์ชาว เยอรมนั ซงึ กลา่ ววา่ มวี ง กลมของกลมุ่ ก๊าซและฝนุ ละอองหรอื เนบิวลา ต้นกําเนิ ดดวงอาทติ ย์ (Solar Nebular) ห้อมลอ้ มอยรู่ อบดวงอาทติ ย์ ขณะทดี วงอาทติ ยเ์ กิดใหม่ๆ และ ละอองสสารในกลมุ่ ก๊าซ เกดิ การกระแทกซงึ กนั และกนั แล้วกลายเปนกลมุ่ ก้อนสสาร ขนาดใหญ่ จนกลายเปน เทหวตั ถแุ ขง็ เกดิ ขนั ในวงโคจรของดวงอาทติ ย์ ซงึ เราเรยี กว่า ดาวเ คราะห์ และดวงจนั ทรข์ อง ดาวเคราะห์นั นเอง
ดาวเคราะห์มที งั หมด 8 ดวงในระบบสรุ ยิ ะ
ดาวพธุ (Mercury) ดาวพธุ เปนดาวเคราะห์ทอี ยใู่ กลด้ วงอาทติ ย์ มากทสี ดุ ไมม่ ดี าวบรวิ าร และเปนดาวเคราะห์ทเี ลก็ ทสี ดุ ในระบบสรุ ยิ ะ และดว้ ยความทมี ันเปนดาวทมี ี ขนาดเลก็ (เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 4,878 กโิ ลเมตร) จงึ ทําให้มนั ไมส่ ามารถสรา้ งสนามโน้ ม ถว่ งทมี พี ลงั มากพอทจี ะดงึ ดดู และกักเก็บ บรรยากาศได้ ดาวพธุ จงึ มแี รงโน้ มถว่ งน้ อยมาก และไมม่ บี รรยากาศ ทําให้วตั ถุอวกาศพุ่งชนได้งา่ ย พืนผวิ ดาวจงึ ขรุขระจากการพ่งุ ชนเหล่านั นดาวพุธ ใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทติ ยร์ อบละ 88 วนั แต่ กลบั หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบ ใชเ้ วลาถงึ 180 วนั เลย ทเี ดยี ว
โลก (Earth) โลก เปนดาวเคราะห์ดวงเดยี วทมี สี ิงมชี วี ติ อาศัยอยู่ เนื องจากมชี นั บรรยากาศและมรี ะยะห่าง จากดวงอาทติ ยท์ ี เหมาะสมตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและการดํารงชวี ติ ของสิงมี ชวี ติ นั กดาราศาสตรอ์ ธบิ ายเกยี วกบั การเกดิ โลกวา่ โลก เกดิ จากการรวมตวั ของกลมุ่ กา๊ ซ และมกี ารเคลอื นทสี ลบั ซบั ซอ้ นมาก แตม่ พี ืนผวิ เปนหินเชน่ เดยี วกบั ดาวเคราะห์ ชนั ในดวงอนื ๆ ทงั นี โลกมดี วงจนั ทรเ์ ปนบรวิ าร โคจรอยู่ รอบโลกเพียงดวงเดยี ว มขี นาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง 3,476 กโิ ลเมตร หรอื ประมาณ 1 ใน 4 ของเส้นผา่ ศนู ยก์ ลางโลก และโคจรอยหู่ ่างจากโลกโดยเฉลยี ประมาณ 384,400 กโิ ลเมตร และโคจรรอบโลกในระยะเวลาประมาณ 29.5 วนั เปนดวงจนั ทรเ์ ปนดาวดวงเดยี วทมี นษุ ยเ์ ดนิ ทางไป สํารวจ โดยการนํ าตวั อยา่ งดนิ และหินจากดวงจนั ทรก์ ลบั มาตรวจวเิ คราะห์บนโลก
ดาวศกุ ร์ (Venus) ดาวศกุ ร์ เปนดาวเคราะห์เพือนบา้ นทอี ยใู่ กลโ้ ลกมากทสี ดุ ไมม่ ดี วงจนั ทรเ์ ปนดาวบรวิ าร มี ขนาดเลก็ กวา่ แตก่ ใ็ กลเ้ คียงกบั โลกมาก จนไดช้ อื วา่ เปนฝาแฝดกบั โลก เราสามารถสังเกตเห็นดาว ศกุ รไ์ ดด้ ว้ ยตาเปลา่ โดยสามารถมองเห็นไดท้ างขอบฟาดา้ นทศิ ตะวนั ตกในเวลาใกลค้ า เราเรยี กวา่ ดาวประจําเมอื ง (Evening Star) ส่วนชว่ งเชา้ มดื ปรากฏให้เห็นทางขอบฟาดา้ นทศิ ตะวนั ออกเรยี ก วา่ ดาวรุง่ (Morning Star) เรามกั สังเกตเห็นดาวศกุ รม์ แี สงส่องสวา่ งมากเนื องจาก ดาวศกุ รม์ ชี นั บรรยากาศทปี ระกอบไปดว้ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ มผี ลทาํ ให้อุณหภมู พิ ืนผวิ สงู ขนึ ดาวศกุ รม์ ขี นาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง 12,104 กโิ ลเมตร หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 224 วนั และมที ศิ ทางการหมนุ ทไี มเ่ หมอื นดาวเคราะห์ดวงอนื ในระบบสรุ ยิ ะ คือในขณะทดี าวเคราะห์ ดวงอนื หมนุ ทวนเขม็ นา ิกา ดาวศกุ รก์ ลบั หมนุ ตามเขม็ นา ิกา ส่วนชนั บรรยากาศบนดาวนั น ประกอบดว้ ยคารบ์ อนไดออกไซตถ์ งึ 97% ทาํ ให้ดาวศกุ รร์ อ้ นมาก อุณหภมู สิ งู เฉียด 500 องศา เซลเซยี ส และสะทอ้ นแสงอาทติ ยไ์ ดด้ ี จงึ สกุ สวา่ งเมอื มองเห็น
ดาวองั คาร (Mars) ดาวองั คาร มขี นาดเลก็ กวา่ โลก เส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง ราว 6,794 กโิ ลเมตร พืนผวิ ดาวองั คารมปี รากฏการณ์เมฆ และพายฝุ นุ เสมอ เปนทนี ่ าสนใจในการศึกษาของนั ก วทิ ยาศาสตรเ์ ปนอยา่ งมากเนื องจากมลี กั ษณะและองค์ ประกอบ ทใี กลเ้ คียงกบั โลก เชน่ มรี ะยะเวลาในการหมนุ รอบ ตวั เอง 1 วนั เทา่ กบั 24.6 ชวั โมง และระยะเวลาใน 1 ป เมอื เทยี บกบั โลกเทา่ กบั 1.9 มกี ารเอยี งของแกน 25 องศา ดาว องั คารมดี วงจนั ทรเ์ ปนบรวิ าร 2 ดวง และมอี ุณหภมู พิ ืนผวิ ค่อนขา้ งเยน็ อยทู่ ปี ระมาณ -65 องศาเซลเซยี ส
ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ดาวพฤหัสบดี เปนดาวเคราะห์ทใี หญท่ สี ดุ ใน ระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล มขี นาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางยาว กวา่ โลก 11 เทา่ หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 9.8 ชวั โมง ซงึ เรว็ ทสี ดุ ในบรรดาดาวเคราะห์ทงั หลาย และโคจรรอบดวงอาทติ ย์ 1 รอบ ใชเ้ วลา 12 ป นั ก ดาราศาสตรอ์ ธบิ ายวา่ ดาวพฤหัสเปนกลมุ่ กอ้ นกา๊ ซ หรอื ของเหลวขนาดใหญ่ ทไี มม่ สี ่วนทเี ปนของแขง็ เหมอื นโลก และเปนดาวเคราะห์ทมี ดี าวบรวิ ารมากถงึ 67 ดวง
ดาวเสาร์ (Saturn) ดาวเสาร์ เปนดาวเคราะห์ทเี ราสามารถมองเห็นไดด้ ว้ ย ตาเปลา่ เปนดาวทปี ระกอบไปดว้ ยกา๊ ซและ ของเหลวสีค่อน ขา้ งเหลอื ง หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 10.2 ชวั โมง และ โคจรรอบดวงอาทติ ย์ 1 รอบใชเ้ วลา 29 ป ลกั ษณะเดน่ ของ ดาวเสาร์ คือ มวี งแหวนลอ้ มรอบ ซงึ วงแหวนดงั กลา่ วเปน อนภุ าคเลก็ ๆ หลายชนิ ดรวมกนั และดาวเสารม์ วี งแหวนถงึ 3 ชนั นอกจากนี ดาวเสารย์ งั มดี าวบรวิ าร 62 ดวง หนึ งในนั น คือดวงจนั ทรไ์ ททนั (Titan) ซงึ ถอื วา่ เปนดวงจนั ทรท์ แี ปลก ทสี ดุ ในระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล เพราะเปนดวงจนั ทรด์ วงเดยี วใน ระบบสรุ ยิ ะทมี บี รรยากาศ และนั กวทิ ยาศาสตรว์ เิ คราะห์ดวง จนั ทรด์ วงนี มสี ภาพเหมอื นโลกยคุ แรก ๆ หากดวงอาทติ ย์ รอ้ นขนึ เมอื ไร นาแขง็ บนดวงจนั ทรจ์ ะละลาย และมี ววิ ฒั นาการคลา้ ยกนั กบั โลกเลยทเี ดยี ว
ดาวยเู รนั ส (Uranus) ดาวยเู รนั ส หรอื ดาวมฤตยู เปนดาวเคราะห์แกส๊ ขนาดใหญ่ มดี วงจนั ทรบ์ รวิ าร 27 ดวง หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบ ใชเ้ วลา 16.8 ชวั โมง และโคจรรอบดวงอาทติ ย์ 1 รอบ ใชเ้ วลานานถงึ 84 ป ดาวยเู รนั สประกอบด้วยก๊าซ และของเหลว เชน่ เดยี วกับดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ ทงั นี ดาวยเู รนั สเปนดาวเคราะห์ใหญเ่ ปน ที 3 รองจาก ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ โคจรห่างจากดวงอาทติ ย์ โดยเฉลยี 2,871 ลา้ นกโิ ลเมตร ทําให้มองเห็นด้วยตา เปลา่ ไดย้ าก แตเ่ มอื ใชก้ ล้องโทรทศั น์ และรูต้ ําแหน่ ง แน่ ชดั กจ็ ะสามารถเห็นไดใ้ นคืนฟาใสกระจา่ ง
ดาวเนปจนู (Neptune) ดาวเนปจนู หรอื ดาวเกตุ เปนดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ เปนที 4 ในระบบสรุ ยิ ะ มเี ส้นผา่ นศนู ยก์ ลางราว 50,000 กโิ ลเมตร จโุ ลกไดถ้ งึ 60 ดวง ระยะห่างเฉลียจากดวง อาทติ ย์ 4,504 ลา้ นกโิ ลเมตร หมนุ รอบตวั เองครบรอบใน เวลา 16 ชวั โมงอยไู่ กลจากโลกมากจนไมส่ ามารถมองเห็น ไดด้ ว้ ยตาเปลา่ ตอ้ งใชก้ ล้องโทรทรรศน์ ขนาดใหญเ่ ทา่ นั น จงึ จะเห็นเปนจุดรบิ หรไี ด้ สิงทมี นษุ ยร์ ูเ้ กียวกับดาวเนปจนู ในทกุ วนั นี จงึ เปนขอ้ มลู ทไี ด้มาจากยาน วอยเอเจอร์ 2 ซงึ โคจรสํารวจดาวเนปจูน ระยะใกล้ เมอื พ.ศ. 2532
อา้ งองิ https://sites.google.com/site/solarsystembymodwadee/daw-kheraah-thang-9-dwng-ni-rabb- suriya https://www.scimath.org/lesson-physics/item/7316-origin-of-solar-system https://guru.sanook.com/7270/
นํ าเสนอ อาจารย สุจิตตรา จนั ทรล อย ในรายวิชา นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การส่อื สารการศกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: