โปรแกรมตารางงาน จัดทําโดย นาย ศริ ชชั พรายแกว นาย ธนธร เตมิ ปยกุล ปวช. ½ คอมพวิ เตอรธรุ กจิ
คํานาํ รายงานเลม น้จี ัดทําข้นึ เพ่อื เปน สว นหนึ่งของวชิ าโปรแกรมตารางงานชัน้ ปวช.1เพื่อใหไดศึกษาหาความรูในเร่อื งโปรแกรมตารางงาน .และ ไดศึกษาอยา งเขา ใจเพอ่ื เปน ประโยชนก บั การเรยี น ผูจัดทําหวังวา รายงานเลมนี้จะเปน ประโยชนกับผูอ าน หรอื นักเรียน นักศึกษา ทก่ี าํ ลังหาขอ มลู เรือ่ งนอ้ี ยู หากมขี อแนะนาํ หรือขอผิดพลาด ประการใด ผูจดั ทําขอนอ มรับไวและขออภัยมา ณ ที่น้ดี วย นาย ศิรชัช พรายแกว นาย ธนธร เตมิ ปยกุล ผูจดั ทํา
สารบญั ความหมายของ Excel 1 ส่วนประกอบของหนา้ ต่าง Excel 2013 2-9 คุณสมบตั ิท่ีสาํ คญั ของ Microsoft Excel 10 สูตรในการคาํ นวณ 11-28 ตวั อยา่ งการใชส้ ูตร 29-33 แหล่งอา้ งอิง 34
ความหมายของ Excel โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมหน่ึง ท่ีอยใู่ นชุด Microsoft Office มีจุดเด่นในดา้ น การคาํ นวณเกี่ยวกบั ตวั เลข โดยการทา งานของโปรแกรมจะใชต้ ารางตามแนวนอน (Row) และแนวต้งั (Column) เป็นหลกั ซ่ึงเรียกโปรแกรมในลกั ษณะน้ีวา่ ตารางทาการ (Spread Sheet) ไฟลข์ อง Excel เปรียบเสมือนเอกสารหนงั สือ 1 เล่ม ที่ประกอบไปดว้ ยหนา้ หลาย ๆ หนา้ เรียกวา่ สมุดงาน (Workbook) โดยในแต่ละหนา้ เรียกวา่ แผน่ งาน (Worksheet) ในแต่ละแผน่ งานจะแบ่งออกเป็นตาราง ซ่ึงประกอบไปดว้ ย ช่องตารางซ่ึงเป็นส่วนที่ตดั กนั ของแถวและคอ ลมั นเ์ รียกวา่ เซลล(์ Cell) ในแผน่ งานหน่ึง ๆ จะมีแถวท้งั หมด 1,048,576 แถว และ 16,384 คอลมั น์ โดยใชช้ ่ือคอลมั นเ์ ป็นตวั อกั ษรภาษา องั กฤษ ต้งั แต่ A จนถึง Z และ ต่อดว้ ยAA จนถึง AZ, BA จนถึง BZ ไปจนถึง XFD 1
สวนประกอบของหนาตา ง Ms Excel 2013 1. แถบช่ือเรื่อง (Title Bar) = เป็นส่วนท่ีใชแ้ สดงช่ือโปรแกรม และรายชื่อไฟลท์ ่ีไดเ้ ปิ ดใชง้ าน 2. แถบเคร่ืองมือด่วน (Quick Access) = เป็นส่วนที่ใชใ้ นการแสดงคาํ สงั่ ที่ใชง้ านบ่อย 3. ป่ ุมควบคุม = เป็นส่วนที่ใชค้ วบคุมการเปิ ด หรือปิ ดหนา้ ต่างโปรแกรม 4. ริบบอน (Ribbon) = เป็นส่วนที่ใชแ้ สดงรายการคาํ สงั่ ต่าง ๆ ที่ใชใ้ นการทาํ งานกบั เอกสาร 5. Name Box = เป็นช่องที่ใชแ้ สดงช่ือเซลลท์ ี่ใชง้ านอยใู่ นขณะน้นั เช่น ถา้ มีการใชง้ านขอ้ มลู ในเซลล์ A1 รายช่ือเซลลน์ ้ีกจ็ ะไปแสดงอยใู่ นช่อง Name Box 6. แถบสูตร (Formula Bar) = เป็นช่องที่ใชแ้ สดงการใชง้ านสูตรการคาํ นวณต่าง ๆ 7. เซลล์ (Cell) = เป็นช่องตารางท่ีใชส้ าํ หรับบรรจุขอ้ มลู ต่าง ๆ ซ่ึงช่องเซลลแ์ ต่ละช่องน้นั จะมีช่ือเรียกตามตาํ แหน่งแถว และคอลมั น์ ที่แสดงตาํ แหน่งของเซลล์ เช่น เซลล์ B1 จะอยู่ ใน คอลมั น์ B ในแถวที่ 1 เป็นตน้ 8. คอลมั น์ (Column) = เป็นช่องเซลลท์ ี่เรียงกนั ในแนวต้งั ของแผน่ งาน (Worksheet) 9. แถว (Row) = เป็นช่องเซลลท์ ่ีเรียงกนั ในแนวนอนของแผน่ งาน 10.Sheet Tab = เป็นแถบท่ีใชแ้ สดงจาํ นวนแผน่ งานที่เปิ ดข้ึนมาใชง้ าน 11.แถบสถานะ (Status Bar) = เป็นส่วนท่ีใชแ้ สดงจาํ นวนหนา้ กระดาษ และจาํ นวนตวั อกั ษรที่ใชใ้ นเอกสาร 2
1.เมนหู นา แรก (Home) จะเปน ทีร่ วบรวมชุดเครื่องมือพ้ืนฐานทผ่ี ใู ชง านสวนมากตอ งใชบ อยๆ เชน การจัดการแบบตวั อักษร รปู แบบตารางหรือเซลล เปน ตน โดยจะแสดงข้นึ มาเปนเมนแู รกเสมอ 1) A คอื คลิปบอรด (Clipboard) ใชสาหรับการตัด คัดลอก และวางรูปแบบ 2) B คอื แบบอกั ษร (Font) ใชส าหรับจดั รปู แบบตวั อกั ษร เชน รูปแบบตัวอกั ษร ขนาด ตัวหนา บาง และการเปลย่ี นสีตวั อักษรหรอื สีพ้นื หลังของเซลล 3) C คือ การจัดแนว (Alignment) ใชส าํ หรับจัดตาํ แหนงชิดซา ย ชดิ ขวา ก่งึ กลาง และจัดระดบั ใหอ ยชู ิดดา นบน กึ่งกลาง ดานลา ง รวมถงึ การจัดยอหนา 4) D คอื ตวั เลข (Number) ใชสําหรบั จัดรูปแบบแสดงตวั เลขในเซลล เชน แสดงรปู แบบของเวลา วันที่ สกลุ เงนิ หรือแบบบัญชี รวมถงึ การใสจุลภาคและจุดทศนยิ ม 5) E คือ ลักษณะ (Styles) ใชส าํ หรับจัดรปู แบบตารางแบบสาํ เร็จรูป เชน สีของตารางหรือสีเซลล และจัดรูปแบบตามเงอื่ นไข เชน ใสสญั ลกั ษณ หรอื แถบสแี บบไลร ะดบั 6) F คอื เซลล (Cells) ใชสําหรบั แทรกหรอื ลบเซลล เปลยี่ นชอ่ื แผน งาน ซอนและล็อคแผน งาน 7) G คือ การแกไข (Editing) ใชสาํ หรับหาผลรวม ลา งเซลล เรียงลําดบั คนหา และการแทนทคี่ ําศพั ท 3
2.เมนู แทรกเปนเมนูที่ใชส าหรบั แทรกออบเจ็กตหรอื องคป ระกอบตา งๆ ลงไปบนแผน งาน เพอ่ื ใชอ างองิ ประกอบขอ มูลใหสมบรู ณย่ิงขึ้น รวมถงึ การเพมิ่ ความสวยงาม เชน กราฟ รปู ภาพ หรือไดอะแกรมเปนตน 1) A คือ ตาราง (Tables) ใชส้ าํ หรับสร้างเสน้ ขอบตาราง การจดั การขอ้ มูลมากๆ ดว้ ย PivotTable และ PivotChart 4 2) B คือ ภาพประกอบ (Illustrations) ใชส้ าํ หรับสร้างการสร้างผงั งาน หรือไดอะแกรม 3) C คือ แอพพลิเคชนั (Apps) ใชส้ าํ หรับเช่ือมต่อกบั แอพพลิเคชนั ของไมโครซอฟท์ 4) D คือ แผนภมู ิ (Charts) ใชส้ ร้างแผนภมู ิหรือกราฟแบบต่างๆ 5) E คือ รายงาน (Reports) ใชส้ าํ หรับสร้างรายงานต่าง ๆ 6) F คือ วเิ คราะห์ขอ้ มลู (Spark lines) ใชส้ าํ หรับการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในลกั ษณะแผนภมู ิ 7) G คือ ตวั กรอง (Filters) ใชส้ าํ หรับสร้างตวั กรองสาํ หรับกรองขอ้ มูล 8) H คือ การเช่ือมโยง (Link) ใชส้ าํ หรับสร้างจุดเชื่อโยงไปยงั เวบ็ ไซต์ อีเมล์ หรือโปรแกรมต่างๆ 9) I คือ ขอ้ ความ (Text) ใชส้ าํ หรับสร้างขอ้ ความศิลป์ ใส่หวั หรือทา้ ยกระดาษ และใส่สญั ลกั ษณ์
3. เมนเู คาโครงหนากระดาษ (Page Layout) เปนเมนทู ใ่ี ชส าหรบั ปรบั แตง กาํ หนดขนาด หรือมุมมองตางๆ บนหนาแผน งานใหเปน ไปตามความตองการ 1) A คอื ชดุ รูปแบบ (Themes) ใชสาหรับออกแบบตาราง ตัวอกั ษร และสีสนั แบบสําเร็จรูป 2) B คือ ต้งั คาหนา กระดาษ (Page Setup) ใชส าหรับกาํ หนดระยะหา ง ขนาดกระดาษ รูปแบบการวางกระดาษและขอบกระดาษ 3) C คอื ตนเองปรบั พอดี (Scale to Fit) ใชสาหรับกําหนดความสงู หรือกวางใหพ อดีกับหนา กระดาษ 4) D คอื ตวั เลือกแผน งาน (Sheet Options) ใชสาหรับกาํ หนดการแสดงมมุ มองและรายละเอียดของแผน งาน 5) E คือ จัดเรียง (Arrange) ใชส าหรับจัดเรยี งลาดับของวัตถทุ ีว่ างซอนกันอยู 5
4. เมนสู ูตร (Formula) เปนเมนูท่ีใชส าหรบั ใสสตู รคาํ นวณและฟง กช นั สาเร็จรปู ตา งๆ ลงในเซลลโ ดยแยกประเภทตามการใชง าน เชน ฟง กช นั การเงนิ ฟง กช นั เกี่ยวกับขอ ความ ฟง กช ันทางคณติ ศาสตร เปน ตน 1) A คือ ไลบรารฟี งกช นั (Function Library) ใชสาหรับใสสตู รและฟง กช นั ดา นการคาํ นวณตา งๆ 2) B คือ ช่ือที่กําหนด (Define Names) ใชสาหรับกาํ หนดชอื่ ของกลุมเซลลเพื่อใชอ างองิ ในสูตร 3) C คอื ตรวจสอบสูตร (Formula Auditing) ใชสาหรับตรวจสอบความถกู ตอ ง ผลกระทบและความผิดพลาดจากการคํานวณ 4) D คอื การคาํ นวณ (Calculation) ใชสาหรบั กาํ หนดใหโปรแกรมมกี ารคาํ นวณแบบอตั โนมตั ิ 6
5. เมนูขอ มลู (Data) เปน เมนทู ่ใี ชส าหรับตดิ ตอ ขอมลู กบั ภายนอกโปรแกรม และทางานกับขอ มลู ทม่ี จี านวนมาก เพอ่ื ใหม ีความคลอ งตวั ในการใชงานและมปี ระสิทธภิ าพเพ่มิ ขึน้ 1) A คอื รับขอ มูลภายนอก (Get External) เปนสว นรบั ขอ มูลจากภายนอกโปรแกรม เชน จากฐานขอ มูลโปรแกรม Access เวบ็ ไซต หรือแหลง ขอ มลู อน่ื ๆ 2) B คือ การเชื่อมตอ (Connections) ใชสาหรบั เชื่อมโยงไปยังขอ มลู ทอี่ ยนู อกสมดุ งาน 3) C คอื เรยี งลาดับและกรองขอมูล (Sort & Filter) ใชสาหรับเรยี งลาดบั ตัวเลข/ตวั อกั ษร และกรองขอ มลู เพอื่ ใหแ สดงเฉพาะผลลพั ธท ่ีตองการ 4) D คือ เครื่องมอื ขอ มลู (Data Tools) ใชสาหรับจดั การขอมูล เชน แบงขอ ความเปนคอลมั นเลือกรายการที่ซ้าํ กันออกไป และกาํ หนดการตรวจสอบการกรอก ขอมูลลงในเซลล 5) E คอื เคาราง (Outline) ใชส าหรบั จัดกลุม ขอ มลู ทมี่ ีมากๆ โดยสามารถยุบหรอื ขยายกลมุ เซลลน ้ัน 7
6. เมนูตรวจทาน (Review) เป็นเมนูที่รวบรวมประโยชนห์ ลายๆ อยา่ งเขา้ ดว้ ยกนั ซ่ึงประกอบดว้ ยการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของตวั สะกด การแทรกขอ้ คิดเห็น และการป้ องกนั ความปลอดภยั ของแผน่ งาน 1) A คือ การพิสจู นอกั ษร (Proofing) ใชตรวจสอบความถูกตอ งของตัวสะกด คน ควา อางอิงขอมูล และการใชพจนานกุ รมเพ่อื แปลคาศพั ท 2) B คือ ภาษา (Language) ใชส าหรับเปลยี่ นภาษา 3) C คอื ขอคิดเห็น (Comments) ใชสาหรบั เพมิ่ ขอ คิดเหน็ หรือเสนอแนะลงในเซลล 4) D คอื การเปล่ยี นแปลง (Changes) ใชส าหรบั ล็อคแผนงานหรอื สมุดงานไมใ หผ ูอนื่ ใชร ว ม 6 8
7. เมนมู ุมมอง (View) เปนเมนูท่ีใชปรบั เปล่ียนมุมมองของแผนงานแบบตา งๆ ใหเหมาะสมกบั ลกั ษณะการทางานในขณะน้นั 1) A คอื มมุ มองสมดุ งาน (Workbook Views) ใชสาหรบั ปรับเปล่ียนมุมมองของหนาแผน งานใหเปน ไปตามลกั ษณะของการใชงาน เชน มุมมองแบบปกตหิ รือมุมมองแบบ เคา โครง เปนตน 2) B คือ แสดง/ซอ น (Show/Hide) ใชสาหรบั กาํ หนดใหแสดง/ซอ นสวนตา งๆ ในแผนงาน เชน เสนตาราง หวั เรื่อง หรือแถบสูตร เปน ตน 3) C คอื ยอ/ขยาย (Zoom) ใชสาหรบั สาหรบั ยอ หรือขยายหนาแผนงานใหใหญข ึ้นหรอื เล็กลง 4) D คอื หนาตา ง (Windows) ใชส าหรบั จดั การแผนงาน เชน ซอ นแผน งาน ตรึงแนวแผน งาน เปน ตน 5) E คอื มาโคร (Macros) ใชสาหรบั สรา งมาโคร โดยการบนั ทกึ ขั้นตอนการทางานไวใ ชง านภายหลงั 9
คณุ สมบตั ิท่ีสาํ คญั ของ Microsoft Excel 1. ความสามารถดา้ นการคาํ นวณ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถป้ อนสูตรการคาํ นวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เป็นตน้ 2. ความสามารถดา้ นใชฟ้ ังกช์ นั เช่นฟังกช์ นั เก่ียวกบั ตวั อกั ษร ตวั เลข วนั ท่ี ฟังกช์ นั เกี่ยวกบั การเงิน หรือเก่ียวกบั การตดั สินใจ 3. ความสามารถในการสร้างกราฟ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถนาํ ขอ้ มลู ที่ป้ อนลงในตารางมาสร้างเป็นกราฟไดท้ นั ที 4. ความสามารถในการตกแต่งตารางขอ้ มูล โปรแกรม Microsoft Excel สามารถตกแต่งตารางขอ้ มลู หรือกราฟ ขอ้ มลู ดว้ ยภาพ สี และรูปแบบตวั อกั ษรต่าง ๆ เพ่อื ใหเ้ กิดความสวยงามและทาํ ใหแ้ ยกแยะขอ้ มูลไดง้ ่ายข้ึน 5. ความสามารถในการเรียงลาํ ดบั ขอ้ มูล โปรแกรม Microsoft Excel สามารถคดั เลือกเฉพาะขอ้ มูลที่ตอ้ งการมาวเิ คราะห์ได้ 6. ความสามารถในการพิมพง์ านออกทางเครื่องพมิ พ์ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถพมิ พง์ านท้งั ขอ้ มูลและรูปภาพหรือกราฟออกทางเคร่ืองพมิ พไ์ ด้ ทนั ที ซ่ึงทาํ ใหง้ ่ายต่อการสร้างรายงาน 7. ความสามารถในการแปลงขอ้ มูลในตารางใหเ้ ป็นเวบ็ เพจ เพ่ือนาํ ไปแสดงในโฮมเพจ 10
1. SUM (การหาผลรวมของขอมูล) รูปแบบ =SUM(Number 1,Number 2,...) Number เปนกลมุ ของขอมูลท่ีตองการหาผลรวมซง่ึ สามารถจะใสไดม ากกวา 1 กลมุ โดยใชเ ครอ่ื งหมาย , คั่นกลางระหวางแตละกลุมขอ มูล เชน ใหห า ผลรวมต้ังแตเ ซลล A1 ถงึ เซลล A10 =SUM(A1:A10) 11
2. SUMIF (การหาผลรวมแบบมีเงอื่ นไข) รูปแบบ =SUMIF(Range,Criteria,Sum_range) Range ขอบเขตของขอ มูลท่ีตองการตรวจสอบตามเง่ือนไข Criteria เง่อื นไขที่กาํ หนดใหค ํานวณหาผลรวม Sum_Range ชว งของเซลลท ี่ตรวจสอบตามเง่ือนไขเพือ่ นํามาคาํ นวณ เชน ใหห า ผลรวมเฉพาะเส้ือสฟี าโดยเซลลทอ่ี างคือเซลล B1 ถึง เซลล B12 และใหอ า ง เซลลราคาของเสื้อสีฟาทเี่ ซลล C1 ถึง เซลล C12 =SUMIF(B1:B12,”เสอ้ื สีฟา”,C1:C12) 12
3. MIN (การหาคาต่าํ สุดของจาํ นวน) รปู แบบ =MIN(Number1,Number2,...) Number เปน กลมุ ของขอมลู ทต่ี อ งการหาคาตาํ่ สดุ เชน ใหหาคา ต่าํ สดุ ของเซลล B3 ถึงเซลล B12 =MIN(B3:B12) 13
4. MAX (การหาค่าสูงสุดของจาํ นวน) รูปแบบ =MAX(Number1,Number2,....) Number เป็นกลุ่มของขอ้ มูล,ท่ีตอ้ งการหาค่าสูงสุด 14
5. AVERAGE (การหาค่าเฉล่ียของขอ้ มลู ) รูปแบบ =AVERAGE(Number1,Number2,...) Number เป็นกลุ่มของขอ้ มูลที่ตอ้ งหาค่าเฉลี่ย เช่น ใหห้ าค่าเฉลี่ยของเซลล์ F1 ถึงเซลล์ F8 =AVERAGE(F1:F8) 15
6. COUNT (การนบั ขอ้ มูลท่ีเป็นเฉพาะตวั เลข) รูปแบบ =COUNT(Value1,Value2,...) Value ช่วงของกลุ่มเซลลท์ ่ีใชใ้ นการนบั 16
7. COUNTA (การนบั จํานวนขอ มูลท่เี ปนทั้งขอ ความและตวั เลขปนกัน รูปแบบ =COUNTA(Value1,Value2,...) Value ชวงของกลมุ เซลลท่นี ํามาใชใ นการนับจํานวน เชน ใหนบั รหสั สินคา วา มจี าํ นวนเทาใด โดยอา งทเี่ ซลล A3 ถึงเซลล A20 =COUNTA(A3:A20) 17
8. COUNTIF (การนับจํานวนขอมลู แบบมีเง่อื นไข) รูปแบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ชวงของเซลลท ่ีตองการนับตามเงอ่ื นไข Criteria เงือ่ นไขที่ใชต รวจสอบและนับจํานวนของเซลล 18
9. VAR (การหาคาความแปรปรวน) รูปแบบ =VAR(Number1,Number2,...) Number เปนกลมุ ของขอมลู การหาคาความแปรปรวน 19
10. STDEV (การหาคา การเบย่ี งเบนมาตราฐาน) รปู แบบ =STDEV(Number1,Number2,...) Number เปนกลมุ ของขอ มลู ทตี่ องการหาคา เบี่ยงเบนมาตรฐาน 20
11. MEDIAN (การหาคา กลาง) รูปแบบ =MEDIAN(Number1,Number2,...) Number เปนกลุมของขอ มูลที่ตองการหาคา กลาง 21
12. ROUND (การปดจดุ ทศนยิ มขน้ึ หรอื ลง) รูปแบบ =ROUND(Number,Num_digits) Number เปนกลมุ ของขอมูลทีต่ องการกําหนดปด จดุ ทศนิยม Num_digits จํานวนหลกั ของทศนยิ ม เชน ใหก ําหนดทศนยิ มเปน 0 ทเ่ี ซลล C3 ถงึ เซลล C6 22
13. IF (การหาคาความจริงหรือเทจ็ จากเงือ่ นไขทร่ี ะบุ) รปู แบบ =IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false Logical เง่ือนไขทใ่ี ชเปรียบเทียบหรอื ตรวจสอบขอมลู Value_if_true คาของเง่อื นไขที่ถูกตอ ง(จรงิ ) Value_if_false คา เงอื่ นไขท่ไี มถูกตอ ง(เทจ็ ) 23
14. DATE (การระบุขอ มูลท่เี ปน วันท่ี) รปู แบบ =DATE(Year,Month,Day) Year ใสคา ค.ศ. Month ใสค าเดอื น Day ใสค าวัน 24
15. DATEIF (การระบุเง่อื นไขการหาขอมลู ท่เี ปน วันท่ี) รูปแบบ =DATEIF(เงื่อนไข) 25
16. Now (การหาวนั ทแ่ี ละเวลาปจ จุบัน) รูปแบบ =Now()ผลลัพธ 7/112015 14:27
17. HOUR (การหาชว่ั โมง) รปู แบบ =HOUR(Serial_number) Serial_number คาของตวั เลขหรือขอ ความที่อยใู นรปู แบบของเวลา 27
18. VLOOKUP (การคนหาและแสดงขอ มูล) รปู แบบ =VLOOKUP(Lookup_value,Table_array,Col_index_num,Range_lookup) Lookup คําท่ีใชในการคนหา Table_array ตารางขอมลู ทใ่ี ชสาํ หรับแสดงผลและคน หาขอ มลู Col_index_num คอลัมนท ีต่ องการขอ มูลโดยคอลมั นแ รกมคี า เปน 1 และคอลมั นต อไปจะเปน 2,3,.....ตามลําดบั Range_lookup คาทางตรรกะท่กี าํ หนดในการคน หามี 2 รปู แบบ False ใชคน หาคาทีต่ รงกบั คาํ ที่ใชใ นการคน หา True ใชคนหาคา ทไ่ี กลเ คยี งท่ีสุดนอยกวา คา ในการคนหา 28
AVERAGE (การหาค่าเฉล่ียของขอ้ มลู ) รูปแบบ =AVERAGE(Number1,Number2,...) Number เป็นกลุ่มของขอ้ มลู ที่ตอ้ งหาค่าเฉล่ีย เช่น ใหห้ าค่าเฉล่ียของเซลล์ F1 ถึงเซลล์ F8 =AVERAGE(F1:F8)
COUNTIF(การนบั จาํ นวนขอ มลู แบบมีเงื่อนไข) รูปแบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ชวงของเซลลที่ตองการนบั ตามจสอบและนับจํานวนของเซลล เชน ใหน ับเฉพาะ นกั เรยี นท่ผี า น กจิ กรรมชมรม โดยอางอิงท่เี ซลล G2 ถึง เซลล G40 =COUNTIF(A2:A7,”เงอื่ นไข”)
IF (การหาคา ความจรงิ หรือเท็จจากเงอ่ื นไขท่รี ะบุ) รูปแบบ =IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false Logical เงื่อนไขทใ่ี ชเปรียบเทียบหรอื ตรวจสอบขอ มูล Value_if_true คาของเงื่อนไขที่ถูกตอง(จริง) Value_if_false คาเง่อื นไขท่ีไมถ กู ตอ ง(เทจ็ )
Now (การหาวนั ที่และเวลาปจ จุบนั ) รูปแบบ =Now()ผลลัพธ 7/112015 14:27
แหลงอางอิง https://office.live.com/start /Excel.aspx?omkt=th-TH 34
ประวตั ิสวนตัว นาย ศิรชชั พรายแกว ชื่อเลน นาย อายุ 15ป เกิดวนั ท่ี 15/03/2547 ที่อยู 60/หมู12 ต.บางควู ดั อ.เมอื ง จ.ปทมุ ธานี เบอรโ ทรศพั ท 063-791-3613
ประวัตสิ ว นตวั นาย ธนธร เตมิ ปยกลุ ช่อื เลน ไกด อายุ 1500 เกิดวนั ท่ี 5 เมษายน 2547 ท่ีอยู 71/14 ต.บางปรอก อ.เมอื ง จ.ปทุมธานี เบอรโทรศัพท 0845981329
เสนอ อาจารย รัตนภรณ จันทะวงศ
วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี (Pathumthani Technical College) แผนกคอมพิวเตอรธุรกิจ (Business Computer)
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: