10 รถถงั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 1.Sherman เอม็ 4 เชอร์แมน (องั กฤษ: M4 Sherman) เป็นรถถงั หลกั ที่ใชโ้ ดยสหรัฐอเมริกาใน สงครามโลกคร้ังท่ี 2 มนั ยงั ไดท้ าํ หนา้ ที่ในกองกาํ ลงั ของสมั พนั ธมิตรในอีกหลายประเทศเช่นกนั มนั พฒั นามาจากรถถงั ขนาดกลางและเบาที่เกิดข้ึนก่อนหนา้ โดยเป็นรถถงั คนั แรกของอเมริกาที่มี ป้อมปื นซ่ึงสามารถหมุนไดร้ อบทิศทาง เชอร์แมนคนั แรกกม็ ากเกินท่ีจะเอาชนะยานเกราะของ เยอรมนีในแอฟริกาเหนือ การผลิตเชอร์แมนมีมากกวา่ 5 หมื่นคนั และเชสซีของมนั ไดเ้ ป็นพ้ืนฐานของยานเกราะ มากมายอยา่ งรถถงั พิฆาต รถกรู้ ถถงั และปื นใหญ่อตั ตาจร ในองั กฤษเอม็ 4 ถูกเรียกวา่ เชอร์แมน ตามชื่อของนายพลวิลเลียม เทคมั เซ เชอร์แมน เพราะวา่ องั กฤษชอบนาํ ช่ือของนายพลที่มีช่ือเสียง
จากสงครามกลางเมืองอเมริกามาต้งั เป็นช่ือรถถงั ท่ีพวกอเมริกนั เป็นคนสร้าง ต่อมาช่ือท่ีองั กฤษใชก้ ็ เริ่มถูกนาํ ไปใชโ้ ดยสหรัฐ การใชเ้ ชอร์แมนตามหลกั ยทุ ธวธิ ีน้นั คือเนน้ ไปที่จาํ นวนและความคล่องตวั เพราะวา่ มนั มกั ดอ้ ยกวา่ เม่ือต่อตอ้ งเจอกบั รถถงั ไทเกอร์ 1 และรถถงั พนั เทอร์ที่มีเกราะหนากวา่ และอาํ นาจการยงิ ท่ี เหนือกวา่ มีเพยี งรถถงั ที-34 ของโซเวียตเท่าน้นั ท่ีสร้างมากกวา่ เชอร์แมน รถถงั ท่ีกา้ วหนา้ ที่สุด ของอเมริกาคือเอม็ 26 เพอร์ชิง แต่มนั ถูกสร้างข้ึนมาชา้ เกินไปที่จะเขา้ ร่วม สงครามโลกคร้ังท่ี 2 การพฒั นารถถงั หลงั จากสงครามจะเริ่มบนพ้นื ฐานของเอม็ 26 แต่ เชอร์แมนและแบบอื่นๆ ของมนั ยงั คงถูกใชฝ้ ึกและรบต่อไปในสงครามเกาหลีและสงคราม 6 วนั เมื่อเขา้ ศตวรรษที่ 20[1] 2.T-34
ท-ี 34 (T-34) เป็นรถถงั ขนาดกลางสญั ชาติโซเวยี ตท่ีถูกนาํ เสนอในปี ค.ศ. 1940 ไดม้ ีช่ือเสียง ในช่วงสงครามโลกคร้ังที่สอง กบั ปฏิบตั ิการบาร์บาร็อสซา ปื นรถถงั ขนาด 76.2 มม.(3 นิ้ว) ท่ีทรงพลงั มากกวา่ ปื นรถถงั ท่ีร่วมสมยั [5] ในขณะที่เกราะแบบลาด เอียง 60 องศา ซ่ึงสามารถป้องกนั ไดด้ ีตอ่ อาวธุ ต่อตา้ นรถถงั ระบบกนั สะเทือนของคริสตีไดร้ ับการสืบทอดมา จากการออกแบบรถถงั รุ่นเอม็ 1928 ของชาวอเมริกนั นามวา่ เจ. วอลเตอร์ คริสตี รถถงั แบบรุ่นท่ีถูกขายท่ีมี ป้อมปื นนอ้ ยใหก้ บั กองทพั แดง และไดถ้ ูกบนั ทึกวา่ เป็น\"รถแทรกเตอร์ฟาร์ม\" ภายหลงั จากถูกกองทพั สหรัฐ ปฏิเสธ ที 34 มีผลอยา่ งมากต่อความขดั แยง้ ในแนวรบดา้ นตะวนั ออกในสงครามโลกคร้ังที่สอง และมี ผลกระทบท่ียาวนานต่อการออกแบบรถถงั ภายหลงั จากที่เยอรมนั ไดเ้ ผชิญหนา้ กบั รถถงั คนั น้ีในปี ค.ศ. 1941 นายพลเยอรมนั นามวา่ เพาล์ ลูทวชิ เอวลั ท์ ฟ็อน ไคลสท์ ไดเ้ รียกมนั วา่ \"รถถงั ท่ีดีเยยี่ มที่สุดในโลก\" และไฮ นทซ์ กเู ดรีอนั ไดย้ นื ยนั วา่ รถถงั ที-34 \"มีความเหนือกวา่ \"รถถงั เยอรมนั อยา่ งมาก[6][7] \"ในช่วงตน้ ของเดือน กรกฎาคม ค.ศ. 1941 หวั หนา้ กองบญั ชาการใหญแ่ ห่งแวร์มคั ท์ อลั เฟรท โยเดิล ไดบ้ นั ทึกไวใ้ นอนุทิน สงครามของเขาที่กล่าวถึง ความประหลาดใจท่ีอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ใหม่ชนิดน้ีท่ีน่าทึงและไม่รู้จกั ไดถ้ ูกปล่อยมา ต่อสู้รบกบั กองพลจู่โจมเยอรมนั \"[8] แมว้ า่ เกราะและอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ของมนั จะมีมากกวา่ ในช่วงสงคราม แต่ก็ ยงั ไดถ้ ูกอธิบายวา่ เป็นการออกแบบรถถงั ท่ีมีอิทธิพลมากท่ีสุดในสงคราม[9]
3.Kv-2 - รถถงั คลเี มนต์ โวโรชีลอฟ(เคว)ี เป็นตระกลู รถถงั หนกั ของโซเวียต ชื่อน้ีมาจากผตู้ รวจการ ประชาชนเพ่ือการป้องกนั และนกั การเมืองโซเวียต คลเี มนต์ โวโรชีลอฟ และถูกใชโ้ ดยกองทพั แดง ในช่วงสงครามโลกคร้ังที่ 2 ตระกลู เควไี ดเ้ ป็นที่รู้จกั กนั จากการป้องกนั ดว้ ยเกราะหนกั ในช่วงแรก ของสงคราม โดยเฉพาะในช่วงปี แรกของการรุกรานสหภาพโซเวียตของเยอรมนั ในบาง สถานการณ์ แมแ้ ต่เพียงเคว-ี 1 หรือ เควี-2 ท่ีไดร้ ับการสนบั สนุนจากทหารราบกส็ ามารถสกดั ก้นั กองทพั เยอรมนั ขนาดใหญ่ได้ รถถงั เยอรมนั ในช่วงเวลาน้นั ไม่คอ่ ยจะไดเ้ ผชิญหนา้ กบั เควีเพราะ อาวธุ ของพวกเขาน้นั ค่อยขา้ งแยเ่ กินกวา่ จะจดั การกบั \"รัสซีเชอร์ คอลอส\"(KV-2)-\"รัสเซียน คอโลซสั \"(KV-1)[2] รถถงั เควไี ดร้ ับการติดต้งั อาวธุ ดว้ ยปื นขนาด 3.7 ซ.ม. เคดมั บิวเค 36 และปื นฮาววิตเซอร์ ลาํ กลอ้ งส้นั ของปื นขนาด 7.5 ซม. เคดมั บิวเค 37, ตามลาํ ดบั ที่ไดเ้ อามาจากรถถงั พนั เซอร์ 3 และพนั เซอร์ 4 ของกองทพั เยอรมนั ที่เขา้ รุกราน จนกระทงั่ ปื นที่มีประสิทธิภาพมากข้ึนไดถ้ ูก
พฒั นาข้ึนโดยเยอรมนั รถถงั เคว-ี 1 น้นั สามารถตา้ นทานกบั อาวธุ เยอรมนั ไดเ้ กือบทุกชนิดยกเวน้ เพียงปื นฟลคั 8.8 ซม.[3] ก่อนหนา้ ที่ปฏิบตั ิการบาร์บารอสซ่า รถถงั ประมาณ 500 ถึง 22,000 คนั ท่ีอยใู่ น ประจาํ การโซเวียตลว้ นเป็นประเภทเคว-ี 1 เมื่อสงครามไดค้ ืบหนา้ กเ็ ห็นไดช้ ดั เจนวา่ มีความรู้สึก เพยี งเลก็ นอ้ ยวา่ การผลิตรถถงั เควีน้นั ค่อนขา้ งราคาแพง เม่ือรถถงั ขนาดกลาง ที-34 ทาํ งานไดด้ ีข้ึน (หรืออยา่ งนอ้ ยกเ็ ท่าเทียมกนั ) ในทุกๆดา้ น ในความเป็นจริงท่ีวา่ ขอ้ ไดเ้ ปรียบเพยี งอยา่ งเดียวท่ีมีใน รถถงั ที-34/76 คือป้อมปื นขนาดใหญ่ที่สามคนจะเขา้ ไปประจาํ ตาํ แหน่งในน้นั ได[้ 4] ต่อมาใน สงคราม รถถงั ตระกลู เควีไดก้ ลายเป็นฐานสาํ หรับการพฒั นารถถงั ตระกลู ไอเอส(โยซิฟ สตาลิน) และปื นใหญ่อตั ตาจร 4.Panzer iv
พนั ท์เซอร์คมั พฟ์ วาเกนิ 4 (เยอรมนั : Panzerkampfwagen (อกั ษรยอ่ Pz.Kpfw. IV)) หรือท่ีเรียกในอีกชื่อหน่ึงคือ พนั ท์เซอร์ 4 เป็นรถถงั ขนาดกลางซ่ึงถูกสร้างข้ึนโดยเยอรมนั ในช่วงยคุ ปี ค.ศ. 1930 - ค.ศ. 1940 และไดถ้ ูกใชอ้ ยา่ งแพร่หลายในช่วงสงครามโลกคร้ังที่สอง พนั ทเ์ ซอร์ 4 น้นั ถูก ออกแบบมาเพอื่ ใชใ้ นการสนนั สนุนทหารราบ ไม่ไดอ้ อกแบบมาเพอ่ื เขา้ ต่อตีกบั รถถงั โดยตรง ซ่ึง ณ ขณะน้นั รถถงั ท่ีใชใ้ นการต่อสู้รถถงั ดว้ ยกนั ของเยอรมนั น้นั เป็นรุ่น พนั ทเ์ ซอร์ 3 แต่เมื่อเยอรมนั ตอ้ งเจอกบั สมรรถนะ รถถงั ที-34 ของโซเวียตท่ีดีกวา่ ทาํ ใหต้ อ้ งพฒั นา พนั ทเ์ ซอร์ 4 เป็นรถถงั ท่ีใชใ้ นการต่อสูร้ ถถงั ในที่สุด พนั ท์ เซอร์ 4 ถูกผลิตข้ึนเป็นจาํ นวนมาก ตวั ถงั ของ พนั ทเ์ ซอร์ 4 น้นั ไดถ้ ูกนาํ ไปพฒั นาต่อเป็นรถถงั ในอีกหลายๆ รุ่น เช่น รถถงั จู่โจม Sturmgeschütz 4, รถถงั พฆิ าตยานเกราะ Jagdpanzer 4, รถถงั ต่อสู้ อากาศยาน Wirbelwind, ปื นใหญอ่ ตั ราจร Brummbär เป็นตน้ 5.Tiger 1 ยานรบหุ้มเกราะที่ 6 \"ทเี กอร์\" (เยอรมนั : Panzerkampfwagen VI „Tiger“) หรือ เรียกวา่ ทีเกอร์ไอน์ (เยอรมนั : Tiger I) ฝ่ ายสมั พนั ธมิตรเรียก ไทเกอร์วนั เป็นรถถงั หนกั ของกองทพั บก เยอรมนั ซ่ึงถูกใชใ้ นช่วงสงครามโลกคร้ังที่สอง ยานเกราะทีเกอร์ไอน์ถูกสร้างในช่วงปลายปี ค.ศ. 1942 ในช่วงตน้ ปฏิบตั ิการบาร์บารอสซา เพ่ือตอบ โตย้ านเกราะที-34 และคลีเมนต์ โวโรชีลอฟของโซเวยี ต ยานเกราะทีเกอร์ไอน์ถือเป็นยานเกราะแบบแรกของ
กองทพั เยอรมนั ที่ติดต้งั กระบอกปื นขนาด 88 มม. โดยกระบอกปื นน้ีไดถ้ ูกทดสอบมาก่อนวา่ มีประสิทธิภาพ สูงในการยงิ ต่อตา้ น รถถงั และเครื่องบิน ทีเกอร์ไอน์ถูกนาํ ไปใชใ้ นในการรบแนวหนา้ ของเยอรมนั ในช่วง สงคราม โดยปกติแลว้ ทีเกอร์ไอนถ์ ูกนาํ มาแยกเป็นหน่วยยานเกราะอิสระ ซ่ึงทาํ ใหห้ น่วยทีเกอร์ไอนส์ ามารถ ปฏิบตั ิการไดอ้ ยา่ งคอ่ นขา้ งมีประสิทธิภาพ แมว้ า่ ทีเกอร์ไอนเ์ ป็นท่ีน่าเกรงขามต่อศตั รูเป็นอยา่ งมากกต็ าม ทวา่ ในขณะเดียวกนั ทีเกอร์ไอนก์ เ็ ป็นยาน เกราะที่มีลกั ษณะซบั ซอ้ นในการสร้าง ตน้ ทุนสูง และใชเ้ วลาในการผลิตยาวนาน อีกท้งั ทีเกอร์ไอนม์ กั จะประสบ ปัญหาเครื่องจกั รกลติดขดั บ่อยคร้ังจึงทาํ ใหย้ านเกราะชนิดน้ีถูกยกเลิกการผลิตไป มีเพยี งจาํ นวน 1,347 คนั เท่าน้นั ท่ีถูกผลิตข้ึนมาระหวา่ งเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1942 ถึงสิงหาคม ค.ศ. 1944 กองทพั เยอรมนั ไดผ้ ลิต ยานเกราะทีเกอร์ซไวข้ึนมาแทนที่ ยานเกราะน้ีถกู ต้งั ชื่อเลน่ โดยแฟร์ดีนนั ท์ พอร์เชอ เดิมทีเรียกแต่เพยี ง \"ทีเกอร์\" เท่าน้นั ต่อมาเม่ือมีการ ผลิตยานเกราะทีเกอร์ซไว จึงมีการเพม่ิ ตวั เลขโรมนั ไวด้ า้ นหลงั ชื่อเพ่ือป้องกนั ความสบั สน ยานเกราะทีเกอร์ไอน์ มีชื่ออยา่ งเป็นทางการคือ พนั ท์เซอร์คัมพฟ์ วาเกิน เฟา เอาส์ฟื อรุง ฮา (Panzerkampfwagen VI Ausführung H\") แต่อยา่ งไรกต็ าม ยานเกราะน้ีไดถ้ ูกนาํ มาออกแบบใหม่อีกคร้ังเป็นรุ่นท่ีดีข้ึน เรียกวา่ เอาส์ฟื อรุง เอ (Ausführung E) ในเดือนมีนาคม 1943 และมีลกั ษณะการออกแบบปื นใหญ่ ของ SdKfz 181 เช่นเดียวกนั ในปัจจุบนั น้ีมีทีเกอร์ไอนไ์ มก่ ี่คนั เท่าน้นั ท่ียงั คงเหลืออยใู่ หโ้ ดยถูกนาํ มาแสดงในพิพธิ ภณั ฑแ์ ละงาน แสดงทว่ั โลก ตวั อยา่ งของยานเกราะท่ียงั คงมีสภาพสมบูรณ์ท่ีสุดคือพพิ ธิ ภณั ฑย์ านเกราะ Bovington ที เกอร์ไอน์ 131 ซ่ึงเป็นยานเกราะคนั เดียวที่ยงั คงสามารถใชไ้ ดอ้ ยใู่ นปัจจุบนั น้ี 6.Stug lll
ชตวร์มเกอชึทซ์ (เยอรมนั : Sturmgeschütz) หรือเรียกอยา่ งยอ่ วา่ ชตูก (StuG) เป็นยาน หุม้ เกราะรุ่นหน่ึงท่ีถูกใชง้ านโดยกองทพั เวร์มคั ทแ์ ละวฟั เฟิ น-เอส็ เอส็ เป็นตน้ แบบของยานหุม้ เกราะ อยใู่ นช่วง ระหวา่ งสงครามโลกคร้ังที่สองซ่ึงส่วนใหญป่ ระกอบไปดว้ ย ชตูก 3 และ ชตูก 4 ชื่อทว่ั ไปส่วนมากของท้งั สองรถถงั ชตูก 3 น้นั ถูกสร้างข้ึนบนฐานตวั รถถงั ของพนั เซอร์ 3 ชตกู 3 ไดถ้ ูกต้งั ช่ือในตอนแรกวา่ \"ชตูก\" แต่ดว้ ยการสร้างรถถงั ชตูก 4 น้นั ไดต้ ้งั ชื่อใหม่ใหเ้ ป็น ชตูก 3 เพือ่ แยกความแตกตา่ งออกไป ในช่วงแรก, พวก เขาไดม้ ุ่งหมายใหเ้ ป็นยานเกราะแท่นปื น ที่เคล่ือนท่ีเร็ว และใหก้ ารยงิ สนบั สนุนอยา่ งใกลช้ ิดกบั ทหารราบเพอ่ื ทาํ ลายบงั เกอร์ ป้อมปื นกล และตาํ แหน่งที่ยดึ มน่ั อ่ืนๆ ในช่วงสงครามกาํ ลงั กา้ วหนา้ จาํ นวนของลกั ษณะของ ตระกลู ชตูกไดท้ าํ ใหเ้ พม่ิ คณุ คา่ ใหก้ บั กองกาํ ลงั พนั เซอร์ ภายหลงั การรุกรานสหภาพโซเวยี ตในปี ค.ศ. 1941 ปัญหาที่สาํ คญั ไดถ้ ูกพฒั นาข้ึนเม่ือไดพ้ บวา่ อาวธุ หลกั บนตวั รถถงั พนั เซอร์ เอม็ เค 2 และ 3 ไม่เพยี งพอท่ีจะรับมือกบั รถถงั รุ่นใหม่ของโซเวยี ตอยา่ งรถถงั ที- 34 และเควี-1 ปื นต่อตา้ นรถถงั หลกั ของเยอรมนั , 3.7 ซม. แพค 36 ยงั ไม่สามารถท่ีจะยงิ ทะลุเจาะเกราะ ท่ีโซเวียตออกแบบ แมว้ า่ ปื นที่มีประสิทธิภาพมากข้ึนไดถ้ ูกพฒั นาข้ึน, 75 ซม. แพค 40 ป้อมปื นของรถถงั พนั เซอร์ เอม็ เค 3 รถถงั หลกั ของเยอรมนั ยงั ไม่สามารถที่จะใส่กระบอกปื นขนาดใหญไ่ ด้ มนั ไดถ้ ูกพบ อยา่ งไร กต็ าม ดว้ ยไร้ป้อมปื นของชตูกน้นั มีหอ้ งท่ีเพียงพอในหอ้ งพลขบั รถถงั เพอื่ จดั การกบั 75 ซม. แพค 40 และ ปรับปรุงแกไ้ ขไดถ้ ูกจดั การ ยานพาหนะใหม่ไดถ้ ูกทาํ ใหก้ ลายเป็นรถถงั พฆิ าตที่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ปื น
หลกั ที่มีประสิทธิภาพที่เพยี งพอท่ีจะทาํ ลายรถถงั ใหม่โซเวยี ต แต่ฐานของรถถงั พนั เซอร์ เอม็ เค 6 ซ่ึงมีพ้ืนฐานที่ เคลื่อนที่เร็วและความน่าเชื่อถือสูง และการเพม่ิ แผน่ เกราะมากข้ึนผสมกบั ภาพเงาต่าํ ทาํ ใหเ้ ป็นยานพาหนะท่ียาก ต่อการทาํ ลาย ชตูก 3 ไดก้ ลายเป็นยานพาหนะติดเกราะที่ถูกผลิตมากท่ีสุดของนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลก คร้ังที่สอง ดว้ ยจาํ นวนบางส่วน 10,000 คนั เป็นตวั อยา่ งที่ถูกผลิตข้ึน 7.Churchill รถถงั , ทหารราบ, เอม็ เค 4 (A22) เชอร์ชิล เป็นรถถงั ทหารราบขนาดหนกั สญั ชาติบริติซที่ถูกใช้ งานในสงครามโลกคร้ังที่สอง เป็นที่รู้จกั กนั เป็นอยา่ งดีในเร่ืองของเกราะหนกั ตวั รถถงั ตามความยาวขนาดใหญ่ ท่ีมาพร้อมกบั สายพานรอบดา้ นที่มีโบก้ีหลายตวั ดว้ ยความสามารถในการปี นข้ึนทางลาดชนั และการใชง้ านเป็น พ้นื ฐานของยานพาหนะผชู้ าํ นาญหลายคน มนั เป็นหน่ึงในรถถงั หนกั มากท่ีสุดของฝ่ายสมั พนั ธมิตรในสงคราม ตน้ กาํ เนิดของการออกแบบของเชอร์ชิลโดยต้งั อยใู่ นความคาดหวงั วา่ สงครามในยโุ รปอาจจะเกิดข้ึนได้ ในสภาพท่ีมีความคลา้ ยคลึงกบั สงครามโลกคร้ังท่ีหน่ึง และตอกย้าํ ถึงความสามารถในการขา้ มพ้นื ดินที่ ยากลาํ บาก เชอร์ชิลไดร้ ีบเร่งในการผลิตในคาํ สง่ั เพ่ือสร้างแนวป้องกนั ของบริติซจากการบุกครองของเยอรมนั ท่ี อาจจะเกิดข้ึนได้ ยานพาหนะคนั แรกที่มีจุดบกพร่องท่ีจะตอ้ งพิชิตใหไ้ ดก้ ่อนท่ีเชอร์ชิลจะใหก้ ารยอมรับในการ
ใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวาง หลงั จากหลายรุ่นไดถ้ ูกสร้างข้ึน ดว้ ยสเปคของการหุม้ เกราะท่ีดีกวา่ มาร์ค 4 กไ็ ดเ้ ขา้ ประจาํ การกบั กองทพั บกบริติซ รุ่นที่ไดร้ ับการปรับปรุงแลว้ ซ่ึงทาํ ไดด้ ีในช่วงต่อมาของสงคราม[3] 8.Is-2 รถถงั โจเซฟ สตาลนิ หรือรถถังอโิ อซิฟ สตาลนิ (รัสเซีย: Ио́ сиф Ста́ лин,องั กฤษ: Iosif Stalin) หรือรถถงั IS เป็นรถถงั หนกั ท่ีพฒั นาต่อเนื่องจาก รถถงั คลีเมนต์ โวโรชีลอฟ โดยสหภาพโซเวยี ต ในช่วงสงครามโลกคร้ังที่สอง รถถงั IS ไดร้ ับการออกแบบดว้ ยเกราะหนาเพ่ือตอบโตป้ ื น 88 มิลลิเมตรของเยอรมนั และมีปื นใหญท่ ่ี สามารถเอาชนะรถถงั ทีเกอร์และรถถงั พนั เทอร์ได้ การพฒั นากระสุนระเบิดแรงสูงที่เป็นประโยชน์ในการทาํ ลาย สนามเพลาะและบงั เกอร์ IS-2 ถูกนาํ ไปใชใ้ นเดือนเมษายน พ.ศ. 2487 และถูกใชเ้ ป็นหวั หอกโดยกองทพั แดงในข้นั ตอนสุดทา้ ยของยทุ ธการท่ีเบอร์ลิน
9.su-152 เอสยู-152 เป็นปื นใหญ่ฮาวอิตเซอร์หนกั อตั ตาจรสญั ชาติโซเวยี ตที่ถูกใชใ้ นช่วงสงครามโลกคร้ังท่ีสอง ติดต้งั อาวธุ ดว้ ยปื นใหญฮ่ าวอิตเซอร์ขนาด 152 มม.บนฐานรถถงั หนกั เคว-ี 1เอสท่ีไดร้ ับการดดั แปลง การผลิตในเวลาต่อมาไดใ้ ชฐ้ านของรถถงั ไอเอสและไดอ้ อกแบบข้ึนมาใหม่เป็นไอเอสย-ู 152 เน่ืองจากมนั มี บทบาทท่ีสาํ คญั ในการเป็นรถถงั พิฆาตหนกั อยา่ งเฉพาะหนา้ สามารถจดั การกบั รถถงั หนกั ของเยอรมนั —รถถงั ที เกอร์และรถถงั พนั เทอร์และรถถงั พฆิ าตเอเลอฟันท์ มนั ไดถ้ ูกต้งั เป็นช่ือเล่นวา่ Zveroboy (\"นกั ฆ่าช้นั เยย่ี ม\").[1]
10.Maus ยานรบหุ้มเกราะที่ 8 \"เมาส์\" (เยอรมนั : Panzerkampfwagen VIII „Maus“) เป็น สุดยอดรถถงั หนกั ของนาซีเยอรมนีในสมยั สงครามโลกคร้ังที่สอง ซ่ึงถูกกลา่ วขานวา่ เป็นรถถงั ที่มีขนาดใหญ่ ท่ีสุดในโลกและมีเกราะท่ีหนามากยากนกั ท่ีกระสุนใดๆจะเจาะเกราะเขา้ มาได้ สร้างข้ึนสาํ เร็จในช่วงหลงั ปี 1944 Maus น้นั ถือวา่ เป็นรถถงั ประจญั บานขนาดใหญท่ ี่มีเกราะหนาท่ีสุดเทา่ ที่นาซีเยอรมนั ไดส้ ร้าง ข้ึนมา มีการสง่ั ใหส้ ร้างท้งั หมด 5 คนั แต่ทวา่ มีเพยี งเกราะตวั ถงั 2 อนั และเกราะป้อมปื น 1 อนั เท่าน้นั ท่ีสร้าง ไดส้ าํ เร็จ ซ่ึงก่อนที่จะทาํ การทดลองวง่ิ น้นั กถ็ ูกกองทพั โซเวียตบุกยดึ ฐานไปเสียก่อน ซ่ึงตน้ แบบท้งั สองคนั น้นั มีเพยี งหน่ึงคนั ที่มีเกราะตวั ถงั พร้อมป้อมปื น ส่วนอีกคนั น้นั ไม่มีป้อมปื น ไดร้ ับ การทดลองในช่วงหลงั ปี 1944 ซ่ึงตวั รถถงั ท่ีเสร็จสมบูรณ์น้นั มีความยาวถึง 10.2เมตร (33 ฟุต 6 นิ้ว) สูง 3.71 เมตร(12 ฟุต 2 นิ้ว) มีความกวา้ ง 3.63 เมตร(11.9 ฟุต) มีน้าํ หนกั 188 ตนั อาวธุ หลกั ของเมาส์ น้นั คือ Krupp-designed 128 mm KwK 44 L/55 ซ่ึงมี พ้นื ฐานมาจากปื นใหญ่ต่อตา้ นรถถงั 12.8 cm Pak 44 ซ่ึงเป็นปื นของยานเกราะพฆิ าตรถถงั ยาคท์ที เกอร์
แหลง่ อา้ งอิง 1.https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A14_%E0 %B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A1 %E0%B8%99 2.https://www.google.com/search?q=T34&oq=T34&aqs=chrome..69i57j0i131i433j46j0j0i10j0l3 .2103j0j15&sourceid=chrome&ie=UTF-8 3.https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B 8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0 %B8%95%E0%B9%8C_%E0%B9%82%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%8A %E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%9F 4.https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B 9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C_4 5.https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B 8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C_1
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: