ทำ�ดี ตามธรรมของพอ่ ข้อสรุป : การกระท�ำของนายชัยยุทธ เป็นการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมฯ ข้อ ๘(๖) ข้าราชการต้องไม่ไปคัดลอก หรือน�ำผลงานของผู้อื่นมาใช้เป็นของตนเอง โดยไม่ระบุ แหลง่ ทม่ี า ในสว่ นผลงานทท่ี ำ� ตอ้ งเปดิ เผยตอ่ สาธารณะโดยลงในwebsite หรอื intranet เพอ่ื เป็นชอ่ งทางใหม้ ีการตรวจสอบและคดั ค้าน หากมกี ารลอกเลยี นผลงานการได้มาซึ่ง ผลงานทางวชิ าการดว้ ยการวา่ จา้ งใหผ้ อู้ น่ื ทำ� หรอื คดั ลอกผลงานของคนอนื่ มาเปน็ ผลงาน ของตนเอง ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ข้าราชการต้องใช้ความสามารถ ความระมัดระวัง ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ตามคณุ ภาพและมาตรฐานวชิ าชพี โดยเครง่ ครดั โดยมงุ่ ประสทิ ธภิ าพ และประสิทธิผลของงานให้เกิดผลดีที่สุดจนเต็มความสามารถ กรณีดังกล่าวชัยยุทธ นอกจากจะไม่ได้รับการเล่อื นตำ� แหนง่ แล้ว ยงั มคี วามผิดทางวินัยอย่างรา้ ยแรงอกี ด้วย คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพัฒนาชุมชน 45
// พระเจ้าอยหู่ วั เวลาทำ� อะไร ทรงมุง่ มัน่ มาก เร่อื งความขยนั ไมต่ ้องพูด ทรงงานไมม่ ีวันเสารว์ ันอาทติ ย์ ไม่มเี วลากลางวันกลางคนื
ภาคผนวก
ท�ำ ดี ตามธรรมของพ่อ ประมวลจรยิ ธรรมข้าราชการพลเรือน คำ� ปรารภ โดยท่ีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๗๙ ก�ำหนดให้มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั แตล่ ะประเภทใหเ้ ปน็ ไปตามประมวลจรยิ ธรรมทก่ี ำ� หนดขนึ้ โดยจะตอ้ ง มีกลไกและระบบในการด�ำเนินการเพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทง้ั กำ� หนดขนั้ ตอนการลงโทษตามความรา้ ยแรงแหง่ การกระทำ� การฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิ ตามมาตรฐานทางจริยธรรม ใหถ้ ือวา่ เป็นการกระท�ำผิดทางวนิ ัย ก.พ. ในฐานะองคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คลของขา้ ราชการพลเรอื น ไดพ้ จิ ารณา โดยถ่ีถ้วนแล้วเห็นว่า ต�ำแหน่งข้าราชการพลเรือนทุกตำ� แหน่งมีหน้าที่ท่ีต้องปฏิบัติเพื่อ ให้ขา้ ราชการแผน่ ดนิ ในส่วนที่ตนรับผดิ ชอบเกดิ ประโยชน์สูงสุดแกส่ งั คม ดังนั้น การใช้ อ�ำนาจเพ่ือให้หน้าที่ที่ตนรับผิดชอบลุล่วง ข้าราชการพลเรือนทั้งปวงจึงต้องมีคุณธรรม ซึ่งเป็นการอันพึงท�ำ เพราะน�ำประโยชน์ให้เกิดแก่ส่วนรวมและตนเอง และศีลธรรม ซงึ่ เปน็ การอนั พงึ เวน้ เพราะเปน็ โทษแกส่ ว่ นรวมและตนเอง ประกอบกนั ขน้ึ เปน็ จรยิ ธรรม ขา้ ราชการพลเรือนอนั เปน็ ความประพฤตทิ ด่ี งี าม สมกบั ความเปน็ ขา้ ราชการ อนึ่ง มาตรา ๒๘๐ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอ�ำนาจหน้าที่เสนอแนะหรือให้ค�ำ แนะน�ำในการจัดท�ำหรือปรับปรุงประมวลจริยธรรมตามมาตรา ๒๗๙ และส่งเสริมให้ ผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ทางการเมอื ง ขา้ ราชการและเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั มจี ติ สำ� นกึ ในดา้ นจรยิ ธรรม รวมท้ังมีหน้าที่รายงานการกระท�ำท่ีมีการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมเพ่ือให้ผู้ที่รับผิดชอบ ในการบงั คบั การใหเ้ ปน็ ไปตามประมวลจรยิ ธรรม ดำ� เนนิ การบงั คบั ใหเ้ ปน็ ไปตามประมวล จรยิ ธรรมตามมาตรา ๒๗๙ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพฒั นาชุมชน 49
ดงั นนั้ บคุ คลผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ขา้ ราชการพลเรอื นทกุ ตำ� แหนง่ จงึ มหี นา้ ทด่ี ำ� เนนิ การ ให้เป็นไปตามกฎหมายเพ่ือรักษาประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติ มีความเป็นกลาง ทางการเมือง อ�ำนวยความสะดวก ให้บริการแก่ประชาชนตามหลักธรรมาภิบาล โดยจะตอ้ งยดึ มน่ั ในคา่ นยิ มหลกั ของมาตรฐานจรยิ ธรรมสำ� หรบั ผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ทางการเมอื ง และเจ้าหน้าท่ขี องรฐั ๙ ประการ ของสำ� นกั งานผูต้ รวจการแผน่ ดิน ดังน้ี (๑) การยดึ มั่นในคุณธรรมและจรยิ ธรรม (๒) การมีจติ สำ� นกึ ทีด่ ี ซอ่ื สตั ย์ สุจริต และรับผิดชอบ (๓) การยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มี ผลประโยชน์ทับซ้อน (๔) การยืนหยดั ท�ำในส่ิงท่ีถกู ต้อง เป็นธรรม และถูกกฎหมาย (๕) การใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชนดว้ ยความรวดเรว็ มอี ธั ยาศยั และไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ (๖) การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และไม่บิดเบือน ขอ้ เท็จจรงิ (๗) การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน รักษามาตรฐาน มีคุณภาพ โปร่งใส และ ตรวจสอบได้ (๘) การยดึ มน่ั ในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ (๙) การยดึ ม่ันในหลักจรรยาวชิ าชีพขององค์กร เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามความในมาตรา ๒๗๙ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประกอบค่านิยมหลักส�ำหรับผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองและ เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั อนั ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ไดใ้ หค้ ำ� แนะนำ� ใหห้ นว่ ยงานทง้ั หลายถอื ปฏบิ ตั ิ ก.พ. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงก�ำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมข้ึนเป็นประมวล จริยธรรมข้าราชการพลเรือน เพือ่ ใหข้ า้ ราชการทง้ั หลายเกิดสำ� นึกลึกซึง้ และเทย่ี งธรรม ในหนา้ ที่ ผดงุ เกยี รตแิ ละศกั ดศ์ิ รขี า้ ราชการควรแกค่ วามไวว้ างใจและเชอ่ื มนั่ ของปวงชน 50 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพอ่ และด�ำรงตนตงั้ มน่ั เป็นแบบอยา่ งทดี่ งี าม สมกบั ความเป็นข้าราชการในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นตัวอย่างแห่งธรรมจรรยาอันสูงสุดเพ่ือใช้บังคับเป็นมาตรฐาน กลางไว้ ดงั ต่อไปนี้ หมวด ๑ บทท่วั ไป ขอ้ ๑ ประมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื นนี้ใหใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แตว่ นั ครบเกา้ สบิ วนั นบั แต่วันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ข้อ ๒ ในประมวลจริยธรรมขา้ ราชการพลเรือนนี้ “ประมวลจรยิ ธรรม” หมายความวา่ ประมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื น ฉบบั นี้ “ข้าราชการ” หมายความว่า ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการ และลกู จ้าง ในสังกดั ราชการพลเรอื น “หัวหน้าส่วนราชการ” หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในกรณีที่เป็น ขา้ ราชการส่วนภมู ิภาค “คณะกรรมการจรยิ ธรรม” หมายความว่า คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ� สว่ น ราชการ “ของขวญั ” หมายความวา่ ของขวญั ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนญู ว่าด้วย การปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ หรอื กฎหมายเกยี่ วกบั การขดั กนั ระหวา่ งประโยชน์ สว่ นบุคคลและประโยชนส์ ว่ นรวม คณะกรรมการจริยธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 51
หมวด ๒ จรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรือน ขอ้ ๓ ข้าราชการต้องยึดม่ันในจริยธรรมและยืนหยัดกระท�ำในสิ่งท่ีถูกต้องและ เปน็ ธรรมโดยอยา่ งน้อยตอ้ งวางตน ดงั นี้ (๑) ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมอย่างตรงไปตรงมา และไม่กระท�ำการเล่ียง ประมวลจรยิ ธรรมน้ี ในกรณีท่ีมขี อ้ สงสัยหรอื มผี ทู้ ักท้วงว่าการกระท�ำใดของข้าราชการ อาจขัดประมวลจรยิ ธรรม ขา้ ราชการต้องไมก่ ระท�ำการดังกลา่ ว หรอื หากกำ� ลงั กระทำ� การดังกล่าว ต้องหยุดกระท�ำการและส่งเรื่องให้คณะกรรมการจริยธรรมพิจารณา วนิ จิ ฉยั ในกรณที คี่ ณะกรรมการจรยิ ธรรมวนิ จิ ฉยั วา่ การกระทำ� นน้ั ขดั ประมวลจรยิ ธรรม ขา้ ราชการจะกระท�ำการน้ันมไิ ด้ (๒) เมื่อรู้หรือพบเห็นการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมน้ี ข้าราชการมีหน้าท่ีต้อง รายงานการฝา่ ฝนื ดงั กลา่ วพรอ้ มพยานหลกั ฐาน(หากม)ี ตอ่ หวั หนา้ สว่ นราชการและหรอื คณะกรรมการจรยิ ธรรมโดยพลัน ในกรณที หี่ วั หนา้ สว่ นราชการเปน็ ผฝู้ า่ ฝนื จรยิ ธรรมตอ้ งรายงานตอ่ ปลดั กระทรวง หรือผบู้ งั คับบญั ชาเหนือข้ันข้ึนไปของหัวหนา้ สว่ นราชการนัน้ แลว้ แต่กรณี และหรอื คณะ กรรมการจริยธรรม (๓) ต้องรายงานการด�ำรงต�ำแหน่งทั้งท่ีได้รับค่าตอบแทนและไม่ได้รับ ค่าตอบแทนในนิติบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน ราชการ สว่ นทอ้ งถนิ่ หนว่ ยงานอนื่ ของรฐั และกจิ การทรี่ ฐั ถอื หนุ้ ใหญ่ ตอ่ หวั หนา้ สว่ นราชการและคณะ กรรมการจริยธรรม ในกรณีที่การด�ำรงต�ำแหน่งนั้นๆ อาจขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่ หรืออาจทำ� ใหก้ ารปฏบิ ตั ิหน้าท่ีเสยี หาย ความในข้อน้ีให้ใชบ้ ังคบั กบั การเปน็ ลกู จ้าง การรบั จ้างทำ� ของ การเปน็ ตัวแทน การเปน็ นายหน้า และการมีนิตสิ ัมพนั ธ์อน่ื ในท�ำนองเดียวกนั ดว้ ย 52 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพอ่ (๔) ในกรณีท่ีข้าราชการเข้าร่วมประชุมและพบว่ามีการกระท�ำซ่ึงมีลักษณะ ตาม (๒) ของข้อนีห้ รือมกี ารเสนอเรื่อง ซง่ึ มีลกั ษณะตาม (๒) ของข้อนีผ้ า่ นข้าราชการ ข้าราชการมีหน้าท่ีต้องคัดค้านการกระท�ำดังกล่าว และบันทึกการคัดค้านของตนไว้ใน รายงานการประชุมหรือในเร่ืองนนั้ แล้วแต่กรณี ขอ้ ๔ ขา้ ราชการตอ้ งมจี ติ สำ� นกึ ทด่ี แี ละความรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี เสยี สละ ปฏบิ ตั ิ หน้าทด่ี ้วยความรวดเรว็ โปรง่ ใส และสามารถตรวจสอบได้ โดยอยา่ งนอ้ ยต้องวางตน ดังนี้ (๑) อุทิศตนให้กับการปฏิบัติงานในหน้าท่ีด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และเตม็ กำ� ลงั ความสามารถทมี่ อี ยู่ ในกรณที ต่ี อ้ งไปปฏบิ ตั งิ านอน่ื ของรฐั ดว้ ย จะตอ้ งไมท่ ำ� ให้ งานในหนา้ ทเ่ี สียหาย (๒) ละเว้นจากการกระทำ� ทง้ั ปวงท่จี ะกอ่ ให้เกดิ ความเสียหายต่อตำ� แหน่งหน้าท่ี ของตนหรอื ขา้ ราชการอืน่ ไม่กา้ วกา่ ยหรอื แทรกแซงการปฏบิ ัติหนา้ ทข่ี องข้าราชการอื่น โดยมิชอบ (๓) ใช้ดุลพินิจและตัดสินใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ ความสามารถ เยย่ี งทป่ี ฏบิ ตั ใิ นวชิ าชพี ตรงไปตรงมา ปราศจากอคตสิ ว่ นตน ตามขอ้ มลู พยานหลกั ฐานและ ความเหมาะสมของแต่ละกรณี (๔) เมอื่ เกดิ ความผดิ พลาดขน้ึ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ตอ้ งรบี แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง และ แจง้ ให้หัวหนา้ สว่ นราชการทราบโดยพลัน (๕) ไม่ขัดขวางการตรวจสอบของหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีตรวจสอบตามกฎหมาย หรือประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยงานท่ีมีหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมายหรือ ประชาชนในการตรวจสอบโดยให้ข้อมูลที่เป็นจริงและครบถ้วน เมื่อได้รับค�ำร้องขอ ในการตรวจสอบ (๖) ไม่ส่ังราชการด้วยวาจาในเรื่องที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ในกรณีท่ีสั่งราชการด้วยวาจาในเรื่องดังกล่าว ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาบันทึกเร่ืองเป็นลาย คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน 53
ลักษณอ์ กั ษรตามค�ำสั่งเพอื่ ให้ผู้พิจารณาสง่ั การต่อไป ขอ้ ๕ ข้าราชการต้องแยกเรื่องส่วนตัวออกจากต�ำแหน่งหน้าที่ และยึดถือ ประโยชนส์ ่วนรวมของประเทศชาติ เหนอื กว่าประโยชน์ส่วนตน โดยอย่างน้อยตอ้ งวาง ตน ดงั น้ี (๑) ไมน่ ำ� ความสมั พนั ธส์ ว่ นตวั ทต่ี นมตี อ่ บคุ คลอน่ื ไมว่ า่ จะเปน็ ญาตพิ นี่ อ้ ง พรรค พวก เพ่อื นฝูง หรอื ผ้มู ีบุญคณุ สว่ นตัว มาประกอบการใช้ดลุ พินิจใหเ้ ปน็ คณุ หรือเป็นโทษ แก่บุคคลนัน้ หรอื ปฏบิ ตั ติ อ่ บคุ คลน้นั ตา่ งจากบุคคลอน่ื เพราะชอบหรอื ชงั (๒) ไม่ใช้เวลาราชการ เงิน ทรัพย์สิน บุคลากร บริการ หรือสิ่งอ�ำนวยความ สะดวกของทางราชการไปเพอื่ ประโยชนส์ ว่ นตวั ของตนเองหรอื ผอู้ นื่ เวน้ แตไ่ ดร้ บั อนญุ าต โดยชอบด้วยกฎหมาย (๓) ไม่กระท�ำการใด หรือด�ำรงต�ำแหน่ง หรือปฏิบัติการใดในฐานะส่วนตัว ซ่ึง ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงหรือสงสัยว่าจะขัดกับประโยชน์ส่วนรวมที่อยู่ใน ความรับผดิ ชอบของหน้าท่ี ในกรณมี คี วามเคลอื บแคลงหรอื สงสยั ใหข้ า้ ราชการผนู้ นั้ ยตุ กิ ารกระทำ� ดงั กลา่ ว ไว้ก่อน แล้วแจ้งให้ผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการจริยธรรม พิจารณา เมอื่ คณะกรรมการจรยิ ธรรมวินจิ ฉยั เปน็ ประการใดแลว้ จึงปฏบิ ตั ิตามน้ัน (๔) ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทท่ี รี่ บั ผดิ ชอบในหนว่ ยงานโดยตรงหรอื หนา้ ทอ่ี น่ื ในราชการ รฐั วสิ าหกจิ องคก์ ารมหาชน หรอื หนว่ ยงานของรฐั ข้าราชการตอ้ งยดึ ถอื ประโยชนข์ อง ทางราชการเป็นหลัก ในกรณีท่ีมีความขัดแย้งระหว่างประโยชน์ของทางราชการ หรือ ประโยชน์กับประโยชน์ส่วนตนหรือส่วนกลุ่ม อันจ�ำเป็นต้องวินิจฉัยหรือช้ีขาด ต้องยึด ประโยชนข์ องทางราชการและประโยชนส์ ่วนรวมเปน็ สำ� คัญ ข้อ ๖ ข้าราชการต้องละเว้นจากการแสวงประโยชน์ที่มิชอบโดยอาศัยต�ำแหน่ง หน้าที่และไม่กระท�ำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ ส่วนรวม โดยอย่างน้อยตอ้ งวางตน ดังน้ี 54 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพ่อ (๑) ไม่เรียก รับ หรือยอมจะรับ หรือยอมให้ผู้อื่นเรียก รับ หรือยอมจะรับซ่ึง ของขวัญแทนตนหรือญาติของตน ไม่ว่าก่อนหรือหลังด�ำรงต�ำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าท่ี ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่เก่ียวข้องกับการปฏิบัติหน้าท่ีหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่เป็นการให้ โดยธรรมจรรยา หรือเปน็ การให้ตามประเพณหี รอื ให้แก่บุคคลทั่วไป (๒) ไม่ใชต้ ำ� แหนง่ หรอื กระทำ� การทเ่ี ปน็ คณุ หรอื เปน็ โทษแกบ่ คุ คลใด เพราะมี อคติ (๓) ไม่เสนอ หรืออนุมัติโครงการ การด�ำเนินการ หรือการท�ำนิติกรรมหรือ สัญญา ซ่ึงตนเองหรือบุคคลอื่นจะได้ประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายหรือ ประมวลจรยิ ธรรมน้ี ข้อ ๗ ข้าราชการต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย อย่างตรงไปตรงมา โดยอย่างน้อยตอ้ งวางตน ดังนี้ (๑) ไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย กฎ ข้อบังคับหรือมติคณะรัฐมนตรีท่ีชอบ ดว้ ยกฎหมาย ในกรณีมขี อ้ สงสยั หรอื มขี ้อทักท้วงวา่ การกระทำ� ไมช่ อบด้วยรฐั ธรรมนญู กฎหมาย กฎ ข้อบงั คับ หรอื มตคิ ณะรัฐมนตรที ่ีชอบด้วยกฎหมาย ขา้ ราชการต้องแจง้ ใหห้ ัวหนา้ ส่วนราชการและคณะกรรมการ จริยธรรมพจิ ารณา และจะด�ำเนินการตอ่ ไป ไดต้ ่อเมอ่ื ไดข้ ้อยุตจิ ากหน่วยงานทมี่ อี �ำนาจหน้าทแ่ี ลว้ (๒) ในกรณีท่ีเห็นว่าค�ำส่ังผู้บังคับบัญชา หรือการด�ำเนินการใดที่ตนมีส่วน เกี่ยวข้องไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ต้องทักท้วงเป็น ลายลักษณ์อักษรไว้ (๓) ในกรณที เี่ หน็ วา่ มตคิ ณะรฐั มนตรีไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย ตอ้ งทำ� เรอื่ งเสนอให้ หัวหน้าส่วนราชการพิจารณา และส่งเร่ืองให้ส�ำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด�ำเนินการ ให้ได้ข้อยุตทิ างกฎหมายต่อไป (๔) ไมเ่ ล่ียงกฎหมาย ใช้หรอื แนะนำ� ให้ใชช้ อ่ งว่างของกฎหมายทีอ่ ยู่ในความรับ ผดิ ชอบของตนเพอื่ ประโยชนข์ องตนเองหรอื ผอู้ น่ื และตอ้ งเรง่ แกไ้ ขชอ่ งวา่ งดงั กลา่ วโดยเรว็ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชมุ ชน 55
(๕) ไม่ยอมให้บุคคลอ่ืนอาศัยชื่อตนเองถือครองทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์ อ่ืนใดแทนบุคคลอื่นอันเป็นการเล่ียงกฎหมาย หรือใช้ช่ือบุคคลอ่ืนถือครองส่ิงดังกล่าว แทนตนเพอื่ ปกปดิ ทรัพย์สนิ ของตน (๖) เมอ่ื ทราบวา่ มกี ารละเมดิ หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมายในสว่ นราชการของตน หวั หน้าสว่ นราชการตอ้ งด�ำเนนิ การที่จำ� เปน็ เพอ่ื ให้เกิดการเคารพกฎหมายขึน้ โดยเรว็ (๗) เมอ่ื ไดร้ บั คำ� รอ้ ง หรอื คำ� แนะนำ� จากผตู้ รวจการแผน่ ดนิ หรอื หนว่ ยงานอนื่ วา่ กฎหมาย กฎ หรอื ขอ้ บงั คบั ทอ่ี ยู่ในความรบั ผดิ ชอบของสว่ นราชการของตน สรา้ งภาระ เกนิ สมควรแกป่ ระชาชน หรอื สร้างความไมเ่ ปน็ ธรรมใหเ้ กิดขึ้น ต้องดำ� เนนิ การทบทวน กฎหมาย กฎ หรือข้อบังคบั ดังกล่าวโดยเรว็ ขอ้ ๘ ข้าราชการต้องปฏิบตั ิหน้าที่ดว้ ยความเทีย่ งธรรม เป็นกลางทางการเมือง ใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชนโดยมอี ธั ยาศยั ทดี่ แี ละไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั โิ ดยไมเ่ ปน็ ธรรม โดยอยา่ งนอ้ ย ต้องวางตน ดงั น้ี (๑) ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีใหล้ ลุ ว่ ง โดยไมห่ ลกี เลย่ี ง ละเลย หรอื ละเวน้ การใชอ้ ำ� นาจเกนิ กว่าทม่ี ีอยตู่ ามกฎหมาย (๒) ปฏิบตั หิ นา้ ที่ หรือด�ำเนนิ การอื่น โดยคำ� นึงถงึ ศักดิ์ศรีความเปน็ มนุษย์ และ สทิ ธเิ สรภี าพของบคุ คล ไมก่ ระทำ� การใหก้ ระทบสทิ ธเิ สรภี าพของบคุ คลหรอื กอ่ ภาระหรอื หน้าท่ีใหบ้ ุคคลโดยไม่มอี �ำนาจตามกฎหมาย (๓) ใหบ้ รกิ ารและอำ� นวยความสะดวกแกป่ ระชาชนโดยมอี ธั ยาศยั ทดี่ ี ปราศจาก อคติ และไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ติ อ่ บคุ คลผมู้ าตดิ ตอ่ โดยไมเ่ ปน็ ธรรมในเรอ่ื งถน่ิ กำ� เนดิ เชอ้ื ชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะ ทางเศรษฐกจิ หรอื สงั คม ความเชอ่ื ทางศาสนา การศกึ ษา อบรม หรอื ความคดิ เหน็ ทางการเมอื ง อันไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เว้นแต่จะด�ำเนินการตามมาตรการท่ีรัฐก�ำหนดข้ึน เพ่ือขจัด อุปสรรค หรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้ เช่นเดียวกับบุคคลอื่น หรือเปน็ การเลือกปฏิบัติที่มีเหตผุ ล เป็นธรรม และเปน็ ท่ียอมรับกนั ท่ัวไป 56 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพ่อ (๔) ละเวน้ การใหส้ มั ภาษณ์ การอภปิ ราย การแสดงปาฐกถา การบรรยาย หรอื การวิพากษ์วิจารณ์อันกระทบต่อความเป็นกลางทางการเมือง เว้นแต่เป็นการแสดง ความเห็นทางวชิ าการตามหลกั วชิ า (๕) ไม่เอื้อประโยชน์เป็นพิเศษให้แก่ญาติพี่น้อง พรรคพวก เพื่อนฝูงหรือผู้มี บญุ คณุ และตอ้ งปฏบิ ัตหิ นา้ ทีด่ ว้ ยความเที่ยงธรรมไม่เห็นแก่หนา้ ที่ผูใ้ ด (๖) ไม่ลอกหรือน�ำผลงานของผ้อู ่ืนมาใช้เป็นของตนเองโดยมิได้ระบแุ หล่งที่มา ข้อ ๙ ข้าราชการต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารทางราชการ อย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว ไม่ถ่วงเวลาให้เน่ินช้าและใช้ข้อมูลข่าวสารท่ีได้มาจากการ ดำ� เนนิ งานเพอ่ื การในหนา้ ทแ่ี ละใหข้ อ้ มลู ขา่ วสารแกป่ ระชาชนอยา่ งครบถว้ น ถกู ตอ้ ง ทนั การณ์ และไม่บดิ เบือนข้อเทจ็ จริง โดยอย่างนอ้ ยตอ้ งวางตน ดงั นี้ (๑) ไม่ใช้ข้อมูลที่ได้มาจากการด�ำเนินงานไปเพ่ือการอ่ืน อันไม่ใช่การปฏิบัติ หนา้ ที่โดยเฉพาะอย่างยง่ิ เพอ่ื เอ้ือประโยชนแ์ ก่ตนเองหรอื บคุ คลอ่ืน (๒) ชี้แจง แสดงเหตุผลท่ีแท้จริงอย่างครบถ้วนในกรณีที่กระท�ำการอันกระทบ ต่อสทิ ธิและเสรีภาพบคุ คลอ่นื ไม่อนุญาต หรอื ไม่อนมุ ัตติ ามค�ำขอของบุคคล หรอื เมื่อ บุคคลร้องขอตามกฎหมายเว้นแต่การอันคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครองไดก้ ำ� หนดยกเวน้ ไว้ ทงั้ นี้ จะตอ้ งดำ� เนนิ การภายในสบิ หา้ วันท�ำการ นบั แตก่ ระท�ำการดงั กล่าวหรอื ได้รับการร้องขอ ข้อ ๑๐ ข้าราชการต้องมุ่งผลสัมฤทธ์ิของงาน รักษาคุณภาพและมาตรฐาน แหง่ วชิ าชีพโดยเคร่งครัด โดยอย่างน้อยต้องวางตน ดงั น้ี (๑) ปฏิบัติงานโดยมุ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้เกิดผลดีท่ีสุด จนเตม็ ก�ำลังความสามารถ (๒) ใชง้ บประมาณ ทรพั ยส์ นิ สทิ ธแิ ละประโยชนท์ ที่ างราชการจดั ให้ ดว้ ยความ ประหยัด คุม้ ค่า ไมฟ่ มุ่ เฟอื ย (๓) ใชค้ วามรู้ความสามารถ ความระมดั ระวงั ในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ ตามคณุ ภาพ คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน 57
และมาตรฐานวชิ าชพี โดยเคร่งครัด ขอ้ ๑๑ ข้าราชการต้องยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข โดยอยา่ งนอ้ ยตอ้ งวางตน ดังน้ี (๑) ไมแ่ สดงการตอ่ ตา้ นการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ ทรงเป็นประมุข หรือสนับสนุนให้น�ำการปกครองในระบอบอื่นที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขมาใชใ้ นประเทศไทย (๒) จงรกั ภกั ดตี อ่ พระมหากษตั รยิ ์ และไมล่ ะเมดิ องคพ์ ระมหากษตั รยิ ์ พระราชนิ ี และพระรัชทายาทไม่วา่ ทางกาย หรือทางวาจา ข้อ ๑๒ ข้าราชการต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการด�ำรงตน รักษาชื่อเสียงและ ภาพลักษณ์ของราชการโดยรวม โดยอยา่ งนอ้ ยต้องวางตน ดังน้ี (๑) ไม่ละเมิดหลักส�ำคัญทางศีลธรรม ศาสนา และประเพณี ในกรณีท่ีมี ขอ้ ขดั แยง้ ระหวา่ งประมวลจรยิ ธรรมนก้ี บั หลกั สำ� คญั ทางศลี ธรรม ศาสนา หรอื ประเพณี ขา้ ราชการต้องเสนอเรอื่ งใหค้ ณะกรรมการจรยิ ธรรมพจิ ารณาวิจยั (๒) หัวหน้าส่วนราชการและผู้บังคับบัญชาในส่วนราชการทุกระดับชั้นต้อง ปกครองผอู้ ย่ใู ตบ้ งั คบั บญั ชาดว้ ยความเทย่ี งธรรม โดยไมเ่ หน็ แกค่ วามสมั พนั ธห์ รอื บญุ คณุ ส่วนตัว และควบคุมใหผ้ อู้ ยู่ใต้บังคบั บัญชาปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรมโดยเคร่งครัด (๓) หัวหน้าส่วนราชการและผู้บังคับบัญชาในส่วนราชการทุกระดับช้ันต้อง สนับสนุนส่งเสริมและยกย่องผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่มีความซื่อสัตย์ มีผลงานดีเด่น มคี วามรคู้ วามสามารถและขยนั ขนั แขง็ ไมเ่ ลอื กทรี่ กั มกั ทช่ี งั และยดึ มน่ั ในระบบคณุ ธรรม (๔) ไม่กระท�ำการใดอันอาจน�ำความเสื่อมเสียและไม่ไว้วางใจให้เกิดแก่ ส่วนราชการหรือราชการโดยรวม 58 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพฒั นาชุมชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพ่อ หมวด ๓ กลไกและระบบการบงั คบั ใช้ประมวลจริยธรรม สว่ นที่ ๑ องค์กรค้มุ ครองจริยธรรม ข้อ ๑๓ ก.พ. มีหน้าท่ีควบคุมก�ำกับให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมอย่าง ทัว่ ถึงและจริงจงั โดยมีอำ� นาจหน้าที่ ดงั น้ี (๑) วางระเบียบเพื่อก�ำหนดการทั้งหลายอันจ�ำเป็นแก่การใช้บังคับประมวล จริยธรรม (๒) คุ้มครองและประกันความเป็นอิสระและเท่ียงธรรมของคณะกรรมการ จรยิ ธรรมและกลมุ่ งานคมุ้ ครองจริยธรรม (๓) คุ้มครองข้าราชการซ่ึงปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้อย่างตรงไปตรงมา มิให้ผบู้ ังคบั บัญชาใชอ้ ำ� นาจโดยไมเ่ ป็นธรรมตอ่ ขา้ ราชการนนั้ (๔) เผยแพร่และปลูกฝังจริยธรรมให้เป็นท่ีรับทราบอย่างกว้างขวางท้ังในหมู่ ข้าราชการและประชาชน (๕) ส่งเสริมและยกย่องส่วนราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บังคับบัญชา และ ขา้ ราชการที่ปฏิบตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมอยา่ งจรงิ จัง (๖) ติดตาม สอดส่องการใช้บังคับ และการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมน้ี ในกรณีมีการฝ่าฝืนจริยธรรมและยังไม่มีการด�ำเนินการใด ก.พ. อาจมีมติให้หัวหน้า ส่วนราชการของข้าราชการผฝู้ า่ ฝนื ปฏิบตั ติ ามประมวลจริยธรรมได้ คณะกรรมการจริยธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชมุ ชน 59
(๗) ประสานงานกบั ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ เพอ่ื ใหก้ ารปฏบิ ตั ติ ามคา่ นยิ มหลกั สำ� หรบั ผู้ด�ำรงตำ� แหน่งทางการเมือง และเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ตลอดจนประมวลจรยิ ธรรมนี้มีผล ใชบ้ ังคบั อย่างจริงจงั มีประสทิ ธิภาพและทว่ั ถงึ (๘) ประเมินผลการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมน้ี ของหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการจริยธรรม แล้วข้าราชการท้ังปวง และจัดท�ำรายงานประจ�ำปีเสนอ คณะรฐั มนตรี และผู้ตรวจการแผน่ ดนิ แลว้ เผยแพร่ใหป้ ระชาชนทราบ (๙) ตคี วาม และวินิจฉัยช้ีขาดปัญญาอนั เกิดจากประมวลจรยิ ธรรมน้ี (๑๐) ประมวลการตีความและวินิจฉัยปัญหาอันเกิดจากการใช้บังคับประมวล จรยิ ธรรมนที้ กุ ปี และเผยแพร่ใหข้ า้ ราชการทราบเพอ่ื ยดึ ถอื และเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ติ อ่ ไป (๑๑) ทบทวนว่าสมควรแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลจรยิ ธรรมนห้ี รือไม่ทุกสป่ี ี (๑๒) ด�ำเนินการอ่ืนตามประมวลจริยธรรมนี้ หรือตามที่ตกลงกับผู้ตรวจการ แผน่ ดนิ ข้อ ๑๔ ให้ ก.พ. โดยข้อเสนอของหัวหน้าส่วนราชการ แต่งต้ังคณะกรรมการ จรยิ ธรรมประจำ� สว่ นราชการขน้ึ เพอื่ ควบคมุ กำ� กบั ใหม้ กี ารปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี คณะกรรมการจรยิ ธรรมประกอบดว้ ย (๑) ประธานกรรมการ ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการเสนอจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ผมู้ ีความซ่ือสตั ยเ์ ปน็ ประจกั ษโ์ ดยไดร้ ับความเหน็ ชอบจาก ก.พ. (๒) กรรมการผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ประเภทบรหิ ารหรอื ประเภทอำ� นวยการเลอื กกนั เอง ใหเ้ หลือสองคน (๓) กรรมการสองคนซ่ึงเป็นข้าราชการในส่วนราชการท่ีได้รับคัดเลือกจาก ข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างของส่วนราชการน้ัน ตามวิธีการด�ำเนินการท่ี แตล่ ะสว่ นราชการเห็นสมควร (๔) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกสองคน ซ่ึงหัวหน้าส่วนราชการและ รองหัวหนา้ สว่ นราชการรว่ มกันเสนอ 60 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพ่อ ใหห้ ัวหนา้ กลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมเป็นเลขานกุ ารคณะกรรมการจรยิ ธรรม กรรมการจริยธรรมต้องไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย และเป็นผู้มีเกียรติ เป็นที่ ยอมรบั ของสว่ นราชการน้ัน ข้อ ๑๕ คณะกรรมการจริยธรรมมีอำ� นาจหนา้ ที่ ดังนี้ (๑) ควบคุม ก�ำกับ สง่ เสรมิ และใหค้ ำ� แนะนำ� การใช้บังคบั ประมวลจริยธรรมใน สว่ นราชการ (๒) สอดสอ่ งดแู ลใหม้ กี ารปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมในสว่ นราชการ ในกรณี ทม่ี ขี อ้ สงสยั หรอื มขี อ้ รอ้ งเรยี นวา่ มกี ารฝา่ ฝนื จรยิ ธรรม ใหส้ ง่ เรอื่ งใหห้ วั หนา้ สว่ นราชการ เพอื่ ปฏบิ ัตติ ามประมวลจรยิ ธรรมโดยเร็ว (๓) พิจารณาวินิจฉัยช้ีขาดปัญหาอันเกิดจากการใช้บังคับประมวลจริยธรรมนี้ ในสว่ นราชการเมอ่ื ไดว้ นิ จิ ฉยั แลว้ ใหส้ ง่ คำ� วนิ จิ ฉยั ให้ ก.พ. โดยพลนั ถา้ ก.พ. มไิ ดว้ นิ จิ ฉยั เปน็ อยา่ งอน่ื ภายในหกสบิ วนั นบั แตว่ นั ท่ี ก.พ. รบั เรอ่ื ง ใหค้ ำ� วนิ จิ ฉยั ของคณะกรรมการ จริยธรรมเป็นทีส่ ุด (๔) สง่ เรอ่ื งให้ ก.พ. พจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ในกรณที เ่ี หน็ วา่ เรอ่ื งนเ้ี ปน็ เรอ่ื งสำ� คญั หรอื มีผลกระทบในวงกว้างหลายสว่ นราชการ และยงั ไมม่ คี �ำวนิ ิจฉัยของ ก.พ. หรือผู้ตรวจ การแผน่ ดิน (๕) คุ้มครองและประกันความเป็นอิสระและเที่ยงธรรมของกลุ่มงานคุ้มครอง จริยธรรมของสว่ นราชการ (๖) คุ้มครองข้าราชการซึ่งปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมน้ีอย่างตรงไปตรงมา มใิ หผ้ บู้ งั คบั บัญชาใชอ้ ำ� นาจโดยไม่เป็นธรรมต่อข้าราชการผู้น้นั (๗) เสนอผลการประเมินการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมน้ีของหัวหน้าส่วน ราชการตอ่ ก.พ. และประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของกลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมของสว่ น ราชการเพอื่ เสนอหวั หนา้ สว่ นราชการเพอื่ ประกอบการเลอื่ นเงนิ เดอื น หรอื เลอ่ื นตำ� แหนง่ ข้าราชการในกลุ่มงาน คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน 61
(๘) เสนอแนะการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลจริยธรรมนี้ หรือการอื่นที่เป็นสมควร ตอ่ ก.พ. (๙) ดำ� เนนิ การอื่นตามประมวลจริยธรรมนี้ หรอื ตามที่ ก.พ. มอบหมาย การประชุมคณะกรรมการจริยธรรมให้น�ำกฎหมายว่าด้วยวิธีการปฏิบัติราชการ ทางปกครองมาบังคับใช้ ขอ้ ๑๖ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารส่วนราชการต้ังแต่ผู้ด�ำรงต�ำแหน่ง ประเภทบรหิ าร ประเภทอำ� นวยการ หรอื ดำ� รงตำ� แหนง่ ประเภทอนื่ ทท่ี ำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ผบู้ งั คบั บัญชามีหน้าท่ีปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้ และประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา ควบคมุ ใหผ้ อู้ ยู่ใตบ้ งั คบั บญั ชาปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนี้ สนบั สนนุ ส่งเสริมผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่มีความซ่ือสัตย์ มีผลงานและความรู้ความสามารถ และ ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้ โดยใหม้ ีอ�ำนาจหน้าท่ดี งั ต่อไปนี้ (๑) คุ้มครองและประกันความเป็นอิสระและเท่ียงธรรมของกลุ่มงานคุ้มครอง จริยธรรมของส่วนราชการ (๒) คุ้มครองข้าราชการซ่ึงปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้อย่างตรงไปตรงมา มิให้ถูกกล่ันแกล้งหรือถูกใช้อ�ำนาจโดยไม่เป็นธรรม ในกรณีท่ีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารศูนย์ราชการต้ังแต่ประเภทอ�ำนวยการข้ึนไป ทุกข้าราชการผู้ใดกล่าวหาว่า ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี ขา้ ราชการผถู้ กู กลา่ วหานนั้ ไมอ่ าจดำ� เนนิ การเกยี่ วกบั การออกค�ำส่ังแต่งต้ัง โยกย้าย เลื่อนเงินเดือน แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื คณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ยั หรอื การดำ� เนนิ การใดทเี่ ปน็ ผลรา้ ยหรอื กระทบตอ่ สิทธหิ น้าทีข่ องขา้ ราชการผูก้ ลา่ วหานั้น จะกระทำ� มิไดเ้ วน้ แต่ไดร้ บั ความเห็น ชอบจากคณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำส่วนราชการแล้ว (๓) สง่ เสรมิ และเผยแพรก่ ารปฏบิ ัติตามประมวลจรยิ ธรรมอย่างสม�ำ่ เสมอ (๔) ติดตามสอดสอ่ งใหข้ า้ ราชการในส่วนราชการปฏิบัติตามประมวลจรยิ ธรรม นอ้ี ย่างเคร่งครดั 62 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพ่อ (๕) ปฏิบัติตามมติหรือค�ำวินิจฉัย ก.พ. หรือคณะกรรมการจริยธรรม คำ� แนะนำ� ของผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ในกรณที คี่ ณะกรรมการจรยิ ธรรมมคี ำ� วนิ จิ ฉยั ใด และ หัวหน้าส่วนราชการไม่เห็นพ้องด้วยกับค�ำวินิจฉัยนั้น ให้เสนอความเห็นของตนและ คำ� วนิ จิ ฉยั ของคณะกรรมการจรยิ ธรรมไปให้ ก.พ. วนิ จิ ฉยั ได้ เวน้ แตก่ รณนี นั้ มคี ำ� วนิ จิ ฉยั ของผ้ตู รวจการแผน่ ดนิ หรือ ก.พ. วินจิ ฉัยเสร็จเด็ดขาดไว้แล้ว (๖) รวบรวมปญั หาการปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนี้ และขอ้ เสนอแนะในการ ปรบั ปรุงประมวลจรยิ ธรรมน้ี หรอื การอน่ื ตามท่เี หน็ สมควรเสนอตอ่ ก.พ. (๗) ดำ� เนินการอืน่ ตามประมวลจริยธรรมน้ี หรือตามท่ผี ู้ตรวจการแผน่ ดิน หรือ ก.พ. มอบหมาย ข้อ ๑๗ ให้จัดตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมข้ึนในทุกส่วนราชการข้ึนตรงต่อ หัวหน้าส่วนราชการ มหี น้าท่ีคมุ้ ครองจริยธรรมตามประมวลจรยิ ธรรมน้ี ซง่ึ มีความเปน็ อิสระ โดยมีข้าราชการซ่ึงด�ำรงตำ� แหน่งประเภทบริหารระดับต้นข้ึนไปเป็นหัวหน้ากลุ่ม และมีอ�ำนาจหนา้ ท่ี ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ดำ� เนนิ การเผยแพร่ ปลกู ฝงั สง่ เสรมิ ยกยอ่ งขา้ ราชการทเี่ ปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี และติดตามสอดสอ่ งการปฏบิ ัตติ ามประมวลจรยิ ธรรมนีอ้ ยา่ งสม่ำ� เสมอ (๒) สบื สวนขอ้ เทจ็ จรงิ การฝา่ ฝนื จรยิ ธรรมเพอ่ื รายงานผลใหห้ วั หนา้ สว่ นราชการ พจิ ารณา ทงั้ น้ี โดยอาจมผี รู้ อ้ งขอหรอื อาจดำ� เนนิ การตามทห่ี วั หนา้ สว่ นราชการมอบหมาย หรอื ตามทเี่ หน็ สมควรก็ได้ (๓) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื และดแู ลขา้ ราชการซง่ึ ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนอ้ี ยา่ ง ตรงไปตรงมา มิให้ถกู กลน่ั แกลง้ หรือถกู ใช้อำ� นาจโดยไมเ่ ป็นธรรม ให้น�ำความในขอ้ ๑๖ (๒) มาใช้กับขา้ ราชการในกลมุ่ งานคุม้ ครองจริยธรรมดว้ ย โดยอนุโลมโดยให้ ก.พ. เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ (๔) ทำ� หนา้ ทฝ่ี า่ ยเลขานกุ ารของคณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำสว่ นราชการ (๕) ด�ำเนินการอ่ืนตามท่ีก�ำหนดในประมวลจริยธรรมน้ี หรือตามที่หัวหน้า คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน 63
สว่ นราชการคณะกรรมการจรยิ ธรรม หรอื ตามที่ ก.พ. มอบหมาย ทงั้ น้ี โดยไมก่ ระทบตอ่ ความเปน็ อิสระของผู้ดำ� รงต�ำแหนง่ ในกลุ่มงานดงั กลา่ ว สว่ นที่ ๒ ระบบการบงั คับใช้ประมวลจรยิ ธรรม ขอ้ ๑๘ การฝ่าฝืนจริยธรรมตามความในหมวด ๒ ของประมวลจริยธรรมน้ี เป็นความผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ระเบยี บสำ� นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรอื ระเบยี บ กระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยลูกจา้ งประจำ� ของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๓๗ แล้วแตก่ รณี ข้อ ๑๙ เม่ือมีกรณีการฝ่าฝืนจริยธรรม ผู้บังคับบัญชาอาจส่ังลงโทษทางวินัย วา่ กล่าวตกั เตือน ท�ำทัณฑบ์ นเปน็ หนงั สอื หรือส่ังให้ได้รับการพฒั นาตามที่เหน็ สมควร ข้อ ๒๐ ให้หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการจริยธรรม และ ก.พ. ส่งเสริม จรยิ ธรรมขา้ ราชการ โดยอยา่ งน้อยตอ้ งด�ำเนนิ การ ดงั นี้ (๑) ในการบรรจแุ ตง่ ตงั้ เลอ่ื นเงนิ เดอื น ยา้ ยหรอื โอนขา้ ราชการ ใหใ้ ชพ้ ฤตกิ รรม ทางจริยธรรมของผู้นนั้ พิจารณาควบค่กู ับความรู้ความสามารถ (๒) ปลูกฝังจริยธรรมให้ข้าราชการใหม่ จัดให้ข้าราชการลงลายมือช่ือรับทราบ ประมวลจรยิ ธรรม จดั ใหม้ สี มดุ บนั ทึกประวัติในสว่ นท่ีเกย่ี วกบั จรยิ ธรรมของขา้ ราชการ แต่ละคน รวมทั้งจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมจริยธรรมผู้บริหาร และข้าราชการ อยา่ งสม่ำ� เสมอ (๓) ประเมนิ การปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการ (๔) คมุ้ ครองขา้ ราชการผู้ปฏิบตั ิตามประมวลจรยิ ธรรมนอ้ี ยา่ งเพยี งพอ (๕) ยกยอ่ งขา้ ราชการในสว่ นราชการทถ่ี อื ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนโ้ี ดยเครง่ ครดั 64 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพ่อ (๖) ตอบขอ้ สงสยั หรือค�ำถามเกยี่ วกับการปฏบิ ตั ิตามประมวลจริยธรรมน้ี (๗) จดั ใหม้ กี ารศกึ ษาคา่ นยิ มทเ่ี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรม น้แี ละด�ำเนนิ การแกไ้ ขปรับเปลีย่ นค่านยิ มน้นั (๘) เผยแพร่ให้ประชาชน ผู้เป็นคู่สมรส ญาติ พี่น้อง พรรคพวกเพ่ือนฝูงของ ข้าราชการตลอดจนประชาชนผู้มาติดต่อราชการจะประมวลจริยธรรมของข้าราชการ เพอ่ื ไมท่ ำ� การอนั เปน็ การสง่ เสริมหรือก่อให้เกดิ การฝา่ ฝืนจรยิ ธรรม (๙) จดั ใหม้ กี ารประเมินผลการปฏิบตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนี้ ขอ้ ๒๑ เม่ือมีปัญหาการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมน้ีในเร่ืองใด ข้าราชการ อาจเสนอเรอ่ื งทเี่ ปน็ ปญั หาดงั กลา่ วใหห้ วั หนา้ กลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมของสว่ นราชการ ทต่ี นสังกดั นำ� เสนอเพื่อขอทำ� วจิ ยั หรอื อนญุ าตแล้วแต่กรณจี ากคณะกรรมการจรยิ ธรรม ได้ ในกรณีนเี้ รื่องน้ันเปน็ เรอื่ งส�ำคัญหรอื มีผลกระทบในวงกวา้ งหลายสว่ นราชการ และ ยงั ไมม่ คี ำ� วนิ จิ ฉยั ของ ก.พ. หรอื ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ แลว้ แตก่ รณี คณะกรรมการจรยิ ธรรม อาจส่งเร่อื งให้ ก.พ. วนิ ิจฉยั ในกรณที ่ี ก.พ. เหน็ วา่ เรอื่ งดงั กลา่ วตามวรรคหนงึ่ เปน็ เรอ่ื งสำ� คญั อนั ควรแกก่ าร ขอค�ำแนะนำ� จากผู้ตรวจการแผ่นดินก็ให้กระท�ำได้ ขา้ ราชการทป่ี ฏบิ ตั ติ ามคำ� วนิ จิ ฉยั ของคณะกรรมการจรยิ ธรรม ก.พ. หรอื ผตู้ รวจ การแผ่นดนิ ไม่ต้องรับผดิ ทางวินยั ขอ้ ๒๒ ในกรณีทจี่ �ำเปน็ ต้องดำ� เนนิ การเร่อื งใดโดยดว่ น หากปลอ่ ยให้เนิน่ ชา้ ไป จะกระทบต่อประโยชนส์ ่วนรวมหรือประโยชน์ของทางราชการ และไม่อาจเรียกประชมุ คณะกรรมการจรยิ ธรรมไดท้ นั ขา้ ราชการอาจขอคำ� แนะนำ� จากหวั หนา้ กลมุ่ งานคมุ้ ครอง จริยธรรมของส่วนราชการท่ีตนสังกดั หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมตามวรรคหนึ่งมีหน้าที่ต้องให้ค�ำแนะน�ำตาม สมควรตามคำ� วินจิ ฉยั ของคณะกรรมการจริยธรรม ก.พ. หรอื ผตู้ รวจการแผน่ ดิน หาก ไม่มีค�ำวนิ จิ ฉัยในเรอ่ื งทีเ่ ปน็ ปัญหามาก่อน หัวหน้ากลมุ่ งานค้มุ ครองจริยธรรมอาจให้ค�ำ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 65
แนะน�ำโดยยึดประโยชน์สูงสุดของส่วนรวมเป็นสำ� คัญ ทั้งต้องมุ่งสร้างความส�ำนึกและ เท่ียงธรรมในหน้าท่ี ผดุงเกียรติและศักดิ์ศรีของข้าราชการที่สร้างความไว้วางใจและ เชอื่ ม่นั ของปวงชน และการด�ำรงตนเป็นแบบอยา่ งทดี่ งี าม ใหส้ ่งเรื่องให้คณะกรรมการ จริยธรรมและ ก.พ. ทราบ ข้าราชการท่ีปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำของหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมตาม แนวทางท่คี ณะกรรมการจรยิ ธรรม ก.พ. หรือผูต้ รวจการแผ่นดินเคยวินิจฉยั ไว้แล้วโดย สจุ ริตไม่ตอ้ งรบั ผิดทางวินัย บทเฉพาะกาล ข้อ ๒๓ ใหด้ ำ� เนนิ การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการจรยิ ธรรมและจดั ตง้ั กลมุ่ งานคมุ้ ครอง จรยิ ธรรมในสว่ นราชการทกุ แหง่ ภายในเกา้ สบิ วนั นบั แตว่ นั ทป่ี ระมวลจรยิ ธรรมนมี้ ผี ลใชบ้ งั คบั ขอ้ ๒๔ เมื่อครบหนึ่งปีนับแต่วันท่ีประมวลจริยธรรมน้ีมีผลใช้บังคับ ให้ ก.พ. จดั ใหม้ กี ารประเมนิ การปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี พรอ้ มดำ� เนนิ การปรบั ปรงุ แนวทาง การปฏิบัตหิ รอื แกไ้ ขเพิม่ เติมประมวลจริยธรรมใหเ้ หมาะสม ในการด�ำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ ก.พ. รับฟังความคิดเห็นจากข้าราชการ หวั หนา้ กลมุ่ งานค้มุ ครองจริยธรรม คณะกรรมการจริยธรรม หัวหนา้ สว่ นราชการ และ ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ อยา่ งกวา้ งขวางและตอ้ งดำ� เนนิ การตามวรรคหนงึ่ ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน ร้อยแปดสิบวนั นบั แตว่ ันที่ครบหนึ่งปีของการใชบ้ งั คบั ประมวลจริยธรรมน้ี ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๒ อภสิ ทิ ธิ์ เวชชาชวี ะ นายกรฐั มนตรี ประธาน ก.พ. 66 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพัฒนาชมุ ชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพอ่ ขอ้ บงั คบั กรมการพฒั นาชมุ ชน วา่ ด้วยจริยธรรมและจรรยาขา้ ราชการกรมการพฒั นาชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามท่ี กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดท�ำข้อบังคับกรมการพัฒนาชุมชน ว่าด้วย จรรยาขา้ ราชการกรมการพฒั นาชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๕๒ และมาตรฐานจรยิ ธรรมของผดู้ ำ� รง ตำ� แหนง่ พฒั นาการจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๕๗ นน้ั เนอ่ื งจากทงั้ สองฉบบั มลี กั ษณะใกลเ้ คยี งกนั คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ� กรมการพฒั นาชมุ ชน ไดม้ มี ตเิ สนอเหน็ ควรใหร้ วบรวมไว้ เป็นฉบบั เดียวกนั เพอื่ ใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพในการบังคบั ใช้ให้เปน็ ไปในแนวทางเดยี วกัน อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา ๗๘ และมาตรา ๗๙ แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บ ขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ และประมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๒ กรมการพัฒนาชุมชนจึงออกข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมและจรรยาข้าราชการ กรมการพัฒนาชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๙ ดังต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับกรมการพัฒนาชุมชนว่าด้วยจริยธรรมและ จรรยาขา้ ราชการกรมการพฒั นาชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๕๙” ขอ้ ๒ ขอ้ บงั คบั นี้ใหใ้ ชบ้ งั คับตัง้ แตว่ ันที่ประกาศเป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ (๑) ข้อบังคับกรมการพัฒนาชุมชน ว่าด้วยจรรยาข้าราชการกรมการพัฒนา ชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๒ (๒) มาตรฐานจริยธรรมของผดู้ ำ� รงตำ� แหน่งพัฒนาการจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพฒั นาชมุ ชน 67
ข้อ ๔ ในข้อบงั คับน้ี “ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน” หมายความรวมถึง พนักงานราชการและ ลกู จ้างในสังกดั กรมการพัฒนาชุมชน “จริยธรรม” หมายความวา่ ธรรมทีเ่ ป็นข้อประพฤติปฏบิ ัติ “จรรยา” หมายความว่า กรอบมาตรฐานความประพฤติในการปฏิบัติหน้าท่ี ราชการ ข้อ ๕ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องยึดม่ันการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข ข้อ ๖ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องยึดมั่นในความเป็นตัวแทนของ กรมการพฒั นาชมุ ชน ศรัทธาเชอื่ มนั่ ตอ่ องคก์ รและประชาชน โดยคำ� นงึ ถงึ หลกั การมสี ว่ นรว่ ม ของทุกภาคส่วน รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เคารพในสิทธิ เสรีภาพ ยึดหลัก ความเสมอภาค ให้เกยี รตแิ ละมมี นษุ ยสมั พันธต์ อ่ ประชาชน ขอ้ ๗ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว มีความซือ่ สัตยส์ จุ รติ และมคี วามรบั ผิดชอบโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยยึดถือประโยชน์ ของประเทศชาติเหนอื กว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มผี ลประโยชน์ทบั ซ้อน ขอ้ ๘ ขา้ ราชการกรมการพฒั นาชมุ ชนตอ้ งเนน้ หนกั ในการพฒั นาคนใหม้ รี ะเบยี บ วินัย พง่ึ ตนเอง ซือ่ สัตย์สุจรติ ต่อกนั รูร้ กั สามคั คี มจี ติ สาธารณะและปลูกฝงั ให้ใช้หลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการด�ำเนนิ ชวี ิต ขอ้ ๙ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องอ�ำนวยความสะดวกและพร้อมท่ีจะ ให้ขอ้ มูลข่าวสารแก่ประชาชนอยา่ งครบถว้ น ถูกตอ้ ง และไมบ่ ิดเบอื นข้อเทจ็ จรงิ ข้อ ๑๐ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องเป็นที่พึ่งของผู้ใต้บังคับบัญชา ประชาชน และองค์กรชุมชน ด้วยความเป็นธรรม เป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ และ ถูกตอ้ งตามกฎหมาย 68 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพัฒนาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ ข้อ ๑๑ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องด�ำเนินชีวิตโดยยึดหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เข้าไปยุ่งเก่ียวกับอบายมุขทุกประเภท และต้องไม่ประพฤติ ผิดศลี ธรรม ข้อ ๑๒ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องรักษาจริยธรรมและจรรยาข้าราชการตาม ขอ้ บงั คบั นี้ พรอ้ มทง้ั เสริมสรา้ งใหข้ า้ ราชการกรมการพัฒนาชุมชนตอ้ งปฏิบัติตามขอ้ บงั คับน้ี ข้อ ๑๓ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนผู้ใดไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ หากมิใช่ เป็นความผิดวินัยให้ผู้บังคับบัญชาตักเตือน น�ำไปประกอบการพิจารณาแต่งต้ัง เล่ือนเงินเดือน หรือสง่ั ใหข้ ้าราชการผู้นัน้ ได้รบั การพัฒนา ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๕ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๙ (นายอภชิ าติ โตดิลกเวชช)์ อธบิ ดกี รมการพัฒนาชมุ ชน คณะกรรมการจริยธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 69
ท�ำ ดี ตามธรรมของพ่อ หกลรักมปกฏาบิ รตั พิตัฒามนขาชอ้ มุบชงั คนับ ว่าดว้ ยจริยธรรมและจรรยาขา้ ราชการ กรมการพฒั นาชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๙ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพัฒนาชมุ ชน 71
ข้าราชตก้อางรปกฏริบมัตกิดาังรนพ้อี ัฒยน่างาเชคุมรชง่ นครดั 1 ยดึ มัน่ การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ 72 คณะกรรมการจริยธรรมประจำ�กรมการพฒั นาชมุ ชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพอ่ 2 ยึดมั่นในความเป็นตัวแทนของกรมการพัฒนาชุมชน ศรัทธาเชื่อม่ันต่อองค์กรและประชาชน โดยค�ำนึงถึง หลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รับฟังความคิดเห็น ของผูอ้ ่นื เคารพในสทิ ธิ เสรีภาพ ยดึ หลกั ความเสมอภาค ใหเ้ กยี รติและมมี นุษยสมั พนั ธต์ อ่ ประชาชน 3 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว มีความซ่ือสัตย์สุจริต และมีความรบั ผดิ ชอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยยดึ ถอื ประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และไมม่ ผี ลประโยชน์ทับซ้อน คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน 73
4 เน้นหนักในการพัฒนาคนให้มีระเบียบวินัย พ่ึงตนเอง ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน รู้รักสามัคคี มีจิตสาธารณะ และปลกู ฝงั ใหใ้ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการ ดำ� เนนิ ชีวติ 5 อ�ำนวยความสะดวกและพร้อมที่จะ ให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน อยา่ งครบถว้ นถกู ตอ้ งและไมบ่ ดิ เบอื น ขอ้ เทจ็ จรงิ 74 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชุมชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพ่อ 6 เป็นที่พ่ึงของผู้ใต้บังคับบัญชา ประชาชน และองค์กรชุมชน ด้วยความเป็นธรรม เป็นกลาง ไม่เลอื กปฏบิ ตั ิ และถกู ตอ้ งตามกฎหมาย 7 ด�ำเนินชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ไมเ่ ขา้ ไปยงุ่ เกย่ี วกบั อบายมขุ ทกุ ประเภท และต้องไมป่ ระพฤติผิดศีลธรรม คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน 75
8 ผบู้ ังคบั บญั ชาทุกระดับตอ้ งรักษาจรยิ ธรรม และจรรยาขา้ ราชการ ตามขอ้ บงั คบั นี้ พรอ้ มทงั้ เสรมิ สรา้ งใหข้ า้ ราชการกรมการพฒั นาชมุ ชน ต้องปฏิบัติตามข้อบงั คับนี้ 76 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชมุ ชน
ทำ�ดี ตามธรรมของพอ่ คณะผจู้ ดั ทำ� ทปี่ รึกษา ๑. นายอภชิ าติ โตดลิ กเวชช์ อธบิ ดกี รมการพัฒนาชมุ ชน ๒. นายอรรษิษฐ์ สัมพนั ธรตั น์ รองอธิบดกี รมการพัฒนาชมุ ชน ๓. นายทวปี บุตรโพธิ์ รองอธบิ ดีกรมการพัฒนาชมุ ชน ๔. นายณรงค์ บยุ่ ศิริรักษ ์ รองอธบิ ดกี รมการพฒั นาชมุ ชน คณะทำ� งาน คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำกรมการพฒั นาชุมชน ๑. นายประภาศ บุญยินดี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ ๒. นายสนิ ชัย ถนอมสนิ หวั หน้าผู้ตรวจราชการกรม กรรมการ ๓. นายอาจณรงค์ สัตยพานชิ ผตู้ รวจราชการกรม กรรมการ ๔. นางสาวปรยี า โสภณา อดีตผูต้ รวจราชการกรม กรรมการ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชมุ ชน 77
๕. นายมนูญ สอนเกดิ อดีตพฒั นาการจังหวัดชลบุรี กรรมการ ๖. นายวสันต์ ถนอมทรพั ย์ ผู้อำ� นวยการกองการเจ้าหน้าที่ กรรมการ ๗. นายธงชยั บุตรนุชติ ผู้อำ� นวยการสำ� นกั พัฒนาทนุ และ องคก์ รการเงินชุมชน กรรมการ ๘. นายอรรษษิ ฐ์ สมั พันธรตั น์ รองอธบิ ดีกรมการพัฒนาชมุ ชน เลขานุการ ๙. นายคมสทิ ธิ์ สรุ ยิ วรรณ หวั หนา้ กลุ่มงานเสรมิ สร้างวนิ ยั และ พทิ ักษร์ ะบบคณุ ธรรม ๑๐. นางสาวสุพัตรา วนั นู นักทรัพยากรบคุ คลชำ� นาญการ ๑๑. นางสาวจงกลนี งามทรง นกั วิชาการพฒั นาชุมชนปฏบิ ตั กิ าร 78 คณะกรรมการจริยธรรมประจ�ำ กรมการพัฒนาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บรรณานกุ รม สเุ มธ ตันติเวชกุล. (๒๕๔๙). หลักธรรม หลกั ท�ำ ตามรอยพระยคุ ลบาท. กรุงเทพฯ : ศูนยห์ นังสือจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ส�ำนกั งาน ก.พ. (๒๕๕๒). ประมวลจริยธรรมขา้ ราชการพลเรือน. กรุงเทพ ฯ : กลมุ่ โรงพิมพส์ ำ� นักงาน ก.พ. สำ� นกั งาน ก.พ.(ไมป่ รากฏปที ี่พิมพ)์ . เอกสารกรณตี ามประมวลจริยธรรมขา้ ราชการ พลเรอื น. กรุงเทพ ฯ ศูนยส์ ง่ เสริมและพัฒนาการเรียนรมู้ หาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์. แหลง่ ท่ีมา. http://clpd.psu.ac.th/royal ๑ มนี าคม ๒๕๖๐ คณะกรรมการจริยธรรมประจำ�กรมการพฒั นาชมุ ชน 79
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บันทึกข้อความ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 81
บันทกึ ขอ้ ความ 82 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บันทึกข้อความ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 83
บันทกึ ขอ้ ความ 84 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บันทึกข้อความ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 85
บันทกึ ขอ้ ความ 86 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บันทึกข้อความ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 87
บันทกึ ขอ้ ความ 88 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บันทึกข้อความ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 89
บันทกึ ขอ้ ความ 90 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บันทึกข้อความ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 91
บันทกึ ขอ้ ความ 92 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
ท�ำ ดี ตามธรรมของพอ่ บันทึกข้อความ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�กรมการพัฒนาชุมชน 93
บันทกึ ขอ้ ความ 94 คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมการพฒั นาชมุ ชน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124