หนังสอื อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ พ่อื การเรยี นรู้ (E-Book) “แม่นาโขง” Mekong river ศนู ย์วทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศกึ ษานครพนม สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร
“แม่นาโขง” Mekong river 1 ลุ่มแม่น้ำโขงเป็นหนึ่งในบริเวณที่มีควำมอุดมสมบูรณ์แห่ง หนึ่งของโลก มีควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพโดยเฉพำะพันธุ์ปลำ แม่น้ำโขงมีบทบำทต่อกำรด้ำรงชีวิตของผู้คนเป็นอย่ำงมำกควำมชุก ชุมของปลำน้ำจืดท้ำให้เกิดอุตสำหกรรมประมงขึนตลอดสำยของ แม่น้ำโขงโดยเฉพำะพืนที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่ำง ผู้คนมีวิถีชีวิตตำม กระแสขึนลงของแม่น้ำโขง ผู้คนที่อำศัยตำมแม่น้ำโขงมีกำรท้ำ กำรเกษตรริมน้ำ กำรท้ำปศุสัตว์รวมถึงเป็นแหล่งหำอำหำรเพ่ือน้ำมำ บริโภคหรือจ้ำหน่ำยซึ่งเป็นแหล่งรำยได้ของคนในชุมชนตำมริมฝั่งน้ำ อีกด้วย มีกำรเกิดเมืองใหญ่น้อยกระจำยอย่ตู ำมพืนที่แม่น้ำโขง มีกำร ก้ำเนิดวัฒนธรรมต่ำงๆมำกมำย โดยอำศัยแม่น้ำโขงเป็นแหล่งอุปโภค และบริโภค กำรท้ำประมงและเป็นแหล่งท่องเท่ียวทำงธรรมชำติและ วัฒนธรรม พืนท่ีสำมเหล่ียมปำกแม่น้ำโขงยังเป็นแหล่งผลิตข้ำวที่ ส้ำคัญของโลก โดยมีประชำกรรำว 60 ล้ำนคนท่ีอำศัยอยู่บริเวณสอง ฝ่งั แมน่ ำ้ โขง ภาพที่ 1 เกษตรกรท้ำกำรเกษตรรมิ ฝ่ังแม่นำ้ โขง ภาพที่ 2 กระชงั ปลำบรเิ วณแมน่ ำ้ โขงซึ่งเป็นแหล่งรำยได้ ทีส่ ำ้ คญั ของประชำชนทีอ่ ำศัยอยู่ริมฝัง่ แมน่ ้ำโขง ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษานครพนม
“แมน่ าโขง” Mekong river 2 แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนำนำชำติเป็นหนึ่งในแม่น้ำสำยส้ำคัญ ของโลกและเป็นแม่น้ำยำวที่สุดในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม่น้ำโขงมีต้นก้ำเนิดมำจำกเขตปกครองตนเองทิเบตและบริเวณมล ฑลชิงไห่ตอนใต้ของประเทศจีน จำกกำรละลำยน้ำแข็งและหิมะจำก แนวเทือกเขำหิมำลยั ต้นนำ้ แหง่ นยี ังเปน็ แหลง่ ก้ำเนดิ แม่น้ำสำยส้ำคัญ อกี 2 สำย ไดแ้ ก่ แมน่ ำ้ ยำงซี และแมน่ ำ้ สำละวิน แม่นำ้ โขงไหลผ่ำน 6 ประเทศ โดยเริ่มจำกท่ีรำบสูงในทิเบต ผ่ำนมลฑลยนู นำน ถูกเรียกใน ภำษำจนี ว่ำ “หลำนซำงเจียง” จำกนนั แม่น้ำโขงไหลผ่ำนชำยแดนลำว เ มี ยน ม ำ ร์ แ ล ะ ม ำ บ ร ร จ บ กั บ พ ร ม แ ด นไ ทย ที่ส ำ ม เ ห ลี่ ย ม ทอ ง ค้ำ ใ น อ้ำเภอเชยี งแสน จังหวัดเชียงรำย แม่น้ำโขงไหลผ่ำนประเทศไทยเป็น ระยะทำงทังสิน 1,520 กิโลเมตรผ่ำนจำกจังหวัดเชียงรำย เลย หนองคำย บึงกำฬ นครพนม มุกดำหำร อ้ำนำจเจริญและ อุบลรำชธำนีตำมล้ำดับก่อนจะไหลเข้ำสู่สำธำรณะรัฐประชำธิปไตย ประชำชนลำวและกัมพูชำ จำกนันไหลออกสู่ทะเลจีนใต้ในประเทศ เวียดนำม แม่น้ำโขงมีควำมยำวทังสิน 4,880 กิโลเมตร มีพืนท่ีน้ำ 795,000 ตำรำงกโิ ลเมตร หรอื 496.875 ลำ้ นไร่ ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม
“แม่นาโขง” Mekong river 3 ลุ่มแม่น้ำโขงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ลุ่มแม่น้าโขง ตอนบน (Upper Mekong Basin) โดยครอบคลุมพืนทจี่ ำกต้นน้ำใน ทิเบตและประเทศจีน และ ลุ่มน้าโขงตอนล่าง (Lower Mekong Basin) ลุ่มน้ำโขงตอนล่ำงเริ่มตังแต่มณฑลยูนำนในประเทศจีนไหล ผ่ำนประเทศต่ำงๆ ได้แก่ เมียนมำร์ ไทย สำธำรณรัฐประชำธิปไตย ประชำชนลำว กัมพูชำ และเวียดนำม ก่อนลงสู่ปำกอ่ำวทะเลจีนใต้ ครอบคลุมพืนท่ีกว่ำ 76 เปอร์เซ็นต์ของพืนท่ีลุ่มน้ำทังหมด ลักษณะ ของทำงน้ำจะแผ่กว้ำงประกอบไปด้วยชำยฝ่ัง หำดทรำย และจะพบ เกำะแก่งเป็นจ้ำนวนมำกซ่ึงลักษณะดังกล่ำวพบเห็นได้ตังแต่ประเทศ ลำวและช่วงกันระหว่ำงพรมแดนประเทศไทยและประเทศลำว ด้วย ลักษณะทำงน้ำดังกล่ำวท้ำให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เกิดเป็น ศูนย์กลำงของประเพณีและวัฒนธรรม กิจกรรม กีฬำ หรือกำรละเล่น ของผู้คนที่อำศัยอยู่ริมฝ่ังแม่น้ำโขง พืนที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่ำงยังมี ควำมอุดมสมบูรณ์ทำงชีวภำพสูงมีควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพเป็น อนั ดับ 2 ของโลกรองจำกล่มุ แมน่ ้ำอเมซอน ภาพท่ี 3 แม่น้ำโขงตอนบน ภาพที่ 4 แม่นำ้ โขงตอนล่ำง ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษานครพนม
“แมน่ าโขง” Mekong river 4 ความยาวของแม่นา้ โขงท่ีไหลผ่านภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ออกไปท้าให้แม่น้าโขงมีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติ พันธุ์พืช พันธ์ุปลา และมีความหลากหลายของวิถีชีวิตของผู้คนกว่า 100 ชนเผ่า ไม่ต่้ากว่า 100 ล้านคน และยังเป็นแหล่งก้าเนิด อารยธรรมโบราณ ที่มีความส้าคัญทางประวัติศาสตร์ เชน่ เมืองหลวง พระบาง นครวดั นครธม แหลง่ อารยธรรมบา้ นเชยี ง แหลง่ โบราณคดี เชียงแสนหลวง ดินในแม่น้าโขงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสารอาหาร ส่งผล ให้บริเวณริมฝ่ังแม่น้าโขงมีความอุดมสมบูรณ์ของดินท้าให้การท้า การเกษตรรมิ ฝง่ั แม่นา้ โขงไดผ้ ลผลติ ดี เปน็ แหลง่ รายได้สา้ คัญของผู้คน ท่ีอาศัยริมฝ่ังแม่น้าโขง พืนที่ป่าและพืนที่ชุ่มน้าในภูมิภาคลุ่มน้าโขง ตอนล่างมีความสมบูรณ์ และยังเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติท่ีส้าคัญ ต่ออุตสาหกรรมและยังช่วยกรองอากาศและน้าให้สะอาด ผืนป่าและ พืนท่ีชุ่มน้าเหล่านียังช่วยลดผลกระทบจากธรรมชาติ เช่น น้าท่วม และพายุ เปน็ ต้น ภาพที่ 5 ผืนป่ำและภูเขำสูงชันบริเวณริมแม่น้ำโขง ภาพที่ 6 ชำวประมงพืนบ้ำนก้ำลังจับปลำจำกหล่ี ตอนลำ่ งแสดงใหเ้ ห็นถึงธรรมชำติทีอ่ ุดมสมบรู ณ์ บริเวณสี่พนั ดอน ประเทศลำว ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม
“แมน่ าโขง” Mekong river 5 ข้อมูลจาก World Wildlife Fund เผยว่ามีพันธุ์ปลากว่า 1,100 ชนิด บางชนิดใกล้สูญพันธ์ุและสามารถพบได้เฉพาะในแม่น้า โขงและแม่น้าอีกไม่ก่ีสายในโลกเท่านัน เชน่ ปลาบึก โลมาอิรวดี ซึ่งมี จ้านวนลดลงอย่างรวดเร็วจนเกือบสูญพันธ์ุและปลากระเบนน้าจืด ขนาดยักษ์ ที่มีน้าหนักสูงถึง 590 กิโลกรัม ท้าให้ภูมิภาคนีเป็นแหล่ง ประมงนา้ จืดขนาดใหญท่ ส่ี ดุ ของโลก ดว้ ยจา้ นวนปลาที่หาได้ 2.6 ล้าน ตันต่อปี คิดเป็นเงิน 127,000 – 231,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี ภูมิภาคนียังเป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์เลียงลูกด้วยนมกว่า 430 ชนิด สตั วเ์ ลือยคลานและสัตวส์ ะเทอื นบกหลายสายพนั ธุร์ วมกวา่ 800 ชนิด มีนกมากกว่า 20,000 ชนิด ไม่เพียงเท่านีนักวิทยาศาสตร์และ นักวิชาการยงั ค้นพบพืชชนิดพันธ์ุใหม่ในภูมิภาคอย่างต่อเน่ือง ภายใน ระยะเวลา 17 ปี มกี ารค้นพบพืชสายพนั ธุใ์ หม่มากถงึ 2,216 สายพันธ์ุ ซ่ึงบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพใน ลมุ่ แม่น้าโขงตอนล่างไดเ้ ป็นอย่างดี ภาพท่ี 7 ชำวประมงจับปลำบึกในแม่น้ำโขง ปลำบึกเป็น ภาพที่ 8 ชาวประมงจะใช้อวนดักปลาวางตามทางไหล ปลำไม่มีเกล็ดท่ีมีขนำดใหญ่ที่สุดในโลกและสำมำรถพบ ของนา้ ปลานบั รอ้ ยตันที่จับได้จะถูกน้ามาท้าเป็นปลาร้า ได้ในแมน่ ้ำโขงและแมน่ ้ำสำขำเทำ่ นัน ซงึ่ เป็นอาหารยอดนยิ มของกัมพูชา ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม
“แมน่ าโขง” Mekong river 6 ในรายงานการประเมินพืนฐานการประมง (Fisheries Baseline Assessment Working Paper (ICEM 2010) ตามสถิติ ขององค์กรการอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่า ปรมิ าณการจบั ปลาน้าจดื ใน 4 ประเทศของพืนท่ลี ุม่ แม่นา้ โขงตอนลา่ ง มีจ้านวน 750,000 ตันต่อปี แต่จากการศึกษาภาคสนามพบว่าอาจถึง 2.6 ล้านตันต่อปี เท่ากับ 18 เปอร์เซ็นต์ของประมาณการจับปลาน้า จืดทั่วโลก โดยการค้านวณจากสถิติขององค์การอาหารและเกษตร แห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่าปริมาณการบริโภคปลาน้าจืดเฉล่ีย ต่อคนต่อปีในแม่น้าโขงตอนล่างอยู่ที่ 13.8 กิโลกรัม ขณะที่โดยเฉลี่ย ท่ัวโลกแค่ 2.3 กิโลกรัม ปริมาณการบริโภคปลาในลุ่มน้าโขงต่อคน ของประเทศกัมพูชาอยู่ท่ี 32.3 กิโลกรัมซึ่งสูงที่สุด ในลาว 24.5 กิโลกรัมต่อคน ในไทย 24.9 กิโลกรัมต่อคนและ 30.5 กิโลกรัมต่อคน ในประเทศเวียดนาม โดยอุตสาหกรรมประมงในแม่น้าโขงท่ีมีขนาด ใหญ่ท่ีสุดและมีความส้าคัญจะครอบคลุมพืนท่ีรอบน้าตกคอนพะเพ็ง ทางตอนใต้ของประเทศลาว ภาพท่ี 9 น้าตกคอนพะเพง็ เป็นแหล่งท่องเทยี่ วที่ ภาพที่ 10 ชาวบ้านกา้ ลงั จบั ปลาปริเวณส่พี นั ดอน สา้ คัญของประเทศลาว ใกลน้ ้าตกคอนพะเพง็ ในประเทศลาว ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม
“แม่นาโขง” Mekong river 7 สภาพภูมอิ ากาศของแม่นาโขง ภูมิอากาศในพืนท่ีลุ่มน้าโขงมีความหลากหลายตังแต่ อุณหภูมิปานกลางไปจนถึงเขตร้อน โดยพืนท่ีตอนบนของแม่น้าโขงมี สภาพอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะแนวเทือกเขาหิมาลัยในท่ีราบสูง ทิเบตที่มีน้าแข็งปกคลุม แต่ในลุ่มน้าโขงตอนล่างมีสภาพอากาศร้อน ชืนตลอดทังปี ภูมิภาคน้าโขงตอนล่างรวมไปถึงภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้มีภูมิอากาศท่ีถูกจัดว่าเป็นมรสุมเขตร้อน สภาพ ภูมอิ ากาศทั่วไปในเขตลุม่ น้าโขงตอนลา่ งจะไดร้ บั อิทธิพลจากลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนีในแต่ ละปจี ะไดร้ ับอิทธพิ ลจากลมดีเปรสช่ันซึ่งพัดมาจากทะเลจีนใต้ ท้าให้มี ฝนตกหนักในฤดูฝน อิทธิพลของลมมรสุมทังสองท้าให้เกิดฤดูกาล 3 ฤดู คอื ฤดูฝน ฤดูรอ้ น ฤดูหนาว ภาพท่ี 11 พืนท่ีน้ำโขงตอนบนเป็นพืนที่อำกำศหนำว ภาพท่ี 12 พืนที่น้ำโขงตอนล่ำงเป็นพืนที่มีอำกำศ เยน็ ตลอดทังปี ร้อนชนื มฝี นตกชุกตลอดทังปี ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษานครพนม
“แม่นาโขง” Mekong river 8 สถานการณ์นาโขงในปัจจุบนั นับตังแต่มีเขื่อนกันแม่น้าโขงท่ีประเทศจีนมีรายงาน การศึกษาหลายชินท่ีสามารถยืนยันได้ว่า ปริมาณน้าของแม่น้าโขง ในช่วงฤดูน้าหลากลดลง ส่วนปริมาณน้าในช่วงฤดูแล้งกลับเพิ่มขึน โดยเป็นผลมาจากการสร้างเขื่อน เน่ืองจากเฉล่ียแล้ว 45% ของน้าใน ลมุ่ น้าโขงชว่ งหน้าแล้งมาจากแมน่ า้ ในจีน สว่ นในช่วงฤดูน้าหลาก การ ไหลของน้ากลับลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากเขื่อนท่ีประเทศจีนเก็บน้า เอาไวเ้ พอื่ เติมน้าไวใ้ นเขื่อนและควบคุมระดับน้าให้มีระดับท่ีเหมาะสม การลดลงของระดับน้าย่อมท้าให้พืนที่น้าท่วมถึงตลอดล้าน้าโขงและ ล้าน้าสาขาลดลงไปด้วยและส่งผลกระทบต่อการไหลของตะกอนดิน และสารอาหารไปยังพนื ที่น้าท่วมถงึ ตามธรรมชาตแิ ละพืนที่ช่มุ นา้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวท้าให้ประชาชนในเขตท้ายน้า ประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม กังวลอย่างย่ิงเนื่องจากเขื่อนใน จนี กักตะกอนจากแม่น้าโขงตอนบนไม่ให้ไหลลงมาสู่ด้านล่าง ซึ่งส่งผล กระทบรุนแรงของพืนที่ท้ายน้า ท้าให้ขาดแร่ธาตุ ส่งผลกระทบต่อ เกษตรกรริมแม่น้าโขงและดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้า เร่งให้เกิด การกร่อนเซาะของท้องน้าและตล่ิงแม่น้า ท้าลายความมั่นคงทาง อาหารของประเทศปลายน้า ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม
“แม่นาโขง” Mekong river 9 แผนที่แสดงการสรา้ งเขือ่ นกนั แมน่ าโขงในปจั จบุ นั ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษานครพนม
“แมน่ าโขง” Mekong river 10 เอกสารอา้ งองิ World Wildlife Fund. 2021. ขอ้ มูลทัว่ ไปแม่นาโขง. แหล่งท่ีมา: https://www.wwf.or.th/what_we_do/wetlands _and_production_landscape/mekongriver, 20 กรกฎาคม 2564 นพวรรณ ใจหอม. 2556. ธรรมชาตแิ ละอนคตของเรา ลุ่มนาแม่โขงและ ญป่ี นุ่ . กรุงเทพฯ: แมโ่ ขงว๊อช. ปิน่ บุตร.ี 2560. พิชิต 4 ดอน ยอ้ นยคุ เมอื งไทยเสนห่ ์ตรึงใจมหานทสี ่ีพัน ดอน. แหลง่ ทีม่ า: https://mgronline.com/travel/detail/9600000124743, 20 กรกฎาคม 2564 ธนั ยพร บวั ทอง. 2562. แม่นาโขง. แหล่งทีม่ า: https://www.bbc.com/thai/thailand-49072092, 20 กรกฎาคม 2564 ไทยรฐั ออนไลน์. 2562. เข่อื นไซยะบุรปี ลอ่ ยนา บงึ กาฬระดบั นาขนึ อากาศ เย็นทาผักปลูกริมโขงโตเรว็ . แหล่งท่ีมา: https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/169639 0, 22 กรกฎาคม 2564 แอลทูบีทราเวล. 2561. นาตกคอนพะเพ็ง. แหล่งที่มา: https://www.l2btour.com/reviews/teaw- khonephaphengwaterfall.html, 8 กรกฎาคม 2564 ประชาชาติธรุ กิจ. 2563. สสี ันตามฤดกู าลธรรมชาตขิ องแมน่ าโขง กบั วถิ ี ชีวติ ของคนรมิ ฝ่ัง. แหล่งทีม่ า: https://www.prachachat.net/spinoff/lifestyle/news- 531145, 21 กรกฎาคม 2564 ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษานครพนม
“แม่นาโขง” Mekong river 11 เอกสารอ้างอิง มตชิ นออนไลน.์ 2563. สสี นั ตามฤดกู าลธรรมชาติของแมน่ าโขงกบั วิถีชวี ติ ของคนริมฝง่ั . แหลง่ ที่มา: https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_ 2376522, 9 กรกฎาคม 2564 มตชิ นออนไลน.์ 2564. ระดับนาแม่นาโขงลดหนกั จนนา่ เปน็ ห่วง วอนจีน เผยข้อมลู นาในประเทศ. แหล่งทีม่ า: https://www.matichon.co.th/foreign/news_2 575665, 8 กรกฎาคม 2564 ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม
ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือ่ การศกึ ษานครพนม 355 หมู่ 6 ตาบลหนองญาติ อาเภอเมือง จงั หวดั นครพนม 48000 โทรศพั ท์ 042-530780 โทรสาร 042-53081 https://www.nkpsci.ac.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: