• ปัจจัยทางชีวภาพ ส่ิงมีชีวิตลดน้อยลงก็จะท�ำให้เกิดการแก่งแย่ง (1) สัตว์กินพืช (Grazer)เป็น แข่งขันกันระหว่างสิ่งมีชีวิต และจะส่งผลต่อ พฤติกรรมการกินอาหารของสัตว์ท่ีกินพืช โดย ประชากรของสงิ่ มชี ีวติ ชนดิ อ่ืนด้วย จะกัดกินพืช เช่น สาหร่ายหรือหญ้าทะเล ใน แนวชายฝั่งโขดหินจะพบสาหร่ายขนาดใหญ่ที่ (5) การสืบพันธุ์ (Reproduction) เกาะตามแนวโขดหนิ เจรญิ เติบโตอยู่ ซึ่งสาหรา่ ย ประชากรจะมีการเพิ่มข้ึนเมื่อมีการผสมพันธุ์ ท่ีอาศัยบริเวณหาดทราย และหาดโคลนนั้นจะ หรอื อาจเกดิ จากการยา้ ยถน่ิ กไ็ ด้ สงิ่ มชี วี ติ ทอ่ี าศยั เป็นสาหร่ายเซลล์เดียวท่ีมีขนาดเล็ก ท่ีเรียกว่า บรเิ วณชายฝง่ั จะผลติ ลกู เปน็ จำ� นวนมาก ลกู สตั ว์ ไดอะตอม ส่วนแบคทีเรียที่อยู่ในตะกอนทรายก็ น้�ำในระยะตัวอ่อนเหล่านี้จะเป็นแพลงก์ตอน จะเป็นอาหารของสัตว์ท่ีกินพืชด้วย มีปูที่อาศัย ล่องลอยในกระแสน�้ำ กระจายไปในหาดอน่ื หรือ ในหาดทราย เช่น ปลู ม ปทู หาร เปน็ ปูท่กี ินพวก เกาะต่างๆ ต้องเผชิญกับผู้ล่า และปัจจัยทาง ไดอะตอมทอี่ ยใู่ นทราย ในหาดโคลนจะมหี อยฝา กายภาพต่างๆ ท�ำให้มีเพียงกลุ่มน้อยเท่านั้นท่ี เดยี วจำ� นวนมาก พวกนจี้ ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ระบบ สามารถมชี วี ติ อยโู่ ตจนเปน็ ตวั เตม็ วยั ได้ ซง่ึ หากมี นิเวศหาดโคลน เนื่องจากมันจะกิน ไดอะตอม ปัจจยั ต่างๆ เหมาะสมก็จะทำ� ใหจ้ ำ� นวนรอดเพมิ่ และแบคทีเรยี ท่เี คลือบอยบู่ นผิวหน้าหาดโคลน มากขน้ึ ปัจจยั ทางสิง่ แวดลอ้ มเหลา่ น้ีจึงสง่ ผลต่อ (2) สัตว์ผู้ล่า (Predator) ในระบบ การเพมิ่ ข้นึ ของจำ� นวนประชากร นิเวศหาดทราย และหาดโคลน จะพบผลู้ ่าหลาก หลายกลมุ่ มาก เชน่ กลมุ่ หอย หรอื กลมุ่ ปลา ไดแ้ ก่ พืชและสัตว์อย่างพวกเรา ปลากระเบน ปลาฉลามทเ่ี ขา้ มาในบรเิ วณชายฝง่ั ต้องปรับตัว เพื่อให้อาศัยอยู่ได้ใน เม่ือน�้ำข้ึนสูงเท่านั้น กลุ่มสัตว์บกได้แก่ นก หนู บริเวณท่ีมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพ จะเขา้ มากนิ อาหารในชว่ งทนี่ ำ�้ ลด หากเปน็ ผลู้ า่ ท่ี แวดล้อม นั่นเอง.... มขี นาดเลก็ กอ็ าจถกู กนิ โดยผลู้ า่ ทมี่ ขี นาดใหญก่ วา่ (3) ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ล่าและ 42 เหย่ือ (Predator-prey interactions) จ�ำนวนของผู้ล่าจะขึ้นอยู่กับจ�ำนวนของเหย่ือที่ เปน็ อาหาร เชน่ จำ� นวนของสตั วท์ กี่ นิ พชื จะขนึ้ อยู่ กับแหล่งพืชที่มีอยู่ในบริเวณน้ันว่ามากหรือน้อย เมอ่ื ประชากรของสตั ว์กินพชื เพิ่มขึ้น จำ� นวนของ ผลู้ า่ กจ็ ะเพ่ิมขึน้ ดว้ ยเชน่ กนั ดงั นัน้ ความสมั พันธ์ ระหว่างผู้ล่าและผู้ถูกล่าจะเป็นตัวก�ำหนดขนาด ของประชากรสง่ิ มีชีวิต (4) การแกง่ แยง่ แขง่ ขนั (Competition) จ�ำนวนประชากรของส่ิงมีชีวิตจะมีการ เจริญเติบโตเพิ่มข้ึนเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการ เปลยี่ นแปลงปจั จยั ทางกายภาพ และผลู้ า่ มาเปน็ ตัวยับยั้งการเจริญเติบโตน้ัน ซ่ึงหากอาหารของ ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กิจกรรมท้าย บทท่ี 4 กิจกรรมที่ 4.1 จากรูปที่ก�ำหนดให้ ให้นักเรียนใช้คู่มือจ�ำแนกชนิด อย่างง่ายท่ีให้ มาใช้ในการจ�ำแนก สัตว์ท้ัง 4 ชนิด โดยการอ่านคู่มือจ�ำแนก ให้เร่ิมอ่านจากข้อแรก และดูเฉลยทางช่องขวามือ สุดหากยังไม่ได้ค�ำตอบก็ให้ท�ำตามท่ีคู่มือจ�ำแนก บอกไปยังข้อต่อไปจนได้ชนิดของสัตว์ ใช้คู่มือจ�ำแนกสัตว์ในการจ�ำแนก สัตว์ทั้ง 4 ชนิด (A) 8 มิลลิเมตร (B) 12 เซนติเมตร (C) 9 มิลลิเมตร (D) 5 มิลลิเมตร คู่มือจ�ำแนกสัตว์อย่างง่าย 1ก สัตว์ตัวนี้มีรูปทรงภายนอกคล้ายภูเขาไฟ มีแผ่นของเปลือกหอยเล็กๆมาซ้อน เพรียงหิน เหล่ือมกันและใช้ส่วนฐานกว้างด้านล่างเกาะติดกับหิน 1ข สตั ว์ชนดิ น้ไี ม่ใชร่ ปู ทรงภเู ขาไฟ แต่มีขาเป็นข้อตอ่ รา่ งกายมโี ครงรา่ งทอ่ี าจจะนิม่ หรือแข็ง ไปขอ้ ที่ 2 อสิ ระไม่เกาะตดิ กับสง่ิ ใด 2ก มกี ระดองหรือเปลือกแข็ง (มเี ปลือกคลมุ อยู่บนหลัง) ไปข้อที่ 3 2ข ไม่มีกระดองหรอื เปลอื กแขง็ ไปข้อท่ี 4 3ก กระดองหรือเปลือกแข็งมีขนาดเลก็ ไม่คลุมด้านหลังทั้งหมด มีกา้ มใหญล่ ักษณะคลา้ ย กงั้ ตกั๊ แตน ตั๊กแตน 3ข กระดองหรอื เปลอื กแข็งมีขนาดใหญ่ ซ่งึ กระดองหรอื เปลอื กแข็งนจ้ี ะปิดเฉพาะสว่ น ไปข้อที่ 5 หนา้ (สว่ นอก)ของสตั ว์ ไมม่ กี า้ มเหมอื น mantis 4ก เปน็ สัตวข์ นาดเลก็ ส่วนของล�ำตวั มีลักษณะแบน ด้านข้างกลางล�ำตวั กงุ้ เต้น 4ข เปน็ สตั ว์ขนาดใหญ่ สว่ นของลำ� ตวั จะแบนกวา้ งตงั้ แต่ดา้ นบนลงมาจนถึงด้านท้ายของ แมลงสาบ ลำ� ตัว ทะเล 43 5ก อื่น ๆ ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กิจกรรมท่ี 4.2 : ส�ำรวจส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศหาดทราย วิธีการศึกษา 1 ให้นักเรียนก�ำหนดจุดที่จะศึกษา ซ่ึงต้องท�ำในช่วงน�้ำลดลงต�่ำสุด (เน่ืองจากต้อง ส�ำรวจสิ่งมีชีวิตในเขตน�้ำลดต�่ำสุดด้วย) เพื่อส�ำรวจส่ิงมีชีวิตที่อาศัยในบริเวณหาดทรายใน แต่ละเขต โดยก�ำหนดจุดเริ่มต้นให้อยู่ในเขตเหนือระดับน�้ำขึ้นสูงสุด และท�ำเคร่ืองหมายไว้ที่ จุดน้ัน จากน้ันนักเรียนอาจใช้เชือกหรือสายวัดลากลงมาในแนวราบ กับชายหาดจนถึงเขตน้�ำ ลดต่�ำสุด ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 เขต (ก�ำหนดระยะห่างในแต่ละเขต) ดังน้ี - เขตเหนือระดับน้�ำขึ้นสูงสุด (Supratidal zone) ก�ำหนดเป็นสถานีท่ี 1 - เขตที่มีน�้ำขึ้นและน�้ำลง (Intertidal zone) ก�ำหนดเป็นสถานีที่ 2 - เขตน้�ำลงต�่ำสุด (Subtidal zone) ก�ำหนดเป็นสถานีที่ 3 เขต Supratidal zone สถานี 1 แปลงสุ่มตัวอย่าง (Quadrat) สถานี 2 ตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัส สถานี 3 ท�ำจากไม้หรือท่อพีวีซีประกอบ 4 ด้านขนาดตามความเหมาะ สมของตัวอย่างท่ีต้องการศึกษา ใช้วางแปลงชั่วคราวเพื่อศึกษา สิ่งมีชีวิต หรือประชากรในพ้ืนที่ ชายหาดน้�ำลงต�่ำสุด การก�ำหนดจุดสำ� รวจในแนวราบ 2 ในแต่ละสถานี ท�ำการศึกษา โดยใช้ตารางส่ีเหลียม (Quadrat) ส�ำรวจส่ิงมีชีวิต 3 จุด ในการวาง Quadrat จะวางไปในแนวขนานกับชายหาด Quadrat แต่ละจุดจะต้องมี ระยะห่างเท่ากัน (ให้ก�ำหนดระยะห่างเองตามความเหมาะสมของพื้นที่) วางเหมือนกันท้ัง 3 สถานี 44 ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
A เมตร A เมตร สถานี 1 ชายหาด รปู แสดงการวางตารางสี่เหลย่ี ม (Quadrat) 3 จดบันทึกชนิดและจ�ำนวนหรือร่องรอยต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต ท่ีพบในแต่ละ Quadrat ของทุกสถานี ขุดทรายแต่ละ Quadrat ลึกประมาณ 20 เซนติเมตร ร่อนผ่านตะแกรงร่อน บันทึกสิ่งมีชีวิตท่ีพบ ทั้งน้ีอาจวาดรูปคร่าว ๆ ของส่ิงมีชีวิตที่พบประกอบด้วย 4 น�ำข้อมูลที่ได้มาอภิปรายกันในกลุ่มเพ่ือตอบค�ำถามเก่ียวกับความแตกต่างของสิ่งมี ชีวิตที่ส�ำรวจพบบนหาดทราย • ในแต่ละเขตของหาดทรายพบชนิด และจ�ำนวนของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ต่างกันหรือไม่ และ เป็น เพราะเหตุใด • สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในแต่ละสถานีมีปัจจัยที่รบกวนต่อการอยู่รอดต่างกันหรือไม่ อะไรบ้าง • สิ่งมีชีวิตท่ีพบในบริเวณหาดทรายที่นักเรียนส�ำรวจ พบกลุ่มของส่ิงมีชีวิตชนิดใดเป็น จ�ำนวนมาก และกลุ่มชนิดใดที่พบน้อย • ยกตัวอย่างส่ิงมีชีวิตที่พบในแต่ละสถานี มา 1 ชนิดพร้อมทั้งบอกวิธีการปรับตัว และ บริเวณท่ีมันอยู่อาศัยด้วย • ให้น�ำตารางที่จดบันทึกของแต่ละกลุ่มมาเปรียบเทียบดูว่ามีความแตกต่างของชนิดและ จ�ำนวน รวมทั้งร่องรอยต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตต่างกันหรือไม่ และมีชนิดใดบ้างท่ีต่างกันและเหมือนกัน 45 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
กิจกรรมท่ี 4.2 : (ต่อ) ตัวอย่างวิธีการจดบันทึก เช่น ใน สถานีที่ 1, Quadrat ท่ี 1 พบ ปู 3 ตัว สถานี / Quadrat ส่ิงมีชีวิตที่พบ จ�ำนวนสิ่งท่ีมีชีวิตที่พบต่อพ้ืนท่ี (m²) 1/1 ปู 3 1/1 ไส้เดือนทะเล 5 1/1 7 ... หอยขี้นก … 1/2 ... 3 1/2 ปูลม 5 1/3 6 ... ปเู สฉวน … หอยข้ีนก ... ระบบนิเวศหาดทราย 46 เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บทท่ี 5สายใยอาหารในระบบนิเวศหาดทราย 5.1 โครงสรา้ งของระบบนเิ วศหาดทราย จากบทที่ผ่านมา นักเรียนได้ทราบแล้วว่าในระบบนิเวศหาดทรายนั้นมีองค์ประกอบหลาย อย่างรวมกัน และมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากมาย โครงสร้างหลัก ๆ ของระบบนิเวศหาด ทรายนั้นแยกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ • องค์ประกอบท่ีไม่มีชีวิต : สารอนินทรีย์ ได้แก่ คาร์บอน น�้ำ ออกซิเจน ธาตุอาหาร สาร อินทรีย์ ได้แก่ ซากพืช ซากสัตว์ ปัจจัยทางกายภาพ ได้แก่ แสง อุณหภูมิ ความเป็นกรด-เบส ความชื้น • องค์ประกอบที่มีชีวิต : คือกลุ่มส่ิงมีชีวิตท้ังหมดที่อาศัยอยู่ร่วมกันในระบบ ประกอบ ด้วย 3 กลุ่ม ใหญ่ๆ คือ ผู้ผลิต เป็นพวกพืชที่สร้างอาหารเองได้ ผู้บริโภค กลุ่มท่ีกินพืชหรือส่ิงมี ชีวิตอื่นเป็นอาหาร และผู้ย่อยสลาย ได้แก่ จุลินทรีย์ต่างๆ ท�ำหน้าที่ย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ ความหลากหลายของระบบนิเวศหาดทรายท่ีมีท้ังพืช และสัตว์ ซึ่งต่างมีความสัมพันธ์ซ่ึง กันและกัน จัดเป็นแหล่งอาหารที่ส�ำคัญของสิ่งมีชีวิตท่ีเข้ามาอาศัย เช่น พืชจะสังเคราะห์แสง และ สร้างอาหาร และถูกกินโดยสัตว์กินพืช สัตว์กินพืชจะถูกกินโดยสัตว์อื่นท่ีมีขนาดใหญ่กว่า รูปแบบ ดังกล่าวเป็นตัวหมุนเวียนพลังงานในระบบ โดยเร่ิมจากพลังงานแสง ถูกเปลี่ยนรูปและถ่ายทอดไป สู่ผู้บริโภคล�ำดับต่างๆ ในระบบนิเวศ ผ่านทาง ห่วงโซ่อาหาร (Food chain) โดยในระบบนิเวศ ธรรมชาติระบบหน่ึงๆ จะมีห่วงโซ่อาหารสัมพันธ์กันอย่างซับซ้อนหลายห่วงโซ่ ในรูปแบบท่ีเรียก 47 ว่า สายใยอาหาร (Food web) ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
• ผู้ผลิตข้ันต้น เป็นพวกที่สามารถสร้างอาหารเองโดยการสังเคราะห์แสง และเป็นอาหาร ของส่ิงมีชีวิตอ่ืน บริเวณชายหาดจะมีพืชชายหาด เป็นผู้ผลิตขั้นต้นในระบบ สิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้จะ เปล่ียนแสงอาทิตย์เป็นพลังงาน ผู้ผลิตขั้นต้นชนิดอื่นๆ ได้แก่ สาหร่าย และหญ้าทะเล • ผู้บริโภคล�ำดับที่หน่ึง คือพวกท่ีไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ จะกินผู้ผลิตข้ันต้นเป็น อาหาร ส่ิงมีชีวิตที่กินพืชน้ันเราเรียกว่า สัตว์กินพืช (Herbivores) ได้แก่ กลุ่มหอยที่แทะเล็มกิน สาหร่าย • ผู้บริโภคล�ำดับท่ีสอง คือสัตว์ท่ีกินผู้บริโภคล�ำดับที่หนึ่งเป็นอาหาร สัตว์ที่กินเนื้อเหล่า นี้เรา เรียกว่า สัตว์กินสัตว์ (Carnivores) เช่น ปู ปลา นก • ผู้ย่อยสลาย สิ่งมีชีวิตกลุ่มน้ีจะย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต ของเสีย เป็นอาหารได้แก่ แบคทีเรีย และรา กลุ่มนี้ยังมีความส�ำคัญต่อระบบ เนื่องจากจ�ำเป็นตัวที่จะท�ำให้เกิดการหมุนเวียน สารอาหารกลับเข้าสู่ระบบใหม่อีกคร้ัง รูปแบบของห่วงโซ่อาหารระบบนิเวศนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ • Grazing food chain ห่วงโซ่อาหารแบบจับกิน เป็นห่วงโซ่อาหารท่ีเริ่มต้นจากพืช 48 ผ่านไปยังสัตว์กินพืชและสัตว์กินสัตว์ตามล�ำดับ • Detritus food chain ห่วงโซ่อาหารแบบกินเศษซาก สารอินทรีย์ เป็นห่วงโซ่อาหาร ที่เริ่มจากสารอินทรีย์จากซากของส่ิงมีชีวิตถูกย่อยสลายด้วยผู้ย่อยสลาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวก จุลินทรีย์ และจะถูกกินโดยสัตว์ และผู้ล่าอื่นๆ ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อย่างไรก็ตาม ในสภาพธรรมชาติจริงๆ แล้ว การกินกันอาจไม่ได้เป็นล�ำดับท่ีแน่นอน เพราะผู้ล่าชนิดหน่ึงอาจล่าเหยื่อได้หลายชนิด และก็ตกเป็นเหยื่อของผู้ล่าชนิดอื่นๆหลายชนิด การ ถ่ายทอดพลังงานจึงมีความซับซ้อนมากข้ึน และสัมพันธ์เก่ียวโยงกันไปมาในลักษณะสายใยอาหาร ท่ีมา: Collins(1994) รปู แบบสายใยอาหารในระบบนเิ วศหาดทราย 49 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
กิจกรรมท้าย บทที่ 5 กิจกรรมที่ 5.1: ใหน้ กั เรยี นเขยี นสายใยอาหารของสิ่งมชี ีวิตในรูปท่ใี ห้มา โดยใชค้ ำ� อธบิ ายรปู เป็นตวั ช่วย กลุ่มผู้ผลิต (Producers) • ฉันเป็นกลุ่มสาหร่ายเป็นแหล่งอาหาร ให้กับสัตว์กินพืช • พวกเราเป็นสาหร่ายขนาดเล็ก ล่องลอย อยู่ในน้�ำ สัตว์กินพืช (Herbivores) • ฉันจะเกาะติดกับหินและครูดกิน สาหร่ายเป็นอาหาร • พวกเราเป็นส่ิงมีชีวิตขนาดเล็ก เหมือน กับสาหร่าย แต่พวกเรามีหางท่ีช่วยในการ • หอยขนาดเล็กเป็นอาหารโปรดของฉัน ว่ายน้�ำได้ นกทะเลล่าฉันเป็นอาหาร • สิ่งมีชีวิตท่ีล่องลอยอยู่ในมวลน้�ำ เป็น • ครัสเตเชียนเป็นอาหารของฉัน อาหารโปรดของฉัน • ฉันเป็นกลุ่มผู้ล่า ชอบกินครัสเตเชีย 50 สัตว์กินสัตว์ (Carnivores) นทุกชนิด • ฉันเป็นกลุ่มครัสเตเชียน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กินสัตว์เล็ก ๆ เป็นอาหาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ • ฉันเป็นหอยฝาเดียวขนาดใหญ่ พวกหอย ตัวเล็กๆเป็นอาหารฉัน • อาหารของฉันเป็นพวกกุ้ง ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี
กิจกรรมท่ี 5.1 : (ต่อ) แบบฝึกหัด : ให้นักเรียนลากเส้นแสดงสายใยอาหารของสิ่งมีชีวิตในรูป 51 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
บทที่ 6ความส�ำคัญและการใช้ประโยชน์ระบบนิเวศหาดทราย หาดทรายและชายฝั่งทะเลเป็นระบบนิเวศหน่ึงที่มีคุณค่าและมีความส�ำคัญ เนื่องจาก เป็นแหล่งท่ีอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่ามากมาย ต่อระบบนิเวศวิทยา สังคม และเศรษฐกิจ ปัจจุบันพ้ืนที่ชายฝั่งทะเลของประเทศไทยได้ถูกน�ำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ มากมาย นอกจากความสวยงามของหาดทรายท่ีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส�ำคัญแล้วน้ัน หาดทราย ยังมีบทบาท และความส�ำคัญต่อระบบนิเวศด้านอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ 6.1 บทบาทของหาดทราย และชายฝั่งทะเล • แหล่งท่ีอยู่อาศัยของส่ิงมีชีวิต มีชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ เช่น เป็นแหล่งอาหารให้ 52 เนื่องจากสภาพแวดล้อมและพ้ืนท่ี กับสัตว์ท่ีกรองกินอาหารจากทราย รวมถึงเป็น ชายหาดที่มีความแตกต่างกัน ได้แก่ ขนาดของ แหล่งอาหารของนก และปลาทะเลหลายชนิด ตะกอนทราย ระดับของน้�ำขึ้นน้�ำลง ส่งผลให้ ก่อให้เกิดเป็นห่วงโซ่อาหาร และสายใยอาหาร เกิดเป็นแหล่งท่ีอยู่มากมายของสิ่งมีชีวิตทั้งพืช ที่ส�ำคัญในระบบนิเวศ และสัตว์ ในแต่ละแห่งเราจะพบว่ามีส่ิงมีชีวิต หลากหลายขนาดอาศัยอยู่มากมาย ซ่ึงบาง • แหล่งอาศัย และวางไข่ของสัตว์น�้ำ ครั้งถ้าไม่สังเกตอาจไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ หายาก ของสัตว์เลย แต่ที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นใต้พื้น ทราย ใต้ก้อนหินหรือตามซอกหินจะพบว่ามีส่ิง เปน็ แหลง่ วางไขข่ องเตา่ ทะเล เนอื่ งจาก มีชีวิตอาศัยอยู่ ทั้งน้ีเนื่องจากพวกมันต้องซ่อน เต่าทะเลต้องข้ึนมา ตัว และหลบแดดที่ส่องมาโดนตัว เพราะอาจ วางไข่บนหาดทราย ท�ำให้ร่างกายสูญเสียน้�ำ และตายได้ จึงกล่าว บริเวณเหนือระดับน้�ำ ได้ว่าระบบนิเวศหาดทรายเป็นแหล่งของความ ข้ึนสูงสุด และพื้นที่ หลากหลายแหล่งหนึ่งของระบบนิเวศ หาดทรายน้ันต้องมี ลั ก ษ ณ ะ เ ป ็ น ท ร า ย • เป็นพ้ืนฐานของสายใยอาหาร ขาว สะอาด โดยท่ัวไป ด้วยความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตท้ัง เต่าทะเลจะขุดหลุม พืช และสัตว์ท่ีสามารถพบได้ในระบบนิเวศหาด ส�ำหรับวางไข่เหนือระดับน�้ำข้ึนสูงสุด แต่ก็มี ทรายนั้น ส่งผลให้เป็นแหล่งอาหารท่ีส�ำคัญของ เต่าทะเลบางตัวท่ีขึ้นวางไข่ไกลจากระดับน�้ำข้ึน สัตว์หลายๆ ชนิด เป็นแหล่งฐานพลังงานของส่ิง สูงสุดถึง 200 เมตร ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
• แหล่งอาศัยของนกทะเล ชายหาดบางแห่ง หรือพ้ืนที่เกาะบางเกาะเป็นบริเวณที่มีนกทะเลหลายชนิดอาศัยอยู่ ท้ัง นกประจ�ำถิ่น และนกต่างถ่ินท่ีเข้ามาหาอาหาร ผสมพันธุ์ หรือวางไข่ ในบริเวณพ้ืนท่ีชายหาด และ ในบางบริเวณยังเป็นท่ีอาศัยของนกที่หายาก • แหล่งอาหาร และแหล่งประมง ระบบนิเวศหาดทรายเป็นท่ีอยู่อาศัย ของกุ้ง ปู และหอยหลายชนิดที่มีคุณค่าทาง เศรษฐกิจรวมถึงในบริเวณแหล่งหญ้าทะเล เป็น บริเวณส�ำคัญมากส�ำหรับสัตว์น�้ำวัยอ่อนท่ีจะ ใช้อาศัยเป็นที่อยู่ในช่วงของการเติบโต ท�ำให้ ชาวประมงมักเข้ามาหาลูกกุ้ง หรือปลาใน บริเวณน้ี • แหล่งท่องเท่ียวที่ส�ำคัญ น�้ำทะเลใส หาดทรายขาวท่ีทอดยาว ตามแนวชายหาดน้ัน มักเป็นที่ดึงดูดใจแก่ ท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ ท�ำ กิจกรรมบริเวณชายหาดกันมาก เนื่องจากมี ความสวยงามของธรรมชาติ รวมถึงการเติบโต ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การค้าขาย โรงแรม ที่พัก เป็นแหล่งรายได้ที่ส�ำคัญของ ประชานชนในพื้นท่ี • แนวป้องกันพายุ ชายหาดเป็นแนวท่ีกั้นกลางระหว่างทะเล และแผ่นดิน เม่ือมีลมมรสุมพัดเข้าสู่ชายฝั่ง ป่า ชายหาดเป็นบริเวณหน้าด่านหน่ึงที่จะป้องกันลมพายุ และช่วยลดความรุนแรงของลมท่ีจะพัดเข้า สู่แผ่นดิน ช่วยบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ 53 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
กิจกรรมท้าย บทท่ี 6 กิจกรรมท่ี 6.1: ให้นักเรียนแบง่ กลุม่ 4-5 คน และช่วยกันเสนอความคิดเหน็ ในกลุม่ 1. ให้บอกเพ่ือนๆ ว่าแต่ละคนเคยไปเท่ียวทะเล และชายหาดมาบ้างหรือไม่ ถ้าเคยไปให้ เขียนช่ือสถานท่ี ท่ีนักเรียนได้ไปมา 2. อธิบายลักษณะของทะเล และพ้ืนท่ีชายหาด ท่ีนักเรียนได้ไปพบเห็นมา เช่น หาดทราย ขาว เม็ดทรายหยาบ หรือละเอียด หรือพบสัตว์หรือพืช ชนิดใดบ้างที่นักเรียนรู้จัก 3. บอกถึงกิจกรรมท่ีนักเรียนท�ำเมื่อไปเท่ียวทะเล และชายหาด หรือพบเห็นผู้คนอ่ืนๆ ท�ำ ส่ิงใดกันบ้าง 4. จากน้ันให้รวบรวมกิจกรรมทั้งหมดที่ได้ และมาเสนอให้เพื่อนๆ ฟัง และช่วยกันอภิปราย ว่ากิจกรรมที่เราท�ำน้ัน เราได้รับประโยชน์จากทะเลในเร่ืองใดบ้าง รวมท้ัง กิจกรรมที่เราท�ำนั้นมี ผลเสียต่อทะเลและหาดทรายหรือไม่ อย่างไรบ้าง 5. ในพ้ืนท่ีท่ีนักเรียนอาศัยอยู่ หรือใกล้เคียง มีการใช้ประโยชน์จากทะเล ในเรื่องใดบ้าง เช่น การประมง การค้าขาย การท่องเท่ียว จัดท�ำตารางกิจกรรมการใช้ประโยชน์บนชายหาด โดย ใส่ข้อมูลที่ได้ลงในตารางบันทึก และช่วยกันอภิปรายผล ตารางกิจกรรมการใช้ประโยชน์บนชายหาด กจิ กรรม ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ ผลเสียที่อาจเกดิ ขึ้น 1. 2. 3. 4. 5. 6. ระบบนิเวศหาดทราย 54 เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บทท่ี 7ปัญหา และความเสื่อมโทรม การใช้ประโยชน์ของพื้นท่ีหาดทราย และชายฝั่งทะเล มีลักษณะคล้ายพื้นที่บนบก กล่าวคือ มีการเปลี่ยนแปลงไปตามแนวโน้มของการเจริญและการพัฒนาพ้ืนที่ เช่น พ้ืนที่หาดทรายที่มีความ สวยงามมักถูกใช้ประโยชน์เป็นแหล่งท่องเท่ียวหรือมีแนวโน้มท่ีจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มักจะ มีการขยายตัวของชุมชนสูงและมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ส่งผลให้การใช้ประโยชน์เปลี่ยน จากเดิมที่เป็นพื้นท่ีชุมชน ที่อยู่อาศัยกลายเป็นพื้นท่ีพาณิชยกรรม มีการพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น การ สร้างคอนโดมิเนียม บังกะโล บ้านพักตากอากาศ บ้านพักอาศัย ตลอดจนการพัฒนาการขนส่งทาง น้�ำ เช่น การสร้างท่าเรือขนส่ง ท่าเรือท่องเท่ียว ท่าเรือประมง เป็นต้น การใช้ประโยชน์ดังกล่าว ส่งผลให้เกิดการบุกรุกพ้ืนที่มากข้ึน อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพส่ิงแวดล้อมของพ้ืนท่ีชายหาด ได้ สาเหตุและแนวโน้มของปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศหาดทรายมีดังนี้ 7.1 ผลกระทบจากธรรมชาติต่อหาดทราย หาดทรายท่ีพบอยู่ท่ัวไปน้ัน บางแห่งมีความลาดชันน้อย บางแห่งมีความลาดชันสูง เพราะเป็นบริเวณท่ีมีคล่ืนแรง หาดทรายจะมีการ เปลี่ยนแปลงเสมอในทุกฤดูเนื่องมาจากแรงคล่ืน หาดทรายท่ีมีความลาดชันน้อย และหาดกว้าง น้ัน เมื่อฤดูที่มีคลื่นแรงจัดความลาดชันของหาด จะมากขึ้น ชายฝั่งจะแคบลง คล่ืนที่ซัดชายฝั่งจะ หอบเอาทรายกลับลงทะเล เม่ือลมสงบ และคล่ืน ลดลงทรายจะถูกพัดพากลับเข้ามาสู่ชายหาดตาม เดิม การเปล่ียนแปลงสภาพตามธรรมชาติของ แนวชายฝั่งนี้ บางครั้งยังส่งผลต่อพ้ืนท่ีอาศัยของ ประชาชนที่เข้ามาอยู่ใกล้บริเวณชายฝั่งมากเกิน 55 ไป การกัดเซาะชายฝั่งของคล่ืน และลม ท�ำให้พื้น ดินหายไป เกิดการสูญเสียพ้ืนท่ีอยู่อาศัยของประชาชนได้ ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
7.2 ผลกระทบจากกิจกรรมมนุษย์ต่อหาดทราย ปัจจุบันการเข้าใช้ประโยชน์จากพ้ืนที่หาดทรายของมนุษย์นั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อ สภาพแวดล้อมอย่างมาก เน่ืองจากมีการเติบโตทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงจ�ำนวน ประชากรท่ีมากข้ึน มีการเข้าใช้พื้นที่โดยไม่ค�ำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อส่ิงแวดล้อม ปัญหา และ ความเสื่อมโทรมที่เกิดข้ึน ได้แก่ • การพังทลายของชายหาดจากการ ไปได้ เพราะโครงสร้างหรือส่วนที่ถมทะเลออก 56 ก่อสร้าง ไปน้ี อาจท�ำให้เกิดการเปลี่ยนทิศของกระแสน้�ำ และท�ำให้กระแสน้�ำชายฝั่งพุ่งเข้าเกยสู่หาดบาง เป็นที่ทราบกันดีว่าหาดทรายเป็น บริเวณท�ำให้พังทลายได้ บริเวณที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างง่ายดาย การ ก่อสร้างโครงสร้างท่ีผิดหลักการ ท�ำให้เกิดการ • คราบน�้ำมันและน้�ำเสียจากชุมชน สูญเสียหาดทรายได้ ก า ร เ พิ่ ม ข้ึ น ข อ ง สิ่ ง ท้ังน้ีเนื่องจากบริเวณ ปลูกสร้าง ร้านอาหาร โรงแรม ตอนบนของหาด รวมถึงชุมชนที่มีการขยายตัว ทรายมีลักษณะเป็น เพิ่มขึ้น บางแห่งมีการปล่อย เนินสองชั้น เนินชั้น น�้ำเสียลงสู่ทะเลบริเวณใกล้ ในจะเป็นพ้ืนที่ที่อยู่ ชายหาด ท�ำให้น�้ำบริเวณ ตัวแล้วมีต้นไม้ ขึ้นยึด ชายหาด เน่าเสีย เกิดมลพิษ พ้ืนทราย ส่วนเนินช้ัน ต่อสัตว์น�้ำ คราบน�้ำมันท่ีถูกปล่อยลงแหล่งน้�ำ หน้านั้นจะมีพืชคลุม หรือร่ัวไหลจากเรือบริเวณใกล้ชายฝั่ง ส่งผลเสีย บ้าง เช่น ผักบุ้งทะเล เนินช้ันหน้าน้ีจะไม่อยู่ อย่างมากต่อนกทะเล จะติดและเคลือบขนนก ตัว มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ดังนั้นการ ท�ำให้ไม่สามารถบินได้ และตายในที่สุด ก่อสร้างใดก็ตามจะต้องอยู่หลังเนินทรายช้ันใน • ขยะมูลฝอย จะดีท่ีสุด แต่พบว่าการก่อสร้างท่ีเกิดข้ึนนั้น โดย การทิ้งขยะ และการ เฉพาะที่พักตากอากาศ มักเกิดข้ึนบริเวณเนิน จัดการปัญหาขยะมูลฝอยที่ ทรายด้านหน้าเพ่ือให้ใกล้ทะเลมากสุด ท�ำให้ ไม่ถูกวิธี จะท�ำให้ปริมาณขยะ เวลาท่ีคล่ืนจัดจะกระทบกับส่ิงก่อสร้างที่สร้าง ในพื้นท่ีเพ่ิมมากขึ้น เนื่องจาก ขึ้น และสะท้อนกลับออกไป พร้อมกับหอบเอา ประชากรที่เพิ่มมากขึ้นจะ ทรายกระจายออกไปในทะเลและไม่สามารถ เพิ่มปริมาณขยะมากขึ้นเช่น พัดพากลับมาได้อีก บริเวณชายหาดที่มีการ กัน ขยะเหล่านี้มักย่อยสลาย ก่อสร้างเช่นนี้ก็จะพัง และมีความชันมากขึ้นทุก ยาก หรือใช้เวลานานมาก จึงมีการสะสมเพ่ิม ปี จนในที่สุดจะเสียชายหาดไป ขึ้น การเผาขยะยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เพิ่มข้ึนอีกด้วย การท�ำโครงสร้างท่ียื่นออกไปในทะเล เช่น ท่าเรือ รวมทั้งการถมทะเลก็เช่นกัน หาก ไม่มีการค�ำนวณ และศึกษาอย่างละเอียดแล้ว เป็นสาเหตุให้หาดทรายใกล้เคียงพังทลายลง ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
• จำ� นวนนักท่องเทีย่ วเขา้ ใช้พน้ื มากเกนิ ไป ความสวยงามของหาดทราย และน�้ำทะเลจะ เป็นที่ดึงดูดใจให้นักท่องเท่ียวเข้ามาท่องเที่ยวและใช้ พื้นที่มากข้ึน ในบางแห่งจ�ำนวนนักท่องเท่ียวเข้ามาใช้ พื้นท่ี และใช้ทรัพยากรมากเกินไป เกินความสามารถ ในการรองรับของธรรมชาติได้ จึงก่อให้เกิดความ เสื่อมโทรมของพื้นท่ีชายหาด • การเสื่อมโทรมของชายหาด และแหล่ง หญ้าทะเล แหล่งหญ้าทะเลเป็นแหล่งส�ำคัญมากส�ำหรับสัตว์น�้ำ ปัญหาจากการประมง เรืออวนลากท่ี ลากบริเวณแหล่งหญ้าทะเล เรืออวนรุนท่ีมารุนลูกกุ้ง ลูกปลาในบริเวณนั้น ท�ำให้เกิดความเสียหาย ต่อรากของหญ้าทะเล และเกิดการตายของหญ้า รวมถึงน้�ำเสียท่ีปล่อยลงสู่แหล่งน้�ำ ตะกอนที่เกิด จากการขุดท่าเทียบเรือเข้ามาทับถมท�ำให้หญ้าทะเลอยู่ไม่ได้ ความเสื่อมโทรมของหาดทรายจาก ปัญหาขยะมูลฝอยหรือส่ิงปนเปื้อนต่างๆ อาจส่งผลให้เกิดการสูญพันธุ์ของสัตว์ทะเลหายาก ได้แก่ นกทะเล เต่าทะเล ไม่มีพ้ืนท่ีวางไข่ เนื่องจากการบุกรุกแหล่งวางไข่ หรือการเสียสภาพความเหมาะ สมของแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล การบุกรุกท่ีอยู่อาศัย การเพ่ิมจ�ำนวนของสิ่งก่อสร้าง การขยาย ตัวของแหล่งท่องเท่ียว การถ่ายเทของเสียสู่ชายฝั่ง ก็เป็นสาเหตุท่ีล้วนท�ำให้เต่าทะเลไม่สามารถ กลับมายังแหล่งวางไข่ได้อีก ท�ำให้จ�ำนวนประชากรของสัตว์เหล่านี้ลดลงได้ ปัญหาและภัยคุกคามต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของเกาะเต่า สาเหตุความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะเต่าสามารถสรุปเป็นกลุ่มของ ปัญหา ได้ดังน้ี กลุ่มปัญหาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการใชป้ ระโยชน์ของชมุ ชน (1) การแผ้วถางท�ำลายพ้ืนท่ีป่าบก เพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินส�ำหรับการประกอบอาชีพ สร้างท่ีพัก ท่ีอยู่อาศัย ตลอดจนรีสอร์ท และโรงแรม ซ่ึงส่งผลให้เกิดการกัดเซาะหน้าดินลงสู่ทะเล (2) การลักลอบท�ำการประมงแบบท�ำลายล้างโดยเรือประมงพาณิชย์ เช่น เรือปั่นไฟ อวนลาก อวนรุน ในเขตห้ามท�ำการประมง และการท�ำประมงพ้ืนบ้าน เพ่ือยังชีพที่มากเกินก�ำลัง ผลิตของธรรมชาติ กลุ่มปญั หาร่วมระหว่างการใช้ประโยชน์ของชมุ ชนและการท่องเทีย่ ว (3) มลพิษทางน้�ำ ได้แก่ น้�ำทิ้งจากชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว ของเสียและคราบน�้ำมัน จากเรือ จากห้องส้วม และการเทท้ิง ในอดีตที่ผ่านมายังมีปริมาณน�้ำท้ิงน้อยธรรมชาติยังคงสามารถ 57 บ�ำบัดได้ทัน แต่ปัจจุบันปริมาณน�้ำท้ิงมีมากเกินกว่าที่กระบวนการทางธรรมชาติจะบ�ำบัดได้ทัน ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กลุม่ ปญั หาทีเ่ กีย่ วข้องกบั กจิ กรรมการทอ่ งเทยี่ ว (4) ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นบนเกาะมีปริมาณเพ่ิมมาก ขึ้นจนเกินขีดความสามารถในการจัดการ อีกทั้งยังขาดระบบ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และขาดซ่ึงจิตส�ำนึก สาธารณะ ท�ำให้มีขยะบางส่วนตกหล่นออกสู่ธรรมชาติ ได้แก่ แนวปะการัง หาดทราย และผิวหน้าน�้ำทะเล ซ่ึงขยะส่วนใหญ่ มีที่มาจากชุมชน แหล่งท่องเท่ียว และเรือท่องเท่ียว (5) ตะกอนทับถมและลดปริมาณแสงบนแนว ปะการัง และหญ้าทะเล ตะกอนเหล่าน้ีมาจากการกัดเซาะ หน้าดิน จากการเปิดหน้าดินบนเกาะ เพื่อการก่อสร้าง และ พัฒนาต่างๆ การกัดเซาะชายฝั่งจากการสร้างท่าเรือ ขุดลอก ร่องน้�ำ และการก่อสร้างริมทะเล (6) การแล่นเรือ การจอดเรือบริเวณแนวปะการัง และหญ้าทะเล และชายหาด เนื่องจากมีการส่งเสริมกิจกรรม การท่องเท่ียวในพื้นที่เปราะบาง เช่น ตามเกาะต่างๆ ท่ีมีแนว ปะการัง หญ้าทะเล และชายหาด (7) การเหยียบย�่ำของนักท่องเที่ยว และการรบกวน วงชีวิตสัตว์ ซ่ึงเป็นผลมาจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน พื้นท่ีเปราะบาง ง่ายต่อการถูกท�ำลาย เช่น แนวปะการังน�้ำ ตื้นที่สามารถยืนได้ถึง ตลอดจนการรบกวนวงชีวิต และวิถี ชีวิตสัตว์ป่า และสัตว์น้�ำ ซ่ึงเป็นผลมาจากการปฏิบัติตนท่ีไม่ เหมาะสมของนักท่องเที่ยว (8) การจับปลาและสัตว์น�้ำจากแนวปะการัง และ สัตว์ป่าโดยกลุ่มแรงงานต่างถ่ิน ตลอดจนการเก็บหาสัตว์น�้ำ และสัตว์ป่าเพ่ือสนองความต้องการบริโภคของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังพบการจับสัตว์น�้ำเพ่ือการเล้ียงเป็นปลาตู้ กลมุ่ ปญั หาทเ่ี กดิ จากภยั ธรรมชาตแิ ละปรากฏการณ์ ธรรมชาติ (9) ปะการังฟอกขาว (โลกร้อน) พายุ คล่ืนลม ดาวมงกุฎหนาม โรค ประชากรสัตว์หา ยากลดลง และการพบสัตว์น้�ำต่างถ่ิน เช่น สัตว์น้�ำจากทะเลลึก เป็นต้น ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับ โลก ไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม แนวปะการังท่ีสมบูรณ์จะมีความทนทานต่อการ เปล่ียนแปลงสภาพแวดล้อมได้ดี หากปะการังตายไปคลื่นจะซัดเข้าหาชายหาด โดยไม่มีปราการ ขวางกั้น และลดความแรงคล่ืน ชายหาดก็จะหายไป 58 ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กิจกรรมท้าย บทที่ 7 กิจกรรมที่ 7.1 ผลของน้�ำมันต่อขนนก อุปกรณ์ 1. แก้วน้�ำ 2. น�้ำสะอาด 3. น�้ำมัน 4. ผงซักฟอกหรือน�้ำยาล้างจาน 5. ขนนก 1. ให้นักเรียนเทน�้ำสะอาดใส่แก้วน้�ำ ดังรูป จากนั้นน�ำขนนกจุ่มลงในน�้ำ เมื่อน�ำข้ึนมาให้ สังเกตลักษณะขนนก ว่าเปียกน�้ำหรือไม่ • เมื่อน�ำขนนกขึ้น นักเรียนจะพบว่าขนนกส่วนใหญ่จะแห้ง แสดงว่าขนนกสามารถกันน�้ำ ได้ 2. จากน้ันให้นักเรียน เทน�้ำมันลงบนผิวน�้ำในแก้วใบแรก นักเรียนจะสังเกตพบว่าน้�ำมัน จะลอยอยู่บริเวณผิวน�้ำ ซ่ึงถ้าน้�ำมันที่ไหลลงไปทะเลก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน 3. จุ่มขนนกลงในแก้ว สังเกตลักษณะของขนนกว่าเป็นอย่างไร • เม่ือน�ำขนนกขึ้น นักเรียนจะพบว่า น้�ำมันจะเกาะ เคลือบอยู่ในขนนก ซึ่งจะท�ำลาย โครงสร้างของขนนก ท�ำให้นกไม่สามารถบิน และหาอาหารได้ 4. จากน้ันให้นักเรียนน�ำแก้วสะอาดอีกใบเติมน�้ำสะอาดและใส่ผงซักฟอก หรือน้�ำยาล้าง จานลงไปในแก้ว จุ่มขนนกอันเดิมท่ีมีคราบน้�ำมันลงไปลงไป คนน�้ำในแก้วให้เข้ากัน 5. น�ำขนนกข้ึน สังเกตลักษณะของขนนกว่าเป็นอย่างไร • เมื่อน�ำขนนกข้ึนจากน้�ำจะจะพบว่าขนนกจะเปียกน้�ำ ไม่สามารถท่ีจะกันน�้ำได้อีกต่อไป ส่งผลต่อการด�ำรงชีวิตของนก 59 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
บทท่ี 8แนวทางการจัดการพื้นที่ ปัจจุบันการเติบโตของชุมชน สังคม รวมถึงธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเล ท�ำให้มนุษย์ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่งมากขึ้น พื้นท่ีหาดทราย และชายฝั่งทะเลน้ัน ต้องมีการจัดการ ที่เป็นระบบ และถูกวิธี มีแผนการจัดการท่ีมีประสิทธิภาพโดยต้องค�ำนึงถึงศักยภาพของพื้นท่ี โดย ท่ัวไปพบว่าพื้นท่ีชายฝั่งทะเลน้ันมักถูกใช้เป็นแหล่งตั้งชุมชน แหล่งโรงงานอุตสาหกรรม แหล่ง ท่องเที่ยว ดังน้ันจึงมีความจ�ำเป็นต้องมีการจัดการพ้ืนท่ีชายหาด และชายฝั่งไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกัน การใช้พ้ืนที่ผิดหลักการ ซ่ึงที่ผ่านมามักจะค�ำนึงถึงแต่ด้านเศรษฐกิจ และการบริหารมากกว่าที่จะ ค�ำนึงถึงระบบนิเวศ และส่ิงแวดล้อม การจัดการพ้ืนท่ีจึงต้องค�ำนึงถึงทุกปัจจัยท่ีเก่ียวข้องอย่าง สอดคล้องกัน 8.1 การใช้ระบบนิเวศหาดทรายอย่างยั่งยืน การใช้ระบบนิเวศหาดทรายอย่างยั่งยืน หมายถึง ประชากรใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดย ไม่ท�ำลายมัน ระบบนิเวศเป็นสิ่งท่ีสร้างข้ึนมาจากส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งหากเราใช้พ้ืนท่ีจน ส่ิงมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ หรือมันไม่สามารถสืบพันธุ์ด้วยตัวมันเองแล้ว ระบบนิเวศก็จะถูก ท�ำลาย ถ้าเราสามารถใช้ทรัพยากรอย่างย่ังยืนได้โดยไม่เกิดการท�ำลาย เราอาจสามารถหาทางออก ในการอยู่ร่วมกันโดยไม่ท�ำลายส่ิงแวดล้อมได้ 8.2 การประเมินผลกระทบจากการใช้พ้ืนท่ีหาดทราย 60 กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่เข้ามาใช้ประโยชน์ในบริเวณพื้นที่ชายหาดนั้น ส่งผล กระทบต่อสภาพแวดล้อมของชายหาดทั้งส้ิน ดังนั้นควรจะมีการประเมินผลกระทบก่อนที่จะเริ่ม กิจกรรมเหล่านั้น การท�ำเช่นน้ีเป็นหลักการเบ้ืองต้นของการศึกษาผลกระทบ ซ่ึงท�ำได้โดยการ ส�ำรวจทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมของพื้นที่ แล้วรวบรวมข้อมูลความหลากหลายของ ทรัพยากรธรรมชาติ และความชุกชุมของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ท่ีส�ำคัญ เป็นต้น ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ เพื่อความเข้าใจถึงพ้ืนท่ีที่มีความส�ำคัญทางระบบนิเวศ และประมาณขอบเขตกิจกรรมของมนุษย์ที่สามารถท�ำลายระบบนิเวศนั้น ผลจากการศึกษาผล กระทบจะสามารถช่วยชี้แนะทางเลือกในการใช้ทรัพยากรในพื้นที่ เมื่อกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง ของมนุษย์เร่ิมข้ึนในบริเวณหาดทราย โปรแกรมการตรวจสอบควรจะแน่ใจว่าไม่มีผลกระทบต่อ ส่ิงมีชีวิตในพ้ืนท่ีหาดทราย 8.3 การอนุรักษ์พ้ืนที่ชายหาด เม่ือเราทราบถึงความส�ำคัญ และประโยชน์ รวมถึงสาเหตุ และการท�ำลายระบบนิเวศหาด ทรายแล้วน้ัน เราทุกคนสามารถช่วยกันดูแล รักษาอนุรักษ์ระบบนิเวศหาดทรายน้ัน โดยเร่ิมจาก การสร้างจิตส�ำนึกให้กับตัวเราเอง และคนใกล้ชิด ร่วมมือกัน ดูแล รักษา หลีกเลี่ยงกิจกรรมใดๆ ก็ตามท่ีเป็นการท�ำลายท�ำให้ระบบนิเวศเส่ือมโทรม และการใช้ประโยชน์จากพืชและสัตว์ในพื้นท่ี น้ัน จะต้องป้องกันไม่ให้ถูกใช้เกินก�ำลัง จะท�ำให้กระทบกระเทือนต่อการฟื้นตัวของประชากรได้ การปฏิบัติตัวเม่ือไปท่องเท่ียวชายหาด 1. เป็นนักท่องเท่ียวท่ีดี 2. ไม่เก็บเปลือกหอย บริเวณหาดทราย รวมถึง ไม่ซ้ือ ไม่ขาย ของท่ีระลึกท่ีท�ำจากเปลือก หอยหรือซากส่ิงมีชีวิตที่ตายแล้ว 3. ไม่ท้ิงขยะ พลาสติก เศษอาหาร กล่องโฟม ในบริเวณพื้นที่หาดทราย และในทะเล ให้ ทิ้งในถังขยะท่ีจัดเตรียมให้เท่าน้ัน 4. ช่วยเก็บเศษขยะ พลาสติกท่ีพบบริเวณหาดทราย ทิ้งในท่ีจัดเตรียมไว้ 5. เมื่อพบคนใกล้ชิดท�ำผิด ควรตักเตือน และให้แนะน�ำท่ีถูกต้อง 6. ไม่จับสัตว์ต่างๆ บนชายหาด เช่น หอย ปูลม หรือลูกปลา 7. งดการปล่อยน้�ำเสีย และท้ิงส่ิงปฏิกูลลงทะเล การร่วมมือจากหน่วยงานรัฐ นอกจากความร่วมมือจากประชาชนแล้ว หน่วยงานรัฐก็เป็นหน่วยงานหลัก และส�ำคัญที่ จะช่วยให้การจัดการและการอนุรักษ์ให้สมบูรณ์และย่ังยืนได้ ได้แก่ • มีการเร่งวางแผนเพื่อหยุดย้ังความเสื่อมโทรม และความขัดแย้งของการใช้พื้นท่ี • ฝึกอบรมบุคลากรท่ีมีส่วนในการท�ำงาน และการดูแลรักษาพ้ืนท่ี • ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชนเพื่อช่วยในการอนุรักษ์แหล่งทรัพยากร • การเข้มงวดด้านกฎหมาย เก่ียวกับการท�ำประมงท่ีผิดกฎหมาย และน้�ำทิ้งลงทะเล • ระงับการท�ำประมงด้วยเครื่องมืออวนลอย อวนลาก และเบ็ดราวบริเวณหน้าชายฝั่ง หรือบริเวณแหล่งวางไข่เต่าทะเลโดยเฉพาะในช่วงฤดูวางไข่ • จัดระเบียบอาคาร การก่อสร้างบริเวณชายหาด ห้ามก่อสร้างอาคารท่ีใช้แสงไฟในยาม ค�่ำคืนในบริเวณใกล้กับชายหาด 61 • ออกระเบียบการใช้พื้นที่ชายหาด เช่นห้ามใช้พาหนะใดๆ วิ่งบนหาดทราย ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กิจกรรมท้าย บทที่ 8 กิจกรรมที่ 8.1: ขยะ...มาจากไหน ? 1. น�ำนักเรียนไปยังหาดทรายท่ีเป็นแหล่งท่องเท่ียวบริเวณพื้นท่ี 2. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4-5 คน 3. ให้แต่ละกลุ่มเก็บขยะทุกช้ิน ที่ไม่ใช่ส่ิงท่ีมาจากธรรมชาติ ในบริเวณพื้นที่ท่ีกลุ่มรับผิดชอบ โดยแต่ละกลุ่มจะเก็บครอบคลุมพ้ืนท่ี ระยะตามความยาวหาด 50 เมตร กว้างต้ังแต่ริมน�้ำทะเลจนถึง ด้านบนของหาดทรายบริเวณแนวต้นไม้ 4. จากน้ันให้แต่ละกลุ่มแยกประเภทของขยะที่เก็บได้ ได้แก่ โฟม ขวดแก้ว พลาสติก หลอดไฟ ซากอวน ฯลฯ ตามตารางท่ีก�ำหนดให้ 5. ให้นักเรียนช่วยกันบอกถึงแหล่งท่ีมาของขยะต่างๆ ที่เก็บได้ นักเรียนคิดว่าขยะเหล่าน้ัน ว่ามีโอกาสมาจากที่ไหนได้บ้าง และจะมีวิธีลดปริมาณขยะดังกล่าวได้อย่างไร ขยะมทา่ีเจราาพกทบไี่บหรนิเวไณดหบ้ า้าดงท?ราย นกั ทอ่ งเท่ียว สถานประกอบการ ชุมชน การประมง ฯลฯ ระบบนิเวศหาดทราย 62 เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กิจกรรมที่ 8.1 : (ต่อ) ตารางกิจกรรมการเก็บขยะบนชายหาด ตัวอย่างการแยกประเภทขยะ แบ่งตามกิจกรรมท่ีท�ำให้เกิดขยะ ประเภทขยะ จ(ำ�ชนนิ้ ว)น นำ้ �หนัก กจิ กรรมชายฝั่งและการพกั ผ่อน (Shoreline and Recreational Activitites) · ถุง (Bags) · ลกู โปง่ (Balloons) · ขวด (Beverage Bottles) · กระปอ๋ ง (Cans) · ฝา, จกุ (Caps, Lids) · เสอ้ื ผา้ , รองเทา้ (Clothing, Shoes) · ถ้วย, จาน, ช้อน, สอ้ ม, มดี (Cups, plates, Folks, Knives, Spoons) · ห่อ/ภาชนะบรรจุอาหาร ( Food Wrappers/Containers) · ฝาดึงกระปอ๋ ง (Pull tabs) · หลอด, แท่งคนเครอ่ื งดืม่ (Straws, Stirrers) · ของเลน่ (Toys) กจิ กรรมทางนำ้ �(�O��c�e�a�n��/�W�a��t�e�r�w�a�y��A��c�t�iv��it�ie��s�) · ทุ่นลอย (Buoys/Floats) · เอน็ ตกปลา (Fishing Line) · อวน (Nets) · ขวดนำ้ �มัน/นำ้ �มันหลอ่ ลืน่ �(�O��il�/�L�u�b��e��B�o�t�t�l�e�s�) · แผ่นพลาสติก/ผ้าใบคลมุ ของในเรือ (Plastic Sheeting/Tarps) · เชอื ก (Ropes) · สายรัด (Strapping Bands) กจิ กรรมเกีย่ วกับการสูบ (Smoke related Activities) 63 · บุหรี่/กน้ กรองบุหรี่ (Cigarettes/Cigarette Filters) ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ประเภทขยะ จ(ำ�ชนน้ิ ว)น น้ำ�หนกั กจิ กรรมเกยี่ วกบั การสูบ (Smoke related Activities) · ซองบหุ ร่ี (Tobacco Pakaging/Wrappers) · กน้ ซิการ์ (Cigar Tips) ขยะขนาดใหญ่ (Dumping Activities) · เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า (Appliances) · แบตเตอร่ี (Batteries) · วัสดุกอ่ สรา้ ง (Building Materials) อปุ กรณ์การแพทย์/อนามัย (Medical/Personal Hygiene) · ผา้ ออ้ ม (Diapers) · ขยะอ่ืนๆ (Debris items of local concern) การคัดแยกขยะ : ท้ิงให้ถูกท่ีและถูกถัง… ถังสีน้�ำเงิน รองรับขยะมูลฝอยท่ัวไป เช่น ถุงหรือพลาสติก ใส่ขนม ถุงพลาสติกบรรจุผงซักฟอก ฯลฯ ถังสีเขียว รองรับขยะมูลฝอยย่อยสลาย เช่น เศษอาหาร เปลือกผลไม้ เศษผัก เศษเน้ือสัตว์ ฯลฯ ถังสีเหลือง รองรับขยะมูลฝอยที่ยังใช้ได้ (รีไซเคิล) เช่น เศษเหล็ก เศษแก้ว กระดาษ พลาสติก กระป๋องเบียร์ ฯลฯ มาลดปริมาณขยะกันเถอะ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยลดปริมาณขยะได้ โดยเร่ิมจากคนในครอบครัว และ ชักชวนไปสู่ชุมชน หมู่บ้าน ที่ท�ำงาน ให้ช่วยกันลด คัดแยกขยะ เพื่อให้ชุมชนมีสิ่งแวดล้อมที่ดี โดย สามารถท�ำได้ดังนี้ ลดการใช้ (Reduce) 64 1. ลดการขนขยะเข้าบ้าน เช่น ถุงพลาสติก ถุงกระดาษ กระดาษห่อของ โฟม หรือ หนังสือพิมพ์ เป็นต้น ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเติม เช่น น้�ำยาล้าง 2. น�ำสิ่งของมาดัดแปลงให้ใช้ประโยชน์ จาน น้�ำยาปรับผ้านุ่ม เครื่องส�ำอาง ถ่านชนิด ได้อีก เช่น การน�ำยางรถยนต์มาท�ำเก้าอี้ การน�ำ ชาร์ตได้สบู่เหลว น�้ำยารีดผ้า น�้ำยาท�ำความ ขวดพลาสติกมาดัดแปลงเป็นที่ใส่ของ แจกัน สะอาด ฯลฯ การน�ำเศษผ้ามาท�ำเปลนอน เป็นต้น 3. ลดปริมาณขยะมูลฝอยอันตรายใน 3. ใช้กระดาษท้ังสองหน้า บ้าน หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีภายในบ้าน เช่น การรีไซเคิล (Recycle) เป็นการน�ำ ยาก�ำจัดแมลงหรือน้�ำยาท�ำความสะอาดต่างๆ วัสดุท่ีสามารถน�ำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น กระดาษ ควรจะหันไปใช้วิธีการทางธรรมชาติ จะดีกว่า แก้ว พลาสติก เหล็ก อะลูมิเนียม มาแปรรูปโดย อาทิ ใช้เปลือกส้มแห้งน�ำมาเผาไล่ยุง หรือ ใช้ กรรมวิธีต่างๆ นอกจากจะเป็นการลดปริมาณ ผลมะนาวเพ่ือดับกลิ่นภายใน ห้องน�้ำ ขยะมูลฝอยแล้ว ยังเป็นการลดการใช้พลังงาน และลดมลพิษที่เกิดกับสิ่งแวดล้อม ซ่ึงเรา 4. หลีกเลี่ยงการใช้โฟมและพลาสติก สามารถท�ำได้โดย ซึ่งก�ำจัดยาก โดยใช้ถุงผ้า หรือตะกร้าในการ 1. คัดแยกขยะรีไซเคิล แต่ละประเภท จับจ่ายซ้ือของแทน ได้แก่ แก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะ/อโลหะ 2. น�ำไปขาย/บริจาค/ น�ำเข้าธนาคาร ใช้ซ้�ำ (Reuse) ขยะ/กิจกรรม ขยะแลกไข่ 1. น�ำสิ่งของท่ีใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ 3. ขยะเหล่านี้ก็จะเข้า สู่กระบวนการ เช่น ถุงพลาสติกที่ไม่เปรอะเปื้อนก็ให้ เก็บไว้ใช้ รีไซเคิล ใส่ของอีกครั้งหนึ่ง หรือใช้เป็นถุงใส่ขยะในบ้าน เราจะลไดด้อปยรา่ งมิ ไราณ? ขยะ 65 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
กิจกรรมที่ 8. 2 ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3-4 คน และตอบค�ำถามต่อไปน้ี 1. กิจกรรมของมนุษย์ที่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศหาดทรายมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง 2. กิจกรรมแต่ละประเภทมีผลกระทบต่อระบบนิเวศหาดทรายอย่างไร 3. ให้เลือกผลกระทบมาหนึ่งข้อ และวิจารณ์ร่วมกับเพื่อนๆ ว่า • ลักษณะของผลกระทบเป็นอย่างไร • ท�ำไมถึงได้พบผลกระทบนี้ • ผลกระทบที่ว่านั้นมีผลกระทบต่อเน่ืองอย่างไร • มีการอนุรักษ์ในท้องถ่ินท่ีจะท�ำให้ผลกระทบลดลงหรือไม่ • ปัจจุบันน้ีมีการรณรงค์ที่จะลดผลกระทบที่เกิดข้ึนให้น้อยลง แต่ถ้าไม่มีใครพยายามที่ ลดหรือหยุดผลกระทบนั้น คิดว่าควรจะท�ำอย่างไร • มีส่ิงใดหรือไม่ท่ีจะท�ำให้ประชาชนตื่นตัวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ให้ท�ำแผ่นพับ โดยใช้ข้อมูลที่นักเรียนหามาได้ และให้วาดรูปประกอบบ้าง หรือนักเรียน อาจเตรียมไปพูดสั้น ๆ หน้าห้องเรียนในหัวข้อที่เลือกมา ระบบนิเวศหาดทราย 66 เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บทที่ 9แนวทางการศึกษาวิจัย และ การติดตามการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศหาดทราย พ้ืนท่ีหาดทรายเป็นบริเวณท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยู่เสมอทุกฤดูกาล และการใช้พื้นท่ีหาด ทราย ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเท่ียว การก่อสร้างท่ีอยู่อาศัย โรงแรม ท่าเรือ ก็มีส่วนช่วยเสริม ให้ระบบนิเวศหาดทรายมีการเปล่ียนแปลงได้เร็วขึ้น การติดตามการเปล่ียนแปลงของระนิเวศ หาดทราย จะท�ำให้เราสามารถทราบถึงผลกระทบที่ก�ำลังเกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อม และประเมิน ศักยภาพในการรองรับของพ้ืนท่ีต่อการใช้ทรัพยากรหาดทรายได้ • การหาความลาดชันของหาด (Beach profile) เป็นวิธีการที่ง่ายส�ำหรับนักเรียนสามารถท่ีจะด�ำเนินการได้ไม่ยากนัก ท�ำให้เราทราบถึง การเปลี่ยนแปลงสถานภาพระบบนิเวศหาดทราย รูปแบบพ้ืนที่หาดทรายในพื้นที่ศึกษาได้ การหาความลาดชันของหาด (Beach profile) วัตถุประสงค์ : นักเรียนสามารถหาความลาดชันของชายหาดได้ 67 อุปกรณ์ท่ีต้องใช้ : ไม้วัดความสูงขนาด 2-4 เมตร ตารางส่ีเหล่ียม (Quadrat) และ กระดาษบันทึก ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิธีการ 1. ก�ำหนดจุดที่จะศึกษา โดยท�ำงานในช่วงน�้ำลงต่�ำสุด เริ่มต้นจากส่วนบนของหาด ให้ นักเรียน 1 คน นั่งอยู่ที่ตอนบนสุดของหาด และให้นักเรียนอีกคนหน่ึง ถือไม้ยาวในแนวตั้ง ให้ นักเรียนคนท่ีหน่ึงมองผ่านไม้ไปยังเส้นขอบฟ้า ต�ำแหน่งขอบฟ้า ระยะทางในแนวราบ 2. นักเรียนคนท่ีถือไม้ เคลื่อนท่ีไปยังชายหาดโดยหยุดในต�ำแหน่งท่ีมีการเปลี่ยนแปลงความ ชัน แล้วหยุด ให้นักเรียนคนที่หน่ึงมองผ่านไม้ไปยังเส้นขอบฟ้า ให้นักเรียนคนที่ถือไม้ชี้ต�ำแหน่ง ว่า เส้นขอบฟ้าตามที่นักเรียนคนท่ี 1 มองน้ัน อยู่ท่ีระดับความสูงเท่าไร แล้วให้นักเรียนอีกคน หน่ึงบันทึกความสูง และระยะทางจากนักเรียนคนที่ 1 (ระยะทางในแนวราบ นักเรียนอีกคนหน่ึง บันทึกลักษณะของพื้นที่ เช่น เป็นทรายหยาบ สี มีแอ่งน�้ำหรือไม่ พร้อมท้ังบันทึกอุณหภูมิที่ผิวดิน และใต้ดินที่ระดับลึก 2 ซม. 5 ซม. 10 ซม. 20 ซม. และ 30 ซม. 3. เก็บตัวอย่างดินบริเวณท่ีมีการเปล่ียนแปลงความชัน ใส่ถุงพลาสติก เพื่อน�ำกลับมาศึกษา ปริมาณน้�ำในดิน ขนาด และองค์ประกอบของทราย ท่ีห้องปฏิบัติการ 4. เปล่ียนต�ำแหน่งไปเร่ือย และท�ำตามข้อ 3 – 4 จนถึงแนวน�้ำลงต่�ำสุด การหาความลาดชันของหาด 68 ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
5. น�ำข้อมูลมาเขียนกราฟความลาดชันของหาด การวาด shore profile ความลาดชันของชายหาดแต่ละบริเวณ จะมีความลาดชันแตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่ หลังจากนั้นให้นักเรียนวาดเป็นภาพความลาดชันของชายหาดจะท�ำให้นักเรียนเห็นความลาดชัน ของชายหาดในภาพรวม นักเรียนสามารถวัดความลาดชันของหาดเปรียบเทียบในแต่ละฤดูกาล เพื่อสามารถติดตามการเปล่ียนแปลงของลักษณะหาดนั้น • วเิ คราะหต์ ะกอนชายหาด วตั ถุประสงค์ : เพ่ือศึกษาตะกอนที่เป็น องคป์ ระกอบของหาดทราย อปุ กรณท์ ตี่ อ้ งใช้ : 1. ถาดสำ� หรับใสต่ ะกอน 2. ตะแกรงกรองอาหารทม่ี ขี นาดรตู า่ ง ๆ 3. แวน่ ขยายกำ� ลงั ขยาย 5 หรอื 10 เทา่ 4. ไมบ้ รรทดั ตัวอย่างการก�ำหนดจุดศึกษาพร้อมระบุลักษณะต่าง ๆ วิธีการ ศึกษาลักษณะตะกอน 1. เลือกต�ำแหน่งของหาดทรายที่จะเก็บตัวอย่างและท�ำการบันทึกลักษณะสภาพ ภูมิประเทศของแต่ละจุด และเขียนภาพร่างของลักษณะพื้นที่และลักษณะภูมิประเทศ 2. เก็บตัวอย่างทรายแต่ละจุดใส่ลงในภาชนะบรรจุ และใส่กระดาษซึ่งเขียนรายละเอียด เกี่ยวกับแต่ละจุดด้วยดินสอลงไปในภาชนะบรรจุด้วย 3. น�ำตะกอนท่ีได้มาศึกษาภายใต้แว่นขยายหรือกล้องจุลทรรศน์ ว่าตะกอนเหล่านี้ 69 ประกอบด้วยอะไรบ้างน�ำสิ่งที่เห็นมาร่างเป็นภาพว่าเจอส่ิงใดบ้าง และบันทึกรายการของสิ่งที่พบ ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
• ส�ำรวจสงิ่ มีชวี ิตในระบบนิเวศหาดทราย วิธีการศึกษา 1. ให้นักเรียนก�ำหนดจุดท่ีจะศึกษา ซ่ึงต้องท�ำในช่วงน�้ำลดลงต�่ำสุด (เน่ืองจากต้องส�ำรวจ ส่ิงมีชีวิตในเขตน้�ำลดต�่ำสุดด้วย) เพื่อส�ำรวจสิ่งมีชีวิตท่ีอาศัยในบริเวณหาดทรายในแต่ละเขต โดย ก�ำหนดจุดเริ่มต้นให้อยู่ในเขตเหนือระดับน้�ำข้ึนสูงสุด และท�ำเครื่องหมายไว้ที่จุดน้ัน จากน้ัน นักเรียนอาจใช้เชือกหรือสายวัดลากลงมาในแนวราบ กับชายหาดจนถึงเขตน้�ำลดต�่ำสุด ซึ่งจะแบ่ง เป็น 3 เขต (ก�ำหนดระยะห่างในแต่ละเขต) ดังนี้ - เขตเหนือระดับน�้ำข้ึนสูงสุด (Supratidal zone) ก�ำหนดเป็นสถานีท่ี 1 - เขตระหว่างน้�ำขึ้นและน้�ำลง (Intertidal zone) ก�ำหนดเป็นสถานีที่ 2 - เขตน�้ำลงต่�ำสุด (Subtidal zone) ก�ำหนดเป็นสถานีที่ 3 การก�ำหนดจุดส�ำรวจในแนวราบ 2 ในแต่ละสถานี ท�ำการศึกษา โดยใช้ Quadrat ส�ำรวจสิ่งมีชีวิต 3 จุด ในการวาง Quadrat จะวางไปในแนวขนานกับชายหาด Quadrat แต่ละจุดจะต้องมีระยะห่างเท่ากัน (ให้ก�ำหนดระยะ ห่างเองตามความเหมาะสมของพ้ืนที่) วางเหมือนกันทั้ง 3 สถานี A เมตร A เมตร การวาง Quadrat 3 จดบันทึกชนิดและจ�ำนวนหรือร่องรอยต่างๆของสิ่งมีชีวิต ที่พบในแต่ละ Quadrat ของ 70 ทุก สถานี ขุดทรายแต่ละ Quadrat ลึกประมาณ 20 เซนติเมตร ร่อนผ่านตะแกรงร่อน บันทึกสิ่งมี ชีวิตท่ีพบ ท้ังน้ีอาจวาดรูปคร่าว ๆ ของส่ิงมีชีวิตที่พบประกอบด้วย เก็บข้อมูลทั้งหมดเพื่อท�ำการ เปรียบเทียบกับการเก็บตัวอย่างครั้งต่อไป ระบบนิเวศหาดทราย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เอกสารอ้างอิง กองธรณีวิทยา. 2545. รายงานวิชาการ การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย. กรม ทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม. 173 หน้า Collins, J. 1994. Tropical Shoreline: Biology and Ecology. In Pacific Islands and Tropical Shorelines. UNESCO Project: Marine science curriculum materials for South Pacific schools. 75 pp. Moffatt, B. 1995. Marine Environmental Manual. Wet Paper Publications. 326 pp. http:// www.kankyo.tec.u-ryukyu.ac.jp/image/top_image http://www.learn.reo14.go.th/data/books-load/Wast-toi52.pdf http:// www.mytho-fleurs.com http:// www.tartanet.it 71 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
เฉลยค�ำถาม เฉลยค�ำถามบทท่ี 4 หน้า 33 : การท่ีหอยฝังตัวอยู่ลึกในตะกอนมีข้อดี ช่วยป้องกันจากการถูกล่าโดยผู้ล่า ป้องกันจากการต้องเจอกับสภาพแวดล้อมภายนอกท่ีรุนแรง ได้แก่ อุณหภูมิ และความเค็ม ส่วนข้อเสีย คือ มันมีท่อยาวเพื่อหาอาหาร และออกซิเจนจากน้�ำท่ีอยู่เหนือผิวดินแต่ก็ ท�ำให้ยากต่อการย้ายท่ีเพ่ือหาท่ีอาศัยใหม่ หน้า 35 : เน่ืองจากเวลากลางคืนปลอดภัยจากผู้ล่า เช่น นก และกลางคืนมีความชื้น มากกว่าป้องกันการสูญเสียน้�ำในร่างกาย เฉลยกิจกรรมที่ 1.1 หาดทรายของเรา ให้นักเรียนบอกช่ือแหล่งท่องเท่ียวชายหาด ที่นักเรียนรู้จัก หรือเคยไปเท่ียวมา พร้อม อธิบายถึงลักษณะทั่วไปของชายหาดท่ีเคยพบเจอ ได้แก่ ความลาดชันของหาด : หาดค่อนข้างราบ หรือลาดชันมาก สีของเม็ดทราย : มีสีขาว ขาวปนด�ำ ขนาดของเม็ดทราย : ตะกอนหยาบหรือเป็นทรายละเอียด มีซากเปลือกหอยหรือไม่ พบพืชบริเวณหาดทรายบ้างหรือไม่ ยกตัวอย่างพืชที่พบ : ผักบุ้งทะเล ปอทะเล ต้นสน เฉลยกิจกรรมท่ี 2.1 ตอนท่ี 2 : คลื่น 72 พบว่าคล่ืนค่อย ๆ เคล่ือนท่ีเข้ามา ระบบนิเวศหาดทราย เม่ือคลื่นเดินทางมายังส่วนท่ีต้ืน คลื่นจะกระทบ เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กับทราย และมีการสะท้อนกลับโดยจะดึงทราย บริเวณชายฝั่งไปในส่วนที่ลึก ช่วงที่สะท้อนกลับ ด้วย โดยหลังการทดลอง พบว่าทรายโดนคล่ืน ซัด และกระจายตัวออกมาบางส่วนจากบริเวณ เดิม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เฉลยกิจกรรมท่ี 2.2 วิเคราะห์ตะกอนชายหาด สังเกตลักษณะและขนาดของตะกอนทราย โดยทั่วไปตะกอนทรายบริเวณน�้ำลงต่�ำสุดมี ตะกอนละเอียดและเม็ดทรายมีขนาดเล็กมาก เน่ืองจากเม็ดทรายเล็กท่ีถูกพัดพามีน้�ำหนักเบาล่อง ลอยลงมาในช่วงท่ีคลื่นพัดกลับลงสู่ทะเล ตกตะกอนหลัง จึงพบได้ในบริเวณด้านล่างของแนวน้�ำลง ต�่ำสุด ส่วนบริเวณแนวน้�ำข้ึนสูงสุดพบเปลือกหอยและตะกอนหยาบ ซ่ึงเกิดจากการตกตะกอนก่อน เน่ืองจากมีขนาดใหญ่และมีน�้ำหนักมากกว่า ตะกอนหยาบ กรวดขนาดใหญ่ 73 เปลือกหอย ทรายละเอียด กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบบนิเวศหาดทราย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
เฉลยกิจกรรมที่ 3.1 ส�ำรวจพืชชายหาด จดบันทึกชื่อพืชที่พบ สังเกต ลักษณะภายนอกของพืชแต่ละชนิดว่ามีโครงสร้างที่ เก่ียวข้องกับการปรับตัวแตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยดูในส่วนของ ล�ำต้น ใบ และราก ช่วยกัน อภิปรายเปรียบเทียบระหว่าง กลุ่มบุกเบิก ไม้พุ่ม และไม้ยืนต้น ตวั อย่างพชื ประเภทพนั ธไ์ุ ม้ ลกั ษณะ ผกั บ้งุ ทะเล กลุม่ บุกเบิก ลำ�ตน้ ขนึ้ ทอดตอ่ กันเปน็ ร่างแหคลุมพ้นื ทราย ไม้เลื้อย โดยมีรากยดึ พน้ื ทรายและหาน้ำ� ข้ึนอยเู่ ปน็ หยอ่ ม ขยายบริเวณไมก่ ว้างมากนกั มนั จะชว่ ยป้องกนั การกัด เซาะบรเิ วณหาดทรายจะคลนื่ ที่ซัดเขา้ มา ขึน้ เปน็ ดงยาว ไปตามหน้าหาด ใบยาวหนาคอ่ นข้างอวบนำ้ � รากเหนยี วแผก่ วา้ งเชอ่ื มต่อกนั จากต้นหนึ่งไปยังอกี ต้น พลบั พลึงทะเล ไมพ้ มุ่ หนงึ่ ระบบรากเป็นรา่ งแหขนาดใหญ่ชว่ ยยดึ หาดและดูด ซมึ น้ำ� สนทะเล ไมย้ นื ตน้ ตน้ จะมคี วามสงู ไดต้ ้งั แต่ 10-40 เมตร ใบลูล่ มมลี กั ษณะ เปน็ เส้นฝอย มีกิ่งย่อยมสี เี ขยี วเรยี วเล็กคลา้ ยเข็ม …………… ………………. ในกงิ่ ย่อยมีคลา้ ยเข็มจะมีลักษณะเปน็ ปลอ้ งๆ ต่อกนั …………… ………………. ผลจะมีลักษณะเปน็ หนามแหลมคล้ายทเุ รียน ……………………………………………….. …………………………………………………. ระบบนิเวศหาดทราย 74 เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เฉลยกิจกรรมที่ 4.1 จากรูปท่ีก�ำหนดให้ ให้นักเรียนใช้ Key อย่างง่ายท่ีให้ มาใช้ในการจ�ำแนกสัตว์ท้ัง 4 ชนิด (A) เพรียงหิน (Barnacle) (B) ก้ังต๊ักแตน (Stomatopod) (C) แมลงสาบทะเล (Isopod) (D) กุ้งเต้น (Amphipod) เฉลยกิจกรรมท่ี 5.1 75 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
เฉลยกิจกรรมท่ี 6.1 ตารางกิจกรรมการใช้ประโยชน์บนชายหาด ตัวอยา่ งกิจกรรม ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ ผลเสยี ท่ีอาจเกดิ ขน้ึ 1. เล่นน้ำ�ทะเล สนุกสนาน พกั ผอ่ น เกดิ ตะกอนฟุง้ ในพน้ื ท่ที ี่เปน็ พน้ื โคลน 2. ทานขา้ วบนชายหาด พกั ผ่อน ทงิ้ เศษอาหารบนหาดทราย กอ่ กองไฟบนพ้ืนทราย 3. ขาย - ซ้อื ของที่ระลกึ จาก คนขายมีรายได้ คนซอ้ื ได้ อาจทำ�ใหเ้ กิดการจบั สตั ว์นำ้ �เพือ่ การ เปลอื กหอยหรือสตั ว์นำ้ � ของฝากทีร่ ะลึก คา้ มากข้นึ สัตวน์ ้ำ�ลดปริมาณลง�ร��ะ��บ�บ� หายาก นิเวศขาดความสมดุล 4 กอ่ สรา้ งกิจการโรงแรม เพือ่ การคา้ มีที่พักสำ�หรบั บดบังทัศนียภาพ ปลอ่ ยนำ้ �เสียโดยไม่ หรอื รีสอรท์ นักทอ่ งเที่ยว บำ�บดั ลงสูท่ ะเล ปรมิ าณขยะเพ่ิมขน้ึ บางครั้งดึงดดู นกั ท่องเทยี่ วเข้ามามาก เกนิ ไปจนอาจเกินความสามารถในการ รองรับนักท่องเทีย่ วของพ้นื ที่ 5 ........................... ......................... ....................... 6 .......................... ......................... ........................ ระบบนิเวศหาดทราย 76 เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เฉลยกิจกรรมที่ 7.1 ผลของน�้ำมันต่อขนนก 1. ให้นักเรียนเทน้�ำสะอาดใส่แก้วน�้ำ จากนั้นน�ำขนนกจุ่มลงในน�้ำ เม่ือน�ำขึ้นมาให้สังเกต ลักษณะขนนก ว่าเปียกน้�ำหรือไม่ • เมื่อน�ำขนนกขึ้น นักเรียนจะพบว่าขนนกส่วนใหญ่จะแห้ง แสดงว่าขนนกสามารถกันน้�ำ ได้ 2. จากน้ันให้นักเรียน เทน้�ำมันลงบนผิวน�้ำในแก้วใบแรก นักเรียนจะสังเกตพบว่าน�้ำมัน จะลอยอยู่บริเวณผิวน้�ำ ซึ่งถ้าน้�ำมันที่ไหลลงไปทะเลก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน 3. จุ่มขนนกลงในแก้ว สังเกตลักษณะของขนนกว่าเป็นอย่างไร • เมื่อน�ำขนนกขึ้น นักเรียนจะพบว่า น�้ำมันจะเกาะ เคลือบอยู่ในขนนก ซึ่งจะท�ำลาย โครงสร้างของขนนก ท�ำให้นกไม่สามารถบิน และหาอาหารได้ 4. จากนั้นให้นักเรียนน�ำแก้วสะอาดอีกใบเติมน�้ำสะอาดและใส่ผงซักฟอก หรือน�้ำยาล้าง จานลงไปในแก้ว จุ่มขนนกอันเดิมท่ีมีคราบน�้ำมันลงไปลงไป คนน�้ำในแก้วให้เข้ากัน 5. น�ำขนนกข้ึน สังเกตลักษณะของขนนกว่าเป็นอย่างไร • เมื่อน�ำขนนกข้ึนจากน�้ำจะจะพบว่าขนนกจะเปียกน้�ำ ไม่สามารถท่ีจะกันน�้ำได้อีกต่อไป ส่งผลต่อการด�ำรงชีวิตของนก เฉลยกิจกรรมท่ี 8.1 แยกประเภทของขยะท่ีเก็บได้ และช่วยกันคิดถึงแหล่งที่มาของขยะดังกล่าว แหล่งท่ีมา ของขยะอาจมาได้จากหลายที่ เช่น จากนักท่องเที่ยว จากบ้านเรือน จากเรือประมง รวมถึงจาก พ้ืนที่อื่นๆ โดนน�้ำซัดพาเข้ามายังชายฝั่ง แสดงให้เห็นว่าขยะที่เห็นบริเวณน้ันอาจไม่ได้เกิดขึ้นจาก ในพื้นที่เพียงอย่างเดียว อาจถูกน�ำเข้ามาจากพื้นท่ีอ่ืนๆ ได้เช่นกัน ถ้าไม่ช่วยกันดูแล ก็จะส่งผลให้ ปริมาณขยะบริเวณหาดทรายเพ่ิมมากขึ้น ส่งผลให้ระบบนิเวศหาดทรายเส่ือมโทรมลงได้ 77 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
ระบบนิเวศหาดทราย 78 เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
79 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบนิเวศหาดทราย เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
Search