0
1 บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง ๒ อาเภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา ท.่ี .......................... วนั ท่ี 31 เดอื น มนี าคม พ.ศ. 2565 เรอ่ื ง ส่งรายงานผลไอดแี พลน ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................................... เรยี น ผอู้ านวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบารุง ๒ สงิ่ ทส่ี ง่ มาดว้ ย 1. แบบรายงานผลการเยย่ี มบา้ นนักเรยี น จานวน 1 เลม่ ตามคาสงั่ โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง ๒ ไดม้ อบหมายให้ ข้าพเจ้า นางสาวปิยมาส คูหามุข และ ปฏิบตั ิงานในหน้าท่คี รูผู้สอน งานทะเบียน เวรประจาวนั และครูประจาชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ตลอดจนภาระงานอ่นื ๆทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ตลอดปีการศกึ ษา 2564ทผ่ี ่านมา บัดน้ี ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าท่ีดังกล่าวเสร็จส้ินแล้ว จึงขอส่งรายงานผลไอดีแพลน ดัง รายละเอยี ดตามเอกสารทแ่ี นบมาพรอ้ มน้ี จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ (นางสาวปิยมาส คหู ามขุ ) ครโู รงเรยี นคณะราษฎรบารงุ ๒ วนั ท่ี 31 เดอื น มนี าคม พ.ศ. 2565 (นายเรงิ ชยั ปรงั เจะ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบารุง ๒ วนั ท่ี 31 เดอื น มนี าคม พ.ศ. 2565
2 ชื่อ นางสาวปยิ มาส ช่ือสกลุ คูหามขุ ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ - โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง ๒ สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษายะลา แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู (ID PLAN : INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------- สว่ นที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ช่อื นางสาวปยิ มาส ชอ่ื สกลุ คูหามขุ ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ - วฒุ กิ ารศกึ ษา ปริญญาตรี หรือเทียบเท่า ครุศาสตรบณั ฑิต วชิ าเอก ภาษาไทย เข้ารบั ราชการวนั ที่ 2 เดอื น ตุลาคม พ.ศ. 2560 ณ โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ ๒ สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษายะลา สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร อายุราชการจนถึงปจั จุบนั 4 ปี 5 เดือน เงนิ เดอื น อันดับ - อตั ราเงนิ เดือน 21,370 บาท สถานท่ีทำงาน สถานศึกษา/หนว่ ยงาน โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ ๒ สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษายะลา งานในหนา้ ที่ที่รับผิดชอบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ า การส่อื สารภาษาไทย ท20202 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จำนวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย 6 ท23102 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 จำนวน 3 ช่วั โมง/สปั ดาห์ กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย 4 ท32102 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ า การอา่ นและพจิ ารณาวรรณกรรม ท30107 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/2 จำนวน 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า หลักภาษาไทย 1 ท30108 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/2 จำนวน 2 ช่วั โมง/สัปดาห์
3 กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาวเิ คราะห์เชอ่ื มโยง ท30111 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6/2 จำนวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชา โครงงานภาษาไทย ท30112 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/2 จำนวน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา รายวิชาพระพทุ ธศาสนา ส31203 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา รายวิชาพระพุทธศาสนา ส33203 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน รายวชิ าแนะแนว ก23902 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 จำนวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น รายลูกเสอื เนตรนารี ก23904 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน รายวชิ าชมุ นุม ก23912 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1-3 จำนวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ งานที่ได้รบั มอบหมาย 1. เจ้าหน้าที่งานทะเบียน 2. เจ้าหน้าท่ีบรรณารกั ษ์ 3. ผู้ชว่ ยผู้กำกับนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร 4. ครเู วรประจำวนั ศุกร์ 5. ครูประจำชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ผลงาน ที่เกิดจากการปฏิบัตหิ น้าที่ในตำแหน่งปจั จุบนั ผลท่เี กิดจากการจัดการเรยี นรู้ - มแี ผนการจดั การเรยี นรูท้ กุ รายวิชา จำนวน 7 รายวชิ า/ภาคเรยี น - บรรยากาศการเรียนรเู้ ปน็ ปฏิสมั พันธ์แบบกลุม่ แบบมีส่วนร่วม แบบร่วมมอื (Cooperative learning ) และเรียนรู้ดว้ ยตนเอง - มกี ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ไดอ้ ย่างหลากหลาย และนำผลไปใช้ในการพฒั นา ผ้เู รยี น - มีการแก้ปัญหา/วิจยั ในช้ันเรยี น/ PLC - นกั เรียนมคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลักสูตร - มกี ารรายงานผลตอ่ ผู้เรยี น ผปู้ กครอง และผบู้ ริหารอย่างถกู ตอ้ ง สมำ่ เสมอ
4 2. ผลที่เกิดจากการพฒั นาวิชาการ - มีการจัดหา พัฒนา ประยกุ ตใ์ ช้สอ่ื นวตั กรรมในการจัดการเรียนรู้ สามารถนำไปใช้ ไดผ้ ลดี - การใช้ความคิดเชิงระบบในการพฒั นางานอยา่ งครบวงจรและมีประสิทธิภาพอยา่ ง ต่อเน่ือง - การนำความรดู้ ้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาพฒั นาระบบการเรยี นรู้ได้ - การส่งเสริมการคิดท่เี นน้ ผลคุณภาพที่ตัวผู้เรยี น - การนำวธิ กี ารวิจัยและพัฒนามาแกป้ ัญหาพรอ้ มทงั้ พัฒนางานอยา่ งครบวงจร 3. ผลทีเ่ กดิ กับผเู้ รยี น - นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ตามมาตรฐานการเรยี นรู้สงู ข้ึน - นักเรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และมคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตามสถานศกึ ษา กำหนด - นักเรยี นสามารถการอา่ นออก เขียนได้ ตามศกั ยภาพของแต่ละบคุ คล - นักเรยี นมีชนิ้ งาน/ผลงานที่สะท้อนความคดิ ขัน้ สูง เชน่ คิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่ - แผนผงั ความคดิ / Mind Mapping - นกั เรยี นแสวงหาความร้จู ากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ - นกั เรยี นสามารถใช้ทกั ษะทางภาษาในการส่อื สารได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 4. ผลที่เกดิ กบั สถานศกึ ษา - สถานศกึ ษาไดร้ ับการสนับสนนุ จากผปู้ กครอง ชุมนมุ หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ - มีบรรยากาศท้งั ในและนอกหอ้ งเรียนท่ีเอ้ือต่อการเรยี นรูข้ องครแู ละผู้เรียน - เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ของสถานศกึ ษาหรือหน่วยงานต่าง ๆ - การนเิ ทศติดตามผลการปฏิบัติงานของครทู ำให้การปฏบิ ัตงิ านมคี วามสมบรู ณ์ และ เปน็ ไปตามเวลาทก่ี ำหนด - มรี ะบบการทำงานเป็นทีมมากขน้ึ - มีแนวปฏิบตั ิด้านเอกสาร หลักฐานทางการศกึ ษาที่ถูกตอ้ ง - การพฒั นางานมีระบบถกู ตอ้ งและครบวงจร
5 5. ผลทเี่ กิดกบั ชุมชน - เกดิ ความสมั พนั ธ์ทีด่ ีกับผู้ปกครองและผ้นู ำชุมชน - มีสถานศึกษาระดับมธั ยมศกึ ษารองรับการศึกษาบตุ รหลานของชมุ ชน - มกี จิ กรรมทางสงั คมร่วมกับชมุ ชน ให้บรกิ ารชมุ ชนในดา้ นต่าง ๆ รวมท้งั สง่ เสริม สนบั สนนุ ให้ - ชมุ ชนมีความเขม้ แขง็
รายละเอียดการพัฒนาตนเอง อนั ดบั สมรรถนะ วธิ กี าร / ความสำคญั ทจี่ ะพฒั นา รูปแบบการพัฒนา 1 การบริหารหลักสตู รและ - การศกึ ษาดว้ ยตนเอง การจดั การเรียนรู้ (Self Study) โดยการอา่ นหนงั สือ และสบื คน้ จากอินเทอรเ์ น็ต - การอบรม/ประชุมปฏบิ ัติการ (Training/Workshop) ภายในสถานศึกษา - การอบรม/ประชุมปฏบิ ัติการ (Training/Workshop) กบั หน่วยงานภายนอก
6 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการสนบั สนนุ ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั จากหน่วยงาน เรม่ิ ตน้ สิ้นสุด - มคี วามสามารถในการพัฒนาหลักสูตร 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรยี น การออกแบบการเรยี นรู้ การจดั กิจกรรมการ 2564 2565 เรยี นรู้ การผลติ ส่อื การเรยี นรู้ การวัดผลและ ประเมินผลการเรยี นรขู้ องนักเรยี น 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. 2564 2565 16 พ.ค. 31 มี.ค. สพฐ. 2564 2565
กอันดับ สมรรถนะ วธิ ีการ / ท่จี ะพัฒนา รูปแบบการพฒั นา ความสำคญั - การศกึ ษาดงู าน (Field Trip) 2 การพฒั นาผ้เู รียน - การศกึ ษาด้วยตนเอง (Self Study) โดยการอ่านหนงั สือ และสบื ค้นจากอนิ เทอร์เนต็ - การอบรม/ประชุมปฏบิ ัติการ (Training/Workshop) ภายในสถานศกึ ษา - การอบรม/ประชุมปฏบิ ัติการ (Training /Workshop) กบั หน่วยงานภายนอก
7 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการสนบั สนนุ ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะไดร้ ับ จากหนว่ ยงาน เริ่มต้น ส้นิ สุด 16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรียน มคี วามสามารถในการจดั ระบบดูแลและ 2564 2565 ช่วยเหลือนักเรียน ส่งผลให้นักเรียนมี คุณธรรม จรยิ ธรรม มีทกั ษะชีวิต 16 พ.ค. 31 มี.ค. - สขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ดี มคี วามเปน็ อ 2564 2565 ประชาธปิ ไตยและความเป็นไทย 16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรียน 2564 2565 16 พ.ค. 31 มี.ค. สพฐ. 2564 2565
กกก อันดับ สมรรถนะ วิธีการ / ความสำคญั ที่จะพัฒนา รูปแบบการพัฒนา 3 การบริหารจัดการชั้นเรยี น - การศกึ ษาด้วยตนเอง (Self Study)โดยการอ่านหนงั สอื 4 การมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ในการ และสืบคน้ จากอนิ เทอรเ์ นต็ ปฏิบัติงาน - การเรียนรู้จากการปฏิบตั ิ (Actio learning) - การศึกษาดว้ ยตนเอง (Self Study) โดยการ อ่านหนังสือและสืบคน้ จากอินเทอรเ์ น็ต - การอบรม/ประชมุ ปฏิบัติการ (Training /Workshop) กบั หนว่ ยงานภายนอก
8 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการสนับสนุน ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ บั จากหนว่ ยงาน เรม่ิ ต้น ส้ินสุด 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. - หอ้ งเรยี นมบี รรยากาศทเ่ี อื้อตอ่ การเรียนรู้ 2564 2565 ผ้เู รยี นมคี วามสขุ ในการเรยี นรู้และมขี ้อมลู ของชน้ั เรยี น/ประจำวชิ าที่เป็นระบบ - on 16 พ.ค. 31 มี.ค. 2564 2565 16 พ.ค. 16 มิ.ย. - - จัดการเรียนรูไ้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2564 2565 เกิดผลดีตอ่ ผู้เรียน - ปฏบิ ัตงิ านทีไ่ ดร้ ับมอบหมายถูกต้อง ครบถ้วน สมบรู ณ์ 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. สพฐ. 2564 2565
กก อนั ดับ สมรรถนะ วิธกี าร / ความสำคญั ทจี่ ะพัฒนา รปู แบบการพฒั นา 5 การพัฒนาตนเอง - การศึกษาดูงาน (Field Trip) - การศึกษาด้วยตนเอง (Self Study) โดยการอา่ นหนงั สอื และสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต - การอบรม/ประชุมปฏบิ ัติการ (Training /Workshop) ภายในสถานศึกษา - การอบรม/ประชมุ ปฏิบัตกิ าร (Training /Workshop) กบั หน่วยงานภายนอก
9 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการสนับสนุน ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะได้รบั จากหน่วยงาน เร่มิ ตน้ สน้ิ สุด โรงเรียน พัฒนาตนเองในทิศทางท่ดี ีข้ึน สามารถใช้ 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. ภาษาไทยเพอ่ื การสอ่ื สาร ใช้ภาษาองั กฤษ 2564 2565 - ในการแสวงหาความรู้ ส่งผลใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อผู้เรียนและโรงเรียน 16 พ.ค. 16 มี.ค. 2564 2565 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. โรงเรียน 2564 2565 16 พ.ค. 31 มี.ค. สพฐ. 2564 2565
กกก อนั ดับ สมรรถนะ วธิ ีการ / ความสำคญั ทจ่ี ะพัฒนา รปู แบบการพัฒนา 6 การวเิ คราะห์ สังเคราะหแ์ ละ - การพบผ้เู ช่ยี วชาญ การวิจัยเพือ่ พัฒนาผเู้ รียน (Expert Briefing) - การอบรม/ประชมุ ปฏบิ ัตกิ าร (Training /Workshop) ภายในสถานศกึ ษา - การอบรม/ประชุมปฏบิ ัตกิ าร (Training /Workshop) กับหน่วยงานภายนอก
10 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการสนับสนุน ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รบั จากหนว่ ยงาน เริม่ ตน้ สิ้นสุด - มีความรคู้ วามสามารถในการ วิเคราะห์ 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. สงั เคราะห์ เขียนเอกสารทางวิชาการและ 2564 2565 โรงเรยี น การวิจัยเพอ่ื พฒั นาการเรียนการสอน 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. 2564 2565 16 พ.ค. 31 มี.ค. สพฐ. 2564 2565
กก อนั ดับ สมรรถนะ วิธกี าร / ความสำคญั ที่จะพัฒนา รปู แบบการพัฒนา 7 การทำงานเปน็ ทีม - การเรยี นรูจ้ ากการปฏบิ ัติ (Action learning) 8 จริยธรรมและจรรยาบรรณ วชิ าชพี ครู - การอบรม/ประชุมปฏบิ ตั ิการ (Training /Workshop) กบั 9 การบรกิ ารที่ดี หน่วยงานภายนอก - การเรียนรูจ้ ากการปฏิบตั ิ (Action learning) - การอบรม/ประชมุ ปฏิบัติการ (Training/Workshop) กับหน่วยงานภายนอก - การเรียนรู้จากการปฏิบตั ิ (Act learning)
11 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรบั การสนับสนุน ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั จากหนว่ ยงาน เริม่ ตน้ สิน้ สุด สามารถวางแผนและปฏิบตั งิ านรว่ มกบั ผู้อื่น 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. - ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 2564 2565 16 พ.ค. 16 ก.ย. สพฐ. 2564 2565 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. - เป็นผู้ทม่ี ีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีวนิ ัย 2564 2565 มีความรบั ผดิ ชอบ และมีความกา้ วหนา้ ใน วชิ าชีพ 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. 2564 2565 สพฐ. tion 16 พ.ค. 31 มี.ค. - สามารถใหบ้ ริการทางด้านการสอน 2564 2565 การปฏบิ ตั งิ านต่อนกั เรยี น เพอื่ นครู ผบู้ ริหาร ผปู้ กครอง ชุมชน จนเปน็ ที่ พงึ พอใจของทกุ ฝ่าย
กกก อันดบั สมรรถนะ วิธีการ / ความสำคญั ที่จะพฒั นา รูปแบบการพฒั นา 10 ภาวะผูน้ ำครู - การเรียนรู้จากการปฏิบตั ิ (Ac learning) 11 การสร้างความสัมพันธ์และ ความรว่ มมอื กบั ชุมชนเพอื่ การ - การเรียนรู้จากการปฏิบัติ จดั การเรยี นรู้ (Action learning) - การตดิ ตามผูม้ ีประสบการณ์ ( Shadowing) ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวปยิ มาส คหู ามุข) ผ้จู ัดทำแผนพัฒนาตนเอง
12 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการสนับสนนุ ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รบั จากหนว่ ยงาน เริม่ ตน้ สนิ้ สดุ ction 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. - มีภาวะผ้นู ำในการจัดการเรียนรู้และการ 2564 2565 ปฏบิ ตั ิงานดา้ นการศึกษา 16 พ.ค. 31 ม.ี ค. - ชุมชนมีความพงึ พอใจและใหค้ วามร่วมมือ 2564 2565 ในกิจกรรมต่างๆ ทโี่ รงเรียนจัดขน้ึ (Work 16 พ.ค. 31 มี.ค. - 2564 2565 ความเหน็ ผู้บังคับบัญชา ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. (นายเริงชัย ปรังเจะ) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ ๒
13 ประวตั กิ ารเข้ารับการพัฒนาตนเอง (ในรอบ 1 ปีท่ผี ่านมา) ลำดบั ท่ี เรือ่ ง หนว่ ยงาน จำนวนชัว่ โมง หมายเหตุ 1 อบรมการเทยี บโอนรายวชิ าและ สพม.15 8 ช่วั โมง 2 การเทียบวุฒิการศึกษาจาก 8 ชวั่ โมง 3 ตา่ งประเทศ สพม.15 15 ช่วั โมง 4 ประชมุ เชงิ ปฏบิ ัตกิ ารการส่ง 16 ชว่ั โมง รายงานเกรดเฉล่ียสะสม G-PAX สพฐ. 5 OBEC รอบ 6 ภาคเรียน 8 ชว่ั โมง 6 อบรมเชิงปฏิบัติการพฒั นาทกั ษะ สพม.นธ 16 ชั่วโมง การจดั การเรยี นรรู้ ูปแบบการ 7 สอนออนไลน์ สพม.ยล 8 ช่ัวโมง การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร โครงการพฒั นาสมรรถนะการ โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ อ่านและการคิดขั้นสูงสำหรบั ๒ นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนต้น อบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารโครงการ มูลนธิ คิ รอบครัวพอเพยี ง พัฒนาศกั ยภาพบุคคลเพ่ือความ เป็นเลศิ อบรมเชงิ ปฏิบัติการการพัฒนา ทักษะครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในการจดั การเรยี นการสอน ออนไลน์ โครงการครอบครวั พอเพยี งสู่ สถานศกึ ษาและชมุ ชนและการ อบรมเชิงปฏบิ ัติการส่งเสริม ศักยภาพครู
14 ส่วนที่ 2 ความต้องการในการพัฒนา 1. หลกั สูตรใดท่ีทา่ นตอ้ งการพัฒนา ลำดบั ที่ หลกั สูตร รายละเอียด 1 ภาษาไทยเพอื่ การ พฒั นาทกั ษะการใชภ้ าษาไทยเพอ่ื การสื่อสารเพือ่ ใชป้ ระโยชน์ในการ จัดการเรยี นรู้แก่ผ้เู รยี นอย่างมีประสทิ ธิภาพ 2 ส่ือสาร พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการเป็นครูท่ีทันต่อโลกกว้างและใช้ใน ภาษาองั กฤษเพื่อการ การสอ่ื สารกับชาวตา่ งชาติ 3 พฒั นาเทคโนโลยเี พื่อช่วยในการจดั การเรียนการสอนทที่ ันสมัย สอื่ สาร เทคโนโลยี 2. เพราะเหตใุ ดท่านจึงต้องการเขา้ รบั การพัฒนาในหลักสูตรน้ี ต้องการเป็นผู้ท่ีมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งงาน และเพ่ือการจัดการเรียน การสอนท่ีได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดคล้องกับเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ ว9/2564 ท่ีกำหนดวา่ พฒั นาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนอื่ ง เพอ่ื ให้มคี วามร้คู วามสามารถ ทกั ษะ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง การใช้ภาษาไทยและภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร และการใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ัลเพ่ือ การศึกษา สมรรถนะวชิ าชีพครแู ละความรอบร้ใู นเนอ้ื หาวิชาและวธิ กี ารสอน และเป็นแบบอย่างที่ดี 3. ทา่ นคาดหวังสงิ่ ใดจากการเข้ารับการพฒั นาในหลกั สตู รนี้ ได้รับความรู้จากการพัฒนาตนเองมาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิด ประสทิ ธผิ ลต่อผู้เรยี นอย่างสงู สุด 4. ทา่ นจะนำความรจู้ ากหลกั สูตรไปพฒั นาการสอนของท่านอยา่ งไร นำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดการเรียนการสอน เพ่ือให้การเรียนการสอนมีความ นา่ สนใจต่อผู้เรยี น นอกจากน้ีทักษะทางภาษาไทยและภาษาอังกฤษท่ีดีจะช่วยให้ครมู ีความสามารถ ในการสื่อสารที่ดยี ิง่ ขึ้น ทำให้ผเู้ รยี นมคี วามเข้าใจและเปดิ โลกทัศน์ที่กว้างไกลให้ผเู้ รยี นได้
15
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: