Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานนำเสนอไม่มีชื่อ

งานนำเสนอไม่มีชื่อ

Published by DIGITAL GAME., 2020-01-12 23:52:24

Description: งานนำเสนอไม่มีชื่อ

Search

Read the Text Version

โปรแกรมตารางงาน จัดทําโดย นาย ศริ ชชั พรายแกว นาย ธนธร เตมิ ปยกุล ปวช. ½ คอมพวิ เตอรธรุ กจิ

คํานาํ รายงานเลม น้จี ัดทําข้นึ เพ่อื เปน สว นหนึ่งของวชิ าโปรแกรมตารางงานชัน้ ปวช.1เพื่อใหไดศึกษาหาความรูในเร่อื งโปรแกรมตารางงาน .และ ไดศึกษาอยา งเขา ใจเพอ่ื เปน ประโยชนก บั การเรยี น ผูจัดทําหวังวา รายงานเลมนี้จะเปน ประโยชนกับผูอ าน หรอื นักเรียน นักศึกษา ทก่ี าํ ลังหาขอ มลู เรือ่ งนอ้ี ยู หากมขี อแนะนาํ หรือขอผิดพลาด ประการใด ผูจดั ทําขอนอ มรับไวและขออภัยมา ณ ที่น้ดี วย นาย ศิรชัช พรายแกว นาย ธนธร เตมิ ปยกุล ผูจดั ทํา

สารบญั ความหมายของ Excel 1 ส่วนประกอบของหนา้ ต่าง Excel 2013 2-9 คุณสมบตั ิท่ีสาํ คญั ของ Microsoft Excel 10 สูตรในการคาํ นวณ 11-28 ตวั อยา่ งการใชส้ ูตร 29-33 แหล่งอา้ งอิง 34

ความหมายของ Excel โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมหน่ึง ท่ีอยใู่ นชุด Microsoft Office มีจุดเด่นในดา้ น การคาํ นวณเกี่ยวกบั ตวั เลข โดยการทา งานของโปรแกรมจะใชต้ ารางตามแนวนอน (Row) และแนวต้งั (Column) เป็นหลกั ซ่ึงเรียกโปรแกรมในลกั ษณะน้ีวา่ ตารางทาการ (Spread Sheet) ไฟลข์ อง Excel เปรียบเสมือนเอกสารหนงั สือ 1 เล่ม ที่ประกอบไปดว้ ยหนา้ หลาย ๆ หนา้ เรียกวา่ สมุดงาน (Workbook) โดยในแต่ละหนา้ เรียกวา่ แผน่ งาน (Worksheet) ในแต่ละแผน่ งานจะแบ่งออกเป็นตาราง ซ่ึงประกอบไปดว้ ย ช่องตารางซ่ึงเป็นส่วนที่ตดั กนั ของแถวและคอ ลมั นเ์ รียกวา่ เซลล(์ Cell) ในแผน่ งานหน่ึง ๆ จะมีแถวท้งั หมด 1,048,576 แถว และ 16,384 คอลมั น์ โดยใชช้ ่ือคอลมั นเ์ ป็นตวั อกั ษรภาษา องั กฤษ ต้งั แต่ A จนถึง Z และ ต่อดว้ ยAA จนถึง AZ, BA จนถึง BZ ไปจนถึง XFD 1

สวนประกอบของหนาตา ง Ms Excel 2013 1. แถบช่ือเรื่อง (Title Bar) = เป็นส่วนท่ีใชแ้ สดงช่ือโปรแกรม และรายชื่อไฟลท์ ่ีไดเ้ ปิ ดใชง้ าน 2. แถบเคร่ืองมือด่วน (Quick Access) = เป็นส่วนที่ใชใ้ นการแสดงคาํ สงั่ ที่ใชง้ านบ่อย 3. ป่ ุมควบคุม = เป็นส่วนที่ใชค้ วบคุมการเปิ ด หรือปิ ดหนา้ ต่างโปรแกรม 4. ริบบอน (Ribbon) = เป็นส่วนที่ใชแ้ สดงรายการคาํ สงั่ ต่าง ๆ ที่ใชใ้ นการทาํ งานกบั เอกสาร 5. Name Box = เป็นช่องที่ใชแ้ สดงช่ือเซลลท์ ี่ใชง้ านอยใู่ นขณะน้นั เช่น ถา้ มีการใชง้ านขอ้ มลู ในเซลล์ A1 รายช่ือเซลลน์ ้ีกจ็ ะไปแสดงอยใู่ นช่อง Name Box 6. แถบสูตร (Formula Bar) = เป็นช่องที่ใชแ้ สดงการใชง้ านสูตรการคาํ นวณต่าง ๆ 7. เซลล์ (Cell) = เป็นช่องตารางท่ีใชส้ าํ หรับบรรจุขอ้ มลู ต่าง ๆ ซ่ึงช่องเซลลแ์ ต่ละช่องน้นั จะมีช่ือเรียกตามตาํ แหน่งแถว และคอลมั น์ ที่แสดงตาํ แหน่งของเซลล์ เช่น เซลล์ B1 จะอยู่ ใน คอลมั น์ B ในแถวที่ 1 เป็นตน้ 8. คอลมั น์ (Column) = เป็นช่องเซลลท์ ี่เรียงกนั ในแนวต้งั ของแผน่ งาน (Worksheet) 9. แถว (Row) = เป็นช่องเซลลท์ ่ีเรียงกนั ในแนวนอนของแผน่ งาน 10.Sheet Tab = เป็นแถบท่ีใชแ้ สดงจาํ นวนแผน่ งานที่เปิ ดข้ึนมาใชง้ าน 11.แถบสถานะ (Status Bar) = เป็นส่วนท่ีใชแ้ สดงจาํ นวนหนา้ กระดาษ และจาํ นวนตวั อกั ษรที่ใชใ้ นเอกสาร 2

1.เมนหู นา แรก (Home) จะเปน ทีร่ วบรวมชุดเครื่องมือพ้ืนฐานทผ่ี ใู ชง านสวนมากตอ งใชบ อยๆ เชน การจัดการแบบตวั อักษร รปู แบบตารางหรือเซลล เปน ตน โดยจะแสดงข้นึ มาเปนเมนแู รกเสมอ 1) A คอื คลิปบอรด (Clipboard) ใชสาหรับการตัด คัดลอก และวางรูปแบบ 2) B คอื แบบอกั ษร (Font) ใชส าหรับจดั รปู แบบตวั อกั ษร เชน รูปแบบตัวอกั ษร ขนาด ตัวหนา บาง และการเปลย่ี นสีตวั อักษรหรอื สีพ้นื หลังของเซลล 3) C คือ การจัดแนว (Alignment) ใชส าํ หรับจัดตาํ แหนงชิดซา ย ชดิ ขวา ก่งึ กลาง และจัดระดบั ใหอ ยชู ิดดา นบน กึ่งกลาง ดานลา ง รวมถงึ การจัดยอหนา 4) D คอื ตวั เลข (Number) ใชสําหรบั จัดรูปแบบแสดงตวั เลขในเซลล เชน แสดงรปู แบบของเวลา วันที่ สกลุ เงนิ หรือแบบบัญชี รวมถงึ การใสจุลภาคและจุดทศนยิ ม 5) E คือ ลักษณะ (Styles) ใชส าํ หรับจัดรปู แบบตารางแบบสาํ เร็จรูป เชน สีของตารางหรือสีเซลล และจัดรูปแบบตามเงอื่ นไข เชน ใสสญั ลกั ษณ หรอื แถบสแี บบไลร ะดบั 6) F คอื เซลล (Cells) ใชสําหรบั แทรกหรอื ลบเซลล เปลยี่ นชอ่ื แผน งาน ซอนและล็อคแผน งาน 7) G คือ การแกไข (Editing) ใชสาํ หรับหาผลรวม ลา งเซลล เรียงลําดบั คนหา และการแทนทคี่ ําศพั ท 3

2.เมนู แทรกเปนเมนูที่ใชส าหรบั แทรกออบเจ็กตหรอื องคป ระกอบตา งๆ ลงไปบนแผน งาน เพอ่ื ใชอ างองิ ประกอบขอ มูลใหสมบรู ณย่ิงขึ้น รวมถงึ การเพมิ่ ความสวยงาม เชน กราฟ รปู ภาพ หรือไดอะแกรมเปนตน 1) A คือ ตาราง (Tables) ใชส้ าํ หรับสร้างเสน้ ขอบตาราง การจดั การขอ้ มูลมากๆ ดว้ ย PivotTable และ PivotChart 4 2) B คือ ภาพประกอบ (Illustrations) ใชส้ าํ หรับสร้างการสร้างผงั งาน หรือไดอะแกรม 3) C คือ แอพพลิเคชนั (Apps) ใชส้ าํ หรับเช่ือมต่อกบั แอพพลิเคชนั ของไมโครซอฟท์ 4) D คือ แผนภมู ิ (Charts) ใชส้ ร้างแผนภมู ิหรือกราฟแบบต่างๆ 5) E คือ รายงาน (Reports) ใชส้ าํ หรับสร้างรายงานต่าง ๆ 6) F คือ วเิ คราะห์ขอ้ มลู (Spark lines) ใชส้ าํ หรับการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในลกั ษณะแผนภมู ิ 7) G คือ ตวั กรอง (Filters) ใชส้ าํ หรับสร้างตวั กรองสาํ หรับกรองขอ้ มูล 8) H คือ การเช่ือมโยง (Link) ใชส้ าํ หรับสร้างจุดเชื่อโยงไปยงั เวบ็ ไซต์ อีเมล์ หรือโปรแกรมต่างๆ 9) I คือ ขอ้ ความ (Text) ใชส้ าํ หรับสร้างขอ้ ความศิลป์ ใส่หวั หรือทา้ ยกระดาษ และใส่สญั ลกั ษณ์

3. เมนเู คาโครงหนากระดาษ (Page Layout) เปนเมนทู ใ่ี ชส าหรบั ปรบั แตง กาํ หนดขนาด หรือมุมมองตางๆ บนหนาแผน งานใหเปน ไปตามความตองการ 1) A คอื ชดุ รูปแบบ (Themes) ใชสาหรับออกแบบตาราง ตัวอกั ษร และสีสนั แบบสําเร็จรูป 2) B คือ ต้งั คาหนา กระดาษ (Page Setup) ใชส าหรับกาํ หนดระยะหา ง ขนาดกระดาษ รูปแบบการวางกระดาษและขอบกระดาษ 3) C คอื ตนเองปรบั พอดี (Scale to Fit) ใชสาหรับกําหนดความสงู หรือกวางใหพ อดีกับหนา กระดาษ 4) D คอื ตวั เลือกแผน งาน (Sheet Options) ใชสาหรับกาํ หนดการแสดงมมุ มองและรายละเอียดของแผน งาน 5) E คือ จัดเรียง (Arrange) ใชส าหรับจัดเรยี งลาดับของวัตถทุ ีว่ างซอนกันอยู 5

4. เมนสู ูตร (Formula) เปนเมนูท่ีใชส าหรบั ใสสตู รคาํ นวณและฟง กช นั สาเร็จรปู ตา งๆ ลงในเซลลโ ดยแยกประเภทตามการใชง าน เชน ฟง กช นั การเงนิ ฟง กช นั เกี่ยวกับขอ ความ ฟง กช ันทางคณติ ศาสตร เปน ตน 1) A คือ ไลบรารฟี งกช นั (Function Library) ใชสาหรับใสสตู รและฟง กช นั ดา นการคาํ นวณตา งๆ 2) B คือ ช่ือที่กําหนด (Define Names) ใชสาหรับกาํ หนดชอื่ ของกลุมเซลลเพื่อใชอ างองิ ในสูตร 3) C คอื ตรวจสอบสูตร (Formula Auditing) ใชสาหรับตรวจสอบความถกู ตอ ง ผลกระทบและความผิดพลาดจากการคํานวณ 4) D คอื การคาํ นวณ (Calculation) ใชสาหรบั กาํ หนดใหโปรแกรมมกี ารคาํ นวณแบบอตั โนมตั ิ 6

5. เมนูขอ มลู (Data) เปน เมนทู ่ใี ชส าหรับตดิ ตอ ขอมลู กบั ภายนอกโปรแกรม และทางานกับขอ มลู ทม่ี จี านวนมาก เพอ่ื ใหม ีความคลอ งตวั ในการใชงานและมปี ระสิทธภิ าพเพ่มิ ขึน้ 1) A คอื รับขอ มูลภายนอก (Get External) เปนสว นรบั ขอ มูลจากภายนอกโปรแกรม เชน จากฐานขอ มูลโปรแกรม Access เวบ็ ไซต หรือแหลง ขอ มลู อน่ื ๆ 2) B คือ การเชื่อมตอ (Connections) ใชสาหรบั เชื่อมโยงไปยังขอ มลู ทอี่ ยนู อกสมดุ งาน 3) C คอื เรยี งลาดับและกรองขอมูล (Sort & Filter) ใชสาหรับเรยี งลาดบั ตัวเลข/ตวั อกั ษร และกรองขอ มลู เพอื่ ใหแ สดงเฉพาะผลลพั ธท ่ีตองการ 4) D คือ เครื่องมอื ขอ มลู (Data Tools) ใชสาหรับจดั การขอมูล เชน แบงขอ ความเปนคอลมั นเลือกรายการที่ซ้าํ กันออกไป และกาํ หนดการตรวจสอบการกรอก ขอมูลลงในเซลล 5) E คอื เคาราง (Outline) ใชส าหรบั จัดกลุม ขอ มลู ทมี่ ีมากๆ โดยสามารถยุบหรอื ขยายกลมุ เซลลน ้ัน 7

6. เมนูตรวจทาน (Review) เป็นเมนูที่รวบรวมประโยชนห์ ลายๆ อยา่ งเขา้ ดว้ ยกนั ซ่ึงประกอบดว้ ยการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของตวั สะกด การแทรกขอ้ คิดเห็น และการป้ องกนั ความปลอดภยั ของแผน่ งาน 1) A คือ การพิสจู นอกั ษร (Proofing) ใชตรวจสอบความถูกตอ งของตัวสะกด คน ควา อางอิงขอมูล และการใชพจนานกุ รมเพ่อื แปลคาศพั ท 2) B คือ ภาษา (Language) ใชส าหรับเปลยี่ นภาษา 3) C คอื ขอคิดเห็น (Comments) ใชสาหรบั เพมิ่ ขอ คิดเหน็ หรือเสนอแนะลงในเซลล 4) D คอื การเปล่ยี นแปลง (Changes) ใชส าหรบั ล็อคแผนงานหรอื สมุดงานไมใ หผ ูอนื่ ใชร ว ม 6 8

7. เมนมู ุมมอง (View) เปนเมนูท่ีใชปรบั เปล่ียนมุมมองของแผนงานแบบตา งๆ ใหเหมาะสมกบั ลกั ษณะการทางานในขณะน้นั 1) A คอื มมุ มองสมดุ งาน (Workbook Views) ใชสาหรบั ปรับเปล่ียนมุมมองของหนาแผน งานใหเปน ไปตามลกั ษณะของการใชงาน เชน มุมมองแบบปกตหิ รือมุมมองแบบ เคา โครง เปนตน 2) B คือ แสดง/ซอ น (Show/Hide) ใชสาหรบั กาํ หนดใหแสดง/ซอ นสวนตา งๆ ในแผนงาน เชน เสนตาราง หวั เรื่อง หรือแถบสูตร เปน ตน 3) C คอื ยอ/ขยาย (Zoom) ใชสาหรบั สาหรบั ยอ หรือขยายหนาแผนงานใหใหญข ึ้นหรอื เล็กลง 4) D คอื หนาตา ง (Windows) ใชส าหรบั จดั การแผนงาน เชน ซอ นแผน งาน ตรึงแนวแผน งาน เปน ตน 5) E คอื มาโคร (Macros) ใชสาหรบั สรา งมาโคร โดยการบนั ทกึ ขั้นตอนการทางานไวใ ชง านภายหลงั 9

คณุ สมบตั ิท่ีสาํ คญั ของ Microsoft Excel 1. ความสามารถดา้ นการคาํ นวณ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถป้ อนสูตรการคาํ นวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เป็นตน้ 2. ความสามารถดา้ นใชฟ้ ังกช์ นั เช่นฟังกช์ นั เก่ียวกบั ตวั อกั ษร ตวั เลข วนั ท่ี ฟังกช์ นั เกี่ยวกบั การเงิน หรือเก่ียวกบั การตดั สินใจ 3. ความสามารถในการสร้างกราฟ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถนาํ ขอ้ มลู ที่ป้ อนลงในตารางมาสร้างเป็นกราฟไดท้ นั ที 4. ความสามารถในการตกแต่งตารางขอ้ มูล โปรแกรม Microsoft Excel สามารถตกแต่งตารางขอ้ มลู หรือกราฟ ขอ้ มลู ดว้ ยภาพ สี และรูปแบบตวั อกั ษรต่าง ๆ เพ่อื ใหเ้ กิดความสวยงามและทาํ ใหแ้ ยกแยะขอ้ มูลไดง้ ่ายข้ึน 5. ความสามารถในการเรียงลาํ ดบั ขอ้ มูล โปรแกรม Microsoft Excel สามารถคดั เลือกเฉพาะขอ้ มูลที่ตอ้ งการมาวเิ คราะห์ได้ 6. ความสามารถในการพิมพง์ านออกทางเครื่องพมิ พ์ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถพมิ พง์ านท้งั ขอ้ มูลและรูปภาพหรือกราฟออกทางเคร่ืองพมิ พไ์ ด้ ทนั ที ซ่ึงทาํ ใหง้ ่ายต่อการสร้างรายงาน 7. ความสามารถในการแปลงขอ้ มูลในตารางใหเ้ ป็นเวบ็ เพจ เพ่ือนาํ ไปแสดงในโฮมเพจ 10

1. SUM (การหาผลรวมของขอมูล) รูปแบบ =SUM(Number 1,Number 2,...) Number เปนกลมุ ของขอมูลท่ีตองการหาผลรวมซง่ึ สามารถจะใสไดม ากกวา 1 กลมุ โดยใชเ ครอ่ื งหมาย , คั่นกลางระหวางแตละกลุมขอ มูล เชน ใหห า ผลรวมต้ังแตเ ซลล A1 ถงึ เซลล A10 =SUM(A1:A10) 11

2. SUMIF (การหาผลรวมแบบมีเงอื่ นไข) รูปแบบ =SUMIF(Range,Criteria,Sum_range) Range ขอบเขตของขอ มูลท่ีตองการตรวจสอบตามเง่ือนไข Criteria เง่อื นไขที่กาํ หนดใหค ํานวณหาผลรวม Sum_Range ชว งของเซลลท ี่ตรวจสอบตามเง่ือนไขเพือ่ นํามาคาํ นวณ เชน ใหห า ผลรวมเฉพาะเส้ือสฟี าโดยเซลลทอ่ี างคือเซลล B1 ถึง เซลล B12 และใหอ า ง เซลลราคาของเสื้อสีฟาทเี่ ซลล C1 ถึง เซลล C12 =SUMIF(B1:B12,”เสอ้ื สีฟา”,C1:C12) 12

3. MIN (การหาคาต่าํ สุดของจาํ นวน) รปู แบบ =MIN(Number1,Number2,...) Number เปน กลมุ ของขอมลู ทต่ี อ งการหาคาตาํ่ สดุ เชน ใหหาคา ต่าํ สดุ ของเซลล B3 ถึงเซลล B12 =MIN(B3:B12) 13

4. MAX (การหาค่าสูงสุดของจาํ นวน) รูปแบบ =MAX(Number1,Number2,....) Number เป็นกลุ่มของขอ้ มูล,ท่ีตอ้ งการหาค่าสูงสุด 14

5. AVERAGE (การหาค่าเฉล่ียของขอ้ มลู ) รูปแบบ =AVERAGE(Number1,Number2,...) Number เป็นกลุ่มของขอ้ มูลที่ตอ้ งหาค่าเฉลี่ย เช่น ใหห้ าค่าเฉลี่ยของเซลล์ F1 ถึงเซลล์ F8 =AVERAGE(F1:F8) 15

6. COUNT (การนบั ขอ้ มูลท่ีเป็นเฉพาะตวั เลข) รูปแบบ =COUNT(Value1,Value2,...) Value ช่วงของกลุ่มเซลลท์ ่ีใชใ้ นการนบั 16

7. COUNTA (การนบั จํานวนขอ มูลท่เี ปนทั้งขอ ความและตวั เลขปนกัน รูปแบบ =COUNTA(Value1,Value2,...) Value ชวงของกลมุ เซลลท่นี ํามาใชใ นการนับจํานวน เชน ใหนบั รหสั สินคา วา มจี าํ นวนเทาใด โดยอา งทเี่ ซลล A3 ถึงเซลล A20 =COUNTA(A3:A20) 17

8. COUNTIF (การนับจํานวนขอมลู แบบมีเง่อื นไข) รูปแบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ชวงของเซลลท ่ีตองการนับตามเงอ่ื นไข Criteria เงือ่ นไขที่ใชต รวจสอบและนับจํานวนของเซลล 18

9. VAR (การหาคาความแปรปรวน) รูปแบบ =VAR(Number1,Number2,...) Number เปนกลมุ ของขอมลู การหาคาความแปรปรวน 19

10. STDEV (การหาคา การเบย่ี งเบนมาตราฐาน) รปู แบบ =STDEV(Number1,Number2,...) Number เปนกลมุ ของขอ มลู ทตี่ องการหาคา เบี่ยงเบนมาตรฐาน 20

11. MEDIAN (การหาคา กลาง) รูปแบบ =MEDIAN(Number1,Number2,...) Number เปนกลุมของขอ มูลที่ตองการหาคา กลาง 21

12. ROUND (การปดจดุ ทศนยิ มขน้ึ หรอื ลง) รูปแบบ =ROUND(Number,Num_digits) Number เปนกลมุ ของขอมูลทีต่ องการกําหนดปด จดุ ทศนิยม Num_digits จํานวนหลกั ของทศนยิ ม เชน ใหก ําหนดทศนยิ มเปน 0 ทเ่ี ซลล C3 ถงึ เซลล C6 22

13. IF (การหาคาความจริงหรือเทจ็ จากเงือ่ นไขทร่ี ะบุ) รปู แบบ =IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false Logical เง่ือนไขทใ่ี ชเปรียบเทียบหรอื ตรวจสอบขอมลู Value_if_true คาของเง่อื นไขที่ถูกตอ ง(จรงิ ) Value_if_false คา เงอื่ นไขท่ไี มถูกตอ ง(เทจ็ ) 23

14. DATE (การระบุขอ มูลท่เี ปน วันท่ี) รปู แบบ =DATE(Year,Month,Day) Year ใสคา ค.ศ. Month ใสค าเดอื น Day ใสค าวัน 24

15. DATEIF (การระบุเง่อื นไขการหาขอมลู ท่เี ปน วันท่ี) รูปแบบ =DATEIF(เงื่อนไข) 25

16. Now (การหาวนั ทแ่ี ละเวลาปจ จุบัน) รูปแบบ =Now()ผลลัพธ 7/112015 14:27

17. HOUR (การหาชว่ั โมง) รปู แบบ =HOUR(Serial_number) Serial_number คาของตวั เลขหรือขอ ความที่อยใู นรปู แบบของเวลา 27

18. VLOOKUP (การคนหาและแสดงขอ มูล) รปู แบบ =VLOOKUP(Lookup_value,Table_array,Col_index_num,Range_lookup) Lookup คําท่ีใชในการคนหา Table_array ตารางขอมลู ทใ่ี ชสาํ หรับแสดงผลและคน หาขอ มลู Col_index_num คอลัมนท ีต่ องการขอ มูลโดยคอลมั นแ รกมคี า เปน 1 และคอลมั นต อไปจะเปน 2,3,.....ตามลําดบั Range_lookup คาทางตรรกะท่กี าํ หนดในการคน หามี 2 รปู แบบ False ใชคน หาคาทีต่ รงกบั คาํ ที่ใชใ นการคน หา True ใชคนหาคา ทไ่ี กลเ คยี งท่ีสุดนอยกวา คา ในการคนหา 28

AVERAGE (การหาค่าเฉล่ียของขอ้ มลู ) รูปแบบ =AVERAGE(Number1,Number2,...) Number เป็นกลุ่มของขอ้ มลู ที่ตอ้ งหาค่าเฉล่ีย เช่น ใหห้ าค่าเฉล่ียของเซลล์ F1 ถึงเซลล์ F8 =AVERAGE(F1:F8)

COUNTIF(การนบั จาํ นวนขอ มลู แบบมีเงื่อนไข) รูปแบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ชวงของเซลลที่ตองการนบั ตามจสอบและนับจํานวนของเซลล เชน ใหน ับเฉพาะ นกั เรยี นท่ผี า น กจิ กรรมชมรม โดยอางอิงท่เี ซลล G2 ถึง เซลล G40 =COUNTIF(A2:A7,”เงอื่ นไข”)

IF (การหาคา ความจรงิ หรือเท็จจากเงอ่ื นไขท่รี ะบุ) รูปแบบ =IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false Logical เงื่อนไขทใ่ี ชเปรียบเทียบหรอื ตรวจสอบขอ มูล Value_if_true คาของเงื่อนไขที่ถูกตอง(จริง) Value_if_false คาเง่อื นไขท่ีไมถ กู ตอ ง(เทจ็ )

Now (การหาวนั ที่และเวลาปจ จุบนั ) รูปแบบ =Now()ผลลัพธ 7/112015 14:27

แหลงอางอิง https://office.live.com/start /Excel.aspx?omkt=th-TH 34

ประวตั ิสวนตัว นาย ศิรชชั พรายแกว ชื่อเลน นาย อายุ 15ป เกิดวนั ท่ี 15/03/2547 ที่อยู 60/หมู12 ต.บางควู ดั อ.เมอื ง จ.ปทมุ ธานี เบอรโ ทรศพั ท 063-791-3613

ประวัตสิ ว นตวั นาย ธนธร เตมิ ปยกลุ ช่อื เลน ไกด อายุ 1500 เกิดวนั ท่ี 5 เมษายน 2547 ท่ีอยู 71/14 ต.บางปรอก อ.เมอื ง จ.ปทุมธานี เบอรโทรศัพท 0845981329

เสนอ อาจารย รัตนภรณ จันทะวงศ

วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี (Pathumthani Technical College) แผนกคอมพิวเตอรธุรกิจ (Business Computer)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook