Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มใบงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูระหว่างเรียน 1 ของนายณัฐนนท์ ทองประพันธุ์

เล่มใบงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูระหว่างเรียน 1 ของนายณัฐนนท์ ทองประพันธุ์

Published by Guset User, 2021-12-08 08:52:35

Description: หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมใบงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูระหว่างเรียน 1 ของนายณัฐนนท์ ทองประพันธุ์ รหัสนักศึกษา 6412106026

Keywords: Prac 1

Search

Read the Text Version

ใบงานการปฏบิ ตั งิ าน การฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู ชดุ วชิ า “การฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชีพครรู ะหวา่ งเรียน 1 (Practicum 1)” ฝึ กท่โี รงเรียนกำแพงดินพทิ ยำคม ตำบลกำแพงดนิ อำเภอสำมง่ำม จังหวดั พจิ ิตร นายณัฐนนท์ ทองประพันธ์ุ รหัสนักศึกษา 6412106026 คณะครศุ าสตร์ สาขาวชิ าคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพบิ ลู สงคราม

คำนำ แฟ้มสะสมผลงานเลม่ น้ีจดั ทำข้ึนเพ่อื เป็นส่วนหน่ึงของงานรายวิชา EDUC 191 การฝกึ ปฏบิ ัตวิ ิชาชพี ครรู ะหว่างเรียน 1 (Practicum1) ซึ่งเปน็ รายวชิ าที่ 1 ตามหลกั สตู รครศุ าสตรบ์ ณั ฑิต มหาวิทยาลยั ราชภัฏ พบิ ลู สงคราม แฟ้มสะสมผลงานเลม่ นเี้ ป็นการรวบรวมใบงานประกอบการฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครูระหวา่ ง เรยี น 1 ทง้ั นข้ี า้ พเจ้าขอขอบพระคณุ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นกาํ แพงดนิ พิทยาคม นายวฑิ ูรย์ คำจรงิ ทเ่ี ปดิ โอกาสให้ข้าพเจ้าไดม้ าฝึกปฏบิ ัติวิชาชีพครู และขอขอบพระคุณ คณุ ครนู งลักษณ์ สวา่ งเมฆ คุณครูพีเ่ ลีย้ ง ที่ คอยดแู ลให้คำแนะนำในการฝึกปฏิบัติงานวชิ าชพี ครแู ละคอยดแู ลในเรอ่ื งต่างๆ และสุดทา้ ยนี้ขอขอบพระคณุ ท่านอาจารย์ รศ.ดร.ภคั พล ปรชี าศลิ ป์ อาจารย์นิเทศก์ ที่ให้คำแนะนำในการออกฝกึ ปฏิบัติวิชาชีพครรู ะหว่าง เรยี น 1 และการจัดทำแฟ้มสะสมผลงานนี้ใหส้ ำเร็จไปไดด้ ว้ ยดี ณฐั นนท์ ทองประพันธุ์ นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู

ใบงานที่ 1 แบบบนั ทกึ การวเิ คราะหต์ นเอง คำช้ีแจง ให้นกั ศึกษาบันทึกผลการวิเคราะห์ตนเอง ในประเดน็ ดังตอ่ ไปนี้ 1. ความใฝ่ฝันอยากเปน็ ครู ความใฝ่ฝันท่ีผมอยากเป็นครู เพราะผมได้พบเห็นและได้สัมผสั วา่ “ครู” คือ ผูใ้ ห้ ให้ทง้ั ความรู้ ความ รัก ความมเี มตตากับนักเรียนทกุ คน และนักเรยี นทกุ คนกต็ ้องการความรไู้ ปประกอบอาชีพในอนาคต รวมถึง ความรทู้ จ่ี ะทำให้พวกเขาสามารถใชช้ วี ิตในทุกๆวนั ได้อย่างมีความสุข ครูจึงมคี วามสำคญั อยา่ งมากในการ พฒั นาเดก็ ๆให้เตบิ โตอย่างมคี ุณภาพ ทำใหผ้ มมีความฝันที่อยากเป็นครู 2. ความรกั และศรทั ธาในวชิ าชพี ครู ผมมองวา่ ไม่ว่าเราจะประกอบอาชีพใด เราต้องรักและศรทั ธาในวิชาชีพนนั้ ดงั นั้นผมจึงมองว่าคนท่ี จะประกอบอาชีพครูตอ้ งตะหนกั ร้รู กั และซ่ือสตั ยต์ ่อวชิ าชีพครู 3. ทัศนคติท่ดี ีตอ่ วชิ าชีพครู วชิ าชีพครเู ปน็ วิชาชีพที่สจุ รติ และควรคา่ แก่การเคารพนบั ถือ เป็นวชิ าชพี ที่จะมอบความรู้ความรกั ใหก้ ับนักเรียนโดยไมห่ วังสิ่งตอบแทนใดๆ เปน็ อาชีพทีน่ ่าเช่ือถือและเปน็ อาชพี ที่มีความสำคญั ตอ่ ประเทศ เพราะครูคือผู้ใหค้ วามร้แู ละพัฒนามนุษย์ใหเ้ ติบโตอย่างมีคุณภาพ 4. ความสนใจเร่อื งราวเก่ียวกับครู (การติดตามข้อมูลข่าวสารเก่ยี วกบั ครู) ผมได้ตดิ ตามข่าวสารเกย่ี วกบั ครผู า่ นทางส่ือออนไลน์ต่างๆ และประกาศทางช่องทางต่างๆของ มหาวทิ ยาลัยทีเ่ ก่ียวกับการสอบรบั ใบประกอบวชิ าชพี ครูและการสอบบรรจุครผู ู้ชว่ ย 5. การเตรียมพร้อมสู่ความเป็นครู การเตรยี มความพร้อมของผม คือ การตง้ั ใจเรียน การอ่านหนงั สือเพ่ือเตรยี มสำหรับการสอบรับใบ ประกอบวชิ าชีพครู วางแผนการอ่านหนงั สือสำหรับการสอบบรรจคุ รูผู้ชว่ ยในอนาคต ศึกษาภาษาอังกฤษจาก สอ่ื ออนไลน์ตา่ งๆเพื่อเตรยี มการสอบ toeic และศึกษาสังเกตหนา้ ที่การทำงานของครูในแตล่ ะวัน 6. สามารถนำผลจากการเรียนร้ใู นสถานศึกษามารว่ มแลกเปลยี่ นเรียนรู้กบั เพ่ือนรว่ มชนั้ เรียน ไดอ้ ยา่ งไร พูดคยุ กบั เพ่ือนแลกเปลีย่ นเรียนรู้เกยี่ วกับการออกฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครูผา่ นทางออนไลน์ พดู คุยในประเดน็ การจดั การเรยี นการสอนในช่วงสถานการณโ์ รคโควิด-19

ใบงานที่ 2 การสังเกต การปฏิบตั หิ น้าท่ีครู สาระสำคัญ ครมู คี วามรักและศรัทธาในวชิ าชพี ครู ปฏบิ ตั ิตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู ปฏบิ ตั ติ ามบทบาท หน้าท่คี รูผสู้ อนและครูประจำช้ันไดอ้ ย่างเหมาะสม วตั ถุประสงค์ 1. แสดงพฤติกรรมทส่ี ะท้อนถึงการมจี ิตวิญญาณความเป็นครู 2. ระบบุ ทบาทหน้าทขี่ องครูผู้สอนและครูประจำชัน้ ในการชว่ ยเหลอื และพัฒนาผเู้ รยี น เน้ือหาสาระ 1. ความรักและศรัทธาในวชิ าชีพครู 2. จรรยาบรรณและวินัยครู 3. บทบาทหน้าที่ครูผ้สู อนและครูประจำชน้ั กิจกรรมการเรียนการสอน 1. ศกึ ษาเอกสารเกยี่ วกบั บทบาทหน้าที่ครูผสู้ อนและครปู ระจำชนั้ จรรยาบรรณวิชาชีพครู 2. สนทนา อภิปราย แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับคณุ ลักษณะท่ีดีของครตู ามจรรยาบรรณวิชาชพี ครู ความรกั และศรัทธาในวชิ าชีพครู 3. กำหนดหัวขอ้ สำหรับการศึกษาสงั เกตและสรุปลงในแบบบันทกึ 4. นำผลการศึกษาสังเกตมานำเสนอเพื่ออภปิ รายในช้ันเรียน สอื่ การเรียนรู้ 1. แบบบนั ทึกการสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิหน้าที่ครู 2. เอกสารประกอบการศกึ ษาดว้ ยตนเอง การวดั ประเมินผล 1. ตรวจแบบบันทึกการสงั เกต 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการให้ความรว่ มมอื ในชนั้ เรยี น

1.วธิ ีการแสดงออกทีใ่ ห้เห็นถงึ ความรักและความศรทั ธาในวิชาชพี ครู ปฏิบตั หิ น้าทีอ่ ยา่ งเต็มความสามารถ มอบท้งั ความรคู้ วามรกั ความอบอุ่นใหก้ บั ลูกศษิ ย์ และปฏบิ ัติ ตามกฎระเบียบ 2. การปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณและวินัยครูผสู้ อนและครูประจำชนั้ ตา่ งๆ ดงั น้ี 2.1 จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง คุณครมู กี ารพฒั นาตนเองอยู่เสมอไมว่ ่าจะเปน็ การจดั การเรยี นการสอนที่คุณครูมีการหากิจกรรมมา ใช้จัดการเรยี นการสอนในห้องเรยี นใหม้ คี วามหลากหลายมากขึ้น คุณครูแต่งกายสุภาพเรียบรอ้ ยและดูแล ตัวเอง 2.2 จรรยาบรรณตอ่ วิชาชพี คุณครูมคี วามรักและศรัทธาตอ่ วชิ าชีพ ไมป่ ระพฤติตนใหเ้ สอ่ื มเสยี ชอ่ื เสียง ปฏบิ ัติตนอยใู่ น กฎระเบียบ และปฏบิ ัติหนา้ ท่ีอย่างเตม็ ความสามารถ 2.3 จรรยาบรรณต่อผรู้ บั บรกิ าร คณุ ครใู หค้ วามรแู้ ละใหค้ ำปรึกษาช่วยเหลอื นักเรียนดว้ ยความเตม็ ใจ ให้ความรกั ความอบอนุ่ กับ นกั เรยี น คอยซักถามนกั เรียนอยู่เสมอเมอื่ นักเรยี นมีอาการที่กังวลใจ และปฏบิ ัติหนา้ ท่สี อนนักเรียนอย่างเต็ม ความสามารถ 2.4 จรรยาบรรณตอ่ ผู้ร่วมประกอบวชิ าชพี คุณครชู ว่ ยเหลอื กนั ในเรอื่ งตา่ งๆด้วยความเต็มใจเม่ือมีคณุ ครูทา่ นใดขอความช่วยเหลอื ทัง้ งานราชการ งานพิเศษ และเรื่องท่วั ไป และคณุ ครูยงั ให้เกียรติซง่ึ กนั และกัน 2.5 จรรยาบรรณตอ่ สงั คม คณุ ครใู หค้ วามร่วมมือเขา้ ร่วมกิจกรรมกับชุมชน เช่น เมือ่ วนั ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 คุณครูไดเ้ ข้า รว่ มงานบุญกฐินที่วดั กำแพงดิน พรอ้ มกบั คุณครูทุกท่าน นักเรียน และชาวบา้ นในชุมชน 3. บทบาทหนา้ ที่ของครผู ู้สอนและครูประจำช้ันดา้ นต่างๆ ดงั น้ี 3.1 ความรบั ผดิ ชอบของครู คณุ ครปู ฏิบตั ติ ามหน้าทท่ี ีไ่ ด้รบั มอบหมายทัง้ งานราชการ งานพิเศษและดูแลนักเรยี นทง้ั หอ้ งที่เป็นครู ประจำชน้ั และห้องท่ีไม่ได้เปน็ ครปู ระจำช้นั คณุ ครูมกี ารเตรียมความพร้อมกอ่ นทจ่ี ะเขา้ ทำการสอน 3.2 การเอาใจใส่ สง่ เสรมิ ผู้เรยี นตามความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล คณุ ครสู อบถามนกั เรียนเปน็ รายบคุ คลเมื่อเหน็ นกั เรยี นมีปัญหาหรอื มีเรือ่ งกงั วลใจคณุ ครูกพ็ ร้อมท่จี ะ เขา้ ไปสอบถามและยนื่ มอื เข้าไปชว่ ยเหลอื ทุกเมื่อ 3.3 การปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างที่ดแี กผ่ เู้ รยี น

คุณครูแตง่ กายสุภาพเรียบรอ้ ย มาปฏิบตั งิ านตรงตามเวลา พดู จาไพเราะ ย้ิมแย้มแจ่มใส และการ เคารพผู้ที่อาวุโสกวา่ 3.4 การสรา้ งแรงบนั ดาลใจใหก้ บั ผ้เู รียน คุณครูพดู คุยกระตุน้ ให้นกั เรยี นช่างสงั เกต พานักเรียนจดั มมุ สง่ เสรมิ การฝกึ ทักษะการคดิ ลงมือทำให้ นกั เรยี นดูเปน็ ตวั อยา่ ง จัดกจิ กรรมทก่ี ระตุ้นความกระตอื รือร้นของนกั เรียน

ใบงานท่ี 3 การสงั เกตการจดั การเรียนรูข้ องครู วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือใหน้ กั ศึกษาสังเกตการควบคุมชนั้ เรยี นของครูผูส้ อน 2. เพือ่ ใหน้ กั ศึกษาสงั เกตการจดั การเรียนรขู้ องครูผู้สอน เพ่อื ใหน้ ักศึกษานำส่ิงที่ได้จากการสงั เกต การควบคมุ ชน้ั เรียน และการจัดการเรยี นรู้ของครูผู้สอนมาเป็นแนวทางในการจัดการเรยี นรู้ ของตนเอง 3. เพอ่ื ใหน้ ักศึกษาสังเกตและฝกึ ทักษะการแกป้ ัญหาเฉพาะหน้า ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทกึ ตามประเด็น ดงั นี้ 1. สังเกตเทคนคิ การควบคุมชนั้ เรียนของครผู ้สู อน 2. สังเกตการจดั การเรียนรู้ของครูผสู้ อน 3. นำส่งิ ท่ไี ดจ้ ากการสงั เกตการควบคมุ ช้นั เรยี น และการจัดการเรียนรู้ของครผู สู้ อนมาประยุกต์ใช้ ในการจัดการเรยี นรู้ 4. สงั เกตปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรียนรู้ของครผู ู้สอน และเทคนิคแนวทางในการแก้ไขปญั หา ผู้เกีย่ วข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ผอู้ ำนวยการ / รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2. ครูผสู้ อน / ครูพี่เลย้ี ง / นกั เรียน หมายเหตุ สงั เกต 3 คร้งั ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครงั้

แบบสงั เกตการจดั การเรียนรู้ ครั้งท่ี 1 โรงเรียนกำแพงดนิ พิทยาคม ระดับชั้น ม.2/1 รายวิชา คณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค22102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต วนั ที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 8.30 น. – 11.10 น. จำนวน 2 ชัว่ โมง 40 นาที ครูผู้สอน คุณครูนงลกั ษณ์ สวา่ งเมฆ ประเดน็ รายละเอียด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนแบบ 5E ด้านท่ี 2 การใชจ้ ิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ ครูใช้นำ้ เสียงทอี่ อ่ นโยนชวนให้นกั เรยี นสนใจ ใช้คำสุภาพ เพือ่ ให้ นกั เรียนเกดิ ความเคารพตอ่ ครู ดา้ นที่ 3 สงั เกตการจัดการเรียนรู้ - ข้ันนำ ครพู ูดคุยทกั ทายและเชค็ ชอื่ นักเรยี น ชี้แจงรายละเอยี ด ทบทวนเรื่องทเ่ี รียนมา - ขัน้ สอน เริ่มการสอนหรือเขา้ สู่บทเรยี น ใช้วิธสี อนแบบบรรยาย มีการยกตวั อย่างประกอบในแต่ละหัวขอ้ มีส่อื การสอน ครูจะคอยถามคำถามเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี น - ข้นั สรุป มีแบบฝึกหดั เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน ดา้ นที่ 4 ปญั หาทพ่ี บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาท่พี บในการจดั การเรยี นรู้ นักเรยี นเขา้ เรยี นสาย การแก้ไขปญั หาในชั้นเรียนของครผู ้สู อน ครูตกั เตือนนักเรียนเพ่อื ใหน้ กั เรียนปรบั พฤตกิ รรมการเข้าเรยี น ด้านที่ 5 ครมู รี ายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น มกี ารรายงานผลผา่ นการทำวจิ ัยเพอ่ื พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิของผ้เู รียน ในรูปแบบการศกึ ษารายกรณหี รอื ไม่ อย่างไร ด้านที่ 6 สิ่งท่ีไดร้ บั / การประยุกต์ใช้ การใช้น้ำเสียงและถ้อยคำท่ีทำนกั เรียนเกดิ ความเคารพ และสนใจใน บทเรยี น หมายเหตุ สังเกตการสอนแบบออนไลน์

แบบสงั เกตการจัดการเรยี นรู้ ครัง้ ท่ี 2 โรงเรยี นกำแพงดินพิทยาคม ระดับชัน้ ม.6 รายวชิ า คณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค33102 จำนวน 1 หน่วยกติ วันที่ 22 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 10.20 น. – 12.00 น. จำนวน 1 ช่ัวโมง 40 นาที ครูผู้สอน คุณครนู งลกั ษณ์ สวา่ งเมฆ ประเดน็ รายละเอียด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนแบบ 5E ด้านที่ 2 การใช้จิตวิทยาในการจดั การเรียนรู้ ครใู ช้น้ำเสยี งทอี่ ่อนโยน และจะใชค้ ำถามกระตนุ้ ความสนใจของ นักเรยี นอยู่เสมอ ด้านที่ 3 สังเกตการจดั การเรยี นรู้ - ขน้ั นำ ครพู ูดคุยทกั ทายและเชค็ ชอื่ นกั เรยี น ชแี้ จงรายละเอยี ด ทบทวนเรื่องทีเ่ รยี นมา (เฉลยแบบฝึกหัด) กจิ กรรมถามตอบเพอ่ื เชอ่ื มโยงเข้าสบู่ ทเรียน - ข้นั สอน เริม่ การสอนหรือเขา้ สบู่ ทเรียน ใชว้ ิธสี อนแบบบรรยาย มกี ารยกตวั อย่างประกอบในแต่ละหวั ข้อ มีสอื่ การสอน ครูจะคอยถามคำถามเพอ่ื กระต้นุ ความสนใจของนักเรียน - ขนั้ สรุป คณุ ครสู ุม่ นักเรียนมา 1 คนเพือ่ ถอดบทเรียนใหเ้ พอ่ื นๆฟัง มแี บบฝึกหดั เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน ดา้ นที่ 4 ปญั หาที่พบ / แนวทางแก้ไข ปัญหาที่พบในการจดั การเรยี นรู้ มเี สียงรบกวนเน่อื งจากมีภารโรงมาตดั หญ้าขา้ งหอ้ งท่คี รสู อน การแก้ไขปัญหาในชั้นเรยี นของครผู ู้สอน ครูพดู เสยี งดงั ขึ้นเพื่อใหน้ กั เรยี นไดย้ นิ ดา้ นท่ี 5 ครมู ีรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น มกี ารรายงานผลผ่านการทำวจิ ยั เพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธิข์ องผู้เรยี น ในรปู แบบการศกึ ษารายกรณหี รือไม่ อยา่ งไร ด้านที่ 6 สง่ิ ทไ่ี ด้รบั / การประยุกตใ์ ช้ การแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า เช่น เม่ือมีเสยี งมารบกวนขณะทำการ เรยี นการสอนแล้วทำให้นักเรยี นไดย้ ินเสยี งเราไม่ชดั เราจะตอ้ งพดู เสยี งใหด้ งั ข้นึ หมายเหตุ สังเกตการสอนแบบออนไลน์

แบบสังเกตการจดั การเรยี นรู้ คร้งั ท่ี 3 โรงเรียนกำแพงดนิ พิทยาคม ระดับช้นั ม.1/1 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค21202 จำนวน 1 หนว่ ยกติ วนั ท่ี 24 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.20 น. – 12.00 น. จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที ครผู ้สู อน คณุ ครนู งลักษณ์ สวา่ งเมฆ ประเด็น รายละเอยี ด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการเรยี นการสอนยดึ ผเู้ รยี นเป็นศูนย์กลาง CIPPA Model ดา้ นที่ 2 การใช้จิตวิทยาในการจดั การเรียนรู้ ครูใช้กิจกรรมมาดงึ ดดู ความสนใจของนกั เรียน ด้านท่ี 3 สังเกตการจดั การเรียนรู้ - ขัน้ นำ ครูพดู คยุ ทกั ทายและเช็คชอ่ื นกั เรยี น ชแี้ จงรายละเอยี ด เฉลยแบบฝกึ หดั - ขั้นสอน มกี ารจดั กจิ กรรม โดยจะแบ่งกลมุ่ นกั เรียนออกเปน็ 7 กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน จากนัน้ ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยกจิ กรรมจะสอดแทรกเนือ้ หา ของบทเรียนและช่วยให้นักเรยี นสามารถใชท้ ักษะการคดิ ไดด้ ียิง่ ข้ึน และการจดั กจิ กรรมแบบแบ่งกลุ่มจะช่วยใหน้ ักเรียนเกิดความ สามัคคกี นั - ขั้นสรปุ ครูให้ตัวแทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมาพูดบอกเพือ่ นๆ วา่ ไดร้ ับอะไร จากการทำกิจกรรมน้ี ด้านท่ี 4 ปัญหาทพี่ บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาท่พี บในการจดั การเรยี นรู้ มนี ักเรยี นบางคนทีย่ ังคดิ หรอื ทำไมไ่ ด้ ซึ่งจะทำให้กลุ่มนั้นสง่ คำตอบ ได้ช้า การแกไ้ ขปัญหาในชั้นเรียนของครผู สู้ อน ครูเขา้ ไปสอนแบบเจาะจงรายบคุ คล(คนท่ยี ังทำไมไ่ ด)้ และใหเ้ พ่อื น ในกลุม่ ช่วยสอน ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน มกี ารรายงานผลผ่านการทำวิจัยเพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธข์ิ องผ้เู รยี น ในรปู แบบการศึกษารายกรณีหรอื ไม่ อยา่ งไร ดา้ นท่ี 6 สิง่ ท่ไี ดร้ บั / การประยกุ ต์ใช้ การดึงดูดความสนใจในการเรยี น โดยการนำกจิ กรรมทีส่ อดแทรก เน้ือหาและเสรมิ ทกั ษะตา่ งๆมาจดั ในห้องเรียน

แบบสงั เกตการจัดการเรียนรู้ ครง้ั ท่ี 4 โรงเรียนกำแพงดนิ พิทยาคม ระดบั ชน้ั ม.2/1 รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค22102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต วันท่ี 25 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 8.30 น. – 11.10 น. จำนวน 2 ช่ัวโมง 40 นาที ครผู สู้ อน คุณครูนงลักษณ์ สว่างเมฆ ประเด็น รายละเอียด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการเรยี นการสอนยดึ ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลาง CIPPA Model ด้านที่ 2 การใชจ้ ติ วทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ ครูนำ้ เสียงชวนใหน้ กั เรียนสนใจ และใชก้ ิจกรรมมาดึงดูดความสนใจ ของนกั เรยี น ดา้ นท่ี 3 สงั เกตการจดั การเรียนรู้ - ข้นั นำ ครูพูดคุยทกั ทายและเช็คชื่อนกั เรยี น ชี้แจงรายละเอยี ด ตรวจเช็คว่าใครไมไ่ ดส้ ง่ การบา้ นพร้อมทำโทษ เฉลยแบบฝึกหัด(การบา้ น)เพื่อทบทวนบทเรยี น - ขนั้ สอน ใชว้ ิธีสอนแบบบรรยาย มกี ารยกตวั อยา่ งประกอบในแต่ละหวั ข้อ มสี ือ่ การสอน ครจู ะคอยถามคำถามเพอื่ กระตุ้นความสนใจของนักเรยี น และ เพอ่ื ทีจ่ ะไดร้ วู้ า่ นกั เรยี นเขา้ ใจมากน้อยเพียงใด มีกิจกรรมที่สอดแทรกเนื้อหาของบทเรยี น - ขน้ั สรุป ครใู หต้ ัวแทนของแตล่ ะกลุ่มออกมาพดู บอกเพ่ือนๆ วา่ ไดร้ ับอะไร จากการทำกจิ กรรมนี้ มีแบบฝกึ หดั ให้ทำเพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจ ดา้ นที่ 4 ปญั หาท่พี บ / แนวทางแก้ไข ปัญหาท่พี บในการจดั การเรียนรู้ นักเรยี นไม่ฟงั คณุ ครแู ละพดู คุยเสยี งดัง การแกไ้ ขปญั หาในชั้นเรียนของครผู สู้ อน ครูจะใช้นำ้ เสียงท่ดี ังขนึ้ เพอื่ ควบคุมใหน้ ักเรยี นมีสมาธใิ นการเรยี น และเตือนนักเรียนวา่ หากนกั เรยี นพูดคุยเสยี งดังอีกจะถูกทำโทษ ดา้ นท่ี 5 ครมู ีรายงานผลการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน มกี ารรายงานผลผา่ นการทำวิจัยเพอ่ื พฒั นาผลสมั ฤทธ์ิของผเู้ รยี น ในรปู แบบการศกึ ษารายกรณีหรอื ไม่ อย่างไร ดา้ นท่ี 6 สง่ิ ท่ไี ด้รบั / การประยกุ ตใ์ ช้ การควบคุมชั้นเรียน หากนักเรียนไม่ฟงั หรือพูดคุยเสยี งดงั เรา จะต้องรจู้ ักการคุมนกั เรยี นและวา่ กลา่ วตกั เตือน

แบบสังเกตการจัดการเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 5 โรงเรยี นกำแพงดนิ พิทยาคม ระดบั ช้ัน ม.2/2 รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค22102 จำนวน 1.5 หน่วยกิต วันที่ 26 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 9.20 น. – 12.00 น. จำนวน 2 ชวั่ โมง 40 นาที ครผู ู้สอน คณุ ครนู งลักษณ์ สวา่ งเมฆ ประเด็น รายละเอยี ด ด้านที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการจดั การเรยี นการสอนแบบ 5E ด้านที่ 2 การใช้จติ วทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ ครสู ร้างความเปน็ กนั เองกบั นกั เรยี น เพื่อให้นักเรียนกล้าที่จะถาม- ตอบกับครู ด้านท่ี 3 สงั เกตการจดั การเรียนรู้ - ขัน้ นำ ครพู ดู คยุ ทักทายและสร้างความคนุ้ เคยแก่นกั เรยี น เช็คชื่อนักเรียน ชี้แจงรายละเอยี ด ทบทวนเรือ่ งที่เรยี นมา (เฉลยแบบฝกึ หัด) - ขน้ั สอน เริม่ การสอนหรอื เข้าสบู่ ทเรยี น ใช้วธิ สี อนแบบบรรยาย มีการยกตวั อยา่ งประกอบในแต่ละหวั ขอ้ มสี ื่อการสอน เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนมีส่วนรว่ มกับการสอนของครู โดยใหน้ กั เรียนออกมาเขยี นบนกระดานไวทบ์ อรด์ หนา้ ห้องเรียน - ข้นั สรปุ มแี บบฝกึ หดั ท้ายบทเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน ด้านที่ 4 ปญั หาที่พบ / แนวทางแก้ไข ปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรยี นรู้ นกั เรยี นบางคนเรยี นไมท่ นั เพื่อน(ไมเ่ ขา้ ใจ) การแกไ้ ขปัญหาในชน้ั เรยี นของครผู สู้ อน ครสู อนเด็กเป็นรายบคุ คล(คนทไ่ี มเ่ ข้าใจ) เพ่อื ใหน้ กั เรียนเหลา่ น้ีเรยี น ทนั เพอื่ น ด้านที่ 5 ครูมรี ายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียน มีการรายงานผลผ่านการทำวิจัยเพื่อพัฒนาผลสมั ฤทธ์ขิ องผู้เรียน ในรปู แบบการศึกษารายกรณีหรือไม่ อยา่ งไร ดา้ นที่ 6 สิ่งท่ไี ด้รับ / การประยุกตใ์ ช้ วธิ ีการท่จี ะทำให้นกั เรยี นกลา้ ถาม-ตอบกบั คณุ ครู โดยการสร้างความ เป็นกันเองกบั นกั เรียน และเปดิ โอกาสให้นักเรยี นไดอ้ อกมามีสว่ น ร่วมกับการสอนของครู

แบบสังเกตการจดั การเรยี นรู้ คร้งั ที่ 6 โรงเรียนกำแพงดินพิทยาคม ระดบั ชนั้ ม.6 รายวิชา คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค33102 จำนวน 1 หนว่ ยกิต วนั ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.20 น. – 12.00 น. จำนวน 1 ชวั่ โมง 40 นาที ครูผู้สอน คณุ ครูนงลกั ษณ์ สวา่ งเมฆ ประเดน็ รายละเอยี ด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการเรียนการสอนยดึ ผเู้ รยี นเป็นศูนย์กลาง CIPPA Model ดา้ นที่ 2 การใช้จิตวทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ ครูใชน้ ้ำเสยี งท่อี อ่ นโยนพูดคยุ เปน็ กนั เองกับนักเรยี น เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น รับฟังและให้ความร่วมมอื ในการเรียนการสอน ดา้ นท่ี 3 สงั เกตการจดั การเรยี นรู้ - ข้นั นำ ครพู ูดคุยทักทายและเช็คชอ่ื นักเรยี น ชแ้ี จงรายละเอยี ด เฉลยแบบฝึกหัดและเปน็ การทบทวนบทเรยี น พดู นำเขา้ สบู่ ทเรยี น และบอกรายละเอียดของกจิ กรรมท่ีจะทำใน คาบเรยี นน้ี - ข้ันสอน ทำกจิ กรรมร่วมกันในชัน้ เรยี น โดยจะมีการแบ่งกล่มุ และให้หัวขอ้ ท่ี แตกตา่ งกนั ไป เปน็ กิจกรรมทส่ี อดแทรกเน้ือหาของบทเรียน - ขนั้ สรปุ ใหต้ วั แทนของนักเรยี นออกมาสรปุ กิจกรรม ว่าไดอ้ ะไรจากการทำ กิจกรรม สรปุ เน้อื หาบทเรยี นในกจิ กรรม มแี บบฝึกหดั ทา้ ยบทเพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน ด้านท่ี 4 ปญั หาท่ีพบ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ นกั เรยี นบางคนไมไ่ ด้เข้าเรยี นในคาบกอ่ น ทำให้ไมเ่ ขา้ ใจและทำ กจิ กรรมไมไ่ ด้ การแกไ้ ขปัญหาในชน้ั เรยี นของครผู สู้ อน ครใู ห้เพ่ือนท่เี ขา้ ใจในบทเรียนแลว้ ชว่ ยสอนให้เพือ่ นท่ยี ังไม่เข้าใจ ด้านท่ี 5 ครมู รี ายงานผลการพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น มกี ารรายงานผลผ่านการทำวจิ ยั เพ่ือพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ของผู้เรียน ในรูปแบบการศกึ ษารายกรณีหรือไม่ อยา่ งไร ด้านที่ 6 ส่ิงทไ่ี ดร้ ับ / การประยกุ ตใ์ ช้ การนำกจิ กรรมแบบแบง่ กลมุ่ มาจดั ในชนั้ เรยี น ช่วยฝึกการทำงาน รว่ มกันใหก้ ับนกั เรยี น ได้ชว่ ยกันคดิ ชว่ ยกนั ทำ

แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ ครั้งท่ี 7 โรงเรียนกำแพงดนิ พิทยาคม ระดบั ช้ัน ม.5/2 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค32102 จำนวน 1 หน่วยกิต วันท่ี 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา 8.30 น. – 10.10 น. จำนวน 1 ช่วั โมง 40 นาที ครูผู้สอน คุณครอู ารมณ์ พงษ์พานิช ประเดน็ รายละเอียด ด้านที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการจดั การเรยี นการสอนแบบ 5E ดา้ นที่ 2 การใช้จิตวิทยาในการจดั การเรียนรู้ ครสู รา้ งความเปน็ กันเองกบั นกั เรียน เพอื่ ใหน้ กั เรียนกล้าทจี่ ะถาม- ตอบกบั ครู ดา้ นท่ี 3 สังเกตการจัดการเรียนรู้ - ขัน้ นำ ครพู ูดคยุ ทกั ทายและเช็คช่ือนกั เรยี น ชีแ้ จงรายละเอยี ด ทบทวนเรือ่ งทเี่ รยี นมา (เฉลยแบบฝึกหดั ) - ขั้นสอน เริ่มการสอนหรือเขา้ สู่บทเรียน ใชว้ ธิ สี อนแบบบรรยาย ครจู ะยกตวั อยา่ งประกอบในแตล่ ะหัวขอ้ โดยเขยี นบนไวทบ์ อรด์ แลว้ ถามคำถามนักเรยี นอยเู่ สมอ เพอ่ื ให้ นกั เรยี นสนใจ - ขั้นสรุป มีแบบฝกึ หดั ทา้ ยบทเพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจและเป็นคะแนนเก็บ ของนกั เรียน ดา้ นที่ 4 ปัญหาทีพ่ บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาท่พี บในการจัดการเรียนรู้ นกั เรยี นพดู คยุ เสยี งดงั และวนุ่ วาย การแกไ้ ขปัญหาในช้นั เรียนของครผู ู้สอน ครูใชน้ ำ้ เสียงทดี่ ังและว่าเตือนเปน็ รายบุคคล(คนทีด่ งั ) ดา้ นท่ี 5 ครมู รี ายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รยี น มีการรายงานผลผ่านการทำวจิ ยั เพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธ์ิของผเู้ รียน ในรูปแบบการศกึ ษารายกรณหี รอื ไม่ อย่างไร ดา้ นที่ 6 สง่ิ ทไ่ี ดร้ บั / การประยกุ ตใ์ ช้ วิธกี ารควบคุมช้นั เรยี น การเปน็ กนั เองกับนักเรียนมากเกินไปอาจจะ ทำให้นักเรยี นทำอะไรไม่เกรงใจครู เราต้องรู้จักว่ากลา่ วตักเตือน นกั เรยี นเมอื่ นกั เรยี นไมส่ นใจและสรา้ งความวนุ่ วาย

แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ ครั้งท่ี 8 โรงเรยี นกำแพงดินพิทยาคม ระดับชั้น ม.1/1 รายวชิ า คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค21202 จำนวน 1 หน่วยกิต วันท่ี 1 ธันวาคม 2564 เวลา 10.20 น. – 12.00 น. จำนวน 1 ช่ัวโมง 40 นาที ครผู สู้ อน คุณครูนงลักษณ์ สวา่ งเมฆ ประเดน็ รายละเอียด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนแบบ 5E ด้านท่ี 2 การใช้จติ วทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ ครูใช้น้ำเสยี งท่อี อ่ นโยนชวนให้นกั เรียนสนใจ และใชค้ ำถามเพอ่ื กระตุน้ ใหน้ กั เรียนสนใจอยูเ่ สมอ ดา้ นท่ี 3 สงั เกตการจดั การเรยี นรู้ - ข้ันนำ ครพู ูดคยุ ทกั ทายและเชค็ ชอื่ นกั เรยี น ชแ้ี จงรายละเอยี ด ใช้คำถามเพื่อชักนำเขา้ สบู่ ทเรยี น - ขัน้ สอน เรม่ิ การสอนหรือเข้าส่บู ทเรยี น ใชว้ ธิ ีสอนแบบบรรยาย มีการยกตวั อย่างประกอบในแต่ละหัวข้อ มีส่อื การสอน ครูจะคอยถามคำถามเพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี น - ขั้นสรุป มแี บบฝึกหดั ให้นกั เรยี นทำ เปน็ แบบ Google form เพือ่ ตรวจสอบ ความเขา้ ใจของนกั เรยี น และเป็นคะแนนเกบ็ ของนักเรยี น ดา้ นท่ี 4 ปัญหาท่ีพบ / แนวทางแก้ไข ปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรียนรู้ มนี กั เรยี นบางคนไมเ่ ขา้ เรยี น การแกไ้ ขปัญหาในช้ันเรยี นของครผู สู้ อน ครูใหน้ ักเรียนทเี่ ขา้ เรยี นไปบอกเพอ่ื นทีไ่ ม่เข้าเรยี นวา่ หากคร้ังหนา้ ไม่ เขา้ เรียนอีกจะถูกหักคะแนน เพือ่ ไม่ให้เด้กทำอีก ดา้ นที่ 5 ครูมรี ายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน มีการรายงานผลผ่านการทำวจิ ยั เพ่ือพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ของผ้เู รยี น ในรูปแบบการศึกษารายกรณหี รือไม่ อย่างไร ดา้ นที่ 6 สง่ิ ทีไ่ ด้รบั / การประยุกตใ์ ช้ การถามคำถามนกั เรยี นอยเู่ สมอเพอ่ื กระตุ้นให้นกั เรยี นสนใจในเรอื่ ง ทีเ่ รียน หมายเหตุ สังเกตการสอนแบบออนไลน์

แบบสงั เกตการจดั การเรยี นรู้ คร้ังท่ี 9 โรงเรยี นกำแพงดินพิทยาคม ระดับชั้น ม.3/1 รายวิชา คณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค23202 จำนวน 1 หน่วยกติ วันท่ี 2 ธันวาคม 2564 เวลา 8.30 น. – 10.10 น. จำนวน 1 ชัว่ โมง 40 นาที ครผู ูส้ อน คุณครูอารมณ์ พงษ์พานชิ ประเด็น รายละเอียด ด้านที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการจดั การเรียนการสอนแบบ 5E ดา้ นที่ 2 การใช้จิตวิทยาในการจดั การเรยี นรู้ ครสู ร้างความเป็นกนั เองกบั นักเรียน เพอ่ื ใหน้ กั เรียนกล้าท่จี ะถาม- ตอบกับครู ดา้ นที่ 3 สังเกตการจัดการเรยี นรู้ - ขน้ั นำ ครูพดู คุยทักทายและเช็คช่ือนักเรยี น ช้แี จงรายละเอยี ด ทบทวนเรื่องทเ่ี รยี นมา (เฉลยแบบฝกึ หัด) ใช้คำถามเพ่อื ชักนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น - ขั้นสอน เริม่ การสอนหรอื เข้าสู่บทเรียน ใชว้ ิธสี อนแบบบรรยาย ครูจะยกตวั อย่างประกอบในแต่ละหวั ข้อ โดยเขียนบนไวท์บอรด์ แลว้ ถามคำถามนกั เรียนอยเู่ สมอ เพอ่ื ให้ นกั เรยี นสนใจ - ข้นั สรปุ ครูสรปุ เน้ือหาของบทเรยี นใหน้ กั เรยี นฟงั มแี บบฝกึ หดั ทา้ ยบทเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจและเป็นคะแนนเกบ็ ของนักเรยี น ด้านท่ี 4 ปัญหาที่พบ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาท่พี บในการจัดการเรียนรู้ นกั เรียนพดู คยุ เสยี งดัง การแกไ้ ขปญั หาในช้นั เรยี นของครผู ู้สอน ครูใช้นำ้ เสยี งทดี่ งั และว่าเตอื นนกั เรยี นอยู่เสมอ ด้านที่ 5 ครูมีรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน มกี ารรายงานผลผา่ นการทำวจิ ยั เพ่อื พฒั นาผลสมั ฤทธข์ิ องผ้เู รยี น ในรูปแบบการศึกษารายกรณีหรอื ไม่ อย่างไร ด้านที่ 6 สิง่ ทไ่ี ดร้ ับ / การประยกุ ต์ใช้ วิธกี ารควบคุมชั้นเรยี น โดยเราตอ้ งรู้จกั การดนุ กั เรยี นเมอื่ นกั เรยี นคยุ กนั เสียงดงั และไมส่ นใจในการเรยี น

แบบสงั เกตการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 10 โรงเรียนกำแพงดนิ พิทยาคม ระดับชัน้ ม.5/1 รายวิชา คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค32102 จำนวน 1 หนว่ ยกิต วนั ท่ี 2 ธันวาคม 2564 เวลา 10.20 น. – 12.00 น. จำนวน 1 ช่วั โมง 40 นาที ครผู ู้สอน คณุ ครอู ารมณ์ พงษ์พานิช ประเด็น รายละเอียด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการจดั การเรียนการสอนแบบ 5E ดา้ นท่ี 2 การใช้จติ วทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ ครูใช้คำทสี่ ุภาพพดู คยุ สร้างความเปน็ กันเองกับนกั เรยี น เพ่ือให้ นักเรยี นใชค้ ำที่สภุ าพในการโตต้ อบกบั ครู ดา้ นที่ 3 สงั เกตการจัดการเรียนรู้ - ขัน้ นำ ครพู ดู คยุ ทกั ทายและเชค็ ช่ือนักเรยี น ชแี้ จงรายละเอยี ด ใชค้ ำถามเพื่อชักนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น - ขัน้ สอน เร่มิ การสอนหรือเขา้ สู่บทเรยี น ใชว้ ธิ สี อนแบบบรรยาย ครูจะยกตวั อยา่ งประกอบในแต่ละหัวขอ้ โดยเขยี นบนไวทบ์ อร์ด แล้วใช้คำถามเพ่ือกระตนุ้ ให้นกั เรยี นสนใจอยู่ เสมอ และให้นักเรยี นจดตัวอย่างท่คี รเู ขยี นไวบ้ นไวทบ์ อรด์ ลงในสมดุ - ข้ันสรปุ มแี บบฝกึ หดั ท้ายบทให้นักเรยี นทำเพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจและ เป็นคะแนนเก็บของนักเรยี น ดา้ นที่ 4 ปัญหาที่พบ / แนวทางแก้ไข ปญั หาท่พี บในการจัดการเรยี นรู้ มนี ักเรียนบางคนไมเ่ ข้าใจวา่ ทำไมครูชอบพูดซ้ำๆ การแกไ้ ขปญั หาในชั้นเรียนของครผู ู้สอน ครูชแ้ี จงให้นักเรยี นไดร้ วู้ ่าการท่ีครพู ูดซำ้ ๆกเ็ พราะมีนกั เรียนบางคน ทไ่ี มไ่ ดฟ้ งั หรอื อาจฟงั ไม่ทนั ด้านที่ 5 ครูมรี ายงานผลการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน มีการรายงานผลผา่ นการทำวจิ ัยเพ่ือพฒั นาผลสมั ฤทธข์ิ องผูเ้ รยี น ในรูปแบบการศกึ ษารายกรณีหรือไม่ อยา่ งไร ด้านท่ี 6 ส่ิงทไี่ ด้รบั / การประยุกตใ์ ช้ การใช้คำทีส่ ภุ าพและสรา้ งความเปน็ กันเองกับนักเรยี น จะทำให้ นกั เรียนใชค้ ำทส่ี ุภาพโตต้ อบกลับมา

ใบงานที่ 4 การศกึ ษาสังเกตบริบทของสถานศึกษาและความสัมพันธ์กบั ชมุ ชน วัตถปุ ระสงค์ เพื่อใหน้ ักศึกษาสังเกตบรบิ ทของสถานศึกษา ขอบเขต ใหน้ ักศึกษา ศึกษา สงั เกต และฝึกทักษะจากผทู้ ี่เกยี่ วข้องในสถานศึกษา แล้วบนั ทึกข้อมลู ในแบบบันทึกตามประเดน็ ดังนี้ 1. ทำเล ที่ตั้งของสถานศึกษาสงั เกตการจัดการเรยี นรขู้ องครผู สู้ อน 2. อาคารเรยี น และอาคารประกอบการอนื่ ๆ 3. หอ้ งเรียน และเครื่องใช้ต่างๆ ในหอ้ งเรยี น 4. มุมพยาบาล / ห้องพยาบาล / เรอื นพยาบาล 5. โรงอาหาร / ท่ีรบั ประทานอาหาร 6. โรงประชมุ / หอประชุม 7. หอ้ งพักครู 8. ห้องสมดุ / หอสมดุ 9. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารต่างๆ (วิทยาศาสตรฯ์ ลฯ) 10. นำ้ ดื่ม / นำ้ ใช้ 11. ห้องนำ้ / หอ้ งสว้ ม / ทีป่ ัสสาวะ 12. สนามกฬี า / สนามเด็กเล่นต่างๆ 13. สถานท่ีพักผ่อนหย่อนใจ 14. แหล่งข้อมูลทใี่ ชใ้ นการศึกษาค้นคว้า / อ้างอิงหน่วยที่ 1 สภาพทั่วไปของสถานศกึ ษา ผูเ้ ก่ยี วขอ้ ง/แหล่งข้อมูล ผอู้ ำนวยการ / รองผู้อำนวยการโรงเรยี น ครผู ู้สอน / ครพู ีเ่ ล้ยี ง / นกั เรียน

ขอ้ มูลทเี่ กี่ยวกบั สถานศกึ ษา ช่อื สถานศึกษา โรงเรยี นกำแพงดนิ พิทยาคม ปรชั ญา การศึกษา คือ การพฒั นาคุณภาพชีวิต คติธรรม สามคคฺ ี เยว พลํ สามัคคีคือพลงั วสิ ยั ทัศน์ มคี ณุ ธรรม มที ักษะการเรียนรู้เทา่ ทนั เทคโนโลยีและมวี ถิ ชี วี ิตพอเพียง เปา้ หมาย 1.สถานศึกษาจัดการศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาของชาติ และ เทยี บเคียงตามมาตรฐานสากล 2.นักเรียนมีอจั ฉริยภาพของดา้ นวทิ ยาศาสตร์คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยีสงิ่ แวดล้อม ภาษา อาชพี ศิลปะ กีฬา และภาวะผู้นำ 3.นกั เรียนมี คณุ ธรรมวินยั ค่านยิ มอันดงี าม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และ มจี ิตสำนกึ และภาคภูมใิ จในความเปน็ ไทย 4.มีระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรยี นทีม่ ีประสทิ ธิภาพ 5.สถานศกึ ษาบริหารจดั การดว้ ยระบบคุณภาพ PDCA 6.พัฒนาหลกั สตู รเพ่ือตอบสนองความถนัดและความต้องการของผเู้ รียนชุมชน และสงั คม 7.สถานศึกษามีการจดั แหลง่ เรียนรู้ภายในสถานศึกษาอย่างหลากหลาย พอเพียง เอ้อื ต่อการเรียนรูแ้ ละใช้ทรพั ยากรอยา่ งคุ้มค่าและส่งเสรมิ การใชแ้ หล่งเรียนรู้ ทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษาเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษา 8.สถานศึกษามีระบบบริหารจดั การและการจัดการเรยี นรู้บนพื้นฐานหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 9.ครแู ละนักเรียนดำรงชวี ิตโดยหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 10.จดั การเรยี นรูท้ เี่ นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคญั สร้างครูและผเู้ รยี นใหเ้ ป็นบุคคลแห่ง การเรียนรแู้ ละก้าวสูค่ วามเป็นพลโลก 11.มีเครือข่ายทางการศกึ ษาทั้งภายในและภายนอก 12.มกี ารประสานความร่วมมือกับเครือขา่ ยเพ่อื พฒั นาการศึกษาและพัฒนา บคุ คลกรให้เป็นพลเมืองโลก

1. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอน่ื ๆ อาคารเรียน จำนวน 4 หลัง ประกอบด้วย อาคารเรยี นถาวร 2 หลงั อาคารเรียนชว่ั คราว 2 หลงั อาคารประกอบการ จำนวน 5 หลัง ประกอบด้วย โรงอาหาร 1 หลัง อาคารฝึกงาน 3 หลงั อาคาร อเนกประสงค์ 1 หลงั 2. ห้องเรียน และเคร่ืองใชต้ ่างๆ ในหอ้ งเรยี น หอ้ งเรียนจำนวน 22 หอ้ ง ประกอบด้วย ห้องกลมุ่ สาระภาษาไทย 3 ห้อง ห้องกลมุ่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 3 ห้อง หอ้ งกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี 3 ห้อง ห้องกล่มุ สาระคณิตศาสตร์ 3 หอ้ ง หอ้ งกลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ 3 หอ้ ง หอ้ งกล่มุ สาระศลิ ปะ 2 ห้อง หอ้ งกลุ่มสาระภาษาตา่ งประเทศ 3 หอ้ ง ห้องกลมุ่ สาระพลศกึ ษา 2 ห้อง 3. หอ้ งพักครู ห้องปฏิบตั ิงานและเจ้าหนา้ ท่ี หอ้ งพกั ครู จำนวน 6 หอ้ ง ประกอบดว้ ย ห้องฝ่ายบริหารทัว่ ไป ห้องฝ่ายงบประมาณ หอ้ งฝา่ ยวิชาการ ห้องฝา่ ยบุคคล ห้องแนะแนว และห้องผอู้ ำนวยการ 4. ห้องปฏิบตั ิการต่างๆ (วทิ ยาศาสตรฯ์ ลฯ) ห้องปฏบิ ัติการ จำนวน 7 หอ้ ง ประกอบด้วย หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารดนตรี-นาฏศิลป์ 2 ห้อง ห้องปฏิบัติการคหกรรม 1 หอ้ ง ห้องปฏิบตั ิการอตุ สาหกรรม 1 หอ้ ง ห้องปฏบิ ตั กิ ารเคมี 1 ห้อง ห้องปฏบิ ตั ิการฟสิ ิกส์ 1 หอ้ ง ห้องปฏบิ ัติการทางการเกษตร 1 ห้อง 5. สถานท่ีพกั ผ่อนหยอ่ นใจ/สนามเด็กเล่น ศาลาไม้หน้าอาคารเรยี น จำนวน 7 หลัง มา้ หนิ ออ่ นกระจายรอบบรเิ วณโรงเรยี น ใตร้ ม่ ไม้ มีจำนวน เพียงพอต่อความตอ้ งการของนักเรยี น 6. แหล่งขอ้ มลู ท่ีใช้ในการศึกษาคน้ ควา้ / อา้ งอิงหน่วยที่ 1 สภาพทั่วไปของสถานศกึ ษา สมั ภาษณ์ คณุ ครูชาติชาย ด่านประเสรฐิ ชยั ,หวั หนา้ ฝา่ ยบรหิ ารท่วั ไป,โรงเรยี นกำแพงดนิ พิทยาคม เมื่อวนั ท่ี 18 พฤศจกิ ายน 2564 และวนั ที่ 23 พฤศจิกายน 2564

สัมภาษณ์ คุณครนู งลักษณ์ สวา่ งเมฆ (ครพู ี่เลยี้ ง),หัวหนา้ ฝา่ ยวิชาคณิตศาสตร์,โรงเรียนกำแพงดินพิทยา คม เม่ือวันท่ี 22 พฤศจิกายน 2564 ขอ้ มูลความสมั พันธร์ ะหว่างโรงเรียนกับชมุ ชน 1. ศกึ ษาบริบทของชมุ ชนท่ีสถานศึกษาตงั้ อยู่ หมูบ่ า้ นกำแพงดินเป็นชมุ ชนวถิ ชี ีวติ ริมฝง่ั แมน่ ้ำยมชาวบา้ นส่วนใหญ่มอี าชพี รับจ้าง หาปลา ทำไร่ทำ นาและค้าขาย มีสนิ คา้ ประจำตำบลมากมาย เด็กๆสว่ นใหญ่มาช่วยผู้ปกครองประกอบอาชีพและมีกจิ กรรม การทำขนมแดกงาท่รี ะหวา่ งการทำแปง้ จะมเี ด็กๆวัยร่นุ และคนในชุมชนมารอ้ งรำเล่นเพลงพ้นื บา้ น 2. ศกึ ษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรยี นกบั ชุมชน โรงเรียนและชุมชนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเมื่อมีงานประเพณีต่างๆทางโรงเรียนจะส่งนักเรียนไป เข้าร่วมและคอยช่วยงานเสมอและยังมีกิจกรรมโดยที่ชาวบ้านท่ี มีความชำนาญในการทำของพื้นบ้านและ อาชพี ตา่ งๆเขา้ มาสอนให้นกั เรียนไดเ้ รยี นรหู้ ดั ปฏบิ ัตเิ รยี กวา่ กจิ กรรมปราชญช์ าวบ้าน

ใบงานท่ี 5 แบบรายงานผลการศึกษาช้ันเรยี นคณติ ศาสตร์ เรือ่ งทีส่ อน ความนา่ จะเป็นและสถติ ิศาสตร์ ระดบั ชนั้ ม.6 ชอื่ ครปู ระจำช้นั คุณครนู งลกั ษณ์ สวา่ งเมฆ 1. สภาพปัญหาในช้นั เรียน มนี ักเรียนบางส่วนทไี่ มไ่ ด้เขา้ เรยี นในคาบก่อน ทำให้ไม่เขา้ ใจและร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนไม่ได้ 2. จดุ ประสงคใ์ นการศกึ ษา เพือ่ ศกึ ษาปัญหาทเ่ี กิดข้ึนในชั้นเรยี นคณติ ศาสตร์ ว่าเกิดจากอะไร และจะมแี นวทางแก้ไขปญั หาอยา่ งไร 3. สภาพทว่ั ไปของชัน้ เรยี น ครมู ีการเตรียมความพรอ้ มกอ่ นท่ีจะทำการสอน ทำให้สามารถสอนนักเรียนในช้นั เรียนไดอ้ ย่างเต็ม ความสามารถและมีประสทิ ธิภาพ นกั เรยี นสงบเรียบรอ้ ยเชื่อฟังครู ไม่พดู คุยเสียงดัง ให้ความรว่ มมอื กับ กิจกรรมท่ีครูนำมาจัดในชน้ั เรยี น บรรยากาศในชน้ั เรยี นจงึ เป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4. แนวทางการแก้ปัญหา/ส่งเสรมิ 1. ครูทบทวนเนอื้ หาบทเรียนให้กบั นักเรยี นทุกคน 2. ครสู อนนักเรียนท่ีไม่เขา้ ใจเปน็ รายบคุ คล 3. ครใู ห้เพอ่ื นที่เข้าใจในบทเรียนแล้วชว่ ยสอนเพื่อนที่ยังไม่เขา้ ใจ 5. การศึกษาชน้ั เรียนครงั้ นม้ี ีประโยชนต์ อ่ การประกอบวิชาชพี ครูของนกั ศกึ ษา ดงั น้ี 1. ไดศ้ กึ ษาสงั เกตสภาพปัญหาทีอ่ าจเกิดขึ้นในชัน้ เรยี นทีเ่ ราเป็นผู้สอนในอนาคต 2. ไดศ้ กึ ษาสังเกตวธิ กี ารแกป้ ัญหาของครผู ูส้ อนและเปน็ แนวทางในการแก้ไขปญั หาที่อาจเกิดขนึ้ ใน ช้ันเรยี นท่เี ราเป็นผู้สอนในอนาคต 3. ไดศ้ ึกษาการประกอบวชิ าชีพครู การจัดการเรยี นการสอนของครูและนำไปพฒั นาประสบการณ์ ของตนเอง

ใบงานที่ 6 กิจกรรมการแลกเปล่ียนเรยี นรูใ้ นรูปแบบกิจกรรม PLC (กรณีท่ีทางโรงเรยี นไม่ทำกิจกรรม PLC) ชื่อ-สกลุ นายณัฐนนท์ ทองประพันธ์ุ รหัสนักศึกษา 6412106026 สาขาวชิ า คณติ ศาสตร์ ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ (Professional Learning Community : PLC) 1. ตอนท่ี 1 ทำไมต้องเป็น PLC เพราะ PLC จัดทำขึ้นเพ่ือพฒั นาการเรยี นร้ทู างวิชาชีพ โดยม่งุ เนน้ ผลสัมฤทธิไ์ ปที่ผูเ้ รียน เพ่ือให้ ผเู้ รียนสามารถพัฒนาการเรยี นรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง ผ่านการวางแผน การมีวสิ ยั ทัศนร์ ่วมกนั และการ แลกเปล่ยี นเรียนรซู้ งึ่ กันและกัน จนเกดิ เปน็ วฒั นธรรมหรือชมุ ชนแหง่ การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ 2. ตอนที่ 2 PLC มลี กั ษณะอย่างไร PLC เป็นการรวมตวั รว่ มมือร่วมใจ และร่วมเรียนร้รู ว่ มกันของครู โดยจะมีการสรา้ งทีมขึ้นมา จากนน้ั จะมีการกำหนดปญั หา รว่ มกนั วางแผน และร่วมกันแกไ้ ขปัญหานนั้ ให้ได้ 3. ตอนท่ี 3 กระบวนการสร้าง PLC ทำอย่างไร กระบวนการสรา้ ง PLC มีดังนี้ 1.สรา้ งทมี หรือรวมกลมุ่ ครูท่ีมีลกั ษณะใกลเ้ คยี งกนั เชน่ กลุ่มสาระเดยี วกัน , สอนระดับเดียวกนั เป็น ตน้ 2.กำหนดปัญหา โดยเร่มิ ท่ีปญั หาเล็กๆ เน้นทำสำเร็จได้ใน 1 ภาคเรียน 3.วางแผนและออกแบบกระบวนการ ควรแบ่งหนา้ ทใ่ี หช้ ดั เจน และทุกคนตอ้ งรับฟังซ่ึงกันและกนั 4.การลงมือปฏบิ ัติจรงิ ตามแผนท่ที ีมได้คิดกันอยา่ งดแี ลว้ ทุกคนปฏิบตั หิ น้าท่ีตามแผนทีว่ างไว้ 5.สนทนาสะท้อนผลหลงั การปฏิบัติ เมอื่ คุณไดจ้ ดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ สร็จเรยี บร้อยแลว้ ใหส้ มาชิกใน กล่มุ ทกุ คนมาร่วมต้ังคำถาม สะท้อนผลจากการท่ไี ด้จัดการเรียนการสอนไปแล้ว 4. ตอนท่ี 4 อะไรคือปจั จยั แหง่ ความสำเร็จของ PLC 1.ภูมิสงั คม 2.ระเบดิ จากขา้ งใน 3.การมสี ่วนรวม 4.ประโยชนส์ ว่ นรวม 5.องคร์ วม 6.ทำ ตามลำดบั 7.ไมต่ ิดตำรา 8.ประหยดั เรียบงา่ ย ไดป้ ระโยชน์สูงสุด

ใบงานที่ 7 กิจกรรมรายวิเคราะห์ตนเองตามสมรรถนะครู ชอ่ื -สกลุ นายณฐั นนท์ ทองประพนั ธ์ุ รหสั นกั ศกึ ษา 6412106026 สาขาวชิ า คณติ ศาสตร์ ชอื่ อาจารยน์ ิเทศ รศ.ดร.ภคั พล ปรชี าศลิ ป์ ชื่อครพู เี่ ล้ียง คณุ ครนู งลกั ษณ์ สวา่ งเมฆ ช่อื โรงเรยี นที่ออกปฏบิ ัติการสอน โรงเรียนกำแพงดินพทิ ยาคม สมรรถนะ ตัวบง่ ชี้ รายงานพฤติกรรมของ นกั ศึกษา 1. การมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ ในการ 1.1 ความสามารถในการวางแผน การกำหนดเปา้ หมาย สามารถวางแผนในการ ปฏบิ ตั ิงาน (Working การวเิ คราะห์ สังเคราะหภ์ ารกจิ งาน สังเกตการณส์ อนในภาวะ Achievement Motivation) โรคระบาดไดว้ ่าเราต้องทำ อะไรอย่างเป็นขั้นตอนซ่ึง จะสามารถเกบ็ ช่วั โมงฝึก ได้ครบ 1.2 ความมุ่งมัน่ ในการปฏบิ ตั หิ น้าที่ ให้มีคณุ ภาพ ถกู ตอ้ ง ใส่ใจในงานทไี่ ด้รบั ครบถว้ นสมบรู ณ มอบหมายและปฏบิ ัติงาน อย่างเต็มที่ ติดตามผลของ งานเสมอ 1.3 ความสามารถในการติดตามประเมิน ผลการปฏบิ ตั ิงาน พยายามขอคำแนะนำจาก คณะครเู สมอหลงั จาก ทำงานเสรจ็ เรยี บร้อย 1.4 ความสามารถในการพฒั นา การปฏิบัตงิ านใหม้ ี สอบถามครูพเี่ ลยี้ งเสมอว่า ประสิทธภิ าพอยา่ ง ต่อเน่ืองเพอ่ื ใหง้ านประสบความสำเรจ็ ควรปรับปรุงเรอื่ งใดบา้ ง และนำคำแนะนำมา ปรบั ปรงุ เพอ่ื ใหก้ าร ปฏบิ ัตงิ านมปี ระสิทธภิ าพ มากขนึ้ 2. การบริการทด่ี ี (Service 2.1 ความตงั้ ใจและเตม็ ใจใน การใหบ้ รกิ าร ใหค้ ำแนะนำและ Mind) คำปรกึ ษากับนักเรียนดว้ ย ความเตม็ ใจพูดจากบั นักเรยี นอย่างไพเราะ อ่อนโยน

2.2 การปรบั ปรุงระบบบรกิ ารใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพ นำคำแนะนำและคำติชม ของคุณครหู ลงั จากการ 3. การพัฒนาตนเอง (Self- 3.1 การศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ ตดิ ตาม องคค์ วามรู้ใหม่ๆ ทำงานมาปรับปรุง หาความรเู้ พิม่ เตมิ อยู่เสมอ Development) ทางวิชาการและวชิ าชพี ตดิ ตามขา่ วสารการสอบ รับใบประกอบวิชาชีพการ 3.2 การสร้างองค์ความรแู้ ละนวตั กรรมใน การพฒั นา สอบบรรจุครผู ู้ช่วยและ องคก์ รและวชิ าชีพ ขา่ วสารท่เี กยี่ วกบั วิชาชพี 3.3 การแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ และสรา้ ง เครือข่าย ครู ยังไม่ปรากฏการแสดงออก 4. การทำงานเป็นทีม (Team 4.1 การใหค้ วามรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื และ สนับสนุน ท่ชี ดั เจน Work) เพื่อนร่วมงาน ได้พูดคยุ กบั เพื่อนตา่ ง สาขาในการออกฝึกปฏบิ ตั ิ 4.2 การเสรมิ แรงใหก้ ำลังใจเพือ่ นรว่ มงาน วิชาชพี ที่มาฝึกโรงเรยี น เดยี วกนั พูดคุยกันทั้งเรือ่ ง 4.3 การปรบั ตัวเขา้ กับกลมุ่ คนหรอื สถานการณ์ การออกฝกึ และเรอื่ งการ ที่หลากหลาย เรยี นท่วั ไป สามารถทำงานรว่ มกับ 4.4 การเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มกับผอู้ ่นื ใน การพัฒนาการจดั ผูอ้ ่นื ได้ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื การศกึ ษาใหบ้ รรลุ ผลสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย เพือ่ นตา่ งสาขาและรนุ่ พี่ ตา่ งสาขาทมี่ าปฏิบตั ิงาน ดว้ ยกนั พูดใหก้ าํ ลังใจเพอ่ื นตา่ ง สาขาทม่ี าฝกึ รว่ มกนั ได้ เวลาเพอ่ื นรสู้ กึ ท้อรสู้ กึ เหนื่อย สามารถเรยี นรู้และปรบั ตวั เขา้ กบั ผู้เรียนได้วา่ หอ้ งนี้ เราควรทำแบบใด รวมถึง การปรบั ตวั ในการทำงาน อยรู่ ่วมกับคณุ ครู รวมคดิ กจิ กรรมการเรียน การสอนกับครูพเ่ี ลยี้ งเพื่อ เพิม่ ความหลากหลายใน ช้ันเรียน

5. จริยธรรม และ 1. ความรักและศรทั ธาในวิชาชพี ปฏบิ ตั ิหน้าที่อยา่ งเต็มทไี่ ม่ จรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 2. มีวินยั และความรบั ผดิ ชอบในวิชาชพี ประพฤตติ นใหเ้ สอ่ื มเสีย (Teacher’s Ethics and ช่อื เสยี งและเสอื่ มเสียต่อ Integrity) วชิ าชพี ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ 3. การประพฤตปิ ฏบิ ัติตน เปน็ แบบอย่างท่ีดี มาปฏบิ ัตงิ านตรงเวลา ไม่ประพฤตติ นเป็น แบบอยา่ งทไ่ี มด่ ใี ห้กับ นกั เรียนไมพ่ ูดคำหยาบ ไม่แต่งกายผิดระเบยี บ

ใบงานท่ี 8 สรปุ องคค์ วามร้ทู ไ่ี ดจ้ ากประสบการณ์เรยี นร้ใู นสถานศกึ ษา ช่อื -สกุล นายณฐั นนท์ ทองประพนั ธ์ุ รหัสนักศึกษา 6412106026 สาขาวิชา คณิตศาสตร์ ชื่ออาจารยน์ ิเทศ รศ.ดร.ภัคพล ปรชี าศลิ ป์ ชอื่ ครูพ่ีเลีย้ ง คุณครนู งลักษณ์ สว่างเมฆ ชือ่ โรงเรียนทีอ่ อกปฏิบัติการสอน โรงเรียนกำแพงดนิ พิทยาคม 1. ถอดบทเรียนจากการสงั เกตการณเ์ รียนรู้ ได้เรียนรกู้ ารวางแผนในการจดั การเรยี นการสอนในชว่ งสถานการณโ์ รคระบาดวา่ เราควรทำอยา่ งไรใหผ้ ู้เรยี น ได้รับประโยชนแ์ ละความรมู้ ากทสี่ ดุ ได้เรียนรู้เกี่ยวกบั การควบคมุ ชั้นเรียนวิธีการแกป้ ญั หาทเี่ กดิ ข้ึนภายในช้ันเรยี น การ ใช้จติ วทิ ยาในการจดั การเรียนรทู้ ห่ี ลากหลายรูปแบบและดึงดดู ความสนใจผเู้ รยี น และได้เรียนรกู้ ารจดั กิจกรรมท่ี หลากหลายให้เหมาะกบั ผูเ้ รยี นในแต่ละชว่ งช้นั ตลอดจนไดเ้ รียนรู้การประกอบวิชาชีพครูว่าครูมหี น้าทอ่ี ะไรบ้างนอกจาก การสอนนักเรียน 2. สงั เคราะหอ์ งค์ความรทู้ นี่ กั ศกึ ษาไดร้ ับ 1.การจัดรปู แบบการเรยี นรู้ผ่านระบบออนไลนใ์ หเ้ ข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน 2.การใช้น้ำเสยี งเพอื่ ดงึ ดูดและกระตนุ้ ความสนใจของผเู้ รียน 3.ทกั ษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4.การจัดการเรยี นการสอนที่ให้ผเู้ รยี นได้ออกความคดิ เหน็ นำไปสู่การเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย 5.การนำวิชาอืน่ มาบรู ณาการเข้ากับรายวิชาเพื่อการเรยี นรู้ 6.การจัดการเรียนรู้ทเ่ี ปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนไดอ้ อกมาสอนเพือ่ นๆโดยมคี ณุ ครคู อยใหค้ ำแนะนำ 7.การสรา้ งบรรยากาศในช้นั เรยี นโดยการนำกจิ กรรมมาจดั เพอื่ ไมใ่ หผ้ เู้ รียนเบ่อื หนา่ ยและไดฝ้ ึกทกั ษะต่างๆ 3. การนำผลองคค์ วามรูท้ ไ่ี ดร้ ับมาประยุกตใ์ ช้ สามารถวางแผนการจดั การเรยี นการสอนใหส้ อดคล้องกับสถานการณใ์ นปัจจุบนั ได้ นำการใชจ้ ิตวิทยาในดา้ นตา่ งๆมาประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียนการสอนและการทำงานของเราในอนาคต การสรา้ งกจิ กรรมให้เหมาะกบั ผู้เรยี นแตล่ ะช่วงวยั การแกป้ ญั หาเฉพาะหน้าทคี่ วรคิดและปฏบิ ตั ิอย่างรวดเรว็ การออกแบบการจัดการเรยี นรู้และการสรา้ งบรรยากาศในชนั้ เรยี นทที่ ำใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ความสนใจ และไม่เบ่ือ หน่าย โดยการนำกจิ กรรมมาจัดในชน้ั เรียน