Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore factbook_cn

factbook_cn

Description: factbook_cn

Search

Read the Text Version

เขตการค้าเสรี อาเซยี น-จนี Asean-China Free Trade Agreement : ACFTA FACT BOOK

ACFTA 1. บทนำ จีนได้นำนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศมาต้ังแต่ปี 2522 ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาภายในสองทศวรรษ จีนได้ก้าวข้ึนเป็นประเทศท่ีมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกต้ังแต่ปี 2550 และมีเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากญ่ีปุ่น อันเป็นผลมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจกว่าร้อยละ 9 กอปรกับเงินหยวน ท่ีแข็งค่าขึ้น และพลังทางเศรษฐกิจของตลาดภายในขนาดใหญ่ของจีนท่ีมี ประชากรมากเปน็ อนั ดบั 1 ของโลก สำหรับภาพรวมของสถานะด้านการค้าระหว่างประเทศ ภายในสอง ทศวรรษสถานะของจีนได้เล่ือนจากประเทศท่ีมีปริมาณการค้าจากอันดับ 32 ในปี พ.ศ. 2522 เล่ือนสูงข้ึนเป็นอันดับ 5 ของโลก หลังจากที่จีนได้เข้าเป็น สมาชิกองค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2544 และด้านการส่งออกของจีนได้ก้าวข้ึนเป็นผู้นำการส่งออกที่สำคัญ เป็นอันดับ 4 ของโลก จีนกลายเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกท่ีมีสินค้าท่ี สำคัญหลายรายการ ประกอบกับในขณะน้ปี ระเทศต่างๆ ได้ให้ความสนใจท่จี ะ ร่วมธุรกิจกับจีน โดยเฉพาะหลังจากท่ีจีนเข้าเป็นสมาชิก WTO ได้มีนักลงทุน ต่างชาติย้ายฐานการผลิตเข้ามาในจีนเพ่มิ มากข้นึ จนทำให้ภาพลักษณ์ของจีน ในตลาดโลกเร่ิมแปรเปลี่ยนจากเป็น “ผู้บริโภคสินค้ารายใหญ่ของโลก” มาเป็น “แหล่งผลิตสินค้าส่งออกไปขายทั่วโลก” จนทำให้เกิดคำกล่าวที่ว่า จีนได้กลาย เป็น “โรงงานของโลก (World Factory)” และกลายเป็นประเทศท่ีมีการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศไหลเขา้ มากท่สี ุดในโลก กอ่ นปี 2551 จนี มอี ตั ราการขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ในระดบั สงู มาตลอด โดยเฉพาะในชว่ ง 5 ปหี ลงั จนี มอี ตั ราดงั กลา่ วสงู กวา่ รอ้ ยละ 10 ทกุ ปี แมใ้ นชว่ งท่ี  หลายประเทศเร่ิมประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2551 จีนยังคงมีอัตรา การขยายตวั ของ GDP สูงถงึ ร้อยละ 9.4

เศรษฐกิจจีนในปี 2552 คาดว่า จะมีการชะลอตัวลงตามแนวโน้ม  เศรษฐกิจโลก เน่ืองจากเศรษฐกิจจีนพึ่งพาการส่งออกและการลงทุนจากต่าง ประเทศเปน็ อยา่ งมาก ในปี 2551 รฐั บาลจนี ไดห้ นั มาใหก้ ารสนบั สนนุ การบรโิ ภค ในประเทศ และออกมาตรการกระตนุ้ เศรษฐกจิ สง่ ผลใหส้ ญั ญาณทางเศรษฐกจิ ของจีนบางประการปรับดีขึ้นแม้ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยคาดว่าเศรษฐกิจ ในปี 2552 จะขยายตวั ในชว่ งรอ้ ยละ 6-8 ขอ้ มูลเศรษฐกจิ (2551) ผลติ ภณั ฑม์ วลรวม 4 ล้านลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ (อนั ดับ 3 ของโลก) ประชาชาต ิ ขนาดพ้ืนท ่ี 9,596,960 ตารางกโิ ลเมตร (อนั ดับ 3 ของโลก) ประชากร ประมาณ 1.3 พันลา้ นคน (อนั ดับ 1 ของโลก) รายไดเ้ ฉลี่ยต่อหวั ประมาณ 2,450 เหรียญสหรฐั ฯ (2550) ACFTA ตอ่ ป ี สกลุ เงนิ Renminbi (RMB) หรือหยวน อัตราแลกเปลีย่ น 6.83 หยวน = เหรยี ญสหรัฐฯ ตลาดหลักทรพั ย์ มี 2 แห่ง คอื 1.Shanghai Stock Exchange 2.Shenzhen Stock Exchange ธนาคารพาณชิ ย์ มี 4 แหง่ คือ ขนาดใหญ่ 1. Bank of China 2. Industrial and Commercial Bank 3. China Construction Bank 4. Agriculture Bank of China

ร ะบบภาษมี ูลค่าเพิ่ม แบง่ เปน็ 3 อัตราได้แก ่ • อัตรารอ้ ยละ 0 สำหรับสินค้าส่งออก • อตั รารอ้ ยละ 13 สำหรบั สนิ คา้ นำเขา้ กลมุ่ สนิ คา้ เกษตร • อตั รารอ้ ยละ 17 สำหรบั สนิ คา้ นำเขา้ กลมุ่ แปรรปู สนิ คา้ เกษตร และกลมุ่ อตุ สาหกรรม เส น้ ทางขนสง่ สนิ คา้ : ACFTA ท่าเรือสำคญั 1. ท่าเรือในมหานครเซ่ยี งไฮ ้ 2. ทา่ เรือตา้ เหลยี น (มณฑลเหลียวหนงิ ) 3. ท่าเรอื เหลยี นหยนุ ก่ัง (มณฑลซานตง) 4. ท่าเรือหวงผู่ (มณฑลกวางตุง้ ) 5. ทา่ เรอื จา้ นเจยี ง (มณฑลกวางตุง้ ) 6. ทา่ เรือในมหานครเทยี นจนิ 7. ทา่ เรอื เวินโจว (มณฑลเจ้อเจียง) 8. ทา่ เรือหนงิ โป (มณฑลเจอ้ เจียง) เป็นตน้ ทา่ อากาศยานสำคญั 1. สนามบินกรงุ ปักก่งิ 2. สนามบินผตู่ ง นครเซีย่ งไฮ้ 3. สนามบนิ ไป๋หยนุ นครกวางโจว 4. สนามบินเทยี นจนิ มหานครเทยี นจนิ 5. สนามบินเป่าอนั เมืองเซนิ เจิน้ เป็นต้น มาตราชั่งตวงวดั 1 จนิ (Jin) = 0.5 กิโลกรมั 1 หมู่ (Mu) = 0.0067 เฮกดาร ์ 1 ไร ่ = 2.4 หมู่ 1.2 ขอ้ มลู การคา้ ระหว่างจีนกบั ประเทศต่างๆ  จีนได้เปรียบดุลการค้ากับท่ัวโลก จากข้อมูลปี 2551 จีนได้ดุลการค้า สหรัฐฯ มากเป็นอันดับหน่ึง ด้วยมูลค่า 116,212 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนคู่ค้า อื่นๆ รองลงมาตามลำดับ ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ ไต้หวัน เยอรมนี

จนี เปน็ ประเทศผสู้ ง่ ออกอนั ดบั 2 ของโลก มสี นิ คา้ สง่ ออกสำคญั ไดแ้ ก่  เครื่องใช้ไฟฟ้า เคร่ืองจักรกล เสื้อผ้าและส่ิงทอ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เหลก็ เฟอรน์ เิ จอร์ อปุ กรณแ์ ละชน้ิ สว่ นรถยนต์ ของเดก็ เลน่ อปุ กรณก์ ฬี า เชอ้ื เพลงิ ACFTA ธรรมชาติ รองเท้า เคมีภัณฑ์ พลาสติก ตลาดส่งออกหลักของจีน ได้แก่ สหรัฐ อเมริกา (สัดส่วนร้อยละ 17.7) ฮ่องกง (สัดส่วนร้อยละ 13.4) ญี่ปุ่น (สัดส่วน ร้อยละ 8.1) ดา้ นการนำเขา้ จนี เปน็ ประเทศผนู้ ำเขา้ สำคญั อนั ดบั 3 ของโลก รองจาก สหรฐั อเมรกิ าและเยอรมนี โดยมสี นิ คา้ หลกั นำเขา้ ไดแ้ ก่ แผงวงจรไฟฟา้ เชอ้ื เพลงิ ธรรมชาติ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ สินแร่ อุปกรณ์เลเซอร์ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ รถยนต์และส่วนประกอบ ทองแดง เหล็กและเหล็กกล้า ส่วนแหล่ง นำเขา้ สำคญั ของจนี ไดแ้ ก่ ญป่ี นุ่ (สดั สว่ นรอ้ ยละ 13.3) เกาหลใี ต้ (สดั สว่ นรอ้ ยละ 9.9) ไตห้ วนั (สดั ส่วนร้อยละ 9.1) จากขอ้ มลู ของฝา่ ยจนี ไทยเปน็ ตลาดสง่ ออกอนั ดบั ท่ี 21 ของจนี โดยมี สัดส่วนร้อยละ 1.09 และเป็นแหล่งนำเข้าอันดับที่ 11 ของจีนโดยมีสัดส่วน รอ้ ยละ 2.27 1.3 สถานการณก์ ารค้าไทย-จีน1 จากขอ้ มลู ของไทย การคา้ ระหวา่ งประเทศไทยและจนี ปี 2551 มมี ลู คา่ 36,486.34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นการส่งออก 16,215.78 ล้านเหรียญ สหรฐั ฯ การนำเข้า 20,270.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยเสียเปรียบดุลการค้ากับ จนี เปน็ มลู คา่ 4,054.78 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ 1 สำหรบั สถานการณก์ ารคา้ ผกั -ผลไมร้ ะหวา่ งประเทศไทย-จนี ภายใตข้ อ้ ตกลงเอฟทเี อ ไทย-จีน ในปี 2551 มีมูลค่า 511.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แยกเป็นการส่งออกผักผลไม้ไปจีนมูลค่า 398.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำเข้าจากจีนมูลค่า 122.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยได้เปรียบจีนเป็น มลู คา่ 276.34 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ

จีนเป็นตลาดส่งออกสำคญั อันดบั ท่ี 3 ของไทย รองจากสหรฐั อเมริกา และญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนร้อยละ 9.12 ของมูลค่าการส่งออก ในปี 2551 มีมูลค่า 16,215.78 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ เพิ่มข้นึ รอ้ ยละ 1.87 ส่วนด้านการนำเข้า จีนได้ก้าวข้ึนเป็นแหล่งนำเข้าลำดับท่ี 2 ของไทย รองจากญป่ี นุ่ ในปี 2551 มมี ลู คา่ 20,270.56 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ ขยายตวั รอ้ ยละ 15.24 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.23 ของการนำเข้ารวมของไทย (180,583 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สำหรับโครงสร้างสินค้านำเข้าจากจีนแบ่งเป็นสินค้าทุน ร้อยละ 39.21 รองลงมาเปน็ สินค้าวัตถุดิบและกง่ึ สำเรจ็ รปู ร้อยละ 38.94 สินคา้ ACFTA บรโิ ภครอ้ ยละ 19.11 สนิ คา้ เชอ้ื เพลงิ สนิ คา้ ยานพาหนะ สนิ คา้ อปุ กรณก์ ารขนสง่ และสนิ คา้ อนื่ ๆ รวมกันอีกร้อยละ 2.7 สินค้าส่งออกไปจีน 10 อันดับแรก ได้แก่ 1) เครื่องคอมพิวเตอร์/ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 2) ยางพารา 3) แผงวงจรไฟฟ้า 4) นำ้ มันดิบ 5) เม็ด พลาสติก 6) เคมีภัณฑ์ 7) ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 8) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 9) เลนส์ 10) ข้าว สนิ คา้ นำเขา้ จากจนี 10 อนั ดบั แรก ไดแ้ ก่ 1) เครอ่ื งโทรศพั ท์ 2) เครอ่ื ง คอมพิวเตอร์ 3) เหล็กและเหล็กกล้า 4) ผลิตภัณฑ์เหล็กโลหะ 5) พลาสติก 6) เคมีภณั ฑ์ 7) ปยุ๋ 8) เครอ่ื งเพชรพลอย 9) อะลูมเิ นยี ม 10) เสน้ ใยนำแสง 2. ความเช่ือมโยง “ข้อตกลงเร่งลดภาษีสินค้าผักและผลไม้ ระหวา่ งไทย - จนี ” และขอ้ ตกลง “เอฟทเีอ อาเซยี น - จนี ” 2.1 ขอ้ ตกลงเรง่ ลดภาษีสนิ ค้าผักและผลไมร้ ะหว่างไทย - จนี เม่อื วันท่ี 18 มิถนุ ายน 2546 รัฐบาลไทยและจีนได้ลงนามในขอ้ ตกลง  เร่งลดภาษีศุลกากรสินค้าผักและผลไม้ระหว่างไทย – จีน ให้เหลือร้อยละศูนย์ รายการสินค้าที่ครอบคลุมในข้อตกลงน้ี ได้แก่ สินค้าผักและผลไม้ตามพิกัด ศุลกากร HS 07-08 รวมทั้งส้ิน 116 รายการ (พิกัด 6 หลัก) และมีผลตั้งแต่วันท่ี 1 ตลุ าคม พ.ศ.2546

ข้อตกลงเร่งลดภาษีฯ (หรือท่คี นไทยท่วั ไปนิยมเรียกว่า เอฟทีเอไทย –  จีน2) ข้างต้น เป็นการดำเนินการภายใต้แนวคิดการเปิดเสรีในบางสาขาที่มี ความพร้อมก่อน (Early Harvest) ตามมาตรา 6 ของความตกลงจัดทำเขต ACFTA การค้าเสรีอาเซียน – จีน หรือที่เรียกว่า “เอฟทีเอ อาเซียน – จีน” (สิงคโปร์ได้ เข้าร่วมในความตกลงเร่งลดภาษีด้วยและเร่ิมลดภาษีระหว่างกันเมื่อวันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2548) ส่วนการเปิดเสรีในบางสาขาท่ีมีความพร้อมก่อน (Early Harvest) ภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน – จีน ครอบคลุมในพิกัดฯ HS 01 – 08 ได้เริ่มต้น ต้ังแต่วันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2547 ก่อนท่ีจะมีการเปิดเสรีในรายการสินค้าปกติ (Normal Track) ในเวลาตอ่ มา 2.2 ขอ้ ตกลงเอฟทเี อ อาเซยี น – จีน : ทมี่ าทไี่ ปกรอบเจรจา ความเปน็ มา นายกรัฐมนตรีจีน นายจู หรงจี เป็นผู้เสนอต่อท่ีประชุมผู้นำอาเซียน (ASEAN China Summit) เม่ือวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 ณ กรุงบันดาร์ เสรีเบกาวัน เพ่ือศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเขตการคา้ เสรรี ะหวา่ งจนี – อาเซยี น และตอ่ มาไดต้ ง้ั คณะเจรจาอาเซยี น – จนี (ASEAN-China Trade Negotiating Committee : TNC) เพ่ือเป็นเวทีเจรจา ระหว่างจนี กับประเทศสมาชิกอาเซยี น ต่อมาเม่ือวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศ กมั พชู า ในทป่ี ระชมุ สดุ ยอดอาเซยี น – จนี ผนู้ ำอาเซยี นและจนี ไดม้ กี ารลงนามใน กรอบความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน – จีน (Framework Agreement on ASEAN – China Comprehensive Economic Cooperation) เพ่ือใช้เป็น 2 ช่ือของความตกลงฉบับนี้คือ “Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the People’s Republic of China on Accelerated Tariff Elimination under the Early Harvest Program of the Framework Agreement on Comprehensive Economic Cooperation between ASEAN and China”

ACFTA แนวทางดำเนนิ การเปดิ เสรแี ละดำเนนิ การดา้ นความรว่ มมอื ในดา้ นตา่ งๆ โดยได้ เห็นชอบในแนวคิดที่จะมีการเปิดเสรีในบางสาขาท่ีมีความพร้อมก่อน หรือท่ี เรยี กวา่ แนวคดิ Early Harvest ภายใตม้ าตรา 6 ของกรอบความตกลงดงั กลา่ ว โดยครอบคลุมสินค้าในกลุ่มพิกัด HS 01-08 ได้แก่ สัตว์มีชีวิต เนื้อสัตว์ ปลา และอาหารทะเล นมและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์ ผักและผลไม้ โดยเรม่ิ ลดภาษตี ง้ั แต่วันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2547 และภาษีจะลดลงเหลืออัตรา ร้อยละ 0 ภายในปี 2549 ความตกลงการค้าสนิ คา้ เมอ่ื วนั ท่ี 29 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2547 ในการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น – จนี ณ ประเทศลาว ผู้แทนของอาเซียนและจีนได้ร่วมกันลงนามใน “ความตกลง การค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างอาเซียนและจีน” เพ่ือเริ่มต้นเปิดเสรีการค้าสินค้าให้แก่กันในสินค้า นอกเหนือจากสินค้ากลุ่มพิกัด 01-08 ท่ีได้มีการเปิดเสรีไปแล้ว ซึ่งการลดภาษี สนิ คา้ ทเ่ี หลอื น้ี อาเซยี นและจนี เรม่ิ ตน้ ลดภาษรี ะหวา่ งกนั ตง้ั แตว่ นั ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ส่วนไทยได้ลดภาษีให้กับจีนตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2548 เน่ืองจากความลา่ ชา้ ในการดำเนนิ กระบวนการภายในของจนี ในแง่ของความเชื่อมโยงของ “ข้อตกลงเร่งลดภาษีฯ” และ “ข้อตกลง เอฟทีเอ อาเซียน – จีน” เมื่อข้อตกลงเอฟทีเอ อาเซียน – จีน มีผลบังคับ ใชแ้ ลว้ ขอ้ ตกลงเรง่ ลดภาษฯี จะถกู นำเขา้ มาดำเนนิ การตอ่ ภายใตก้ รอบ ใหญน่ ้ี โดยจะครอบคลมุ ทง้ั สนิ คา้ เกษตรและสนิ คา้ อตุ สาหกรรม (พกิ ดั 01 – 99) ยกเว้นสนิ คา้ ออ่ นไหวและสนิ คา้ อ่อนไหวสูง ส รปุ กำหนดการเปดิ เสรี เร ม่ิ ลดภาษี สินคา้ ระยะเวลา  1 มกราคม • สินค้าเกษตรในพิกัด 01- • อาเซยี นเดมิ 1/. + จนี ลดภาษเี หลอื พ.ศ. 2547 •รอ้ ยอลาะเซ0ยี ในนใวหนั มท่่ี12/.มทกยราอคยมลพด.จศน.2เห54ล9อื 08 ไดแ้ ก่ สตั วม์ ชี วี ติ เนอ้ื สตั ว์ ปลา สัตว์นำ้ ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์ท่ีได้จากสัตว์อื่นๆ ร้อยละ 0 ภายในวันท่ี 1 มกราคม

ต้ น ไ ม้ ด อ ก ไ ม้ พื ช ผั ก ท่ี พ.ศ.2553 บริโภคได้ ผลไม้และลูกนัต * ยกเวน้ ภาษนี อกโควตาของสนิ คา้ ท•ี่บถร่าิโนภหคินได ้ ทม่ี กี ารกำหนดโควตาภายใน WTO  เช่น นม หัวหอมใหญ่ กระเทียม มนั ฝรง่ั มะพรา้ ว ลำไยแหง้ ยงั คงเดมิ ตาม WTO 1 กรกฎาคม สนิ คา้ อน่ื ๆ ทเ่ี หลอื ทกุ ประเภท ท•ยออายเลซดียจนนเเดหิมลือ+รอ้ จยีนละภ0า ยใน 1 พ.ศ.2548 รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรมท่ี อยใู่ นบญั ชรี ายการสนิ คา้ ปกต ิ •มกอราาเคซมยี นพใ.หศม2่ 5ภ5า3ย ใน 1 มกราคม พ.ศ. 2558 หมายเหต ุ 1/. อาเซยี นเดมิ ประกอบดว้ ย ไทย มาเลเซยี สงิ คโปร์ อนิ โดนเี ซยี ฟลิ ปิ ปนิ ส์ และบรไู น 2/. อาเซยี นใหม ่ ประกอบดว้ ย พมา่ กมั พชู า ลาว และเวยี ดนาม การเปดิ เสรใี นสาขาตา่ งๆ ACFTA 1. การคา้ สินคา้ แบง่ เปน็ 3 กลมุ่ สนิ คา้ ไดแ้ ก ่ 1.1) สนิ คา้ ปกติ (Normal Products) จำนวน 5,140 รายการ เรม่ิ ลด ภาษตี ง้ั แตว่ นั ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 และลดลงเหลอื รอ้ ยละ 0 ตง้ั แตป่ ี 2553 เป็นต้นไป (แตจ่ นี และไทยเริม่ ลดภาษตี งั้ แต่วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2548) 1.2) สินค้าอ่อนไหว (Sensitive Products) เป็นสินค้าที่ประเทศ สมาชิกยังไมพ่ ร้อมจะลดภาษพี รอ้ มกบั สนิ ค้าปกติ และตอ้ งการเวลาปรบั ตวั นาน กว่าจะกำหนดให้เป็นสินค้าอ่อนไหว โดยกำหนดเง่ือนไขเพดานสินค้าอ่อนไหว เพือ่ จำกดั จำนวนสินคา้ ดังกล่าว ดงั น้ี (1) ประเทศสมาชิกอาเซียนเดิมและจีน มีรายการสินค้าอ่อนไหว ได้ไม่เกิน 400 รายการ (พิกัด 6 หลัก) ไทยมี 251 รายการ เช่น น้ำผลไม้ ยางรถยนต์ รองเท้า กระจก เหล็กและผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ไฟฟ้า และของเล่น เป็นต้น ส่วนจีนมี 178 รายการ เช่น กาแฟ ยาสูบ ผลิตภัณฑ์เช้ือเพลิง ขนสัตว์ ฝ้าย และยานยนต์ เปน็ ตน้ (2) มลู คา่ การนำเขา้ ของรายการสนิ คา้ ออ่ นไหวทง้ั หมด ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ของมลู คา่ การนำเขา้ รวม

ACFTA สินค้าอ่อนไหวจะเริ่มลดอัตราภาษีช้ากว่าสินค้าปกติ โดยจะลดภาษี มาอยู่ท่ีไม่เกินร้อยละ 20 ภายในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 และจะลดเป็น รอ้ ยละ 0-5 ภายในวนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 สำหรบั ประเทศสมาชกิ อาเซียน ใหม่ จะได้รับความยืดหยุ่นทั้งในด้านจำนวนสินค้าอ่อนไหว และระยะเวลา การลดภาษที ีน่ านกวา่ 1.3) สินค้าอ่อนไหวสูง (Highly Sensitive Products) ในรายการ สินค้าอ่อนไหวยังแบ่งเป็นสินค้าอ่อนไหว และสินค้าอ่อนไหวสูง โดยประเทศ สมาชิกอาเซียนเดิมและจีนต้องจำกัดรายการสินค้าอ่อนไหวสูงไม่เกิน 100 รายการ หรอื ร้อยละ 40 ของจำนวนรายการสนิ คา้ ออ่ นไหว แลว้ แตว่ า่ เงื่อนไขใด สง่ ผลใหม้ ีรายการสนิ คา้ อ่อนไหวสูงน้อยกวา่ สินค้าอ่อนไหวสูงของไทยมี 100 รายการ เช่น สินค้าเกษตรท่ีมี โควตาภาษีท้ังหมด 23 รายการ เช่น นมและครีม มันฝรั่ง หอม กระเทียม กาแฟ ไหมดิบ หินอ่อน และยานยนต์และช้ินส่วน เป็นต้น ส่วนของจีนมี 100 รายการ เชน่ ข้าวโพด ขา้ ว พชื นำ้ มัน นำ้ ตาล ยางธรรมชาติ ไม้ ของทำดว้ ยไม้ กระดาษ/ ผลิตภัณฑ์ และรถยนต์น่ัง เปน็ ตน้ การลดภาษีของสินค้าอ่อนไหวสูง กำหนดให้ลดภาษีมาอยู่ท่ีอัตราไม่ เกนิ รอ้ ยละ 50 ภายในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 รปู แบบการลด / เลกิ ภาษขี องสนิ คา้ ออ่ นไหวสำหรบั ประเทศสมาชกิ อาเซยี นเดมิ และจีน สนิ ค้าอ่อนไหว เพดานอัตราภาษีภายใต้การเปิดเสร ี (ไม่ชา้ กว่าวนั ที่ 1 มกราคม) การคา้ สนิ คา้ อาเซียน – จนี ปี 2555 รอ้ ยละ 20 ปี 2561 รอ้ ยละ 0-5 10 สนิ คา้ ออ่ นไหวสงู รอ้ ยละ 50 ปี 2558 ท่ีมา : Agreement on Trade in Goods of the Framework Agreement on Comprehensive Economic Co-Operation between the Association of Southeast Asian Nations and the People’ s Republic of China

2. การค้าบรกิ าร 11 อาเซียนและจีน เร่ิมเจรจาการค้าบริการตั้งแต่ช่วงปลายปี 2546 และสามารถสรุปผลข้อบทความตกลงด้านการค้าบริการ พร้อมข้อผูกพันการ ACFTA เปิดตลาดกลุ่มท่ี 1 ได้แล้ว โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนได้ลงนามใน ความตกลงด้านการค้าบริการ ในระหว่างการประชุมสดุ ยอดอาเซียน (ASEAN- China Summit) ในวันที่ 14 มกราคม 2550 ณ เมืองเซบู สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยระดับการเปิดตลาดของแต่ละประเทศ จะระบุอยู่ในตารางข้อผูกพันของ แต่ละประเทศ และปรากฎอยู่ในส่วนแนบท้ายความตกลงฯ ซ่ึงถือว่าเป็นส่วน หนึ่งของความตกลงฯ ท้ังน้ี ไทยเสนอผูกพันเปิดตลาดภายใต้กรอบที่กฎหมาย ปัจจุบันอนุญาตให้ต่างชาติประกอบธุรกิจได้ คือ ให้ประเทศสมาชิกอาเซียน และจนี สามารถเขา้ มาประกอบธรุ กจิ ไดโ้ ดยถอื หนุ้ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 49 และมเี งอ่ื นไข อน่ื ตามกฎหมายเฉพาะสาขา เชน่ ในสาขาวชิ าชพี ตอ้ งเปน็ ไปตามทส่ี ภาวชิ าชีพ กำหนด เปน็ ตน้ ขอ้ ผกู พันสาขาการเปิดตลาดกลุ่มแรก - ประเทศสมาชิกอาเซียนรวมทั้งไทยเสนอผูกพันเปิดตลาดในระดับ สูงกว่าที่เปิดตลาดภายใต้ WTO แต่ตำ่ กว่าท่ีเปิดตลาดให้กันเองในอาเซียน โดยกจิ กรรมทไ่ี ทยเสนอเปดิ ตลาดเพม่ิ ขน้ึ จากขอ้ ผกู พนั ภายใต้ WTO ครอบคลมุ กิจกรรมบริการบางประเภทในสาขาวิชาชีพการศึกษา การบริการด้านสุขภาพ การท่องเที่ยว และการขนสง่ สนิ ค้าทางเรือ - สำหรับจีนเสนอเปิดตลาดเพ่ิมเติมจากข้อผูกพันภายใต้ WTO โดย ครอบคลมุ กจิ กรรมในสาขาบรกิ ารดา้ นคอมพวิ เตอร์ บรกิ ารดา้ นอสงั หารมิ ทรพั ย์ บริการขนส่งสินค้าทางถนน และบริการธุรกจิ อื่นๆ 3. การลงทนุ อาเซียนและจีนได้มีการลงนามความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน- จีน เมื่อวันท่ี 15 สิงหาคม 2552 โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก อาเซียนและจีน ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 41 ณ กรุงเทพฯ ความตกลงฯ ครอบคลุมด้านการคุ้มครองการลงทุน การอำนวย ความสะดวกการลงทุน โดยท้ังสองฝ่ายตกลงให้การสนับสนุนการลงทุนทาง

ACFTA ตรงระหว่างกัน ปฏิบัติต่อนักลงทุนทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นธรรมและทัดเทียม การชดเชยให้แก่นักลงทุนในกรณีท่ีมีการเวนคืน และการระงับข้อพิพาท ระหว่างนักลงทุนของคู่ภาคีกับรัฐ อันจะนำไปสู่การไหลเข้าของเงินทุนใหม่ และนำเอาผลกำไรกลับมาลงทุนในรูปแบบที่ยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการ จดั ตงั้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น 4. กฎว่าด้วยแหล่งกำเนดิ สินคา้ กฎว่าดว้ ยแหลง่ กำเนิดสนิ คา้ ใช้หลกั 3 ประการ ดังน ้ี (1) Wholly obtained สำหรับสินคา้ เกษตรพ้นื ฐาน (2) สินค้าอ่นื ๆ ต้องมีมูลค่าของวัตถุดิบท่ใี ช้ภายในประเทศไม่ตำ่ กว่า รอ้ ยละ 40 โดยสามารถนำมลู คา่ ของวตั ถดุ บิ จากทกุ ประเภทสมาชกิ มารวมกนั ได้ (Regional Value Content : RVC) (3) กฎแหลง่ กำเนดิ ของสนิ คา้ เฉพาะ (Product Specific Rules: PSR) สำหรับบางสินค้า โดยได้ตกลงกันแล้วในสินค้ากลุ่มแรกซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่ิงทอ และกำลงั เจรจาสนิ คา้ กลมุ่ ทส่ี อง โดยสนิ คา้ ทไ่ี ทยผลกั ดนั คอื สนิ คา้ ทะเลกระปอ๋ ง อญั มณแี ละเครื่องประดับ 5. ความร่วมมอื ด้านเศรษฐกจิ อาเซียน-จีน ใน Article 7 ของกรอบความตกลงเขตการคา้ เสรอี าเซยี น-จนี ระบเุ รอ่ื ง Other Areas of Economic Cooperation ซึ่งครอบคลุมสาขาหลัก ได้แก่ การเกษตร เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร การพฒั นาบคุ ลากร การลงทนุ การพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง ท้ังนี้ ท่ีประชุม SEOM ครั้งท่ี 1/38 เมื่อเดือนมกราคม 2550 เห็นชอบให้ TNC จัดต้ังคณะทำงานด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยอาเซียนและจีนได้เห็นชอบในหลักการของ TOR สำหรับการจัดตั้งคณะ ทำงานด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซ่ึงจะใช้เงินทุนจากแหล่งเงินทุนที่มีอยู่ 12 แลว้ เปน็ หลกั เชน่ กองทนุ ความรว่ มมอื อาเซยี น-จนี (ASEAN-China Cooperation Fund : ACCF) คณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน-จีน (ASEAN- China Joint Cooperation Committee : ACJCC) และสามารถใช้เงินทุนจาก แหล่งอืน่ ไดโ้ ดยจะพจิ ารณาเปน็ รายโครงการ

สำหรับโครงการแรกของคณะทำงานด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 13 อาเซยี น-จนี ภายใตค้ วามตกลงการคา้ เสรอี าเซยี น คอื Workshop on Implementation of the China-ASEAN Free Trade Agreement ได้จัดข้ึนที่ประเทศจีน เมื่อ เดอื นเมษายน 2552 ได้ประสบความสำเร็จด้วยดี 3. ประโยชน์ของเอฟทเี ออาเซยี น – จีน : โอกาสและผลกระทบตอ่ สินคา้ ไทย คณะทำงาน ASEAN – China Economic Cooperation Expert ACFTA Group ได้จัดทำรายงานชื่อ “Forging Closer ASEAN – China Economic Relations in the 21st Century (2545)” โดยใชโ้ มเดลทางเศรษฐศาสตรท์ เ่ี รยี กวา่ GTAP ศึกษาวิจัยและคาดคะเนผลกระทบจากการจัดทำเอฟทีเออาเซียน – จีน •มขี ้อสรุปทีน่ ่าสนใจ ดังน้ ี เมื่อเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเออาเซียน – จีนมีผลบังคับใช้แล้ว คาดวา่ จะชว่ ยใหก้ ารสง่ ออกของอาเซยี นไปจนี เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ 48 ขณะทก่ี ารสง่ ออก •ของจีนไปอาเซียนจะเพ่ิมข้ึนร้อยละ 55.1 สำหรับประเทศไทยคาดว่าการจัดต้ังเขตการค้าเสรีอาเซียน – จีน จะช่วยขยายการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.3 ขณะที่การส่งออกของจีน •มาไทยจะเพิม่ ขึน้ ร้อยละ 55.01 การขยายตัวทางการค้า การลงทุน ระหว่างอาเซียน – จีน จะช่วย เสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อความร่วมมือภายใต้กรอบเอฟทีเอระหว่างกัน ได้มากขึ้น และช่วยให้เกิดการพึ่งกันด้านการค้า การลงทุนภายในกลุ่มสมาชิก เอฟทีเอมากขึ้น จนสามารถใช้เป็นจุดแข็งร่วมกันของกลุ่ม เพื่อลดการพ่ึงพา การค้าและการลงทุนจากประเทศพัฒนาแล้วเหมือนในอดีต และจะช่วยเพ่ิม อำนาจต่อรองให้กับสมาชิกของกล่มุ เอฟทีเออาเซียน – จีน ในการเจรจาการค้า กบั ประเทศพฒั นาแล้วด้วยเช่นกัน

ACFTA สำหรบั โอกาสและผลกระทบของขอ้ ตกลงดงั กลา่ วทจ่ี ะมตี อ่ สนิ คา้ ไทย หากพิจารณาในแง่บวก เม่ือเปรียบเทียบกับข้อตกลงเร่งลดภาษีฯ ท่ีผ่านมา ข้อตกลงอาเซียน – จีน ฉบับน้ีได้ค่อยๆ เปิดเสรีโดยการลดภาษีนำเข้าลงอย่าง เป็นขั้นเป็นตอน อีกทั้งได้คำนึงถึงสินค้าบางรายการที่ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเสรี ก็จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “สินค้าอ่อนไหว” ซึ่งจะมีเวลาปรับตัวนานข้ึน โดยจะ คอ่ ยๆ ปรบั ลดภาษีเรม่ิ ต้ังแตป่ ี 2555 รายการกลุ่มสินค้าท่ีผู้ประกอบการไทยค่อนข้างพร้อมในการเปิดเสรี กบั จีน ภายใต้กรอบเอฟทเี ออาเซียน – จีน ได้แก่ กล่มุ อัญมณแี ละเครอ่ื งประดบั กลุ่มเย่ือและกระดาษ กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มนำ้ ตาล เป็นต้น เน่ืองจากสินค้า ไทยกลมุ่ น้มี ีศักยภาพในการสง่ ออกและสามารถแข่งขนั กบั สนิ คา้ จีนได้ท้งั ตลาด ในประเทศและตลาดโลก ส่วนกลุ่มสินค้าของไทยที่อยู่ในรายการสินค้าอ่อนไหว (Sensitive List) และสินค้าอ่อนไหวสูง (Highly Sensitive List) จากท้ังหมด 351 รายการ •มตี ัวอย่างดงั นี ้ กลุ่มสินค้าเกษตรบางรายการ เช่น นม กระเทียม หัวหอม มันฝรั่ง กาแฟ ชา พริกไทย ข้าวโพด ข้าว เนื้อมะพร้าวตากแห้ง นำ้ มันถั่วเหลือง น้ำมัน •ปาลม์ นำ้ มนั มะพรา้ ว ออ้ ย มะเขอื เทศ นำ้ ผลไม้ นำ้ แร่ อาหารสตั ว์ และยาสบู เปน็ ตน้ กล่มุ สินค้าอุตสาหกรรมบางรายการ เช่น กล่มุ เคร่อื งใช้ไฟฟ้า กล่มุ รองเทา้ กลุ่มเซรามิคและกระเบื้อง กลุ่มกระจก กลุ่มเหล็ก กลุ่มยานยนต์และ ชนิ้ ส่วน และกล่มุ ของเลน่ เป็นต้น ผลท่ไี ดร้ บั จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จนี • ผลดี การค้าขยายตัว หากดูในภาพรวม ต้ังแต่ไทยและจีนเริ่มลดภาษี สนิ คา้ ทกุ รายการระหวา่ งกนั เมอ่ื วนั ท่ี 20 กรกฎาคม 2548 จนถงึ ปี 2550 การคา้ 14 ของไทยและจีนมีการขยายตัวเพ่ิมข้ึน และดุลการค้ามีแนวโน้มขาดทุนลดลง โดยการค้ารวมระหว่างปี 2548-2551 มีอัตราการขยายตัวเพ่ิมข้ึนเฉล่ียร้อยละ 24.37 ต่อปี การส่งออกเพ่ิมข้ึนเฉลี่ยร้อยละ 23.11 ต่อปี และการนำเข้าเพิ่มข้ึน เฉล่ียร้อยละ 25.61 ต่อปี ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยและจีนในปี 2551

มีมลู ค่าถงึ 36,346.9 ล้านเหรยี ญสหรัฐฯ และดลุ การคา้ มีแนวโนม้ ขาดดลุ ลดลง 15 จากที่ขาดดุลมูลค่า 1,990.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2548 เป็นขาดดุล 1,378.15 ล้านเหรียญสหรฐั ฯ ในปี 2550 ขาดดุลลดลงร้อยละ 30.76 อย่างไรก็ดี ในปี 2551 การขาดดุลการค้าของไทยกับจีนเป็นไปตาม แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซ่ึงคล้ายกับหลายๆ ประเทศท่ัวโลก ที่ขาดดุลการค้ากับ จีนเช่นกัน เน่ืองจากขณะน้ีจีนเป็นฐานการผลิตของโลก สามารถผลิตสินค้าได้ ในตน้ ทนุ คอ่ นข้างตำ่ เนื่องจากมปี รมิ าณการผลิตสูง มูลค่าการคา้ ไทย-จนี มลู ค่า : ล้านเหรยี ญสหรัฐฯ อัตราการ รายการ ขยายตัว : รอ้ ยละ 2548 2549 2550 2551 2551/2550 มลู คา่ การคา้ 20,325.57 25,331.95 31,071.64 36,346.9 16.98 การสง่ ออก 9,167.55 11,727.95 14,846.75 16,190.6 9.05 การนำเขา้ 11,158.02 13,604.00 16,224.90 20,156.31 24.23 ACFTA ดลุ การคา้ -1,990.47 -1,876.05 -1,378.15 -3,965.72 • สินค้าเกษตรไม่แปรรูปได้ดุลเพ่ิมข้ึน สำหรับสินค้าเกษตรไม่ แปรรปู ท่ีได้ลดภาษีลงเหลือร้อยละ 0 แล้วต้ังแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 ไทยเป็น ฝ่ายได้ดลุ การคา้ จนี มาโดยตลอด การคา้ รวมจากปี 2548 ถงึ 2550 มอี ตั ราการ ขยายตวั เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.68 การส่งออกเพ่ิมขึ้นร้อยละ 40.30 และการนำเข้า เพิ่มขึ้น ร้อยละ 74.09 ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยและจีนในสินค้าดังกล่าว ในปี 2551 มีมูลค่าถึง 871.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นฝ่ายได้ ดุลการคา้ จนี มาโดยตลอดในสินค้ากลมุ่ ดังกล่าว

การค้าสินค้าเกษตร (พิกัด 01-08 สินค้าเกษตรไม่แปรรูป) ภายใต้ กรอบการลดภาษี EHP มลู ค่า : ลา้ นเหรยี ญสหรัฐฯ อต้ ราการ รายการ ขยายตวั : มลู คา่ การคา้ ร้อยละ การสง่ ออก การนำเขา้ 2548 2549 2550 2551 2551/2550 ดลุ การคา้ 802.30 942.24 871.19 -7.5 ACFTA 629.52 592.10 638.10 495.57 -22.34 454.82 210.20 304.13 375.62 23.31 174.70 381.90 333.97 119.96 280.12 การค้าสินค้าในกลุ่มเกษตรไม่แปรรูประหว่างไทยกับจีนที่สำคัญ ได้แก่ ปลา สัตว์น้ำจำพวกครัสตาเซีย โมลลุสก์ ปลาแช่แข็ง สินค้าพืชผัก เช่น มันสำปะหลัง พืชผกั แช่เย็น และสินคา้ ผลไม ้ การค้าไทย-จีน (พิกดั 07-08 ผัก, ผลไม้) มลู ค่า : ลา้ นเหรียญสหรัฐฯ อ้ตราการ สนิ คา้ ภายใต้ ขยายตวั : พกิ ดั 07-08 รอ้ ยละ 2547 2548 2549 2550 2551 2551/2550 มลู คา่ การคา้ 393.38 516.87 675.26 728.76 609.79 -16.32 การสง่ ออก 287.29 395.46 514.15 509.34 364.23 -28.49 16 106.09 121.41 161.11 219.41 245.56 11.92 181.2 274.05 353.04 289.93 118.66 การนำเขา้ ดลุ การคา้

ผลกระทบ 17 ผ้ผู ลติ สนิ คา้ ภายในประเทศบางชนดิ เช่น สินคา้ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า เครื่องหนัง ส่ิงทอ และผลไม้บางชนิด ไม่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตสินค้า ACFTA ของจนี ทม่ี รี าคาถกู กวา่ ได้ ในขณะเดยี วกนั กเ็ ปน็ ทท่ี ราบกนั โดยทว่ั ไปวา่ สนิ คา้ ดงั กลา่ วบางชนดิ มคี ณุ ภาพตำ่ และไมไ่ ดม้ าตรฐานดว้ ย จงึ เปน็ เรอ่ื งทผ่ี บู้ รโิ ภค จะพิจารณาเลือกซื้อ และสินค้าบางชนิดท่ีมีการกำหนดมาตรฐานอยู่แล้วก็อาจ ต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานให้เข้มงวดมากขึ้น สำหรับสินค้าผักและผลไม้ บางชนิดท่ีมีการนำเข้าเพ่ิมข้ึนนั้น เป็นสินค้าที่ท้ังไทยและจีนต่างก็ต้องลดภาษี ด้วยกัน และนับตั้งแต่เริ่มลดภาษีเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ไทยก็เป็นฝ่ายได้ ดุลการคา้ มาโดยตลอด สำหรับสินค้าที่มีการกล่าวถึงว่าได้รับผลกระทบจากเขตการค้าเสรี อาเซียน-จีน ได้แก่ กระเทียมและหอมหัวใหญ่ ซึ่งแม้ว่าสินค้าดังกล่าวจะรวม อยู่ในรายการสินค้าที่นำมาลดภาษีระหว่างกัน แต่สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มี มาตรการโควตาภาษีซึ่งอาเซียนและจีนตกลงกันว่าจะลดภาษีเฉพาะในโควตา เทา่ น้นั (กระเทียมมโี ควตานำเขา้ ปลี ะ 65 ตนั ในขณะท่หี อมหวั ใหญน่ อกโควตา ซ่งึ ไม่มีการลดภาษีทีม่ อี ตั ราสูงถงึ ร้อยละ 57 และร้อยละ 142 ตามลำดับ) 4. อุปสรรคและลกั ษณะเฉพาะของตลาดจีน 4.1 กฎระเบยี บต่างๆ ทัง้ ในระดับประเทศและระดบั ทอ้ งถ่นิ แมว้ า่ ขอ้ ตกลงเอฟทเี ออาเซยี น – จนี จะชว่ ยลดอปุ สรรคในการสง่ ออก สินค้าไปประเทศจีนโดยการลดอัตราภาษีศุลกากรลง อย่างไรก็ดี เนื่องจากจีน มีการนำระบบการปกครองแบบกระจายอำนาจมาใช้ (Decentralization) รัฐบาลท้องถ่ินจึงยังคงมีการเรียกเก็บภาษีภายในประเทศและภาษีท้องถิ่น เช่น ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ รอ้ ยละ 13 สำหรบั สนิ คา้ เกษตรไมแ่ ปรรปู และรอ้ ยละ 17 สำหรบั สนิ คา้ เกษตรแปรรูปและสินค้าอุตสาหกรรม หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ นอกจากนี้ ทางการจีนยังคงนำมาตรการและเคร่ืองมือเชิงนโยบายในรูปแบบต่างๆ หรือ ที่เรียกว่า มาตรการท่ีมิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers : NTBs) มาเป็นอุปสรรค ในการนำเข้า เช่น กำหนดเงื่อนไขในการตรวจสอบสินค้า ณ ด่านศุลกากร

ACFTA โดยเฉพาะในการนำเขา้ สนิ คา้ กลมุ่ ผลไม้ ทางการจนี ยงั คงมเี งอ่ื นไขดา้ นสขุ อนามยั ที่เข้มงวด เม่ือสินค้าต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าท่ีของรัฐซึ่งใช้เวลา หลายวนั ยอ่ มมผี ลตอ่ คณุ ภาพของผลไมส้ ดซง่ึ เปน็ สนิ คา้ ประเภทเนา่ เสยี งา่ ยและ เก็บไว้ได้ไม่นาน ตลอดจนเง่ือนไขด้านใบรับรองการตรวจโรคพืชและแมลง และการประเมนิ ราคาผลไม้ เปน็ ต้น จากปัญหาดังกล่าว ภาครัฐได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด และไดม้ กี ารลงนามบนั ทกึ ความเขา้ ใจรว่ มกนั วา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ดา้ นสขุ อนามยั และสุขอนามัยพืชระหว่างกัน เพ่ือให้การตรวจปล่อยสินค้าเกษตรเป็นไปอย่าง สะดวก รวดเรว็ ตลอดจนเจรจาใหม้ ชี อ่ งทางพเิ ศษ (Express Lane) ณ จดุ นำเขา้ เพ่ือให้สินค้าเกษตรจากไทยผ่านพิธีการได้รวดเร็วขึ้นที่นครเทียนจิน ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว นอกจากน้ี ล่าสุดยังได้มีการลงนามระหว่างไทย-จีน ในพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการตรวจสอบและกักกันโรค สำหรับการขนส่ง ผลไม้ไทยผ่านประเทศที่สามสู่จีนที่เมืองผิงเสียง เขตปกครองตนเองกวางสี เมอื่ เดอื นมถิ นุ ายน 2552 4.2 ลกั ษณะเฉพาะของตลาดจีน จีนเป็นประเทศที่มีพ้ืนที่กว้างใหญ่ แบ่งออกเป็นหลายมณฑล แต่ละ มณฑลมีขนาดใหญ่และมีประชากรเป็นจำนวนมาก มีความแตกต่างของระดับ รายได้ รสนยิ ม รปู แบบการจบั จา่ ยใชส้ อย เปน็ ตน้ ตลาดจนี ในแตล่ ะภมู ภิ าคจงึ มี ลกั ษณะแตกตา่ งหลากหลาย (Fragmented Markets) นอกจากน้ี รฐั บาลทอ้ งถน่ิ ของแต่ละมณฑลมีอำนาจทางการบริหารค่อนข้างมาก จึงมีความจำเป็นจะ ต้องศึกษาและทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมและลักษณะสำคัญทางเศรษฐกิจ ของจีนในระดับมณฑล เพือ่ แสวงหาตลาดและชอ่ งทางการคา้ สำหรับในแง่ของรายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนจีน นับจากเมืองที่มีรายได้ ตอ่ หวั สงู สดุ ไลเ่ รยี งลงมาตามลำดบั ดงั น้ี อนั ดบั 1 คอื มหานครเซย่ี งไฮ้ อนั ดบั 2 18 คือ มหานครปักก่ิงเมืองหลวง อันดับ 3 คือ มหานครเทียนจิน ซ่ึงอยู่ไม่ห่างจาก ปกั กง่ิ และมที า่ เรอื ทท่ี นั สมยั มหานครทง้ั สามอนั ดบั แรกนม้ี ฐี านะเทยี บเทา่ มณฑล คอื มรี ฐั บาลเฉพาะทข่ี น้ึ ตรงตอ่ รฐั บาลกลาง จงึ มอี สิ ระและความคลอ่ งตวั ในการ ดำเนินนโยบายของตน และอันดับ 4 คือ มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งมีนักธุรกิจเอกชน

ทเ่ี ปน็ ทก่ี ลา่ วขวญั กนั วา่ เปน็ “นกั คา้ ขาย” ทเ่ี กง่ มาก ประชากรของทง้ั 4 มหานคร/ 19 มณฑลนี้ล้วนแล้วแต่รายได้เฉล่ียต่อหัว (Per Capita Income) สูงกว่ารายได้ เฉลี่ยตอ่ หัวของคนไทยทั้งประเทศ ACFTA 4.3 ระบบการกระจายสนิ คา้ ไทยในตลาดจีน การกระจายสนิ คา้ เขา้ สตู่ ลาดภายในของจนี ยงั คงมอี ปุ สรรคสำคญั ของ สินค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะระบบขนส่งและโลจิสติกส์ภายในประเทศจีน ทย่ี งั คงควบคมุ โดยรฐั ไมว่ า่ จะโดยทางตรงหรอื ทางออ้ ม รวมไปถงึ ระบบคา้ ปลกี /คา้ สง่ ในขณะน้ี ผคู้ า้ ปลกี รายใหญใ่ นตลาดคา้ ปลกี จนี มเี พยี ง 3 – 4 รายสำคญั ไดแ้ ก่ กลมุ่ เซย่ี งไฮป้ า่ ยเหลยี นกรปุ๊ (ซง่ึ เกดิ จากการรวมกลมุ่ ระหวา่ ง 2 ยกั ษใ์ หญ่ ดา้ นคา้ ปลกี ของจนี คอื กลมุ่ เซย่ี งไฮเ้ หลยี นฮวากรปุ๊ และกลมุ่ เหลยี นฮวา) มรี า้ น เครอื ขา่ ยสาขาทง้ั หมดกวา่ 5,000 แหง่ ทว่ั ประเทศ ตามดว้ ยกลมุ่ ตา้ เหลยี น ตา้ ซาง กลมุ่ ปกั กง่ิ โกมี และกลมุ่ ซหู นงิ เปน็ ตน้ ซง่ึ รา้ นคา้ ปลกี ของจนี ทม่ี ชี อ่ื ตดิ 30 อนั ดบั แรก มีสาขารวมทั้งสิ้นราว 11,000 กว่าสาขาทั่วประเทศ ในขณะที่ห้างค้าปลีก ข้ามชาติ เช่น ห้างคาร์ฟูร์จากฝร่ังเศส ห้างวอลมาร์ทจากสหรัฐฯ ตลอดจนห้าง โลตัสของกลุ่มซีพีจากไทย เป็นต้น ซ่ึงมีสาขารวมกันไม่ถึง 200 แห่ง จึงสะท้อน ชดั เจนวา่ ธรุ กจิ คา้ ปลกี ภายในประเทศยงั คงอยใู่ นมอื ของวสิ าหกจิ จนี เปน็ สดั สว่ น ท่สี ูงมาก ดังน้ัน ในการส่งสินค้าไทยเพื่อไปวางจำหน่ายในตลาดจีน ผู้ส่งออก ต้องเลือกช่องทางขนส่งหรือกระจายสินค้าที่เหมาะสมกับลักษณะของสินค้าท่ี จะส่งไปขายท่ีจีน รวมท้ังต้องชัดเจนว่าตลาดเป้าหมายของสินค้าเราจะอยู่ท่ี มณฑลไหน หรอื เมอื งใดของจนี 5. สนิ คา้ ไทยทีม่ ีศักยภาพในการสง่ ออกไปจนี ภาษีศุลกากรท่ีจะลดลงตามกรอบความตกลงเอฟทีเออาเซียน – จีน จะมีความแตกต่างกันตามท่ีแต่ละประเทศย่ืนเสนอ โดยภาษีสำหรับสินค้าบาง กลมุ่ เรม่ิ ลดทนั ทตี ง้ั แตป่ ี 2546 สว่ นบางกลมุ่ จะทยอยลดไปเรอ่ื ยๆ บางกลมุ่ ลดเร็ว บางกลมุ่ ลดชา้ อยา่ งไรกด็ ี สนิ คา้ สว่ นใหญร่ อ้ ยละ 90 ของสนิ คา้ ทง้ั หมด หรอื ประมาณ

5,140 รายการ จะมีอัตราภาษีนำเข้าจีนเหลือร้อยละ 0 ต้ังแต่วันท่ี 1 มกราคม 2553 เปน็ ตน้ ไป สนิ คา้ ทภ่ี าษจี ะลดลงเหลอื รอ้ ยละ 0 และมศี กั ยภาพในการสง่ ออก ไปจีนมากข้ึน ได้แก่ สตาร์ชจากธัญพืช น้ำมันถ่านหิน ตลับลูกปืน เครื่องจักร งานพิมพ์ เศษพลาสติก และเม็ดพลาสติก เป็นต้น สำหรับผู้ประกอบการและ ผสู้ ง่ ออกทต่ี อ้ งการทราบขอ้ มลู รายละเอยี ดของบญั ชรี ายการสนิ คา้ ทป่ี ระเทศจนี ได้ย่ืนไว้ สามารถศึกษารายละเอียดเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการกำหนดการลดภาษี ภายใต้ข้อตกลงเอฟทีเออาเซียน – จีน ซึ่งมีรายละเอียดแบ่งตามชนิดสินค้าได้ จากหนังสือ “เปิดประตูมังกร : ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน” จัดทำโดย กรมเจรจาการคา้ ระหว่างประเทศ หรอื เว็บไซต์ www.thaifta.com ACFTA 6. ขอ้ ควรรูก้ ่อนจะเจาะตลาดจนี ตลาดจีนมีลักษณะเฉพาะและแตกต่างหลากหลายกันไปในแต่ละ ภูมิภาค จึงไม่ควรจะมองตลาดจีนแบบเหมารวมว่าเป็นตลาดของผู้บริโภค 1.3 พันล้านคนเท่านั้น แต่มีข้อพึงทราบก่อนที่จะเข้าไปค้าขายและลงทุนทำธุรกิจ การค้าในประเทศจีน สรุปได้ดงั น ้ี •6.1 ปจั จัยพนื้ ฐานที่นกั ธรุ กิจไทยพงึ มี พน้ื ความรขู้ อ้ มลู ระดบั มณฑลของพน้ื ทห่ี รอื ตลาดเปา้ หมาย เนอ่ื งจาก จนี เปน็ ตลาดทแ่ี ตกตา่ งหลากหลายในระดบั มณฑลและภมู ภิ าค จงึ สะทอ้ นถงึ ความ แตกต่างทางด้านพฤติกรรมผู้บริโภค รสนิยม ตลอดจนอุปนิสัยใจคอในการ ประกอบธุรกิจในการค้าขายกับจีน จึงควรศึกษาและสำรวจตลาดให้รอบด้าน เช่น มีสินค้าใดที่เป็นท่ีต้องการของผู้บริโภค และควรจะเน้นเจาะตลาดโดยการ แบ่งกลุ่มตามความต้องการออกเป็นระดับต่างๆ ตามระดับรายได้ และรสนิยม •ของผ้บู ริโภค เป็นตน้ 20 ศึกษาข้อกฎหมายและกฎระเบียบที่เก่ียวข้องในระดับรัฐบาล กลาง และรัฐบาลท้องถ่นิ เช่น ระบบการค้า การชำระเงิน การให้เครดิต การซ้อื การขาย โดยเฉพาะในการทำสัญญาต้องอาศัยนักกฎหมายที่มีความรู้ความ เข้าใจกฎหมายท้องถ่ินเป็นอย่างดี นอกจากน้ี ในการลงนามสัญญาต่างๆ

กบั ฝา่ ยจนี ควรจะเชญิ “ผู้ใหญ่ฝ่ายจีน” ที่อ้างอิงได้มาเป็นสักขีพยานร่วมรับรู้ข้อ 21 •ตกลงหรอื สัญญาดงั กล่าวดว้ ย ACFTA พ้ืนฐานความรู้ทางด้านภาษาจีน วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เนื่องจากจีนเป็นชนชาติเก่าแก่ มีอารยธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี เปน็ ของตนเองมายาวนาน นอกจากน้ี ยงั มวี ฒั นธรรมทางธรุ กจิ ทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะ ดงั นน้ั หากสามารถรบั รรู้ ากฐานวฒั นธรรมเหลา่ น้ี กจ็ ะทำใหก้ ารตดิ ตอ่ คา้ ขายกบั ฝ่ายจีนง่ายย่ิงข้ึน เช่น การรู้ภาษาจีนในระดับท่ีใช้งานได้ อย่างไรก็ดี หากไม่ สามารถพดู สอ่ื สารภาษาจนี ได้ กค็ วรจะใชล้ า่ มทม่ี คี วามรแู้ ละความเขา้ ใจพน้ื ฐาน ในประเด็นการเจรจาทางธรุ กิจกนั ตอ่ ไป • การเข้าใจวัฒนธรรมในการทำธุรกิจของคนจีน เช่น การสร้าง ความสมั พันธโ์ ดยการ “ชนแก้ว” และการรบั ประทานอาหารร่วมกนั เปน็ ต้น • เครือข่ายในจีน หรือสายสัมพันธ์ (Guanxi) เป็นเคร่ืองมือสำคัญ ในการสร้างความล่ืนไหลในการติดต่อกับฝ่ายจีน เนื่องจากในการทำงานติดต่อ คา้ ขายทำธรุ กจิ กบั คนจนี ไมว่ า่ จะเปน็ ในระดบั เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ระดบั นกั การเมอื ง นักธุรกิจพ่อค้า ปัจจัยด้านสายสัมพันธ์กับบุคคลในระดับต่างๆ เหล่านี้ จะช่วย เอ้ือให้การเจรจาต่างๆ ประสบผลสำเร็จได้ง่ายขึ้น ดังท่ีกล่าวกันว่า การทำธุรกิจ ในจีนนนั้ การรู้จกั “Know-Who” อาจจะสำคญั กว่า “Know-How” 6.2 ปัจจยั ดา้ นสินค้าและผลติ ภัณฑ์ เมื่อมีการศึกษาทางการตลาดและม่ันใจว่า มีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ท่ี สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดจีนแล้ว ควรจะต้องพิจารณา •ถึงประเดน็ อ่นื ๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง ดังน้ี การออกแบบบรรจุภัณฑ์และหีบห่อ ให้สอดคล้องกับรสนิยมของ ชาวจีน เน่ืองจากจะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค เช่น การใช้สีแดง หรือ •สที อง และการใชบ้ รรจุภณั ฑ์ที่สามารถมองเหน็ ตัวสินค้าได้ เปน็ ตน้ การแสดงขอ้ ความบนผลติ ภณั ฑ์ วธิ กี ารใช้ รายละเอยี ด คำอธบิ าย ตอ้ งชัดเจนและถูกตอ้ งตามกฎระเบียบของจีน เช่น การใชภ้ าษาจนี ระบุจำนวน น้ำหนกั และขนาดของสนิ คา้ เปน็ ต้น

ACFTA 7. หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งใน ACFTA กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 44/100 ถนนนนทบรุ ี 1 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบรุ ี 11000 โทรศัพท์ : 02-507-7444 โทรสาร : 02-547-5630-1 Website : http://www.dtn.go.th, http://www.thaifta.com FTA Call Center : 02-507-7555 FTA One Stop Service : 02-512-0123 ตอ่ 823 กรมการคา้ ต่างประเทศ สำนักสิทธปิ ระโยชน์ทางการคา้ 44/100 ถนนนนทบรุ ี 1 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมอื ง จงั หวัดนนทบุรี 11000 โทรศพั ท์ : 02-547-4817 สายดว่ น : 1385 โทรสาร : 02-547-4816 Website : http://www.dft.go.th E-mail : [email protected] กรมสง่ เสริมการส่งออก สำนกั พฒั นาการตลาดต่างประเทศ 27/77 ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ : 02-513-1909-15 โทรสาร : 02-512-1079, 02-512-2235 Website : http://www.depthai.go.th 22 E-mail : [email protected]

สำนกั งานพาณิชย์ และสำนักงานสง่ เสรมิ การคา้ ในตา่ งประเทศ 23 1. สำนกั งานพาณชิ ย์ในตา่ งประเทศ ณ กรงุ ปักกิ่ง Office of the Commercial Affairs, Royal Thai Embassy ACFTA เลขที่ 40, Guang Hua Lu, Beijing P.R. China 100600 Tel. : (86-10) 6532-3922, 6532-3927 Fax. : (86-10) 6532-3890 E-mail : [email protected] 2. สำนกั งานส่งเสรมิ การค้าในต่างประเทศ ณ นครเซีย่ งไฮ้ Commercial Section, Royal Thai Consulate-General เลขท่ี 7 Zhongshan Rd., East 1, Shanghai P.R. China 200002 Tel. : (86-21) 6321-9473 Fax. : (86-21) 6321-9656 3. สำนกั งานส่งเสริมการคา้ ในต่างประเทศ ณ นครกวางโจว Commercial Section, Royal Thai Consulate-General Rm. 1255 – 1257, The Garden Tower 386 Huanshi Dong rd., Guangzhou P.R. China 510064 Tel. : (86-20) 8384-9453 Fax. : (86-20) 8384-9760 E-mail : [email protected] 4. สำนกั งานสง่ เสรมิ การคา้ ในตา่ งประเทศ ณ นครคนุ หมิง 1CsotmFmloeorrc, iCaol Smemcetirocnia, lRBouyialdl iTnhga,i5C2oDnsounlgatFee-GngenDeoranlg, KRudn.,mKinugnmHiontge,l , Yunnan, P.R. China 650051 Tel. : (86-87) 1316-5006, 1316-5011, 1316-5019 Fax. : (86-87) 1326-5026 E-mail : [email protected]

5. สำนกั งานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซย๊ี ะเหมิน Commercial Section, Royal Thai Consulate-General (Thai Trade Center) Bldg.3, Xiamen City Hotel No.16 Huyuan road, Siming District, Xiamen 361003, Fujian, PEOPLE’ S REPUBLIC OF CHINA Tel. : 001-86-592-2663064-69 Fax. : 001-86-592-2663060-61 E-mail : [email protected] Website ของจีนทเี่ ก่ยี วข้อง ACFTA Ministry of Commerce of People’ s Republic of China : www.mofcom.gov.cn Customs General Administration People’ s Republic of China : www.customs.gov.cn National Bureau of Statistics of China : www.stats.gov.cn China-ASEAN FTA : www.cafta.org.cn/en/ China Post WTO : www.chinadaily.com.cn/chinagate/wto.html China ASEAN Net : www.china-asean.net/index.html 24


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook