ภาษารวมทงั้ การฟัง-การพดู การอา่ นและการเขียน การฟัง-การพดู รูเ้ รอ่ื ง เขา้ ใจ ส่อื ความหมายกนั ได้ การพดู - การอา่ น คลา้ ยกนั คอื พดู ใหค้ นอ่นื ฟัง อา่ นใหผ้ อู้ ่นื ฟัง อกี นยั หน่งึ คือ อา่ นแลว้ พดู เลา่ เรอ่ื งท่อี า่ น ถ่ายทอดเรอ่ื งท่ีอา่ น ตอบคาถามจากเรอ่ื งท่ีอา่ น
การอ่าน อา่ นความคิด หรอื รบั สารจากผอู้ ่นื แต่การเขยี นคือ การบอกความคดิ ของตน (ของผเู้ ขียน) หรอื สง่ สารใหผ้ อู้ ่นื ถา้ อา่ นออก แปลความหมายตรงก็สามารถรบั สารได้ ตรงกนั ขา้ ม ถา้ อา่ นไมอ่ อก หรอื แปลความไมไ่ ดก้ ็จะไมส่ ามารถเขา้ ใจหรอื สือ่ ความได้ การเขียนกเ็ ชน่ กนั หากเขยี นผิด เรยี บเรยี งเรอ่ื งราว เหตกุ ารณไ์ มไ่ ด้ ก็ไมส่ ามารถสง่ สาร หรอื ส่ือความไปถึงผอู้ ่นื ได้
“อ่านออก” คอื อา่ นออกเสียงได้ อ่านออกเสียงถกู อา่ น แล้วเข้าใจความหมาย เขยี นถูก เขยี นได้ เขยี นเป็ น
ระยะเร่งดว่ น 1. การขมวดปมปัญหาท่ีพบแลว้ นามาแกไ้ ขโดยวิธีจดั สอนเสรมิ (การตวิ ) 2. การคดั แยกกลมุ่ นกั เรยี น เป็นเก่ง กลาง อ่อน ระยะยาว 1. จดั การเรยี นการสอนในลกั ษณะระยะสนั้ ควบคไู่ ปกบั การเรยี นการสอน แบบปกติ ในทกุ ระดบั ชนั้ 2. วิเคราะหน์ กั เรยี นในทกุ ระดบั ชนั้ จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนให้ เหมาะกบั แตล่ ะกลมุ่
3. จดั ใหม้ ีการอา่ น การเขียนในทกุ กลมุ่ สาระ มีการทดสอบแบบ อตั นยั รว่ มดว้ ย 4. การใหน้ กั เรยี นมีสว่ นรว่ ม ในกิจกรรมตา่ ง ๆ เช่น การรว่ ม จดั ปา้ ยนิเทศ การประกวดการอา่ น การเขียนเรยี งความ เขยี น สรุปความรู้ วนั ภาษาไทย การใชห้ อ้ งสมดุ
แบบเสียงไหล? แจกลกู ? หรอื อา่ นเป็นคา (ม.ป.พ.)? แบบเสียงไหล มีความสอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของภาษาไทยมาก ก-อา –กา - กา-งอ - กาง – กาง- เอก ก่าง บ-อา –บา-บา- งอ – บาง – บาง-เอก บา่ ง การอา่ นแบบแจกลกู คลา้ ยกบั แบบเสียงไหล ก-อา –กา - -งอ - กาง –- เอก ก่าง บ-อา –บา-งอ – บาง – เอก บา่ ง
การอา่ นแบบเป็นคา ขอ้ ความ(ม.ป.พ.) มีจดุ เดน่ ท่ีใชก้ ารจา เรอ่ื งราว คอื จากจดุ ใหญ่ไปยอ่ ย ครูสามารถเลือกวิธีการทงั้ สามรูปแบบนีม้ าใชไ้ ด้ ใหเ้ หมาะ กบั ระดบั ของนกั เรยี น หรอื เหมาะกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องการเรยี น การสอน
1. เกม หรือแบบฝึ กคล้ายเกม แม่กบ --- --- _า_ --- แมก่ ง ---
--- --- แมก่ ด ม_ _ _ _ ---
กจิ กรรมที่ ๑ “ ี ่ื ู ื่ ” คำชีแ้ จง ให้สงั เกตตวั อักษร สระ รปู คำ จำกทีก่ ำหนดใหใ้ น ตรงกลำงแลว้ นำมำสร้ำงคำ ประโยค (1.) / ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………..
(2.) แลวน ปแตง่ ประโยค/ อควำม เตมตวั อกั ษรใหเปนค สรำงค ใหม่
คำชแี้ จง คำ รำงคำ ม แ ำ แ ง ร ค/ ค ำม (3.) มิ ก ร ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………..
( .) มิ คำ / ก ร ช ง ำง คำ ม รำงคำ ม กี คำ แ ำ แ ง ร ค/ ค ำม ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
( .) มิ คำ / ก ร ช ง ำง คำ ม รำงคำ ม กี คำ แ ำ แ ง ร ค/ ค ำม ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
แมน่ า้ แมน่ า้ ป่ า
คำชแ้ี จง ชุ ท่ี ด บ ี ดบ ่ื แ ก ้ แม ม ค กิ ู พรำ แม กบ ู พื่ รกก ดงคำ ญญำท่ี ำงฝ่ำ ำง ก ำ “ พ่ื จ ม มทงิ้ ก ำม ำก”
กิจกรรมท่ี - ด บท ด ................................................................................................................................................................ ..................................................................................... ........................................................................... ุ ช AAR ............................................................................................................................................. ...................
ี บช ื ท่ดี ี ี ู ช บ ดู ท่ชี ่ ู ีดี ด ดี ท่ี ื ท่ี ด ดี ี ุ ทำ พท ทำ ิก ด ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................. ................... ุ ช AAR ............................................................................................................................................ ....................
ก ม ๑ กม บคำ บ รคำชดที่ ๑ ก ม ๒ กม บคำ บ รคำชดท่ี ๑ ู ำฟ
กจิ กรรมท่ี ๖ ภท / คำชีแ้ จง - ท่ี ด ภท ดู 5 ดู ดู
คาถาม ท่ีติดไว้ ตอบคาถามจากเรอ่ื งท่ีอา่ น
กจิ กรรมท่ี ๘ ื ชี้ บ ู บ บ ุ แตล่ ะมมุ
กจิ กรรมที่ ๙ ำพ ำ ร่ื ง ่ื ด ที ภ พ ี ที ภ พ ดภ พที่ ่ี บ ดภ พ ท่ี ช บ ด ่ ท่ี ช บท ดุ ่ี บภ พท้ ชื่
ชื่ …………………………………………………………………………………. ี …………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………
1. ใหเ้ ขียนอา่ นโคลงกลอนสนั้ ๆ ขอ้ ความ หรอื นิทาน แลว้ ให้ เขยี นคาบางคาจากท่ีอา่ น ใหเ้ ขยี นช่ือเรอ่ื ง สรุป ยอ่ เรอ่ื ง หรอื เขยี นแสดงความคิดเหน็ 2. สรุปความรูท้ ่ีไดเ้ รยี นไปแลว้ ในกลมุ่ สาระตา่ ง ๆ 3. การใหเ้ ขยี นเรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์ 4. กิจกรรมเขยี นตามคาบอก 5. แบบฝึกการเขียนแบบตา่ งๆ จบั คู่ เติมคา แตง่ ประโยค เขยี น บรรยายภาพ เขยี นคาคลอ้ งจอง หาความหมายคา กลมุ่ คา
6. การใหช้ มละคร บทบาทสมมตุ ิ แลว้ เขียนคา ประโยคจาก การชมละคร หรอื บทบาทสมมตุ ิ 7. การเรยี นรูแ้ บบโครงงาน 8. จดั หมวดหมคู่ า 9. ใชป้ รศิ นาอกั ษรไขว้ 10. เพลงกลอ่ มเด็ก 11. ใชส้ ือ่ IT DVD/VCD สง่ิ พมิ พต์ า่ ง ๆ ประกอบ กิจกรรมการเรยี นการสอน
แมวเอย๋ แมวเหมียว รูปรา่ งประเปรยี วเป็นนกั หนา รอ้ งเรยี กเหมียวเหมียวเด๋ยี วก็มา เคลา้ แขง้ เคลา้ ขาน่าเอน็ ดู รูจ้ กั เอารกั เขา้ ตอ่ ตงั้ ค่าค่าซา้ น่งั ระวงั หนู ควรนบั วา่ มนั กตญั ญู พอดอู ยา่ งไวใ้ สใ่ จเอย ฯ
ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนตใ์ หค้ นเช่ือ ฉลาดเหลอื วาจาปรชี าฉาน จะกลา่ วถอ้ ยรอ้ ยคาไมร่ าคาญ เป็นรากฐานเทดิ ตนพน้ ลาเคญ็ เลขเป็นโทโบราณทา่ นส่งั สอน เรง่ สงั วรเว่ียไวใ้ ช่วา่ เลน่ การคานวณควรชานาญคณู หารเป็น ช่วยใหเ้ ดน่ ดนี กั หนารูท้ า่ คน หนงั สอื เป็นตรวี ชิ าปัญญาเลศิ เรยี นไปเถิดรูไ้ วไ้ มไ่ รผ้ ล ยามยากแสนแคน้ คบั ไมอ่ บั จน ไดเ้ ลยี้ งตนดว้ ยวชิ าหาทรพั ยท์ วี ช่วั ดีเป็นตราประทบั ไวก้ บั โลก ยามวิโยคชีพยบั ลบั รา่ งหนี ท่ีศนู ยแ์ ทก้ ็แตต่ วั สว่ นช่วั ดี คงเป็นท่ีลือท่วั ช่วั ฟา้ ดนิ จาก บทประพนั ธอ์ ธิบายสภุ าษิต ของทา่ นผหู้ ญิงสมโรจน์ สวสั ดิกลุ ณ อยธุ ยา
วิชาเหมือนสินคา้ อนั มีคา่ อยเู่ มืองไกล ตอ้ งยากลาบากไป จงึ จะไดส้ ินคา้ มา...
อยา่ เกียจครา้ นการเรยี นเรง่ อตุ สา่ ห์ มีวชิ าเหมือนมีทรพั ยอ์ ยนู่ บั แสน จะตกถ่ินฐานใดคงไม่แคลน ถึงคบั แคน้ ก็พอยงั ประทงั ตน อนั ความรูร้ ูก้ ระจ่างแตอ่ ยา่ งเดยี ว แตใ่ หเ้ ช่ียวชาญเถิดจะเกิดผล ถึงลาบากตรากตราก็จาทน เกิดเป็นคนควรหม่นั ขยนั เอย
ผใู้ หญ่หาผา้ ใหม่ ใหส้ ะใภใ้ ชค้ ลอ้ งคอ ใฝ่ใจเอาใสห่ อ่ มิหลงใหล ใครขอดู จะใครล่ งเรอื ใบ ดนู า้ ใสและปลาปู สิง่ ใดอยใู่ นตู้ มิใชอ่ ยใู่ ตต้ ่งั เตยี ง บา้ ใบถ้ ือใยบวั หตู ามวั มาใกลเ้ คียง เลา่ ทอ่ ง อย่าละเลย่ี ง ย่ีสิบมว้ นจาจงดี
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: