Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore series36

series36

Description: series36

Search

Read the Text Version

ปที ่ี 9 / ฉบบั ท่ี 36 / มถิ นุ ายน – กรกฎาคม 2561 แผนงานศนู ยว์ ชิ าการเฝา้ ระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) คณะเภสัชศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั กระท่อม กัญชา จากพืชเสพติด สารบญั 2 3 สู่ยารักษาโรคและความมั่นคงทางยา ผจู้ ัดการกพย. แถลง 9 เรื่องจากปก 11 เกบ็ ตก 13 หมุนดูโลก 16 จับกระแส 19 ใกลต้ ัว 23 ทันสถานการณ ์ 27 ร้เู ขา-รู้เรา 29 ไฮไลท ์ 31 เสยี งสะทอ้ นจากพน้ื ที่ 32 ไฮไลท์ 2 แนะนำ�เวบ็ ไซต ์ พบข้อมูลแผนงานศูนย์วิชาการ เฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) ได้ที่ www.thaidrugwatch.org www.thaidrugwatch.org/blog www.youtube.com/thaidrugwatch www.facebook.com/thaidrugwatch twitter.com/thaidrugwatch

ผ้ ูจัดการกพย.แถลง โดย > นิยดา เกียรติยิ่งอังศลุ ี การเขา้ ถงึ กระทอ่ มและกญั ชาในทางการแพทย์ เป็นสิทธขิ องผู้ปว่ ยและเพอ่ื ความมั่นคงของประเทศ กพย.สนับสนุนการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ของกระท่อมและกัญชา โดยก่อนหน้าน้ีได้มีการศึกษา รวบรวม ข้อมูล จัดประชุมวิชาการและร่วมประชุมนำ�เสนอมาอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้ได้ข้อเท็จจริงมาเสนอแนะผู้มีหน้าท่ีเก่ียวข้อง ตลอดปี 2559-2560 กพย.ไดจ้ ดั ประชมุ ผูเ้ ก่ียวขอ้ ง 9 ครงั้ และรว่ มอภิปรายในท่ีประชุมตา่ งๆหลายครั้ง ประเดน็ ส�ำ คญั สรปุ ไดว้ า่ มงี านวจิ ยั มากมายทแ่ี สดงแนวโนม้ ทดี่ ขี องการใชท้ างการแพทย์ เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ว่ ยไดเ้ ขา้ ถงึ และเพอื่ ใหเ้ กดิ ความมน่ั คง ของประเทศ ประเด็นทก่ี พย.ขอเรยี กรอ้ ง มดี ังน้ี 1. รัฐบาลพึงสนับสนุนการเข้าถึงกระท่อมและกญั ชา เพ่ือใช้บรรเทาอาการปวดชนิดต่างๆ ซึง่ มีงานวจิ ัยในคน รองรบั แนช่ ดั แลว้ ส�ำ หรบั บรรเทาอาการปวด 3 อาการ คอื ปวดเรอื้ รงั (Chronic pain) ปวดปลายประสาทในผปู้ ว่ ยเบาหวาน (Neuropathy pain) และปวดใน Spasticity associated with multiple sclerosis 2. รัฐบาลพึงสนับสนนุ ให้เรง่ การทำ� Systematic review หรือ Meta-analysis พรอ้ มทง้ั ศกึ ษาวิจัยเพม่ิ เตมิ เพอ่ื หา หลักฐานเชิงประจักษ์ในการใช้ประโยชน์ทางยาจากกระท่อมและกัญชา ในอาการต่างๆอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะที่มี หลักฐานบ้างแลว้ 3. รฐั บาลพงึ สนบั สนุนใหม้ ีการทดลองปลกู เพื่อคน้ หาสายพนั ธุ์ ปรับปรงุ สายพันธ์ุ และวิเคราะห์เชิงคณุ ภาพของ สารสำ�คัญเพ่ือใหก้ ารน�ำ มาใชป้ ระโยชนท์ างการแพทยเ์ กิดประสิทธผิ ลอยา่ งเต็มท่ี 4. รัฐบาลพึงสนบั สนนุ การจัดการเพ่ือความมั่นคงทางยา การจัดการเรือ่ งสิทธิบัตร และการขึน้ ทะเบียนยาใหม่ จากกระท่อมและกญั ชา 5. รัฐบาลพึงจดั ระบบทางกฎหมายสำ�หรบั กระทอ่ มและกญั ชา เพื่อใหส้ ามารถใช้ประโยชนใ์ นทางการแพทย์ได้ และเพอ่ื ความม่ันคงของประเทศ ได้แก่ 5.1 แกไ้ ขหรอื ปรับปรงุ พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2522 (ฉบับ 6 พ.ศ. 2560) เพื่อจดั ระบบ การใช้ประโยชน์จากกระท่อมและกัญชา 5.2 แก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด 5.3 จัดทำ�พ.ร.บ.พืชกระท่อมและกัญชา แยกออกมาเป็นพ.ร.บ.เฉพาะเพ่ือใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ 5.4 พัฒนานโยบายและระบบการจัดการยาเสพติดแบบ บรู ณาการ โดยแยกการใชป้ ระโยชนท์ างการแพทยอ์ อกมาเป็นระบบต่างหาก 6. รฐั บาล โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสขุ พงึ แสดงความจรงิ ใจโดยเปดิ เผยหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษส์ �ำ หรบั กระทอ่ ม และกัญชา ท่ียังคงจัดให้เป็นยาเสพติดประเภท 5 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และฉบับแก้ไข พ.ศ.2560 หากรัฐบาลไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันก็สมควรถอนรายช่ือกระท่อมและกัญชาออกจากรายการ ยาเสพติดประเภท 5 พร้อมทั้งกำ�หนดนโยบายและจัดระบบการจัดการเพ่ือใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ อย่างเต็มท่เี พือ่ ให้เกิดการเข้าถึงยาและเกิดความมัน่ คงของระบบยาต่อไป ยาวพิ ากษ์ จดหมายขา่ วศูนยข์ อ้ มูลเฝา้ ระวังระบบยา วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นส่ือกลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างแผนงานศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) กลุ่มศึกษาปัญหายา (กศย.) และเครือข่ายวิชาชีพ วิชาการและเครอื ข่ายประชาชน แผนงานศูนยว์ ชิ าการเฝา้ ระวงั และพฒั นาระบบยา (กพย.) ได้รับการสนบั สนนุ จากสำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.) จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์การอนามัยโลก ท่ีปรึกษา - ผศ.ดร.ภญ.นยิ ดา เกยี รติย่ิงองั ศุลี (กพย.) / ผศ.ดร.ภญ.สนุ ทรี ท.ชยั สัมฤทธิโชค (กศย.) บรรณาธิการประจำ�ฉบบั - นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี กองบรรณาธิการ - วัจนา ตั้งความเพียร / อรกัญญ์ ภูมิโคกรักษ์ / ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ / วีรยา ถาอุปชิต / ปรุฬห์ รุจนธำ�รงค์ / ไพศาล ลิ้มสถิตย์ / สมสมร ชิตตระการ ลาวัลย์ สาโรวาท / ชินวัจน์ แสงอังศุมาลี ประสานงาน - เขมกิ า โตนะโพธกิ ูล / ไพจิตรา กตัญญูตะ ออกแบบรปู เล่ม - วาลปทั ม์ ศรมี งคล ติดตอ่ แผนงานศูนย์วชิ าการเฝ้าระวงั และพัฒนาระบบยา (กพย.) คณะเภสชั ศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ถนนพญาไท ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศพั ท์ 02-218-8452 โทรสาร 02-254-5191 อีเมล: [email protected] เวบ็ ไซต:์ www.thaidrugwatch.org บลอ็ ก: www.thaidrugwatch.org/blog ยูทูบ: www.youtube.com/thaidrugwatch เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/thaidrugwatch ทวิตเตอร:์ twitter.com/thaidrugwatch

เรอื่ งจากปก ผศ.ภญ.ดร.นยิ ดา เกยี รตยิ ิง่ องั ศลุ ี กระท่อมและกัญขชอางเปปรน็ ะคเทวศามมั่นคงดา้ นยา ปจั จุบัน กระแสเรอ่ื ง “กัญชา” และ “กระทอ่ ม” เป็นท่สี นใจของคนในปัจจบุ นั อยา่ งกวา้ งขวาง สังเกตได้ จากส่ือสังคมออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ คนในสังคมได้รับข้อมูลข่าวสารว่าสมุนไพรท้ังสองชนิดน้ีมีประโยชน์ คือ กัญชาสามารถบรรเทาอาการปวด กันชัก และใชใ้ นผปู้ ่วยมะเรง็ ส่วนกระทอ่ ม ใชเ้ ปน็ ยาขยนั บรรเทาปวด และบ�ำ บดั การติดเฮโรอนี ในทางการแพทย์แผนไทยดั้งเดิมน้ัน องค์ความรู้ในเรื่องการใช้ประโยชน์ของกัญชานั้นมีมากมาย มีตำ�รับยาโบราณที่เกี่ยวเน่ืองตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราช จนถึงรัชกาลท่ี 6 ในราชวงศ์จักรี จากตำ�รา 12 เลม่ พบเขา้ กัญชาถึง 93 ตำ�รบั และเฉพาะพระคมั ภรี ใ์ นสมัยรัชกาลท่ี 5 พบถงึ 10 ตำ�รับ เชน่ พระคมั ภีร์สมยั รชั กาลที่ 5 ต�ำ รับยาทีเ่ ข้ากัญชา 1. พระคัมภีรป์ ฐมจินดา มี 1 ต�ำ รบั คอื 1.1 ยาไฟอาวธุ ใช้รกั ษาโรงตานทราง 2.พระคัมภีร์มหาโชตรัต ซึ่งเป็นตำ�รา มี 3 ตำ�รับ คอื 2.1 ยาแก้ลมอุทธงั คมาวาตะ 2.2 ยาแก้รดิ สีดวง นรีเวชศาสตรข์ องการแพทยแ์ ผนไทย มหากาฬ ๔ จำ�พวก คุดทะราด ฝีเป่ือยท้ังตัว และกามโรค 2.3 ยาแกอ้ าการบิดมวนท้องและทอ้ งเสียในสตรี 3. พระคัมภรี ์ชวดาร มี 1 ตำ�รบั คอื 3.1 ยาแกโ้ รคสำ�หรบั บุรุษและสตรี 4. พระคมั ภรี ก์ ษยั มี 5 ตำ�รับ คือ 4.1 ยาแก้กษัยเหล็ก 4.2 ยาแก้กษัยกร่อน 4.3 ยาแก้กษัยเสียด 4.4 ยาพรหมภกั ตร์ 4.5 ยาอัมฤตย์โอสถ ในการประชุมคณะทำ�งานของกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้คัดเลือกมา 5 ตำ�รับ ท่มี กี ารเข้ากัญชา เพ่ือเสนอท�ำ การศกึ ษาวิจยั ต่อไป ได้แก่ 1.ยาศุขไสยาศน์ (คลายเครียด) 2.ยานำ�้ มันสนน่ั ไตรภพ (แกป้ วด) 3.ยาทัพยาธคิ ณุ (เบาหวาน) 4.ยาทำ�ลายพระสุเมรุ (ลมชัก) 5.ยาเบญจอัมฤทธิ์ (มะเรง็ ตบั ) มีความตื่นตัวทั่วโลกในการนำ�กัญชามาใช้ในด้านการแพทย์และเพื่อการผ่อนคลาย มีการข้ึนทะเบียน ผลิตภัณฑ์จากกัญชาในบางประเทศและเร่ิมมกี ารทดลองยาในมนษุ ยด์ ้วย 3

สว่ นกระทอ่ มนนั้ พบวา่ มกี ารใชแ้ บบพนื้ บา้ นในวถิ ชี วี ติ ทางภาคใต้1 รวมทง้ั ปรากฎในต�ำ รบั ยาแผนโบราณ กรมการแพทย์แผนไทยฯได้รวบรวมตำ�รับยาที่เข้าพืชกระท่อมได้ 18 ตำ�รับ คัดลอกมาจากหลากหลายคัมภีร์ ตวั อยา่ งท่นี ่าสนใจคือ ยาอดฝน่ิ มสี ่วนประกอบหลัก คือใบกระท่อม ซึ่งมีสดั ส่วนปรมิ าณมากกวา่ ครงึ่ ของปรมิ าณ สมนุ ไพรทง้ั หมดและมหี ลายงานวจิ ยั ทส่ี ะทอ้ นวา่ ใชบ้ รรเทาอาการปวดไดด้ ี รวมทงั้ มแี นวโนม้ ทดี่ ใี นการน�ำ มารกั ษา การติดสารเสพตดิ ที่อาจใช้แทนเมธาโดนได้ กพย.สนบั สนนุ การใชป้ ระโยชนจ์ ากกระทอ่ มและกญั ชาในทางการแพทยโ์ ดยไดม้ กี ารศกึ ษา รวบรวมขอ้ มลู จัดประชุมวิชาการและร่วมนำ�เสนอในท่ีประชุมท้ังในระดับนโยบายและในทางวิชาการ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไดข้ อ้ เท็จจริงมาเสนอต่อผมู้ หี นา้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ปพี .ศ.2559-2560 กพย.ได้จัดประชุมผเู้ ก่ียวข้อง 9 คร้งั และ รว่ มอภปิ รายในที่ประชมุ ต่างๆหลายครั้ง สรปุ สาระส�ำ คญั ได้วา่ มีงานวจิ ัยมากมายทแ่ี สดงแนวโนม้ ทีด่ ขี องการใช้ พชื สมนุ ไพรสองชนิดนใ้ี นทางการแพทย์ (ส�ำ หรับกัญชา โปรดอา่ นเพิ่มเตมิ จากบทความของ ผศ.ดร.นพ.ปตั ตพงศ์ เกษสมบูรณ์ ในยาวิพากษ์ฉบับนี้) และในปัจจุบันพบว่า มีโครงการวิจัยในประเทศไทยมากมายท่ีศึกษาเกี่ยวกับ สมนุ ไพรดังกล่าวในด้านต่างๆ รวมทัง้ ในดา้ นการเกษตรดว้ ย ตามพระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษพ.ศ.2522 และฉบบั แกไ้ ข (ลา่ สดุ คอื ฉบบั ท่ี 6 พ.ศ.2560) ประเทศไทย ยงั คงจดั ใหก้ ระทอ่ มและกญั ชาอยูใ่ นกลมุ่ ยาเสพติดประเภทท่ี 5 คอื ยาเสพติดใหโ้ ทษท่ีไมเ่ ขา้ อยใู่ นประเภท 1 ถึง 4 ซ่งึ มที ง้ั หมด 4 รายการ ได้แก่ กญั ชา กระทอ่ ม ฝน่ิ และเห็ดขีค้ วาย จงึ เปน็ อุปสรรคตอ่ การนำ�มาพัฒนาใหเ้ กิด ประโยชน์ กพย.ขอแถลงจดุ ยืนและขอ้ เรยี กรอ้ ง 6 ประเดน็ ดงั น้ี 1. กพย.สนับสนุนการเขา้ ถึงกระทอ่ มและกัญชาเพ่อื ใชบ้ รรเทาอาการปวดชนดิ ตา่ งๆ ซึ่งมงี านวจิ ยั ในคนรองรบั แนช่ ดั แล้วสำ�หรบั บรรเทาอาการปวด 3 อาการ ประเทศไทยยังมีผู้ป่วยท่ีเข้าไม่ถึงยาแก้ปวดรุนแรงจำ�นวนหน่ึง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง มีรายงาน ในปีพ.ศ.2555 ที่ระบุว่า พบปัญหาการเข้าไม่ถึงยาระงับปวดกลุ่มโอปิออยด์ท่ีบ้าน ทำ�ให้ญาติของผู้ป่วยต้องไป หาซอ้ื ยาทีม่ อี นั ตรายสูงมาให้ผปู้ ว่ ย มีหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ว่า กญั ชาสามารถบรรเทาอาการปวดเรือ้ รงั (Chronic pain)2,3,4 บรรเทาอาการ ปวดปลายประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน (Neuropathy pain)5 และยังใช้ใน Spasticity associated with multiple sclerosis6 ไดด้ ้วย 1รายงานสถาบันวิจัยสงั คม จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย 2 Abrams DI (2018) The therapeutic effects of Cannabis and cannabinoids: An update from the National Academies of Sci- ences, Engineering and Medicine report. European Journal of Internal Medicine 49:7-11. 3Safety and Efficacy of Medical Cannabis Oil in the Treatment of Patients With Chronic Pain https://clinicaltrials.gov/ct2/show/ NCT03337503 4Aviram J and Samuelly-Leichtag G (2017) Efficacy of Cannabis-Based Medicines for Pain Management: A Systematic Review and MetaAnalysis of Randomized Controlled Trials. Pain Physician 20:E755-E796. 5Efficacy of Inhaled Cannabis in Diabetic Painful Peripheral Neuropathy https://clinicaltrials.gov/ct2/show/NCT00781001#? 6Abrams DI (2018) The therapeutic effects of Cannabis and cannabinoids: An update from the National Academies of Sci- ences, Engineering and Medicine report. Eur J Internal Med 49:7-11. 4

มีงานวิจัยในสัตว์ทดลองระบุว่า สาร 7-hydroxymitragynine จากกระท่อม มีฤทธ์ิบรรเทาปวดได้ดีกว่า มอรฟ์ ีน7 2. กพย.สนบั สนุนให้จัดท�ำ systematic review หรือ meta-analysis หรือทำ�การวิจัยเพ่ิมเติมเพอ่ื ให้ ได้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์มากขึน้ ในการน�ำ ไปใช้พฒั นายาจากกระทอ่ มและกัญชาให้เกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งเตม็ ท่ี 2.1 ท่ัวทงั้ โลกมกี ารขน้ึ ทะเบียนต�ำ รบั ยาจากกัญชาแลว้ อยา่ งนอ้ ย 3 ทะเบยี นต�ำ รบั 8 โดยองค์การอาหาร และยาของสหรัฐอเมริกาได้รบั รองสารกลุ่ม cannabinoids: ได้แก่ dronabinol และ nabilone ด้วยขอ้ บ่งใช้บรรเทา อาการคลน่ื ไส้และอาเจียนจากการรกั ษาดว้ ยเคมบี �ำ บดั (nausea and vomiting associated with chemotherapy) และกระต้นุ การเจรญิ อาหารในผปู้ ่วยเอดส์ (appetite stimulation in acquired immunodeficiency syndrome: AIDS) นอกจากนี้มีทะเบียนตำ�รับ nabiximols เป็นรูปแบบพ่นในช่องปาก (oromucosal spray) ที่มีองค์ประกอบของ cannabinoids เป็น THC (tetrahydrocannabinol) and CBD (cannabidiol) เพือ่ รกั ษา multiple sclerosis associated spasticity และ neuropathic pain. 2.2 มีหลักฐานการวิจัยบ้างแล้ว แต่ผลการรักษาอาจจะยังไม่ชัดเจน เช่น ใช้กัญชาในผู้ท่ีมี sleep disturbance 2.3 มกี ารศึกษาวจิ ยั ในมนุษย์หรอื อยู่ระหว่างการทดลองในประเทศตา่ งๆ ไดแ้ ก่ รักษามะเรง็ โรคลมชกั 9 Dravet Syndrome10 พาร์กนิ สนั 11 Chronic Posttraumatic Stress Disorder12 Tourette Syndrome13 เพ่มิ คุณภาพ ชีวิตในผู้ป่วยมะเร็ง14 บรรเทาอาการคล่ืนไส้และอาเจียนจากการรักษาด้วยเคมีบำ�บัด (Chemotherapy-induced nausea and vomiting)15 เจรญิ อาหารบ�ำ รงุ ร่างกายในผู้ปว่ ยมะเร็ง 7Matsumoto K et al (2004). Life Sciences 74:2143-2155. 8Abuhasira L, et al (2018) Medical use of cannabis and cannabinoids containing products – Regulations in Europe and North America. Eur J Internal Med 49: 2-6. 9Thiele e, et al (2018) Cannabidiol in patients with seizures associated with Lennox-Gastaut syndrome (GWPCARE4): a randomised, double-blind, placebo-controlled phase 3 trial. The Lancet 391(10125):1085-1096. 10phase III (2016) - Study in the Treatment of Dravet Syndrome – a rare and se.vere form of epilepsy in children with no FDA-approved treatments 11Kindred JH, et al (2017) Cannabis use in people with Parkinson’s disease and Multiple Sclerosis: A web-based investigation. Complementary Therapies in Medicine 33:99-104. 12Evaluating Safety and Efficacy of Cannabis in Participants With Chronic Posttraumatic Stress Disorder. https://clinicaltrials. gov/ct2/show/NCT02517424#? 13Safety and Efficacy of Cannabis in Tourette Syndrome . https://clinicaltrials.gov/ct2/show/NCT03247244#? 14Safety and Efficacy of Smoked Cannabis for Improving Quality of Life in Advanced Cancer Patients https://clinicaltrials.gov/ ct2/show/NCT03339622#? 15Abrams DI (2018) The therapeutic effects of Cannabis and cannabinoids: An update from the National Academies of Sci- ences, Engineering and Medicine report. European Journal of Internal Medicine 49:7-11. 5

การทดลองเกยี่ วกบั กญั ชาในมนษุ ยท์ ส่ี หรฐั อเมรกิ าในปคี .ศ.2016 มกี ารศกึ ษาระยะที่ 3 เพอ่ื ดผู ลการรกั ษา Dravet Syndrome (epilepsy รูปแบบหน่ึงทีร่ ุนแรง พบนอ้ ย เกดิ ขน้ึ ในเดก็ และยังไม่มวี ธิ ีรกั ษาดว้ ยยาท่ีไดร้ บั อนมุ ตั ิ จากองคก์ ารอาหารและยา) นอกจากนีย้ งั มกี ารทดลองในระยะที่ 2 และระยะท่ี 3 เพื่อดปู ระสิทธิผลของสารสกัด จากกญั ชาในการบรรเทาอาการปวดในผู้ปว่ ยมะเรง็ ด้วย สว่ นพืชกระท่อมน้ัน ใช้เปน็ ยาขยนั ไดอ้ ย่างชัดเจน และยังมกี ลไกการทำ�งานทแ่ี สดงศกั ยภาพคล้ายเมธา โดนท่ีใช้ทดแทนยาเสพติด กรมการแพทย์แผนไทยฯได้รวบรวมตำ�รับยาท่ีเข้าพืชกระท่อมได้ 18 ตำ�รับ จากหลากหลายคัมภีร์ ทุกคัมภีร์ล้วนเป็นคัมภีร์ยาหลวงทั้งส้ิน ได้แก่ ตำ�ราพระโอสถพระนารายณ์ ตำ�รายา โรงพระโอสถสมัยรัชกาลที่ 2 ตำ�รายาศิลาจารึกวัดโพธิ์สมัยรัชกาลท่ี 3 ตำ�ราแพทยศาสตร์สงเคราะห์สมัย รัชกาลท่ี 5 ตำ�รายาพระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์เจ้ากรมหมอหลวงในรัชกาลท่ี 5 ตำ�ราเวชศึกษาของพระยา พิศณุประสาทเวช (หมอคง ถาวรเวช) ซ่ึงเป็นตำ�ราเภสัชแผนโบราณของแพทย์หลวงสมัยรัชกาลที่ 5 ตำ�รายา แพทย์ตำ�บลของพระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี (หมอสุ่น สุนทรเวช) แพทย์หลวงประจำ�พระองค์ในรัชกาลท่ี 6 และคัมภีรแ์ พทย์ไทยแผนโบราณของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ ฯลฯ 3. กพย.สนบั สนนุ ใหม้ กี ารทดลองปลกู คน้ หาสายพนั ธ์ุ ปรบั ปรงุ สายพนั ธุ์ รวมถงึ วเิ คราะหเ์ ชงิ คณุ ภาพ ของสารส�ำ คัญเพอ่ื ให้สามารถนำ�มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพมากข้ึน สารส�ำ คญั จากกญั ชาทมี่ ศี กั ยภาพ ไดแ้ ก่ THC, CBD, dronabinol, nabilone เปน็ ตน้ สารส�ำ คญั จากกระทอ่ ม ทม่ี ศี ักยภาพ ไดแ้ ก่ mitragynine, 7-hydroxymitragynine , speciofoline เป็นต้น มีความจำ�เป็นที่จะต้องศึกษาหาสัดส่วนปริมาณสารสำ�คัญ เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ท่ีให้สารสำ�คัญท่ีสูงสุด เพ่อื ใชใ้ นดา้ นการรกั ษา ท้งั น้ี มีการศกึ ษากญั ชง ในการพัฒนาสายพนั ธเ์ุ ชงิ ธรุ กจิ มาแลว้ 4. กพย.สนับสนุนการจัดการเพ่ือความมั่นคงทางยา โดยเฉพาะการจัดการเร่ืองสิทธิบัตรยา จากกระทอ่ มและจากกญั ชา หลายประเทศ เชน่ สหรฐั อเมรกิ าและญป่ี นุ่ มกี ารอนมุ ตั สิ ทิ ธบิ ตั รสารจากกญั ชาและจากกระทอ่ มเพอื่ การ รกั ษาโรคหรอื บรรเทาอาการต่างๆ ซึ่งเปน็ ประเดน็ ความมนั่ คงในระบบยา สหรฐั อเมริการับจดสิทธิบตั ร cannabinoids อย่างนอ้ ย 3 รายการ คอื (1) จด cannabinoid ตวั หนึ่งใน ปี ค.ศ. 2003 เป็น antioxidants มีสรรพคณุ ในทาง neuroprotective โดยกระทรวงสาธารณสุขเปน็ เจ้าของสิทธิบัตร (2) จด phytocannabinoids ในปี ค.ศ. 2013 รักษามะเร็ง ย่นื จดแบบ PCT16 (2011) และ (3) จด cannabinoids combination ในปี ค.ศ. 2014 รกั ษามะเร็ง ย่ืนจดแบบ PCT (2009) 16 PCT ย่อมาจาก Patent Cooperation Treaty หมายถงึ สนธิสัญญาความรว่ มมือด้านสิทธิบตั ร สนธิสัญญาฉบบั น้อี ยู่ภายใต้การ ก�ำ กบั ดแู ลขององคก์ ารทรัพย์สนิ ทางปัญญาโลก หรอื World Intellectual Property Organization (WIPO) ปัจจุบนั WIPO มีประเทศ สมาชิกทง้ั หมด 130 ประเทศ (20 พ.ค.2558) 6

จากการสำ�รวจขององค์การเภสัชกรรม พบว่า มีการย่ืนขอสิทธิบัตรเกี่ยวกับกัญชาที่กรมทรัพย์สิน ทางปญั ญา กระทรวงพาณชิ ย์ ผา่ นระบบ PCT ระหวา่ ง พ.ศ. 2554-2557 ถงึ 5 รายการ และมกี ารประกาศโฆษณา ระหวา่ ง พ.ศ. 2557-2559 ซึง่ ไดเ้ ลยเวลาส�ำ หรบั การทักท้วงจากบคุ คลใดๆไปแล้ว ท้ังๆท่ปี ระกาศดังกล่าวไม่น่า จะถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากขัดแย้งกับมาตรา 9(1) ท่ีไม่อนุญาตให้ย่ืนจดสิทธิบัตรส่ิงมีชีวิตหรือสารจาก ส่ิงมชี ีวิต เพราะถอื ว่าไมใ่ ชก่ ารคิดคน้ ใหม่ในระดบั สงู สารนไ้ี ม่ใหม่ มีเองตามธรรมชาติ การอนุมตั สิ ทิ ธบิ ัตรเหล่า นจี้ ะท�ำ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ ความมน่ั คงของระบบยาในประเทศเปน็ อยา่ งมาก เชน่ ท�ำ ใหไ้ ทยไมส่ ามารถท�ำ วจิ ยั ตอ่ ยอดได้ สำ�หรับกระท่อมน้ัน พบว่า ในสหรัฐอเมริกามีสิทธิบัตรมาต้ังแต่ปี ค.ศ. 1964 จนถึง 2014 ก็ยังมีการ ได้รับอนุมัตสิ ิทธบิ ตั รอยู่ ตัวอยา่ งสทิ ธบิ ตั ร ท่ีประกาศในปี 2010 คือ METHODS FOR TREATING WITHDRAWAL FROM ADDICTIVE COMPOUNDS17 ในขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้ข้อมูลว่า ไทยยังไม่มีการ จดสทิ ธบิ ัตรสารจากกระท่อมเลย18 5. กพย.สนับสนุนการพัฒนาข้อกฎหมาย กพย.ไดจ้ ดั การประชุมอย่างต่อเนอื่ งและท�ำ การทบทวนขอ้ มูลตา่ งๆ พบวา่ มีถงึ 28 ประเทศท่อี นญุ าตให้ มีการใชก้ ญั ชาในทางการแพทย์ ทง้ั นีเ้ ปน็ ประเทศท่ีอยใู่ นสหภาพยุโรปถงึ ครงึ่ หนึ่ง19 มีขอ้ เสนอใหพ้ ัฒนากฎหมาย 3 ทาง 5.1 แก้ไขหรอื ปรับปรงุ พ.ร.บ.ยาเสพติดพ.ศ.2522 (ฉบับที่ 6 พ.ศ.2560) เพ่ือจัดระบบการใชป้ ระโยชนจ์ าก กระท่อมและกัญชา ข้อเสนอในการแก้ไข เช่น แยกเอาพืชในยาเสพติดประเภทท่ี 5 ออกมาจัดระบบใหม่เพ่ือใช้ ประโยชน์ในทางการแพทย์ 5.2 แก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึง่ ทางปปส.ได้พัฒนาจนกระทัง่ ผา่ นครม. และผา่ นคณะกรรมการ กฤษฎกี าแล้ว แตย่ ังมีบางประเด็นทีค่ วรตอ้ งปรบั ปรุงอีก 5.3 จดั ท�ำ พ.ร.บ.พชื กระท่อมและกญั ชาแยกออกมาเป็นพ.ร.บ.เฉพาะเพ่อื ใชใ้ นทางการแพทย์ 5.4 พฒั นานโยบายและระบบการจัดการยาเสพตดิ ทัง้ ระบบแบบบรู ณาการ และแยกการใช้ประโยชน์ใน ทางการแพทย์ออกมาเปน็ ระบบยอ่ ยต่างหาก 17 https://patentimages.storage.googleapis.com/bc/e3/2f/a65e1b7a3663b9/US20100209542A1.pdf 18 PRATRUANGKRAI P (2016) ‘No patent protection’ for kratom. Economy September 06, 2016 01:00 By http://www.nation- multimedia.com/business/No-patent-protection-for-kratom-30294588.html 19 Legality of cannabis by country https://en.wikipedia.org/wiki/Legality_of_cannabis_by_country 7

6. กพย.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข แสดงความจริงใจโดยเปิดเผย หลักฐานเชงิ ประจักษ์สำ�หรบั กระท่อมและกญั ชา ท่ยี ังคงจัดใหเ้ ป็นยาเสพติดประเภท 5 ตาม พระราชบญั ญัตยิ า เสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. 2522 และฉบบั แก้ไข พ.ศ. 2560 ดังนี้ 6.1 มีหลักฐานทางงานวิจยั หรอื ไม่ อยา่ งไร ในการแสดงวา่ เป็นยาเสพติด ถา้ มี อยู่ในระดบั ใด 6.2 มหี ลกั ฐานทางงานวิจัยหรือไม่ อยา่ งไร วา่ ก่อให้เกดิ อนั ตรายต่อผเู้ สพ ถ้ามี อยูใ่ นระดับใด 6.3 มหี ลกั ฐานทางงานวิจยั หรือไม่ อย่างไร ว่ากอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ สงั คม ถ้ามี อยู่ในระดบั ใด 6.4 มีหลักฐานทางงานวิจยั หรือไม่ อย่างไร วา่ ก่อให้เกดิ อนั ตรายตอ่ ประเทศในดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คม หากรัฐบาลไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยัน ก็สมควรถอนรายช่ือกระท่อมและกัญชาออกจากรายการ ยาเสพติดประเภทท่ี 5 และกำ�หนดนโยบายพร้อมท้ังส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเพ่ือใช้ประโยชน์จาก พืชสมุนไพรทั้งสองชนดิ น้อี ย่างเปน็ ระบบเพื่อใหเ้ กิดการเขา้ ถงึ ยาและเกดิ ความมั่นคงของระบบยาตอ่ ไป 8

เกบ็ ตก ภญ.วัจนา ตั้งความเพียร กญั ชา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กัญชาจัดเป็นพืชล้มลุกในตระกูล Canaba- ceae ซึ่งเราทราบกันดีว่ากัญชาน้ันถูกจัดอยู่ในกลุ่ม พืชพื้นบ้าน ยาเสพติด เป็นส่ิงผิดกฎหมายในปัจจุบัน แต่ในอดีต ย้อนกลับไป กัญชาเป็นส่ิงท่ีหลายบ้านปลูก จัดได้ว่า กระท่อม กัญชา เปน็ พชื ทม่ี กี ารใชป้ ระโยชนก์ นั ในครวั เรอื น และทางยา กนั อย่างแพร่หลาย สมยั กอ่ นยอ้ นไป 80-90 ปกี อ่ น ในยคุ ทกี่ ญั ชา ยงั ไมจ่ ดั เปน็ ยาเสพตดิ จดั เปน็ พชื ทพ่ี บไดง้ า่ ยมปี ลกู กนั เกือบทุกครัวเรือน ใช้ประโยชน์ท้ังปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะมีลักษณะท่ีเป็นเอกลักษณ์และมีความสวยงาม จากการลงพื้นที่สำ�รวจความรู้ของมูลนิธิรพ.เจ้าพระยา อภัยภูเบศรในพ้นื ทภี่ าคใตพ้ บว่า ชาวบ้านมกี ารใช้กญั ชามาปรงุ อาหาร ใบออ่ นนำ�มาใช้เป็นอาหาร โดยเอามาใส่ แกงส้ม แกงกะทิ แกงมสั ม่นั เมนูผัดต่างๆ หรอื รับประทานสดเปน็ ผักจม้ิ น้ำ�พริก จิม้ น้ำ�บดู ู แต่จะใชป้ รมิ าณน้อย 1-2 ใบ (ใช้มากจะทำ�ให้เมาได้) วา่ กันว่ากญั ชาเพิ่มรสชาตอิ าหาร ท�ำ ให้กินขา้ วได้มาก นอนหลบั สบาย ในสว่ นของการใชป้ ระโยชนท์ างยา หมอยาพนื้ บา้ นภาคใตใ้ ชใ้ บกญั ชาแกป้ วดฟนั โดยน�ำ ใบมาขยพ้ี อแหลก นำ�ไปพอกหรืออุดบริเวณที่มีอาการ หรือนำ�ใบไปต้ม ต้มจนเดือด นำ�มาดื่มอุ่นๆ ช่วยรักษาอาการปวดเม่ือย เป็นยากษัยเส้น ท�ำ ใหผ้ อ่ นคลาย คลายเครยี ด หรอื อีกต�ำ รบั หน่ึง ท่านกว็ ่า น�ำ ใบต�ำ ละเอียดผสมน�ำ้ ต้มสุกดม่ื และ พอกหนงั ศรี ษะประมาณครง่ี ชว่ั โมงแกอ้ าการผมรว่ ง คนั หนงั ศรี ษะได้ นอกจากภาคใตแ้ ลว้ หมอยาบางพนื้ ทใ่ี นภาค อืน่ ใช้ดอกกัญชาปง้ิ ไฟใหเ้ หลอื งกรอบ ต�ำ ผสมพริกแกงเผด็ ปรงุ ใหค้ นไข้เบื่ออาหารรับประทาน ทำ�ให้คนไข้กินข้าว ได้มากโดยไม่รู้ตัว บางท่ีใช้น้ำ�จากบ้องกัญชากรอกให้คนไข้อหิวาต์กิน ทำ�ให้คนไข้ได้พัก ต่ืนมาอาการทุเลาลง ในต�ำ รับยาพ้ืนบ้านล้านนาใช้กญั ชาผสมกบั พรกิ ไทยบดผสมน้ำ�กินทกุ คืน เป็นยาคมุ กำ�เนดิ ส�ำ หรับสตรีได้ ในต�ำ รบั ยาไทย กัญชา มฤี ทธ์ิเมาเบือ่ เปน็ ยาชูกำ�ลงั ชว่ ยเจริญอาหาร ต�ำ รายาไทยหลายฉบบั มตี �ำ รบั ท่ี เขา้ ยากญั ชามากมายหลายขนาน ทงั้ ในต�ำ ราแพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ ยาต�ำ ราหลวง ต�ำ ราแพทยต์ �ำ บล และคมั ภรี ์ แพทย์แผนไทยหลายฉบับ ส่วนมากจะเข้าตำ�รับยาท่ีช่วยให้นอนหลับ กล่อมประสาท เจริญอาหาร ทำ�ให้มีแรง ยกตัวอยา่ งเช่น ในต�ำ ราแพทยต์ �ำ บล เลม่ 1 กล่าวไวว้ ่า กญั ชามีฤทธิ์ทำ�ใหเ้ มา ทำ�ใหใ้ จขลาด รับประทานน้อยๆ เป็นยาชกู ำ�ลงั เจริญอาหาร จากหนังสือแพทยศ์ าสตรส์ ังเขป กัญชากจ็ ดั อยใู่ นตำ�รับยาส�ำ ราญนิทรา หรอื คัมภรี ์ แพทย์ไทยแผนโบราณของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำ�พัน กิตติขจร) ก็มีตำ�รับท่ีเข้ายากัญชาหลายตำ�รับ เช่น ยาสุขไสยาสน์ ใช้แกไ้ ขน้ อนไม่หลบั ตำ�รบั แกไ้ ข้ผอมเหลอื งทม่ี ีอาการตัวสัน่ เสยี งส่ัน ลมกำ�เริบ นอนไม่หลบั ตำ�รบั ยาแกบ้ ดิ ต�ำ รบั แกล้ มขน้ึ เบอ้ื งสงู ในสว่ นของโทษของกญั ชานน้ั หมอยาไทยเตอื นไวว้ า่ กนิ มากท�ำ ใหใ้ จขลาด หวาด กลวั เสน้ ประสาทมึนชา มีรายงานการใช้นำ้�มันกญั ชาในผปู้ ว่ ยบางรายหากใชป้ รมิ าณมาก อาจทำ�ใหเ้ กดิ อาการ ทางประสาท ชกั หมดสติได้ เปน็ ทีน่ ่าเสยี ดายวา่ เม่ือกญั ชาถูกจัดเปน็ สง่ิ ผดิ กฎหมาย การใชป้ ระโยชนจ์ ากกญั ชาทีเ่ ปน็ ภมู ิปญั ญาไทย กจ็ ะถกู ทอดทงิ้ และอาจเลอื นหายไปตามกาลเวลา แตห่ ากประเทศไทยมกี ระบวนการจดั การทเ่ี หมาะสม ใหน้ กั วจิ ยั สามารถทำ�การวิจัยกัญชา หรือตำ�รับยาที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบได้ เพ่ือขยายการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เชน่ การเป็นยาคลายเครยี ด แกป้ วด ช่วยนอนหลับ อาจทำ�ใหป้ ระเทศไทยมีโอกาสใช้ทรพั ยากรและภูมิปญั ญาของ ประเทศไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพมากขน้ึ 9

กระท่อม กระท่อมจัดเป็นพืชพ้ืนเมืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปแอฟริกา ประเทศไทยถือเป็น ประเทศท่ีมีการใช้ประโยชน์จากกระท่อมสูงสุด และมีหลักฐานการใช้ประโยชน์มายาวนานต้ังแต่สมัยอยุธยา ดงั ทบ่ี นั ทกึ ไว้ในเสภาขุนขา้ งขุนแผน ตอนท่ี 27 กล่าวถงึ การกนิ กระท่อมทำ�ใหม้ ีแรง สู้งาน ออกศกึ ได้ ส่วนการใชก้ ระท่อมในวิถีพน้ื บา้ นนนั้ อา้ งองิ จากการลงพ้นื ทีเ่ กบ็ ข้อมลู ของ ดร.สุภาภรณ์ ปติ ิพร หัวหนา้ กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชาวไร่ชาวนา แถบน้นั นยิ มเคีย้ วกระท่อมเป็นยาชกู ำ�ลัง ท�ำ ใหท้ นตอ่ งานกลางแจ้ง ทนรอ้ น ทนแดดและท�ำ ให้หลบั สบาย ทุกบา้ น มีปลูกไว้ใช้ประโยชน์หลากหลาย หญิงคลอดบุตรก็ใช้ ช่วยให้ร่างกายฟ้ืนตัว มีกำ�ลังกลับคืน ใช้ใบต้มน้ำ�เดือด ดมื่ เป็นประจ�ำ กระท่อม จัดเป็นยารสฝาด มีฤทธ์ิจำ�พวกสมาน คุมธาตุ แก้ท้องร่วง ท้องเสีย แก้บิดมูกเลือด ตำ�รับ ยาไทยหลายขนานก็มีกระท่อมเป็นส่วนประกอบ การใช้กระท่อมปรากฎในตำ�ราการแพทย์แผนไทยในรูปแบบ ยาตำ�รับทแี่ ก้อาการบิด แกท้ ้องเสยี เชน่ ยาประสะกระท่อม จากต�ำ ราเวชศาสตรศ์ กึ ษา แพทยศ์ าสตร์สงั เขป ของ พระยาพิศณุประสาทเวช ต�ำ รบั แกอ้ ตสิ ารและแกป้ ว่ ง จารกึ ในวัดพระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม ยาหนุมานจองถนน ปิดมหาสมุทร จากต�ำ ราเวชศาสตร์วณั ณนา ตำ�รับยากล่อมอารมณ์ จากตำ�ราแพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์เล่ม 2 ในตำ�รับยาพื้นบ้าน ปรากฎข้อมูลเก่ียวกับกระท่อมอยู่ในหลายตำ�รับ เช่น ตำ�รับรักษาเบาหวาน ใช้ใบ กระท่อมย่าง โดยยา่ งให้กรอบ และน�ำ มาตม้ น้ำ� ดม่ื แทนน�้ำ ช่วยคุมเบาหวาน แกโ้ รคผิวหนัง เริม งูสวดั โดยใช้ใบ คั้นเอาน้ำ� นำ�มาทา หรือตำ�ผสมเหล้าทาบริเวณที่เป็น หากเด็กร้องไห้งอแง ใช้ใบกระท่อมตำ�โปะกระหม่อม ปวดเมอ่ื ยกใ็ ชใ้ บกระทอ่ มบดผงท�ำ เปน็ ยาลกู กลอนขนาดเทา่ เมด็ พรกิ ไทย กนิ วนั ละเมด็ ถา้ ทอ้ งเสยี ใชใ้ บกระทอ่ มหอ่ น�้ำ ตาลทรายเคย้ี วกนิ ทอ้ งผกู ใหเ้ คย้ี วใบกระทอ่ มกบั น�ำ้ ซาวขา้ ว มากมายหลายต�ำ รบั ทว่ี ถิ พี นื้ บา้ นใชด้ แู ลตนเองกนั มาช้านาน แมบ้ างครงั้ การใชก้ ระท่อมมีโอกาสติด ไม่ได้กนิ จะไม่มีแรง ทำ�งานไม่ได้ ปวดกระดกู กระวนกระวาย หาวนอน แตช่ าวบา้ นยืนยันวา่ เลกิ กระทอ่ มน้นั เลิกง่ายกวา่ เลกิ เหลา้ เลิกบุหรห่ี ลายเท่านกั จากข้อมูลการใช้ทั้งแบบพื้นบ้านและในตำ�รับยาต่างๆ หากมีการต่อยอดความรู้ วิจัยหาประสิทธิภาพ ประสิทธผิ ลทางการแพทยข์ องกระท่อมให้กวา้ งขวาง คนไทยคงไดป้ ระโยชน์จากกระทอ่ มได้ไมน่ ้อยทีเดยี ว 10

หมนุ ดูโลก ผศ.ดร.ภญ.อรกัญญ์ ภูมิโคกรักษ์ การวจิ ยั กญั ชาและกระทอ่ มในการรกั ษามะเรง็ ภาพรวมของการวจิ ยั กญั ชาในการรกั ษามะเร็ง กญั ชานนั้ ใชเ้ พอื่ วตั ถปุ ระสงคใ์ นทางการแพทยม์ าหลายพนั ปแี ลว้ แตอ่ งคก์ ารอาหารและยาสหรฐั อเมรกิ า (Food and Drug Administration, FDA) ยังไม่ได้อนุมัติให้ใช้กัญชารักษามะเร็งหรือภาวะทางการแพทย์อ่ืนใด ส่วนประกอบทางเคมีของกัญชาซึ่งเรียกว่ากลุ่มแคนนาบินอยด์นั้น ออกฤทธ์ิกระตุ้นตัวรับจำ�เพาะทั่วร่างกาย ท�ำ ใหเ้ กดิ ผลทางเภสชั วทิ ยา โดยเฉพาะในระบบประสาทกลางและระบบภมู คิ มุ้ กนั สารกลมุ่ แคนนาบนิ อยดท์ ซี่ อ้ื หา ได้ทางพาณิชย์อย่างเช่น dronabinol และ nabilone เป็นยาที่ได้รับอนุมัติให้ใช้สำ�หรับการรักษาอาการข้างเคียง เกี่ยวกบั มะเร็งในบางประเทศ ตวั อยา่ งเช่น dronabinol ในสหรัฐอเมรกิ า อนิ เดยี เยอรมนี ออสเตรเลยี แอฟรกิ าใต้ และ nabilone ในสหรัฐอเมริกา บทความนี้จะกล่าวถึงภาพรวมของการใช้กัญชาและส่วนประกอบของกัญชา ในการรกั ษาผทู้ ม่ี ีอาการเกยี่ วกบั มะเร็งทเ่ี กดิ จากตวั โรคเองหรอื จากการรกั ษาโรค ในการดำ�เนินการวิจัยกัญชาทางคลินิกในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้วิจัยต้องยื่นใบสมัครยาวิจัยใหม่ (Investigational New Drug, IND) กบั องคก์ ารอาหารและยา, ขอรบั ใบอนญุ าตประเภท 1 (Schedule I) จากส�ำ นกั งาน ปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐอเมริกา (Drug Enforcement Administration) และขอรับการอนุมัติจากสถาบัน แหง่ ชาติว่าด้วยการใชย้ าเสพตดิ (National Institute on Drug Abuse) การศึกษาในหนูถีบจักร (mouse) และหนูขาว (rat) ช้ีว่า สารกลุ่มแคนนาบินอยด์อาจมีผลป้องกัน การเกิดเนื้องอกบางชนิด การศกึ ษาเป็นเวลา 2 ปี ใหห้ นถู บี จกั รและหนขู าวไดร้ ับสาร tetrahydrocannabinol (THC) ในขนาดต่างๆ โดยการให้ทางหลอดสวนกระเพาะ พบว่า อุบัติการณ์ของเนื้องอกชนิดต่อมในตับและ มะเร็งเซลล์ตับ (hepatocellular carcinoma, HCC) ลดลงอย่างสัมพันธ์กับขนาดยาในหนูถีบจักร และพบว่า อบุ ัตกิ ารณข์ องเนอ้ื งอกชนิดไมร่ า้ ย (ต่ิงเนือ้ และเน้ืองอกชนิดตอ่ ม) ในอวัยวะอื่น (ต่อมน้�ำ นม มดลกู ต่อมใตส้ มอง อัณฑะ และตบั อ่อน) ลดลงในหนขู าวดว้ ย การศึกษาอีกชนิ้ หนึ่งพบวา่ -9-THC, -8-THC และ cannabinol ยบั ยงั้ การเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่อมในปอดชนิดหน่ึงท้ังนอกกายและในกาย นอกจากน้ียังมีการแสดงให้เห็นว่า เนอื้ งอกอน่ื ๆไวต่อฤทธิ์ของสารกลมุ่ แคนนาบนิ อยด์ในการยบั ยงั้ การเตบิ โตด้วย การค้น PubMed ไมพ่ บการทดลองทางคลนิ กิ กับกญั ชาในฐานะการรกั ษามะเรง็ ในมนุษย์ การทดลองกับ สารกลุ่มแคนนาบินอยด์ใดๆในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งท่ีจัดพิมพ์เพียงชิ้นเดียว คือ การศึกษานำ�ร่องขนาดเล็กท่ีฉีด ก -9-THC เข้าในเนื้องอกในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งสมองชนิดหน่ึง (glioblastoma multiforme) แบบกลับเป็นซำ้� ซงึ่ ไมแ่ สดงประโยชนท์ างคลินิกท่ีมนี ัยส�ำ คัญทางสถติ ิ ส่วนการทดลอง (NCT02255292) ทท่ี �ำ ในประเทศอสิ ราเอล วิจัย cannabidiol (CBD) รูปแบบรับประทานสำ�หรับเนื้องอกอวัยวะที่กลับเป็นซำ้� การศึกษาควรจะเสร็จสิ้น เม่ือปีพ.ศ. 2558 แต่ก็ยังไม่มีการจัดพิมพ์ผลงานออกมา ในสหราชอาณาจักรมีการศึกษาระยะที่ 2 เชิงสำ�รวจ ขนาดเล็ก (GWCA1208 Part A [NCT01812603]) โดยใช้ยา nabiximols ซ่ึงเป็น THC:CBD ในอัตราส่วน 1:1 ในรปู แบบพ่นละอองทางเย่ือบุช่องปาก รว่ มกับยา temozolomide ในการรกั ษาผู้ป่วยทีเ่ ปน็ โรคมะเรง็ สมองชนดิ น้ี แบบกลบั เปน็ ซ้ำ� การศกึ ษาลงทะเบียนผปู้ ่วย 21 ราย ยังไมไ่ ดจ้ ัดพมิ พผ์ ลงานสดุ ท้ายของการศกึ ษา 11

เปน็ ทที่ ราบกนั วา่ สารกลมุ่ แคนนาบนิ อยดม์ อี นั ตรกริ ยิ ากบั ระบบเอนไซมไ์ ซโตโครม P450 ในตบั แตใ่ นการ ศึกษาช้ินหนึ่ง ผู้ป่วยมะเร็ง 24 ราย ได้รับยา irinotecan เข้าหลอดเลือดดำ� (600 มิลลิกรัม, n = 12) หรือยา docetaxel (180 มิลลิกรมั , n = 12) และ 3 สัปดาหห์ ลังจากนั้นตามด้วยยาเดียวกนั รว่ มกบั กัญชาทางการแพทยท์ ี่ รบั ประทานในรปู แบบชาสมนุ ไพรเปน็ เวลา 15 วนั ตดิ ตอ่ กนั โดยเรมิ่ กอ่ นการรกั ษาทสี่ อง 12 วนั พบวา่ การใชก้ ญั ชา ไมไ่ ดม้ อี ทิ ธพิ ลตอ่ ระดบั ในรา่ งกายและการก�ำ จดั irinotecan หรอื docetaxel อยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ฯ ทงั้ น้ี วธิ กี ารบรหิ าร ชาสมนุ ไพรอาจใหผ้ ลไมเ่ หมือนกับการสูดหายใจหรอื การรับประทานสารกลุ่มแคนนาบินอยด์ท่ีละลายไดใ้ นไขมนั ภาพรวมของการวิจยั กระทอ่ มในการรกั ษามะเร็ง ในท�ำ นองเดยี วกับกัญชา บทความนี้ตัง้ ใจจะกล่าวถึงภาพรวมของการใช้กระทอ่ มและส่วนประกอบของ กระทอ่ มในการรกั ษาผทู้ ี่มีอาการเก่ียวกบั มะเรง็ ทเี่ กดิ จากตวั โรคเองหรือจากการรกั ษาโรค การสบื คน้ ข้อมลู พบวา่ สารสกัดจากกระท่อมและ mitragynine มีพิษต่อเซลล์มะเร็งเพาะเล้ียงของมนุษย์ท่ีเรียกว่า เซลล์ SH-SY5Y (เซลลป์ ระสาท) แตไ่ มพ่ บการวจิ ัยกระทอ่ ม สารสกัดหรือสารออกฤทธ์ิจากกระท่อมในทางคลนิ กิ สรปุ ปัจจุบันยังไม่มีผลการวิจัยที่สนับสนุนการใช้กัญชาหรือกระท่อมในการรักษาโรคมะเร็งเองในทางคลินิก จงึ เปน็ ไปไดว้ า่ กญั ชาและกระทอ่ มอาจมปี ระโยชนใ์ นการรกั ษาอาการขา้ งเคยี งเกยี่ วกบั มะเรง็ อยา่ งเชน่ อาการคลนื่ ไส้ และอาเจยี นจากเคมบี �ำ บดั เทา่ นนั้ เอกสารอ้างอิง 1. Bifulco M, Laezza C, Pisanti S, et al. Cannabinoids and cancer: pros and cons of an antitumour strategy. Br J Pharmacol 2006;148 (2):123-35. 2. Blázquez C, González-Feria L, Alvarez L, et al. Cannabinoids inhibit the vascular endothelial growth factor pathway in gliomas. Can- cer Res 2004;64 (16):5617-23. 3. Casanova ML, Blázquez C, Martínez-Palacio J, et al. Inhibition of skin tumor growth and angiogenesis in vivo by activation of can- nabinoid receptors. J Clin Invest 2003;111 (1):43-50. 4. Engels FK, de Jong FA, Sparreboom A, et al. Medicinal cannabis does not influence the clinical pharmacokinetics of irinotecan and docetaxel. Oncologist 2007;12 (3):291-300. 5. Gibbons S, Arunotayanun W. Natural product (fungal and herbal) novel psychoactive substances. NPS 2013. 6. Guzmán M, Duarte MJ, Blázquez C, et al. A pilot clinical study of Delta9-tetrahydrocannabinol in patients with recurrent glioblastoma multiforme. Br J Cancer 2006;95 (2):197-203. 7. McKallip RJ, Lombard C, Fisher M, et al. Targeting CB2 cannabinoid receptors as a novel therapy to treat malignant lymphoblastic disease. Blood 2002;100 (2):627-34. 8. National Cancer Institute. Cannabis and cannabinoids (PDQ®)–health professional version. 2017. Available from https://www.cancer. gov/about-cancer/treatment/cam/hp/cannabis-pdq#section. Accessed on December 20, 2017. 9. National Toxicology Program: NTP toxicology and carcinogenesis studies of 1-trans-delta(9)-tetrahydrocannabinol (CAS No. 1972- 08-3) in F344 rats and B6C3F1 mice (gavage studies). Natl Toxicol Program Tech Rep Ser 1996;446:1-317. 10. Sánchez C, de Ceballos ML, Gomez del Pulgar T, et al. Inhibition of glioma growth in vivo by selective activation of the CB(2) can- nabinoid receptor. Cancer Res 2001;61 (15): 5784-9. 11. Velasco G, Sánchez C, Guzmán M. Towards the use of cannabinoids as antitumour agents. Nat Rev Cancer 2012; 12 (6):436-44. 12. Yamamoto I, Watanabe K, Narimatsu S, et al. Recent advances in the metabolism of cannabinoids. Int J Biochem Cell Biol 1995; 27 (8):741-6. 12

จับกระแส ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กญั ชา ทางการแพทย์ 30 ปี ตีพิมพ์ในวารสารแลนเซต ปี ค.ศ. 1890 (เม่ือ 127 ปมี าแลว้ ) บรรยายถงึ โรคตา่ งๆทสี่ ามารถใชก้ ญั ชา รักษาได้ผลดี โดยใช้ในรูปแบบทิงเจอร์ (ไม่ใช่การสูบ) ได้แก่ ความผิดปกติทางจิตใจ (อาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ภาวะซึมเศร้า โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ) ความเจ็บปวดและชา (อาการปวดทุกชนิด โดยเฉพาะ กัญชาและกัญชงเป็นพืชตระกูลป่านปอ อาการปวดจากระบบประสาท อาการปวดเร้ือรัง ตา่ งประเทศจะเรยี กวา่ เฮมพ์ (Hemp) ทางการแพทยจ์ ะ ปวดหัวไมเกรน ปวดข้อ อาการชาท่ีแขนขา ปวด เรียกว่า แคนนาบิส (Cannabis) ส่วนชื่อ มารีฮวนน่า ประจำ�เดือน) โรคกล้ามเน้ือ (กล้ามเน้ือกระตุกเกร็ง (marijuana) ถูกต้ังขึ้นในภายหลัง เพื่อทำ�ให้เกิด อาการชกั บางชนดิ ชักจากเน้ืองอกในสมอง กลา้ มเนอ้ื ความรู้สกึ ในทางลบและท�ำ ใหเ้ ปน็ พชื ทผ่ี ดิ กฎหมาย ขาเป็นตะครวิ ตอนกลางคนื ) โรคอืน่ ๆ เช่น หอบหดื 4 จากหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ พบวา่ มกี าร บริษัทยาในยุคน้ันผลิตยาที่มีส่วนผสมของ ใช้กัญชาในทางการแพทย์มามากกว่า 5,000 ปี กัญชาไม่ต่ำ�กว่าร้อยละ 50 ของตำ�รับยา5 อาชีพหลัก ในอารยธรรมตะวนั ออก เชน่ จนี อนิ เดยี 1 ในประเทศไทย ของ จอร์จ วอชงิ ตนั ประธานาธบิ ดคี นแรกของสหรฐั ฯ เองก็พบว่า มีการใช้กัญชารักษาโรคมาอย่างน้อย คือ การปลูกกัญชาขาย ประชาชนสามารถใช้กัญชา 360 ปี ดังปรากฏ ในตำ�ราพระโอสถพระนารายณ์ ช�ำ ระภาษีได้ บางรฐั ออกกฎหมายว่าถ้าใครมที ี่ดนิ ต้อง มสี ตู รต�ำ รบั ยาทพิ กาศ มสี ว่ นประกอบหลกั เปน็ ใบกญั ชา ปลกู กญั ชา ถา้ ไมป่ ลกู ถอื วา่ ผดิ กฎหมาย กญั ชาถกู บรรจุ 16 ส่วน และตำ�รับยา ศขุ ไสยาศน์ มสี ่วนประกอบหลกั อยู่ในเภสัชตำ�รับของทั้งประเทศอังกฤษและ เป็นใบกัญชา 12 ส่วน ใช้รักษาอาการนอนไม่หลับ สหรัฐอเมรกิ า6 ชว่ ยเจรญิ อาหาร รักษาอาการปวดตา่ งๆ2 ชาวตะวันตกเพิ่งมารู้จักว่ากัญชามีสรรพคุณ รักษาโรคเม่ือประเทศอังกฤษเข้าไปยึดครองประเทศ อินเดียเป็นอาณานิคม ในช่วงศตวรรษท่ี 18 โดย 1 https://goo.gl/Jtfzdy 2 วีรยา ถาอุปชติ นุศราพร เกษสมบูรณ.์ การใชก้ ัญชาทางการแพทย์. นายแพทย์ William B. O’Shaughnessy น�ำ กญั ชากลบั ไป วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน. ปที ่ี 13 ฉบับพิเศษ ม.ค.- ม.ี ค.2560. 228- ใช้รักษาผู้ป่วยโรคลมชักและโรคข้ออักเสบอย่างได้ผลดี 40. จนมีช่อื เสียงโดง่ ดงั 3 3 https://publicdomainrevieworg/2017/04/19/w-b-oshaughnessy- กัญชามีสรรพคุณรักษาโรคต่างๆได้อย่าง กว้างขวาง แม้กระท่ังแพทย์ประจำ�ราชสำ�นักอังกฤษก็ and-the-introduction- of-cannabis-to-modern-western-medicine/ ใช้ยาสกัดจากกัญชารักษาอาการเจ็บป่วยของราชินี 4 Reynolds JR. On the therapeutic uses and toxic effects of can- วิคทอเรีย และคนในราชวงศ์ นายแพทย์เจ รัสเชล nabis indica. The Lancet 1890; March 22, 637-38. เรโนลส์ แพทย์ประจำ�ราชสำ�นักอังกฤษบันทึก 5 http://bit.ly/2ClBhBz ประสบการณ์การใช้กัญชารักษาโรคของตนในช่วง 6 https://bit.ly/2eALooJ 13

ในช่วงต้นศตวรรษท่ี 19 มีการเติบโตของ ประสาท รกั ษาอาการนอนไมห่ ลบั และรกั ษาอาการปวด อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และการผลิตยาจากเคมี เส้นประสาทอยา่ งรนุ แรง บริษทั ไบเออรเ์ ปน็ ผู้ไดร้ บั สทิ ธ์ิ จึงมีกระบวนการทำ�ลายคู่แข่งท่ีเป็นยาจากธรรมชาติ ในการวางตลาดในสหราชอาณาจักร11 โดยการใส่ร้ายปา้ ยสวี ่า กญั ชาคือยาเสพตดิ ใชแ้ ลว้ เกดิ จากการวิจัยพบว่า กัญชาช่วยรักษาอาการ อาการทางจติ คลงั่ จนถึงกอ่ อาชญากรรม ท้ังๆทีผ่ ู้คน ปวดตามอวยั วะตา่ งๆไดผ้ ลดีมาก แมใ้ นคนไข้ทีใ่ ชย้ าแก้ มากมายใช้รักษาโรคอย่างปลอดภัยมาเป็นร้อยปี ปวดต่างๆหลายชนิดแลว้ กย็ ังไมห่ ายปวด12 เม่ือประชาชนหลงเช่ือก็ออกกฎหมายจัดให้กัญชาเป็น การวิจัยท่ีประเทศอิสราเอล พบว่า เด็กที่มี ยาเสพติดอันตราย ถอนกัญชาออกจากเภสัชตำ�รับ อาการชัก จำ�นวน 74 คน ซ่ึงใช้ยาอ่ืนๆแล้วไม่ได้ผล สมาคมแพทยใ์ นสหรฐั ในยคุ นนั้ พยายามคดั คา้ นการออก เม่ือมาใช้กัญชาสามารถลดอาการชักลงได้ ถึงร้อยละ กฎหมายห้ามใช้กัญชารักษาโรคก็ไม่เป็นผล มีการ 89 การใชก้ ญั ชาไมม่ ผี ลกระทบตอ่ สมองหรอื การเรยี นรู้ ปราบปรามจับกุมผู้ใช้ ผู้จำ�หน่าย ทำ�ให้การใช้กัญชา ของเด็กเลย แต่กลับมีพัฒนาการทางสมองท่ีดีขึ้น รกั ษาโรคหยดุ หายไปจากสังคม เพราะมีบทลงโทษ7 เพยี งแตท่ �ำ ใหง้ ว่ งนอนมากในระยะแรกทใ่ี ช1้ 3 ซงึ่ การพกั ตอ่ มาเมอ่ื มอี นิ เตอรเ์ นต็ ท�ำ ใหอ้ งคค์ วามรแู้ ละ ผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยทำ�ให้ร่างกายเยียวยาตัวเอง ภูมิปัญญาในอดีตกลับมาฟ้ืนคืนชีพ ความรู้เร่ือง ได้เรว็ ขึน้ สรรพคุณของกัญชารักษาโรคแพร่หลายออกไปอย่าง กว้างขวาง สถาบันทางวิชาการมากกว่า 100 แห่ง ทว่ั โลกหนั มาท�ำ วจิ ยั เรอ่ื งนอ้ี ยา่ งจรงิ จงั ปจั จบุ นั มผี ลการ วจิ ยั ตพี มิ พใ์ นฐานขอ้ มลู ทางการแพทยม์ ากกวา่ 20,000 เรอื่ ง8 9 เกิดกระบวนการประชาชนเรียกร้องให้แก้ กฎหมายอนุญาตให้นำ�กัญชากลับมาใช้รักษาโรคได้ รัฐบาลของประเทศอังกฤษและสหรัฐฯจึงเร่ิมมีการ ผอ่ นคลายลดความเปน็ อาชญากรรมเรอื่ งการใชก้ ญั ชา อนุญาตให้มีการนำ�มาใช้รักษาโรคได้อีกครั้ง มีการ แก้กฎหมายให้นำ�กัญชามาใช้รักษาโรคใน 29 รัฐของ สหรฐั ฯ และในอีกหลายประเทศ มีการทำ�ธุรกจิ ทีส่ รา้ ง 7 https://goo.gl/Jtfzdy 8 https://goo.gl/jSYo1Y มลู คา่ เพ่มิ และรฐั เก็บภาษีได้มากขึ้น10 9 http://bit.ly/2yeYSyP ชาวอังกฤษและอเมริกันเมื่อเจ็บป่วยสามารถ 10 http://norml.org/ เข้าถึงกัญชาเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาได้ เช่น 11 https://bit.ly/2wDUGs4 ใช้ยาสกัดจากกัญชาช่ือ โดรนาบินอล (dronabinol) 12 Haroutounian S et al. The Effect of Medicinal Cannabis on Pain and Quality of Life Outcomes in Chronic Pain: a Prospective ชอ่ื การค้า คือ มารินอล (Marinol) เป็นสารสังเคราะห์ Open-label Study. The Clinical Journal of Pain. 2016. DOI:10.1097/ ของ tetrahydrocannabinol (THC) รูปแบบยาเม็ด ใชแ้ ก้ AJP.0000000000000364 อาเจียน กระตุ้นความอยากอาหาร หรือ นาบิกซีมอล 13 Tzadok M et al. CBD-enriched medical cannabis for intractable (Nabiximol) ช่ือการคา้ คือ ซาตเิ วกซ์ (Sativex) ใช้แบบ pediatric epilepsy. The current Israeli experience. European Journal สเปรย์พ่นเข้าปาก ใต้ลิ้น แทนการสูบ ใช้ลดการปวด of Epilepsy (2016) http://dx.doi.org/doi:10.1016/j.seizure.2016.01.004 14

สารในพืชกญั ชาท่ีเป็นแคนนาบิไดออล (Can- เรอื่ งนชี้ ชี้ ดั วา่ วธิ คี ดิ ของเรามปี ญั หา กฎหมายของเรา nabidiol, CBD) ใชร้ กั ษาโรคจติ ไดผ้ ลดี ลดอาการทางจติ มีปญั หา! ในโรคจิตเภทได้ดี และมีผลแทรกซ้อนน้อยกว่ายาแผน การมีกฎหมายห้ามปรามการใช้กัญชาก็ไม่ ปัจจุบัน14 ประเทศอิสราเอลสามารถพัฒนาสายพันธ์ุ สามารถหยุดยั้งการใช้ได้ กลับเอ้ือประโยชน์ให้มาเฟีย กัญชาให้มี CBD เด่นกว่า THC (Tetrahydrocannabinol) ค้ายาเสพติดให้สามารถจำ�หน่ายได้ในราคาสูง คนใช้ จนสามารถส่งออกไปจ�ำ หน่ายในหลายประเทศได้ กญั ชารกั ษาโรคจงึ มคี วามเสยี่ งทจี่ ะไดก้ ญั ชาคณุ ภาพต�่ำ นอกจากน้ีกัญชายังมีสรรพคุณในการรักษา มีการปนเป้ือนเช้ือรา และยาฆ่าแมลง เพราะผู้ผลิต โรคอืน่ ๆไดอ้ ีกหลายโรค เชน่ ลดอาการกลา้ มเน้อื เกรง็ ใสเ่ ขา้ ไปเพ่ือใหเ้ สพแลว้ เมาเรว็ และส่ันจากโรคทางระบบประสาท โรคผิวหนังอักเสบ การแก้กฎหมายให้เอ้ือต่อการนำ�กัญชามาใช้ โรคลำ�ไส้อักเสบ โรคข้ออักเสบ โรคเบาหวาน และ รกั ษาโรคและสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารศกึ ษาวจิ ยั พฒั นาสายพนั ธุ์ โรคความดันโลหติ สูง15 16 กัญชาให้มสี รรพคุณท่ดี ียงิ่ ข้ึน จะชว่ ยท�ำ ใหป้ ระเทศไทย โรคอื่นๆท่ีกำ�ลังมีการวิจัยอย่างมากในตอนนี้ กา้ วทนั ความกา้ วหนา้ ในเรอื่ งนขี้ องโลก และมที างเลอื ก คือ การนำ�มาใช้รักษาโรคมะเร็ง โดยใช้แบบเด่ียวหรือ ในการดูแลสขุ ภาพของประชาชนแบบพ่งึ ตนเองได้ ร่วมกับยาเคมีหรือสมุนไพรตัวอื่นๆ17 และมีการจด ถงึ เวลาแลว้ ทป่ี ระเทศไทยตอ้ งรบี แกก้ ฎหมาย สทิ ธบิ ตั รเพอื่ ใชผ้ ลติ ภณั ฑจ์ ากกญั ชารกั ษามะเรง็ แลว้ ใน ให้สามารถนำ�กัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จะ หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ช่วยลดความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยของ แคนาดา จีน ญ่ีปุ่น อสิ ราเอล18 ประชาชน ลดคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นสขุ ภาพ และประเทศไทยจะ ยาแผนปัจจบุ นั สว่ นใหญ่ แต่ละตัวมสี รรพคณุ พึ่งตนเองดา้ นสุขภาพไดม้ ากข้นึ ไมก่ อี่ ยา่ ง ยงั ไดร้ บั อนญุ าตใหน้ �ำ มาใชร้ กั ษาโรคไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย บางตัวมผี ลเสยี รุนแรง บางตวั กม็ ี ฤทธ์ิเสพติด เช่น ยาทางจิตเวชหลายขนาน หลายตัว มี ผ ล เ สี ย ห รื อ มี อั น ต ร า ย ม า ก ถึ ง ข้ั น ทำ � ใ ห้ เ สี ย ชี วิ ต แต่กัญชามีสรรพคุณรักษาโรคได้หลายโรค และ ปลอดภยั สูง กลบั ถูกห้ามไมใ่ ห้นำ�มาใช้รักษาโรค การใสร่ า้ ยปา้ ยสกี ญั ชาวา่ เปน็ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ไม่ไดอ้ ยบู่ นพื้นฐานของข้อเทจ็ จรงิ เพราะกัญชามฤี ทธิ์ 14 Leweke F. M., Piomelli D., Pahlisch F., Muhl D., Gerth C. W., Hoyer C., et al. (2012). Cannabidiol enhances anandamide signal- เสพติดน้อยกว่ากาแฟ เสพแล้วเลิกได้ง่าย ที่มีการใช้ ing and alleviates psychotic symptoms of schizophrenia. Transl. ตอ่ เนอ่ื งเพราะมเี หตผุ ลทางการแพทย์ เพอ่ื รกั ษาอาการ Psychiatry 2:e94 10.1038/tp.2012.15 ตา่ งๆ และใชท้ ดแทนสารเสพตดิ อนั ตรายตวั อน่ื ๆ ท�ำ ให้ 15 https://goo.gl/9qwbY2 สามารถใชช้ ีวติ ในสังคมไดอ้ ยา่ งปกติสุข และมคี ุณภาพ 16 http://bit.ly/2frGDhI 17 http://bit.ly/2fcxa0U ชวี ิตที่ดขี น้ึ 18 https://www.google.com/patents/US20130059018 และท่ีสำ�คัญคือ นอกจากกัญชาไม่มีฤทธิ์ 19 http://druglibrary.org/special/mikuriya/tod_mikuriya_collection.htm เสพตดิ แลว้ ยงั สามารถน�ำ มาใชบ้ �ำ บดั ยาเสพตดิ ตวั อนื่ ๆ 20 https://bit.ly/1TeU57q อย่างได้ผลดีอีกด้วย เช่น เฮโรอีน บุหรี่ สุรา 21 Lau N, Sale P, Averill S, et al. A safer alternative: Cannabis substitution as harm reduction. Drug and Alcohol Review (2015). ยาบา้ 19 20 21 DOI: 10.1111/dar.12275 15

ใกลต้ วั การใช้กัญชา ในทางการแพทย์ ภญ.วีรยา ถาอุปชิต คราวนี้ มเี ฮ!! ในช่วงปีที่ผ่านมา หลายท่านคงคุ้นชินกับ สนง.สสจ.ขอนแก่น เตรียมแกก้ ฎหมาย พาดหัวข่าวข้างต้น เก่ียวกับเรื่องกระท่อมและ เค้ียวใบกระทอ่ ม ไม่ถอื เป็น กัญชาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นเร่ืองที่สังคมกำ�ลังให้ จ้ีรฐั บาลแก้กฎหมาย ยาเสพตดิ ปรับเรอ่ื งกัญชา ความสนใจ ส�ำ หรบั ในกระแสโลก องคค์ วามรใู้ น ยาเสพติด เปดิ ทางใช้ เรอื่ งนก้ี ไ็ ดพ้ ฒั นากา้ วไปมาก จงึ อยากใหท้ กุ ทา่ น ดว้ ย ได้รจู้ ักกบั “การใชก้ ญั ชาในทางการแพทย์” กัญชา กระทอ่ ม วา่ เปน็ อยา่ งไร ทางแพทย์ • “กัญชา” จากยาเสพติดสพู่ ืชสมุนไพร ใชร้ ักษาโรค กัญชา จดั เป็นพชื สมนุ ไพรท่มี ีประโยชน์ นำ�มาใชใ้ นทางการแพทยม์ านาน ในรูปแบบตำ�รบั ซึง่ ปรากฏใน ต�ำ ราแพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ ภมู ปิ ญั ญาทางการแพทยแ์ ผนไทยและมรดกทางวรรณกรรมแหง่ ชาติ โดยขอ้ มลู ของ United Nations น้ัน กญั ชาถูกจัดเปน็ ยาเสพตดิ (Narcotic Drug) ตง้ั แตป่ พี .ศ.2504 (United Nations, 1961) และ การใช้กัญชาเป็นส่ิงที่ผิดกฎหมายในเกือบทุกประเทศ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั่วโลกมีการเปิดกว้างมากข้ึน ทำ�ให้ต้องกลับมาทบทวนและตง้ั ค�ำ ถามใหม่วา่ กัญชามปี ระโยชนห์ รือโทษอยา่ งไร โดยมขี อ้ มลู ว่า ปีพ.ศ.2513 ใน กรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ เร่ิมมี Coffee Shop สำ�หรับเสพกัญชา ปีพ.ศ.2553 โปรตุเกสลดโทษการ เสพกัญชาลงมาเป็นค่าปรับ (Decriminalize) หรือแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ประกาศสงครามกับ ยาเสพติด ก็พบว่า ในปี พ.ศ.2555 มีการลงมติในรัฐโคโลราโดและรัฐวอชิงตัน ให้มีกฎหมายยอมรับกัญชา เพ่ือความบันเทิง (Legalize Recreational) และในปัจจุบัน เดือนพฤศจิกายนปี 2560 นี้พบว่ามีถึง 29 รัฐของ สหรัฐอเมริกามกี ารออกกฎหมายอนุญาตใหใ้ ช้กญั ชาในทางการแพทย์ได้ (Medical Cannabis) ในการใชป้ ระโยชน์ทางการแพทย์ กัญชาถกู นำ�มาใชใ้ นการรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคหลายชนดิ โดยมีทง้ั รูปแบบของ Cannabis หรือเปน็ สารสกดั กลุ่ม Cannabinoids โดยมีวธิ กี ารใชใ้ นหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การกิน การสูดควนั การสูดไอระเหย การนำ�มาผสมในอาหาร หรือชงเปน็ ชา ขณะท่กี ฎหมายของประเทศไทย จัดให้กญั ชาเปน็ ยาเสพติดใหโ้ ทษประเภทที่ 5 ตามพรบ.ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 ซงึ่ การปลูก การครอบครอง การจำ�หนา่ ยหรือการบรโิ ภค ยงั เปน็ สง่ิ ทผ่ี ดิ กฎหมาย ทำ�ให้ไม่สามารถทำ�การศึกษาวิจัยได้ จงึ ขาดขอ้ มลู ในการ พิจารณา 16

• ประโยชน์ทางการแพทย์ (Medical Use) และสงิ่ ไม่พงึ ประสงค์ (Adverse Event) ของการใชก้ ญั ชา จากการทบทวนตำ�ราแพทย์แผนไทย 2 เล่ม คือตำ�ราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์และตำ�ราพระโอสถ พระนารายณ์ และต�ำ ราแพทยแ์ ผนปจั จบุ ัน ท่ีสืบคน้ ขอ้ มลู จากฐานขอ้ มลู ทางการแพทย์ Pubmed และ Cochrane Library โดยจำ�กัดการศึกษาแบบ Systematic reviews และใช้วิธีประเมินคุณภาพของงานวิจัยโดยใช้ Preferred reporting items for systematic review and meta-analysis protocols (PRISMA-P) 2015 พบวา่ ต�ำ ราแพทยศ์ าสตร์ สงเคราะห์มีตำ�รับยาไทยที่เข้ากัญชาจำ�นวน 11 ตำ�รับ ตำ�ราพระโอสถพระนารายณ์มีตำ�รับยาไทยท่ีเข้ากัญชา จำ�นวน 3 ต�ำ รบั โดยมขี อ้ บง่ ใช้หลักคอื แก้ปวด เจริญอาหาร ชว่ ยให้นอนหลบั ส�ำ หรับการใช้กญั ชาในการแพทย์ แผนปัจจุบนั นน้ั เม่ือพิจารณาจากงานวจิ ัยทีม่ คี ณุ ภาพในระดบั ท่ีน่าเช่ือถือได้ (Moderate-quality evidence) พบว่า มกี ารใชส้ �ำ หรบั อาการปวดเรอื้ รงั โดยเฉพาะ neuroleptic pain หรอื cancer pain และภาวะกลา้ มเนอ้ื เกรง็ เนอื่ งจาก ภาวะปลอกประสาทอกั เสบ (Spasticity due to multiple sclerosis) โดยใชส้ าร Cannabinoids ไดแ้ ก่ Nabiximol, Nabilone, Tetrahydrocannabinol/ Cannabidiol , Dronabinol ผลข้างเคียงของกัญชาในระยะสั้น พบว่า มีผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง ได้แก่ มึนงง ปากแห้ง คล่ืนไส้ เหน่ือยเพลยี สบั สน สญู เสียการทรงตวั ซึ่งเปน็ อาการขา้ งเคียงทีพ่ บได้ในยาทวั่ ไป และยังไมม่ ีข้อมูลท่แี นช่ ัดถึงผล การใช้ในระยะยาว จงึ ควรมีการศกึ ษาผลของกัญชาในระยะยาวตอ่ ไป •การศกึ ษากัญชาในการรกั ษาโรคมะเรง็ สำ�หรับการนำ�กัญชาไปใช้ในการรักษามะเร็ง พบว่า มีการศึกษาทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ คือใน หลอดทดลองและศึกษาในสัตว์ทดลอง โดยมีกลไกเกี่ยวกับการยบั ย้ังการเติบโตของเซลลม์ ะเร็ง รวมท้งั การท�ำ ให้ เซลล์มะเร็งตาย โดยพบว่า “กัญชา” สามารถยับย้ังการเติบโตของเซลล์มะเร็ง Gliomas ได้ และพบว่า สาร Cannabinoids มีความสามารถในการฆา่ เซลลม์ ะเรง็ แบบเฉพาะเจาะจง หรือกลา่ วไดว้ า่ มันท�ำ ให้เซลลม์ ะเรง็ ตาย โดยไม่ท�ำ ลายเซลลป์ กติ (Selectivity of Cannabinoids in antitumor activity) เนือ่ งจาก CBD และ THC มกี ลไกที่ แตกตา่ งกันท่เี หน่ยี วน�ำ ใหเ้ กิดการตายของเซลลม์ ะเร็ง (Apoptosis) ดงั นั้น การใช้ CBD ร่วมกบั THC จึงเป็นการ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของ Cannabinoids ในการตา้ นมะเรง็ ไดด้ กี วา่ การใชส้ ารเชงิ เดยี่ ว และพบวา่ การใชแ้ บบผสม ท�ำ ให้ ผู้ป่วยทนต่อผลข้างเคียงได้มากกว่าการใช้ THC เดี่ยว ดังนั้น การใช้กัญชาแบบไม่ต้องสกัดน่าจะมีประโยชน์ ที่ดีกว่า แตต่ ้องมีการวจิ ยั เพือ่ ปรบั ปรุงหาสายพันธุท์ ี่เหมาะสมตอ่ ไป 17

• หากจะนำ�กัญชามาใช้ในทางการแพทย์ ควรท�ำ อย่างไร การทจ่ี ะน�ำ กญั ชามาใชป้ ระโยชนใ์ นทางการแพทยน์ นั้ สง่ิ ส�ำ คญั ทต่ี อ้ งพจิ ารณาคอื กฎหมายควรจะก�ำ หนด อยา่ งไร ส�ำ หรบั ในประเทศแคนาดาซงึ่ เปน็ ประเทศทมี่ กี ฎหมายรองรบั แลว้ ไดอ้ อกระเบยี บวา่ ดว้ ยการเขา้ ถงึ กญั ชา เพ่ือประโยชน์ทางการแพทย์ (Access to Cannabis for Medical Purposes Regulations) เมอื่ วนั ที่ 5 สิงหาคม 2559 โดยระบวุ า่ จะตอ้ งซอ้ื จากผผู้ ลติ ทไ่ี ดร้ บั อนญุ าต (ผผู้ ลติ กญั ชาแหง้ ผผู้ ลติ กญั ชาสด และน�้ำ มนั กญั ชา) ซง่ึ ในปจั จบุ นั มีอยู่ 35 รายทั่วประเทศ มีการจำ�กัดปริมาณการใช้ส่วนตัว หรือจำ�กัดปริมาณการผลิต โดยปริมาณสูงสุดท่ี ครอบครองได้คือน้อยกว่า 30 เท่าของปริมาณต่อวันที่ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพส่ังจ่าย หรือกัญชาแห้ง 150 กรมั โดยทบี่ ุคคลที่ต้องการเขา้ ถึงกัญชาทางการแพทย์น้ีจะไมม่ สี ิทธอิ นุญาตใหผ้ ู้อนื่ ใชก้ ญั ชาของตน “กล่าวโดยสรุปได้ว่า กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ในทางการแพทย์ ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการ สนับสนุนทั้งในแผนไทยและแผนปัจจุบัน สรุปข้อบ่งใช้หลักคือ อาการปวดเร้ือรังและโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง สว่ นผลข้างเคยี งของกัญชาในระยะส้ัน พบวา่ มีผลขา้ งเคียงท่ไี มร่ ุนแรง และผลข้างเคยี งในระยะยาว ยงั ไมม่ ขี ้อมูล ทแี่ นช่ ดั การศกึ ษาเรอื่ งกญั ชา มมี ติ ทิ ม่ี าเกย่ี วขอ้ งหลากหลาย ไดแ้ ก่ มติ ดิ า้ นประโยชนท์ างการแพทย์ มติ ทิ างสงั คม วัฒนธรรมและวิถีชีวิต และมิติด้านความม่ันคงทางยาและสุขภาพ ซ่ึงการศึกษาค้นคว้าให้ครอบคลุมทั้งสามมิติ ดังกล่าว น่าจะนำ�ไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายในการที่จะนำ�พืชกัญชามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้อย่าง เหมาะสมและปลอดภัย 18

ทันสถานการณ์ อ.ภก.ปรุฬห์ รุจนธำ�รงค์ คณะเภสัชศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ขอ้ กฎหมายไทยเกีย่ วกับพชื กระทอ่ ม และกญั ชาในทางการแพทย์ ค�ำ ถามทพี่ บบอ่ ยคอื “การน�ำ พชื กระทอ่ มและกญั ชามาใชป้ ระโยชนใ์ นทางการแพทยน์ นั้ จะสามารถท�ำ ได้ เพียงใด?” การนำ�กญั ชามาใชป้ ระโยชน์ พระราชบัญญัติกัญชา พุทธศักราช 24771 มีหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการควบคุมกัญชา เช่น หา้ มมใิ หผ้ ใู้ ดปลกู หรอื มกี ญั ชาไวใ้ นครอบครอง หากมมี ากอ่ นทพี่ ระราชบญั ญตั ใิ ชบ้ งั คบั กใ็ หจ้ ดั การเกบ็ และจ�ำ หนา่ ย ใหห้ มดสน้ิ ไปภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ทพ่ี ระราชบญั ญตั นิ ใ้ี ชบ้ งั คบั แตร่ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย2 อาจอนญุ าต ให้แต่เฉพาะบุคคลปลูกหรือมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อการทดลองหรือเพื่อประโยชน์ในทางโรคศิลปะก็ได้ ตามมาตรา 5 ในขณะเดยี วกนั กห็ า้ มการน�ำ เขา้ มาในราชอาณาจกั ร เวน้ แตจ่ ะไดร้ บั ใบอนญุ าต และหา้ มสง่ ออกดว้ ย ตามมาตรา 6 สว่ นในดา้ นการใช้งานน้ัน ไมไ่ ดป้ ลอ่ ยใหม้ ีการใชอ้ ยา่ งเสรี แตใ่ หใ้ ช้อยา่ งมเี งือ่ นไขตามมาตรา 7 ซ่ึงระบวุ ่า “ห้ามมใิ ห้ผ้ใู ด มี ซอ้ื ขาย จำ�หน่าย หรือสูบกันชา แต่รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาจอนุญาต ใหฉ้ ะเพาะบคุ คล มไี วเ้ พอื่ ประโยชนใ์ นทางโรคศลิ ปะกไ็ ด”้ นนั่ หมายความวา่ ยนิ ยอมใหใ้ ชก้ ญั ชาเพอ่ื ประโยชนใ์ นทาง ด้านการแพทย์ได้ และก็มีการควบคุมอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการสบู กญั ชาดว้ ย ต่อมามีการออกกฎกระทรวงชื่อว่า “กฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติกันชา พุทธศักราช 2477” กำ�หนดว่าหากต้องการปลูกกัญชาเพ่ือทดลองหรือใช้ประโยชน์ในทางโรคศิลปะ ต้องได้รับ อนุญาต ใบอนุญาตมีอายุใช้ได้เพียงวันที่ 31 มีนาคม แห่งปีที่ 3 นับแต่ปีท่ีออกใบอนุญาต3 ในใบอนุญาตนั้น ก็จะให้แสดงรายละเอียดว่าจะปลูกกัญชาท่ีไหน พื้นท่ีปลูกเท่าไหร่ เพ่ือวัตถุประสงค์ใด จะมีกัญชาจำ�นวนเท่าใด สว่ นการน�ำ เขา้ กัญชา ใบอนญุ าตพากัญชาเข้ามามอี ายไุ ม่เกนิ 1 ปี นบั แตว่ นั ทล่ี งในใบอนญุ าต การนำ�กระท่อมมาใช้ประโยชน์ พระราชบัญญัติพืชกระท่อม พุทธศักราช 24864 บัญญัติให้พืชกระท่อมเป็นสิ่งให้โทษแก่ผู้เสพ5 มาตรา 4 ห้ามผ้ใู ดเสพ ปลกู มี ซ้ือ ขาย ให้ หรอื แลกเปลยี่ นพชื กระทอ่ ม เวน้ แตจ่ ะได้รบั อนญุ าตจากเจา้ พนักงาน เพ่ือประโยชน์ในการประกอบโรคศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นว่า กฎหมายยังยินยอมให้ใช้กระท่อมเพื่อ ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ 1สมยั นั้นเขยี น “กัญชา” ว่า “กันชา” 19 2สมัยน้ันยังไม่มกี ระทรวงสาธารณสุข มแี ต่กรมสาธารณสุขซึ่งสงั กัดกระทรวงมหาดไทย 3สมยั นั้น วนั สนิ้ ปีเก่าของไทย คือวนั ที่ 31 มีนาคม 4สมัยนน้ั เขยี นว่า “พระราชบญั ญตั ิพืชกะท่อม พุทธสกั ราช 2486” 5ซึง่ ไม่ได้ให้เหตุผลทช่ี ัดเจน

ตอ่ มาวนั ที่ 26 ตลุ าคม พ.ศ.2486 มกี ฎกระทรวงสาธารณสขุ ออกตามความในพระราชบญั ญตั พิ ชื กระทอ่ ม พทุ ธศกั ราช 2486 กำ�หนดให้ผู้ประสงคจ์ ะน�ำ เข้าหรือส่งออกพชื กระท่อม ตอ้ งยนื่ ค�ำ ขอตามแบบ พ.ก.1 เม่อื ไดร้ บั ใบอนญุ าตแล้ว ใบอนญุ าตมอี ายุ 1 ปหี รอื นอ้ ยกวา่ 1 ปี ตามที่กำ�หนดไวใ้ นใบอนุญาต นับแต่วนั ทีอ่ อกใบอนญุ าต หากต้องการปลูกหรือมีพืชกระท่อมเพื่อประโยชน์ในการประกอบโรคศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ ตอ้ งยน่ื ค�ำ ขอตามแบบ พ.ก.2 หรอื หากตอ้ งการซอ้ื ขาย ให้ หรอื แลกเปลย่ี นพชื กระทอ่ มเพอ่ื ประโยชนใ์ นการประกอบ โรคศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ ก็ต้องยื่นคำ�ขอตามแบบ พ.ก.3 ซึ่งท้ัง 2 กรณีน้ีจะได้รับใบอนุญาตตามแบบ พ.ก.5 และเม่ือได้รับใบอนุญาตแล้ว จะใช้ได้ถึงวันท่ี 31 ธันวาคม ของปีที่ออกใบอนุญาต โดยในใบอนุญาตน้ัน อธบิ ดกี รมสาธารณสขุ 6 อาจก�ำ หนดเงอื่ นไขใหผ้ ปู้ ระกอบโรคศลิ ปะในสาขาเภสชั กรรมซงึ่ ประสงคจ์ ะปรงุ ยาส�ำ รอง ไว้ แจ้งตำ�รับและปริมาณพืชกระท่อมและยาผสมอย่างอ่ืนท่ีจะต้องใช้เป็นส่วนผสมและวันปรุงยาให้ทราบก่อน ทุกครั้ง เม่ือได้รับอนุมัติแล้วจึงจะปรุงยานั้นได้ และอธิบดีฯอาจตั้งผู้แทนไว้ควบคุมหรือตรวจการปรุงยานั้นด้วย ท้ังนี้ ไมไ่ ด้มีกลา่ วถงึ การออกใบอนญุ าตครอบครองเพ่อื เสพ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชา พุทธศักราช 2477 และ พระราชบัญญัติพืชกระท่อม พุทธศักราช 2486 และได้บัญญัติให้พืชกระท่อมและกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษใน ประเภท 5 ตามมาตรา 7(5) และก็มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำ�หนดให้พืชกระท่อม หมายความรวมถึง ทุกสว่ นของพืชกระทอ่ ม (Mitragyna specioca Korth) และวตั ถหุ รอื สารต่างๆทมี่ อี ยใู่ นพชื กระท่อม เช่น ใบ ดอก ยอด ผล อัลคาลอยด์ ล�ำ ต้น ส่วนกญั ชา ให้หมายความรวมถงึ ทกุ สว่ นของพชื กัญชา (Cannabis sativa L. และ Cannabis indica Auth) และวตั ถหุ รอื สารตา่ งๆทม่ี อี ยใู่ นพชื กญั ชา7 อุปสรรคต่อการนำ�พชื กระท่อมและกัญชามา ใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เช่น 1. การเพาะปลูก แม้ไม่ปลูกแต่ดูแล เช่น รดน้ำ� ถือเป็นการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 หากไม่ไดร้ บั อนุญาต ถือวา่ ฝา่ ฝืนพระราชบญั ญตั ิยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 268 2. การเพาะเลี้ยงเนื้อเย่ือ การทำ�สารสกัด ถือเป็นการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 หากไม่ได้ รับอนญุ าต ถือว่าฝา่ ฝนื พระราชบัญญตั ยิ าเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 มาตรา 26 3. การครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ถือว่าฝ่าฝืนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 26 4. การแจกพืชกระท่อม และกัญชา เข้าข่ายจำ�หน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ถือว่าฝ่าฝืน พระราชบญั ญัตยิ าเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 269 5. หากตอ้ งการผลติ จ�ำ หนา่ ย น�ำ เขา้ สง่ ออก หรอื มไี วใ้ นครอบครอง รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ จะอนุญาตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษเป็นรายๆไป ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด ให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 26 6สมัยน้นั ยังไมม่ ีกระทรวงสาธารณสขุ มแี ต่กรมสาธารณสุขซึ่งสังกัดกระทรวงมหาดไทย 7ยกเว้นเปลือกแห้ง แกนลำ�ต้นแห้ง เส้นใยแห้ง และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเปลือกแห้ง แกนลำ�ต้นแห้ง เส้นใยแห้ง เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ จากเฮมพ์หรอื กัญชง 8เคยมคี �ำ พพิ ากษาศาลฎีกาวา่ ตน้ กัญชาเกดิ ข้นึ เองในที่นาจ�ำ เลย จำ�เลยดแู ลรดน�ำ้ ต้นกัญชาดังกลา่ วโดยร้วู า่ เปน็ ตน้ กัญชา ถือไดว้ ่าเปน็ การ ปลกู ตน้ กญั ชาซึง่ เป็นความผดิ ฐานผลิตกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทท่ี 5 แล้ว (ค�ำ พพิ ากษาศาลฎีกาที่ 2052/2529 9มอบกญั ชาให้ผ้อู นื่ ยืมไปปรุงอาหาร ถือไดว้ ่าเปน็ การจ�ำ หนา่ ยยาเสพติดใหโ้ ทษ ตามความหมายในมาตรา 4 วรรคสาม แหง่ พระราชบัญญตั ิ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ย่อมมคี วามผิดตามมาตรา 75 วรรคแรก (ค�ำ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 3710/2530) 20

6. การทดลองในมนุษย์ การนำ�มาใช้เพื่อรักษาโรคหรืออาการเจ็บป่วยของมนุษย์ เน่ืองจากกฎหมาย ให้นิยาม “เสพ” หมายความว่า การรับยาเสพติดให้โทษเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าด้วยวิธีใด และพระราชบัญญัติ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57 หา้ มเสพยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท 5 โดยไมม่ ขี อ้ ยกเวน้ ดงั นน้ั การทดลอง ในมนุษย์ หรือการนำ�ตัวพืชหรือสารสกัดจากพืชกระท่อมหรือกญั ชาเขา้ สรู่ ่างกายมนุษย์จึงเข้าขา่ ยเสพยาเสพติด ใหโ้ ทษในประเภท 5 ซง่ึ นบั วา่ เปน็ การปดิ ชอ่ งการน�ำ กญั ชาและพชื กระทอ่ มมาใชป้ ระโยชนใ์ นทางการแพทยส์ �ำ หรบั มนุษย์ แต่นิยาม “เสพ” น้ีไม่ใช้สำ�หรับสัตว์ ดังน้ันจึงยังคงทดลองในสัตว์ทดลองได้ แต่สิ่งที่นำ�มาทดลองหาก เข้าขา่ ยตอ้ งผลิต จ�ำ หน่าย นำ�เขา้ ส่งออก หรอื มไี ว้ในครอบครอง ตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจากรฐั มนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษเป็นรายๆไป ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด ใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 มาตรา 26 เช่นกนั กรณรี า่ งประมวลกฎหมายยาเสพตดิ รา่ งกฎหมายฉบบั น้ี คณะกรรมการกฤษฎกี าไดเ้ ปดิ รบั ฟงั ความเหน็ ทางเว็บไซต์ เมื่อวันท่ี 6-24 ตุลาคม พ.ศ.2560 และสำ�นักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แหง่ ชาติ ก็ไดเ้ ปดิ รบั ฟังความเห็นระหว่างวันที่ 13 ตุลาคม - 9 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2560 ซง่ึ ร่างกฎหมายฉบบั น้ี จะยกเลกิ พระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 และฉบบั แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ และมมี าตรการใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์ จากพืชกระท่อมและกัญชา หรือยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ได้หลายประการ แต่ก็ยังพบอุปสรรคจาก ร่างกฎหมายฉบับน้ี กล่าวคือ การศึกษาวิจัย การใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากเกินไป ควรตอ้ งลดขนั้ ตอนบางอยา่ งลง ตวั อย่างข้ันตอนในร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดในขณะน1ี้ 0 เชน่ (1) ผลิตภัณฑ์จากกระท่อมและกัญชา หรือยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท 5 หากจะอนุญาตใหผ้ ลติ น�ำ เข้า ส่งออก จำ�หน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง เพื่อใช้ทางวิจัยหรือทางการแพทย์ จะต้องมีกฎกระทรวงกำ�หนด หลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงอื่ นไขการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การแกไ้ ขรายการในใบอนญุ าต และคุณสมบัติ ของผู้ขออนุญาตเสียก่อน หากผู้ใดประสงค์จะรับอนุญาต ต้องเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากน้ัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด จึงจะ อนญุ าตไดต้ ามรา่ งประมวลกฎหมายยาเสพตดิ มาตรา 33 วรรคสอง (2) ในการนำ�ผลิตภัณฑ์มาใช้น้ัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะต้องมีประกาศกระทรวง สาธารณสุขก่อนว่าจะให้ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ใดมาใช้รักษาโรคได้บ้าง ตามร่างประมวลกฎหมาย ยาเสพตดิ มาตรา 57 และผปู้ ว่ ยตอ้ งครอบครองไมเ่ กนิ จ�ำ นวนทจี่ �ำ เปน็ ส�ำ หรบั ใชร้ กั ษาโรคเฉพาะตวั ตามค�ำ สงั่ ของ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมไทย หรือผู้ประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยประยุกตซ์ ง่ึ เปน็ ผู้ให้การรกั ษา ตามรา่ งมาตรา 32(5) จงึ จะถือว่าผ้เู สพไม่มคี วามผดิ ตามรา่ งมาตรา 100 การจะนำ�พืชกระท่อมหรือกัญชามาใช้เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ จะต้องมีหลักฐานทางวิชาการ ท่ีบ่งช้ีว่าพืชกระท่อมหรือกัญชามีประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างชัดเจน แต่ถ้ามีกฎหมายมาสกัดกั้นหรือเป็น อปุ สรรคในขน้ั ตอนการวจิ ยั แลว้ การหาหลกั ฐานมาสนบั สนนุ กเ็ ปน็ ไปไดอ้ ยา่ งยากลำ�บาก ดงั นน้ั การรา่ งกฎหมาย การกำ�หนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการควบคุม จะต้องเป็นไปอย่างเหมาะสม ซ่ึงจะต้องหาทางออก รว่ มกนั ตอ่ ไป 10โปรดดู แผนผงั เส้นทางความเป็นไปไดใ้ นการน�ำ ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ไปใช้เปน็ ยารกั ษาผูป้ ว่ ย 21

ยาเสพตดิ ให้โทษในประเภท 5 ทดลองเพาะปลูกพืช ผลิต เสพหรือ ใช่ มีพระราชกฤษฎีกา ครอบครองยาเสพติดตามประเภท ตามมาตรา 54 และปรมิ าณทกี่ �ำ หนด ไมเ่ ปน็ ความผดิ ไม่ใช่ ผลติ ภณั ฑ์ การน�ำ ไปใช้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำ�หนด มีกฎกระทรวงเกี่ยวกับใบอนุญาต ไมม่ ี ไม่สามารถผลิต นำ�เข้า ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท 5 ทใี่ หเ้ สพเพอ่ื และคุณสมบัติผู้ขออนุญาตตาม ส่งออก จำ�หน่าย มีไว้ใน การรกั ษาโรค หรอื การวจิ ยั ตามมาตรา 57 มาตรา 33 วรรคสอง ครอบครอง มี ผมู้ ีสิทธสิ ่งั จา่ ย ได้แก่ ขออนญุ าตตอ่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวง (1) ผปู้ ระกอบวชิ าชีพเวชกรรม ส า ธ า ร ณ สุ ข โ ด ย ก า ร เ ส น อ แ น ะ ข อ ง (2) ผปู้ ระกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สาขาเวชกรรมไทย คณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติด (3) ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทยแ์ ผนไทยประยกุ ต์ ไมใ่ ช่ ผลิต นำ�เข้า ส่งออก จ�ำ หน่าย หรอื มีไว้ ประชาชน บทลงโทษ ครอบครอง(เพื่อเสพ) ไม่เกิน ในครอบครอง ผลติ ภัณฑ์ มาตรา 160 จำ�นวนท่ีจำ�เป็นสำ�หรับใช้รักษาโรค ตาม มาตรา ๓๒(๕) ใช่ ไม่ฝา่ ฝืนมาตรา 100 แผนผังเส้นทางความเปน็ ไปไดใ้ นการน�ำ ยาเสพตดิ ให้โทษในประเภท 5 ไปใช้เป็นยารกั ษาผูป้ ว่ ย ตามรา่ งประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ฉบบั รบั ฟงั ความเหน็ เดือนตลุ าคม พ.ศ.2560 เอกสารอ้างองิ 1. พระราชบญั ญัตกิ ันชา พุทธศกั ราช 2477. (2478, 5 พฤษภาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ 52, หน้า 339-343 2. พระราชบญั ญัติพชื กะท่อม พุทธสักราช 2486. (2486, 2 กมุ ภาพนั ธ์). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ 60 ตอนท่ี 7, หน้า 241-243 3. กฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญตั กิ นั ชา พุทธศักราช 2477. (2480, 24 พฤษภาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ 54, หนา้ 644-655 4. กดกะซวงสาธารนะสุข ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิพืชกะท่อม พทุ ธสกั ราช 2486. (2486, 2 กุมภาพันธ์). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ 60 ตอนท่ี 57, หน้า 1564-1571 5. สำ�นักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (2560). ผลการรับฟังความคิดเห็นร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด. สบื คน้ จาก https://goo.gl/QLjbih 22

รู้เขา-รู้เรา ไพศาล ลิ้มสถิตย์ ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มธ. กฎหมายยาเสพตดิ ฉบบั ใหม่ จะเอ้ือต่องานวจิ ัยพืชเสพตดิ ได้อยา่ งไร กฎหมายยาเสพตดิ อุปสรรคในการวจิ ยั พชื เสพตดิ เหตุใดกฎหมายยาเสพติดฉบับปัจจุบันของไทย ซ่ึงก็คือพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 จงึ มบี ทบญั ญตั หิ า้ มการเสพหรอื ใชพ้ ชื เสพตดิ ทเ่ี ปน็ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภท 5 ในทกุ กรณี โดยไมม่ ขี อ้ ยกเวน้ ท�ำ ให้ ไม่สามารถนำ�ใบกระท่อม กัญชามาใช้ในการวิจัยในมนุษย์ (clinical trial) ได้ กฎกระทรวงท่ีเก่ียวข้องตาม มาตรา 26 ก็ขาดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติให้ศึกษาวิจัยที่ชัดเจน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปิดโอกาสการนำ� พชื เสพตดิ มาใชบ้ �ำ บดั โรคหรอื บรรเทาอาการเจบ็ ปว่ ย เนอ่ื งจากก�ำ หนดโทษแกผ่ เู้ สพหรอื ผใู้ ชพ้ ชื เสพตดิ ในทกุ กรณ ี ซึ่งทำ�ให้เกิดผลเสียต่อการวิจัย การคิดค้นนวัตกรรม และความม่ันคงทางยา ขณะท่ีนักวิจัยญ่ีปุ่นสามารถศึกษา วิจัยเก่ียวกับฤทธิ์ของสารต่างๆในพืชกระท่อมได้อย่างเปิดกว้างและนำ�ไปจดสิทธิบัตรการใช้สารสกัดจาก ใบกระทอ่ มคือ มทิ ราไจนีน (mitragynine) และ 7-hydroxymitragynine1 ผู้เขียนได้เคยศึกษาวิเคราะห์ไว้แล้วว่า2 เหตุผลความจำ�เป็นในการตรากฎหมายยาเสพติดปี 2522 มิได้เกิดจากการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนแต่อย่างใด สาเหตุหลักน่าจะเกิดจากความไม่รู้หรืออวิชชา คือ ไมท่ ราบข้อมลู ทางวทิ ยาศาสตร์เกี่ยวกับพชื เสพตดิ ของผู้รา่ งกฎหมายในขณะน้นั รวมทั้งอาจไดร้ ับแรงกดดันจาก ประเทศมหาอำ�นาจอย่างสหรัฐอเมริกาในยุคประธานาธิบดีนิกสันที่มีนโยบายสงครามยาเสพติด (Drug War Policy) ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมายยาเสพติดฉบับนี้ก็มีทัศนคติว่า พืชเสพติดมีแต่ ข้อเสีย การหา้ มการใช้ในทุกกรณจี ะมีผลดีมากกวา่ จากการศึกษาพบว่าพืชเสพติดหลายชนิดของไทย โดยเฉพาะใบกระท่อมและกัญชา มีการนำ�มาใช้ใน ตำ�รับยาหลายตำ�รับดังปรากฏในตำ�ราแพทย์แผนโบราณของไทย เช่น ตำ�รับยาท่ีมีใบกระท่อมเป็นส่วนประกอบ ในต�ำ ราการแพทย์แผนไทยมี 7 ต�ำ รบั และมีการใชแ้ บบยาเดีย่ วและสดอกี มากกว่า 65 รายการ การใชป้ ระโยชน์ จากกระท่อมเพ่ือรักษาโรคของหมอพื้นบ้านภาคใต้ เพ่ือรักษาอาการท้องร่วง บรรเทาอาการปวด อาการไอ เพ่อื ลดระดับน้ำ�ตาลในเลือด รวมถึงมีการนำ�พืชเสพติดเหล่านม้ี าใชใ้ นการบ�ำ บัดรักษาผู้ติดฝิ่น3 1 มลู นธิ ิชวี วิถี. ญีป่ ุน่ ย่ืนจดสิทธบิ ตั รกระท่อมเพมิ่ เตมิ . [ออนไลน]์ . 2559 [1 พ.ย. 59]; ท่ีมา: http://www.biothai.net/node/30500 2 ไพศาล ลม้ิ สถิตย์, ปฏริ ูปกฎหมายพชื กระทอ่ มเพอ่ื สุขภาวะของประชาชนและภมู ปิ ญั ญาแพทยแ์ ผนไทย วารสารการแพทยแ์ ผนไทยและการ แพทยท์ างเลือก. 2559 14 (3): 231-241 3 ธวัช นาคะพนั ธ์, มณฑกา ธีรชัยสกุล, ศิรพิ ร ปัททุม, ขวัญเรอื น สมพมิ าย และปรีชา หนูทิม. การศกึ ษาการใชป้ ระโยชน์จากกระท่อมในการ รกั ษาโรคของหมอพนื้ บ้านภาคใต้ .วารสารการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. 2559; 24(3): 274-284. 23

ในอดตี นน้ั กฎหมายยาเสพติดของไทยยงั เปิดชอ่ งให้มีการนำ�พืชเสพตดิ มาใช้ประโยชนใ์ นทางการแพทย์ หรือทางสุขภาพได้ ดังท่ีพระราชบัญญัติกระท่อม พุทธศักราช 2486 และพระราชบัญญัติกัญชา พ.ศ.2477 อนุญาตให้มีการนำ�พืชกระท่อมและกัญชามาใช้ในทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ แม้ว่า นโยบายของรฐั บาลจะมีนโยบายเขม้ งวดมากขนึ้ กต็ าม ขณะที่ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เป็นกฎหมายที่ ล้าหลัง เป็นอุปสรรคต่อการวจิ ยั และพฒั นาพชื เสพตดิ ปิดกน้ั โอกาสในการเข้าถึงการรักษา การดแู ลสขุ ภาพของ ผปู้ ว่ ยและประชาชนทว่ั ไป ท�ำ ลายภมู ปิ ญั ญาแพทยแ์ ผนไทยอกี ทงั้ ยงั มกี ารบญั ญตั โิ ทษอาญาโดยไมจ่ �ำ เปน็ ขดั ตอ่ หลกั ความไดส้ ดั สว่ น มผี ลเสยี ตอ่ กระบวนการยตุ ธิ รรม ท�ำ ใหค้ ดยี าเสพตดิ เกย่ี วกบั ความผดิ ฐานเสพหรอื ครอบ ครองเพิ่มข้นึ เปน็ จำ�นวนมากกว่าคดอี าญาอนื่ ๆ ท�ำ ใหค้ ดีรกโรงศาล นกั โทษลน้ เรือนจ�ำ 4 รายงานข้อมูลการดำ�เนินคดียาเสพติดของศาลยุติธรรม ประจำ�ปี 25595 ระบุจำ�นวนคดีเกี่ยวกับ ยาเสพติดท่ีเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นท่ัวราชอาณาจักรรวมท้ังส้ิน 281,385 คดี ปรากฏว่า เมทแอมเฟตามีน เป็นยาเสพติดท่ีมีการกระทำ�ความผิดมากท่ีสุด รวมทั้งส้ินจำ�นวน 200,387 คดี รองลงมาคือ คดียาเสพติดเกี่ยวกับพืชกระท่อม จำ�นวน 57,802 คดี และกัญชามีทั้งส้ินจำ�นวน 18,194 คดี หากจำ�แนกตาม ลกั ษณะคดี ส่วนใหญ่เปน็ ความผดิ ฐานเสพ รองลงมาคอื ฐานครอบครอง เหตใุ ดการแกป้ ญั หายาเสพตดิ ของไทยจงึ ท�ำ ใหม้ จี �ำ นวนผกู้ ระท�ำ ความผดิ ในคดยี าเสพตดิ มแี นวโนม้ เพ่ิมขึ้นในช่วง 10-20 ปีท่ีผ่านมา สะท้อนถึงความล้มเหลวของภาครัฐในการจัดการปัญหายาเสพติด สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกฎหมายยาเสพติดท่ีล้าสมัย การดำ�เนินนโยบายยาเสพติดท่ีผิดพลาด ดังเช่นในสมัย รัฐบาลทกั ษิณท่ีประกาศทำ�สงครามกับยาเสพตดิ ทำ�ใหม้ ีผ้เู สยี ชวี ิตเกือบ 3 พันคนภายในเวลา 1 ป6ี มีการละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชนอยา่ งกว้างขวาง ในช่วงทศวรรษที่ 1990 เปน็ ต้นมา ประเทศตา่ งๆ ทวั่ โลกรวมถงึ ประเทศไทยมนี โยบายควบคมุ ยาเสพตดิ ที่มุ่งเน้นมาตรการปราบปรามยาเสพติด แม้แต่สหประชาชาติก็ประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติด ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย คือ การทำ�ให้โลกปลอดยาเสพติด (a world free of drugs) ภายในเวลา 10 ปี ตามมตทิ ีป่ ระชมุ สมชั ชาสหประชาชาติในปี ค.ศ. 1998 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สหประชาชาติและหลายประเทศจึงทบทวนหรือปฏิรูปกฎหมายยาเสพติด โดยใหค้ วามส�ำ คญั กบั หลกั การใหมๆ่ และน�ำ มาปรบั ใชใ้ นกฎหมายยาเสพตดิ แทนการด�ำ เนนิ คดอี าญาแกผ่ ตู้ อ้ งหา โดยเฉพาะหลกั การลดทอนฐานความผดิ อาญา (Decriminalisation) ดว้ ยการไมด่ �ำ เนนิ คดอี าญาแกผ่ คู้ รอบครอง ยาเสพตดิ เพอื่ เสพ หรอื การลดความรนุ แรงของบทลงโทษ (Depenalisation) เพอ่ื ใหม้ กี ารก�ำ หนดโทษทไี่ ดส้ ดั สว่ น กับความผดิ เช่น การลดบทลงโทษส�ำ หรบั ความผิดฐานเสพใหไ้ ด้สัดสว่ นกบั ผลกระทบที่เกิดขึน้ หรอื ไม่ดำ�เนินคดี อาญากับผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติด แต่ใช้การลงโทษทางปกครอง โทษปรับทางแพ่ง หรือการให้ทำ�งานบริการ สงั คมแทน ในหลายประเทศไดม้ ีการนำ�หลกั การเหล่านี้มาใช้ และสามารถช่วยลดปัญหายาเสพติดได้ 4 ไพศาล ล้มิ สถติ ย.์ แนวทางการปฏริ ูปกฎหมายยาเสพตดิ :กรณศี กึ ษาเปรยี บเทยี บ การจดั การพชื กระทอ่ มของไทยและต่างประเทศ (แผนงาน ภาควี ชิ าการสารเสพติด (ภวส.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์, 2560) 5 “รายงานสรปุ ผลการดำ�เนินงานดา้ นคดีของศาลยุติธรรมท่ัวราชอาณาจกั ร ประจ�ำ ปี พ.ศ.2559” (ส�ำ นกั งานศาลยตุ ธิ รรม), น.4. 6 อนิ ทรชัย พาณิชกลุ , “12 ปสี งครามยาเสพตดิ ... หลงทศิ -ผิดทาง?” (10 มนี าคม 2558) เว็บโพสต์ทูเดย์ https://www.posttoday.com/ analysis/report/352341 24

รา่ งประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ไทย เมอื่ วนั ท่ี 12 เมษายน 2559 มีการเสนอแกไ้ ขกฎหมายยาเสพติดทเ่ี ก่ยี วขอ้ งทุกฉบับ โดยยกเลิกกฎหมาย ยาเสพตดิ ทีใ่ ชบ้ ังคับอย่ใู นปัจจุบนั โดยเฉพาะพ.ร.บ.ยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. 2522 และเสนอร่างประมวลกฎหมาย ยาเสพตดิ (มผี ลยกเลกิ กฎหมายยาเสพตดิ ฉบบั ตา่ งๆ 7 ฉบบั ) ซงึ่ คณะรฐั มนตรเี หน็ ชอบ และอยรู่ ะหวา่ งการพจิ ารณา ของคณะกรรมการกฤษฎีกา จากการศึกษาวิเคราะห์บทบัญญัติในร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดน้ี พบว่า มีบทบัญญัติที่เปิดกว้างในการศึกษาวิจัยและการนำ�กัญชาและกระท่อมมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์มากกว่า พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เนื้อหาในร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดน้ไี ดเ้ ปิดช่องใหม้ กี ารน�ำ พชื ทถ่ี กู จัดให้ เป็นยาเสพตดิ มาใช้ในทางการแพทย์ได้ และสามารถนำ�ไปศึกษาวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ได้ อยา่ งไรกต็ าม รา่ งประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ฉบบั รบั ฟงั ความเหน็ ครง้ั ลา่ สดุ ทดี่ �ำ เนนิ การโดย ส�ำ นกั งาน ป.ป.ส.เม่ือวันท่ี 9 พฤศจิกายน 2560 ก็ยังมีเนื้อหาบางประการท่ีอาจเป็นอุปสรรคในการวิจัยพัฒนาและ การใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เนื่องจากมีการกำ�หนดเงื่อนไขทางกฎหมายไว้อย่างไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำ�ให้ ประเทศไทยเสียโอกาสในการศึกษาวิจัยเพื่อต่อยอดความรู้หรือภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย ในการพัฒนา อุตสาหกรรมยาจากสมนุ ไพร และอตุ สาหกรรมส่ิงทอจากพืชเสพตดิ ทั้งหลายในอนาคต เช่น มาตรา 54 บัญญตั ิใหม้ ีการตราเป็นพระราชกฤษฎกี ากำ�หนดเขตพื้นทห่ี นึ่งพ้ืนที่ใด เพอ่ื กระท�ำ การ อยา่ งหนงึ่ อยา่ งใดดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ทดลองเพาะปลกู พชื ทเี่ ปน็ หรอื ใหผ้ ลผลติ เปน็ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษหรอื อาจใชผ้ ลติ เปน็ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (2) ผลติ และทดสอบเกยี่ วกบั ยาเสพตดิ (3) เสพหรอื ครอบครองยาเสพตดิ ตามประเภทและปรมิ าณ ทีก่ ำ�หนดซ่งึ ไม่สอดคลอ้ งกับการส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยและพัฒนายาจากพืชเสพตดิ และจะเกดิ ปัญหาในทาง ปฏิบัติ เพราะการศึกษาวิจัยพืชเสพติดหรือสารเสพติด ไม่ควรถูกจำ�กัดอยู่ในสถานที่แห่งใดแห่งหน่ึงเท่านั้น แตค่ วรใช้มาตรการเข้มงวดในกรณกี ารปลูก เก็บเกย่ี วหรือผลิตพชื เสพตดิ ในเชิงพาณิชย์ขององคก์ รธุรกจิ หรือมาตรา 57 การบัญญัติให้อำ�นาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า “อาจประกาศกำ�หนด ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ท่ีให้เสพเพ่ือการรักษาโรคตามคำ�สั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมไทย หรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือเสพ เพื่อการศึกษาวิจัย” ถือเป็นบทบัญญัติท่ีล้าสมัยและค่อนข้างจำ�กัดสิทธิของประชาชน เพราะในอนาคตอาจมี การคิดค้นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีรูปแบบการใช้ที่มีความปลอดภัย สามารถจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ท่ีมีส่วนประกอบ ของพืชเสพติดในรา้ นยาทั่วไปได ้ โดยอาจอย่ภู ายใตร้ า่ งพระราชบัญญัตผิ ลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. .... แนวทางการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพืชเสพติด และการนำ�มาใช้เพ่ือประโยชน์ด้านสุขภาพหรือ ทางการแพทย์นนั้ มี 2 แนวทางคอื แนวทางที่ 1 การเสนอร่าง พ.ร.บ.พืชเสพติด (กระท่อม กัญชา) เน่ืองจากการจัดการพืชเสพติด มีความแตกต่างจากยาเสพติดกลุ่มอื่น มีความเก่ียวข้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่ ผู้เขียน มคี วามเห็นสอดคล้องกับอดตี รองเลขาธกิ าร ป.ป.ส. คุณพภิ พ ช�ำ นวิ ิกัยพงศ์ ท่มี คี วามเชย่ี วชาญด้านพืชเสพติดมา เปน็ เวลานานกว่า 30 ปี ซงึ่ ไดเ้ คยเสนอใหม้ ีการจดั การพชื เสพตดิ แยกจากยาเสพตดิ ชนิดอ่ืน 25

แนวทางท่ี 2 แก้ไขปรับปรุงกฎหมายยาเสพติด โดยควรปรับปรุงเน้ือหาของกฎหมายยาเสพติดหรือ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ดงั น้ี 1) ควรมีมาตรการควบคุม กำ�กับดูแลพืชเสพติดเป็นการเฉพาะ แยกออกจากยาเสพติดประเภทอื่นที่ สว่ นใหญเ่ ปน็ สารสงั เคราะหห์ รอื สารเคม ี อกี ทงั้ ควรจ�ำ แนกพชื เสพตดิ อยา่ งชดั เจนคอื พชื เสพตดิ ทมี่ คี ณุ ประโยชน์ ในการบ�ำ บดั โรคหรอื ใชใ้ นทางสขุ ภาพอยา่ งกระทอ่ ม กญั ชา ควรมกี ารควบคมุ หรอื ก�ำ กบั ทเ่ี ขม้ งวดนอ้ ยกวา่ พชื เสพ ติดที่มีอันตรายมากกว่า เช่น เห็ดขี้ควาย (Psilocybe cubensis (Earle) Sing.หรือ Hallucinogenic Mushrooms) ท่ีเป็นเห็ดพิษท่ีมีสารออกฤทธ์ิทำ�ลายประสาทอย่างรุนแรงคือ psilocin (ไซโลซีน) และ psilocybin (ไซโลไซบิน) หากบรโิ ภคเข้าไปในปรมิ าณมากอาจทำ�ใหเ้ ป็นอันตรายแก่ชวี ิตได้ 2) ควรก�ำ หนดเปน็ หลกั เกณฑ์ เงือ่ นไขในการออกใบอนญุ าตใหป้ ลูก เกบ็ เก่ียว การวิจยั ทดลองในมนุษย์ โดยอาจมีการก�ำ หนดประเภทใบอนญุ าตหลายชนิดซ่งึ มคี วามเข้มงวดแตกตา่ งกนั 3) ควรมบี ทบัญญตั ิวา่ ดว้ ยพืชเสพตดิ เป็นการเฉพาะในรา่ งประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยกำ�หนดให้มี “คณะกรรมการพชื เสพตดิ ” ประกอบดว้ ยกรรมการโดยต�ำ แหนง่ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ และกรรมการผแู้ ทนองคก์ ร ภาคประชาสงั คม และมีอ�ำ นาจหนา้ ทีต่ า่ งๆ เชน่ การสง่ เสริม สนบั สนนุ โครงการหรอื กิจกรรมศกึ ษา ทดลอง หรอื วจิ ยั เกย่ี วกบั พชื เสพตดิ หรอื ผลติ ภณั ฑท์ เี่ กยี่ วขอ้ ง และมสี �ำ นกั งานคณะกรรมการพชื เสพตดิ ในสงั กดั กรมพฒั นาการ แพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข 4) ควรเพ่ิมเติมบทบัญญัติเร่ืองการลดทอนความเป็นอาญา (Decriminalization) โดยมีทางเลือกที่จะ ไม่ดำ�เนินคดีกับผู้เสพหรือผู้ครอบครองยาเสพติดในปริมาณไม่มาก หรือผู้ท่ีไม่มีพฤติกรรมที่จะเป็นอันตราย ต่อผู้อื่น และใช้แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง เช่น การบำ�บัดฟ้ืนฟู โดยชุมชน (community based treatment programmes) มีการให้อ�ำ นาจคณะท�ำ งานในชุมชนเปน็ ผูจ้ ดั การประเดน็ ยาเสพตดิ ได้ โดยควรศกึ ษาแบบอย่างของประเทศโปรตุเกสหรือทีเ่ รียกวา่ โปรตเุ กสโมเดล บทสรปุ กฎหมายยาเสพติดระหว่างประเทศท่ีสำ�คัญคือ อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ. 1961 (Single Convention on Narcotic Drugs, 1961) มีวัตถปุ ระสงคห์ ลักเพอ่ื คมุ้ ครองสุขภาพของประชาชน ใหค้ วามส�ำ คญั กับ การน�ำ ยาเสพตดิ หรอื พชื เสพตดิ มาใชใ้ นทางการแพทย์ อกี ทงั้ มไิ ดก้ �ำ หนดใหก้ ฎหมายยาเสพตดิ จะตอ้ งมบี ทบญั ญตั ิ ทกี่ �ำ หนดโทษอาญาแกผ่ ู้เสพหรอื ผู้ใชย้ าเสพติดแตอ่ ย่างใด ภาครัฐควรเปล่ียนทัศนคติที่มีต่อพืชเสพติด เน่ืองจากเจ้าหน้าที่ของรัฐส่วนใหญ่และคนทั่วไปมัก เขา้ ใจผดิ วา่ กฎหมายยาเสพตดิ เปน็ เรอื่ งการปราบปรามผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ หรอื เปน็ เรอ่ื งความมน่ั คงเทา่ นนั้ เจ้าหนา้ ทบ่ี างคนก็ขาดขอ้ มลู ความรู้ความเขา้ ใจดา้ นยาเสพติดทถี่ กู ตอ้ ง สำ�นกั งานป.ป.ส. กรมพัฒนาการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก สำ�นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสขุ และหน่วยงานท่ี เก่ยี วขอ้ ง ควรให้ความสำ�คญั กบั การส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาวิจัยพชื เสพติดอยา่ งครบวงจร โดยอาจเริม่ จาก ตำ�รบั ยาแพทย์แผนไทย ตำ�รบั ยาพนื้ บ้าน รวมทั้งศกึ ษาต�ำ รบั ยาในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ฉะนน้ั การน�ำ พชื เสพตดิ โดยเฉพาะกญั ชาและกระทอ่ มมาใชป้ ระโยชนใ์ นทางสขุ ภาพและทางวทิ ยาศาสตร์ จงึ มคี วามจ�ำ เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งเสนอกฎหมายเฉพาะหรอื ปรบั ปรงุ กฎหมายยาเสพตดิ ใหท้ นั สมยั เปดิ โอกาสใหภ้ าคประชา สังคม ชุมชน กลุม่ ผปู้ ่วยหรือผใู้ ชย้ าเสพตดิ เขา้ มามีสว่ นร่วมในการจัดการปัญหายาเสพติดร่วมกบั หน่วยงานของ รฐั รวมทัง้ มีการกระจายอำ�นาจและการจัดสรรงบประมาณท่ีเหมาะสมแก่ภาคประชาสังคมดังเช่นในต่างประเทศ 26

ไฮไลท์ ร.ศ.สมสมร ชิตตระการ ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พืชกระท่อมกับงานวิจัย: ปัญหาและอุปสรรค กระทอ่ ม (Mitragyna speciosa (Korth.) Havil.) เป็นยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทที่ 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ให้โทษ พ.ศ.2522 หมายถึง การห้ามผู้ใด ผลิต (ปลูก ปรุง แปรสภาพ) จำ�หน่าย นำ�เข้า ส่งออก หรือ เสพ (การรับยาเสพติดให้โทษเขา้ สรู่ า่ งกายไม่ว่าดว้ ยวธิ ีใด) แต่พืชกระทอ่ มเปน็ พืชทอ้ งถิน่ ดั้งเดมิ ในภาคใต้ คนในพ้นื ที่ ใช้ใบกระท่อมมานานมากต้ังแต่ท่ีรัฐยังคงให้มีการเสพฝิ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เดิมคนในพื้นที่จะเคี้ยว ใบกระท่อมสดๆเพื่อช่วยให้สามารถทำ�งานกลางแจ้งได้นานๆ ส่วนในทางการแพทย์แผนไทยน้ัน กระท่อมเป็น องคป์ ระกอบหน่ึงในยาแผนไทยหลายต�ำ รับ จากขอ้ มลู การประมาณการผใู้ ชส้ ารเสพตดิ ทว่ั ประเทศ ทด่ี �ำ เนนิ การโดยคณะกรรมการเครอื ขา่ ยวชิ าการ สารเสพตดิ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ป.ป.ส.) พบวา่ กระท่อมเป็นยาเสพติดที่ กลุ่มประชากรท่ัวประเทศมีการใช้มากท่ีสุด โดยเฉพาะในพื้นท่ีภาคใต้จะมีอัตราการใช้มากกว่าภาคอื่นมากๆ โดยการเค้ียวใบสดทีม่ ที ง้ั คายและไมค่ ายกาก ส่วนการใชใ้ นรูปแบบอน่ื เชน่ สี่คูณรอ้ ยน้ัน เริ่มใชก้ นั มากขึ้นตง้ั แต ่ ปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา และผู้ท่ใี ช้สค่ี ณู ร้อยสว่ นใหญเ่ ปน็ วยั รนุ่ ซ่ึงตา่ งจากผ้ใู หญ่ทีใ่ ช้พืชกระทอ่ มเพ่อื การทำ�งาน หรอื รกั ษาโรค ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้เร่ิมดำ�เนินงานวิจัยพืชกระท่อมมากว่า 15 ปี เนื่องจาก เห็นประโยชน์และปัญหาของการใช้พืชกระท่อม ประกอบกับข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังมีน้อยที่จะ น�ำ มาพจิ ารณาวา่ พชื กระทอ่ มมปี ระโยชนห์ รอื ผลขา้ งเคยี งในระดบั ใด การด�ำ เนนิ งานวจิ ยั ในเบอื้ งตน้ เรมิ่ ด�ำ เนนิ งาน วจิ ยั ในสตั วท์ ดลอง นอกจากทมี วจิ ยั จะตอ้ งยน่ื ขอ้ เสนอขอใชส้ ตั วเ์ พอ่ื งานทางวทิ ยาศาสตรต์ อ่ คณะกรรมการก�ำ กบั ดแู ลการเลย้ี งและใชส้ ตั วข์ องสถาบนั แลว้ ยงั ตอ้ งยนื่ ขอครอบครองพชื กระทอ่ มตอ่ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ด้วย (โดยอย.จะพิจารณาโครงการวิจัยก็ต่อเมื่อโครงการวิจัยนั้นได้รับ การสนับสนุนวิจัยแล้วเท่าน้ัน ซ่ึงทีมวิจัยก็ต้องรอผลการพิจารณาโครงการท่ีจะได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย ไม่น้อยกว่า 3 เดือน จึงจะส่งให้ อย. พิจารณาได้ ซึ่ง อย. ใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3 เดือนเช่นกัน) ซึ่งในการขอครอบครองพืชกระท่อมนั้น นอกจากจะต้องระบุน้ำ�หนักของใบกระท่อมท่ีจะใช้ในงานวิจัยแล้ว จะต้องระบุแหล่งท่ีเก็บด้วย ซ่ึงทีมวิจัยจะต้องทำ�หนังสือช้ีแจงต่อ อย. ว่าไม่สามารถระบุพิกัดในรายละเอียดได้ เนอื่ งจากถา้ มผี อู้ น่ื ทราบแหลง่ ทม่ี าของพชื กระทอ่ ม อาจจะท�ำ ใหเ้ กดิ ปญั หากบั พน้ื ที่ คอื เขา้ ไปตดั ท�ำ ลายตน้ กระทอ่ ม ได้ 27

ส่วนการทำ�วิจัยในมนุษย์น้ัน นอกเหนือจากขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังต้องยื่นโครงการวิจัยต่อ คณะกรรมการจริยธรรมการวจิ ัยในมนษุ ย์ (Ethic committee; EC) เพอื่ พิจารณา และเนื่องจากเป็นโครงการวจิ ยั ท่ีเก่ียวข้องกับพืชเสพติด ดังนั้นอาสาสมัครที่จะได้รับพืชกระท่อมจะจัดเป็นอาสาสมัครเปราะบาง (vulnerable subject) คอื มคี วามเสยี่ งทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั อาสาสมคั ร ดงั นน้ั จงึ ตอ้ งน�ำ โครงการวจิ ยั เขา้ พจิ ารณาในกรรมการชดุ ใหญ่ ทป่ี ระกอบไปดว้ ยบคุ ลากรหลายฝา่ ย เชน่ แพทย์ บคุ คลภายนอกคณะแพทยศาสตร์ บคุ คลทเี่ กย่ี วขอ้ งทางการแพทย์ และบคุ คลทไี่ มเ่ กย่ี วข้องทางการแพทย์ (เช่น นกั กฎหมาย) ในเบือ้ งตน้ นน้ั EC พิจารณาวา่ เปน็ การทำ�วิจัยเก่ียวกบั พืชกระท่อมที่กฎหมายระบุเป็นพืชเสพติด จึงมองว่าเป็นงานวิจัยที่อันตราย คืออาจจะทำ�ให้อาสาสมัครเกิดการ เสพติด ทั้งๆที่เป็นการให้อาสาสมัครกินเพียงครั้งเดียว (single dose) และมีข้อซักถามจาก EC มากมายหลาย ประเดน็ เมือ่ ทีมวจิ ยั ตอบค�ำ ถามต่างๆไปแล้วและ EC ยงั ไม่ชัดเจน กต็ อ้ งไปตอบคำ�ถามใหม่ ซึ่งก็ตอ้ งรอเขา้ วาระ การประชุมในเดอื นถัดไป (EC มีวาระการประชมุ เดอื นละหนง่ึ คร้งั ) จนครั้งสดุ ทา้ ยทมี วิจยั ต้องขอเข้าไปช้แี จงตอ่ EC ในท่ปี ระชุมโดยตรง เน่อื งจาก EC มองพืชกระทอ่ มวา่ เปน็ พชื ท่เี ลวร้ายมากๆ และอาจจะไม่ได้แยกประเด็นการ ใช้ในรูปแบบดั้งเดิมหรือการใช้ในรูปแบบผสม คือส่ีคูณร้อย กว่าจะได้รับอนุมัติโครงการวิจัยจาก EC ใช้เวลา ประมาณ 3 เดือน (3 รอบการประชุม) ในขณะนี้ทีมวิจัยกำ�ลังย่ืนขอทุนชุดใหญ่ ซ่ึงอยู่ในระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะเวลาที่ ทีมวิจัยยื่นโครงการจนกระทั่งทางหน่วยงานท่ีรับผิดชอบจัดส่งไปให้ผู้ทรงคุณวุฒิใช้เวลาไปแล้ว 6 เดือน ซ่ึงก็ยัง ไม่ทราบผลการพิจารณา และถ้าได้รับทุนวิจัย ทางทีมวิจัยก็ต้องเร่ิมกระบวนการใหม่ตามท่ีได้กล่าวแล้วข้างต้น คอื การขออนญุ าตครอบครองพืชกระทอ่ มจาก อย. และย่ืนโครงการวจิ ัยต่อ EC ปัญหาอีกประการหน่ึงก็คือ งานวิจัยในบางโครงการต้องเปรียบเทียบกับยามาตรฐาน เช่น มอร์ฟีน โคดิอีน ท่ีเป็น pure compound ซ่ึงเดิมทางภาควิชาสามารถส่ังซ้ือจากทาง อย. ได้ แต่ในปัจจุบันทาง อย. จะจัดจำ�หน่ายโคดิอีน อย่างน้อยข้ันตำ่� 1 กิโลกรัมขึ้นไป แต่งานวิจัยจะใช้เพียงหน่วยมิลลิกรัมเท่าน้ัน และอย. ไม่จัดจำ�หน่ายมอร์ฟีน ทำ�ให้เกิดอุปสรรคเพราะถ้าส่ังซ้ือจากต่างประเทศ นอกเหนือจากจะต้องขออนุญาต น�ำ เข้าแล้ว ราคาของยามาตรฐานเหลา่ นีจ้ ะสูงมาก หลักหลายหมื่นบาทตอ่ มลิ ลกิ รัมน�ำ้ หนักยา โดยสรุปก็คือ กระบวนการทำ�วิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับพืชเสพติดจะมีหลายขั้นตอนและใช้เวลานานที่ทางทีม วิจัยจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จะเห็นได้ว่าท่ีผ่านมางานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับพืชเสพติดในประเทศไทยจะมี นอ้ ยมากเมอื่ เทยี บกบั ตา่ งประเทศทเ่ี ขาไมไ่ ดจ้ ดั เปน็ พชื เสพตดิ หรอื เขาเหน็ ความส�ำ คญั ของงานวจิ ยั ซง่ึ ตา่ งประเทศ ไดพ้ ฒั นางานวจิ ัยและจดสิทธบิ ตั รไปแลว้ หลายฉบบั ข้อเสนอแนะ ทีมวิจัยอยากจะให้กระบวนการย่ืนขอรับทุนสนับสนุน การขอครอบครองสารเสพติดจาก อย. การยน่ื โครงการวิจัยตอ่ EC สามารถดำ�เนนิ การไปพรอ้ มกัน เพอื่ ลดระยะเวลา เนือ่ งจากข้อกำ�หนดของทนุ วจิ ยั กม็ ีระยะเวลาในการดำ�เนนิ งานวิจัยท่จี ำ�กัดเช่นกนั 28

เสยี งสะท้อนจากพน้ื ที่ ลาวัลย์ สาโรวาท กระทอ่ ม กัญเขชาาทัง้ในสทอรงรคศือน.ะ.ข.อ.พงืช“ประชาชน” รูจ้ กั และได้ยนิ ชอ่ื “กญั ชา” มาตงั้ แต่เดก็ ๆในชมุ ชนคนกรงุ เทพฝง่ั ธนบุร ี พชื น้มี ปี ลกู อยู่ในบริเวณทีไ่ มไ่ กล นกั จากทพี่ กั อาศยั และเปน็ เรอ่ื งปกตมิ าก ถา้ กว๋ ยเตยี๋ วรา้ นไหนมรี สชาตดิ ี กลมกลอ่ ม.กม็ กั จะเอย่ เปน็ เสยี งเดยี วกนั ว่า.. “ใสก่ ญั ชาแนๆ่ ” คนอารมณ์ดี ยิ้มตลอดเวลา ก็จะมคี นถามว่า “เสพกัญชามาหรือ” นา้ เล่าใหฟ้ งั ว่า “คณุ ยาย ม้วนสูบบุหร่ีทุกเช้า” นั่นคือ ก่อนที่เราจะเกิด และก็รู้ว่ามันผิดกฎหมายเพราะสมัยเด็กๆ มีเครือญาติที่เสพ มหี ลกั ฐานการเสพครบครนั พลนั มสี ายสง่ ขา่ ววา่ มตี �ำ รวจมา.ญาตๆิ ตอ้ งชว่ ยกนั ซกุ ซอ่ นหลกั ฐานในทท่ี ป่ี ลอดภยั ... นน่ั คือ ประสบการณใ์ นวยั เด็ก สว่ นกระทอ่ มนนั้ ไมเ่ คยรจู้ ัก เพราะแถวบา้ นไมม่ ี เขาถูกตราไว้ใน พ.ร.บ.ยาเสพตดิ เมื่อมาทำ�งานด้านเอดส์ ก็ต้องมาเก่ียวพันกับประเด็นยาเสพติด เนื่องจากในพ้ืนท่ีภาคใต้มีสถานการณ์ การติดเช้ือเอชไอวีในผู้หญิงสูง หลังจากพูดคุยกับหลายฝ่าย จึงพบว่าการติดเชื้อเอชไอวีในผู้หญิงนั้นมี ชอ่ งทางการตดิ เชอื้ จากการมเี พศสมั พนั ธก์ บั สามที เ่ี คยมปี ระวัตกิ ารใชส้ ารเสพตดิ ดว้ ยวธิ ฉี ดี จงึ เป็นทมี่ าของ การทำ�งานประเดน็ ยาเสพติดรว่ มไปกับเอดส์ และพบว่าสารเสพตดิ ท่เี ขานำ�มาฉดี คอื เฮโรอนี ซึ่งคนเหล่านี้ก็ผ่าน การใช้กระท่อมมาแล้วทั้งนัน้ ซงึ่ กระท่อมถกู จัดใหเ้ ป็นยาเสพติดประเภท 5 ใน พ.ร.บ.ยาเสพติด “วิถีวัฒนธรรมของพี่น้องภาคใต้ จะต้อนรับแขกด้วยใบกระท่อม” น่ีคือคำ�บอกเล่าของพ่ีน้องในพ้ืนที่ ใบกระทอ่ มเปน็ ประหนงึ่ ใบชา วางไวใ้ หเ้ คยี้ วกนั ไปคยุ กนั ไป..ในภาคใตต้ อนลา่ ง พน่ี อ้ งในพน้ื ทจ่ี ะใชเ้ คยี้ วใบกระทอ่ ม เพ่อื ใหม้ แี รงท�ำ งาน ส้แู ดดได้ดี แตไ่ ม่ทนทานต่อฝน เปน็ วถิ ปี กติของคนในพน้ื ท่ี และการใช้พชื กระท่อมเพ่อื ใหม้ ีแรง มีพละกำ�ลังในการท�ำ งาน...ก็ไดแ้ พร่หลายไปท่ัวประเทศ. ลุงอายุ 65 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในพ้ืนท่ีนนทบุรี เรียกแบบชาวบ้าน คือ ยามเฝ้าโรงงาน ในยามค่ำ�คนื กลางวนั รบั จา้ งทวั่ ไป ตดั หญา้ เก็บของเก่าขาย ลงุ เลา่ ใหเ้ ราฟงั ว่า “เดนิ เขา้ ไป หลังโรงวัว เด็ดใบกระท่อมมาสองสามใบ เอามาเคี้ยวกินพอให้มีแรง.มันทนแดดได้ดี..พวก รปภ. ก็ใช้กันทั้งน้ัน กอ่ นเขา้ งานก็จะเขา้ ห้องน้�ำ ไปคี้ยวใบกระท่อม ...วนั ดคี นื ดมี ีต�ำ รวจมาดกั รอหน้าหอ้ งน้ำ�ก็ซวยไป” 29

ลุงอีกคน อายุประมาณ 60 ปี อาชีพขับแท็กซ่ี ในกรุงเทพมหานคร หลังจากสนทนากันได้ระยะหน่ึง “ผมใชก้ ระทอ่ ม เพอื่ จะไดม้ แี รงในการทำ�งาน เมือ่ ก่อนผมดม่ื เครอื่ งดมื่ ชกู ำ�ลัง ดมื่ โค๊ก เป๊ปซ ี่ ผมขับรถกลางแดด แลว้ มันเพลียอยากกนิ นำ้� ผมก็ซ้อื เครือ่ งด่มื เหล่าน้นั กนิ และ..แล้วมันกม็ ผี ลต่อสขุ ภาพผม น�ำ้ ตาลผมขน้ึ ตอนนีผ้ ม ตอ้ งควบคมุ ตวั เอง กนิ แตน่ �้ำ เปลา่ เมอ่ื ไหรก่ ระทอ่ ม กญั ชามนั จะไมผ่ ดิ กฎหมายซกั ที ผมมใี บกระทอ่ มอยใู่ นกระเปา๋ กางเกง 2 ใบ ตำ�รวจมันจับผมใส่กุญแจมือ” เราสนทนากันเร่ืองน้ีในช่วงท่ีอดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา ส่ือสารสาธารณะในประเด็นยาเสพตดิ เขาคือพืชสมุนไพร ใชบ้ ำ�บัดรักษาโรค ด้วยประสบการณ์ชาวบ้าน หลายคนจะบอกว่าหากทานอะไรไม่ค่อยได้ ลองใช้กัญชา จะช่วยให้ เจริญอาหาร หากมีอาการปวดเม่ือยก็ให้ไปเสพกัญชา แล้วจะดีขึ้น เหล่านี้คือสิ่งท่ีชาวบ้านทั่วไปรู้ แต่ในเชิง ของการแพทยพ์ น้ื บา้ น การแพทยแ์ ผนไทย มหี ลายต�ำ รบั ยาทม่ี สี ว่ นผสมของทงั้ กญั ชาและกระทอ่ ม แตก่ ไ็ มส่ ามารถ ปรงุ ใหค้ นไข้ได้ เพราะเขาถกู ตราว่าผิดกฎหมาย หมอพื้นบ้านไมส่ ามารถน�ำ มาใชไ้ ด้ เขาคือสิง่ ท่ีผดิ ม้ัย....ตามหลกั การศาสนา ทุกสิ่งในโลกน้ีถูกสร้างขึ้นมา มีท้ังประโยชน์และโทษในตัวของมันเอง อยู่ท่ีเราจะเลือกใช้และเจตนา ส่งิ ท่ที �ำ ให้ผู้ใชข้ าดสติสัมปชัญญะ มนึ เมา น่นั เปน็ สง่ิ ท่ีไม่อนุมัต ิ แตห่ ากเราใชเ้ พ่อื การประกอบอาชพี บ�ำ บัดรักษา ไมไ่ ด้เสพตดิ แต่อย่างใด โดยสว่ นตัวเขา้ ใจวา่ ไมน่ า่ จะผดิ ดว้ ยเจตนาที่บรสิ ุทธิ์ ส่ิงใดก็ตามท่ีมนุษย์เขียนข้ึน ตราไว้ ย่อมเปล่ียนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อม ณ ช่วงเวลาหน่ึงๆ สมควรแล้วท่ี พ.ร.บ.ยาเสพติด จะต้องได้รับการปรับปรุงและจัดประเภทยาเสพติดใหม่ ตามหลักวิชาการ ทางการแพทยแ์ ละผลกระทบทเี่ กดิ ขึ้นจริง ...เพยี งแค่ยอมรบั ความจริง...อย่าปล่อยให้สายไปกวา่ น้ี..จนประเทศเรา ไม่เหลอื ภมู ปิ ญั ญาสบื ตอ่ ไป... 30

ความคบื หน้าการขบั เคลือ่ นประเด็น ไฮไลท์ 2 กระท่อม-กัญชาทางการแพทย์ อ.ภก.ชินวัจน์ แสงอังศุมาลี นักวิชาการ กพย./อาจารย์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม เมือ่ วนั ท่ี 15 พ.ค. 2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตร ี มมี ตเิ หน็ ชอบประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ฉบบั ใหม่ ซง่ึ จะเปดิ ช่องใหใ้ ช้กัญชาเพ่ือการศกึ ษาวจิ ยั กับมนษุ ยไ์ ดเ้ ปน็ ครั้งแรก ก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติพิจารณาต่อไป ถือว่าเป็นการ ปลดล็อคกัญชาครั้งยิ่งใหญ่ท่ีทำ�ให้สามารถนำ�กัญชา มาท�ำ งานวจิ ยั ในมนษุ ยไ์ ด้ เมอ่ื เรายอ้ นกลบั ไปมนี กั วจิ ยั จาก หลายส�ำ นกั พยายามทจ่ี ะท�ำ งานวจิ ยั ทง้ั เรอื่ ง กญั ชา กญั ชง กระท่อม มากมาย ที่น่าสนใจเช่น คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสติ ได้ท�ำ การพัฒนาตำ�รบั สเปรยฉ์ ีดพน่ ใน (แหลง่ ท่ีมา : https://www2.rsu.ac.th/sarnrangsit-online-detail/Cannabis05042018) ช่องปากที่มีสารสกัดกัญชา” โดยเภสัชกรหญิงวรวรรณ สายงาม อาจารย์ประจำ�ศูนย์วิจัย คณะเภสัชศาสตร์ ในส่วนของกัญชง(Hemp)น้ัน มีกฎกระทรวง มหาวทิ ยาลยั รงั สิตเปน็ ผพู้ ัฒนา ซง่ึ ทางมหาวทิ ยาลัยรงั สิต การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาํ หนา่ ย หรือมีไวใ้ น ครอบครองซงึ่ ยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๕ เฉพาะกญั ชง จะมีการทำ�ความร่วมมือกับโรงพยาบาลในสังกัดกรมการ โดยต้องมีปริมาณ THC น้อยกว่า 1 % ของนำ้�หนักแห้ง แพทย์ในการวิจัยทางคลินิก โดยทีมเภสัชกรจากคณะ เภสชั ศาสตรจ์ ะผลิตยาต้นแบบ และทีมแพทย์จากกรมการ แต่กัญชงนั้นต้องปลูกจากเมล็ดพันธ์ุที่รับรองเท่าน้ัน แพทย์จะเป็นผสู้ งั่ จา่ ยยาและติดตามผลการรักษา ซึ่งอยู่ใน โดยเจตนารมณ์ คอื ปลกู เพอื่ เสน้ ใย ไมไ่ ดเ้ นน้ ดา้ นการแพทย์ โดยตรง ระหว่างการท�ำ ขอ้ ตกลงร่วมกัน ในส่วนของพืชกระท่อมนั้น ทางหน่วยวิจัย ความหวังในการพัฒนากัญชาสำ�หรับการแพทย์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กำ�ลัง น้นั เริม่ เป็นจรงิ มากข้ึนโดยเมื่อวันท่ี 2 พ.ค. 2561 น้ัน ได้มี ย่ืนขอทุนวิจัยเพ่ือประเมินผลกระทบทางสุขภาพโดย การแต่งต้ังคณะกรรมการพิจารณาการนำ�กัญชามาใช้ วัดคลื่นไฟฟ้าสมองในกลุ่มคนใช้แรงงานท่ีใช้พืชกระท่อม ประโยชนท์ างการแพทย์ ประกอบด้วยกรรมการ 22 ทา่ น สำ�หรับการทำ�งาน เป็นการศึกษาในระดับประชากร คือ ซึ่งเป็นความหวังของผู้ป่วยทั้งโรคลมชัก พาร์กินสัน หรือ ท�ำ การศกึ ษาในคนจ�ำ นวนมาก โดยตงั้ เปา้ ไวใ้ นเขต 4 จงั หวดั แม้กระทั่งผู้ป่วยมะเร็งที่อนาคตคงได้มีโอกาสได้ใช้ ภาคใต้ ถา้ ไดร้ บั อนมุ ตั ทิ นุ วจิ ยั และเมอ่ื การวจิ ยั เสรจ็ สน้ิ แลว้ ผลิตภัณฑ์จากกัญชา ส่ิงท่ีพวกเราควรติดตามก็คือเรื่อง สทิ ธิบัตร ท่ีอาจท�ำ ให้นกั วิจัยไทยเสียเปรยี บได้ กจ็ ะน�ำ ผลวจิ ยั มาเผยแพรใ่ ห้ไดร้ บั ทราบตอ่ ไป เอกสารอ้างอิง 1. http://narcotic.fda.moph.go.th/nctlaw/?lawtype=%A1%AE%A1%C3 %D0%B7%C3%C7%A7&section=Narcotic 2. https://www.thaipost.net/main/detail/6381 3. https://www2.rsu.ac.th/sarnrangsit-online-detail/Cannabis05042018 4. https://www.bbc.com/thai/thailand-44119656 31

แนะนำ�เว็บไซต์ ภก.ชินวัจน์ แสงอังศุมาลี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม สังคมไทยในปัจจุบัน กำ�ลังมีความสนใจในเร่ืองของกระท่อมและกัญชาอยู่เป็นจำ�นวนมาก โดยเฉพาะ ตอ้ งการหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษว์ า่ สามารถรกั ษาโรครา้ ยอยา่ ง “มะเรง็ ” ไดห้ รอื ไม ่ ดงั นน้ั เราจงึ ขอยกตวั อยา่ งเวบ็ ไซต์ ท่ปี ระชาชนสามารถเข้าถึงไดส้ องเว็บไซต์ดังนี้ https://www.cancer.gov/ เว็บไซต์น้ีเป็นของสถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Cancer Institute) ซ่ึงได้รวบรวมข้อมูลทางวิชาการที่ เก่ียวขอ้ งกับการนำ�กญั ชามารักษามะเร็งในผู้ป่วย เพื่อให้นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปท่ีสนใจสามารถเข้าไปค้นหาบทความงานวิจัยมา อา่ น หรือเพ่อื ใช้เป็นแหลง่ อา้ งองิ ได้ เวบ็ ไซตต์ อ่ มาคอื เพจเฟซบคุ๊ ทม่ี ชี อ่ื วา่ “High Thailand” (https://www.facebook.com/highthailand/) ซง่ึ เป็นกลมุ่ ของ คนทสี่ นใจในเรอ่ื งกญั ชาทวั่ โลก รวมถงึ ในประเทศไทยดว้ ยตง้ั เพจ ขึ้นมาแชร์ข้อมูลข่าวสาร ท่ีเก่ียวข้องกับกัญชา เหมาะสำ�หรับ ประชาชนทัว่ ไป นอกจากนี้ Coconuts TV และ High- land Magazine ยังได้เคยทำ�สารคดีเร่ือง Highland:Thailand’s Marijuana Awakening เป็นสารคดีทต่ี ามรอยกัญชาในประเทศไทย และเพอื่ นบา้ น กบั ความพยายามผลกั ดนั ใหก้ ญั ชาสามารถซอ้ื ขาย ไดอ้ ย่างถกู กฎหมาย และเพจทางเฟซบุค๊ ใกลเ้ คยี งเชน่ “กัญชาชน” (https://www.facebook.com/legalizethailand/) กย็ งั มผี ตู้ ดิ ตาม อยู่ไม่นอ้ ยเลยทีเดยี ว จดหมายข่าวศนู ย์ข้อมลู เฝา้ ระวังระบบยา : ส่อื กลางขอ้ มลู ขา่ วสารความเคลอื่ นไหวปัญหายาเพ่อื การเฝา้ ระวังและพัฒนาระบบยาของไทย แผนงานศนู ยว์ ิชาการเฝา้ ระวังและพฒั นาระบบยา (กพย.) คณะเภสชั ศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท ปทมุ วนั กทม. 10330 โทรศพั ท์ 02-218-8452 โทรสาร 02-254-5191 อเี มล: [email protected] เวบ็ ไซต์: www.thaidrugwatch.org บล็อก: www.thaidrugwatch.org/blog ยทู ูบ: www.youtube.com/thaidrugwatch เฟซบ๊กุ : www.facebook.com/thaidrugwatch ทวติ เตอร์: twitter.com/thaidrugwatch


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook