การผลติ ผกั ปลอดสารพษิ ในพืน้ ที่ดินทราย พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1 ปี พ.ศ. 2556 โดย ศนู ยศ์ ึกษาการพัฒนาอ่าวคงุ้ กระเบน อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ อาเภอทา่ ใหม่ จงั หวดั จันทบุรี รว่ มกบั สานกั งานคณะกรรมการพเิ ศษเพ่อื ประสานงานโครงการอนั เนอ่ื ง มาจากพระราชดาริ (สานักงาน กปร.)
คานา การผลติ ผักปลอดภยั สารพษิ ผลผลิตทีไ่ ด้จะ มีคุณภาพ ดแี ละ ปลอดภัยจากสารพษิ ตกค้าง ช่วยอนรุ กั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มและฟื้นฟูระบบนิเวศทางการเกษตร ผลผลติ ทีไ่ ด้เปน็ ทต่ี ้องการ ของตลาด ซงึ่ การผลติ ผักปลอดภยั สารพษิ เป็นระบบการผลติ ทีไ่ มใ่ ชส้ ารเคมีในการปอ้ งกนั กาจดั โรคและแมลง แตใ่ ชว้ ิธีกลและสารสกดั จากพืชสมุนไพรทดแทน โดยเนน้ วธิ ีการปลกู พืชหมนุ เวียน อยา่ งเปน็ ระบบ โดยเลือกชนดิ พืชท่จี ะปลูกคนละชนดิ ปลูกพชื ในหลมุ เดียวกนั แต่ปลูกหมนุ เวยี น ตา่ งเวลากัน เพ่อื ปอ้ งกนั ปญั หาการระบาดของโรคและแมลง ทาให้ประหยัดต้นทุนในการเตรยี ม ดิน จึงเป็นระบบการปลูกพชื อกี รูปแบบหน่งึ ทีน่ ่าสนใจและถ่ายทอดใหเ้ กษตรกรไดน้ าไปปฏิบตั ิ อย่างกว้างขวางตอ่ ไป งานวชิ าการเกษตร ศนู ย์ศึกษาการพฒั นาอ่าวคุง้ กระเบนฯ รับผิดชอบ โดย สานักวิจยั และพฒั นาการเกษตรเขตท่ี 6 กรมวชิ าการเกษตร จึงไดจ้ ดั ทาหนงั สอื องค์ความรเู้ ร่ือง การผลติ ผักปลอดภยั สารพิษ เพ่ือให้เกษตรกรและผู้สนใจสามารถนาไปปฏิบัตใิ ห้ถกู ต้องและ แพร่หลายตอ่ ไป งานวิชาการเกษตร ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาอา่ วคงุ้ กระเบน อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ
สารบญั หนา้ 1. การคัดเลือกพื้นที่ 1 2. การเตรยี มพน้ื ท่ี 2 3. การคดั เลอื กพันธ์ุ 5 4. การปลกู ด้วยเมล็ดหรือตน้ กล้าตามแตช่ นดิ ของพชื 5 5. การให้นา้ 6 6. การกาจัดวัชพชื 6 7. การใส่ปยุ๋ 6 8. การปอ้ งกนั และกาจัดศัตรพู ืชผักโดยวธิ ีแบบผสมผสาน 7 9. การเกบ็ เกีย่ ว 7 10. เทคโนโลยีการปลูกผักแบบหมนุ เวยี นอย่างเปน็ ระบบ 8 11. เทคนิคการปลูกผักทนี่ ่ารู้ 12 12. ปราชญช์ าวบา้ น 16 13. เอกสารอ้างอิง 19
“...กสิกรรมและเกษตรกรรมเป็นเร่ืองสาคัญมาก ทา่ นทง้ั หลายจะต้องชว่ ยกันคน้ คว้าหาความรู้ และความชานาญใหก้ วา้ งขวางยง่ิ ข้ึนเสมอ และพยายามสง่ เสรมิ เผยแพรค่ วามร้ทู ไ่ี ดศ้ กึ ษามาแกพ่ ่ี นอ้ งกสิกร และเกษตรกร ให้ได้ทราบถงึ วิธปี ฏิบตั ิอันถกู ต้องตามหลักวิชาอกี ดว้ ย จงึ จะเกิด ประโยชนแ์ ก่สังคมในดา้ นน้ี และเปน็ ผลดีแกป่ ระเทศชาติสืบไป...” พระราชดารัส พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว เม่อื วนั ท่ี 19 กรกฎาคม 2505 ในพิธีพระราชทานปรญิ ญาบัตรและอนุปริญญาบตั รของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์
1 การผลติ ผักปลอดภยั สารพษิ พชื ผักเปน็ อาหารทจ่ี าเป็นต่อร่างกายของมนุษย์ ปจั จบุ ันพบวา่ เกษตรกรใช้สารเคมเี ป็น จานวนมาก ในระบบการผลติ ทัง้ ปอ้ งกนั โรค แมลงและวัชพชื เกิดผลกระทบหลายด้าน เช่น สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภค และเป็นมลพิษต่อส่ิงแวดล้อม การผลติ ผกั ปลอดภัยสารพษิ นบั เป็นผลผลิต ทางการเกษตรท่ตี ลาดมคี วามตอ้ งการสูง แต่ผลผลิตยังมีน้อยไม่พอกับความต้องการของตลาด ดงั น้นั การปลกู ผกั ปลอดภยั สารพิษจึงเปน็ อกี อาชพี หน่ึงทนี่ ่าสนใจ ซึง่ มขี ้นั ตอนการดาเนินการดังนี้ 1. การคัดเลือกพื้นท่ี 1.1 ลกั ษณะพ้นื ที่ควรเป็นทีด่ อน หากเป็นท่ลี มุ่ ควรยกรอ่ งปลูก ลักษณะ ของดนิ เป็น ดนิ รว่ นปนทราย ระบายน้าดี ดินมีความอดุ มสมบรู ณ์สงู และมีค่าความเปน็ กรด- ดา่ งทีเ่ หมาะสมในการปลกู ผักประมาณ 6.0-6.5 1.2 แหลง่ น้า ควรเปน็ แหลง่ น้าที่สะอาดปราศจากสารอินทรยี แ์ ละสารอนินทรียท์ ่มี ีพษิ ปนเปอ้ื น และมนี า้ เพยี งพอสาหรับใช้ตลอดปหี รอื ตลอดฤดูกาล
2 2. การเตรียมพ้นื ที่ 2.1 การปรับปรงุ บารุงดิน ดนิ ทใี่ ช้ในการทาการเกษตรสว่ นใหญ่ มักเปน็ ดนิ ที่ เสือ่ มสภาพขาดอนิ ทรยี วัตถแุ ละธาตุอาหาร การปรับปรงุ ดินทีเ่ สอ่ื มสภาพ สามารถ ทาไดด้ ว้ ยการเพิม่ อนิ ทรียวตั ถุใหก้ บั ดนิ โดยวธิ ีการปลูกพชื แลว้ ไถกลบเป็นปยุ๋ พชื สดบารงุ ดนิ พืชที่นิยมปลูกเปน็ ปุ๋ยพชื สดส่วนใหญเ่ ป็นพืชตระกลู ถ่ัว เนอ่ื งจากไดท้ ้งั อนิ ทรยี วตั ถุทเ่ี กิดจาก ลาตน้ ใบ ดอก และยังได้ธาตุไนโตรเจนจากการตรึงโดย แบคทีเรียท่เี กิดจากปมรากอกี ด้วย หรอื กระทาโดยการใสป่ ุ๋ยอนิ ทรยี ์ เชน่ ปุ๋ยหมกั ชวี ภาพ ทีไ่ ดจ้ ากการหมักของมูลสัตว์ แกลบดบิ แกลบดา ราหยาบ อัตรา 3:3:3:1 ผสมคลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กัน และพรมดว้ ยนา้ ผสมนา้ หมักชีวภาพ ( 200 ต่อ 1) ใหม้ ี ความชืน้ พอเหมาะ (60 %) ใส่ในอัตรา 2-3 ตนั /ไร่ การใส่ปยุ๋ หมกั ชีวภาพเพ่อื ปรบั ปรุงบารงุ ดนิ ปลกู ปอเทอื งเพื่อปรับปรงุ บารงุ ดนิ นอกจากน้คี วรเก็บตวั อย่างดนิ ไปวิเคราะห์ ก่อนปลูกพชื อย่เู สมอ เพื่อตรวจสอบ คุณสมบัติและความอุดมสมบรู ณ์ของดนิ สาหรบั ใชเ้ ป็นแนวทางการใสป่ ุย๋ หากพบวา่ ดนิ มีสภาพ ความเป็นกรด ควรปรบั สภาพความเป็นกรดเปน็ ดา่ งของดนิ โดยการใสป่ ูนขาว ปนู มารล์ หรอื ปนู โดโลไมท์ อตั รา 200-300 กิโลกรมั /ไร่ หลงั จากหวา่ นหรือใส่ปนู แล้วควรรดนา้ ตามดว้ ย
3 2.2 การเตรียมดนิ การเตรียมดินใหถ้ กู ตอ้ ง นอกจากจะชว่ ยให้พชื ผักเจริญเติบโตอยา่ งสมบรู ณ์ แลว้ ยงั เป็นการลดปญั หาจากศตั รูพชื ท่ีอาจจะเกดิ ขึ้นในชว่ งการผลิตพืชผักเปน็ อยา่ งดี วิธเี ตรียมพ้ืนท่ีและการเตรียมดินปลูกท่ถี ูกต้องควรดาเนินการดังนี้ 1. ปรบั พื้นทใ่ี ห้ราบเรียบ 2. จดั ทาครู ะบายน้า 3. ขดุ ปรบั ทาลายพ้นื ท่ีทเี่ ป็นแหล่งหลบอาศยั ของหนแู ละสัตว์ศตั รพู ชื ต่างๆ 4. กาจดั วัชพืชท่ีขึ้นอยเู่ ดิมไมใ่ หแ้ ข่งกบั พืชท่ปี ลกู 5. ไถเตรียมดนิ ด้วยการไถดะ ตากดินไว้ประมาณ 7 วนั เพื่อกาจัดวัชพืช โรค-แมลง ที่อาศยั อย่ใู นดนิ 6. ไถพรวนดินอีก 1 คร้งั หลงั จากไถดะ แลว้ ตากดินไว้ประมาณ 7 วัน เพอ่ื ให้ ดนิ มีเนอื้ ละเอียดร่วนซุยเหมาะแก่การปลูกพชื การไถยอ่ ยพรวนดิน การไถดะ ตากดนิ ไวป้ ระมาณ 7 วนั
4 2.3 การเตรยี มแปลงปลูก หลังจากการปรับปรงุ ดินและการเตรยี มดนิ อย่างถกู วธิ ีแลว้ ทาการปรับดินใหส้ ม่าเสมอ ยกแปลงปลกู ขนาด 1-2 เมตร ยาวตามความต้องการ คลมุ แปลงปลูกดว้ ยเศษวชั พืช หรือใบหญา้ แฝก เพือ่ รกั ษาความช่มุ ชืน้ และควบคมุ วชั พชื ไถพรวนแปลง การปลกู แฝกเพอื่ อนุรักษ์ดนิ และนา้ การปรบั ดนิ ให้เสมอ ใช้แฝกคลมุ แปลงเพ่ือรักษาความชมุ่ ชนื้
5 3. การคดั เลือกพนั ธุ์ ควรเลอื กพันธ์ผุ กั ท่ตี า้ นทานตอ่ โรคและแมลง มคี ณุ ภาพตรงตามที่ตลาดตอ้ งการ เหมาะสมกบั ฤดปู ลูกและสภาพดินฟ้าอากาศ และก่อนนาเมล็ดพันธ์ผุ กั ไปปลูกทกุ ครง้ั ควรแช่เมล็ด พันธ์ผุ ักในน้าอุน่ ที่อณุ หภมู ิ 50-55 องศาเซลเซียส เปน็ เวลานาน 10-15 นาที เพ่ือกาจัดเช้อื รา และยังเปน็ การกระตนุ้ ใหเ้ มล็ดพนั ธ์ผุ ักงอกอยา่ งสมา่ เสมอ 4. การปลูกด้วยเมลด็ หรือต้นกล้าตามแต่ชนิดของพืช การเพาะกล้า แชเ่ มลด็ พันธ์ุผักในน้าอ่นุ ที่อณุ หภูมิ 50-55 องศาเซลเซยี ส เป็นเวลา 10- 15 นาที เพอื่ กาจดั เชอื้ รา และยงั เป็นการกระตุ้นให้เมลด็ พนั ธุ์งอกไดอ้ ย่างสม่าเสมอ ชว่ ยลด ปริมาณการใช้เมลด็ พันธ์ุ เม่อื ต้นกลา้ มีอายไุ ด้ 15-20 วัน ถอนแยกตน้ กล้า โดยใหม้ รี ะยะห่าง ระหว่างต้นประมาณ 10-15 ซม. ต้นกลา้ ท่ถี อนแยก สามารถนาไปปลูกในแปลงท่เี ตรียมไว้ (ควร ปลูกในตอนเย็น) การเพาะกล้าผกั ในถาดหลมุ การเพาะกลา้ ผักในแปลงโดยตรง
6 5. การใหน้ า้ การให้น้ามหี ลายระบบ ซ่ึงในแต่ละระบบก็มจี ดุ มุง่ หมายแตกตา่ งกนั ออกไปตามสภาพ ต้นพชื ดังนน้ั ระบบการให้นา้ ในการผลติ ผักแบง่ ออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1. การใหน้ า้ แบบพน่ ฝอย พืชกนิ ใบที่บอบบาง เชน่ ผักกาดหอม ผักกวางตุ้ง ผกั คะนา้ ตน้ หอม หัวไชเท้า ปว่ ยเล้ง ตงั้ โอ๋ กะหล่าตา่ งๆ เปน็ พืชผักที่มีใบบอบบาง ไม่ชอบความรอ้ นสงู นกั จงึ จาเป็นตอ้ งให้นา้ เปน็ ละอองฝอย 2. การให้น้าเฉพาะพ้นื เหมาะแก่การปลกู มะเขอื เทศ พรกิ พืชตระกลู แตง มลี กั ษณะ การใหน้ า้ ดังน้ี 2.1 การใหน้ ้าซมึ เขา้ แปลง โดยการขดุ ร่องระหว่างแปลงปลูกแล้วปลอ่ ยน้าใหซ้ มึ เข้า แปลง 2.2 การให้ระบบท่อ โดยการใช้ทอ่ พลาสติกเจาะรูตดิ ต้งั หัวจ่ายนา้ ขนาดต่างๆ ควร เลือกใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ผักแตล่ ะชนดิ รดน้าทกุ วัน เช้า -เยน็ รดน้าใหช้ ุม่ พอประมาณอย่าใหแ้ ฉะ จนเกินไป จะทาใหต้ ้นเน่าได้ 6. การกาจัดวชั พชื วัชพืชเป็นปัญหาสาคญั สาหรบั การปลูกผกั โดยวชั พืชจะเจรญิ เติบโตแข่งขันแย่งน้า อาหารและแสงแดด ควรควบคุมวชั พืชโดยการใช้วัสดุคลุมดนิ เชน่ ใบหญา้ แฝก ฟางขา้ ว และ พลาสติกคลุมแปลง เป็นต้น หากมีวชั พืชข้ึนให้กาจดั โดยวธิ ีการถอน 7. การใส่ปยุ๋ รองพ้ืนก่อนปลูกผกั ด้วยปุย๋ สตู รเสมอ เช่น 15-15-15 อตั รา 30-50 กก./ไร่ หลงั ปลูก 7-10 วัน (ตน้ กล้าต้ังตัวได้ดี) เสริมการเจริญเติบโตของพืชผัก ดว้ ยการรดปุ๋ยยูเรยี ในอตั รา 1 ช้อน แกงต่อนา้ 20 ลิตรหรอื รดด้วยน้าหมกั ชีวภาพอัตรา 1:200 อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
7 8. การปอ้ งกันและกาจดั ศัตรูพืชผกั โดยวธิ ีแบบผสมผสาน 8.1 การป้องกันกาจัดโดยวิธกี ล - การใชก้ บั ดกั กาวเหนียวสเี หลอื ง สามารถดกั จับตวั เตม็ วยั ของแมลงศตั รูผกั ไดห้ ลายชนดิ เชน่ เพลยี้ ไฟ แมลงวนั เจาะผล หนอนชอนใบ ผเี ส้ือหนอนใยผกั หนอนเจาะกระทู้ หอม หนอนคบื - การใช้กบั ดกั กากน้าตาล อตั ราส่วนทใี่ ช้ กากน้าตาล 1 สว่ น ต่อ นา้ 3 ส่วน สามารถดกั จบั ผีเสื้อกลางคนื ได้เชน่ ผเี ส้ือหนอนกระทู้หอม ผเี สื้อหนอนใยผกั - การใชก้ บั ดักแสงไฟ สามารถดักจบั ผเี ส้อื กลางคืนได้ เช่น ผเี สือ้ หนอน กระทู้หอม หนอนคบื กะหลา่ - การใชม้ งุ้ ตาข่าย หรือกางมุ้งในลอ่ นในแปลงผกั 8.2 การป้องกนั กาจดั โดยการใชส้ ารสกัดจากพชื (น้าหมักสมุนไพร) เช่น สารสกดั จาก สะเดา หางไหล พรกิ ข่า ตระไคร้หอม นา้ สม้ ควนั ไม้ พ่นอาทติ ยล์ ะ 1-2 ครั้ง อัตรา 20-30 ซีซ/ี น้า 20 ลิตร ถ้าเปน็ นา้ ส้มควันไม้ ใช้ในอัตรา 100 ซีซี ผสมน้า 20 ลิตร แตถ่ า้ ฆ่าเช้อื ในดนิ ใชใ้ นอตั รา 50 ซซี ี ผสมนา้ 1 ลติ ร การใชก้ บั ดกั กาวเหนียว การใชก้ ับดักกากน้าตาล 9. การเก็บเกย่ี ว เก็บผลผลิตในชว่ งเช้า โดยใช้มีดตัดหรือถอนทง้ั ต้น นามาตดั แตง่ ล้างดว้ ยน้าสะอาด และนามาบรรจใุ นภาชนะทสี่ ะอาด เช่น ถุงพลาสติกเพ่อื จาหน่ายตอ่ ไป
8 10. เทคโนโลยกี ารปลูกผกั แบบหมุนเวยี นอย่างเป็นระบบ การปลูกผักแบบหมนุ เวียนอย่างเปน็ ระบบ เปน็ อีกทางเลือกหนง่ึ ทีจ่ ะทาใหก้ ารผลิตผกั ได้ผลผลิตทด่ี ีมคี ุณภาพปลอดภยั ตอ่ ผู้บรโิ ภคและสิ่งแวดล้อม โดยมขี น้ั ตอนดงั นี้ 10.1 การเตรียมแปลงปลกู ไถดะ ตากดนิ ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อกาจัดวชั พชื โรค - แมลง ทอี่ าศัยอยใู่ นดนิ ไถย่อยดินและผสมคลกุ เคลา้ ปยุ๋ หมักชีวภาพแหง้ ทสี่ ลายตวั ดีแลว้ อตั รา 2-3 ตันต่อไร่ ปรับดินให้สม่าเสมอ ยกแปลงปลกู ขนาด 1-2 เมตร ยาวตามความตอ้ งการ คลมุ แปลงด้วยพลาสติกดาสาหรับคลมุ แปลงปลกู เจาะรขู นาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 6-8 ซม. ระยะ ระหวา่ งหลมุ 50 ซม. รดนา้ ให้ชมุ่ ชน้ื พรอ้ มทีจ่ ะปลกู ผักตอ่ ไป การใสป่ ุ๋ยหมักชวี ภาพ การไถยอ่ ยดินผสมคลุกเคล้า การยกแปลงปลกู ปุ๋ยหมกั ชีวภาพ การคลุมแปลงปลูกด้วยพลาสตกิ ดา การทาค้าง 10.2 ระบบการปลกู โดยปลูกแตงกวาเป็นพชื ที่ 1 ถ่ัวฝกั ยาวเป็นพืชที่ 2 และขา้ วโพด หวานเป็นพชื ท่ี 3
9 พชื ท่ี 1 แตงกวา (60 วัน) - การเตรยี มเมลด็ นาเมล็ดแตงกวามาแช่นา้ อุ่นท่อี ุณหภูมิ 50-60 องศาเซลเซยี สใน ถุงพลาสตกิ นาน 3 ชั่วโมง เทนา้ ออกปดิ ปากถุงทง้ิ ไว้ 24 ชั่วโมง เมลด็ จะงอกพรอ้ มปลกู - การปลกู รดนา้ ให้ดนิ ช่มุ ชน้ื หยอดเมลด็ ทีเ่ ตรียมไว้ 1-2 เมล็ดตอ่ หลุม กลบด้วยขเ้ี ถ้า ปอ้ งกันมดหรอื หนูเข้าทาลาย เมื่อเมลด็ งอกโผล่พ้นดนิ จึงให้นา้ สมา่ เสมอ - การทาคา้ ง ปักไมไ้ ผ่ความยาวประมาณ 2 เมตร ขงึ เชอื กไนล่อนสาหรบั รอ้ ยตาข่าย สาหรบั ทาคา้ งผักให้ตึงตามความยาวของแปลง - การดแู ลรักษา การแต่งกิ่ง (เถา) เมอื่ แตงกวาเร่ิมเจรญิ เติบโต ทาการเด็ดแขนงขา้ ง ของใบท่ี 1-5 และปล่อยให้แขนงขา้ งของใบท่ี 6 แตกยอดได้ เม่ือแตงกวาแตกใบใหม่ทุกๆ 3 ใบ ทาการเด็ดยอดท้ิง เพ่อื ใหเ้ ถาแตงกวาแตกยอดเลือ้ ยคลุมทัง้ ค้าง - การป้องกนั กาจดั โรค -แมลง หมนั่ ตรวจแปลงผกั สมา่ เสมอ หากพบจับ ทาลายหรอื พน่ ด้วยสารสกดั จากสะเดา ข่า ตะไคร้หอมหรอื หางไหล อัตรา 20-30 ซีซ/ี นา้ 20 ลติ ร ถ้านา้ สม้ ควันไมใ้ ช้ในอัตรา 1 00 ซซี ี ผสมน้า 20 ลิตร แตถ่ า้ ฆ่าเชอ้ื ในดิน ใชใ้ นอัตรา 50 ซีซี ผสมน้า 1 ลติ ร - การเก็บผลผลิต เมือ่ แตงกวาอายปุ ระมาณ 25-30 วนั เริ่มออกดอก ตดิ ผลและเกบ็ เก่ียวผลผลิตไดต้ อ่ เน่อื งนานประมาณ 1 เดือน เมือ่ เกบ็ ผลผลิตแลว้ เสร็จทาความสะอาดแปลงโดย ตดั เถาแตงกวาออกกาจัดวชั พชื และพรวนดินหลมุ เดมิ พร้อมปลูกพืชที่ 2 ต่อไป การเพาะเมล็ดแตงกวากอ่ นปลูก การปลกู แตงกวา การแตง่ เถาแตงกวา แตงกวากาลงั ให้ผลผลิต
10 พชื ที่ 2 ถวั่ ฝกั ยาว (80 วนั ) - การปลกู หยอดเมล็ดถ่ัวฝกั ยาว หลุมละ 3-4 เมลด็ รดนา้ ให้ดนิ มีความชุ่มชืน้ สมา่ เสมอ เม่ือต้นถว่ั ฝกั ยาวงอก มีใบจรงิ 2 ใบ ถอนใหเ้ หลอื ตน้ ที่สมบรู ณ์หลุมละ 2 ต้น - การดูแลรกั ษา การใสป่ ุย๋ ตน้ ถว่ั ฝักยาวจะอาศยั ปุ๋ย ทตี่ กค้างจากการปลูกแตงกวา แต่ อาจใส่ปยุ๋ หมกั แห้งเสรมิ เพมิ่ ใหต้ ้นท่ีไมง่ าม - การป้องกันโรคและ แมลง หากพบการเขา้ ทาลายของหนอนเจาะดอก พน่ ด้วยสาร สกดั จากสะเดา ขา่ ตะไคร้หอมหรือหางไหล อตั รา 20-30 ซีซ/ี น้า 20 ลิตร ถา้ นา้ ส้มควนั ไมใ้ ชใ้ น อัตรา 100 ซีซี ผสมนา้ 20 ลิตร แต่ถ้าฆา่ เช้ือในดนิ ใช้ในอัตรา 50 ซซี ี ผสมนา้ 1 ลิตร ตลอดจน ใช้กบั ดกั ผีเสื้อกลางคืน เพือ่ ลดจานวนผเี สอื้ ที่มาวางไขใ่ นพืชผักรว่ มกับวธิ ีเขตกรรมโดยเดด็ ใบถัว่ ท่ี ไมส่ มบรู ณ์ มีการทาลายของโรค แมลง และตัดแต่งใบทอ่ี ยบู่ รเิ วณหนาทบึ ออก เพอ่ื ใหม้ อี ากาศ ถ่ายเทไดด้ ี - การเกบ็ เก่ยี ว หลงั ปลกู ประมาณ 50 วนั เร่มิ เกบ็ ผลผลิตได้และเก็บต่อเนอ่ื งประมาณ 30 วัน หลงั เกบ็ เกยี่ วผลผลิตเสรจ็ แล้วใหท้ าความสะอาดแปลงโดย กาจดั วชั พืชและใสป่ ยุ๋ หมัก แหง้ 1 กามอื ลงในหลมุ เดิม แล้วพรวนดนิ เพอื่ ปลกู พชื ท่ี 3 ต่อ การปลกู ถัว่ ฝักยาว การใสป่ ๋ยุ หมักชวี ภาพถว่ั ฝักยาว ถ่ัวฝกั ยาวกาลังให้ผลผลติ ผลผลิตถ่วั ฝกั ยาว
11 พืชท่ี 3 ข้าวโพดหวาน (70 วนั ) - การปลูก หยอดเมล็ดข้าวโพดหวาน หลมุ ละ 2 เมลด็ รดนา้ ใหช้ ่มุ ชืน้ สมา่ เสมอ หลงั ปลกู 14 วัน ถอนแยกต้นขา้ วโพดใหเ้ หลือ 1 ต้น/หลุม - การดูแลรักษาและการเกบ็ เก่ยี ว โดยการใสป่ ๋ยุ หมักแหง้ หลมุ ละ 1 กามือ สปั ดาหล์ ะ 1 คร้งั ให้น้าสม่าเสมอ เมื่อข้าวโพดตดิ ฝกั อ่อนทาการหักฝกั แรกออกจาหนา่ ยเป็นข้าวโพดฝักอ่อน เหลอื ไวต้ ้นละ 1 ฝกั เมือ่ ขา้ วโพดอายุได้ 70-75 วนั สามารถเก็บผลผลิตขา้ วโพดฝกั สดจาหน่ายได้ หลังการเกบ็ เกี่ยวข้าวโพดหวาน ทาความสะอาดแปลงโดยเก็บพลาสตกิ คลุมแปลงตัดต้นขา้ วโพด และไถกลบ จากน้นั หว่านปอเทอื งหรอื ถัว่ พรา้ เพื่อปรับปรงุ บารุงดนิ ขา้ วโพดหวานอายุ 48 วนั เริ่มออกดอก ผลผลติ ข้าวโพดหวาน 10.3 ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับ ระบบปลูกผกั แบบหมุนเวยี นอยา่ งเปน็ ระบบ มีขอ้ ดีหลายประการท่สี มควรจะถา่ ยทอด องคค์ วามรนู้ ้ี ให้แก่เกษตรกรนาไปปฏิบตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เชน่ 1. มกี ารเตรยี มแปลงปลกู ท่ีดี 1 ครง้ั ปลกู พชื ได้ 3 ชนิดต่อเนื่องกนั จงึ ลดค่าใช้จ่ายใน การเตรยี มดนิ 2. มีการใช้วสั ดรุ ่วมกัน เช่น ค้างผกั พลาสตกิ คลมุ แปลงทาให้คุ้มค่าในการใชง้ านและ ลดต้นทุนค่าปัจจัยการผลติ 3. ชนดิ พืชที่นามาปลกู ตา่ งชนดิ กัน ทาใหล้ ดปญั หาการระบาดของโรค แมลงได้
12 11. เทคนิคการปลกู ผักทน่ี า่ รู้ 1. การปลูกผกั กาดหอม เมอื่ อายไุ ด้ประมาณ 20-25 วนั ถอนแยกต้นท่ไี มส่ มบรู ณท์ ้ิง ระยะห่างระหว่างตน้ ประมาณ 25-30 เซนติเมตร 2. การปลูกผักบุ้งเรียวไผ่ ผักบุ้งจีน ควรนาเมล็ดพนั ธ์ุผกั บ้งุ แช่น้าอุ่นประมาณ 6-12 ชัว่ โมง แล้วจงึ นาเมล็ดลงปลูกในแปลง เพ่ือให้เมล็ดพันธง์ุ อกไดด้ ขี น้ึ 3. คน่ื ฉ่าย ตง้ั โอ๋ ปวยเล้ง เม่อื อายุได้ 15-20 วนั ถอนแยกต้นทีไ่ ม่สมบรู ณท์ ิง้ ระยะห่าง ระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร 4. คนื่ ฉา่ ย กอ่ นปลูกควรนาเมลด็ แช่นา้ อนุ่ ประมาณ 2-3 ชว่ั โมง แล้วใชผ้ ้าหอ่ แชใ่ น ตู้เยน็ ประมาณ 24 ชวั่ โมง แล้วจึงนาเมล็ดลงปลูกในแปลง เพือ่ ใหเ้ มล็ดงอกได้ดีขึ้น 5. การปลกู ผักชี ควรนาเมล็ดพนั ธผ์ุ ักชีมาทบุ เบาๆ ใหแ้ ตกเป็นสองซกี แลว้ นาไปแช่ น้าอ่นุ ประมาณ 2-3 ช่ัวโมง แลว้ จึงนาเมลด็ ลงปลูกในแปลง เพื่อให้เมลด็ งอกไดด้ ขี ้นึ 6. การปลูกผักชีฝร่ัง ควรนาเมลด็ พนั ธุ์ผกั ชฝี รง่ั แชน่ า้ อนุ่ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วผ่งึ ลมให้แห้ง แล้วจงึ นาเมลด็ ลงปลกู ในแปลง เพอ่ื ให้เมลด็ งอกได้ดีข้นึ
13 ตารางท่ี 1 แสดงข้อมลู การปลูกผักแตล่ ะชนิด (ผกั ใบ) ชนิดพืช อัตราการใช้เมลด็ จานวนเมลด็ ลกั ษณะ อายุการเกบ็ ลักษณะการ พันธุ์ต่อขนาดแปลง ต่อ นน. 1 กรัม การปลูก เกี่ยวหลัง เก็บเก่ยี ว กวางตุ้งใบ กวางตงุ้ ดอก 1×2 เมตร (เมลด็ ) หว่าน ปลูก ถอน กวางตุง้ ฮ่องเต้ หว่าน ถอน 30 กรัม 530-570 หว่าน 28-30 วัน ถอน คะน้าใบ 30 กรมั 530-570 หว่าน 28-30 วัน ถอน คะน้ายอด 30 กรัม 450-470 หว่าน 30-35 วนั ถอน คะน้าฮอ่ งเต้ 30 กรมั 300-350 หวา่ น 35-40 วนั ถอน ผักกาดหอม 30 กรมั 300-350 หวา่ น 45-50 วนั ถอน 30 กรมั 300-350 หวา่ น 45-50 วนั ถอน ผกั บงุ้ 20 กรัม 1,050-1,100 หว่าน 45-50 วนั ถอน/ตัด คนึ่ ฉ่าย 40 กรัม หยอดเมลด็ 20-25 วัน ถอน ปวยเล้ง 20 กรัม 7-8 หวา่ น 75-80 วนั ถอน ผกั ชี 10 กรมั 2,000-2,100 หว่าน 35-40 วัน ถอน ผักชีลาว 30 กรมั หยอดเมลด็ 40-45 วัน ถอน/ตัด ผกั ชฝี รงั่ 30 กรัม 55-60 หวา่ น 55-60 วนั ถอน/ตัด ผักโขม 5 กรัม 500-550 หยอดเมลด็ 120 วนั ตดั แมงลกั 10 กรมั หยอดเมล็ด 50-60 วนั ตัด โหระพา 2 กรมั 190 หยอดเมลด็ 65-70 วนั ตดั กะเพรา 2 กรมั 500-550 65-70 วนั 2 กรมั 800-1,000 65-70 วนั 800-1,000 800-1,000 800-1,000
14 ตารางที่ 2 ตน้ ทุนการผลติ และรายได้ของกวางต้งุ ใบ-ผกั บุง้ -ฮ่องเต้-คะน้า ของงานวิชาการเกษตร ศูนย์ฯ (พนื้ ท่ี 1 ไร่) รายการ กวางตงุ้ ใบ ผักบุ้ง ฮ่องเต้ คะน้า รวม 1.อายุพืช (วัน) 40-45 18-20 35-40 45-50 - 2. ผลผลติ เฉล่ยี (กก./ไร่) 3,600 3,600 - 3. ราคาขายเฉลี่ย (บาท/กก.) 4,200 3,000 20 25 - 4. รายได้ (บาท/ไร่) 20 10 72,000 90,000 276,000 5. ต้นทนุ ผนั แปร (บาท/ไร่) 6. ผลตอบแทน (บาท/ไร่) 84,000 30,000 14,434 15,902 65,524 57,566 74,098 210,476 14,790 20,398 69,210 9,602 หมายเหตุ 1. ในพื้นที่ปลกู ผกั 4 ชนิด หมุนเวียนตลอดปี 2. แต่ละชนิดพชื ปลกู ได้ 2 ครัง้ /ปี
15 ตารางที่ 3 ตน้ ทุนการผลิตและรายได้ของแตงกวา-ถว่ั ฝกั ยาว-ข้าวโพดหวาน ของงานวชิ าการ เกษตร ศนู ยฯ์ (พื้นท่ี 1 ไร่) รายการ แตงกวา ถั่วฝักยาว ข้าวโพดหวาน รวม 1. อายุพืช (วนั ) 60 80 70-75 - 2. ผลผลิตเฉลย่ี (กก./ไร่) 2,058 1,177 941 - 3. ราคาขายเฉลีย่ (บาท/กก.) 15 25 15 - 4. รายได้(บาท/ไร่) 30,870 29,425 14,115 74,410 5. ต้นทุนผันแปร (บาท/ไร่) 22,119 4,265 3,433 29,817 6. ผลตอบแทน (บาท/ไร่) 8,751 25,160 10,682 44,593
16 ปราชญ์ชาวบ้านดา้ นการปลูกผักปลอดภัยสารพษิ ชอื่ นายสมคดิ ศรีคงรักษ์ ชอ่ื กลุม่ กลมุ่ ผกั อนามยั ปลอดภัยสารพษิ สมาชิก 10 ราย สถานท่ี งานวชิ าการเกษตรยางตอกทอย ประธานกลุ่ม นายสมคิด ศรคี งรกั ษ์ ที่อยู่ 10/3 ม.8 ต.ราพัน อ.ทา่ ใหม่ จ.จันทบรุ ี การศึกษา มัธยมต้น กศน. อ.ทา่ ใหม่ สถานภาพ สมรส อาชพี เกษตรกร สถานภาพทางสังคม ประธานกลุ่มผกั อนามัยปลอดภัยสารพษิ การดาเนินงานกจิ กรรมการผลติ ผกั ปลอดภัยสารพิษ ดาเนนิ การปลูกผักชนดิ ตา่ งๆ หมนุ เวียนตามฤดูกาล เช่น พริกขห้ี นู ถ่วั ฝักยาว แตงกวา มะละกอ บวบหอม ข้าวโพดหวาน เป็นตน้ โดยใชเ้ ทคโนโลยกี ารผลิตพืชปลอดภัยสารพษิ และมี การผลิตปยุ๋ หมักชีวภาพใช้เองภายในกล่มุ จานวน 10,000 กโิ ลกรมั ผลสมั ฤทธิ์ เกษตรกรสามารถผลติ ผกั ปลอดภัยสารพษิ ออกจาหน่ายได้เกอื บตลอดทั้งปี สรา้ งรายได้ เสรมิ ให้กับครอบครวั เฉลยี่ รายละประมาณ 25,000 บาท/ปี ความภาคภมู ใิ จในชีวิต ท่ีอยู่ใต้ร่มพระบารมี “พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวทรงเปน็ พระราชาที่รกั ประชาชนทกุ คน ไม่วา่ จะอาศยั อยู่ส่วนใดของประเทศ พระองคท์ รงเอาใจใส่ บาบัดทุกข์ บารุงสขุ ใหแ้ กป่ ระชาชนทกุ หมู่เหล่า และยงั เผ่อื แผ่ไปยงั มติ รประเทศอกี ด้วย ขอพระองคท์ รงเจรญิ ยิง่ ยืนนานเทอญ”
17 ชือ่ นางมนดิ า เสมสฤษดิ์ ทอ่ี ยู่ 4/2 ม.6 ต.ราพัน อ.ทา่ ใหม่ จ.จนั ทบุรี การศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 สถานภาพ สมรส สถานภาพทางสังคม – ช่อื กล่มุ กล่มุ ผักอนามยั ปลอดภัยสารพิษ สมาชิก 10 ราย สถานท่ี งานวิชาการเกษตรยางตอกทอย ประธานกล่มุ นายสมคิด ศรีคงรักษ์ การดาเนินงานกจิ กรรมการผลิตผกั ปลอดภยั สารพษิ ดาเนินการปลกู ผกั ชนิดต่างๆหมนุ เวียนตามฤดูกาล เชน่ พรกิ ขี้หนู ถัว่ ฝกั ยาว โหร ะพา กระเพรา มะเขอื มะระ ถ่ัวพู เป็นตน้ โดยใชเ้ ทคโนโลยีการผลิตพชื ปลอดภยั สารพิษและมีการ ผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพใช้เองภายในกล่มุ จานวน 10,000 กิโลกรมั ผลสมั ฤทธ์ิ เกษตรกรสามารถผลติ ผกั ปลอดภัยสารพษิ ออกจาหน่ายไดเ้ กือบตลอดทัง้ ปี สร้างรายได้ เสริมใหก้ ับครอบครัวเฉลยี่ รายละประมาณ 25,000 บาท/ปี ความภาคภมู ใิ จในชีวติ ทอี่ ยใู่ ตร้ ่มพระบารมี ตั้งแต่ไดร้ ับการสง่ เสริมสนับสนุนจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอา่ วคงุ้ กระเบน อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ทาใหค้ ุณภาพชวี ติ ครอบครัวดขี น้ึ และดใี จมากทไี ดเ้ กิดเป็นคนไทยใน แผ่นดินไทย ทีม่ พี ระเจา้ อยหู่ ัวทรงห่วงใยประชาชน และจะยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ พระองค์ได้สอนไวเ้ ป็นแนวทางในการดาเนนิ ชวี ิตต่อไป
18 ชอ่ื นายสราญพงศ์ จงใจจิตร ที่อยู่ 6/5 ม. 5 ต.คลองขุด อ. ท่าใหม่ จ. จันทบุรี การศกึ ษา ปริญญาตรี แรงบนั ดาลใจ แต่เดิมมีอาชพี เปน็ พนกั งานรายเดอื นและต่อมาได้ลาออก เพราะต้องการการประกอบ อาชีพส่วนตวั โดยเลอื กท่จี ะทาการเกษตรผสมผสาน ตามแนวทางพระราชดาริของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว โดยไดเ้ ขา้ มาศกึ ษาหาความรู้ทศี่ นู ย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ ได้เร่มิ ทดลองปลกู มะนาวนอกฤดูกาล ปลกู พืชผักหมนุ เวียน รวมไป ถึงการเพาะเห็ดเศรษฐกิจ ซ่งึ สามารถสร้างรายไดป้ ระมาณ 25,000-30,000 บาท/เดอื น ทาใหผ้ ม ร้สู ึกมีความภาคภูมิใจและเขา้ ใจถึงพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั มากยิ่งขึ้น มาถึงวนั น้ผี มเข้าใจแลว้ วา่ ศูนย์ศึกษาการพฒั นาอา่ วค้งุ กระเบน อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ ไดน้ า ความสุขและความเจรญิ มาสคู่ รอบครวั ของผมอยา่ งงดงาม กระบวนการดาเนนิ งาน/กิจกรรม - ปลูกมะนาวนอกฤดูกาล - ปลูกพืชผักหมุนเวยี น - การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ เคลด็ ลับความสาเร็จ - น้อมนาแนวทางพระราชดาริมาสู่การปฏบิ ตั ิ - ตอ้ งมคี วามพอเพยี ง พอประมาณ - ไมท่ าอะไรโดยมองทป่ี ระโยชน์สว่ นตนเพียงอยา่ งเดียว ผลท่ไี ด้รบั - ครอบครวั มรี ายได้เพมิ่ มากขึ้น - มีพชื ผักท่ปี ลอดภยั ไว้บรโิ ภคอยา่ งเพียงพอ - มคี วามสุขกับการประกอบอาชีพของตนเอง - ความพอเพยี งสอนเรามีวินัยในการใช้จา่ ยและอดออม
19 เอกสารอา้ งองิ สาลี่ ชินสถิต.2552. การผลติ พืชอนิ ทรีย,์ สานักวจิ ยั และพัฒนาการเกษตร เขตท6ี่ กรมวชิ าการ เกษตร, 74 หนา้ .
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: