พระราชบญั ญัติท่ีคุ้มครองและอนุรักษส์ ตั ว์ปา่ ทุกชนดิ สตั วป์ ่าสงวน ๑. พระราชบญั ญัตสิ งวนและคมุ้ ครองสตั วป์ ่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ๒. พระราชบัญญตั สิ งวนและคุม้ ครองสตั ว์ปา่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๖ ๓. พระราชบญั ญตั สิ งวนและ คุ้มครองสัตว์ปา่ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗ สมเสรจ็ มอี ย ู่ ๑๕ ชนิด ได้แก่ นกเจ้าฟา้ หญิงสิรนิ ธร แรด กระซู่ กูปรีหรือโคไพร ควายป่า ละองหรือละมั่ง สมันหรอื เนอ้ื สมนั เลยี งผา หรือเยอื ง หรอื กูร�า หรือโคร�า สัตว์ป่าคุ้มครอง กวางผา นกแต้วแร้วท้องด�า นกกระเรียน แมวลายหินออ่ น สมเสร็จ เกง้ หมอ้ และพะยูนหรือหมูนา�้ โดยสตั ว์ป่าสงวนห้ามล่า และห้ามมีไว้ในครอบครอง ๑. สัตวป์ า่ คุ้มครอง ไกฟ า สตั ว์ปา่ คุ้มครอง มี ๗ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑) สัตว์ปา่ จา� พวก สตั วเ์ ลีย้ งลูกดว้ ยนม จ�านวน ๒๐๒ ชนิด ๒) สตั ว์ปา่ จ�าพวกนก จา� นวน ๙๕๒ ชนิด ๓) สัตว์ป่าจ�าพวกสตั ว์เลื้อนคลาน จ�านวน ๙๒ ชนดิ ๔) สัตว์ปา่ จ�าพวกสตั วส์ ะเทนิ น้า� สะเทนิ บก จา� นวน ๑๒ ชนดิ ๕) สตั ว์ปา่ ไมม่ กี ระดกู สันหลงั : แมลง จา� นวน ๒๐ ชนดิ ชะมด ๖) สัตวป์ า่ จ�าพวกปลา จา� นวน ๒๖ ชนิด ๗) สัตว์ป่าไม่มีกระดกู สันหลงั อ่ืนๆ จา� นวน ๑๒ ชนดิ รวมทง้ั สน้ิ ๑,๓๑๖ ชนดิ ๒. สตั วป์ ่าคมุ้ ตรองชนดิ ที่เพาะพนั ธไ์ุ ด้ นกอีลมุ สัตว์ป่าคมุ้ ครองชนดิ ที่เพาะพันธุไ์ ด ้ มี ๕ ประเภท ได้แก ่ ๑) สัตว์ปา่ จา� พวกสตั วเ์ ลย้ี งลูกดว้ ยนม จ�านวน ๘ ชนดิ ๒) สตั ว์ป่า จ�าพวกนก จ�านวน ๔๒ ชนิด ๓) สตั ว์ปา่ จ�าพวกสตั ว์เลื้อยคลาน จ�านวน ๗ ชนดิ ๔) สตั ว์ป่าจา� พวกสัตวส์ ะเทินนา้� สะเทนิ บก จา� นวน ๑ ชนดิ ๕) สตั ว์ปา่ จ�าพวกปลา จ�านวน ๔ ชนดิ รวมทง้ั สิน้ ๖๒ ชนิด 58 กวาง กระทิง
ภมู ศิ าสตร์ 59 สกา่ิงแรใวชด้ทลร้อัพมยเพาก่อื รกธารรรพมัฒชานตาิแอลยะา่ งย่งั ยืน การพัฒนาอย่างยง่ั ยืน (sustainable development) การพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาที่ค�ำนึงถึงขีดจ�ำกัดของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และสนอง ความตอ้ งการในปัจจุบัน โดยไมส่ ง่ ผลเสียต่อความตอ้ งการในอนาคต คำ� นงึ ถึงความเปน็ องคร์ วม คอื มองว่าการจะ ท�ำสิ่งใดต้องค�ำนึงถึงผลกระทบท่ีจะเกิดกับสิ่งอื่นๆ และค�ำนึงถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ใหม่ว่าควรเป็นไปในทาง สรา้ งสรรค์และเอื้อประโยชน์อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสมกับสภาพทอ้ งถิน่ เปา้ หมาย ๑๗ ขอ้ ของการพฒั นาที่ย่ังยนื (17 Sustainable Development Goals) ๑. ตอ้ งไมม่ ีความยากจน ๑๐. ลดความไมเ่ สมอภาค ๒. ต้องขจัดความหวิ โหย ๑๑. เมอื งและชุมชนทยี่ ่งั ยืน ๓. สขุ ภาพดแี ละอยดู่ กี ินดี ๑๒. การบรโิ ภคและการผลติ ๔. การศึกษามีคณุ ภาพ ทม่ี คี วามรบั ผิดชอบ ๕. มคี วามเทา่ เทียมทางเพศ ๑๓. การกระทำ� ของสภาพภูมอิ ากาศ ๖. น�ำ้ สะอาดและถูกสุขอนามยั ๑๔. ชีวิตใต้น�้ำ ๗. พลงั งานสะอาดและราคาไมแ่ พง ๑๕. ชวี ิตบนบก ๘. การทำ� งานทด่ี แี ละการเติบโต ๑๖. ความสงบ ความยตุ ิธรรม ทางเศรษฐกิจ และสถาบนั ทีเ่ ขม้ แข็ง ๙. อุตสาหกรรม นวตั กรรม ๑๗. ความรว่ มมอื กนั เพ่อื บรรลเุ ปา้ หมาย และโครงสรา้ งพน้ื ฐาน มาตรการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม (ทางตรงและทางออ้ ม) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน หมายถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและ การดแู ลรักษาสิ่งแวดลอ้ มอย่างฉลาด ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสดุ ต่อคนจ�ำนวนมากท่ีสุด และเป็นระยะเวลายาวนานท่ีสุด สงวนรกั ษาไวไ้ มใ่ หน้ �ำมาใช้อย่างฟมุ่ เฟือย
มาตรการในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ทางตรง • การถนอมรักษา (preservation) เพ่ือให้น�าทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมไปใช้ใหไ้ ดน้ านขน้ึ เชน่ การสร้างฝายน�า้ ลน้ สร้างเขอ่ื น ขุดบอ่ ขดุ สระ การทา� อาหารแชแ่ ขง็ การตากแหง้ การก�าหนดเขตป่าสงวน หรือเขตรักษาพันธุ์สตั ว์ป่า • การบูรณะ (restoration) เพ่ือพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้มี สภาพดีขึ้น สามารถน�ามาใช้ประโยชน์ได้ เช่น การก�าจัดน�้าเสีย การแก้ไขปัญหาดินหรือ ป่าเสื่อมโทรม การบรู ณะสาธารณสถาน • การปรับปรุง (improvement) เพื่อให้สามารถน�าทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้หรือใช้ประโยชน์ได้น้อยมาใช้ประโยชน์ให้มากกว่าเดิม เช่น การปรับปรุงพื้นที่ดินเปร้ียว ดินเค็ม ดินเหนียว หรือดินพรุ ให้สามารถใช้ในการเพาะปลูก หรือเล้ยี งสัตว์ • การนําทรัพยากรธรรมชาติทใ่ี ช้แลว้ กลับมาใชซ้ ํา้ (reuse) เชน่ น�ากระดาษทใี่ ช้ แล้วกลบั มาใชซ้ า้� ใช้กระดาษทงั้ ๒ หนา้ • การแปรสภาพแล้วนาํ กลบั มาใชใ้ หม่ (recycle) เช่น การน�ากระดาษทใ่ี ชแ้ ลว้ มา แปรรปู แล้วน�ามาใช้ใหม่ • การใช้ให้น้อยลง (reduce) เชน่ ใชส้ นิ คา้ ท่มี กี ารบรรจหุ บี หอ่ น้อยชนิ้ จะเป็นการ ลดขยะ • กําหนดมาตรฐานสี สัญลักษณ์ และขนาดของถังขยะ ให้เอื้อต่อการเก็บขยะ อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคลอ้ งกับการแปรสภาพแล้วนา� กลับมาใช้ใหม่ 60
ภมู ิศาสตร์ 61 ทางอ้อม • ให้การศึกษาแก่ประชาชน เร่ืองการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากร ธรรมชาต ิ และสง่ิ แวดลอ้ ม • การจดั ตงั้ ชมรมหรอื สมาคมอนรุ กั ษแ์ ละจดั การทรพั ยากรธรรมชาต ิ เพอ่ื ชว่ ยภาค รัฐในการส่งเสรมิ ปอ้ งกัน และบ�ารุงรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม • การออกกฎหมายควบคมุ และการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย เพอื่ ใหเ้ กดิ ความระมดั ระวงั ในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมมากขึน้ • การประชาสมั พนั ธ ์ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความตระหนกั และสนใจในการอนรุ กั ษแ์ ละจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม • การรณรงค ์ จดั กจิ กรรมรณรงคใ์ หป้ ระชาชนสนใจและเขา้ มามสี ว่ นรว่ มกบั ชมุ ชน ในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม • การจัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพ่ือท�าหน้าท่ีประสานงานกับหน่วยงาน ต่างๆ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการด�าเนินการอย่างอิสระในการอนุรักษ์และจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เช่น กรมควบคุมมลพิษ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ
Search