Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุนไพรไทย

สมุนไพรไทย

Published by noname., 2021-09-07 01:43:41

Description: สมุนไพรไทย

Keywords: ด.ญ.ปิยาพัชร เรืองโรจน์,Piyapat Raengroch,สมุนไพรไทย

Search

Read the Text Version

ไพล ประโยชน์ : ช่วยดบั กลนิ คาวของเนอื สตั วป์ าทําใหน้ าํ แกงสี เหลอื ง สว่ นของไพลทีใช้เปนยาคือเหง้าแก่จัด แก้ฟกชํา บวม เคลด็ ยอก ปวดเมอื ย ขับลม ทอ้ งเดิน ช่วยขับระดู หรอ ประจําเดือน ของสตรนิยมใช้หลังจากทีคลอดบตุ ร แล้ว เหง้าไพลมนี าํ มนั หอมระเหย ร้อยละ 0.8 และมสี าร ทใี ห้สี ซึงจากการทดลองพบวา่ มฤี ทธลิ ดอาการ อักเสบ กรมวทยาศาสตร์การแพทย์ มกี ารค้นควา้ สารสาํ คญั ทมี ี สรรพคณุ แก้หอบหดื และมกี ารวจยั ทางคลีนคิ โดยใช้ รักษาโรคหดื ในเดก็ และไม่มพี ิษเฉียบพลัน

ฟาทะลายโจร ลักษณะ : ฟาทะลายโจรเปน พชื ลม้ ลุก มคี วามสงู ประมาณ 30 - 70 เซนตเิ มตร หรอประมาณ 1-2 ศอก ลําตน้ เปน เหลียมสีมมุ <ปาน> ใบเปนใบเดยี วรูปร่างเรยวยาวสี เขียวเข้มเปนมนั ปลายแหลม กวา้ งประมาณ 1 เซนตเิ มตร ดอกช่อออกทปี ลายกงิ และซอกใบ มดี อก ย่อยขนาดเลก็ สขี าว ดา้ นในสมี ว่ ง โคนกลีบตดิ กนั กลบี ดอกดา้ นบนมี 3 หยักด้านลา่ งมี 2 หยกั ผลเปนฝกเมือ ผลแกจ่ ะมสี นี าํ ตาล ภายในมเี มลด็ สนี าํ ตาลออ่ นจํานวน มาก

ฟาทะลายโจร ลักษณะ : สารสกดั ด้วยนําของฟาทะลายโจรทคี วามเขม้ ขน้ 31.25 ไมโครกรัมต่อมลิ ลลิ ติ รยับยังการเจรญของ Streptococcus agalactiae ในอาหารเลียงเชอื ได้ ปลานิล ทีเลยี งดว้ ยอาหารทผี สมกับสารสกดั ฟาทะลาย โจร ประโยชน์ : ฟาทะลายโจรมีสรรพคุณหลายประการ เช่น แกไ้ ขท้ วั ๆ ไป เชน่ ไขห้ วดั ไขห้ วดั ใหญ่ ระงับอาการ อกั เสบ ไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลม อกั เสบ ขบั เสมหะ รักษาโรคผิวหนงั ฝ แกต้ ิดเชอื ที ทําให้ปวดทอ้ ง ทอ้ งเสยี บดิ และแก้กระเพาะลําไส้ อักเสบ เปนยาขมเจรญอาหาร มฤี ทธิระงบั การติดเชอื หรอระงบั การเจรญเตบิ โตของเชือโรคได้ ซึงควรใชใ้ หถ้ ูก ต้องด้วยจะไดผ้ ลดีมาก

มะขาม ลักษณะ : มะขามเปนไมย้ ืนตน้ ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ แตกกิงก้านสาขามากไม่มหี นาม เปลือกตน้ ขรุขระและ หนา สี นําตาลอ่อน ใบ เปนใบประกอบ ใบเลก็ ออก ตามกงิ ก้านใบเปนคู่ ใบยอ่ ยเปนรูปขอบขนาน ปลายใบ และโคนใบมน ประกอบ ดว้ ยใบย่อย 10–15 คู่ แต่ละใบ ยอ่ ยมีขนาดเล็ก กวา้ ง 2–5 มม. ยาว 1–2 ซม. ออกรวม กนั เปนชอ่ ยาว 2–16 ซม. ดอก ออกตามปลายกิง ดอกมี ขนาดเลก็ กลีบดอกสเี หลอื งและมจี ดุ ประสีแดง/ม่วงแดง อยู่กลางดอก ผลเปนฝกยาว

มะขาม ลักษณะ : รูปร่างยาวหรอโคง้ ยาว 3-20 ซม. ฝกอ่อนมี เปลอื กสเี ขียวอมเทา สนี ําตาลเกรยม เนือในตดิ กับ เปลือก เมือแกฝ่ กเปลียนเปนเปลือกแขง็ กรอบหักงา่ ย สี นาํ ตาล เนือในกลายเปนสนี าํ ตาลหุ้มเมลด็ เนอื มรี ส เปรยว และ/หรอหวาน ซึงฝกหนึง ๆ จะม/ี หุ้มเมล็ด 3–12 เมลด็ เมล็ดแกจ่ ะแบนเปนมัน และมสี ีนําตาล ประโยชน์ : แกอ้ าการทอ้ งผกู ถา่ ยไม่ออก ใชเ้ นอื ฝกแก่หรอ มะขามเปยก 10–30 ฝก (หนกั ประมาณ 70–150 กรัม) จมิ กับเกลือรับ ประทาน หรอใสเ่ กลอื เติมนําคันดืม แกอ้ าการท้องเดนิ กองทพั ใชเ้ ปลือกตน้ ทังสดหรอ แห้งประมาณ 1–2 กํามือ (15–30 กรัม) ต้มกบั นํา ปนู ใสหรอนาํ รับประทาน ถา่ ยพยาธลิ าํ ไสห้ มา ใชเ้ มลด็ คัวกะเทาะเปลือกเอา ออกเนอื ในเมลด็ แชน่ ําเกลือจนนุ่ม รับประทานครัง ละ 20–30 เมล็ด เหมาะสาํ หรับถ่ายพยาธิไสเ้ ดอื น แกไ้ อขับเสมหะเสลดตดิ คอ

ราชพฤกษ์ ลักษณะ : ราชพฤกษ์เปนไมย้ นื ต้นขนาดกลาง มคี วามสงู 10–20 เมตร ดอกขึนเปนชอ่ ยาว 20–40 เซนติเมตร แต่ละดอกมเี ส้นผา่ นศนู ย์กลาง 4–7 เซนติเมตร มีกลบี ดอกสเี หลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30–62 เซนตเิ มตร และกวา้ ง 1.5–2.5 เซนตเิ มตร มกี ลนิ ฉนุ และมีเมล็ดทีมีพษิ เปนจํานวนมาก ประโยชน์ : นอกจากนัน ราชพฤกษ์ยงั เปนพืชทีมีฤทธิทาง อลั ลโี ล พาที สารสกัดจากฝกดว้ ยเอทานอลสามารถยับยงั การ เจรญของ คะน้า ได้

สลัดได ลกั ษณะ : ลําต้น คล้าย ตะบองเพชร แต่มคี วามอวบมากกวา่ สงู 2-3 เมตร ผวิ เรยบ ลกั ษณะเปนเหลียม ลาํ ตน้ กิง อวบนํามี 3-6 เหลียม แตกใบเปนกิงก้าน มหี นามทัวทงั ลําต้น ปกคลุมตามข้อต่อใบ ภายในมยี างสีขาว เปนพษิ ใบ ใบเดียว ใบอ่อน มสี เี ขยี วออ่ น ใบแก่ มีสเี ขยี วแก่ เรยงสลับ ขนาดเลก็ รูปไข่กลบั ปลายใบกลม หลดุ ร่วง งา่ ย ลกั ษณะใบอวบเขยี ว มีหนามระหวา่ งขอ้ ใบเปนรูปไข่ เหลยี มจนมองไดเ้ ปนสามเหลยี ม เรยงสลบั อวบนาํ ใบ ร่วงง่ายดอก ออกเปนช่วงสนั ๆ ดอกย่อยขนาดเล็ก ลกั ษณะเปนดอกเดียว

สลัดได ลักษณะ : แตอ่ ยู่รวมกนั บรเวณตาหนาม ชอ่ สัน ใบประดับสี เหลอื ง ดอกตวั ผแู้ ละตัวเมยี ไมม่ ีกลีบดอกผล เปนผลแหง้ แตกได้ ขนาดเลก็ ลักษณะรยาวเหมือนไข่ เมือแตกจะ แยกเปน 3 พู ประโยชน์ : แกน่ มีรสขม มกี ลนิ หอม สามารถแกไ้ ข้ บํารุงหวั ใจ ยาง ยางจากตน้ มีพิษ หากถกู ผิวหนังจะระคาย เคอื ง สามารถใชก้ ดั หดู ตอ้ งลดความเปนพษิ ด้วย การ \"ประสะ\" โดยนงึ ยางให้สุก แลว้ ตากให้แหง้ ใช้ เปนยาถ่ายอย่างแรงปรุงเปนยาถา่ ยถา่ ยพิษเสมหะ และโลหิต ถ่ายหัวรดสดี วงลาํ ไสแ้ ละรดสดี วงทวาร หนกั ขับโลหิตเน่าร้ายสารทพี บในสลดั ได มี 3-O- angeloylingenol ซงึ เปนสารร่วมก่อมะเร็งจงึ ต้องระวงั ในการใช้

หนาด ลกั ษณะ : ใบรูปวงรแกมขอบขนานผวิ ใบทังสองดา้ น มขี น ละเอียดหนาแน่นคลา้ ยเสน้ ไหม ปลายใบและโคนใบ แหลมขอบใบหยกั แบบซีฟนหรอฟนเลอื ย ใบมีกลินหอม ฉนุ ดอกชอ่ ดอกยอ่ ยสีเหลอื งมีรวประดบั สีเขยี วหลายชัน ผลเดียวเปนเสน้ ยาวสีนาํ ตาลมีขนสีขาวปลิวตามลมได้

หนาด ประโยชน์ : แก้อาการเกร็งของกลา้ มเนือ เปนยาหา้ มเลอื ด ยาเจรญอาหาร แก้ โรคไขขอ้ อักเสบ เปนยาบํารุงหลงั ค ลอด แก้ไข้ ลด ความดนั โลหติ ขับพยาธิ ระงบั ประสาท ขับลม แก้จกุ เสยี ดแนน่ เฟอ แก้ปวดท้อง ขับเสมหะ แก้ มตุ กิด ใบสด หนั เปนฝอยมวนกับยาฉนุ สูบแก้ รดสีดวงจมูก ยาชงจากใบ เปนยาบํารุงธาตุ ขับลม ขบั เหงอื ขบั เสมหะ และระดู ใชผ้ สมในนําอาบสมุนไพร หลังคลอด บาํ รุงผิวหนังใหช้ มุ่ ชนื แก้หดิ ทังตน้ แก้ไข้ แกเ้ จบ็ หน้าอก แก้ปวดท้อง แก้ อหิวาตกโรค ขบั พยาธิ ลดความดนั เลอื ด ระงับประสาท ใบและยอดอ่อน ตม้ กิน เปนยาแกไ้ ข้ ขบั เหงือ แก้จกุ เสยี ด แน่นเฟอ ปวดทอ้ ง ขับเสมหะ แก้รดสีดวงจมูก ขบั ลมในลําไส้ ขบั พยาธิ แก้ บิด บํารุงกําลัง หรอบดเปนผงผสมสรุ า ใชพ้ อกหรอทา แผลฟกชํา ฝ บาดแผลสด ห้ามเลอื ด แกป้ วดหลังเอว ปวดขอ้ และแก้ กลาก เกลือน นํามากลันด้วยไอนาํ จะ ได้ พมิ เสน ตกผลกึ ออกมา นํามาทําเปนยากนิ แก้ปวด ทอ้ ง ท้องร่วง หรอขับลม ใช้ภายนอกเปนผงใสบ่ าดแผล แก้แผลอกั เสบ แกก้ ลากเกลือน และแผลฟกชํา

โหระพา ลกั ษณะ : พชื ลม้ ลุก อายุหลายป สงู 0.3–0.9 เมตร ลําต้น กงิ ก้านเปนเหลยี ม สีม่วงหรอแดงเขม้ ใบคู่ เรยงตรง ขา้ ม รูปไข่หรอวงร ขอบใบหยกั ฟนเลอื ย ดอกสขี าว ออก ทีปลายยอดลําต้น ผลแห้ง มี 4 ผลยอ่ ย เมล็ดเลก็ เทา่ เมลด็ งา สนี ําตาลเขม้ โหระพาเปนพืชพืนเมอื งของ อินเดยี แตแ่ พร่หลายทังในเอเชียและตะวนั ตก ทางตะวนั ตกนิยมบรโภคใบแห้ง นาํ สลดั ใชโ้ หระพาเปนสว่ นผสม เปนนําสลดั ทีค่กู บั อาหารอติ าเลียน ในอเมรกากน็ ยิ ม บรโภค โดยโหระพามาจากอียปิ ต์ ฝรังเศส

โหระพา ลกั ษณะ : และแคลิฟอเนยี มกี ลนิ แตกตา่ งกันกับของไทย สําหรับคุณสมบตั ทิ างยาของโหระพาทสี ุดยอดมาก ๆ ก็ คือ ช่วยในการย่อยอาหาร แกอ้ าการจกุ เสียด แน่นท้อง เพราะในโหระพาสามารถชว่ ยขับลมในลาํ ไส้ได้เปนอยา่ งดี แต่สําหรับบางคนทีเกลยี ดโหระพาละก็ คุณอาจจะแอบ ชอบผักชนิดนขี นึ มาก็ได้ทไี ดร้ ู้วา่ ผกั สวนครัวอย่างโหระพา ไม่ได้มีดแี ค่ใบ แตเ่ มลด็ ยงั สามารถนํามาแชน่ าํ ใหพ้ องรับ ประทานเปนยาแก้บิดไดอ้ กี ด้วย ประโยชน์ : ใบสด มนี ํามนั หอมระเหย เช่น methyl chavicol และ linalool ฯลฯ ขบั ลมแกท้ ้องอืดเฟอ ใช้ เปนอาหาร แต่งกลนิ อาหาร แตง่ กลินสําอางบางชนิด เมลด็ เมอื แชน่ าํ จะพองเปนเมือก เปนยาระบาย เนืองจาก ไปเพิมจาํ นวนกากอาหาร (bulk laxative)ใช้เปนยาได้ หลายชนิด เช่น ปรุงร่วมกบั นํานมราชสีหเ์ พือกินเพนิ าํ นม ตํารวมกบั แมงดาตัวผูใ้ ชแ้ กพ้ ิษแมลงกดั ตอ่ ย นยิ มรับประทานร่วมกับอาหารประเภท หลน ลาบ ยํา ส้มตาํ ใส่ในแกงเขยี วหวาน แกงเผ็ด

อบเชย ลกั ษณะ : อบเชยไทย นัน เปนไมต้ น้ ทมี ใี บและเปลอื กหอม ลกั ษณะใบ เปนใบเดยี ว เรยงตรงข้าม เมอื ขยีใบจะมี กลนิ หอม ดอกช่อ ออกทปี ลายกงิ มีสเี หลืองอ่อนหรอ เขยี วออ่ น เหมน็ กลีบรวมชนั นอก 3 กลีบ คลา้ ยกลบี เลยี ง กลีบรวมชันใน 3 กลีบ แยกกนั แต่ตดิ ตรงโคน ผลสด แก่สีม่วงดาํ

อบเชย ประโยชน์ : หอมหวาน บาํ รุงดวงจติ แก้อ่อนเพลนั ทาํ ให้มีกาํ ลัง ขับผายลม เปลอื กตม้ หรอทาํ เปนผง แก้โรคหนองในและแก้ โทษนาํ คาวปลาใช้เปนยานัตถุ์ แก้ปวดศีรษะ ปรุง รับประทานเปนยาบํารุงกาํ ลงั และปรุงเปนยาแกบ้ ดิ และไข้สนั นบิ าต ใบ เปนสมุนไพรหอม ปรุงเปนยาหอม แกล้ มวง เวยนและจุกเสยี ดแนน่ และลงทอ้ ง เปนยาบาํ รุง กําลงั และบาํ รุงธาตุ รากกับใบ ต้มนาํ รับประทาน แก้ไข้เนืองจากความ อกั เสบของสตรทคี ลอดบุตรใหม่ๆ




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook