ปลาทองมาตรฐานสายพนั ธุและเกณฑการตดั สนิ ในประเทศไทย (ฉบับปรบั ปรงุ ป พ.ศ.2558) Goldfish variety standards and judging criteria in Thailand สถาบันวจิ ยั สัตวน ํ้าสวยงามและพรรณไมน ํา้ กองวจิ ยั และพัฒนาประมงน้าํ จืด กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ
ปลาทองมาตรฐานสายพนั ธุแ ละเกณฑก ารตดั สิน ในประเทศไทย Goldfish variety standards and judging criteria in Thailand (ฉบบั ปรับปรุง ป พ.ศ.2558) สถาบันวจิ ัยสัตวน ํา้ สวยงามและพรรณไมนํา้ กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ําจืด กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ
มาตรฐานสายพันธุและเกณฑก ารตดั สนิ ปลาทอง ในประเทศไทย (ฉบบั ปรบั ปรงุ ป พ.ศ.2558) Goldfish variety standards and judging criteria in Thailand ท่ปี รึกษา ดร.จอู ะดี พงศมณีรตั น รองอธบิ ดีกรมประมง ดร.อมรรัตน เสรมิ วฒั นากลุ ผเู ช่ียวชาญดานสัตวน ํ้าและพรรณไมนํ้าสวยงาม นายนพดล ภูวพานิช ผอู าํ นวยการกองวจิ ยั และพัฒนาประมงน้ําจดื กรมประมง นายวีระ วัชระกรโยธนิ ผูอ าํ นวยการสถาบนั วิจยั สตั วนํ้าสวยงามและพรรณไมน้ํา เรยี บเรียงโดย นางอรุณี รอดลอย ภาพประกอบโดย นางอรณุ ี รอดลอย นติ ยสาร Fish Max คณะผจู ดั ทํา สถาบนั วิจัยสตั วน ํ้าสวยงามและพรรณไมน า้ํ กองวจิ ยั และพัฒนาประมงน้าํ จดื กรมประมง ชมรมผนู ิยมปลาสวยงามแหง ประเทศไทย กลมุ ผเู ลี้ยงปลาทอง รายช่ือผูเขา รว มประชุมมาตรฐานสายพนั ธุแ ละเกณฑการตัดสนิ ปลาทอง ในประเทศไทย กรมประมง นางวันเพ็ญ มนี กาญจน นายสจุ ินต หนูขวญั นายวรี ะ วัชระกรโยธนิ นางอรุณี รอดลอย นางสาวกฤษณา เตบสัน นางสาววรรณดา พพิ ัฒนเจริญชยั นางสาวญานทั แสงช่นื นางสาวสรุ งั สี ทพั พะรงั สี ชมรมผนู ิยมปลาสวยงามแหง ประเทศไทย นายวฑิ ูรย เทียนรงุ ศรี กลมุ ผูเล้ียงปลาทอง นายวิฑูรย เทียนรุงศรี นายอนสุ ร อดเิ รกกติ ติคณุ นายสุรชยั ศรวี ฒั นา นายประวิทย โลหอ รชนุ นายสิริวฒั น ศุภกิจโยธนิ นายจุลสวัสดิ์ อนกุ ลุ นายพเิ ชษฐ ทรวงสุรัตน นายธานินทร สังขฉ ิม นายภาณุวฒั น จนั ทวงษว าณชิ ย นายศิริชยั เตยี วเจรญิ นายสุรชยั สะอาดดวงกมล นางนรียา แกว จนิ ดา นายสมโชค นันทวริ ิยะ นายศภุ ชยั มติ รอุดม นายยรรยง อดุ มแสวงโชค นายเจษฎา จติ รขาว นายเรกณ อภชิ าตวิ รพงษ นายสาธติ สนุ ทร นายอาํ นาจ แพงโสม นายจกั รกฤษณ การุณงามพรรณ นายสทิ ธิวฒุ ิ มหาโชติ นายบรรพต เปรมวงศิริ นายสมหมาย ฟก ออน นายประพล อนุเคราะหดิลก นายณัฐพงษ แกว สุนทร นางสาวนงนภสั ศรสี งคราม นายสิทธินติ ิ หอกุล นายกติ ตพิ ล ฟกประไพ นายไพโรจน เถยี มมิตรภาพ ปท ีจ่ ดั พมิ พ พ.ศ.2558 จาํ นวน 2,000 เลม ISBN 978-616-358-124-2 ออกแบบ/พมิ พท ี่ หจก.วนิดาการพมิ พ (สาขาท่ี 1) จ.นนทบุรี โทร. 081-7838569
¤íÒ¹Òí ปลาทองเปนปลาสวยงามท่ีนิยมเล้ียงกันแพรหลายต้ังแตอดีตจนถึงปจจุบัน เปนปลาสวยงามท่ีมีมูลคาการสงออกในอันดับตนๆ ในปจจุบันไดมีการพัฒนา สายพนั ธปุ ลาทองใหส วยงามมมี าตรฐาน และมคี วามหลากหลายของสายพนั ธมุ ากขนึ้ จนไดร ับการยอมรับจากผูค า ในตา งประเทศ ในการจดั การประกวดปลาทองในประเทศไทย บางครงั้ เกดิ ปญ หาในมาตรฐาน การตัดสินของคณะกรรมการ ดังนั้น สถาบันวิจัยสัตวน้ําสวยงามและพรรณไมน้ํา กรมประมง จึงไดเชิญผูที่เก่ียวของเขามาประชุม เพ่ือทําการปรับปรุงและแกไข มาตรฐานสายพนั ธแุ ละหลกั เกณฑก ารตดั สนิ การประกวดปลาทอง โดยมจี ดุ มงุ หมาย เพ่ือยกระดับการพัฒนาสายพันธุใหมีความสวยงามตามมาตรฐาน สอดคลองกับ ความตองการของผูคาและผูซ้ือจากตางประเทศ เปนการสงเสริมธุรกิจปลาสวยงาม ของไทยใหเทียบเทา มาตรฐานสากล หนังสือเลมนี้จัดทําขึ้นโดย สถาบันวิจัยสัตวนํ้าสวยงามและพรรณไมนํ้า กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ําจืด ซึ่งไดรับความรวมมือจากคณะกรรมการตัดสิน การประกวด ชมรมผูนิยมปลาสวยงามแหงประเทศไทย ผูเพาะเล้ียงปลาทอง ผสู ง ปลาประกวด ภาคเอกชน ซงึ่ ทกุ ภาคสว นไดร ว มแสดงความคดิ เหน็ อยา งกวา งขวาง ในการปรับปรุงและแกไขเกณฑการตัดสินการประกวดปลาทองของเดิม ที่กรมประมงไดจัดพิมพข้ึนและใชมาจนถึงปจจุบัน โดยมีวัตถุประสงคเพ่ือใชเปน เกณฑมาตรฐานในการตัดสินการประกวดปลาทอง และเผยแพรความรูแกผูสนใจ การประกวดปลาสวยงาม เน้ือหาสว นใหญเนนเร่ืองมาตรฐานสายพันธุ ลกั ษณะเดน ของแตล ะสายพนั ธุ และเกณฑก ารพจิ ารณาใหค ะแนนปลาทองสายพนั ธตุ า งๆ ทน่ี ยิ ม ประกวดกันในประเทศไทย นอกจากน้ี ยังไดรวบรวมขอมูลและภาพประกอบ จากหนงั สอื และตาํ ราตา งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ งเพม่ิ เตมิ เพอื่ ใหม สี าระถกู ตอ งและสมบรู ณย งิ่ ขน้ึ ท้ังนี้ กรมประมงหวังวา หนังสือเลมน้ีจะเปนประโยชนและสามารถนําไปใชเปน เกณฑม าตรฐานในการตดั สนิ การประกวดปลาทอง ในโอกาสตอไป (นายนพดล ภูวพานชิ ) ผอู าํ นวยการกองวจิ ัยและพัฒนาประมงน้ําจดื กรมประมง กนั ยายน 2558
ÊÒúÑÞ º·¹íÒ... 01 ·èÁÕ Ò¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸μØ Ò‹ §æ... 02 Å¡Ñ É³Ð¢Í§»Åҷͧ... 06 »Åҷͧ·èÕ¹ÂÔ Á¨´Ñ »ÃСǴ㹻ÃÐà·Èä·Â... 13 ࡳ±¡ÒÃμÑ´ÊÔ¹¡ÒûÃСǴ»Åҷͧ㹻ÃÐà·Èä·Â... 24 ¡ÒèѴ»ÃÐàÀ·¡ÒûÃСǴ»Åҷͧ㹻˜¨¨ØºÑ¹... 43 àÍ¡ÊÒÃ͌ҧÍÔ§... 58 ÊÒúÞÑ ÀÒ¾........................................................................ ÀÒ¾·Õè 1 á¼¹¼Ñ§¤ÇÒÁÊÁÑ ¾¹Ñ ¸¢Í§¡ÒäѴàÅ×Í¡»Åҷͧ... 05 ÀÒ¾·Õè 2 ÅѡɳÐÃÙ»ÃÒ‹ §áÅÐâ¤Ã§ÊÌҧ¾×é¹°Ò¹¢Í§»Åҷͧ... 07 ÀÒ¾·èÕ 3 Å¡Ñ É³ÐʋǹËÇÑ áÅÐÅíÒμÑǢͧ»Åҷͧ... 08 ÀÒ¾·Õè 4 Å¡Ñ É³ÐμÒáÅШÁÙ¡»Åҷͧ¾¹Ñ ¸μØ ‹Ò§æ... 09 ÀÒ¾·Õè 5 ÅѡɳТͧ¤ÃºÕ ËÅ§Ñ ¤ÃÕºËÒ§ áÅФÃÕº¡Œ¹... 11 ÀÒ¾·Õè 6 ÅѡɳТͧà¡Åç´»Åҷͧ... 12 ÀÒ¾·èÕ 7 Å¡Ñ É³Ð»ÅÒ·èÕäÁ‹ÊÁºÃÙ ³... 26 ÀÒ¾·Õè 8 ÃÇÁÀÒ¾»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸ØμÒ‹ §æ... 44
ÊÒúÑÞμÒÃÒ§....................................................... μÒÃÒ§·èÕ 1 ÅѡɳÐà´‹¹¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸Ø ËÇÑ ÊÔ§Ë (Lionhead)... 28 μÒÃÒ§·èÕ 2 ¤Ðá¹¹ÊÒí ËÃѺ»ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸ËØ ÑÇÊ§Ô Ë... 30 μÒÃÒ§·èÕ 3 Å¡Ñ É³Ðà´‹¹¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸Ø ÍÍÃ¹Ñ ´Ò (Oranda)... 32 μÒÃÒ§·Õè 4 ¤Ðá¹¹ÊÒí ËÃºÑ »ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸ØÍ ÍÃѹ´Ò... 34 μÒÃÒ§·Õè 5 Å¡Ñ É³Ðà´‹¹¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸Ø ÃÇÔ ¤¹Ô (Ryukin) ÊÕÊŒÁáÅТÒÇ-á´§... 35 μÒÃÒ§·Õè 6 Å¡Ñ É³Ðà´‹¹¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸Ø ÃÔǤ¹Ô ËÒŒ ÊÕ (Calico)... 36 μÒÃÒ§·Õè 7 ¤Ðá¹¹ÊÒí ËÃѺ»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø ÃÇÔ ¤¹Ô ÊÕÊÁŒ áÅТÒÇ-á´§... 37 μÒÃÒ§·Õè 8 ¤Ðá¹¹ÊíÒËÃѺ»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸ÃØ ÇÔ ¤Ô¹ËŒÒÊÕ... 37 μÒÃÒ§·èÕ 9 ÅѡɳÐà´‹¹¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø μÒ⻹ (Telescope eyes goldfish) ËÃÍ× àÅË‹ (Black Moor)... 38 μÒÃÒ§·èÕ 10 ¤Ðá¹¹ÊíÒËÃºÑ »ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø μÒ⻹ ËÃÍ× àÅ‹Ë... 40 μÒÃÒ§·Õè 11 Å¡Ñ É³Ðà´¹‹ ¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø à¡Åç´á¡ÇŒ (Pearl scale goldfish)... 41 μÒÃÒ§·Õè 12 ¤Ðá¹¹ÊíÒËÃºÑ »ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Øà¡Åç´á¡ŒÇ... 42
º·¹íÒ ปลาทองจัดวาเปนปลาสวยงามชนิดแรกท่ีมนุษยนํามาเล้ียง โดยมีถ่ินกําเนิดดั้งเดิมอยูในประเทศจีน จากหลักฐานที่ปรากฏ ไมต า่ํ กวา 2,000 ป คอื รปู สลกั ปลาทองหลากหลายสวี า ยรวมกนั อยใู นบอ ซึ่งชาวจีนนิยมเรียกวา กิมลี่ ตอมาไดมีการนํามาเผยแพร เล้ียง และ เกดิ การพฒั นาสายพนั ธใุ หม คี วามสวยงามและหลากหลายในประเทศญปี่ นุ ซงึ่ ชาวญปี่ นุ นยิ มเรยี กวา คนิ กอย สาํ หรบั ประเทศไทยไดม กี ารสนั นษิ ฐานวา ไดน าํ มาเลยี้ งในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาตอนกลาง โดยนาํ เขา มาจากประเทศจนี เพ่ือเปนของบรรณาการในราชสํานัก เนื่องจากสมัยน้ันประเทศไทย ไดมีการคาขายติดตอกันทางเรือสําเภากับประเทศจีน ซ่ึงในปจจุบัน คนไทยนิยมเรียกกนั ตดิ ปากวา ปลาเงินปลาทอง หรือ ปลาทอง ปลาทอง (Goldfish) จัดเปนปลาน้ําจืด ที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Carassius auratus Linn. และอยูใ นครอบครัว (Family) Cyprinidae ซ่ึงเปนครอบครัวเดียวกับปลาไน จากการศึกษาชีวประวัติปลาชนิดนี้ พบวาปลาทองเกิดจากการผาเหลามาจากปลาไน (Crucian carp) ปจจุบันผูเพาะเล้ียงไดคัดพันธุปลาทองที่มีลักษณะดีและสีสวยงาม ไดมากมายหลายสายพันธุดวยกัน ซึ่งเปนท่ีนิยมอยางแพรหลายใน ตลาดปลาสวยงาม สายพันธุท่ีสําคัญ ไดแก พันธุหัวสิงห (Lion head) ออรนั ดา (Oranda) รวิ คนิ (Ryukin) ตาโปน (Telescope eyes goldfish) หรือเลห (Black Moor) ตาลูกโปง (Bubble eyes goldfish) เกลด็ แกว (Pearl scale goldfish) ชูบุนคนิ (Shubunkin) และปลาทอง หางซิวหรอื โคเมท็ (Comet) เปนตน 1
ࡳ±¡ÒÃμ´Ñ Ê¹Ô ¡ÒûÃСǴ»Åҷͧ ในปจจุบันผูเลี้ยงปลาสวยงามนิยมเล้ียงปลาทองเปนปลาตูกัน อยางกวางขวาง เนื่องจากปลาทองเปนปลาสวยงามที่มีความหลากหลาย ในสายพันธุ มีสีสันสดใสและหลากสี ตั้งแตสีแดง สีขาว สีทอง สีสม สีเทา สีดํา และสารพัดสีในตัวเดียวกัน จึงมีการจัดประกวดแขงขันปลาทอง เร่ือยมาจนมาถึงปจจุบัน โดยมีการรางหลักเกณฑการตัดสินการประกวด ปลาทองเปนมาตรฐานขึ้นมา กอนที่จะไดศึกษาเกี่ยวกับเกณฑในการตัดสิน การประกวดปลาทองนั้น เราควรศึกษาที่มาและลักษณะของปลาทอง สายพันธตุ า งๆ รวมทง้ั สายพันธทุ ีน่ ยิ มจดั ประกวดในประเทศไทยกนั กอ น ·èÁÕ Ò¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸μØ ‹Ò§æ ในธรรมชาติ หากพบวาสิ่งมีชีวิตท่ีเกิดใหม (ลูก) อาจจะมีลักษณะที่ แตกตา งไปจากพอ แม ซงึ่ เรยี กลกั ษณะนวี้ า การกลายพนั ธุ เชน ลกู ปลาทเ่ี กดิ ใหม มสี ีขาวเผอื กซ่งึ เปน ลักษณะสีทีแ่ ตกตา งไปจากพอ แมปลาทม่ี ีสีดาํ ทาํ ใหไดป ลา สายพนั ธใุ หม โดยเปน ผลจากการผสมไขว (Cross-breeding) และการถา ยทอด ทางกรรมพันธุ ทั้งนี้ปลาทองยังมีความแตกตางระหวางสายพันธุที่เกิดจาก การผสมขามชนิด (Hybridization) และผูเพาะพันธุปลาทองก็คัดเลือกพันธุ ตามความนยิ มและความชอบ จงึ มกี ารผลติ ปลาทองออกมาหลากหลายสายพนั ธุ 2
จากภาพท่ี 1 แสดงความสัมพันธของปลาทองที่คัดเลือกพันธุในญี่ปุน โดยบางสายพันธุเปนช่ือไทยและบางสายพันธุเปนชื่อญี่ปุน ซ่ึงก็มีความคุนเคย กับคนไทย เนื่องจากมีการนํามาเล้ียงและเพาะพันธุในประเทศไทย สวนบาง สายพันธุที่ไมไดนําเขามาเล้ียงในประเทศไทยจึงใชเปนช่ือภาษาญี่ปุน อยาง สายพันธุแรกเริ่มจากปลาฟุนะ (Funa) มีรูปรางคลายปลาไน เมื่อปลาฟุนะ กลายพันธุจะไดปลาท่ีลําตัวมีสีแดง เรียกวา ปลาฮิฟุนะ (Hifuna) หรือ ปลาคารปสีแดง ซึ่งเมื่อเลี้ยงตอไปก็มีการกลายพันธุอีกเปนปลาฮิฟุนะท่ีมีหาง แยกเปนดอก จึงไดทําการแยกชนิดน้ีมาเลี้ยงคงสภาพไวจนถึงปจจุบันและ เรยี กปลาชนดิ นว้ี า วะคิน (Wakin) หลังจากน้ันปลาวะคินที่มีครีบหางยาวก็ถูกเพาะพันธุข้ึนมาและเรียก ปลาสายพันธุน้ีวา ปลาริวคิน หรือริวก้ิน (Ryukin) สวนปลาที่มีตาโปน ออกมานอกเบา เรียกวา อะคาเดะเมะคิน (Akademekin) หรือปลาตาโปน สีแดง และปลาที่ไมมีครีบหลังถูกเรียกวา ปลามารุโคะ (Maruko) ซ่ึงปลา สายพนั ธุตา งๆ ดงั ทก่ี ลา วมาลว นเปนปลาทก่ี ลายพันธมุ าจากปลาวะคิน นอกจากน้ียังมีปลาที่เพาะพันธุไดจากปลาริวคิน คือ ปลาที่มีหัววุน ซง่ึ เรยี กวา ออรนั ดาชชิ กิ ะชริ ะ (Orandashishigashira) หรอื ออรนั ดาหวั วนุ และ ปลาที่มีครีบหางเหมือนหางนกยูง คือ ปลาโตซาคิน (Tosakin) ในสวน ปลาท่ีเพาะพันธุไดจากปลาอะคาเดะเมะคิน (Akademekin) (ตาโปนสีแดง) คอื ปลาคโุ รเดะเมะคิน (Kurodemekin) หรือเลห และปลาซันโชคเุ ดะเมะคิน (Sanshokudemekin) หรอื ปลาตาโปนสามสี ในสว นของปลามารโุ คะ (Maruko) สามารถเพาะขยายพนั ธไุ ดป ลานนั คนิ (Nankin) โอซากา รนั ชู (Oosakaranchu) และปลารันชู (Ranchu) หรือปลาหวั สิงหญ ี่ปุน อีกดานหน่ึงน้ันลูกพันธุท่ีคงสายพันธุเดิมไว ไดมีการเพาะพันธุลูกผสม (Hybridization) ซึ่งเรียกวา พันธุลูกผสม (Hybridization) เชน ปลาวะคิน x ปลาซนั โชคุเดะเมะคิน (ตาโปนสามสี) จะไดปลาชูบุนคนิ (Shubunkin) และ การผสมของปลาซนั โชคเุ ดะเมะคนิ x ปลาออรนั ดาชชิ กิ ะชริ ะ (ออรนั ดาหวั วนุ ) 3
จะไดเ ปน ปลาอะซมุ านชิ กิ ิ (Azumanishiki) ปลาอะซุมานิชิกิ x ปลารันชู จะไดเปน ปลาเอโดะนชิ กิ ิ (Edonishiki) อยา งไรกต็ าม ในปจ จบุ นั นปี้ ลาทอง มกี ารผสมขา มสายพนั ธกุ นั อยา งหลากหลาย ดังนั้นการที่จะไดปลาทองท่ีมีรูปรางสวย สงางาม เหมือนบรรพบุรุษ (ปลาฟุนะ) ซึ่งเปนสายพันธุที่ดีน้ันคงทําไดยาก โดย ในภาพที่ 1 ไดแสดงแผนผังสายพันธุ ถือวาเปนท่ีมาของสายพันธุปลาทอง ในปจจุบนั นี้ 4
ภาพที่ 1 แผนผังความสัมพันธข องการคดั เลือกปลาทอง โชเตนกัน (Chotengan) ซนั โชคุเดะเมะคิน (Sanchokudemekin) ชบู นุ คิน (Shubunkin) หรอื สิงหต ากลบั หรอื ตาโปนสามสี วะโตอนุ ะอิ (Watounai) คุโรเดะเมะคิน (Kurodemekin) อะซุมานชิ ิกิ (Azumanishiki) หรอื เลห จิคิน (Jikin) อะคาเดะเมะคิน (Akademekin) ออรันดาชชิ ิกะชริ ะ (ออรนั ดาหัววุน ) คิยาริโกะ (Kyariko) ตาโปนสแี ดง (Orandashishigashira) หรือรวิ คนิ หาสี ฟุนะ (Funa) ฮิฟนุ ะ (Hifuna) วะคนิ (Wakin) รวิ คิน (Ryukin) โตซาคิน (Tosakin) ชูคิน (Chukin) เตกเกยี ว (Teggyo) มารโุ คะ (Maruko) คนิ รนั ชิ (Kinranshi) เทซึโอนะกะ (Tetsuonaka) เอโดะนชิ กิ ิ (Edonishiki) 5 นันคิน (Nankin) โอซาการนั ชู (Oosakaranchu) รนั ชู (Ranchu) หรือสิงหญี่ปนุ
GOLDFISH Å¡Ñ É³Ð¢Í§»Åҷͧ ลักษณะของปลาทองที่จะกลาวถึงนี้ จัดเปนลักษณะของปลาทอง ท่ีนิยมเล้ียงกันในประเทศญ่ีปุน จึงใชช่ือสวนใหญของปลาเปนชื่อภาษาญี่ปุน มรี ายละเอยี ดดังตอ ไปนี้ ÅѡɳÐÃÙ»ÃÒ‹ § รูปรางของปลาทองมีหลายแบบซ่ึงสามารถจัดเปนกลุม 3 กลุมใหญๆ คอื 1. ลักษณะแบบปลาวะคิน (Wakin) มีลักษณะเหมือนปลาไนหรือ ฟนุ ะ (Crucian carp) ซึง่ ไดแก ชูบุนคิน โคเม็ท ยามากาเตะ และจิคิน เปนตน 2. ลักษณะแบบปลาริวคิน (Ryukin) มีลักษณะลําตัวทรงกระบอก กลม และพองตัว สวนครีบทุกครีบยาว โดยเฉพาะครีบหางพล้ิวและสวยงาม จัดเปนลกั ษณะเดน ซง่ึ ไดแ ก คิยารโิ กะ เดะเมะคนิ อะซุมานิชกิ ิ โตซาคิน และ ออรนั ดาชิชิกะชิระ เปน ตน 3. ลกั ษณะแบบปลารันชู (Ranchu) มลี ักษณะเดนคอื ไมมคี รบี หลัง และมลี ักษณะลําตวั อว นปอ ม ซ่งึ ไดแ ก รันชู นันคนิ เอโดะนิชิกิ และโชเตนกัน เปน ตน อยางไรก็ตามลักษณะรูปรางของปลาทองซ่ึงดูแตกตางกัน แตโดย โครงสรา งพน้ื ฐานของปลาทองนน้ั ไมแ ตกตา งกนั ดังภาพที่ 2 6
เสนขา งตวั ครบี หลัง โคนหาง วนุ รูจมูก ครีบหาง กระพงุ แกม ครบี กน ครบี อก ครบี ทวาร ครบี ทอ ง ภาพท่ี 2 ลกั ษณะรปู รา งและโครงสรา งพื้นฐานของปลาทอง Å¡Ñ É³Ð¢Í§ÊÇ‹ ¹ËÑÇ บริเวณสวนหัวของปลาทองสวนใหญจะมีผิวท่ีลื่น ในบางชนิดอาจจะมี กอนเนื้อที่มีลักษณะเปนเม็ดกลมเล็กๆ รวมตัวซอนกันอยูดูคลายฟองสบู โดยเม็ดกลมๆ ดังกลาวนี้ประกอบดวยชั้นไขมันหนาและจะปรากฏใหเห็น ชัดเจนเม่ือปลาทองอายุมากขึ้น ซึ่งบานเราเรียกช้ันไขมันนี้วา “วุน” สวน ปลาทองทมี่ ลี กั ษณะน้ี ไดแก ปลาทองรันชหู รอื หัวสิงหญป่ี นุ อะซมุ านชิ ิกิ และ ออรันดาชิชิกะชิระหรือออรันดาหัววุน เปนตน นอกจากนี้ปลาทองพันธุ หัวสิงหมักจะมีวุนเปนกอนใหญพาดเปนวงรอบปาก เรียกวา “เข้ียว” ในปลา กลุมน้ีนอกจากจะมีลักษณะของวุนแลว เราจะใหความสําคัญกับลักษณะ ที่สวยงามของลําตัวปลาเชนกัน แตลักษณะวุนจะไมพบในกลุมลักษณะ แบบปลาวะคินและริวคิน ซึ่งสามารถแบงลักษณะของสวนหัวปลาทองโดย พจิ ารณาจากดานบน (Top view) แบงเปน 3 ลกั ษณะ ไดแ ก 7
1. ลกั ษณะคลา ยเรอื เชน ปลาฟนุ ะ วะคิน และริวคนิ 2. ลักษณะกลมเลก็ นอย เชน ปลาอะซมุ านชิ ิกิ และออรันดาชิชิกะชริ ะ 3. ลกั ษณะทรงกลมแบบครง่ึ เหรยี ญ เชน ปลารันชู ภาพที่ 3 ลกั ษณะสวนหวั และลาํ ตัวของปลาทอง ÅѡɳТͧμÒ ตาของปลาทองสามารถแบง เปน 4 ลักษณะ ไดแก 1. ลักษณะคลายปลาฟนุ ะ เชน วะคิน และรวิ คนิ 2. ลกั ษณะโปนออกมา เชน เดะเมะคิน 3. ลกั ษณะตาใกลก นั ติดอยูบ รเิ วณสว นหัวดานบน เชน โชเตนกัน 4. ลักษณะตาทีม่ ขี อบตาใหญอ ว น มองดูเหมอื นมีถุงน้ําติดอยูดานลา ง เชน ซอุ ิโฮกนั 8
ปลาทองแตล ะชนดิ จะมลี กั ษณะของตาทพ่ี เิ ศษแตกตา งกนั ไป อยา งเชน ปลาโชเตนกัน และปลาซุอิโฮกันน้ัน จะดูเหมือนวามองไมคอยเห็นภาพทาง ดานหนา แตก็สามารถวายนํ้าไดถูกทิศทาง และสามารถกินอาหารไดอยาง ปกติ ÅѡɳТͧ¨ÁÙ¡ จมกู ของปลาทองสามารถแบง เปน 2 แบบ ไดแก 1. แบบธรรมดาอยูทส่ี วนหวั ดา นหนา ซึง่ ใชใ นการดมกลิน่ หาอาหาร 2. แบบจมกู ทบเปน ชอ โดยทขี่ อบของจมกู จะเปน ผวิ หนงั ทม่ี ลี กั ษณะนมุ ซึ่งแยกออกเปนสวนเล็กๆ ทบไปมาเปนชอจมูกใหญ ปลาชนิดนี้นําเขามาจาก ประเทศจีน บางทีมีชอจมูกใหญจนยอยลงมาปกคลุมเขาไปในปาก เวลา ปลาวา ยนํ้ากจ็ ะงับเคย้ี วจมูกตวั เอง (ดตู ลกดี) เชน ปลาฮะนะฟซุ ะ (Hanafusa) หรือชาวญ่ปี นุ นิยมเรียกวา ปอมปอม (Pompom) ดังภาพที่ 4 ภาพท่ี 4 ลักษณะตาและจมกู ปลาทองพันธุตา งๆ 9
Å¡Ñ É³Ð¢Í§¤ÃºÕ ครีบจัดเปนอวัยวะท่ีสําคัญสําหรับปลา เพราะทําใหปลาวายนํ้าได สามารถแบงครบี ในแตล ะสวน ดังภาพที่ 5 ไดดังนี้ ครบี หลงั ปลาทองสามารถแบงประเภทไดตามลักษณะของครีบหลัง ซึ่งแบงเปน 3 ประเภท ไดแก 1. ครีบหลังอยูบริเวณกลางลําตัว และมีลักษณะแบบเสากระโดงเรือ ยดื ออกมา เชน ปลาฟุนะ 2. ไมม คี รีบหลงั เชน ปลารนั ชู โชเตนกัน และซุอโิ ฮกัน 3. ครีบหลงั ยาว เชน ปลารวิ คนิ ออรนั ดาชชิ กิ ะชริ ะ และอะซมุ านชิ กิ ิ ครีบหาง ครีบหางน้ันสามารถกลาวไดวาเปนสวนที่สําคัญที่สุด เพราะสามารถ สรา งความประทับใจอยา งมากแกผูท่ไี ดพ บเหน็ อยา งไรกต็ ามเพยี งแคส วนหาง สวนเดียวก็มีการเพาะพันธุปลาที่มีรูปแบบครีบหางที่แตกตางกันถึง 6 แบบ ไดแก 1. ครบี หางแบบบรรพบุรุษ (ปลาฟนุ ะ) 2. ครบี หางยาว (หางซาบะ) เชน ปลาโคเม็ท และชบู ุนคนิ 3. ครีบหางเปน 3 แฉก 4. ครบี หางเปนดอกซากุระ (ครบี หางเปดออก 4 แฉก) 5. ครีบหางเหมือนหางนกยูง (ครีบหางนกยูงมี 4 แฉก แผพลิ้ว เชน ปลาจคิ นิ ) 6. ครีบหางกลับ คือ ครีบหางทางดานซายและดานขวาท่ีอยูสวนบน กลับลงมาอยูด านลาง 10
อีกท้ังความยาวของหางปลาทองนั้นควรจะยาวออกดานซายและ ดานขวาเทากัน และดูสมดุล ฉะนั้นการตัดสินจะเลือกปลาทองเฉพาะหาง ทม่ี คี วามสมบรู ณเทานนั้ ครบี กน ปลาทองปกตจิ ะมคี รบี กน 1 ครบี แตบ างสายพนั ธมุ คี รบี กน 2 ครบี และ เปนรปู ตวั วี (V) สามารถแบงเปน 4 แบบ ไดแก 1. ครบี กน 1 ครีบ 2. ครบี กนรปู ตวั วี (V) แฉกปลาย 3. ครบี กน รปู ตัววี (V) หางยาว 4. ครีบกน 2 ครบี ขนานกนั ภาพท่ี 5 ลกั ษณะของครีบหลัง ครีบหาง และครบี กน 11
ทงั้ นส้ี ายพนั ธทุ ค่ี รบี กน มี 2 ครบี และมลี กั ษณะเปน รปู ตวั วี (V) ซงึ่ ขนาน คูกันจะจดั วาเปน สายพนั ธุท่ีมรี าคาสงู ราคาดี ครีบอก และครบี ทอ ง มีทั้งดานซายและดานขวา ดานละ 1 ครีบ ทําใหปลาวายนํ้าไป ขา งหนา ได Å¡Ñ É³Ð¢Í§à¡Åç´»ÅÒ เกล็ดปลามีลักษณะคลายกระเบื้องมุงหลังคาซอนกันอยูที่ผิวหนัง ของตวั ปลา อยางปลาท่ไี มมีครีบหลัง เชน ปลารันชหู รอื ปลาหวั สงิ ห จะมเี กล็ด เรียงเปนระเบียบบริเวณหลังซึ่งถือวาเปนจุดท่ีมีความสวยงาม สวนของ ปลาจิคินน้ัน ถาเกล็ดหลุดออก ผิวหนังของตัวปลาจะเตรียม สรางเกล็ดใหม ซ่ึงคอนขางจะไมเปนระเบียบ ลกั ษณะเกลด็ ทดี่ คี อื สว นตรงกลางของเกลด็ จะมีลักษณะเปนมันวาว เกล็ดท่ีดูดีนั้น เรยี งเปน แนวคลายตาขาย และ แ น ว เ ส น เ ก ล็ ด ป ล า น้ั น สามารถตรวจอายุของ ปลาได ภาพที่ 6 ลกั ษณะของเกล็ดปลาทอง 12
»Åҷͧ GOLDFISH ·Õ¹è ÔÂÁ¨Ñ´»ÃСǴ㹻ÃÐà·Èä·Â ปลาทองเปนปลาที่มีความหมายลํ้าคาแกผูท่ีไดครอบครอง และยังเปน ปลาท่ีมีผูนิยมเลี้ยง และเพาะขยายพันธุกันมาชานาน ทั้งสายพันธุที่สามารถ เพาะไดในประเทศไทยและตางประเทศ อยางเชน ประเทศจีน ประเทศญี่ปุน เปน ตน ทาํ ใหป ลาทองทพ่ี บในปจ จบุ นั จงึ มหี ลายสายพนั ธุ แตใ นการจดั ประกวด ปลาทองนั้น พบวาปลาทองท่ีนิยมจัดประกวดในประเทศ มีสายพันธุและ จัดแบง เปน ประเภทตางๆ ดังตอ ไปน้ี 1 ปลาทองหัวสงิ หญ ปี่ นุ (Ranchu) ป ล า ท อ ง หั ว สิ ง ห ญี่ ปุ น จัดเปนปลาทองหัวสิงหที่ไดรับ ความนิยมแพรหลายมากท่ีสุด เนื่องจากมีรูปรางสวยงามและ มีสีเขมสดใส ซึ่งเปนปลาที่ชาวญี่ปุนผสม คัดพันธุมาจากปลาทองหัวสิงหจีน โดย ลกั ษณะเดน ของปลาหวั สงิ หญ ปี่ นุ คอื มลี าํ ตวั สนั้ และโคง มนมากกวา ปลาทองหวั สงิ หจ นี สว นหวั มวี นุ ทม่ี เี นอื้ ละเอยี ด สามารถ แบงออกได 3 สว น ไดแ ก บนหัว บรเิ วณกระพงุ แกม และบริเวณเหนือริมฝป าก สวนบริเวณสันหลังใหญหนาตั้งแตโคนหัวจรดถึงปลายหาง มีครีบหางตอกับ ลําตัวเปนมุมแหลม และขอตอหางโคงตํ่าเล็กนอย ครีบทวารหรือครีบกน มที ัง้ ครีบเด่ียวและครบี คู 13
2 ปลาทองหัวสงิ หลกู ผสม (Hybrid lionhead, Ranchu x Chinese lionhead) ปลาทองหวั สงิ หล กู ผสมนเ้ี ปน ลกู ผสมทเ่ี พาะพนั ธใุ นประเทศไทย ซงึ่ นาํ เอา จุดเดนของปลาทองสายพันธุหัวสิงหจีนและญี่ปุนมารวมกันไวในปลา สายพันธุนี้ สําหรับสาเหตุของการผสมขามพันธุนั้น เน่ืองมาจากปลาทอง หวั สงิ หญ ป่ี นุ จะผสมพนั ธไุ ดค อ นขา งยาก จงึ มกี ารนาํ ปลาทองหวั สงิ หจ นี มาผสม เพื่อชวยใหการแพรพันธุงายขึ้นและยังไดจํานวนลูกปลาที่เพิ่มมากข้ึน ซึ่งลักษณะเดนของปลาทองหัวสิงหลูกผสม คือ วุนบนหัวของปลาจะมีขนาด ปานกลาง ไมใหญแ ละไมหนาเทากบั ปลาทองหัวสงิ หจ นี แตใ หญก วาปลาทอง หัวสิงหญ่ีปุน หลังโคงมนกวาปลาทองหัวสิงหจีน แตไมโคงและไมสั้นเทา ปลาทองหัวสิงหญ่ีปุน สวนครีบหางสั้นกวาปลาทองหัวสิงหจีน แตจะยาวกวา ปลาทองหัวสงิ หญ่ีปนุ »ÅҷͧËÑÇÊÔ§ËÅ¡Ù ¼ÊÁ (Hybrid lionhead, Ranchu x Chinese lionhead) 14
3 ปลาทองหัวสงิ หส ยาม »Åҷͧ ÑËÇÊÔ§ ËÊÂÒÁ (Siamese lionhead) (Siamese lionhead) ปลาทองหัวสิงหสยามหรือที่เรียกกันวาหัวสิงหตามิด ซงึ่ เปน ปลาทองลกู ผสมทมี่ ตี น กาํ เนดิ ในประเทศไทย โดยมลี กั ษณะ หัวแบบสิงหจีนหรือหัวสิงหญ่ีปุน อีกทั้งมีวุนปกคลุมบริเวณหัว หนาแนน จนมองไมเหน็ ตา และมีลกั ษณะลาํ ตัวคลา ยหวั สงิ หญ ี่ปนุ สวนลักษณะเดนของปลาสายพันธุนี้ คือ ลําตัวและครีบตองมี สดี ําสนิท รวมท้ังไมม ีสีอนื่ แซม 15
4 ปลาทองออรนั ดาหวั วุน (Dutch lionhead) ปลาทองออรันดาหัววุนน้ี สามารถเพาะพันธุไดในประเทศญี่ปุน เปนประเทศแรก จึงเรียกวา ออรันดาชิชิกะชิระ (Orandashishigashira) ซ่ึงแปลเปนภาษาอังกฤษไดวา Dutch lionhead มีลักษณะเดน คือ บริเวณ หัวดานบนมีวุนมากและวุนมีลักษณะละเอียดกวาวุนของปลาทองหัวสิงห ถามองจากดานบนจะเห็นเปนกอนกลมหรือเหลี่ยมคลายปลาสวมหมวกไว บนหัว สวนครบี หางมลี ักษณะแผก วางและไมส น้ั จนเกนิ ไป สําหรับปลาทองออรันดาสายพันธุที่นิยมเล้ียงในประเทศไทย ไดแก ปลาทองออรนั ดาหวั วนุ (Dutch lionhead) ปลาทองออรนั ดาหวั แดง (Redcap oranda หรอื ภาษาญ่ีปนุ เรียกวา ตันโจ) ลกั ษณะลาํ ตัวมีสขี าวเงิน สวนหวั มีวนุ กอ นกลมสแี ดงคลา ยปลาสวมหมวกสแี ดง และปลาทองออรนั ดาหา สมี ลี กั ษณะ เหมือนออรันดาหัววุนท่ัวไป แตสีบริเวณลําตัวมี 5 สี คือ ฟา ดํา แดง ขาว และสม สวนอีกชนิดหนึ่ง คือ ปลาทอง ออรันดาหางพวง ซึ่งสายพันธุน้ี มีครีบหางยาวเปนพวง ครีบหลัง พลวิ้ ยาว อกี ทงั้ บรเิ วณหวั มวี นุ นอ ย หรือไมมเี ลย 16
»Åҷͧ ÔÃǤԹ (Ryukin) 5 ปลาทองรวิ คนิ (Ryukin) ปลาทองพันธุริวคินมีช่ือภาษาอังกฤษวา Veiltail goldfish เปนปลาท่ีไดรับความนิยมเลี้ยงกันทั้งในประเทศ และตา งประเทศ โดยเฉพาะในประเทศญ่ีปุน เนอ่ื งจากเปน ปลาท่ีมีรูปทรงสวยงามและมีสีสันท่ีสดใส ในขณะวายน้ํา จะมีทวงทาท่ีสงางาม ซึ่งลักษณะเดนของปลาชนิดนี้ คือ ลําตัวดานขางกวางและสั้น สวนทองอวนกลม มองจาก ดานหนาโหนกหลังสูงเทากับสวนโคงของคอ โดยปลาท่ีมี ลักษณะท่ีดีน้ันสวนหัวจะตองเล็ก เกล็ดหนา ข้ึนเรียงเปน ระเบียบ สวนสีท่ีพบมีท้ังสีแดง ขาว-แดง และสม หรือมี 5 สี คือ แดง สม ดํา ขาว ฟา ซึ่งในประเทศไทยนิยม เรยี กวา รวิ คินหาสี 17
6 สายพนั ธอุ ืน่ ๆ 6.1 »ÅҷͧμÒ⻹ (Telescope eyes goldfish) ปลาทองตาโปนน้ี ชาวญป่ี นุ เรยี กวา เดะเมะคนิ (Demekin) ซงึ่ หมายถงึ ปลาตาโปน มีช่ือภาษาอังกฤษหลายช่ือ ในบางคร้ังก็เรียกวา Pop-eyes goldfish สวนชาวจีนนิยมเรียกวา Dragon eyes ซ่ึงหมายถึง ปลาที่มีตา เหมือนตามังกร โดยลักษณะเดนของปลาทองสายพันธุนี้ คือ สวนตาจะย่ืน โปนออกไปขางหนา จะดูคลายกลองสองทางไกล จึงมีช่ือภาษาอังกฤษวา Telescope eyes goldfish ซง่ึ ลกั ษณะทด่ี ขี องปลาสายพนั ธนุ ้ี คอื ตาจะตอ งโต และมีขนาดเทาๆ กันทั้ง 2 ขาง และปลาทองตาโปนท่ีนิยมเลี้ยงในบานเรามี หลายสายพันธุ ดังน้ี 6.1.1 ปลาทองตาโปนญ่ีปุน (Red telescope eyes goldfish) ปลาทองตาโปนญี่ปนุ น้ี ชาวญ่ีปุนบางคนเรียกวา Red metallic globe-eyes เปนปลาทองสายพันธุตาโปนท่ีมีลําตัวเปนสีแดงตลอดทั้งลําตัว ชาวญป่ี นุ เรยี กปลาสายพนั ธนุ วี้ า อะคาเดะเมะคนิ (Akademekin) แตใ นปจ จบุ นั สีท่นี ยิ มเล้ียงในประเทศไทย ไดแก ขาวแดง ขาวสม สม หรอื ขาวดาํ เปนตน 6.1.2 ปลาทองตาโปนหาสี (Calico telescope eyes goldfish) ปลาทองตาโปนหา สนี ้ี ชาวญป่ี นุ บางคนเรยี กวา ซนั โชคเุ ดะเมะคนิ (Sanshokudemekin) ซงึ่ แปลวา ปลาทองตาโปนท่ีมีสีสามสอี ยูใ นตัวเดยี วกนั สว นในประเทศไทยนยิ มเรยี กวา ปลาหา สี โดยสที ป่ี รากฏ ไดแ ก สแี ดง ดํา ขาว สม และฟา 18
6.1.3 ปลาทองสายพันธุเลห (Black telescope eyes goldfish หรือ Black Moor) ปลาทองสายพันธุเลหน้ี มีช่ือท่ีเรียกกันในประเทศวา ลักเลห สว นชาวญปี่ นุ เรยี กวา คโุ รเดะเมะคนิ (Kurodemekin) เปน ปลาทองตาโปนทม่ี ี ลกั ษณะเดน คอื ลําตัวและครีบทุกครีบเปนสีดําหรือสนี าก ซ่ึงสามารถจาํ แนก ออกเปนสายพันธุยอยๆ ไดตามลักษณะลําตัว ลักษณะสี และลักษณะหาง เชน เลห กระโปรง เลห ตุกตา เลหค วาย และผเี สื้อ (หลังอูฐ) ดงั ตารางที่ 9 »ÅҷͧμÒ⻹ˌÒÊÕ »ÅҷͧμÒ⻹ 19
6.2 »ÅҷͧËÑÇÊ§Ô Ë¨Õ¹ (Chinese lionhead) ปลาทองหัวสงิ หจนี นี้ สามารถเพาะพนั ธุไดค ร้ังแรกท่ปี ระเทศจีน ดงั นน้ั ประเทศไทยจึงเรียกวา ปลาทองหัวสิงหจีน (Chinese lionhead) สวนชาว ตะวันตกเรียกปลาทองสายพันธุน้ีวา Lionhead ซ่ึงมีลักษณะเดนของปลา สายพันธุน้ี คือ มีสวนหัวใหญกวาลําตัว และสวนหัวมีวุนขึ้นหนาแนนกวา ปลาทองหวั สิงหสายพันธอุ ่ืนๆ สวนหลังของปลาลาดโคงเล็กนอ ย แนวสนั หลงั ไมม คี รบี หลงั และมลี าํ ตวั ยาวกวา ปลาทองหวั สงิ หส ายพนั ธอุ นื่ ๆ มคี รบี หางใหญ และปลายหางลาดเสมอแนวเดียวกับสันหลัง เม่ือโตเต็มที่จะมีความยาวเฉล่ีย ตั้งแตปากถึงโคนหางประมาณ 15 เซนติเมตร ในบางตัวก็มีขนาดใหญถึง 25 เซนตเิ มตร โดยมอี ายุเฉลีย่ ประมาณ 5-7 ป »ÅҷͧËÑÇÊ§Ô Ë¨¹Õ 20
»Åҷͧ ÑËÇÊÔ§ ËμÒ¡ Ñź (Celestial goldfish) 6.3 »ÅҷͧËÑÇÊ§Ô ËμÒ¡ÅѺ (Celestial goldfish) ปลาทองสายพันธุหัวสิงหตากลับนี้เปนปลาที่มีตนกําเนิด อยใู นประเทศจนี ดงั นนั้ ชาวจนี จงึ เรยี กวา โชเตนกนั (Chotengan) ซ่ึงมีความหมายวา ปลาตาดฟู า ดูดาว หรือตามุง สวรรค ชาวญป่ี ุน เรียกช่ือปลาสายพันธุนี้วา เดะเมะรันชู (Demeranchu) อีกท้ัง ลักษณะเดนของปลาสายพันธุน้ี คือ ตาหงายกลับขึ้นขางบน ผดิ จากปลาทองสายพนั ธุอ่ืนๆ มตี าใหญส ดใสท้ังสองขาง สว นหวั ไมมีวุนหรือจะมีเคลือบเพียงเล็กนอย มีลําตัวยาว หลังตรงหรือ โคง ลาดเล็กนอ ย สว นครีบหางยาวและไมม คี รีบหลัง 21
6.4 »ÅҷͧÊÔ§Ëμ Òš٠⻆§ (Bubble eyes goldfish) ปลาทองสิงหตาลูกโปงมีถ่ินกําเนิดดั้งเดิมอยูในประเทศจีน ซง่ึ มลี กั ษณะเดน ทสี่ งั เกตไดง า ย คอื เบา ตาของปลาทองสายพนั ธนุ ี้ มีถุงน้ําขนาดใหญดูคลายมีลูกโปงติดอยูท่ีบริเวณใตตา จึงเปน ที่มาของชื่อ สิงหตาลูกโปง ชาวญ่ีปุนเรียกวา ซุอิโฮกัน (Suihogan) มีถุงนํ้าใตตา โดยปกติจะโปรงแสงและ มีขนาดเสมอกัน อีกท้ังปลาทองสายพันธุนี้บริเวณ สวนหัวจะไมมีวุน หรือมีเคลือบบางเพียงเล็กนอย ในสว นของครีบหางยาวและไมมีครบี หลัง 22
»ÅҷͧࡠçÅ´á Œ¡Ç (Pearl scale goldfish) 6.5 »Åҷͧà¡Å´ç á¡ÇŒ (Pearl scale goldfish) ปลาทองพันธุเกล็ดแกวเปนปลาทองท่ีมีลักษณะเดน คือ ลําตัว มลี กั ษณะปอ มสนั้ โดยสว นใหญจ ะมลี าํ ตวั อว นกลม และมลี กั ษณะทแ่ี ตกตา ง ไปจากปลาทองสายพันธุอ่ืนๆ คือ มีเกล็ดหนานูนขึ้นมาจนเห็นเปนตุม โดยปลาที่มีลักษณะที่ดีนั้นเกล็ดควรเรียงเปนระเบียบ ในบริเวณสวนหัว อาจมวี นุ หรอื ไมม กี ไ็ ด ซง่ึ ประเทศไทยมชี อื่ เสยี งในฐานะทสี่ ามารถเพาะพนั ธุ ปลาเกล็ดแกวหนาหนูไดเปนครั้งแรก อีกทั้งยังเปนที่รูจักและยอมรับกัน ท่ัวโลกวาปลาทองสายพันธุนี้เปนปลาทองที่แตกตางจากสายพันธุอ่ืน และมีสวนหัวเล็กแหลม รวมท้ังลําตัวอวนกลม ประกอบกับเกล็ดท่ีมี ลักษณะเฉพาะ ทาํ ใหด เู หมือนลกู กอลฟทส่ี ามารถเคลือ่ นไหวอยูใตนา้ํ ปลาทองเกลด็ แกว ท่นี ยิ มเลีย้ งในประเทศไทยมี 3 สายพนั ธุ ไดแ ก เกล็ดแกวหนา หนู เกล็ดแกว หวั วุน และเกล็ดแกว หวั มงกุฎ 23
ࡳ±¡ÒÃμ´Ñ ÊÔ¹ ¡ÒûÃСǴ»Åҷͧ ã¹»ÃÐà·Èä·Â ปลาทองเปน ปลาสวยงามทม่ี ลี กั ษณะ แปลกไปจากปลาสวยงามชนดิ อน่ื ๆ อกี ทง้ั มี สีสันสดใสสวยงามและมีความหลากหลาย ทางสายพนั ธุ นยิ มเล้ียงกนั อยางกวา งขวาง ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งในการจัด ประกวดแขงขันปลาทองแตละครั้งมักพบ ปญ หาเกณฑก ารพจิ ารณาลกั ษณะปลาและ เกณฑก ารตดั สนิ ยงั ไมเ ดน ชดั กรมประมงจงึ มีนโยบายท่ีจะหาทางแกไขปญหาในเร่ืองนี้ โดยมอบหมายใหสถาบันวิจัยสัตวน้ํา สวยงามและพรรณไมน้ํา เชิญผูเชี่ยวชาญ ผูมีประสบการณเร่ืองปลาทอง และคณะ กรรมการตัดสินปลาทอง รวมพิจารณา แกไ ขและปรบั ปรงุ เกณฑก ารตดั สนิ ปลาทอง เพอ่ื ใหส อดคลอ งกบั การพฒั นาของสายพนั ธุ สําหรับเกณฑการตัดสินการประกวด ปลาทอง ทไี่ ดร บั การยอมรับจากมตปิ ระชุม ฉบบั ปจ จบุ นั คอื ฉบบั ปรบั ปรงุ ป พ.ศ.2558 มดี ังตอ ไปน้ี 24
การพจิ ารณารับปลาทองเขาประกวด มีหลักเกณฑพจิ ารณาดังน้ี 1. ลักษณะตรงตามสายพนั ธุท่กี าํ หนด 2. ขนาดถกู ตองตามทีก่ าํ หนด 3. ลักษณะสมบูรณ สดั สวนดี ไมพิการ 4. ไมเ ปน โรค ลกั ษณะปลาทไี่ มส มบรู ณ มีดงั น้ี 1. หลังไมสวย ลาํ ตวั โคง เปน คล่นื 2. วุนนอย 3. ครบี พับ 4. กานครบี ไมสมบรู ณ 5. ไมสามารถทรงตัวไดตามปกติ 6. ความไมส มสวนตา งๆ ลกั ษณะปลาพกิ าร มีดังน้ี 1. หลงั คด 2. ครบี คด 3. ตัดแตง ครีบหรือวนุ 4. วุน แตก FISH 25
หลงั ไมส วย ลําตัวโคง เปน คลน่ื ความไมส มสว นตางๆ ขอ หางยาวผดิ ปกติ ครีบพับ กา นครบี ไมส มบูรณ ครบี หางไมเ ทากนั ครบี หางแผก วางเกนิ ไป ครบี หางไมตรง ขอหางเวา ขอหางผิดปกติ ขอ หางพบั ครบี หางไมเ ทา กัน ครีบหางไมแยก ครบี หางไมเรยี บ ครีบหางแตก ครีบหางซอน ลาํ ตัวดา นซายและขวาไมเสมอกัน ลําตัวไมเทา กนั กระพุงแกมอา ลําตัวบิดงอ ปากเบย้ี ว ลําตวั ไมเ ทา กนั ขอหางเบย้ี ว ภาพท่ี 7 ลักษณะปลาทไ่ี มส มบูรณ (ตวั อยา ง) 26
GOLDFISH
ตารางที่ 1 ลักษณะเดน ของปลาทองสายพันธุ ËÑÇÊ§Ô Ë (Lionhead) ลกั ษณะ หัวสงิ หญ ป่ี ุน หวั สงิ หจีน หัวสิงหส ยาม (สงิ หต ามิดดาํ ) หัว และ • มวี ุน ครบทง้ั 3 สว น คือ • หัววนุ มีขนาดใหญก วา • วนุ มีท้ังแบบสิงหจ นี นยั นต า สว นบนของหวั กระพงุ แกม และบริเวณเหนอื รมิ ฝปาก ลําตวั ลักษณะวุน และสงิ หญ ่ีปนุ หรอื วุน • วนุ สว นบนของหัวไมแตก เปน เมด็ เล็กหรือใหญ เปน หลืบคลา ยมนั สมอง ละเอยี ดจนเกินไป จบั เปนกอ น ดูสมสว น ขนาดสมํา่ เสมอ • วนุ ตอ งปดตาจนมดิ • บรเิ วณกระพุง แกม • วนุ ไมป ด ตาจนมดิ ตาสดใส วุนเรยี งตัวกันแนนไมแตก ละเอยี ดจนเกนิ ไป สว นบน เหนือตาไมมวี นุ นูนสงู • วนุ บรเิ วณเหนือรมิ ฝป าก มีลักษณะคลายเขีย้ วและ วนุ ใตคางไมมากจนเกนิ ไป • วุน ไมปดตาจนมิด (ยกเวนปลาที่มขี นาด 5 นว้ิ ข้นึ ไป) ตาสดใส ลําตวั • ไมมคี รีบหลงั • ไมมีครีบหลงั หลังตรง • ไมม ีครบี หลัง • สวนหลังโคงมนสมสว น หรอื ลาดโคงเล็กนอย • สวนหลงั โคงมนสมสวน • เมอ่ื มองจากดา นบน • ลําตัวหนา ไมค ดงอ • เมื่อมองจากดา นบน ลาํ ตวั หนาไมคดงอ ดูสมสวน • เกล็ดเปน เงางาม เรียงเปน ลาํ ตัวหนา ไมคดงอ สมสวน • เกลด็ เปนเงางาม เรียงเปน ระเบยี บ • เกลด็ เปน เงางาม เรียงเปน ระเบยี บ (ยกเวนปลาทมี่ ีเกลด็ ระเบยี บ (ยกเวน ปลาที่มีเกล็ด ขนาดใหญ/ ปลาหนัง (ยกเวน ปลาท่ีมีเกลด็ ขนาดใหญ/ปลาหนงั เกล็ดไมจาํ เปนตอ งเรยี ง ขนาดใหญ/ ปลาหนัง เกล็ดไมจ าํ เปน ตอ งเรยี งเปน เปนระเบยี บ) เกล็ดไมจ าํ เปนตองเรยี ง ระเบียบ) เปน ระเบียบ) 28
หัวสงิ หลูกผสม หวั สิงหต ากลับ หวั สงิ หต าลูกโปง • ลกั ษณะวุนใสเปนเม็ดเล็ก • หัวไมมีวุน หรือ • หัวไมม วี นุ หรือ เคลอื บวุนเล็กนอ ย หรอื วนุ เปนหลบื คลา ย มเี คลือบวนุ เลก็ นอ ย • มถี ุงนํา้ ใตตาคลา ยลกู โปง มันสมอง • ตาใหญส ดใส ตาทง้ั และถงุ น้ําโปรง แสง • วุนไมปด ตาจนมดิ 2 ขา งเสมอกนั และหงาย • ตาและถงุ น้ําใตต า ทั้ง 2 ขางเสมอกัน (ยกเวน ปลาที่มขี นาด 5 นิว้ แหงนมองทอ งฟาเสมอ ขึน้ ไป) ตาสดใส • วุน ทดี่ คี วรจะมีลักษณะใส สะอาด • บริเวณกระพุงแกม วนุ เรยี งตัวกันแนน ไมแ ตก ละเอียดจนเกินไป สว นบน เหนอื ตามีวนุ นนู สงู • ไมมคี รีบหลงั • ไมมคี รีบหลัง • ลาํ ตวั ยาว • สว นหลงั โคงมนสมสว น • สวนลาํ ตัวยาวหลงั ตรงหรอื • สว นหลงั ตรงหรือโคงลาด • มองจากดานบนลําตัวหนา โคงลาดเล็กนอย เลก็ นอย ไมคดงอ สมสว น • เกลด็ เปน เงางาม • เกล็ดเปน เงางาม • เกลด็ เปน เงางาม เรยี งเปน ระเบียบ เรยี งเปนระเบยี บ เรยี งเปน ระเบยี บ (ยกเวน ปลาท่มี ีเกล็ด (ยกเวน ปลาที่มเี กลด็ (ยกเวนปลาท่มี เี กล็ด ขนาดใหญ/ ปลาหนัง ขนาดใหญ/ ปลาหนัง ขนาดใหญ/ปลาหนงั เกลด็ ไมจ าํ เปนตอ งเรยี ง เกล็ดไมจ าํ เปน ตอ งเรียง เกลด็ ไมจาํ เปน ตองเรียง เปน ระเบยี บ) เปนระเบียบ) เปน ระเบียบ) 29
ลักษณะ หัวสิงหญ ีป่ นุ หัวสิงหจนี หัวสิงหสยาม (สงิ หตามดิ ดาํ ) ครีบหาง • ครีบหางสนั้ ตง้ั ตอกบั ลําตวั • ครบี หางใหญ • ครีบหางส้ันตั้งตอกับ เปนมมุ แหลมประมาณ • หางลาด ปลายหาง ลาํ ตัวเปน มุมแหลมประมาณ 45 องศา เสมอแนวเดยี วกบั สนั หลงั 45 องศา • ครบี หางหนา • ครีบหางหนา อาจมี 3 หรือ 4 แฉก อาจมี 3 หรือ 4 แฉก • ครบี หางแผก วาง สี และ • มีทุกสี • มีทุกสี • สีดาํ ปลอด เปน เงาสดใส ลวดลาย • ลวดลายสวยสะดุดตา รปู ทรงและ • ซายและขวาเสมอกนั • ซา ยและขวาเสมอกัน • ซา ยและขวาเสมอกนั การทรงตวั • การวา ยนํา้ และการทรงตัวดี • การวา ยนา้ํ และการทรงตวั ดี • การวา ยนา้ํ และการทรงตวั ดี • ขณะหยดุ นง่ิ ลาํ ตวั ทาํ มมุ กับ • ขณะหยดุ น่ิงลําตวั ทาํ มมุ กบั พนื้ ตูไมเ กนิ 45 องศา พ้ืนตไู มเกิน 45 องศา ครีบทวาร • ครีบคทู ่เี สมอ หรอื ครีบเดย่ี ว • ครบี คทู เี่ สมอ หรอื ครบี เดย่ี ว • ครบี คทู ่ีเสมอ หรอื ครบี เดีย่ ว หรอื ครบี กน ตรงกลางท่ขี ้ึนตามธรรมชาติ ตรงกลางทขี่ นึ้ ตามธรรมชาติ ตรงกลางทข่ี ้นึ ตามธรรมชาติ ครบี อนื่ ๆ • ครบี คูเ สมอกัน • ครีบคูเ สมอกนั ทง้ั ซาย • ครบี คเู สมอกนั ท้งั ซา ย ทั้งซา ยและขวา และขวา และขวา μÒÃÒ§·Õè 2 ¤Ðá¹¹ÊíÒËÃºÑ »ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸ØËÇÑ ÊÔ§Ë ลกั ษณะ สิงหญี่ปุน สิงหล กู ผสม สิงหจ ีน สิงห และสิงหส ยาม ตากลับและสงิ หตา ภาพรวม ลูกโปง 40 คะแนน 32 คะแนน หัวและนัยนต า 10 คะแนน 18 คะแนน เสน หลงั และลาํ ตัว 10 คะแนน - ครีบหาง 10 คะแนน สีและเกลด็ 10 คะแนน 18 คะแนน การทรงตวั และการวา ยนํ้า 10 คะแนน 18 คะแนน ครบี ทวาร 5 คะแนน 5 คะแนน ครีบอ่นื ๆ 5 คะแนน 5 คะแนน 100 คะแนน 4 คะแนน 30 คะแนนรวม 100 คะแนน
หัวสงิ หลกู ผสม หวั สงิ หต ากลบั หัวสิงหต าลูกโปง • ครบี หางสนั้ ต้ังตอ กบั ลาํ ตวั • ครีบหางยาว • ครีบหางยาว เปน มุมแหลมประมาณ • หางลาด ปลายหางเสมอ • หางลาด ปลายหางเสมอ 45 องศา แนวเดียวกบั สนั หลังหรอื แนวเดียวกับสันหลงั หรือ • ครีบหางหนา สงู กวา สงู กวา อาจมี 3 หรอื 4 แฉก • มที กุ สี • มีทุกสี • มที กุ สี • ลวดลายสวยสะดุดตา • ลวดลายสวยสะดุดตา • ลวดลายสวยสะดุดตา • ซายและขวาเสมอกนั • ซา ยและขวาเสมอกนั • ซายและขวาเสมอกนั • การวายน้ําและการทรงตัวดี • การวา ยนา้ํ และการทรงตวั ดี • การวายน้ําและการทรงตัวดี • ขณะหยดุ นง่ิ ลําตวั ทํามมุ กับ • ขณะหยุดนิ่งลาํ ตัวทาํ มมุ กับ • ขณะหยดุ นงิ่ ลาํ ตวั ทาํ มมุ พ้ืนตไู มเ กิน 45 องศา พื้นตไู มเ กนิ 45 องศา กบั พื้นตไู มเกิน 45 องศา • ครบี คทู เ่ี สมอ หรอื ครบี เดยี่ ว • ครบี คทู เ่ี สมอ หรอื ครบี เดย่ี ว • ครบี คทู เ่ี สมอ หรอื ครบี เดยี่ ว ตรงกลางทขี่ น้ึ ตามธรรมชาติ ตรงกลางทขี่ น้ึ ตามธรรมชาติ ตรงกลางทข่ี นึ้ ตามธรรมชาติ • ครีบคูเ สมอกนั ทง้ั ซา ย • ครบี คูเสมอกันทงั้ ซาย • ครีบคูเ สมอกันทัง้ ซา ย และขวา และขวา และขวา 31
ตารางที่ 3 ลกั ษณะเดนของปลาทองสายพันธุ ÍÍÃѹ´Ò (Oranda) ลักษณะ ออรนั ดาหวั วนุ ออรนั ดาหัวแดง หัว • วุนมาก มองจากดา นบนเหน็ เปน • วนุ บนหัวเปนกอนกลมสีแดง กอนกลมหรอื เหลี่ยม เหมอื นหมวก ลาํ ตัว รปู ทรง และเกลด็ • วุนที่ดีควรมลี กั ษณะใสสะอาด • วนุ บรเิ วณขางแกม และใตค างไมมี หรอื มีบา งเลก็ นอย ครบี หาง • มองจากดา นขา ง ลาํ ตวั กวา ง สมสว น • มองจากดานขางลําตัวไมส น้ั จนเกินไป สี และลวดลาย • เกล็ดเรียงเปน ระเบยี บสมา่ํ เสมอ • เกลด็ เรียงเปนระเบียบสม่าํ เสมอ ครีบหลัง ครีบทวาร หรือ มคี วามเงาสดใส (ยกเวนปลาทมี่ ี มีความเงาสดใส (ยกเวน ปลาที่มี ครบี กน เกลด็ ใหญ/ ปลาหนงั ไมจ าํ เปน เกลด็ ใหญ/ ปลาหนังไมจ าํ เปน การทรงตัว ตอ งเรยี งเปนระเบียบ) ตองเรียงเปนระเบียบ) และการวายน้าํ ครีบอน่ื ๆ • ครบี หางมีความยาวไมต ํา่ กวา ⅓ เทา • ครบี หางมคี วามยาวไมต า่ํ กวา ⅓ เทา ของความยาวลําตวั และทาํ มมุ ของความยาวลาํ ตวั และทาํ มมุ ไมม ากกวา 100 องศา กบั แนวสนั หลงั ไมม ากกวา 100 องศา กบั แนวสนั หลงั (ความยาวลําตัว วัดจากสวนหนาสุด (ความยาวลาํ ตวั วดั จากสว นหนา สดุ ของหัว ถงึ มมุ โคนหาง) ของหวั ถงึ มมุ โคนหาง) • มีทกุ สี • ลาํ ตัวสีขาว วนุ บนหัวสีแดงเขม • ลวดลายสวยสะดุดตา • ครีบหลงั ต้ังตรง ไมคดงอ • ครีบหลงั ตั้งตรง ไมค ดงอ • ครบี คทู ่ีเสมอหรือครีบเด่ยี วตรงกลาง • ครบี คทู ่เี สมอหรือครบี เดยี่ วตรงกลาง ที่ขึน้ ตามธรรมชาติ ท่ขี ึ้นตามธรรมชาติ • ขณะวายน้าํ สามารถทรงตัวไดดี • ขณะวายนาํ้ สามารถทรงตัวไดด ี • ขณะหยุดน่ิงลําตัวทํามุมกับพื้นตู • ขณะหยุดน่ิงลําตวั ทํามุมกับพ้ืนตู ไมเ กิน 45 องศา ไมเ กนิ 45 องศา • ครีบคเู สมอกนั ไมพ ับ • ครบี คูเ สมอกัน ไมพบั 32
ออรนั ดาหา สี ออรันดาหางพวง (ธรรมดา) ÍÍ Ñù´Ò (Oranda) • วนุ มากขนาดสม่าํ เสมอ • วุน นอ ยหรอื ไมม วี นุ • มองจากดานขา งลาํ ตัวกวาง สมสว น • ลําตัวคอนขางยาว • เกลด็ เรยี งเปน ระเบยี บสม่ําเสมอ มีความเงาสดใส (ยกเวน ปลาท่มี ี เกลด็ ใหญ/ ปลาหนังไมจ าํ เปน ตอง เรียงเปน ระเบยี บ) • ครบี หางมคี วามยาวไมตาํ่ กวา ⅓ เทา • หางยาวเปนพวง ของความยาวลาํ ตัวและทํามุม ไมม ากกวา 100 องศา กบั แนวสนั หลงั (ความยาวลาํ ตวั วดั จากสวนหนาสุด ของหวั ถงึ มมุ โคนหาง) • มีครบทั้ง 5 สี (ฟา , ดาํ , แดง, ขาว, • มีทกุ สี สม ) สีกระจายสมา่ํ เสมอ • ครีบหลังต้ังตรง ไมค ดงอ • ครบี หลังยาวพลวิ้ • ครีบคทู ่เี สมอหรอื ครบี เดย่ี วตรงกลาง • ครีบคทู เ่ี สมอหรอื ครบี เดี่ยวตรงกลาง ที่ข้ึนตามธรรมชาติ ที่ขน้ึ ตามธรรมชาติ • ขณะวา ยนํ้าสามารถทรงตัวไดด ี • ขณะวา ยนํ้าสามารถทรงตัวไดดี • ขณะหยุดนิ่งลําตวั ทํามมุ กบั พ้นื ตู ไมเ กิน 45 องศา • ครีบคเู สมอกนั ไมพับ • ครบี คเู สมอกนั ไมพ ับ 33
μÒÃÒ§·Õè 4 ¤Ðá¹¹ÊÒí ËÃѺ»ÅҷͧÊÒ¾¹Ñ ¸Ø ÍÍÃѹ´Ò ลักษณะ หวั วุน และ หา สี หางพวง หัวแดง (ธรรมดา) ภาพรวม 30 คะแนน หัว 30 คะแนน 10 คะแนน - ลาํ ตัว รูปทรง 10 คะแนน 10 คะแนน 5 คะแนน ครีบหลงั 10 คะแนน 10 คะแนน 23 คะแนน ครบี หาง 10 คะแนน 10 คะแนน 12 คะแนน สี และเกลด็ 10 คะแนน 10 คะแนน 26 คะแนน การทรงตัวและการวายนาํ้ 10 คะแนน 10 คะแนน 15 คะแนน ครีบทวาร 10 คะแนน 5 คะแนน 10 คะแนน ครบี อ่ืนๆ 5 คะแนน 5 คะแนน 5 คะแนน 5 คะแนน 100 คะแนน 4 คะแนน คะแนนรวม 100 คะแนน 100 คะแนน 34
μÒÃÒ§·èÕ 5 Å¡Ñ É³Ðà´‹¹¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø ÃÇÔ ¤Ô¹ (Ryukin) ÊÊÕ ÁŒ áÅТÒÇ-á´§ ลักษณะ ริวคนิ สสี ม และขาว-แดง หวั และตา หวั ส้ัน ปากแหลม ไมม ีวนุ ตาจะตอ งไมใหญก วา ปกติ และไมปูดโปน ลาํ ตวั รปู ทรง และเกลด็ มองดา นขา งลาํ ตัวคอ นขา งกวาง สว นทองอว นกลม เกลด็ เรยี งเปน ระเบยี บ เปน เงาสดใส ยกเวนปลาที่มี เกล็ดขนาดใหญ/ ปลาหนัง เกล็ดไมจ าํ เปนตอ งเรยี ง เปน ระเบียบ โหนกหลัง โหนกหลังสงู เทา กับสวนโคง ของหลังและทอง ครีบหลงั ครีบหลงั สูง ตั้งตรงไมคดงอ ครบี หาง ครบี หาง 3 แฉก หรอื 4 แฉก กานครีบหางไมพับ ไมบ ดิ งอ ความยาวของหางไมต ่าํ กวา ½ ของ ความยาวลาํ ตวั และครีบหางตอ งทํามุมไมม ากกวา 90 องศา กบั แนวสนั หลงั ซา ย-ขวาตองสมดลุ กนั สี และลวดลาย มที กุ สี ลวดลายสวยสะดดุ ตา ครีบทวาร หรอื ครีบกน ครบี คทู เี่ สมอหรอื ครบี เดยี่ วตรงกลางทขี่ น้ึ ตามธรรมชาติ รูปทรง และการทรงตัว ซา ยและขวาเสมอกนั วายนา้ํ ทรงตัวดี ครบี อนื่ ๆ ครีบคเู สมอกัน ไมพบั หมายเหต:ุ 1. ปลาริวคนิ ท่ีประกวดแบง ปลาออกไดเปน 2 ประเภท 1.1 รวิ คินหางกลาง มคี วามยาวของหาง ½ เทา ของความยาวลาํ ตัว 1.2 ริวคินหางยาว มคี วามยาวของหาง 1 เทา ของความยาวลําตวั 2. ปลาริวคินสว นหวั อาจจะมสี วนทห่ี นาขึ้นตามอายุ ไมถ อื วาเปน วุน 3. สําหรับปลาที่มีเกล็ดใหญ/ปลาหนังสีขาว-แดงเปนแตมตองสมดุล ดูสวยงาม/การลอกสขี องปลาใชว ิธีการตัดคะแนนแตไมคัดปลาออก 35
μÒÃÒ§·èÕ 6 ÅѡɳÐà´‹¹¢Í§»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø ÃÇÔ ¤¹Ô ËÒŒ ÊÕ (Calico) ลักษณะ ริวคนิ หาสี หัว หัวสัน้ ปากแหลม ไมมีวุน ลําตัว รูปทรง และเกล็ด มองดา นขางลําตวั กวา งนอยกวา ริวคินสีสมและ โหนกหลัง ขาว-แดง เลก็ นอ ย สว นทองอว นกลมมองจาก ครีบหลงั ดานหนาโหนกสูงนอ ยกวา รวิ คนิ สสี ม และขาว-แดง ครบี หาง เกลด็ เรยี งไมเ ปน ระเบยี บ แตเปน เงาสดใส สี โหนกหลงั สงู นอยกวาสวนโคง ของหลงั และทอ ง ครบี ทวาร หรือครีบกน ครีบหลังสูง ตั้งตรง ไมค ดงอ รูปทรง และการทรงตวั ครบี หาง 3 แฉก หรอื 4 แฉก กา นครีบหางไมพับ ครีบอ่ืนๆ ไมบ ิดงอ ความยาวของหางไมต ํา่ กวา ½ ของ ความยาวลาํ ตวั และครบี หางตองทํามมุ ไมม ากกวา 90 องศา กบั แนวสันหลัง ซาย-ขวาตองสมดลุ กนั สเี ขม มีครบหา สี (ฟา แดง ดํา ขาว และสม ) ครบี คทู ่ีเสมอหรอื ครีบเด่ียวตรงกลางท่ีข้นึ ตาม ธรรมชาติ ครีบเดี่ยวจะตองงอกจากกึ่งกลางของ ลาํ ตวั ซา ยและขวาเสมอกนั การวา ยนาํ้ และการทรงตัวดี ขณะหยดุ นิง่ ลาํ ตวั ทาํ มมุ กบั พื้นตูไมเกนิ 45 องศา ครีบคูเสมอกัน สมบรู ณไ มพ ับและไมบ ดิ งอ หมายเหตุ: ปลารวิ คินสว นหัวอาจจะมีสว นที่หนาข้นึ ตามอายุไมถือวาเปน วนุ 36
μÒÃÒ§·èÕ 7 ¤Ðá¹¹ÊÒí ËÃºÑ »ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø ÃÇÔ ¤¹Ô ÊÊÕ ÁŒ áÅТÒÇ-á´§ ลักษณะ รวิ คินสสี มและขาว-แดง ภาพรวม 20 คะแนน โหนกหลัง 15 คะแนน หัว 10 คะแนน ลําตวั รูปทรง 10 คะแนน ครบี หลัง 10 คะแนน ครบี หาง 10 คะแนน สี และเกล็ด 10 คะแนน การทรงตัว และการวายนา้ํ 10 คะแนน ครบี ทวาร และครบี อ่นื ๆ 5 คะแนน 100 คะแนน คะแนนรวม ÃÇÔ ¤Ô¹ËŒÒÊÕμÒÃÒ§·Õè 8 ¤Ðá¹¹ÊíÒËÃѺ»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø ลักษณะ ริวคินหา สี ภาพรวม 20 คะแนน โหนกหลัง 10 คะแนน หวั 10 คะแนน ลําตวั รปู ทรง 10 คะแนน ครีบหลัง 10 คะแนน ครีบหาง 10 คะแนน สี และเกลด็ 15 คะแนน การทรงตวั และการวายนํา้ 10 คะแนน ครีบทวาร และครบี อ่ืนๆ 5 คะแนน คะแนนรวม 100 คะแนน 37
ตารางที่ 9 ลกั ษณะเดนของปลาทองสายพนั ธุ μÒ⻹ (Telescope eyes goldfish) ËÃÍ× àÅ‹Ë (Black Moor) ลกั ษณะ เลหกระโปรง เลหต ุกตา ตาโปนหาสี นัยนต า ตามขี นาดใหญเสมอกัน ตามขี นาดใหญเ สมอกนั ตามขี นาดใหญเสมอกนั ตาโปนออกนอกเบา ตา ลําตัว มองไปดานหนาหรอื ตาโปนออกนอกเบาตามองไป ตาโปนออกนอกเบา ตา ดานขา งเสมอกนั ดา นหนาหรือดานขางเสมอกัน มองไปดานหนา หรอื กลมสัน้ ดานขางเสมอกนั กลมสั้น กลมสัน้ ครบี หลัง ตงั้ ตรงสูง ไมพ บั ตงั้ ตรงสงู ไมพับ ต้งั ตรงสงู ไมพ บั ครบี หาง หางยาวคลา ยกระโปรงสมุ หาง 3 หรือ 4 แฉก และเวาลกึ หาง 3 หรือ 4 แฉก สี คอ นขางหนายาวปานกลาง และเวา ลกึ หางไมตก รูปทรง และ การทรงตวั ดาํ สนทิ ดําสนิท หา สี (ฟา, แดง, ดํา, ครบี ทวาร ขาว, สม) หรอื ครบี กน เวลาหยุดจะนิ่งสนิท ไมห ยดุ นิ่งเปน เวลานาน การทรงตัวดี ครีบอ่นื ๆ วายนาํ้ ทรงตัวไดดี วายนา้ํ ทรงตัวไดด ี ครบี คูทเี่ สมอหรือครีบเดย่ี ว ครีบคทู ่ีเสมอหรอื ครบี เดย่ี ว ครบี คูท่ีเสมอหรือ ตรงกลางทข่ี ้ึนตามธรรมชาติ ตรงกลางทขี่ ้ึนตามธรรมชาติ ครบี เดี่ยวตรงกลาง ทขี่ ึน้ ตามธรรมชาติ ครีบคูยาวเสมอกนั ไมพ บั ครีบคูยาวเสมอกัน ไมพบั ครบี คยู าวเสมอกัน ไมพบั 38
ตาโปนญปี่ นุ เลห ค วาย ผีเสอื้ (หลงั อูฐ) μÒ⻹ (Telescope eyes goldfish) ËÃ×Í à ‹ÅË (Black Moor) ตามีขนาดใหญเสมอกัน ตามีขนาดใหญเสมอกนั ตามขี นาดใหญเสมอกนั ตาโปนออกนอกเบา ตา ตาโปนออกนอกเบา ตา ตาโปนออกนอกเบา ตา มองไปดานหนา หรือ มองไปดานหนา หรือ มองไปดา นหนา หรอื ดา นขา งเสมอกนั ดานขางเสมอกัน ดา นขา งเสมอกัน กลมส้นั ขนาดใหญ คอ นขา งยาว กลมสั้น หลังยกสงู ตงั้ ตรงสูง ไมพบั ตงั้ ตรงสูง ไมพ ับ ทองอวนกลม หาง 3 หรือ 4 แฉก หางยาวเปนพวง และเวา ลึก ต้งั ตรงสูง ไมพ บั หาง 3 หรอื 4 แฉกสน้ั บานออกคลายผีเส้อื ขาวแดง, ขาวสม , สม หรอื ดําหรือนาก ดาํ หรือนาก ขาวดํา การทรงตัวดี การทรงตวั ดี การทรงตวั ดี ครีบคทู ่ีเสมอหรอื ครีบเดี่ยว ครบี คูท่เี สมอหรอื ครีบคทู ี่เสมอหรือ ตรงกลางที่ข้นึ ตามธรรมชาติ ครบี เดี่ยวตรงกลาง ครบี เดยี่ วตรงกลาง ทข่ี ึ้นตามธรรมชาติ ที่ขนึ้ ตามธรรมชาติ ครีบคยู าวเสมอกนั ไมพ ับ ครีบคยู าวเสมอกัน ไมพ ับ ครีบคูยาวเสมอกนั ไมพ ับ 39
μÒÃÒ§·èÕ 10 ¤Ðá¹¹ÊÒí ËÃºÑ »ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø μÒ⻹ ËÃÍ× àÅ‹Ë ลกั ษณะ ตาโปน หรอื เลห นัยนตา 18 คะแนน ลาํ ตัว 18 คะแนน ครบี หลงั 14 คะแนน ครีบหาง 18 คะแนน สี 18 คะแนน รปู ทรง และการทรงตัว 5 คะแนน ครีบทวาร หรอื ครบี กน 5 คะแนน ครบี อ่ืนๆ 4 คะแนน 100 คะแนน คะแนนรวม 40
ตารางท่ี 11 ลักษณะเดนของปลาทองสายพนั ธุ à¡Å´ç á¡ŒÇ (Pearl scale goldfish) ลกั ษณะ เกลด็ แกวหนาหนู เกลด็ แกว หัววนุ เกลด็ แกวหัวมงกุฎ หัว • ปากแหลม หนา ส้นั • มวี นุ • มีวนุ เปน กอนกลมเดียว เกล็ด ไมมวี ุน • เกลด็ พองโต เรียง • เกล็ดพองโต เรียง ลาํ ตัว • เกลด็ พองโต ไลขนาดเปน ระเบียบ ไลขนาดเปนระเบยี บ ขนาดสมํา่ เสมอ สี • เกล็ดบริเวณกลางลําตัว • เกลด็ บรเิ วณกลางลาํ ตวั ครีบหลัง • เกลด็ เรยี งเปน ระเบยี บ ขนาดใหญก วา สวนหัว ขนาดใหญกวาสว นหวั ครีบหาง กระจายท่ัวตวั สวนทา ย หลงั และทอ ง สว นทาย หลังและทอ ง รปู ทรง และ • มองจากดานบนลาํ ตัว • หลงั ตรง ทองอูมเปง • หลังตรง ทอ งอูมเปง การทรงตัว กลมสัน้ ครบี อ่ืนๆ • มีทกุ สี • มที ุกสี • หวั ทา ยแหลม ทอ งอมู เปง • ตัง้ ตรง • ตัง้ ตรง • มที กุ สี • หางสั้น • หางส้ัน • ครบี หางมี 3 หรอื 4 แฉก • ครบี หางมี 3 หรอื 4 แฉก • ต้งั ตรง ไมพับ ไมพ บั • หางยาวปานกลาง • ซา ยและขวาเสมอกนั • ซายและขวาเสมอกนั • ครีบหางมี 3 หรือ • การทรงตวั ดี • การทรงตวั ดี • ครบี คยู าวเสมอกนั ไมพ บั • ครบี คยู าวเสมอกนั ไมพ บั 4 แฉก ไมพ ับ • ซา ยและขวาเสมอกัน • การทรงตวั ดี • ครบี คยู าวเสมอกนั ไมพ บั 41
à¡Åç´á¡ÇŒμÒÃÒ§·èÕ 12 ¤Ðá¹¹ÊíÒËÃѺ»ÅҷͧÊÒ¾ѹ¸Ø ลักษณะ เกล็ดแกว หวั 18 คะแนน เกลด็ 18 คะแนน ลาํ ตวั 18 คะแนน สี 18 คะแนน ครบี หลงั 14 คะแนน ครบี หาง 5 คะแนน รปู ทรง และการทรงตัว 5 คะแนน ครีบอืน่ ๆ 4 คะแนน 100 คะแนน คะแนนรวม 42
Search