Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สังคมวิทยา ครูณัฏ

สังคมวิทยา ครูณัฏ

Published by nuttaveenamin, 2021-08-08 07:53:11

Description: รายวิชาสังคมศึกษา 5 ส33101 เรื่อง สังคมวิทยา
จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงจากหนังสือ ตำราเนื้อหาครอบจักรวาล สังคม ม.ปลาย โดยติวเตอร์แจ็ค

Search

Read the Text Version

สงั คมวทิ ยา sociology By ครูณัฏ Craig Calhoun สงั คมวิทยาเกดิ ขึน้ ในปลายคริสต์ศตวรรษท่ี 18 ตน้ ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 19 ขณะน้นั โลกเกิดการเปลย่ี นแปลงทางสงั คม ช่วงท่ีสงั คมตะวนั ตกเรียกวา่ \"ยุคสมัยใหม่\" เกดิ การปฏวิ ัติอตุ สาหกรรม ท ใำหโ้ ครงสรา้ งทางสังคมและระบบเศรษฐกิจ เปล่ยี นแปลงไปอยา่ งรวดเรว็ เกดิ โรงงานขึน้ จ ำนวนมาก ท ำใหเ้ กดิ ความเป็นเมอื งข้นึ อย่างรวดเร็ว คนสว่ นใหญ่อยูใ่ นเมอื งมากกว่าชนบท สังคมมนษุ ย์ 01 มนษุ ย์ โครงสร้างทางสังคม สถาบนั ทางสังคม การจัดระเบยี บทางสงั คม 02 วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญา วตั ถุธรรม คติธรรม เนตธิ รรม สหธรรม Sociology 03 ปัญหาสงั คม สง่ิ ทเ่ี ปน็ ปญั หาสงั คม แนวทางการแก้ไข บดิ าสังคมวทิ ยา ออกสุ คองต์ (Auguste Comte) นกั คิดชาวฝร่ังเศส ค้นพบและบัญญตั ิศาสตรน์ ว้ี ่า \"สงั คมวทิ ยา\" เปน็ ศาสตร์ใหมท่ เี่ น้นศึกษาสังคมดว้ ยวิธกี าร ทางวทิ ยาศาสตร์ โดยการสงั เกต ทดลอง เปรยี บเทียบ อรสิ โตเติลกล่าววา่ \"มนษุ ยเ์ ป็นสัตว์สงั คม\" มนษุ ยช์ อบอย่รู วมกันเป็นกล่มุ มกี ารติดตอ่ สมั พนั ธก์ นั จดั ระเบยี บการอยรู่ ่วมกัน มนษุ ย์ ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Homo sapiens เป็นภาษาละตินแปลว่า \"คนฉลาด\" หรอื \"ผูร้ ู้\" เป็นสปชี ีสเ์ ดยี วทีย่ ังมีชวี ิตอยู่ในสกุล Homo ถือก เำนดิ ในทวีปแอฟริกา แยกออกจากบรรพบรุ ุษรว่ มกับชิมแพนซี ราว 5 ลา้ นปที แ่ี ลว้ ตน้ ก ำเนดิ มาจากมนุษย์ผวิ สีหรอื นิกรอย ความเหมอื นกับสตั ว์ 1. ความต้องการทางกายภาพ เชน่ อาหาร น ้ำ 2. มีลกั ษณะทางกายภาพเหมือนกับบรรพบุรุษ 3. มคี วามสามารถในการปรับตัวใหเ้ ขา้ กับส่ิงแวดล้อม 4. มกี ารเพิม่ สมาชิกใหมด่ ว้ ยการสบื พนั ธุ์ ความตา่ งกบั สัตว์ 1. ลักษณะทางรา่ งกาย - มนุษยเ์ จริญเติบโตทางแนวตั้ง - ดวงตาของมนษุ ย์มองเหน็ ได้ไกลกว่าสตั ว์ - ขนาดสมองของมนษุ ย์ใหม่กว่าสัตว์ เมอื่ เทยี บขนาดร่างกาย 2. มนษุ ยเ์ รียนรู้เพือ่ สรา้ งและใชร้ ะบบสญั ลักษณ์ ร่วมกบั สัญชาตญาณ 3. สัตวไ์ ม่สามารถใช้ระบบสญั ลักษณ์ได้ ใชไ้ ดแ้ คส่ ัญชาตญาณ 4. มนษุ ยม์ ีความต้องการทางเพศทีไ่ ม่จ กำ ัดเวลาและฤดูกาล 5. มนษุ ยเ์ ปน็ สัตว์สงั คมท่ีมีวัฒนธรรม ในขณะที่สัตว์สงั คมอ่ืนไม่มีวัฒนธรรม สาเหตทุ ี่มนษุ ยต์ ้องอยู่เป็นสงั คม 1. เพอ่ื สนองความต้องการพื้นฐาน -ความต้องการทางกายภาพ -ความต้องการทางชวี ภาพ -ความต้องการทางจติ ใจ -ความต้องการทางสังคม 2. เพอื่ ท ใำหม้ ีความเป็นมนษุ ยส์ มบูรณ์ 3. เพ่อื สร้างความเจรญิ ให้กับตนเองและสงั คม Edraw Max Infographic LOREM IPSUM DOLOR SIT AMET Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip exea commodo consequat.

ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน Universal Declaration of Human Rights การประกาศเจตนารมณใ์ นการร่วมมือระหว่างประเทศ เกีย่ วกับสทิ ธิมนษุ ยชนซ่งึ ทีป่ ระชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติให้กา เม่ือ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2491 ไทยออกเสยี งสนบั สนนุ มนษุ ยท้งั หลายเกิดมามีอิสระเสรี และเทา่ เทยี มกันทง้ั ศัก ทุกคนได้รับการประสทิ ธิประสาทเหตผุ ลและมโนธรรม และควรปฏบิ ตั ิตอ่ กนั อย่างฉันพี่นอ้ ง ห บคุ คลใดจะถูกทรมาน หรอื ได้รับการปฏิบตั หรอื ลงทัณฑซ์ ่ึงทารุณโหดรา้ ยไร้มนษุ ยธรรม ทุก ๆ คน มีสทิ ธิที่จะไดร้ บั การยอมร หลกั สทิ ธิมนษุ ยชน https://www.amn

น : UDHR ารรับรอง จุดประสงคท์ ี่จะใหป้ จั เจกบคุ คลทกุ ผ้ทู กุ นามและองคก์ ร ของสงั คมทกุ หนว่ ย โดยการระลกึ อยเู่ สมอ ๆ ถงึ ปฏญิ ญาน้ี พยายามใหก้ ารศึกษาเพอื่ สง่ เสริมการเคารพตอ่ สิทธเิ สรภี าพ เหล่าน้ี ทัง้ ในและระหวา่ งประเทศ กดศ์ิ รีและสทิ ธิ หลักภราดรภาพ ิ มหรอื หยามเกยี รตมิ ิได้ หลกั มานุษยธรรม รับวา่ เปน็ บคุ คลในกฎหมายไมว่ า่ ณ ท่ีแห่งใด หลกั นิติธรรม nesty.or.th/our-work/hre/what-udhr/

มแี บบแผนใ ชวี ิตร ในชว่ งระยะเ พอส มรี ะเบียบกฎเกณฑ์ 1 และลกั ษณะการด เำนนิ ชวี ติ ลักษณ 5ในแบบเดียวกัน สงั ค 4 มีอาณาเขตท่แี นน่ อน สงั คม กบั ฝูงชน ฝงู ชน กลมุ่ คนทม่ี ารวมตวั กันเพอื่ จุดประสงคใ์ ดจดุ ตัวอยา่ ง ฝงู ชนท่ดี คู อนเสรติ์ , ชุมนมุ , ไทยมงุ ชมุ ชนเสมอื น สงั คมรูปแบบหนงึ่ มคี วามสัมพนั ธ์ต่อกัน ใช้เครื่องมือส่อื ไมม่ ีข้อจ กำ ดั ทางภูมิประเทศ เขตแดน หรือระยะทาง สร้าง ชุมชนเสมอื นเตบิ โตอย่างรวดเร็วซ่ึงเป็นผลจากเทคโนโลยี

ในการด เำนิน ร่วมกัน เวลายาวนาน มควร 1 2 ประกอบดว้ ยกลมุ่ คน ต้ังแต่ 2 คนขนึ้ ไป ณะของ คม 3 มีความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง สมาชิกในกลมุ่ ดประสงคห์ น่ึง เสรจ็ แลว้ แยกย้าย อสารสรา้ งเครอื ขา่ ย งกลมุ่ ทม่ี ีความสนใจในเรอื่ งเดยี วกนั เชน่ เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ ยูทูป อนิ สตราแกรม ฯลฯ

หนา้ ท่ขี องสังคม 01 02 03 04 ใหก้ เำนดิ อบรมเลี้ยง ผลติ สินคา้ ธ ำรงรกั ษา สมาชิกใหม่ ดสู มาชกิ ให้รู้ และบรกิ าร ไว้ซึง่ ระเบีย มีการท ำ ทดแทน ระเบยี บ แบบแผน สมาชกิ ท่ี แบบแผน งานกนั ของสังคม ตายไปแล้ว ของสังคม ระหวา่ ง สมาชกิ

05 06 07 า สงั คมมี สังคมมหี นา้ ท่ี ระบบการควบ ยบ หนา้ ทีป่ ้อง อ ำนวยความ คมุ สงั คม สะดวกให้การติ กันชีวติ สงั คมมหี นา้ ท่ี ม จากอนั ตราย ดต่อแลก ท ใำห้สังคมเป็ เปลี่ยนขา่ ว นระเบียบเกดิ ความสงบสขุ สารกนั ระหว่างสมาชิก

วัฒนธรรม แบบแผนหรือวถิ ีในก ผา่ นการขดั เกลาจาก มคี วามหลากหลาย เปล เกดิ จากการเรยี นร ส่งิ ท่มี นุษย์สร้า เอกลักษ ปร ความเช่อื คา่ นิยม วตั ถุธรรม คตธิ รรม สง่ิ ประดิษต่างๆ ๆ รปู แบบวฒั นธรรม 1. วฒั นธรรมหลกั : ท ำกันท้งั ประเทศ 2. วัฒนธรรมรอง : ท กำ นั ในท้องถ่นิ

การด เำนินชวี ติ ของสมาชกิ ของในสงั คม กคนร่นุ หนงึ่ มายังอีกรุ่นหน่ึง ลีย่ นแปลงได้ รู้ ถ่ายทอดจากคนสคู่ น างขึ้นจากการเรยี นรู้ ไม่ใช่ติดตวั มาแต่ก เำนดิ ษณข์ องสังคม มรดกสังคม รับปรุงได้ เปลี่ยนแปลงได้ สูญสลายไปได้ มารยาท เนตธิ รรม สหธรรม กฎหมาย ระเบยี บ ประเพณที างศาสนา หน้าที่ของวัฒนธรรม 1. ควบคุมสงั คม 2. ก ำหนดพฤติกรรมของสมาชกิ 3. ก ำหนดรูปแบบองสถาบัน 4. แสดงเอกลักษณข์ องสังคม

ความสมั พนั ธข์ องกลมุ่ คนในสงั คม โ โดยมบี รรทดั ฐานทางสงั คมเปน็ ส่งิ ยดึ เหน่ียว บรรทดั ฐาน มกี ารติดต่อระหวา่ งกัน คบค้าสมาคม/ขัดแยง้ สถานภาพ มบี รรทดั ฐาน กฎเกณฑ/์ ระเบยี บแบบแผน มเี ปา้ หมาย/วัตถุประสงค บทบาท มลี ักษณะเคล่ือนไหว เปลีย่ นแปลงไ คา่ นยิ ม การขัดเกลาทางสังคม List การจดั ระเบยี บทางสังคม การควบคมุ ทางสังคม กลมุ่ ปฐมภูมิ กลุ่มทางสังคม กล่มุ ทตุ ิยภมู ิ

โครงสร้างทางสังคม สถาบนั ครอบครวั สถาบันการศกึ ษา ง สถาบนั เศรษฐกิจ น สถาบนั การเมือง ค์ สถาบันศาสนา ได้ สถาบันนันทนาการ สถาบันสื่อสารมวลชน ส ถ า บ ันทา ง ส ัง ค ม วัฒ นธ ร ร มไ ทย ปญั หาสงั คม ส ัง ค มไ ทย

ปฐมภูมิ กลุม่ ส มกั พบในสังคม ชนบท กล่มุ คนทีอ่ ย่รู ว่ มกนั เป็นระบบ กลุ่มปฐมภูมิ องคป์ ระกอบ มีนอ้ ย ขนา แบบไมเ่ ป็นทางการ รูปแบบควา ไม่เนน้ พิธีการ แบบใกลช้ ิด สนทิ สนม ระดับความ เปน็ สว่ นตัว วีถีประชา + กฎศลี ธรรม เครื่องมอื หลักในกา สังค ครอบครัว เพ่อื นบา้ น ตวั อย เพอื่ นสนิท การลงโทษหากสมาชิกในกล่มุ ส กลมุ่ ปฐมภมู ิ มกั อยใู่ นรปู แบบ กลุ่มทุตยิ ภมู ิ มกั เป็นรปู นยั (F

สังคม ทตุ ยิ ภมู ิ มักพบในสังคม มกี ฎระเบียบข้อตกลงรว่ มกนั เมอื ง บกลมุ่ สังคม กลุ่มทตุ ยิ ภมู ิ าด จ นำ วนสมาชกิ มมี าก ามสมั พนั ธ์ แบบทางการ มีพิธีการ มกี ฎระเบยี บ มสัมพนั ธ์ ปฏสิ ัมพันธ์กนั เฉพาะเร่อื งห นา้ ทีก่ ารงาน ารจัดระเบียบทาง วถิ ปี ระชา + กฎหมาย คม บริษัท โรงงาน ย่าง ทที่ ำการราชการ สังคมไมป่ ฏิบัตติ าม บอรปู นัย (Informal) เช่น การซุบซิบ นินทา หรอื ไมค่ บค้าสมาคม Formal) เช่น เป็นไปตามกฎหมายบา้ นเมอื ง

สถาบนั ทาง กระบวนการการรวมกลุ่มของสงั คม จัดต เมอ่ื เกดิ ข้ึนแลว้ จะเปล

งสงั คม ตั้งขึน้ อยา่ งมรี ะบบมีระเบียบแบบแผน ลีย่ นแปลงได้ยาก

การจัดระเบยี บทางสังคม = การควบคุมสมาชกิ \"พฤ การตดิ ตอ่ สมั พันธ์เป็นไปอย่างเรียบร้อย ป้องกันความขัดแยง้ ระหวา่ งสมาชกิ สงั คมสงบสขุ และม่ันคง 01 แบบเครอื ญาติ 02นายกับบา่ ว/จงรักภกั ดี 03 ช้นั วรรณะ 04 พันธะสัญญา 05 องคก์ าร/ระบบราชการ

xฤติกรรมเบย่ี งเบน\" เคร่อื งมอื ในการจดั ระเบียบ บรรทดั ฐาน สถานภาพ บทบาท ค่านิยม การขดั เกลาทางสงั คม การควบคมุ ทางสงั คม จัดระเบียบโดยใชบ้ รรทัดฐานและ สถานภาพในระบบครอบครวั ยดึ ถอื ความสัมพนธโ์ ดยความผูกพนั มกี ฎเกณฑแ์ นน่ อนตามสถานภาพ ทีต่ ดิ ตวั อย่างถาวร ข้อตกลงสองฝา่ ยกระท ำเป็นสัญญา ต่อกนั โดยมกี ารแลกเปลี่ยน ผลประโยชนก์ นั รุปแบบสังคมสมัยใหม่สมาชกิ สงั คมน้ี จะสังกัดองคก์ ารขนาดใหญ่ เชน่ บรษิ ัท หนว่ ยงานราชการ กองทพั

บรรทดั ฐาน/ปทสั ถาน 1 การจดั ร กฎเกณฑ์แบบแผนของความประพฤติ ทางส ท่ีสังคมยอมรบั และปฏิบตั ติ าม + วิถปี ระชา 4 + จารีต + กฎหมาย ค่านิยม ความคิดท่คี นสว่ สถานภาพ เห็นตรงกันว่าควร ต แำหน่งจากการเป็นสมาชกิ ของกลุ่ม อาจจะดีหรอื ไม่ดกี 2เปน็ สิทธแิ ละหน้าท่ีของบุคคล เป็นนามธรรม เปน็ ส่ิงท่ที ำใหเ้ ราแตกต่าง เป็นเคร่ืองหมายเฉพาะตวั บทบาท สิทธิหนา้ ทท่ี ่ไี ด้จากสถานภาพ 3 เป็นตัวก หำ นดความรับผดิ ชอบของบคุ คล ถา้ อยู่คนเดียวบทบาทกแ็ สดงไมไ่ ด้

ระเบยี บ การควบคุมทางสงั คม/ \"สิทธานมุ ตั ิทางสังคม\" สังคม กระบวนการควบคมุ ใหค้ นปฏิบัตติ ามบรรทัดฐาน 4 6 วนใหญใ่ นสังคม การขัดเกลาทางสงั คม รท ำ กระบวนการอบรมสั่งสอนสมาชิก กไ็ ดแ้ ล้วแต่มมุ มอง มีตวั แทนคอื 5 + ครอบครวั + โรงเรยี น + กลมุ่ เพอื่ น + ส่อื มวลชน

สังคมไทย วฒั นธรร - ลกั ษณะของสังคม รูปแบบวิถชี ีว - การเปลย่ี นแปลง คนไทยมีลักษ ของสงั คม ผสมผสานแบ - แนวโนม้ การเปล่ียน ประเพณีและ แปลงดา้ นสังคม วฒั นธรรมเป - แนวโน้มการเปลย่ี น ได้แก่ แปลงด้านการเมอื ง - ภาคกลาง - แนวโนม้ การเปลยี่ น - ภาคอสี าน แปลงดา้ นเศรษฐกิจ - ภาคเหนอื - ภาคใต้

รมไทย ปญั หาสงั คม วติ ของ สง่ิ ทส่ี ง่ ผลเสียตอ่ คนส่ ษณะแบบ วรรวมและประเทศชาติ บ่ง - สาเหตุ - ลกั ษณะของปัญหา ปน็ 4 ภาค - ตวั อย่าง - แนวทางการแก้ไข ต ำราเน้ือหาครอบจกั รวาล สงั คม ม.ปลาย ตวิ เตอรแ์ จค๊


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook