Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานอบรมครอบครัวพอเพียง-EB

รายงานอบรมครอบครัวพอเพียง-EB

Published by KruFon, 2022-08-02 07:11:31

Description: รายงานอบรมครอบครัวพอเพียง-EB

Search

Read the Text Version

บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ กลุ่มบรหิ ารวชิ าการ โรงเรยี นคณะราษฎรบารงุ ๒ ที่ วนั ที่ 18 ธนั วาคม 2564 เรอื่ ง โครงการครอบครัวพอเพยี งสสู่ ถานศกึ ษาและชมุ ชนและการอบรมเชงิ ปฏิบัติการส่งเสริมศักยภาพครู ในจงั หวดั ยะลา เรยี น ผอู้ านวยโรงเรยี นคณะราษฎรบารุง ๒ สงิ่ ทส่ี ง่ มาดว้ ย แบบรายงานสรุปผลการอบรม ด้วย มูลนิธิครอบครัวพอเพียง มีความประสงค์ท่ีจะจัดโครงการครอบครัวพอเพียงสู่ สถานศกึ ษาและชุมชนและการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารส่งเสรมิ ศกั ยภาพครู (ออนไลน์) เพอ่ื การพฒั นาศกั ยภาพ ครู และเปิดพน้ื ทก่ี ารเรยี นรู้ใหก้ บั สถานศกึ ษาทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการฯ พร้อมทงั้ ส่งเสรมิ ศกั ยภาพการเป็นผนู้ า รวมไปถงึ การสร้างเครอื ขา่ ยแกนนาเยาวชนครอบครวั พอเพยี งทวั่ ประเทศ และมอบหมายใหโ้ รงเรยี นสตรี ยะลา เป็นหน่วยประสานงานโครงการดงั กล่าวในพน้ื ทจ่ี งั หวดั ยะลา ดว้ ยขา้ พเจา้ นางสาวปิยมาส คูหามุข ไดเ้ ขา้ ร่วมอบรมออนไลน์ผ่านโปรแกรม Google Meet ในวนั ท่ี 18 ธนั วาคม 2564 รวมเป็นเวลา 1 วนั บดั น้ี การปฏบิ ตั หิ น้าทร่ี าชการทไ่ี ดร้ บั มอบหมายได้เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ ขา้ พเจ้าขอรายงานผล การอบรม ดงั น้ี จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ (นางสาวปิยมาส คูหามุข) ผรู้ ายงาน (นายเรงิ ชยั ปรงั เจะ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบารงุ ๒

แบบรายงานสรุปผลการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารโครงการครอบครัวพอเพยี ง สู่สถานศึกษาและชุมชนและการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร ส่งเสริมศักยภาพครูในจงั หวดั ยะลา วันที่ 18 ธันวาคม 2564 เรียน ผ้อู านวยการโรงเรียนคณะราษฎรบารุง ๒ ดว้ ยขา้ พเจา้ นางสาวปิ ยมาส คูหามุข ตาแหน่ง ครู สงั กดั โรงเรียนคณะราษฎรบารุง ๒ ไดร้ บั คาสง่ั เลขที่ ...................... ลงวนั ท่ี 18 ธนั วาคม 2564 เรื่อง โครงการครอบครัวพอเพียงสู่สถานศกึ ษาและชุมชนและการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารส่งเสริมศกั ยภาพครู ในจงั หวดั ยะลา วนั ที่ 18 ธนั วาคม 2564 รวมเป็นเวลา 1 วนั สถานที่ ณ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จ.ยะลา จดั โดย ดว้ ย มูลนิธิครอบครวั พอเพียง บดั น้ี ขา้ พเจา้ ไดด้ าเนินการกิจกรรมดงั กลา่ วเรียบร้อยแลว้ จึงขอรายงานสรุปผลการอบรมใหท้ ราบดงั น้ี 1. ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ทักษะ หรืออน่ื ๆ ทไ่ี ด้รับในการอบรมนามาเพ่ือพัฒนางานของ หน่วยงาน ดังน้ี 1) การเรียนรู้หลกั การของโครงการครอบครวั พอเพยี ง ซ่ึงเป็นการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพยี งของใน หลวงรชั กาลที่ 9 2) เป็นการปลกุ จิตสานึกในการมคี วามซ่ือสตั ย์ ความรับผดิ ชอบ และการมีจิตอาสา 3) การพฒั นาศกั ยภาพครูเพอ่ื ดาเนินการครอบครัวพอเพียงในสถานศึกษา 2. รูปแบบการอบรม 1) การบรรยายโดยวิทยากรผมู้ ีความชานาญผา่ นโปรแกรม Google Meet 2) วทิ ยากรบรรยายโดยใชส้ ่ือคอมพวิ เตอร์โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint ผ่านการแชร์ หนา้ จอ Google meet 3) ผเู้ ขา้ อบรมไดส้ อบถามปัญหา และแนวทางการปฏบิ ตั งิ าน โดยวทิ ยากรใหข้ อ้ เสนอแนะและ แนวทางในการปฏบิ ตั ใิ นทางท่ถี ูกตอ้ ง 3. การเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ ทักษะ และอ่ืน ๆ แก่ผ้ทู ่ีเกย่ี วข้อง คือ 3.1. นาผลการอบรมสมั มนา มาขยายผลให้ครูในโรงเรียนหรือผทู้ ี่สนใจทราบเก่ียวกบั 1) การเรียนรู้หลกั การของโครงการครอบครวั พอเพียง ซ่ึงเป็นการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรชั กาลที่ 9

2) เป็นการปลกุ จิตสานึกในการมีความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และการมจี ิตอาสา 3) การพฒั นาศกั ยภาพครูเพือ่ ดาเนินการครอบครวั พอเพียงในสถานศึกษา 3.2. นาผลการอบรมมาปรบั ใชใ้ นการดาเนินชีวิตตามหลกั เศรษกิจพอเพียง และดาเนินงานเศรษฐกิจ พอเพียงในโรงเรียนใหห้ ยงั่ รากลกึ ตอ่ ไป จึงเรียนมาเพือ่ โปรดทราบ และพจิ ารณา (นางสาวปิ ยมาส คูหามุข) ตาแหน่ง ครู

ภาคผนวก

มูลนิธิ ครอบครัวพอเพียง จากพระราชดารัสของ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วารสารชยั พฒั นา : ๔ ธนั วาคม ๒๕๔๒ “...เศรษฐกจิ พอเพยี งเป็ นเสมือนรากฐานของชีวติ รากฐานความมนั่ คงของแผ่นดนิ เปรียบเสมือนเสาเข็มทถ่ี กู ตอกรองรับบ้านเรือน ตวั อาคารไว้นัน่ เอง ส่ิงก่อสร้างจะมั่นคงได้กอ็ ย่ทู เี่ สาเข็ม แต่คนส่วนมากมองไม่เหน็ เสาเขม็ และลมื เสาเข็มเสีย ด้วยซ้าไป...” หลกั คิดที่สาคญั ตอ่ ชีวติ ต่อการปกครองและการบริหารบา้ นเมือง เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทวั่ ประเทศไดร้ บั รู้ เรียนรู้ เขา้ ใจและนามาปรบั ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั พฒั นาต่อยอดทางการศึกษา การดาเนินงานท้งั ธุรกิจ เอกชน รัฐวสิ าหกิจ

และขา้ ราชการ รวมถึงการบริหารชุมชนและบริหารประเทศ จึงเป็นท่ีมาของการจดั ต้งั “มูลนธิ คิ รอบครัว พอเพยี ง” โดยการขอรับการสนบั สนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ความมงุ่ หวงั เพือ่ ใหป้ ระเทศชาติ ประชาชนมคี วามสุข สงบ พ่งึ พาตนเองไดแ้ ละพฒั นาไดอ้ ยา่ งมน่ั คง ยง่ั ยนื เริ่มตน้ จากจุดเล็กๆ คอื “ครอบครัว” เพราะ “สังคมดี เริ่มต้นที่ครอบครัว” จุดเริม่ ต้นของ... มลู นิธิครอบครัวพอเพียง • วนั ที่ ๙ มถิ นุ ายน ๒๕๔๙ กำเนิดครอบครัวพอเพียงโดย นางอรยิ สริ ิ พิพัฒน์นรา และได้นำเสนอ โครงการครอบครัวพอเพยี ง สู่สถานศึกษาและชุมชน แก่ ดร.สเุ มธ ตนั ตเิ วชกุล ประธานกรรมการ และคณะกรรมการมูลนธิ ิประเทศไทยใสสะอาด • มติท่ีประชุมคณะกรรมการมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาดไดร้ บั โครงการครอบครวั พอเพียงสสู่ ถานศกึ ษา และชมุ ชนเพื่อ การขับเคลอ่ื นหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งภายใตม้ ูลนธิ ปิ ระเทศไทยใสสะอาด • โดยใช้ช่อื ชมรมครอบครวั พอเพยี ง ขบั เคลื่อน โครงการและสรา้ งเครอื ขา่ ยครอบครวั พอเพียงมาอย่าง ตอ่ เน่อื งเป็นระบบ • ตุลาคม ๒๕๕๖ จดจัดตัง้ มลู นธิ ิครอบครัวพอเพยี ง

ศนู ยค์ รอบครวั พอเพยี ง วิสยั ทศั น์ “ปลุกจติ สำนกึ ความซอื่ สัตย์ รับผิดชอบ มีจิตอาสา” • เพอ่ื ปลกุ จติ สำนึกให้เยาวชนและครอบครัวมคี วามรัก ความกตัญญู ร้คู ุณชาติ ศาสนาและสถาบัน พระมหากษตั ริย์ • เพอื่ ปลุกจติ สำนึกใหเ้ ยาวชนและครอบครัวมคี ุณธรรมมจี ริยธรรม รังเกยี จการทุจริตและถือประโยชน์ ของสว่ นรวมเปน็ สำคัญ • เพื่อใหค้ วามช่วยเหลือในการใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำ จัดฝกึ อบรมดูงาน ผลิตเอกสารและเผยแพรเ่ รอื่ ง เกยี่ วกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่เยาวชนและครอบครวั เพื่อการนำไปใชใ้ น ชวี ิตประจำวนั ตลอดจนในการบรหิ ารองค์กร ห้างร้าน ชุมชนและประเทศชาติ • เพื่อจดั ใหม้ ีการศกึ ษา วจิ ัยและสมั มนาเกยี่ วกับการสรา้ งภูมิคุ้มกันท่ดี ใี นตัวเองให้แก่เยาวชน ครอบครวั ชมุ ชนและองค์กรทงั้ ภาครฐั รฐั วิสาหกิจและเอกชน • รว่ มมือกับสถาบนั และองค์กรทัง้ ในและต่างประเทศที่มวี ตั ถุประสงคท์ ำนองเดยี วกนั • ดำเนนิ การเพอื่ กจิ สาธารณะประโยชน์อนื่ รวมทง้ั ให้ความร่วมมอื กบั องคก์ ารการกศุ ลอนื่ ๆ • ไม่ดำเนินการเกี่ยวกบั การเมอื งแตป่ ระการใด กระบวนการพฒั นา ศูนย์ครอบครัวพอเพยี ง ศูนย์ครอบครัวพอเพยี ง การพฒั นาศักยภาพนกั เรียนแกนนา • พฒั นาความคดิ เสริมสร้างการเรียนรู้ ปลุกจิตสานึกความซ่ือสัตย์ รับผิดชอบและสร้างเครือข่ายจิตอาสา ทวั่ ประเทศ • จดั กิจกรรมค่ายแกนนาทวั่ ประเทศ เพื่อส่งเสริมความรกั ความสามคั คลี ดความคดิ เร่ืองความเหลื่อมล้า ความไมเ่ ท่าเทยี ม สร้างขบวนการการแบ่งปันและใส่ใจการเป็นส่วนหน่ึงของสังคม • จดั กิจกรรมคา่ ยแกนนาทวั่ ประเทศ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ประวตั ศิ าสตร์และวฒั นธรรม

การพฒั นาศกั ยภาพครู • จดั กิจกรรมเสริมพลงั ความคิดบวก กระตนุ้ พลงั คณุ คา่ ของคาวา่ “ครู” พฒั นาต่อยอดสู่ “ซุปเปอร์ครู” • จดั กิจกรรมเสริมสร้างความคิด และสร้างเครือขา่ ย “ซุปเปอร์ครู” เพอ่ื ความยง่ั ยนื • จดั กิจกรรมร่วมกนั ออกแบบบรู ณาการความรู้ค่คู วามดี เพ่ือสร้างคนดีสู่สงั คมในอนาคต การแลกเปลีย่ นเรียนรู้กบั หน่วยงานอน่ื ๆ • การศึกษาดงู านโครงการพระราชดาริ • การศกึ ษาดงู านโรงเรียนตน้ แบบของศนู ยค์ รอบครัวพอเพียง โรงเรียนคือศูนย์ครอบครัวพอเพยี ง องคป์ ระกอบภายในโรงเรยี นทุกภาคสว่ นรว่ มรณรงคป์ ลุกจติ สำนกึ ความซือ่ สัตย์ รบั ผิดชอบ มจี ติ อาสา เผยแพร่กจิ กรรมผ่านเครอื ขา่ ยศูนยค์ รอบครวั พอเพยี งทาง Social Network ตดิ ตามผลงานเพ่ือมงุ่ ส่คู วามเปน็ เลศิ • การประชมุ เครือข่ายศูนยค์ รอบครัวพอเพียง เพอ่ื แลกเปลี่ยนทางความคดิ และรว่ มสงั เคราะห์ พรอ้ ม ถอดบทเรียน • การประชุมใหญเ่ ครือขา่ ยศนู ย์ครอบครัวพอเพียง แสดงศกั ยภาพ และแถลงผลสำเร็จประจำปี กิจกรรมตา่ งๆ ทผ่ี า่ นมา เพ่ือสงั คมท่เี ทา่ เทยี ม เพราะเราเป็นสว่ นหน่ึงของสงั คม และคำม่ันสญั ญาทีพ่ วกเรามี

ผังแสดงความสอดคลอ้ งระหว่างยทุ ธศาสตร์ชาติ เป้าหมายการพัฒนาอย่างย่งั ยืน (SDGs) และพนั ธกิจของมูลนธิ คิ รอบครัวพอเพียง ศนู ยค์ รอบครัวพอเพยี งท้ังระดบั ประถม, มธั ยมและอดุ มศกึ ษาทุกจังหวัดท่ัวประเทศ • พันธกจิ ของมลู นธิ ิครอบครัวพอเพียง สอดคล้องกับ SDGs องค์การสหประชาชาติ • ด้านศาสนา วฒั นธรรมและสถาบันพระมหากษตั ริย์ ด้านสิ่งแวดล้อม ดา้ นประชาธปิ ไตย ดา้ น สังคม ดา้ นเศรษฐกจิ • ต้นแบบตวั อยา่ งเครือข่าย พนั ธกิจของมูลนธิ ิครอบครวั พอเพียง ยทุ ธศาสตรด์ ้านศาสนา วัฒนธรรมและสถาบนั พระมหากษัตริย์ • การสร้างหลักสูตรท่มี เี น้ือหา ปลูกจิตสำนกึ พฒั นา คุณธรรม จริยธรรม ดา้ นศาสนา วัฒนธรรม • ส่งเสริมให้ศูนย์และเครอื ข่าย มีกิจกรรมตามท่ีมูลนิธกิ ำหนดด้านศาสนา วัฒนธรรม ในแผนการเรียน การสอนเพอ่ื ความยงั่ ยืน • ตัวอยา่ งกจิ กรรม เชน่ จัดกิจกรรมตามวนั สำคัญทางศาสนา, การบรรพชาสามเณรท่วั ประเทศ, กจิ กรรมคำพ่อสอนและงานจติ อาสาทางดา้ นพุทธศาสนา, จิตอาสาเขา้ สถานพยาบาลเพอื่ ชว่ ยงาน พยาบาล, อบรมการช่วยชวี ติ • ยุทธศาสตร์ด้านสิง่ แวดล้อม • การสร้างจิตสำนึกดา้ นจติ อาสาเพอื่ สังคมและส่งิ แวดลอ้ ม • กำหนดกิจกรรมดา้ นจิตอาสาท่ีเปน็ มติ รตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม • ตัวอย่างกิจกรรม การมอบรางวลั และยกยอ่ ง โรงเรยี น ครู และนักเรยี นทีม่ ีผลงานดีเด่นท่ที ำกิจกรรม ยาวนาน ต่อเนอื่ ง มผี ลลัพธ์, กิจกรรมเยาวชนจิตอาสาพฒั นาสง่ิ แวดล้อม, เปล่ยี นขยะเปน็ ทรพั ย์, งานจติ อาสาสรา้ งฝายชะลอน้ำ ยุทธศาสตรด์ ้านประชาธิปไตย • การพัฒนารปู แบบการทำงานของสมาชกิ แบบสง่ เสริมการสร้างประชาธิปไตย• • จดั เวทีรับฟงั ตลอดจนพัฒนากิจกรรมของโครงการต่างๆ ในระดับ ครู และนักเรยี นแกนนำแบบมีส่วน ร่วม ตัวอย่างกิจกรรม เช่น การศกึ ษาดูงานพพิ ิธภัณฑ์ต้านโกง, กิจกรรม New Gen So good, การ ประชุมครแู กนนำและการอบรมครู นักเรยี น อยา่ งตอ่ เน่อื งท่ัวประเทศ ยุทธศาสตร์ด้านสงั คม

• ขยายการพฒั นาศกั ยภาพครูและแกนนำเพอื่ ใหเ้ กดิ กระบวนการทำงานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง กำกับดูแลให้ สามารถทำงานไดจ้ รงิ ทุกพนื้ ที่ทั่วประเทศ กิจกรรมค่าย Leader Camp, การพฒั นา Super ครู • การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทียมกนั ทางสังคม • ตัวอย่างกิจกรรม เช่น มชี ่องทางทำความดเี พอื่ ให้เยาวชนทม่ี ีคณุ ภาพได้รับโอกาสในการพฒั นาตนเอง ดา้ นการศึกษา, กิจกรรมความร่วมมอื กบั องคก์ รภาคใี นการสรา้ งความเทา่ เทียมทางสังคมแบบทกุ มติ ิ ทางสงั คม, การทำ MOU กบั สถาบันการศึกษา, การใช้ระเบียนความดีเป็นช่องทางการศกึ ษาต่อ, การส่งเสรมิ สทิ ธิ, การเขา้ ถึงสิทธปิ ระชาชน, คา่ ย I Can Do ยทุ ธศาสตร์ด้านเศรษฐกจิ • การนำแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพยี ง มาใช้ในกิจกรรมหลักของโครงการและนำไปใช้ในชีวิต• • ส่งเสริมใหม้ กี ารพฒั นาแนวคดิ และฝกึ ปฏิบตั จิ รงิ ในด้านเศรษฐกจิ ความพอเพยี ง การชว่ ยเหลอื ตนเอง • ตวั อยา่ งกิจกรรม เช่น จดั กิจกรรมส่งเสริมใหเ้ ยาวชนและสมาชิก ฝกึ อาชพี , จดั ทำตลาดนดั ชุมชนจาก พ้นื ฐานอาชีพ, การจดั การเรียนรูฝ้ กึ หัดเกบ็ ออม, การสร้างบัญชีครัวเรอื น

ศาสตรพ์ ระราชา “คนไทยมีปัญหาพระราชากท็ รงคดิ หาทางแก้ไขโดยศาสตรพ์ ระราชา” มคี ำกล่าวถึง “ศาสตรพ์ ระราชา” มานานหลายปีท่ีผา่ นมา เชน่ ศาสตรพ์ ระราชาส่กู ารพัฒนาอย่าง ยั่งยืน, ศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารพัฒนาทย่ี ัง่ ยืน, ศาสตร์พระราชาจากภผู าสู่มหานที ซ่ึงในต่างประเทศต่างทราบ ว่าเปน็ แนวคดิ ตามแนวพระราชดำริขององคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ในความคดิ แวบหนึง่ คนไทยน่ชี ่างโชคดี ท่ีเจอปัญหาอะไร พระราชาของเรากห็ าทางแก้ไขไวใ้ ห้ มี คำถามว่า “คนไทยรู้จักศาสตร์ของพระราชาดีแคไ่ หน และเคยนำไปปฏบิ ตั กิ นั หรือยงั ” มาเริ่มตน้ ทตี่ ัวเรา และ ต่อไปก็คนรอบข้าง แล้วขยายออกวงกลางไปส่สู งั คมและประเทศชาตใิ นทสี่ ดุ ตวั อยา่ งปัญหาเช่น ทกุ ครง้ั ที่คนไทยมีปญั หา นำ้ เสยี นำ้ ท่วมดินถลม่ ไฟปา่ พระองค์ทา่ นก็จะคดิ ศาสตร์มาแก้ไข เม่อื ประเทศไทยฝนแล้งพระองค์ทา่ นก็มศี าสตรใ์ นการทำฝนเทียม หรอื ฝนหลวง ท่เี รยี กว่า “ฟากฟา้ ลงภผู า ผ่านทงุ่ นาสู่มหานที” เมอื่ ประชาชนชาวกทม.นำ้ ท่วม พระองคท์ า่ นก็คิดศาสตร์ท่ชี ื่อว่า โครงการแก้มลิง ท่ีคลองมกั กะสัน เพ่ือแก้ไขปัญหา โครงการขุดคลองลัดโพธิ์ หรอื การแก้ไขปญั หานำ้ เสีย ใช้ ผักตบชวาทเี่ รยี กวา่ “ใช้อธรรมปราบอธรรม” (The use of vice to defeat vice) และกม็ กี ังหันชยั พฒั นา เติมออกซิเจน มคี ำถามหนึ่งว่า “ทำไมคนไทยรกั พระราชาของเขาไดม้ ากขนาดยอมตายแทนได”้ คำตอบก็คอื พระราชา ทรงห่วงใยประชาชนของพระองค์ และทำเพือ่ บำบัดความทกุ ขท์ ุกอย่างของประชาชนตลอด ระยะเวลาท่ีทรงครองราชย์ กว่า 70 ปี จึงเป็นหนา้ ท่ขี องคนไทยที่ต้องศึกษาศาสตรแ์ ห่งพระราชา และชว่ ยกนั ดำเนินการตามรอยพระบาท หรอื “การเดินตามรอยเทา้ พอ่ ” ที่ตอ้ งศกึ ษาแนวทาง ทพ่ี ระองค์ทา่ นได้ทรงงาน และวางแนวทางหาหนทางแก้ไขปัญหาของประชาชนไว้ ท่ีทุกคนรจู้ ักกันในนาม “ศาสตร์พระราชา” หรอื “ศาสตรแ์ หง่ พระราชา” ในแง่แนวคดิ ปรชั ญา และการปฏบิ ัตนิ น้ั “การรักพระราชาของเรา” นน้ั ก็คอื การปฏิบัตบิ ูชาตามคำ สอน หากคนไทยทกุ คน ช่วยกนั ทำ กันปฏบิ ัติ และขยายผลการปฏบิ ัตใิ หก้ วา้ งขวาง จะยง่ิ เกิดผลดใี นการ ปฏบิ ัติ “เชงิ สญั ลกั ษณ”์ มากขนึ้ ท่ีปกตเิ หลา่ บรรดาขา้ ราชการและพสกนกิ รทว่ั ไปทกุ คนกไ็ ดท้ ำกันอยแู่ ล้ว เชน่ คำขวัญ สโลแกน ท่เี ขยี นขน้ึ ป้าย ตดิ เสอ้ื ตดิ รถ ตา่ ง ๆ อาทิ “เราเกิด ในรชั กาลที่ 9” ซง่ึ เรียกรวมๆกันวา่ “ปฏบิ ตั บิ ชู า” ชว่ ยกนั ทำ สงั คมกจ็ ะดีย่งิ ขึ้น การเขียนใหด้ ูสวยดูดดี ูเทห่ ์ แตไ่ ม่ช่วยกันทำ ชว่ ยกันปฏิบัติ กจ็ ะ ไม่เรยี กว่า “รักพระองค์ท่านอยา่ งแทจ้ ริง”

การนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ชใ้ นการบรรลเุ ป้าหมายการพฒั นาที่ยัง่ ยนื เปน็ เวลาเกือบ 20 ปที ค่ี นไทยร้จู กั “หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง” ที่ “พระบาทสมเด็จพระ เจา้ อยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช” พระราชทานเป็นแนวทางในการนำพาประเทศไทยให้ข้ามพน้ วิกฤตเศรษฐกิจคร้ัง ใหญท่ ่ีเกดิ ขนึ้ เมอื่ ปี 2540 หรอื “วิกฤตต้มยำกุ้ง” หรอื ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ “ฟองสบูแ่ ตก” จนหลายภาคส่วน น้อมนำหลักปรชั ญาน้ไี ปเปน็ แนวทางปฏิบัติ โดยอาจารย์ยกั ษ์ หรอื ดร.วิวฒั น์ ศัลยกำธร ผเู้ ด็ดเด่ียวตามรอย ในหลวงใหเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงเลีย้ งชีวติ ไดศ้ ึกษาและเขยี นเรอื่ งเศรษฐกิจพอเพียง มาตลอดต้งั แต่ปี 2540 จวบจนทกุ วนั นี้ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไดร้ บั การนำไปประยกุ ตใ์ ช้อย่างแพร่หลาย ทงั้ ในภาคเกษตรกรรม ธรุ กจิ การจัดการทางเศรษฐกิจและส่งิ แวดลอ้ ม และสถานศกึ ษา จนประสบความสำเร็จอย่างเปน็ รปู ธรรม โดย “มูลนธิ มิ น่ั พัฒนา” ที่จัดตง้ั ขึ้นเมอื่ 25 กรกฎาคม 2557 ศาสตร์พระราชา...ศาสตร์เพื่อการพัฒนาท่ีย่ังยนื สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ มีพระราชดำรสั เมื่อปี 2554 วา่ “เป้าหมายในการพัฒนาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว คือ ‘การพฒั นาที่ย่งั ยืน’ เพ่ือปรับปรุงชีวติ ความเปน็ อยขู่ องคน โดยไมท่ ำลาย สิง่ แวดล้อม ให้คนมีความสุข โดยตอ้ งคำนึงเร่ืองสภาพภมู ศิ าสตร์ ความเชอ่ื ทางศาสนา เช้อื ชาติ และภมู หิ ลัง ทางเศรษฐกจิ สังคม แมว้ ่าวิธกี ารพฒั นามีหลากหลาย แต่ที่สำคัญคอื นักพัฒนาจะตอ้ งมีความรัก ความห่วงใย ความรบั ผดิ ชอบ และการเคารพในเพอื่ นมนุษย์ จะเห็นได้วา่ การพัฒนาเกีย่ วขอ้ งกับมนษุ ยชาติ และเปน็ เรื่อง ของจติ ใจ”

เม่อื 28 ตลุ าคม 2559 พลเอกประยทุ ธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กลา่ วในรายการ “ศาสตร์ พระราชาสู่การปฏบิ ัติอย่างย่ังยนื ” ในการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 รวมท้ังการพัฒนาประเทศเพอ่ื กา้ วเขา้ สสู่ งั คมโลกท้ังในระดบั ภูมิภาค และ ในระดับโลก เพอื่ น้อมนำพระราชดำรัสขององคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ภมู ิพลอดุลยเดชท่ีให้ “ประชาชนเปน็ ศูนยก์ ลาง” ของการพฒั นา มาเป็นแนวทางในการ ดำเนนิ งาน เพอื่ ไมใ่ ห้เกดิ ความขดั แย้งในพื้นท่ี ประชาชนมีส่วนรว่ ม และไดป้ ระโยชน์จากการพัฒนาอยา่ ง แท้จริง ให้มีความ อยูด่ ี กนิ ดี รัฐบาล ฯพณฯ พลเอกประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา นายกรัฐมนตรีไดเ้ ชือ่ มโยง “ศาสตร์พระราชา”ในเรอ่ื ง หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (SEP - Sufficiency Economy Philosophy) กบั เปา้ หมายการพัฒนาท่ี ยง่ั ยนื (SDGs - Sustainable Development Goals) ประสบความสำเร็จ ในการสรา้ งความตระหนักและ การยอมรบั ในเวทีระหวา่ งประเทศในระดบั หน่ึง ยกตัวอยา่ ง ไดแ้ ก่ (1) ศนู ย์สาธิตสหกรณ์โครงการหบุ กะพง เพอ่ื แกป้ ัญหาการขาดน้ำกนิ และน้ำใช้, การขาดทด่ี ินทำกนิ ซ่ึงมีการสง่ เสริมการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งงา่ ย (2) ธนาคารอาหารเปน็ กจิ กรรมจากกองทุนอาหารกลางวนั แบบยั่งยนื ใหเ้ ด็กนกั เรยี นทุกคนนำไปลงทุน เพอื่ ประกอบอาชีพทำการเกษตรและปศสุ ัตวข์ นาดเลก็ (3) โรงเรียนพระดาบส จัดให้มีการสอนวิชาชพี หลักสูตร 1 ปี มุ่งใหส้ ามารถนำไปประกอบอาชีพไดจ้ ริง เสริมด้วยทักษะชีวิต ใหส้ ามารถดำรงตน ไดอ้ ย่างเหมาะสม (4) กงั หนั ชัยพัฒนา เป็นการเพมิ่ ปรมิ าณออกซิเจนในนำ้ ลดกลนิ่ นำ้ ไมเ่ นา่ เสยี เป็นทอ่ี ยอู่ าศยั ของสตั วน์ ำ้ ได้ (5) บรษิ ทั ประชารัฐ รักสามัคคี จำกัด ดำเนินการตามรูปแบบ “วิสาหกจิ เพอ่ื สังคม” บนกลไก “ประชารฐั ”ทไี่ ม่ มงุ่ เนน้ ผลกำไรจากการประกอบการ ลองมาดูเนอ้ื หาโดยสรุปของ “ศาสตรแ์ หง่ พระราชา” ท่ีสำคญั เหล่านก้ี นั อาทิ โครงการฝนหลวง จากฟากฟา้ ลงภูผา ผ่านทุง่ นาสู่มหานที วธิ ที ำฝนหลวงมอี ยู่ 3 ขนั้ ตอน คอื ขั้นตอนท่ี 1 ก่อกวน คือการดัดแปรสภาพอากาศหรอื ก้อนเมฆใน ขณะนัน้ เพอื่ กระตนุ้ ใหม้ วลอากาศ ช้นื ไหลพาข้นึ ส่เู บื้องบนอันเปน็ การชกั นำไอนำ้ หรืออากาศชืน้ เข้าสู่กระบวน การเกิดเมฆ ขัน้ ตอนที่ 2 เลย้ี งให้อว้ น คอื การดัดแปรสภาพอากาศเพือ่ ทำใหเ้ มฆเจรญิ ขึน้ จนมีขนาดใหญ่ หนาแนน่ และพรอ้ มทจี่ ะตกลงมาเป็นฝน ขั้นตอนท่ี 3 โจมตคี ือการดัดแปรสภาพอากาศทจ่ี ะกระตนุ้ ให้เมด็ ละอองเมฆปะทะชนกนั แล้วรวมตัว เขา้ ด้วยกัน จนมขี นาดใหญ่ข้นึ ขณะเดียวกันกเ็ ปน็ การลดแรงไหลพาข้นึ เบือ้ งบน เพอ่ื ใหเ้ ม็ดน้ำ มขี นาดใหญต่ กลงสู่เบือ้ งลา่ งแล้วเกิดเปน็ ฝนตกลงมาสู่เปา้ หมาย

ฝายชะลอความชุ่มชน้ื ( Check Dam) หรือฝายแมว้ ใชว้ สั ดุธรรมชาติทีห่ าง่ายในทอ้ งถน่ิ เช่นกอ้ นหนิ และไมเ้ พ่อื กอ่ เป็นฝายขวางรอ่ งน้ำหรอื ห้วยเล็กๆทำ หน้าท่ีกกั กระแสน้ำไว้ใหไ้ หลช้าลงและใหน้ ำ้ สามารถซึม ลงใตผ้ วิ ดินสร้างความชมุ่ ชื้นในบริเวณนั้น อีกทงั้ ยัง ช่วยดักตะกอนดนิ และทราย ไม่ใหไ้ หลลงสแู่ หลง่ น้ำเบอื้ งลา่ ง แฝก การปลกู หญ้าแฝกตามแนวระดับเพอื่ ช่วยชะลอความชมุ่ ช้นื ไวใ้ นดนิ โดยรากของหญา้ แฝกจะขยายออก ด้านขา้ งเปน็ วงเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางไมเ่ กิน 50 เซนตเิ มตรและจะแทงลงไป เปน็ แนวลกึ ใตด้ ิน 1-3 เมตรแล้วสาน กันเป็นแนวกำแพงดูดซับความชุ่มช้ืนให้แก่ผวิ ดิน ทฤษฎใี หม่

เป็นการสร้างแหล่งนำ้ ขนาดเล็กบนผิวดินในพน้ื ท่ีการเกษตรของเกษตรกรโดยแบ่ง ที่ดนิ สำหรบั ใช้ขุด เป็นสระเก็บน้ำให้สามารถใชท้ ำการเกษตรไดต้ ลอดปแี ละสามารถ เล้ยี งปลาไปพรอ้ มๆกนั นอกจากนีบ้ ริเวณ ขอบสระยังสามารถใชป้ ลกู พชื ผักสวนครัว ไดอ้ กี ด้วย โครงการแก้มลิง หลักการของโครงการ คือเมือ่ เกดิ น้ำท่วมกข็ ดุ คลองชักนำ้ ให้ไหลมารวมกนั เก็บไว้ ในแหล่งพักนำ้ แล้ว จงึ ค่อยทำการระบายลงสทู่ ะเลผา่ นทางประตูระบายนำ้ ในชว่ งที่ ปริมาณนำ้ ทะเลลดลง ขณะเดียวกันกส็ ามารถ สูบนำ้ ออกจากคลองทเี่ ป็นแกม้ ลงิ ลงสู่ ทะเลตลอดเวลาเพ่ือทีน่ ำ้ จากตอนบนจะไดไ้ หลลงมาไดเ้ ร่ือยๆและเม่อื ใด ก็ตามที่ ระดับน้ำทะเลขน้ึ สงู กวา่ ระดับน้ำในคลองท่ีเป็นแก้มลงิ ก็ให้ปดิ ประตูระบายน้ำกนั้ ไมใ่ หน้ ำ้ ทะเลไหล ยอ้ นกลบั เข้ามา การใช้นำ้ ดไี ลน่ ้ำเสยี

เปน็ การนำนำ้ คุณภาพดีจากแมน่ ้ำเจ้าพระยาส่งเข้าไปไลน่ ำ้ เสยี ตามคลองใน เขตกรุงเทพฯและ ปรมิ ณฑลได้แก่คลองบางเขน คลองบางซอื่ คลองแสนแสบ คลองเทเวศรแ์ ละ คลองบางลำภเู พอื่ ชว่ ยลด ปัญหา ความเนา่ เสยี ของนำ้ ในคลองตา่ งๆคลา้ ยกับ การ “ชักโครก”คอื ปดิ และเปิดนำ้ ใหไ้ ด้จงั หวะตามเวลาน้ำ ขน้ึ -น้ำลงหากนำ้ ขน้ึ สงู ก็เปดิ ประตูนำ้ ใหน้ ้ำดเี ขา้ ไปไล่น้ำเสยี คร้ันนำ้ ทะเลลงก็เปดิ ประตถู ่ายน้ำเสียออกจาก คลองไปดว้ ย กังหนั น้ำชัยพฒั นา กังหนั ชัยพัฒนา หรือ เคร่ืองกลเติมอากาศทีผ่ ิวน้ำหมุนชา้ แบบทนุ่ ลอย เป็นกงั หันน้ำเพอ่ื บำบัดน้ำเสีย ด้วยวธิ กี ารเตมิ อากาศ ทำงานโดย การหมุนปน่ั เพอ่ื เตมิ อากาศให้น้ำเสยี กลายเปน็ น้ำดี สามารถประยกุ ต์ใช้ บำบดั นำ้ เสยี จากการอปุ โภคของประชาชน นำ้ เสียจากโรงงานอุตสาหกรรม รวมท้ังเพิ่มออกซเิ จน ใหก้ ับบอ่ เพาะเลี้ยงสัตว์นำ้ ทางการเกษตร ใช้บำบดั นำ้ เสยี ท่ีเกิดจากชุมชนและอุตสาหกรรมลกั ษณะเปน็ เคร่ืองกลหมนุ ชา้ แบบทุ่นลอยเพ่อื ช่วยเติมออกซเิ จนทผ่ี วิ นำ้ การบำบัดน้ำเสยี โดยใชจ้ ลุ ินทรีย์ 2 วิธี วธิ ที ่ี 1 การใช้น้ำหมกั ชวี ภาพ โดยการใชน้ ้ำหมักชีวภาพปริมาณ 1 ต่อ 500 ส่วนราดลงทงั้ ในนำ้ ท้งิ จากครวั เรือน ตลาดสดฟารม์ ปศสุ ัตว์หรอื โรงงานอุตสาหกรรมเพ่อื ให้จุลนิ ทรยี ์ชว่ ยย่อยสลาย อนิ ทรียส์ ารใน แหล่ง น้ำนอกจากนีน้ ำ้ หมกั ชวี ภาพยังสามารถนำไปใช้ได้ดใี นการปรับสภาพนำ้ ในบ่อประมงทั้งบ่อเลย้ี งกงุ้ และ ปลาไดเ้ ปน็ อย่างดี วธิ ีท่ี 2 ลูกระเบดิ จุลินทรยี ์ เปน็ การบำบัดและฟืน้ ฟแู หลง่ น้ำใหด้ ขี น้ึ ดว้ ยจุลนิ ทรยี ์ เชน่ เดียวกับการใช้นำ้ หมักประกอบด้วยโคลนจากทอ้ งนำ้ 50กโิ ลกรัม,ร้า 10 กิโลกรมั ,ปุย๋ อินทรีย์เมด็ หรอื ผง 50 กิโลกรมั และน้ำหมักชีวภาพท่ีหมักจนไดท้ แ่ี ล้ว 3 เดอื นข้นึ ไปโดยนำทกุ อยา่ งมาผสมเข้าดว้ ยกันจนสามารถ

ป้ันเป็นกอ้ นขนาดเท่าลูกเปตองนำไปผึง่ ไวใ้ นท่รี ม่ จนแห้งสามารถนำไปบำบดั น้ำไดโ้ ดยใชใ้ นอัตราส่วน 5 กโิ ลกรมั ตอ่ น้ำ 1 ล้านลติ ร หรอื 25 กโิ ลกรัมตอ่ พ้นื ทีไ่ ร่ทั้งน้ขี ึ้นอยกู่ บั สภาพน้ำท่เี นา่ เสยี ในบรบิ ทของท้องถน่ิ น้ันปจั จบุ นั ไดม้ ีการน้อมนำแนวพระราชดำริดงั กล่าว มาปฏิบัติเพอื่ ใหเ้ ป็นไปตาม “แผนพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงท้องถ่นิ ในดา้ นการเกษตรและแหล่งน้ำ” (Local Sufficiency Economy Plan : LSEP) ประจำปงี บประมาณ พ.ศ.2560 ซ่ึงเปน็ ทางเดนิ ทถี่ กู ทางแล้ว เราชาว อปท. มาช่วยกนั นำ ทางการปฏบิ ตั ิทีเ่ ปน็ รูปธรรมกันหนอ่ ย




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook