โปรแกรมตารางงาน จัดทําโดย นาย ชัยวัฒน สงั ขเ ลก็ 055 นาย ณฐั วุฒิ ลามนั จติ ร 059 ปวช. ½ คอมพิวเตอรธุรกจิ
คํานํา รายงานเลมนจ้ี ดั ทาํ ขึ้นเพ่ือเปน สวนหน่งึ ของวชิ าโปรแกรมตารางงานช้ันปวช.1เพื่อใหไ ดศึกษาหาความรูในเร่อื งโปรแกรมตารางงาน .และ ไดศึกษาอยางเขา ใจเพอื่ เปน ประโยชนก ับการเรยี น ผูจดั ทาํ หวังวา รายงานเลม นจ้ี ะเปน ประโยชนกบั ผอู าน หรอื นกั เรียน นักศกึ ษา ทก่ี ําลังหาขอมูลเร่ืองนี้อยู หากมีขอ แนะนําหรือขอ ผดิ พลาด ประการใด ผูจดั ทาํ ขอนอมรับไวแ ละขออภัยมา ณ ทนี่ ด้ี ว ย นาย ณัฐวฒุ ิ ลามนั จิตร นาย ชัยวฒั น สงั ขเ ลก็ ผจู ัดทาํ
สารบญั ความหมายของ Excel 1 ส่วนประกอบของหนา้ ต่าง Excel 2013 2-9 คุณสมบตั ิท่ีสาํ คญั ของ Microsoft Excel 10 สูตรในการคาํ นวณ 11-28 ตวั อยา่ งการใชส้ ูตร 29-33 แหล่งอา้ งอิง 34
ความหมายของ Excel โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมหน่ึง ท่ีอยใู่ นชุด Microsoft Office มีจุดเด่นในดา้ น การคาํ นวณเกี่ยวกบั ตวั เลข โดยการทา งานของโปรแกรมจะใชต้ ารางตามแนวนอน (Row) และแนวต้งั (Column) เป็นหลกั ซ่ึงเรียกโปรแกรมในลกั ษณะน้ีวา่ ตารางทาการ (Spread Sheet) ไฟลข์ อง Excel เปรียบเสมือนเอกสารหนงั สือ 1 เล่ม ที่ประกอบไปดว้ ยหนา้ หลาย ๆ หนา้ เรียกวา่ สมุดงาน (Workbook) โดยในแต่ละหนา้ เรียกวา่ แผน่ งาน (Worksheet) ในแต่ละแผน่ งานจะแบ่งออกเป็นตาราง ซ่ึงประกอบไปดว้ ย ช่องตารางซ่ึงเป็นส่วนที่ตดั กนั ของแถวและคอ ลมั นเ์ รียกวา่ เซลล(์ Cell) ในแผน่ งานหน่ึง ๆ จะมีแถวท้งั หมด 1,048,576 แถว และ 16,384 คอลมั น์ โดยใชช้ ่ือคอลมั นเ์ ป็นตวั อกั ษรภาษา องั กฤษ ต้งั แต่ A จนถึง Z และ ต่อดว้ ยAA จนถึง AZ, BA จนถึง BZ ไปจนถึง XFD 1
สวนประกอบของหนาตา ง Ms Excel 2013 1. แถบช่ือเรื่อง (Title Bar) = เป็นส่วนท่ีใชแ้ สดงช่ือโปรแกรม และรายชื่อไฟลท์ ่ีไดเ้ ปิ ดใชง้ าน 2. แถบเคร่ืองมือด่วน (Quick Access) = เป็นส่วนที่ใชใ้ นการแสดงคาํ สงั่ ที่ใชง้ านบ่อย 3. ป่ ุมควบคุม = เป็นส่วนที่ใชค้ วบคุมการเปิ ด หรือปิ ดหนา้ ต่างโปรแกรม 4. ริบบอน (Ribbon) = เป็นส่วนที่ใชแ้ สดงรายการคาํ สงั่ ต่าง ๆ ที่ใชใ้ นการทาํ งานกบั เอกสาร 5. Name Box = เป็นช่องที่ใชแ้ สดงช่ือเซลลท์ ี่ใชง้ านอยใู่ นขณะน้นั เช่น ถา้ มีการใชง้ านขอ้ มลู ในเซลล์ A1 รายช่ือเซลลน์ ้ีกจ็ ะไปแสดงอยใู่ นช่อง Name Box 6. แถบสูตร (Formula Bar) = เป็นช่องที่ใชแ้ สดงการใชง้ านสูตรการคาํ นวณต่าง ๆ 7. เซลล์ (Cell) = เป็นช่องตารางท่ีใชส้ าํ หรับบรรจุขอ้ มลู ต่าง ๆ ซ่ึงช่องเซลลแ์ ต่ละช่องน้นั จะมีช่ือเรียกตามตาํ แหน่งแถว และคอลมั น์ ที่แสดงตาํ แหน่งของเซลล์ เช่น เซลล์ B1 จะอยู่ ใน คอลมั น์ B ในแถวที่ 1 เป็นตน้ 8. คอลมั น์ (Column) = เป็นช่องเซลลท์ ี่เรียงกนั ในแนวต้งั ของแผน่ งาน (Worksheet) 9. แถว (Row) = เป็นช่องเซลลท์ ่ีเรียงกนั ในแนวนอนของแผน่ งาน 10.Sheet Tab = เป็นแถบท่ีใชแ้ สดงจาํ นวนแผน่ งานที่เปิ ดข้ึนมาใชง้ าน 11.แถบสถานะ (Status Bar) = เป็นส่วนท่ีใชแ้ สดงจาํ นวนหนา้ กระดาษ และจาํ นวนตวั อกั ษรที่ใชใ้ นเอกสาร 2
1.เมนหู นา แรก (Home) จะเปน ทีร่ วบรวมชุดเครื่องมอื พน้ื ฐานท่ผี ูใชง านสวนมากตองใชบอ ยๆ เชน การจัดการแบบตวั อักษร รูปแบบตารางหรอื เซลล เปน ตน โดยจะแสดงขนึ้ มาเปนเมนแู รกเสมอ 1) A คอื คลิปบอรด (Clipboard) ใชส าหรับการตดั คดั ลอก และวางรปู แบบ 2) B คือ แบบอักษร (Font) ใชสาหรับจดั รปู แบบตวั อักษร เชน รปู แบบตัวอกั ษร ขนาด ตัวหนา บาง และการเปลย่ี นสีตัวอักษรหรอื สีพน้ื หลังของเซลล 3) C คือ การจดั แนว (Alignment) ใชส าํ หรับจัดตําแหนงชดิ ซาย ชิดขวา กง่ึ กลาง และจดั ระดับใหอยชู ดิ ดานบน กึง่ กลาง ดานลา ง รวมถงึ การจัดยอหนา 4) D คอื ตัวเลข (Number) ใชส าํ หรบั จดั รูปแบบแสดงตัวเลขในเซลล เชน แสดงรปู แบบของเวลา วันที่ สกุลเงินหรือแบบบญั ชี รวมถงึ การใสจ ลุ ภาคและจุดทศนยิ ม 5) E คือ ลักษณะ (Styles) ใชส ําหรับจดั รูปแบบตารางแบบสําเร็จรปู เชน สีของตารางหรือสีเซลล และจัดรปู แบบตามเงอื่ นไข เชน ใสส ัญลักษณ หรอื แถบสีแบบไลระดับ 6) F คือ เซลล (Cells) ใชสาํ หรบั แทรกหรือลบเซลล เปลย่ี นชอ่ื แผนงาน ซอนและล็อคแผนงาน 7) G คือ การแกไข (Editing) ใชสาํ หรับหาผลรวม ลา งเซลล เรยี งลาํ ดับ คน หา และการแทนที่คาํ ศัพท 3
2.เมนู แทรกเปนเมนูที่ใชส าหรบั แทรกออบเจ็กตหรอื องคป ระกอบตา งๆ ลงไปบนแผน งาน เพอ่ื ใชอ างองิ ประกอบขอ มูลใหสมบรู ณย่ิงขึ้น รวมถงึ การเพมิ่ ความสวยงาม เชน กราฟ รปู ภาพ หรือไดอะแกรมเปนตน 1) A คือ ตาราง (Tables) ใชส้ าํ หรับสร้างเสน้ ขอบตาราง การจดั การขอ้ มูลมากๆ ดว้ ย PivotTable และ PivotChart 4 2) B คือ ภาพประกอบ (Illustrations) ใชส้ าํ หรับสร้างการสร้างผงั งาน หรือไดอะแกรม 3) C คือ แอพพลิเคชนั (Apps) ใชส้ าํ หรับเช่ือมต่อกบั แอพพลิเคชนั ของไมโครซอฟท์ 4) D คือ แผนภมู ิ (Charts) ใชส้ ร้างแผนภมู ิหรือกราฟแบบต่างๆ 5) E คือ รายงาน (Reports) ใชส้ าํ หรับสร้างรายงานต่าง ๆ 6) F คือ วเิ คราะห์ขอ้ มลู (Spark lines) ใชส้ าํ หรับการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในลกั ษณะแผนภมู ิ 7) G คือ ตวั กรอง (Filters) ใชส้ าํ หรับสร้างตวั กรองสาํ หรับกรองขอ้ มูล 8) H คือ การเช่ือมโยง (Link) ใชส้ าํ หรับสร้างจุดเชื่อโยงไปยงั เวบ็ ไซต์ อีเมล์ หรือโปรแกรมต่างๆ 9) I คือ ขอ้ ความ (Text) ใชส้ าํ หรับสร้างขอ้ ความศิลป์ ใส่หวั หรือทา้ ยกระดาษ และใส่สญั ลกั ษณ์
3. เมนเู คาโครงหนากระดาษ (Page Layout) เปนเมนทู ใ่ี ชส าหรบั ปรบั แตง กาํ หนดขนาด หรือมุมมองตางๆ บนหนาแผน งานใหเปน ไปตามความตองการ 1) A คอื ชดุ รูปแบบ (Themes) ใชสาหรับออกแบบตาราง ตัวอกั ษร และสีสนั แบบสําเร็จรูป 2) B คือ ต้งั คาหนา กระดาษ (Page Setup) ใชส าหรับกาํ หนดระยะหา ง ขนาดกระดาษ รูปแบบการวางกระดาษและขอบกระดาษ 3) C คอื ตนเองปรบั พอดี (Scale to Fit) ใชสาหรับกําหนดความสงู หรือกวางใหพ อดีกับหนา กระดาษ 4) D คอื ตวั เลือกแผน งาน (Sheet Options) ใชสาหรับกาํ หนดการแสดงมมุ มองและรายละเอียดของแผน งาน 5) E คือ จัดเรียง (Arrange) ใชส าหรับจัดเรยี งลาดับของวัตถทุ ีว่ างซอนกันอยู 5
4. เมนสู ูตร (Formula) เปนเมนูท่ีใชส าหรบั ใสสตู รคาํ นวณและฟง กช นั สาเร็จรปู ตา งๆ ลงในเซลลโ ดยแยกประเภทตามการใชง าน เชน ฟง กช นั การเงนิ ฟง กช นั เกี่ยวกับขอ ความ ฟง กช ันทางคณติ ศาสตร เปน ตน 1) A คือ ไลบรารฟี งกช นั (Function Library) ใชสาหรับใสสตู รและฟง กช นั ดา นการคาํ นวณตา งๆ 2) B คือ ช่ือที่กําหนด (Define Names) ใชสาหรับกาํ หนดชอื่ ของกลุมเซลลเพื่อใชอ างองิ ในสูตร 3) C คอื ตรวจสอบสูตร (Formula Auditing) ใชสาหรับตรวจสอบความถกู ตอ ง ผลกระทบและความผิดพลาดจากการคํานวณ 4) D คอื การคาํ นวณ (Calculation) ใชสาหรบั กาํ หนดใหโปรแกรมมกี ารคาํ นวณแบบอตั โนมตั ิ 6
5. เมนูขอ มลู (Data) เปน เมนทู ่ใี ชส าหรับตดิ ตอ ขอมลู กบั ภายนอกโปรแกรม และทางานกับขอ มลู ทม่ี จี านวนมาก เพอ่ื ใหม ีความคลอ งตวั ในการใชงานและมปี ระสิทธภิ าพเพ่มิ ขึน้ 1) A คอื รับขอ มูลภายนอก (Get External) เปนสว นรบั ขอ มูลจากภายนอกโปรแกรม เชน จากฐานขอ มูลโปรแกรม Access เวบ็ ไซต หรือแหลง ขอ มลู อน่ื ๆ 2) B คือ การเชื่อมตอ (Connections) ใชสาหรบั เชื่อมโยงไปยังขอ มลู ทอี่ ยนู อกสมดุ งาน 3) C คอื เรยี งลาดับและกรองขอมูล (Sort & Filter) ใชสาหรับเรยี งลาดบั ตัวเลข/ตวั อกั ษร และกรองขอ มลู เพอื่ ใหแ สดงเฉพาะผลลพั ธท ่ีตองการ 4) D คือ เครื่องมอื ขอ มลู (Data Tools) ใชสาหรับจดั การขอมูล เชน แบงขอ ความเปนคอลมั นเลือกรายการที่ซ้าํ กันออกไป และกาํ หนดการตรวจสอบการกรอก ขอมูลลงในเซลล 5) E คอื เคาราง (Outline) ใชส าหรบั จัดกลุม ขอ มลู ทมี่ ีมากๆ โดยสามารถยุบหรอื ขยายกลมุ เซลลน ้ัน 7
6. เมนูตรวจทาน (Review) เป็นเมนูที่รวบรวมประโยชนห์ ลายๆ อยา่ งเขา้ ดว้ ยกนั ซ่ึงประกอบดว้ ยการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของตวั สะกด การแทรกขอ้ คิดเห็น และการป้ องกนั ความปลอดภยั ของแผน่ งาน 1) A คือ การพิสจู นอกั ษร (Proofing) ใชตรวจสอบความถูกตอ งของตัวสะกด คน ควา อางอิงขอมูล และการใชพจนานกุ รมเพ่อื แปลคาศพั ท 2) B คือ ภาษา (Language) ใชส าหรับเปลยี่ นภาษา 3) C คอื ขอคิดเห็น (Comments) ใชสาหรบั เพมิ่ ขอ คิดเหน็ หรือเสนอแนะลงในเซลล 4) D คอื การเปล่ยี นแปลง (Changes) ใชส าหรบั ล็อคแผนงานหรอื สมุดงานไมใ หผ ูอนื่ ใชร ว ม 6 8
7. เมนมู ุมมอง (View) เปนเมนูท่ีใชปรบั เปล่ียนมุมมองของแผนงานแบบตา งๆ ใหเหมาะสมกบั ลกั ษณะการทางานในขณะน้นั 1) A คอื มมุ มองสมดุ งาน (Workbook Views) ใชสาหรบั ปรับเปล่ียนมุมมองของหนาแผน งานใหเปน ไปตามลกั ษณะของการใชงาน เชน มุมมองแบบปกตหิ รือมุมมองแบบ เคา โครง เปนตน 2) B คือ แสดง/ซอ น (Show/Hide) ใชสาหรบั กาํ หนดใหแสดง/ซอ นสวนตา งๆ ในแผนงาน เชน เสนตาราง หวั เรื่อง หรือแถบสูตร เปน ตน 3) C คอื ยอ/ขยาย (Zoom) ใชสาหรบั สาหรบั ยอ หรือขยายหนาแผนงานใหใหญข ึ้นหรอื เล็กลง 4) D คอื หนาตา ง (Windows) ใชส าหรบั จดั การแผนงาน เชน ซอ นแผน งาน ตรึงแนวแผน งาน เปน ตน 5) E คอื มาโคร (Macros) ใชสาหรบั สรา งมาโคร โดยการบนั ทกึ ขั้นตอนการทางานไวใ ชง านภายหลงั 9
คณุ สมบัตทิ ส่ี ําคญั ของ Microsoft Excel 1. ความสามารถดา้ นการคาํ นวณ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถป้ อนสูตรการคาํ นวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เป็นตน้ 2. ความสามารถดา้ นใชฟ้ ังกช์ นั เช่นฟังกช์ นั เก่ียวกบั ตวั อกั ษร ตวั เลข วนั ที่ ฟังกช์ นั เก่ียวกบั การเงิน หรือเกี่ยวกบั การตดั สินใจ 3. ความสามารถในการสร้างกราฟ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถนาํ ขอ้ มลู ท่ีป้ อนลงในตารางมาสร้างเป็นกราฟไดท้ นั ที 4. ความสามารถในการตกแต่งตารางขอ้ มลู โปรแกรม Microsoft Excel สามารถตกแต่งตารางขอ้ มลู หรือกราฟ ขอ้ มลู ดว้ ยภาพ สี และรูปแบบตวั อกั ษรต่าง ๆ เพ่ือใหเ้ กิดความสวยงามและทาํ ใหแ้ ยกแยะขอ้ มลู ไดง้ ่ายข้ึน 5. ความสามารถในการเรียงลาํ ดบั ขอ้ มลู โปรแกรม Microsoft Excel สามารถคดั เลือกเฉพาะขอ้ มูลที่ตอ้ งการมาวเิ คราะห์ได้ 6. ความสามารถในการพมิ พง์ านออกทางเคร่ืองพิมพ์ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถพมิ พง์ านท้งั ขอ้ มูลและรูปภาพหรือกราฟออกทางเคร่ืองพมิ พไ์ ด้ ทนั ที ซ่ึงทาํ ใหง้ ่ายต่อการสร้างรายงาน 7. ความสามารถในการแปลงขอ้ มูลในตารางใหเ้ ป็นเวบ็ เพจ เพ่ือนาํ ไปแสดงในโฮมเพจ 10
1. SUM (การหาผลรวมของขอมูล) รูปแบบ =SUM(Number 1,Number 2,...) Number เปนกลมุ ของขอมูลท่ีตองการหาผลรวมซง่ึ สามารถจะใสไดม ากกวา 1 กลมุ โดยใชเ ครอ่ื งหมาย , คั่นกลางระหวางแตละกลุมขอ มูล เชน ใหห า ผลรวมต้ังแตเ ซลล A1 ถงึ เซลล A10 =SUM(A1:A10) 11
2. SUMIF (การหาผลรวมแบบมีเงอื่ นไข) รูปแบบ =SUMIF(Range,Criteria,Sum_range) Range ขอบเขตของขอ มูลท่ีตองการตรวจสอบตามเง่ือนไข Criteria เง่อื นไขที่กาํ หนดใหค ํานวณหาผลรวม Sum_Range ชว งของเซลลท ี่ตรวจสอบตามเง่ือนไขเพือ่ นํามาคาํ นวณ เชน ใหห า ผลรวมเฉพาะเส้ือสฟี าโดยเซลลทอ่ี างคือเซลล B1 ถึง เซลล B12 และใหอ า ง เซลลราคาของเสื้อสีฟาทเี่ ซลล C1 ถึง เซลล C12 =SUMIF(B1:B12,”เสอ้ื สีฟา”,C1:C12) 12
3. MIN (การหาคา ตาํ่ สดุ ของจาํ นวน) รปู แบบ =MIN(Number1,Number2,...) Number เปน กลมุ ของขอมลู ที่ตอ งการหาคา ตํ่าสดุ เชน ใหหาคา ต่าํ สดุ ของเซลล B3 ถึงเซลล B12 =MIN(B3:B12) 13
4. MAX (การหาคา สงู สดุ ของจํานวน) รปู แบบ =MAX(Number1,Number2,....) Number เปน กลมุ ของขอมลู ,ทตี่ อ งการหาคาสงู สดุ 14
5. AVERAGE (การหาคา เฉลี่ยของขอมลู ) รปู แบบ =AVERAGE(Number1,Number2,...) Number เปนกลุมของขอ มลู ทต่ี องหาคา เฉล่ยี เชน ใหห าคา เฉล่ยี ของเซลล F1 ถึงเซลล F8 =AVERAGE(F1:F8) 15
6. COUNT (การนบั ขอมูลทเี่ ปน เฉพาะตัวเลข) รูปแบบ =COUNT(Value1,Value2,...) Value ชว งของกลมุ เซลลท ี่ใชใ นการนับ 16
7. COUNTA (การนับจํานวนขอ มูลทีเ่ ปน ทง้ั ขอ ความและตวั เลขปนกนั รูปแบบ =COUNTA(Value1,Value2,...) Value ชวงของกลมุ เซลลที่นาํ มาใชในการนบั จํานวน เชน ใหนบั รหัสสนิ คาวา มีจาํ นวนเทาใด โดยอา งที่เซลล A3 ถึงเซลล A20 =COUNTA(A3:A20) 17
8. COUNTIF (การนับจาํ นวนขอ มลู แบบมีเง่อื นไข) รูปแบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ชวงของเซลลท ี่ตองการนับตามเงอ่ื นไข Criteria เงือ่ นไขที่ใชตรวจสอบและนับจํานวนของเซลล 18
9. VAR (การหาคา ความแปรปรวน) รูปแบบ =VAR(Number1,Number2,...) Number เปนกลมุ ของขอ มลู การหาคาความแปรปรวน 19
10. STDEV (การหาคา การเบ่ียงเบนมาตราฐาน) รูปแบบ =STDEV(Number1,Number2,...) Number เปนกลุมของขอมูลทต่ี องการหาคา เบ่ยี งเบนมาตรฐาน 20
11. MEDIAN (การหาคากลาง) รูปแบบ =MEDIAN(Number1,Number2,...) Number เปนกลมุ ของขอ มลู ทตี่ อ งการหาคากลาง 21
12. ROUND (การปดจดุ ทศนิยมขน้ึ หรอื ลง) รปู แบบ =ROUND(Number,Num_digits) Number เปนกลมุ ของขอ มูลท่ตี องการกาํ หนดปด จุดทศนยิ ม Num_digits จํานวนหลกั ของทศนยิ ม เชน ใหกําหนดทศนิยมเปน 0 ทเี่ ซลล C3 ถึงเซลล C6 22
13. IF (การหาคา ความจรงิ หรือเท็จจากเงอื่ นไขที่ระบุ) รูปแบบ =IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false Logical เงอื่ นไขทใ่ี ชเปรียบเทียบหรือตรวจสอบขอ มูล Value_if_true คา ของเงื่อนไขที่ถูกตอง(จรงิ ) Value_if_false คา เงื่อนไขท่ไี มถ ูกตอ ง(เท็จ) 23
14. DATE (การระบขุ อ มลู ทเ่ี ปน วนั ท่ี) รูปแบบ =DATE(Year,Month,Day) Year ใสคา ค.ศ. Month ใสค า เดือน Day ใสค า วัน 24
15. DATEIF (การระบุเงือ่ นไขการหาขอ มลู ท่เี ปน วนั ท่ี) รูปแบบ =DATEIF(เง่อื นไข) 16. Now (การหาวนั ทแ่ี ละเวลาปจ จุบัน) รปู แบบ =Now() 25
17. HOUR (การหาช่วั โมง) รปู แบบ =HOUR(Serial_number) Serial_number คา ของตวั เลขหรือขอ ความที่อยใู นรปู แบบของเวลา 27
18. VLOOKUP (การคน หาและแสดงขอ มูล) รปู แบบ =VLOOKUP(Lookup_value,Table_array,Col_index_num,Range_lookup) Lookup คาํ ท่ใี ชใ นการคนหา Table_array ตารางขอมลู ทใ่ี ชส าํ หรับแสดงผลและคน หาขอ มูล Col_index_num คอลัมนที่ตองการขอมลู โดยคอลัมนแ รกมคี าเปน 1 และคอลัมนต อ ไปจะเปน 2,3,.....ตามลาํ ดบั Range_lookup คาทางตรรกะท่ีกําหนดในการคน หามี 2 รปู แบบ False ใชคน หาคา ทีต่ รงกับคาํ ท่ใี ชใ นการคน หา True ใชคนหาคา ที่ไกลเ คยี งท่ีสุดนอ ยกวา คา ในการคน หา 28
MAX (การหาคา สงู สดุ ของจํานวณ) รปู แบ =MAX(Number1,Number2,...) Number เปนกลมุ ขอมลู ทต่ี อ งการหาคาสูงสุด เชน ใหหาคา สงู สดุ ของเซลล C3 ถงึ เซลล C6 =MAX(C3:C6) 29
ROUND (การปด จุดทศนยิ มขึ้นหรอื ลง) รปู แบบ =ROUND(Number,Num_digits) Number เปน กลุมของขอ มลู ทีต่ องการกาํ หนดปดจุดทศนยิ ม Num_digits จาํ นวนหลักของทศนยิ ม เชน ใหก ําหนดทศนยิ มเปน 0 ท่ีเซลล C3 ถงึ เซลล C6 =ROUND(C3,C6) 30
MEDIAN (การหาคา กลาง) รปู แบบ =MEDIANA(Number1,Number2,....) Number เปน กลุม ของขอมูลทตี่ องการหาคา กลาง เชน ใหห าคากลางทีเ่ ซลล C3 ถงึ เซลล C6 =MEDIAN(C3:C6) 32
COUNTIF(การนับจํานวนขอ มูลแบบมเี ง่ือนไข) รปู แบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ชวงของเซลลท่ตี อ งการนบั ตามจสอบและนับจาํ นวนของเซลล เชน ใหนบั เฉพาะ นักเรียนท่ผี า นกจิ กรรมชมรม โดยอา งองิ ท่ีเซลล G2 ถึง เซลล G40 =COUNTIF(A2:A7,”เง่ือนไข”) 33
แหลงอา งองิ https://guru.sanook.com/6147/ https://sites.google.com/site/kroopanumas/bth-reiyn-microsoft-excel/excel-khux-xari https://support.office.com/th-th/article/max-%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%8A% E0%B8%B1%E0%B8%99-max-e0012414-9ac8-4b34-9a47-73e662c08098 https://support.office.com/th-th/article/round-%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%8A %E0%B8%B1%E0%B8%99-round-c018c5d8-40fb-4053-90b1-b3e7f61a213c https://support.office.com/th-th/article/median-%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%8 A%E0%B8%B1%E0%B8%99-median-d0916313-4753-414c-8537-ce85bdd967d2 https://support.office.com/th-th/article/countif-%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%8 A%E0%B8%B1%E0%B8%99-countif-e0de10c6-f885-4e71-abb4-1f464816df34 34
ประวัตสิ ว นตัว นาย ชยั วัฒน สังขเ ลก็ ชอ่ื เลน ซี อายุ 15 ขวบ เกดิ วันท่ี 20 เมษายน 2544 ที่อยู 4 หมู 5 ต.บานกลาง อ.เมอื ง จ.ปทมุ ธานี เบอรโทรศพั ท 096-619-0079
ประวัตสิ วนตวั นาย ณฐั วฒุ ิ ลามันจติ ร ช่อื เลน ฟลคุ อายุ 16 ป เกิดวนั ที่ 7 เมษายน 2547 ที่อยู 71/2 หมู 1 ต.บานกระแชง อ.เมอื ง จ.ปทมุ ธานี เบอรโ ทรศพั ท 080-0765-112
เสนอ อาจารย รัตนภรณ จันทะวงศ
วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี (Pathumthani Technical College) แผนกคอมพิวเตอรธุรกิจ (Business Computer)
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: