Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore EB-ประโยคในภาษาไทย

EB-ประโยคในภาษาไทย

Published by KruFon, 2021-11-22 14:05:38

Description: EB-ประโยคในภาษาไทย

Search

Read the Text Version

วชิ าภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 ครูปิ ยมาส คูหามุข

เรื่อง ประโยคในภาษาไทย

ประโยคในภาษาไทย - ประโยคความเดยี ว - ประโยคความรวม - ประโยคความซ้อน

ส่ วนประกอบของประโยค ส่ วนประกอบ ภาคประธาน ของประโยค ภาคแสดง

ส่ วนประกอบของประโยค ๑. ภาคประธาน เป็นส่วนของผกู้ ระทาอาการหรือบทประธาน อาจมีส่วนขยายหรือไม่มีกไ็ ด้ คาท่ีทาหนา้ ที่ผกู้ ระทาอาการ ไดแ้ ก่ คานาม สรรพนาม นักเรียนเล่นบาสเกตบอลหลงั เลิกเรียน นกั เรียน ประธาน คานาม เขาอ่านทานองเสนาะไดไ้ พเราะ เขา ประธาน สรรพนาม

ส่ วนประกอบของประโยค ๒. ภาคแสดง เป็ นส่วนที่แสดงอาการหรื อบอกการกระทาของประธาน คาท่ีแสดงอาการ ไดแ้ ก่ คากริยา ส่ วนประกอบของ บทกริยา ภาคแสดง บทกรรม บทประกอบกริยา หรือส่วนเติมเตม็

ส่ วนประกอบของประโยค ๒. ภาคแสดง ตัวอย่างภาคแสดง ลูกเสือกระโดด กระโดด กริยา ครูเขียนกระดาน กระดาน กรรม เขาเป็ นนักฟุตบอล นกั ฟุตบอล ส่วนเติมเตม็ ลงุ ขายไอศกรีม แมวหนา้ ตาคลา้ ยเสือ ประธาน กริยา กรรม ประธาน กริยา ส่วนเติมเตม็

ส่ วนประกอบของประโยค ๓. ส่วนขยายของประโยค เป็ นคา กลุ่มคา หรือประโยคท่ีมาขยายส่วนต่างๆ เพื่อให้ประโยคมี ใจความชัดเจนยง่ิ ขนึ้ เช่น  พนักงานรักษาความสะอาดเกบ็ กระเป๋ าสตางคไ์ ด้ (“รักษาความสะอาด” เป็นกลมุ่ คาท่ีมาขยายประธาน “พนกั งาน”)  พวกเรายนิ ดีตอ้ นรับนักเรียนแลกเปล่ียน (“แลกเปลี่ยน” เป็นคาท่ีมาขยาย “นกั เรียน” ซ่ึงทาหนา้ ท่ีเป็นกรรม)  นารีร้องไห้จนน้าตาเป็นสายเลือด (“จนน้าตาเป็นสายเลือด” เป็นประโยคท่ีมาขยาย “ร้องไห”้ ซ่ึงทาหนา้ ที่เป็นคากริยา)

วเิ คราะห์ประโยค ประโยค ภาคประธาน กริยา ภาคแสดง ขยายกรรม ประธาน ขยาย ชอบเล่น ขยายกริยา กรรม คอมพวิ เตอร์ ๑. ฉนั ชอบเล่นเกม คอมพวิ เตอร์ ประธาน เป็ น - เกม - ๒. พอ่ ของวชิ ยั เป็น ฉนั - เรียน - ทหารเรือ ทหารเรือ - ๓. นกั เรียนหลาย พอ่ ของวชิ ยั คนเรียนภาษาไทย เก่งมาก ภาษา เก่งมาก นกั เรียน หลายคน ไทย 9

ประโยคความเดยี ว ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) คือ ประโยคที่มีใจความสาคัญเพยี งใจความเดยี ว ไม่มคี าเช่ือมปรากฏ และจดั เป็ น ประโยคท่ีมีองค์ประกอบเล็กที่สุด - คนไทยมีอธั ยาศัยดี - แม่ไปซื้อผ้าที่พาหุรัด - แม่รักลูกทุกคน - พ่อเดิน 10

ประโยคความรวม ประโยคความรวม คือ ประโยคใหญ่ท่ีประกอบดว้ ยประโยคความเดียวต้งั แตส่ อง (อเนกกรรถประโยค) ประโยคข้ึนไป มีใจความตา่ งกนั มิไดป้ ระกอบหรือขยายซ่ึงกนั และกนั และมีสันธานเช่ือมระหวา่ งประโยคความเดียวเหล่าน้นั ***การสังเกตประโยคความรวม มี ๓ ลักษณะ ๑. สังเกตสันธาน หรือคาเชื่อม ๒. มีกริยามากกว่า ๑ ตัว ๓. สามารถแบ่งประโยคได้มากกว่า ๑ ประโยค

๓.๒ ชนิดของประโยคความรวม ๑. ประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความคลอ้ ยตามกนั ๑) แสดงอาการร่วมกนั ใชส้ ันธาน และ ท้ัง...และ กบั การสงครามอาจแพแ้ ละชนะกไ็ ด้ ๒) แสดงเวลาตอ่ เน่ืองกนั ใชส้ ันธาน แล้ว...ก็ แล้ว...จึง ครั้น...ก็ คร้ัน..จึง ฯลฯ คร้ันครูใหญ่ใหโ้ อวาทจบ นกั เรียนกแ็ ยกยา้ ยกนั เขา้ ช้นั เรียน ๓) แสดงความคลอ้ ยตามกนั โดยมีเงื่อนไข ใชส้ นั ธาน ถ้า ถ้าว่า ถ้า...ก็ ฯลฯ ถ้าเธอพมิ พร์ ายงานเสร็จ เธอก็จะไดด้ ูภาพยนตร์

๓.๒ ชนิดของประโยคความรวม ๒. ประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความขดั แยง้ กนั ประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความขดั แยง้ กนั ใชส้ นั ธาน แต่ แต่ทว่า แต่...ก็ กว่า...ก็ ถึง...ก็ พอ่ แม่สอนใหว้ ินยั เป็นคนดี แต่ทว่าวนิ ยั ไม่ยอมเช่ือฟัง

๓.๒ ชนิดของประโยคความรวม ๓. ประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความเลือกอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความเลือกอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ใชส้ นั ธาน หรือ หรือไม่ก็ หรือมิฉะนั้น หรือมิฉะนั้นก็ หรือมิฉะน้ัน..ก็ หรือไม่ช่่นนั้น...ก็ หรื อไม่ อย่างนั้น...ก็ พอ่ คุณเป็นทหารหรือเป็นตารวจ มนุษยเ์ ราตอ้ งรู้จกั ทามาหากิน มฉิ ะน้ันกต็ อ้ งอดตาย

๓.๒ ชนิดของประโยคความรวม ๔. ประโยคความรวมที่มีเน้ือความเป็นเหตุผลแก่กนั ประโยคความรวมท่ีมีเน้ือความเป็นเหตุผลแก่กนั ใชส้ นั ธาน จึง ชพราะ...จึง ชพราะ ชพราะฉะนั้น...จึง ด้วยชหตวุ ่า...จึง ชพราะฉะนั้น สุธีเป็นคนไม่มีความรับผดิ ชอบ สมพรจึงไม่อยากร่วมงานดว้ ย ด้วยเหตุว่าวินยั ไม่ค่อยมีเวลาใหก้ บั ครอบครัว ลกู ของเขาจงึ ติดยาเสพติด อากาศเป็นพษิ เพราะฉะน้ันคนจึงเป็นโรคภูมิแพก้ นั มาก

แบบฝึ กหดั ประจาบท เนื้อความลกั ษณะใด ตัวอย่าง ถา้ เขาเลิกสูบบุหร่ี สุขภาพจะแขง็ แรงมากข้ึน เน้ือความเป็นเหตผุ ลแก่กนั ๑. ท้งั เจา้ หนา้ ท่ีและอาสาสมคั รต่างกช็ ่วยเหลือผบู้ าดเจบ็ ๒. แมเ้ ขาจะเป็นนกั พดู ที่ดี แต่เขากย็ งั ประหม่า ๓. วนั หยดุ ตน้ กลา้ จะไปเรียนวา่ ยน้าหรือไม่กไ็ ปเรียนวาดรูป ๔. พอเขาทาความสะอาดเสร็จ เขากร็ ีบกลบั บา้ น ๕. หน่อยเป็นเดก็ วยั รุ่นท่ีทนั สมยั แต่ทวา่ เขาสนใจธรรมะ

แบบฝึ กหดั ประจาบท แยกส่ วนประกอบของประโยค ประโยคความรวม ประโยคยอ่ ย สนั ธาน ตวั อย่าง ทีมฟตุ บอลโรงเรียนเรา ๑. ทีมฟตุ บอลโรงเรียนเราชนะเลิศ และ ชนะเลิศและไดร้ ับคาชมเชยเป็นอนั ๒. (ทีมฟุตบอลโรงเรียนเรา) มาก ไดร้ ับคาชมเชยเป็นอนั มาก ๑. ละครเรื่องนีค้ นดูสนุกมาก แต่คนเล่นเหนื่อยเหลือเกิน ๒. พอฉันไม่ได้ข่าวจากเขาฉันก็ไปหาท่ีบ้าน ๓. ง่วงกน็ อนเสียหรือไม่ก็ลุกขึน้ ล้างหน้า ๔. พอฉันเห็นเงาคนตะคุ่ม ๆ ฉันกต็ ะโกนถามไป ๕. สายใจเรียนดนตรีและภาษาอังกฤษ

ประโยคความซ้อน ประโยคความซ้อน (สังกรประโยค)  คือประโยคท่ีประกอบดว้ ยประโยคความเดียวต้งั แต่ ๒ ประโยคข้ึนไป  มีใจความสาคญั จะเป็นประโยคหลกั (มุขยประโยค)  มีประโยคยอ่ ย (อนุประโยค) ทาหนา้ ที่ขยายความส่วนใดส่วนหน่ึงของประโยค หลกั ใหช้ ดั เจน  โดยมีคาเช่ือมท้งั ๒ ประโยคเขา้ ดว้ ยกนั อาจกล่าวไดว้ า่ ประโยคความซอ้ นคือ “ประโยคขยายประโยค” แบ่งออกเป็น ๓ ชนิด

ประโยคความซ้อน ประโยคความซอ้ นแบ่งตามหนา้ ที่ของอนุประโยคได้ ๓ ชนิด ๑. ประโยคยอ่ ยทาหนา้ ท่ีอยา่ งนาม (นามานุประโยค) ชนิดของประโยคความซ้อน ๒. ประโยคยอ่ ยทาหนา้ ท่ีขยายนาม หรือสรรพนามในประโยคหลกั (คุณานุประโยค) ๓. ประโยคยอ่ ยทาหนา้ ท่ีอยา่ งวิเศษณ์ (วเิ ศษณานุประโยค)

นามานุประโยค ประโยคย่อยท่ีทาหน้าท่ีแทนคานาม ซ่ึงอาจทาหน้าท่ีเป็ นประธาน กรรม หรือ ส่ วนเติมเต็มในประโยคหลัก ๑) ทาหนา้ ท่ีบทประธาน กายทาสวนเป็ นอาชีพเสริม กายทาสวน : นามานุประโยคทาหนา้ ที่บทประธาน คนทะเลาะกันก่อความราคาญให้เพ่ือนบ้าน คนทะเลาะกนั : นามานุประโยคทาหนา้ ท่ีบทประธาน

นามานุประโยค ๒) ทาหนา้ ท่ีบทกรรม สมชายไม่ชอบสมพงศ์แสดงอานาจเหนือตน ๓) ทาหนา้ ท่ีส่วนเติมเตม็ สมพงศแ์ สดงอานาจเหนือตน: นามานุประโยคทาหนา้ ที่กรรม อน้ บอกเจมส์วา่ กจิ เป็ นคนฉลาดมาก กิจเป็นคนฉลาดมาก : นามานุประโยคทาหนา้ ที่กรรม ฉันเป็ นคนเร่ิมต้นคิดโครงการนี้ คนเร่ิมตน้ คิดโครงการน้ี : นามานุประโยคทาหนา้ ท่ีส่วน เติมเตม็ ***ข้อสังเกต นามานุประโยคอาจใชค้ าวเิ ศษณ์ (ท่ี วา่ ซ่ึง อนั ) เชื่อมขา้ งหนา้ ได้ เช่น สมชายไม่ชอบท่ีสมพงศ์แสดงอานาจเหนือตน อนั ผู้บังเกิดเกล้าเห็นแก่ลูกเป็ นคุณธรรมสูงสุด

คุณานุประโยค ประโยคย่อยท่ีทาหน้าที่ขยายคานามหรือสรรพนาม โดยมี ประพนั ธสรรพนาม (ผู้ ที่ ซึ่ง อนั ) เป็ นตัวเช่ือม - บุคคลผู้ได้รับรางวลั เรียนดีคือด.ช.รัฐศาสตร์ ผไู้ ดร้ ับรางวลั เรียนดี :คุณานุประโยคทาหนา้ ท่ีขยายประธาน แพรคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าท่ีใช้พลังงานนิวเคลียร์ ที่ใชพ้ ลงั งานนิวเคลียร์ : คุณานุประโยคทาหนา้ ที่ ขยายบทกรรม

คุณานุประโยค - เราหวงแหนแผ่นดินไทยอันเป็ นบ้านเกดิ เมืองนอนของเราอนั เป็นบา้ น เกิดเมืองนอนของเรา : คุณานุประโยคทาหนา้ ท่ีเป็นส่วนเติมเตม็ ***ข้อสังเกต คุณานุประโยคใชป้ ระพนั ธสรรพนามเพื่อแทนท่ีนามหรือสรรพ นามและขยายประโยคดว้ ย หากเป็ นคาประพนั ธวเิ ศษณ์เช่ือมจะไม่ใช่คุณานุประโยค

วเิ ศษณานุประโยค ประโยคย่อยท่ีทาหน้าท่ีขยายคากริยาหรือวเิ ศษณ์ โดยมีคาประพนั ธวเิ ศษณ์ เช่ือมประโยค เช่น เม่ือ,เพ่ือ,เพราะ,เพราะว่า, ตาม,จน,ต้ังแต่,อย่างท่ี ฯลฯ เป็ นตัวเชื่อม - ดรีมวง่ิ เร็วจนเพ่ือนตามไม่ทัน จนเพ่ือนตามไม่ทนั :วิเศษณานุประโยคทาหนา้ ท่ีขยายวิเศษณ์ กูปรีสูญพนั ธ์ุไปเพราะมนุษย์ล่ามันเพ่ือเอาเขา เพราะมนุษยล์ ่ามนั เพอ่ื เอาเขา : วิเศษณานุประโยคทาหนา้ ท่ีขยาย กริยา

วเิ ศษณานุประโยค ***ข้อสังเกต - ความซอ้ นวิเศษณานุประโยคท่ีเป็นเหตผุ ล ประโยคจะตอ้ งบอกผลมาก่อนเหตุ - หากหลงั คาเช่ือมเป็นแค่คานาม สรรพนาม หรือกริยาสภาวมาลา จะไม่นบั วา่ เป็นประโยคความซอ้ น

การสังเกตประโยค ประโยคความเดียว - มี ๑ประธาน ๑ กริยา ไม่มคี าเชื่อม ประโยคความรวม - มกี ริยามากกว่า ๑ ตวั - มีประโยคมากกว่า ๑ ประโยค มีความสาคญั เท่ากนั - มคี าเช่ือมเช่ือมประโยคเข้าด้วยกนั คาเช่ือมจะบอกความสัมพนั ธ์ระหว่างประโยค ประโยคความซ้อน - มีกริยามากกว่า ๑ ตวั - มปี ระโยคมากกว่า ๑ ประโยค มีประโยคหลกั และประโยคย่อยทาหน้าที่ขยาย ส่ วนประกอบในประโยคหลกั - ประโยคย่อยต้องมคี ากริยาด้วย - มีคาเช่ือมเชื่อมระหว่างประโยค

แบบฝึ กหัดประจาบท วเิ คราะห์ประโยคความซ้อน ประโยคความซ้อน ประโยคหลกั ประโยคย่อย หน้าท่ี ๑. ชาวประมงจบั ปลาซ่ึงกาลงั ต้งั ทอ้ ง ทาใหป้ ลาสูญพนั ธุ์ ๒. สมเดจ็ พระสุริโยทยั ทรงเป็น วรี สตรีผซู้ ่ึงยอมเสียสละชีวติ เพ่ือปกป้องแผน่ ดินไทย ๓. วงดนตรีบรรเลงเพลงคลาสสิก ถกู ใจคนฟัง ๔. น้าในคลองเน่าจนปลาตาย มากมาย ๕. วยั รุ่นสมยั น้ีใชจ้ ่ายฟ่ ุมเฟื อยซ้ือ สินคา้ ลว้ นเป็นแบรนดเ์ นมท้งั น้นั

แบบฝึ กหัดประจาบท แต่งประโยคความซ้อน โจทย์ : ใหน้ กั เรียนแต่งประโยคความซอ้ นแบบนามานุประโยค คุณานุประโยค และวิเศษณานุประโยค อยา่ งละ ๒ ประโยค โดยกาหนดให้ขีดเส้นใต้ ประโยคหลกั เป็ น สีน้าเงิน ประโยคย่อยเป็ น สีแดง ๑. นามานุประโยค ....................................................................................... ๒. คุณานุประโยค ...................................................................................... ๓. วเิ ศษณานุประโยค ......................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook