Le 2

บทท่ี 2หลักการดาเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม



ความหมาย ความสาคญั ของธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมSMEs ย่อมาจากภาษาองั กฤษ Small and Medium Enterprisesหรือแปลเป็ นภาษาไทยว่า “วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม”

สาหรับความหมายของวสิ าหกจิ (Enterprises) ครอบคลมุกจิ การ 3 กล่มุ ใหญ่ ๆ ได้แก่1. กจิ การการผลติ (Production Sector) ครอบคลุมการผลิตในภาคเกษตรกรรม(Agricultural Processing) ภาคอุตสาหกรรม(Manufacturing) และเหมืองแร่ (Mining)2. กจิ การการค้า (Trading Sector) ครอบคลุมการคา้ ส่ง(Wholesale) และการคา้ ปลีก (Retail)3. กจิ การบริการ (Service Sector)

ขนาดของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมกาหนดจากมูลค่า ขัน้ สูงของสนิ ทรัพย์ถาวร สาหรับกิจการแต่ละประเภท ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

ขนาดของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมขนาดของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม กาหนดจากจานวนการจ้างงาน สาหรับกจิ การแต่ละประเภท ตามหลักเกณฑ์ ดงั นี้

ความสาคญั ของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม1. ช่วยการสร้างงาน2. สร้างมูลค่าเพม่ิ3. สร้างเงินตราต่างประเทศ4. ช่วยประหยดั เงินตราต่างประเทศ

ความสาคญั ของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม5. เป็ นจุดเร่ิมต้นในการลงทุน และสร้างเสริมประสบการณ์ ให้กบั ผู้ประกอบการ6. ช่วยเชื่อมโยงกบั กจิ กรรมขนาดใหญ่ และภาคการผลติ อนื่ ๆ7. เป็ นแหล่งพฒั นาทกั ษะฝี มือแรงงานให้มคี ุณภาพสูงขนึ้

หลกั การดาเนินธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม• การเลือกธุรกจิ• การรวบรวมข้อมูล• วเิ คราะห์ตลาด วเิ คราะห์ธุรกิจ

การเลอื กธุรกจิการเลือกธุรกจิ ในท่นี ีห้ มายถงึ ถ้าผู้ประกอบการมีความประสงค์ต้องการ จะเป็ นผู้ประกอบการหรือผู้จัดทาแผนธุรกจิ ยงั ไม่รู้ว่าจะทาธุรกจิ อะไรดหี รือจะเลือกธุรกจิ ใด ส่ิงแรกท่ตี ้องคดิ ก่อนเป็ นลาดบั แรก คอื จะเลือกธุรกจิ อะไรท่ีเหมาะสมกับตนเอง

การเลอื กธุรกจิส่งิ ท่สี าคญั เป็ นอย่างย่งิ กค็ ือ การเลือกธุรกิจถือเป็ นก้าวแรกท่จี ะตดั สินว่าผู้ประกอบการจะมีโอกาสประสบความสาเร็จหรือไม่ เพราะธุรกิจแต่ละชนิดหรือแต่ละประเภท จะมีลักษณะท่แี ตกต่างกนั อกไป มีจุดเด่นและจุดด้อยของธุรกิจท่แี ตกต่างกัน

การเลอื กธุรกจิขัน้ ตอนการเลือกธุรกจิ นี้ จะมีความสาคัญเป็ นอย่างมากเพราะการเลือกธุรกจิ ท่อี ยู่ในความต้องการของตลาด เป็ นธุรกจิ ใหม่หรือมีแนวคดิ ทางการตลาดใหม่ ๆ เป็ นธุรกิจท่ีเน้นความเป็ นนวตั กรรม ย่อมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขนั มากกว่าธุรกิจพนื้ ฐานโดยท่วั ไป

การเลอื กธุรกจิ โดยการเลอื กธุรกจิ ดังกล่าวนีต้ ้องเป็ นการเลอื กธุรกจิ ทดี่ ี (Choose agood business ซึ่งธุรกจิ ทด่ี นี ้ันหมายถึงเป็ นธุรกจิ ซึ่งเหมาะสมกบั ตัวผู้ประกอบการ

การเลอื กธุรกจิ ถ้าผู้ประกอบการ ยงั ไม่มแี นวทางหรือความคดิ เกย่ี วกบั ธุรกจิ อะไรท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง กอ็ าจใช้วธิ ีการดูตัวอย่างรูปแบบธุรกจิ หรือการดาเนินธุรกจิ จากแหล่งข้อมูลภายนอกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็ นการไปตลาดนัดงานแสดงสินค้า งานแสดงนิทรรศการ เป็ นต้น หรือการดูรายการทวี ี หรือรายการวทิ ยุทเ่ี กยี่ วกบั การประกอบธุรกจิ ตวั อย่างธุรกจิ ทปี่ ระสบความสาเร็จ การสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ หรือการศึกษาจากแหล่งข้อมูลเกยี่ วกบั ธุรกจิ SMEs

การรวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้อมูล หมายถงึ การเกบ็ คัดเลือก หรือรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ท่เี ป็ นข้อมูลพนื้ ฐาน ข้อมูลท่เี ก่ยี วข้องและเป็ นข้อมูลท่จี าเป็ นของธุรกจิ เอกสารหลักฐานสาคญัของธุรกิจเอกสารประกอบ สถติ ิ ข้อมูลอ้างองิ ต่าง ๆ

การรวบรวมข้อมูล โดยข้อมูลทตี่ ้องรวบรวมในข้นั ตอนนีส้ ามารถแบ่งได้เป็ น 2ประเภท คอื ข้อมูลภายใน (Internal data) และข้อมูลภายนอก(External Data)

การรวบรวมข้อมูล 1. ข้อมูลภายใน (Internal Data) เป็ นข้อมูลของธุรกจิ หรือเป็ นข้อมูลทเ่ี กดิ ขนึ้ ภายในตวั ของผู้ประกอบการธุรกจิเอง ข้อมูลประเภทนีไ้ ด้แก่ ข้อมูลหรือเอกสารพนื้ ฐานทจ่ี าเป็ นต้องมขี องธุรกจิ

การรวบรวมข้อมูล 2. ข้อมูลภายนอก (External Data) เป็ นข้อมูลจากแหล่งภายนอกธุรกจิ ทม่ี คี วามสัมพนั ธ์หรือมคี วามเกยี่ วข้องกบั ธุรกจิ ท้งั ทางตรงและทางอ้อม

วเิ คราะห์ตลาด วเิ คราะห์ธุรกจิ การวเิ คราะห์ตลาด วเิ คราะห์ธุรกจิ จะหมายถงึ การนาข้อมูลทไี่ ด้เกบ็ รวบรวม มาทาการวเิ คราะห์สภาพของตลาดโดยท่ัวไป และสภาพของธุรกจิ ทเ่ี ป็ นอยู่หรือทจ่ี ะเลอื กทาน้ันว่ามีสภาพเป็ นเช่นใด

วเิ คราะห์ตลาด วเิ คราะห์ธุรกจิข้นั ตอนการวเิ คราะห์จะแบ่งออกเป็ น 2 ส่วน คอื การวเิ คราะห์ตลาดซึ่งถอื เป็ นปัจจัยภายนอก และการวเิ คราะห์ธุรกจิ ซึ่งถือเป็ นปัจจยั ภายในซ่ึงมลี กั ษณะคล้ายคลงึ กบั การวเิ คราะห์ปัจจยัของธุรกจิ หรือสถานการณ์ของธุรกจิ ทมี่ กั เรียกกนั โดยทว่ั ไปว่าการวเิ คราะห์SWOT หรือ SWOT Analysis

Swot Analysis

ความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกบั การตลาดการตลาดในโลกธุรกิจยุคปัจจุบนั มีความสาคญั ย่งิ ธุรกิจหรือองค์กรทกุ แห่งต้องมีฝ่ ายการตลาดหรือฝ่ ายขาย ซ่งึ จะทาหน้าท่ใี นการวิเคราะห์หาโอกาสทางการตลาด วางแผนและปฏบิ ตั กิ ารหรือดาเนินงาน ด้านการตลาดเพ่อื เสนอสินค้าและบริการแก่ลูกค้า และตลาดเป้ าหมายของตนเอง

ส่วนประสมทางการตลาด” (Marketing Mixs)

องค์ประกอบของส่ วนประสมทางการตลาด Marketing Mix ได้แก่1. ผลติ ภัณฑ์ (Product)2. ราคา (Price)3. การจดั จาหน่าย (Place or Distribution)4. การสื่อสารการตลาด (Promotion)

ผลติ ภัณฑ์ (Product) ผลติ ภัณฑ์ (Product) หมายถงึ การนาสินค้า บริการบุคคล สถานท่ี หรือความคดิ ทเี่ ป็ นพนื้ ฐานขององค์กรเพอื่ นาเสนอให้แก่ผู้บริโภค หรือตลาดได้รู้จกั ซ่ึงประกอบด้วยตัวผลติ ภัณฑ์การบรรจุภณั ฑ์ ตราสินค้า การบริการ การรับประกนั เพอ่ื สนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ตลอดเวลา

ราคา (Price) ราคา (Price) หมายถงึ จานวนเงนิ ทใ่ี ช้ในการแลกเปลย่ี นเพอ่ื ให้ได้มาซ่ึงสินค้าแล้วราคายงั แสดงถึงคุณค่าโดยรวมทผ่ี ู้บริโภคยอมรับและยอมจ่ายเงินเพอื่ แลกเปลย่ี นกบั ผลประโยชน์ท่ีจะได้รับจากสินค้าหรือบริการน้ัน

การจัดจาหน่าย (Place or Distribution) การจดั จาหน่าย (Place or Distribution) หมายถึงกระบวนการเคลื่อนยา้ ยผลิตภณั ฑจ์ ากผผู้ ลิตไปยงั ผบู้ ริโภคหรือผใู้ ช้ ซ่ึงประกอบดว้ ยคนกลางและธุรกิจต่าง ๆ ทาหนา้ ที่อานวยความสะดวกระหวา่ งที่อยใู่ นช่องทางการจดั จาหน่าย

การส่ือสารการตลาด (Promotion) การส่ือสารการตลาด (Promotion) หรือการส่งเสริมการตลาด (Promotion) หรือในปัจจุบนั นิยมเรียกวา่ การส่ือสารการตลาด (Marketing Communication) ซ่ึงมีหลายวิธีในการส่ือสารไปยงั ผบู้ ริโภคเพือ่ ส่งเสริมการตลาด

การส่ือสารการตลาด (Promotion) ส่วนประสมการส่ือสารการตลาด(Marketing CommunicationMix) ประกอบดว้ ยเครื่องมือสาคญั 6 ประการดงั น้ี – การโฆษณา (Advertising) – การประชาสมั พนั ธ์ (Public Relations) – การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) – การขายโดยบุคคล (Personal Selling) – การตลาดทางตรง (Direct Marketing) – การจดั กิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing)

คุณสมบัตขิ ้นั ต่า7 ประการสาหรับ เถ้าแก่ใหม่1. ต้องเป็ นนักแสวงหาโอกาส 5. ต้องใฝ่ รู้เสมอ2. ต้องเป็ นนักเส่ียง 6. ต้องมวี สิ ัยทศั น์กว้างไกล3. ต้องมีความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ 7. ต้องมีเครือขายทดี่ ี4. ต้องไม่ท้อถอยง่าย

ปัญหาเกย่ี วกบั การประกอบธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมปัญหาเกย่ี วกบั การประกอบธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งพอสรุปได้8 ประการใหญ่ๆดงั นี้ 1. การขาดซึ่งจติ วญิ ญาณของการเป็ นผู้ประกอบการ 2. การจดั การและการบริหารไม่มีประสิทธิภาพ 3. การขาดบุคลากรหรือผู้เชี่ยวชาญ 4. การขาดแรงงานทมี่ ีฝี มอื 5. ต้นทุนการผลติ สูง 6. การแข่งขนั สูง 7. ประสิทธิภาพและประสิทธิผลตา่ 8. ปัญหาของระบบราชการ