Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E - Book วรรณคดีมรดก

E - Book วรรณคดีมรดก

Published by thanatchapron.2520, 2021-11-09 14:39:59

Description: ให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่องการพินิจวรรณคดีมรดก

Search

Read the Text Version

วรรณคดมี รดก E- Boo k ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ รายวชิ าวรรณคดมี รดก รหสั วิชา ท๓๐๒๑๕ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย จัดทาโดย นางธนชั พร ยนั ตะพนั ธ์

คา นา หนังสือ e – book เล่มนี้เป็นส่วนหน่ึงของรายวิชา วรรณคดีมรดก ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4/13 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ การศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่องพินิจวรรณคดี เพ่ือได้นาความรู้ไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ต่อไป ผู้จัดทาได้เลือกหัวข้อน้ีในการทา e - book เนื่องมาจาก เป็นเรื่องนี้น่าสนใจ รวมถงึ เป็นการทขี่ า้ พเจ้าตอ้ งการอยากให้ผู้เรียน ได้ศึกษา ในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ในช่วง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid – 19) ผู้จัดทาหวังว่า e - book เล่มน้ีจะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ ผอู้ ่านทกุ ๆ ทา่ น

ส า ร บั ญ เร่ือง หนา้ ความหมายการพนิ จิ วรรณคดมี รดก 3 หลักเกณฑ์การพินิจวรรณคดมี รดก 5 หลักการพินจิ วรรณคดมี รดก 7 จุดประสงคก์ ารอา่ นวรรณคดี 23 ตวั ละครนางในวรรณคดี 25 แบบฝึกหัด 28

3 ความหมายของพนิ จิ วรรณคดี การพนิ จิ การพินิจ คือ การพิจารณาตรวจตรา พร้อมท้ังวิเคราะห์ แยกแยะและประเมินค่าได้ ท้ังน้ีนอกจากจะได้ประโยชน์ต่อตนเองแล้ว ยังมีจุดประสงค์เพื่อนาไปแสดงความคิดเห็นและข้อเท็จจริงให้ผู้อ่ืนได้ ทราบด้วย เช่น การพินิจวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อแนะนาให้บุคคล ท่ัวไปที่เป็นผู้อ่านได้รู้จักและได้ทราบรายละเอียดท่ีเป็นประโยชน์ในด้าน ต่าง ๆ เช่น ใครเป็นผู้แต่ง เป็นเรื่องเก่ียวกับอะไร มีประโยชน์ต่อใครบ้าง ทางด้านใด ผู้พินิจมีความเห็นว่าอย่างไร คุณค่าในแต่ละด้านสามารถ นาไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์อย่างไรในชีวิตประจาวันเป็นภูเขาสูง สลับกับหุบเขา และที่ราบลุ่มแม่น้าขนาดเล็กเป็นต้นกาเนิดของแม่น้า หลายสาย

4 ปา่ หมิ พานต์

5 หลักเกณฑก์ ารพนิ จิ วรรณคดี หลักเกณฑ์กวา้ ง ๆ ในการพินิจวรรณคดีและวรรณกรรม มีดงั น้ี ๑. ความเป็นมา หรือ ประวตั ขิ องหนังสอื และผู้แต่ง ๒. ลักษณะคาประพันธ์ ๓. เร่ืองย่อ ๔. เนือ้ เรื่อง วเิ คราะห์เรือ่ งตามหัวข้อตามลาดับบางหัวข้ออาจจะ มี หรือไม่มีก็ได้ตามความจาเป็น เช่น โครงเรื่อง ตัวละคร ฉาก วิธีการ แต่ง เป็นตน้ ๕. แนวคิด จดุ มุง่ หมาย เจตนาของผู้เขียนท่ฝี ากไว้ในเร่ือง หรือ บางทีก็แฝงเอาไวใ้ นเร่ือง ซึง่ จะตอ้ งวเิ คราะห์ออกมา ๖. คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ปกติจะแบ่งออกเป็น ๔ ด้านใหญ่ ๆ และกว้าง ๆ เพือ่ ความครอบคลมุ ในทกุ ประเดน็ ผพู้ ินจิ จะต้องไปแยกแยะ หัวขอ้ ยอ่ ยใหส้ อดคล้องกับลกั ษณะ หนังสอื ทจี่ ะพนิ จิ น้นั ๆ

6 วรรณคดไี ทย สมัยรตั นโกสนิ ทร์

7 หลกั การพนิ จิ วรรณคดี การพินิจวรรณคดี คล้ายเป็น การแนะนาหนังสือในลักษณะของ การวิเคราะห์วิจารณ์หนังสืออย่าง ง่าย ๆ บอกเร่ืองย่อ ๆ แนะนาข้อดี ข้อบกพร่องของวรรณคดี ฉะนั้น การพินิจวรรณคดีจึงควรบอกชื่อผู้ แต่ง ประเภทของหนงั สือ ลักษณะการแต่ง เน้ือเร่ืองโดยย่อ คุณสมบัติของหนังสือด้วยการวิจารณ์ เกี่ยวกับเนื้อหา แนวคิด ภาษา คุณค่า และข้อคิดเห็นต่าง ๆ ประกอบ ทัศนะของผู้พินิจ โดยมีลักษณะเป็นการชักชวนให้ผู้อ่ืนสนใจหนังสือเล่ม นน้ั

8 วรรณคดไี ทย สมัยรตั นโกสนิ ทร์

9 หลกั การพนิ จิ วรรณคดี พนิ ิจวรรณคดีจงึ ต้องศึกษาในเรอื่ งเหล่าน้ี ๑. โครงสร้างของวรรณคดี ได้แก่ ๑.๑ รูปแบบของการแต่งและลักษณะของคาประพันธ์ เป็น การบอกให้รู้ว่าวรรณคดีนั้นเป็นวรรณคดีประเภทใด แต่งด้วยคาประพันธ์ ชนดิ ใด และคาประพันธน์ นั้ ๆ มลี กั ษณะอยา่ งไร ๑.๒ เนื้อเร่ืองและโครงเรื่อง เน้ือเร่ืองเป็นเหตุการณ์ ต่าง ๆ หรอื รายละเอียดท่กี วีนามาแตง่ ใหเ้ ป็นเรื่องราว ตอ่ เนื่องกันต้ังแตต่ ้นจนจบ ๑.๓ แนวคิดของเรื่องหรือสาระของเร่ือง เป็นทัศนะของกวีที่ จะมองชวี ิตของมนษุ ย์อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ที่เรยี กวา่ ชีวทศั น์ หรือมองดูความ เปน็ ไปในโลกทเ่ี รยี กวา่ โลกทศั น์ และการ แสดงออกมาโดยใชเ้ นอ้ื เร่อื งในวรรณคดี เป็นสาระ ส่ือ ความคดิ กวีจะแสดง ชีวทศั น์หรอื โลกทศั น์ของตนออกมา เป็นความคิด เป็นทศั นะ เพ่ือให้ผ้อู ่าน เข้าใจชีวติ และวถิ ีทางแห่งการ ดาเนนิ ชวี ติ ในโลกดีขนึ้

10 วรรณดคี เรื่องสงั ขท์ อง

11 หลักการพนิ จิ วรรณคดี ๑.๔ ลักษณะตัวละคร ตัวละครเป็นผู้มีบทบาทในเน้ือเร่ือง เป็นผู้มี ความคิด มีพฤติกรรม กวีจะสร้างตัวละครให้เหมือนมนุษย์ มีอุปนิสัยใจ คอ มีบุคลิกภาพ มีหน้าตา มีวัย ที่แตกต่างกัน ตัวละครเหล่านั้นจะเป็น ตวั แทนของมนษุ ย์ท่ีกวี สร้างข้ึนให้มีเลือดเน้ือละวิญญาณ มีความรู้สึกนึก คิด ทาใหผ้ ูอ้ ่านเข้าใจธรรมชาติจิตใจของมนษุ ย์ ๑.๕ ฉาก วรรณคดีย่อมมีฉากของเรื่อง ได้แก่ บรรยากาศ สถานที่ เวลาที่กวีสร้างข้ึนให้สัมพันธ์กับโครงเร่ือง เนื้อเร่ือง และการแสดงออก ของตวั ละคร ฉากของวรรณคดจี ะตอ้ งมคี วามถกู ต้อง ชัดเจน สอดคล้องกบั การดาเนินเรื่อง ๑.๖ การดาเนินเร่อื ง เปน็ กลวิธีการแตง่ กวีอาจใชว้ ิธกี ารไดห้ ลายวธิ ี เชน่ ใชก้ ารบรรยาย เหตกุ ารณ์ หรือให้ตัว ละครตัวใดตวั หน่งึ เปน็ ผู้เลา่ เร่ือง ของตนเอง หรือให้เล่าเหตกุ ารณย์ ้อนต้น หรอื สรา้ ง ความขัดแย้งในการดาเนนิ เรอ่ื ง การ คลีค่ ลาย ปัญหา และการจบเรื่องอย่างประทบั ใจ เปน็ ต้น

12 วรรณคดี ขนุ ช้างขนุ แผน

13 หลักการพจิ ารณาวรรณคดี ๒. ความงดงามทางวรรณคดี วรรณคดีเป็นงานท่ีกวีสร้างข้ึน อย่างมีศิลปะ โดยเฉพาะการใช้ถ้อยคามุ่งให้เกิดความ ไพเราะในอรรถรส ความงดงามในศิลปะการแตง่ อาจพิจารณาไดจ้ าก ๒.๑ การใช้ถ้อยคาให้มีความหมายเหมาะกับท้องเรื่องและตัว ละคร การเลือกสรรของคาเพ่ือการเล่นคา สัมผัส อักษร การเลียนเสียง ของธรรมชาติเพอื่ ใหเ้ กดิ ความไพเราะ และกระทบอารมณผ์ ู้อา่ น ๒.๒ การสร้างภาพพจน์ กวีจะใช้โวหารสร้างภาพพจน์ เป็น การใช้ถอ้ ยคา เพ่อื ให้เกดิ เปน็ ภาพ มีวธิ กี ารตา่ ง ๆ ได้แก่ (๑) โวหารอุปมา เป็นการสร้างภาพพจน์ด้วยการ เปรียบเทียบของสิ่งหน่ึงกับอีกสิ่งหน่ึงโดยใช้คาเช่ือมโยงว่า เหมือน ดุจ ด่งั เช่น ราว ประหน่งึ เพียง คลา้ ย (๒) โวหารอปุ ลักษณ์ เป็นการสรา้ งภาพพจนด์ ้วยการเปรยี บเทยี บ โดยการนาลักษณะเดน่ ของสง่ิ ทต่ี ้องการ เปรยี บเทยี บมากลา่ ว โดยไมม่ ีคาเช่อื มโยง ว่าเป็นการเปรียบเทียบโดยตรง หากอา่ นแล้วเกดิ ความเขา้ ใจ

14 วรรณคดี เรื่อง รามเกยี รติ์

15 ๒.๓ ลีลาของวรรณคดี หลักการพนิ จิ วรรณคดี (๑) การสร้างอารมณ์ ได้แก่ การดาเนินเร่ืองให้มีความสมจริง และดาเนินเรื่องมีการลาดับเหตุการณ์ไปตามเน้ือเรื่อง การเขียนได้ สอดแทรกความคิดออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ความรัก ความ ภาคภูมใิ จ ความเศร้าสลดใจ เปน็ ต้น (๒) รสวรรณคดี ได้แก่ การใช้ถ้อยคาให้เกิดความงดงามและ เกิดอารมณ์ วรรณคดีย่อมมีรสวรรณคดีอยู่เสมอ แบง่ ออกเป็น ๔ รส คอื ก. เสาวรจนยี ์ เปน็ รสแหง่ ความไพเราะเก่ยี วกับการชมความงามตา่ ง ๆ เช่น ชมความงามของบุคคล ชมความงาม ของธรรมชาติ ข. นารีปราโมทย์ เปน็ บทแสดง ความรักใคร่ เกย้ี วพาราสหี รอื พดู จาโอ้โลม ให้อีกฝ่ายหนึ่งชน่ื ชอบ ค. พโิ รธวาทัง เปน็ บทแสดง ความโกรธ ตดั พ้อต่อวา่ เสียดสี เหนบ็ แนมตา่ ง ๆ นอ้ ยใจ เสียใจ ง. สัลลาบงั คพไิ สย เป็นบทพรรณนา ความโศกเศรา้ ครา่ ครวญ

16 วรรณคดี มัทนะพาธา

17 หลักการพจิ ารณาวรรณคดี ๒ . ๔ ก า ร ส ร้ า ง จิ น ต ภ า พ วรรณคดีที่ดีจะต้องสร้างภาพ ๒.๔ การสร้างจินตภาพ วรรณคดที ่ดี ีจะต้องสร้างภาพในตใจ่างอยๆ่างชัดใกเจน่อนแใใกหจ่ผอู้้อเา่ กนยิดก่าอ่จงใหินชเ้ กตัดดิ จนเินจาตนกนาากแารรกออัน่ผันเปู้อเน็ ป่าอา็นนรมณ์ อารมณ์ต่าง ๆ อาจเป็นอารมณ์เศร้า อ่อนหวาน หม่นหมอง ช่ืนชม ครึกคร้ืน หรือ ความผันผวนของอารมณ์อย่างรวดเร็ว การ สร้างอารมณ์ต่าง ๆ ตลอดจนการสร้างจินตภาพ หรือภาพในใจ เป็นความบันเทิงของ มนุษย์อย่างหนึ่งทาให้วรรณคดีค่า ด้วยการใช้ถ้อยคาให้เกิดจินตภาพ เช่น การใชค้ าบรรยายให้เกิดความสะเทอื นใจ ใช้การเปรยี บเทยี บสง่ิ ใด สิ่งหน่ึง ใช้คาให้เกิด ความเคลื่อนไหวของสิ่งที่พรรณนา หรือให้เห็น บุคลิกภาพของตัวละคร หรือให้เกิดความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ หรอื ใชค้ า บรรยาย หรือคาพรรณนาให้เหน็ ภาพชัดเจน

18 วรรณคดี เรอ่ื ง อิเหนา

19 หลักการพจิ ารณาวรรณคดี ๓. คุณคา่ ของวรรณคดี วรรณคดใี ห้คณุ คา่ แก่ผ้อู า่ นหลายประการ คอื ๓.๑ ทาใหผ้ ู้อา่ นเกดิ อารมณ์คล้อยตามกวี แรงบนั ดาลใจของ กวี ที่แสดงออกมาด้วยถ้อยคา ทาให้เกิดความรู้สึกและอารมณ์มาสู่ ผอู้ ่าน เกดิ อารมณ์คล้อยตาม เกดิ ความพงึ พอใจและไมพ่ งึ พอใจ ๓.๒ ทาให้ผูอ้ ่านเกดิ สตปิ ญั ญา ความคิดของกวีท่ีได้จากการ มองดูโลก และลักษณะชวี ิตมาสอดแทรกลงในวรรณคดี ผู้อา่ นได้ ความคิดเป็นคตใิ นการดาเนินชีวติ ชว่ ยยกระดับจติ ใจให้สงู ข้นึ ทาให้ รจู้ ักนิสยั ของตัวละคร เกิดความ เฉลียวฉลาดเกดิ ปัญหาข้นึ

20 วรรณคดี เรื่อง รามเกยี รติ์

21 หลกั การพนิ จิ วรรณคดี ๓.๓ ทาให้ผูอ้ า่ นไดร้ ับความรู้ ในด้านตา่ ง ๆ กวีจะสอดแทรกเรอ่ื งราว ทางประวตั ศาสตร์ ตานาน ภูมศิ าสตร์ ภาษา ประเพณี ความเชอื่ ถอื ในสมยั ที่แต่งวรรณคดี ทาใหผ้ อู้ า่ นได้รบั ความรู้ เสริมสร้างความร้แู ก่ผู้อ่าน ใหก้ ว้างขวางข้นึ ๓.๔ ทาให้ผู้อ่านได้เห็นสภาพของสังคมและวัฒนธรรมของ บรรพบุรุษวรรณคดีจะถ่ายทอดสภาพชีวิตของบรรพ ตลอดจนสภาพ สังคมและวัฒนธรรมทาให้ผู้อ่านเข้าใจชีวิตความ เป็นอยู่ ของ บรรพบุรษุ เข้าใจสงั คมและขนบธรรมเนยี มประเพณี สามารถ เปรยี บเทยี บสังคมในอดตี กบั ปัจจบุ นั ได้ ทาใหเ้ ข้าใจสังคมดีขน้ึ และเข้าใจ ในเอกลกั ษณ์ของชาตมิ ากข้ึน

22 วรรณคดี ราชาธริ าช

23 จดุ ประสงคก์ ารอา่ นวรรณคดี การอ่านวรรณคดี ผอู้ ่านควรมีจดุ ประสงคใ์ นการอา่ น เชน่ การอ่านเพ่ือฆ่าเวลา เป็นการอ่านท่ีไม่ต้องพิจารณาว่า หนงั สอื นั้นดเี ลวอยา่ งไร การอ่านเพ่ือความเจริญทางจิตใจ เป็นการอ่านเพ่ือให้รู้ เร่ือง ได้รบั รสแห่งวรรณคดี การอ่านเพื่อหาความรู้ เป็นการอ่านเพ่ือเพ่งเล็งเนื้อเร่ือง ค้นหาความหมาย และหัวขอ้ ความรู้จากหนงั สือที่อ่าน การอ่านเพื่อพินิจวรรณคดี จะต้องอ่านเพื่อหาความรู้และ เพ่ือความเจรญิ ทางจิตใจ จะต้องอ่านด้วยความรอบคอบ สังเกตและ พิจารณาตัวอักษร สามารถทราบว่าวรรณคดีที่เราอ่านเป็นวรรณคดี ประเภทใด เช่น คาสอน สรรเสริญวีรบุรุษของชาติ การแสดง อารมณ์ บทละคร นิทาน และยังต้องพิจารณาเน้ือเร่ืองและตัวละคร ว่าเน้อื เรอื่ งนน้ั เป็นเน้ือเร่ืองเกย่ี วกับอะไร มีแนวคิดอย่างไร ตัวละครมี ลักษณะนิสัยอย่างไร สุนทรีภาพแห่งบทร้อยกรองเป็นอย่างไร เช่น การใชถ้ ้อยคา

24 วรรณคดี เรื่อง ไชยเชษฐ์

25 ตวั ละคร : นางในวรรณคดี วรรณคดี ถือเป็นวรรณกรรมหรืองานเขียนท่ีได้รบั การยกยอ่ งว่า นอกจากจะมี เนื้อหาสาระในเชิงสร้างสรรค์แล้ว ยังมีคุณค่าทางวรรณศิลป์ สามารถทาให้ผู้อ่าน คล้อยตามเนอ้ื เรื่องไดเ้ ป็นอย่างดี ทั้งน้ี วรรณคดีส่วนใหญ่ มักให้ความสาคัญท่ีตัวละคร รวมถึงการดาเนินเร่ือง และส่ิงท่ีได้รับความสนใจเป็นอย่างมากไม่แพ้เน้ือหา คือ นางในวรรณคดี ท่แี ต่ละเร่อื งที่มอี ุปนิสัยแตกตา่ งกันซึ่งนางในวรรณคดีเหล่านี้บ้างก็พบ กับโชคชะตาที่ยากลาบาก หรอื อปุ สรรคต่าง ๆ กระท่ังนาไปสู่บทสรุปท่ีแตกต่างกันไป ทงั้ น้กี เ็ พ่อื ใหผ้ ู้อ่านไดน้ าไปเปน็ แบบอย่างในการดาเนินชีวติ น่ันเอง นางมโนราห์ นางมโนราห์ เป็นธิดาองค์เล็กของท้างทุม ราชผู้เป็นพระยากินนร นางมีพระพ่ีนางอีกหก องค์ล้วนมีหน้าตาเหมือน กันและงดงามยิ่งกว่า นางมนุษย์ โดยทุกองค์มีปีกและหางท่ีถอดออก ได้ เมื่อใสป่ ีกใส่หางแล้วกินนรก็สามารถบินไปยัง ที่ต่าง ๆ ได้ นางมโนราห์และพี่น้องทั้งหกได้ไป เล่นนา้ ทีส่ ระนา้ อโนดาต เจอพรานบญุ ท่ีต้องการ จับตัวนางกินรีเพราะเห็นว่านางงดงามคู่ควรแก่ พระสุธน โอรสแห่งเมืองปัญจาลนคร พรานบุญ จึงไปยืมบ่วงนาคบาศจากท้าวชมพูจิต พญานาค ราช ทาใหส้ ามารถจบั นางมโนราห์ไป

26 นางบษุ บา นางบุษบา เป็นธิดาของท้าวดา ห า แ ล ะ ป ร ะ ไ ห ม สุ ห รี ด า ห ร า ว า ตี แหง่ กรุงดาหา นางบุษบาเป็นหญิงท่ี งามล้าเลิศกว่านางใดในแผ่นดินชวา กิริยามารยาทเรียบร้อย คารมคม คาย เฉลียวฉลาดทันคน ใจกว้าง และมีเหตุผล จึงทาให้อิเหนารักใคร่ หลงใหลนางย่งิ กวา่ หญงิ ใด นางมทั นา นางมัทนา เป็นนางฟ้าที่มีรูป โฉมงดงาม จนจอมเทพสุเทษณ์ติด ตาตรึงใจและใคร่จะได้นางเป็น ชายา แต่นางมัทนาไม่เคยสนใจ จอมเทพสุเทษณ์ เพราะได้ตั้ง ปณิธานไว้ว่าจะครองคู่กับชายที่ ตนรักเท่านน้ั

27 นางเมรี นางเมรี เป็นธิดาของ นาง ยักษ์ สนธมาร เม่ือนางยักษ์สนธมารได้ออก อุบายให้พระรถเสน ซ่ึงเป็นลูกของนาง สิบสอง กับ พระรถสิทธ์ราช ผู้ครองเมืองกุ ตารนคร ไปตามหา “มะม่วงหาว มะนาว โห่” มีอยู่ที่เมืองคชปุรนคร เพ่ือรักษา อาการป่วยของนาง โดยนางสนธมารได้ เขียนสารให้พระรถเสนนาไปยื่นที่เมืองคช ปรุ นครดว้ ย นางมโนราห์ นางมโนราห์ เป็นธิดาองค์เล็กของ ท้างทุมราชผู้เป็นพระยากินนร นางมีพระ พ่ีนางอีกหกองค์ล้วนมีหน้าตาเหมือน กัน และงดงามยิ่งกว่านางมนุษย์ โดยทุกองค์มี ปีกและหางท่ีถอดออกได้ เม่ือใส่ปีกใส่หาง แล้วกินนรก็สามารถบินไปยังที่ต่าง ๆ ได้ นางมโนราห์และพ่นี อ้ งทั้งหกได้ไปเล่นน้าท่ี สระน้าอโนดาต เจอพรานบุญท่ีต้องการ จับตัวนางกินรีเพราะเห็นว่านางงดงาม ค่คู วรแก่พระสุธน

28 นางสดี า นางสีดา (อังกฤษ: Sita) เป็นตัว ละครเอกจากเร่ืองรามเกียรต์ิ โดยเป็น ธิดาของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ และเป็น อัครมเหสีของพระราม แต่ในรามายณะ ของอินเดียหลายฉบับบอกวา่ นางสีดาเป็น ธิดาของพระภูมิเทวีหรอื พระแมธ่ รณี นางรจนา นางรจนา จากเร่ืองสังข์ทอง เป็นธิดาสุดท้องจากจานวนเจ็ดองค์ ของท้าวสามล พ่ีๆเลือกคู่ได้สามี สมนา้ สมเนือ้ กนั แล้ว แต่นางรจนากลับ เลอื กได้เจ้าเงาะ ทั้งๆที่ตนเป็นสาวสวย จึงเป็นท่ีเยาะเย้ยไปท่ัว ทาให้พระบิดา กร้ิวไล่ให้ไปตกระกาลาบากท่ีกระท่อม ปลายนา

E- Book ก า ร พิ นิ จ ว ร ร ณ ค ดี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook