เทคนิคการจัดการเรียนการสอน

เทคนิคการจัด การเรียนการสอน จัดทำโดย นางสาวนิธินันท์ เกตุยอด 63031040162 สาขาคณิตศาสตร์

GGAAMMEE องค์ประกอบของ เทคนิคการสอนโดยใช้เกม MMEETTHHOODD 1. มีผู้สอนและผู้เรียน เทคนิคการสอนโดยใช้เกม 2. มีเกมและกติกาการ คือ กระบวนการที่ผู้สอนใช้ใน เล่น การช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ 3. มีการเล่นเกมตาม โดยให้ผู้เรียนเล่นตามกติกา และนำเนื้อหา ข้อมูลของเกม กติการ พฤติกรรมการเล่น วิธีการเล่น 4. มีการอภิปราบเกี่ยว และผลการเล่นเกมของผู้เรียน มาใช้อภิปรายเพื่ อสรุปการเรียนรู้ กับผลการเล่น วิธี การเล่นและพฤิ ตกรรมการเล่น ของผู้เรียน 5. มีผลการเรียนรู้ ของผู้เรียน ขั้นตอนการจัดกิจกรรม 1.ผู้สอนนำเสนอเกม ชี้แจงวิธีการเล่น และกติกาการเล่นเกม เกมที่ได้รับการออกแบบให้เป็นเกมการศึกษาโดยตรง มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ 1) เกมแบบไม่มีการแข่งขัน 2) เกมแบบแข่งขัน 3) เกมจำลองสถานการณ์ การเลือกเกมเพื่ อนำมาใช้สอนทำได้หลายวิธีผู้สอนอาจเป็ นผู้สร้าง เกมขึ้น หรืออาจนำเกมที่มีผู้สร้างขึ้นแล้วมาปรับดัดแปลงให้เหมาะ สมกับวัตถุประสงค์ และควรชี้แจงกติกาการเล่นเกมให้เข้าใจ 2.ผู้เรียนเล่นเกมตามกติกา ผู้สอนควรติดตามสังเกตพฤติกรรมการเล่นของผู้เรียนอย่างใกล้ชิด และควรบันทึกข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนของผู้เรียน 3. ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายผลควรอภิปรายผลเกี่ยวกับผลการเล่น และวิธีการหรือพฤติกรรมการเล่นของผู้เรียนที่ได้จากการสังเกตจด บันทึกไว้ และในการอภิปรายผลควรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์

AAccttiivvee LLeeaarrnniinngg คือ เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการ สร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เน้นผู้เรียน ให้มีส่วนร่วมเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยง ความรู้ หรือสร้างองค์ประกอบได้ด้วยตนเองด้วยการ ลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ตัวอย่างวิธีการสอนที่เน้นการเรียนแบบ Active Learning Active 1. แบบแลกเปลี่ยนความคิด 2. แบบระดมสมอง Learning 3. แบบทบทวนโดยผู้เรียน 4. แบบโต้วาที 5. แบบเน้นปัญหา/กรณีศึกษา 6. แบบแผนผังความคิด 7. แบบวิเคราะห์วีดีโอ ลักษณะของการเรียนแบบ Active Learning 1. เป็นการพัฒนาศักยภาพการคิด การแก้ปัญหา และการนำ ความรู้ไปประยุกต์ใช้ 2.ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดระบบการเรีนรู้ และสร้างองค์ ความรู้โดยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันในรูปแบบของความร่วมมือ มากกว่าการแข่งขัน 3. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด 4. เป็นกิจกรรมให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสารสารสนเทศสู่ ทักษะการคิดวิเคราะห์และประเมินค่า 5. ผู้เรียนได้เรียนรู้ความมีวินัยในการทำงานร่วมกับผู้อื่น 6. ความรู้เกิดจากประสบการณ์และการสรุปของผู้เรียน 7. ผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้

BBrarinastionrmsintg orming วิธีการสอนที่ใช้ในการอภิปรายโดย ลักษณะสำคัญ ทันที ไม่มีกระตุ้น กลุ่มผู้เรียนเพื่อหาคำ คือ การที่ให้ผู้เรียนแบ่ง เป็นกลุ่มเล็กๆ ช่วยกัน ตอบหรือทางเลือกสำหรับปัญหาที่ คิดหาคำตอบหรือทาง กำหนดอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาสั้น เลือก สำหรับปัญหาที่กำ โดยในขณะนั้นจะไม่มีการตัดสินว่า คำ ตอบหรือทางเลือกใดดีหรือไม่อย่างไร หนกให้มากที่สุด และ รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะ ขั้นตอนวิธีการเรียนรู้แบบ ทำได้ แล้วช่วยกัน การระดมสมอง พิจารณาเลือกทางที่ดี ที่สุด ซึ่งอาจจะมี มากกว่าหนึ่ง 1. กำหนดปัญหา 2.แบ่งกลุ่มผู้เรียน และอาจเลือกประธานหรือเลขาเพื่อช่วยใน การอภิปรายและบันทึก 3. สมาชิกทุกคนในกลุ่มช่วยกันคิดหาคำตอบหรือทางเลือก สำหรับัญหาที่กำหนดให้มากที่สุด ภายในเวลาที่กำหนด โดยปัญหาของแต่ละกลุ่มอาจะเป็นปัญหาเดียวกันหรือต่าง กัน 4. คัดเลือกเฉพาะทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้หรือเหมาะสมที่สุด 5. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานของตนเอง 6. อภิปรายและสรุปผล

PROJECT เทคนิคการสอนแบบโครงการ METHOD การสอนที่ให้นักเรียนรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ได้วางโครงสร้างและดำเนินงาน ให้สำเร็จตามโครงการ เป็นการสอนที่สอดคล้องกับสภาพชีวิตจริงของเด็ก จะทำงานนี้ด้วยการตั้งปัญหาดำเนินการแก้ปัญหาด้วยการลงมือทำจริง เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ หรือการค้นคว้าหาคำตอบในสิ่งที่ผู้เรียนอยากรู้ หรือสงสัยด้วยวิธีการต่างๆ เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้เลือก ศึกษาตามความสนใจ ความมุ่งหมาย 1. เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกที่จะรับผิดชอบในการทำงานต่างๆ 2.เพื่อให้นักเรียนฝึกแก้ปัญหาด้วยการใช้ความคิด 3. เพื่อฝึกดำเนินงานตามความมุ่งหมายที่ตั้งไว้ ขั้นตอนวิธีการสอนแบบโครงการ 1.ขั้นกำหนดความมุ่งหมทาย เป็นขั้นกำหนดความมุ่งหมายและลักษณะโครงการโดยตัวนักเรียน 2. ขั้นวางแผนหรือวางโครงการ เป็นขั้นตอนที่มีค่าต่อนักเรียนเป้นอย่างมาก 3.ขั้นดำเนินการ เป็นขั้นลงมือกระทำกิจกรรมหรือลงมือแกปัญหา 4. ขั้นประเมินผล หรืออาจเรียกว่า ขั้นสอบสวนพิจรณานักเรียน ทำการประเมินผลว่ากิจกรรมหรือโครงการที่ทำนั้นบรรลุผลตามความความมุ่ง หมาย

เทคนิคการสอนแบบสาธิต Demonstration Method การจัดการเรียนรู้แบบสาธิต องค์ประกอบสำคัญ คือ กระบวนการที่ผู้สอน 1. เรื่องหรือสิ่งที่จะสาธิต หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งใช้ในการช่วยให้ผู้เรียน 2. การสาธิต ได้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ 3. ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ เกิดจากการสาธิต โดยการแสดงหรือกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมๆกับการบอกอธิบายให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการสังเกต กระบวนการขั้นตอนสาธิต และสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากการสาธิต ขั้นตอนในการสอนแบบสาธิต 1. ขั้นเตรียมการสอน 2. ขั้นการสาธิต สำหรับขั้นตอนการเตรียมการสอน ผู้สอนควรเริ่มด้วยการให้ความรู้ เกี่ยวกับเรื่องที่จะสาธิต จากนั้นให้คำแนะนำ ดำเนินการตามขั้นตอน แก่ผู้เรียนถึงวิธีการในการสังเกตและการบันทึก กำหนดจุดมุ่งหมาย เตรียมอุปกรณ์สาธิต แล้วจึงเริ่มการสาธิต และเปิดโอกาสให้ผู้เรียน เตรียมกระบวนการ ทดลองสาธิตก่อนสอน ซักถามข้อสงสัย และจัดเตรียมแบบสังเกตการสาธิต 3. ขั้นอภิปราย สรุปและประเมินผล ผู้สอนควรให้ผู้เรียนรายงานสิ่งที่สังเกต อภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดที่แต่ละคน ได้รับ และนักเรียนสรุปการเรียนรู้ที่ได้รับ โดยมีครูผู้สอนให้คำแนะนำในการสรุป การนำรูปแบบการสอนแบบสาธิตมาประยุกต์ใช้ทฤษฎีในการเรียนการสอน การสาธิตแบบมีส่วนร่วม การสาธิตในเรื่องที่แปลกใหม่ น่าสนใจ เน้นให้นักเรียนเห็นกระบวนการอย่างชัดเจน โดยมีส่วนร่วมในการสาธิต ตั้งคำถาม ซึ่งช่วยในการสอนแบบสาธิตได้ผลดียิ่งขึ้น

เทคนิคการสอน Case แบบใช้กรณีตัวอย่าง Method กรณี การที่ผู้สอนให้ผู้เรียนได้ศึกษา ตัวอย่างที่ดี เรื่องที่เกิดขึ้นจากความเป็นจริงที่ผู้สอน ได้กำหนดให้ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ คือ กรณี โดยผู้สอนกำหนดประเด็นคำถาม ตัวอย่างที่ ให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิด นำเหตุผล ใกล้เคียงกับ และคำตอบที่ได้มาอภิปรายร่วมกัน ผู้เรียนเอง ขั้นตอนของการสอนโดยใช้กรณีตัวอย่าง 1. ผู้สอน/ ผู้เรียนนำเสนอกรณีตัวอย่าง 2. ผู้เรียนศึกษากรณีตัวอย่าง 3. ผู้เรียนอภิปรายประเด็นคำถามเพื่อหาคำตอบ 4. ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายคำตอบ 5. ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาและ วิธีแก้ปัญหาของผู้เรียน และสรุปการเรียนรู้ที่ได้รับ 6. ผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน การสอนโดยใช้กรณีตัวอย่าง การสอนวิธีนี้ ผู้สอนจะต้องเตรียมกรณีตัวอย่าง ที่ใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด ในการสอน จะต้องให้เวลากับผู้เรียน เพื่อศึกษากรณีตัวอย่าง ให้เหมาะสม และควรเลือกกรณีตัวอย่างที่ผู้เรียน รู้จักและเข้าใจพอสมควร

INQUIRY-BASED เทคนิคการสอน แบบสืบเสาะ เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่พานักเรียนไปสู่การพิจารณาข้อโต้แย้งและข้อ สงสัยต่างๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดประเด็นคำถามที่ต้องการสำรวจตรวจสอบ และเป็นกระบวนการต่อเนื่องกันไป จนเรียกว่า วัฏจักรการสืบเสาะ (Inquiry Cycle) และเป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ มี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1.การสร้างความสนใจ (Engagement) โดยผู้สอนควรสร้างความสนใจ สร้างความอยากรู้อยากเห็น มีการตั้งคําถามกระตุ้นผู้เรียนดึงเอาคําตอบที่ยังไม่ครอบคลุม สิ่งที่ผู้เรียนรู้หรือแนวคิดหรือเนื้อหา 2.การสํารวจและค้นหา (Exploration) ส่งเสริมให้ผู้เรียนทํางานร่วมกัน การสํารวจ ตรวจสอบ สังเกตและฟังการโต้ตอบกันระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน ทําการซักถามเพื่อนําไป สู่การสํารวจ การตรวจสอบของผู้เรียน และให้เวลาผู้เรียนในการคิดข้อสงสัยตลอดจนปัญหา ต่าง ๆ 3.การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) โดยผู้สอนส่งเสริมให้ผู้เรียนอธิบายแนวคิด หรือให้คําจํากัดความ ด้วยคําพูดของผู้เรียนเอง ให้ผู้เรียนแสดงหลักฐาน ให้เหตุผลและอธิบาย ให้กระจ่าง ให้ผู้เรียนอธิบาย ให้คําจํากัดความและ ชี้บอกส่วนต่าง ๆ ในแผนภาพให้ผู้เรียนใช้ ประสบการณ์เดิมของตนเป็นพื้นฐานในการอธิบายแนวคิด 4.การขยายความรู้ (Elaboration) โดยผู้สอนคาดหวังให้ผู้เรียนได้ใช้ประโยชน์จากการชี้บอก ส่วนประกอบต่าง ๆ ในแผนภาพคําจํากัดความและอธิบายสิ่งที่เรียนรู้มาแล้ว สิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้หรือ ขยายความรู้และทักษะในสถานการณ์ใหม่ 5.การประเมินผล (Evaluation) โดยผู้สอนสังเกตผู้เรียนในการนําแนวคิดและทักษะใหม่ไป ประยุกต์ใช้ประเมิน ความรู้และทักษะผู้เรียน หาหลักฐานที่แสดงว่าผู้เรียนเปลี่ยนความคิดหรือ พฤติกรรม ให้ผู้เรียนประเมินการเรียนรู้

เทคนิคการสอนแบบร่วมมือ Cooperative Learning การเรียนรู้แบบร่วมมือ เป็นเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ละกลุ่มประกอบด้วยสมาชิกที่มีความรู้ ความสามารถแตกต่างกัน โดยที่ในกลุ่มจะมี การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คนเก่งจะช่วยเหลือคนที่อ่อนกว่า สมาชิกในกลุ่มไม่เพียงแต่รับผิดชอบต่อผลการเรียน ของตนเองเท่านั้น แต่จะต้องร่วมรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ ของเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม ความสำเร็จของบุคคล คือ ความสำเร็จของกลุ่ม 1.เทคนิคการแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกม (Team – Games – Tournament หรือ TGT) 2.เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) 3.เทคนิคการจัดกลุ่มแบบช่วยรายบุคคล (Team Assisted Individualization หรือ TA) 4.เทคนิคโปรแกรมการร่วมมือในการอ่านและเขียน (CIRC) 5.เทคนิคการต่อภาพ (Jigsaw) 6.เทคนิคการต่อภาพ 2 (Jigsaw II) 7.เทคนิคการตรวจสอบเป็นกลุ่ม (Group Investigation) 8.เทคนิคการเรียนร่วมกัน (Learning Together) 9.เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือร่วมกลุ่ม (Co – op – Co - op)

เทคนิคการสอน แบบแบ่งกลุ่มทำงาน วิธีสอนแบบแบ่งกลุ่มทํางาน Committee เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียน Work ทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ร่วมมือกัน Method ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหา หรือปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัดหรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทํางานร่วมกับผู้อื่นได้ ขั้นตอนในการสอนแบบแบ่งกลุ่มทำงาน 1. ครูและนักเรียนร่วมกันกำหนดความมุ่งหมาย ของการทำงานในแต่ละกลุ่มขั้นตอนนี้เป็นขั้นที่ กำหนดความมุ่งหมายและวิธีการทำงานอย่าง ละเอียด 2. ครูเสนอแนะแหล่งวิทยาการที่จะใช้ค้นคว้า หาความรู้ ได้แก่บอกรายละเอียดของหนังสือที่ใช้ ในการศึกษาค้นคว้า 3. นักเรียนร่วมกันวางแผนและปฏิบัติงานตามที่ได้ รับมอบหมาย 4. ครูและนักเรียนประเมินผลการทำงานในกรณีที่ เป็นครูให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการ ปฏิบัติงานในกรณีนักเรียนร่วมกันประเมินผล การปฏิบัติงานในกลุ่มตนเองโดยบอกขั้นตอน การปฏิบัติงานผลที่ได้รับ

เทคนิคการสอนแบบทดลอง Experimental Method วิธีสอนแบบทดลอง หมายถึง วิธีสอนที่ให้ผู้เรียนได้ ลงมือปฏิบัติ ศึกษาค้นคว้าวิธีการทดลองเพื่อพิสูจน์ หลักการ ทฤษฎี ที่ผู้อื่นได้ค้นพบไว้ วิธีสอนแบบนี้มักใช้ ในวิชาวิทยาศาสตร์ เช่น ทดลองการเกิดเงา ทดลองการเพาะพืชด้วยเมล็ด ทดลองการสะท้อน ของแสง ทดลองว่าแสงเดินทางเป็นเส้นตรง เป็นต้น ขั้นตอนการสอนแบบทดลอง 1. ขั้นเตรียม เป็นขั้นของการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เพื่อให้สอดคล้อง ตามหลักสูตร มาตรฐานการเรียนช่วงชั้นหรือผลการเรียนรู้ที่คาด หวัง จากนั้นจึงวางแผนการให้การเรียนรู้ด้วยการทดลอง มี การเตรียมวัสดุ สื่อ อุปกรณ์ หรือเอกสารต่างๆ ในการนี้ต้อง ตรวจสอบประสิทธิภาพของสื่อหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการ ทดลองด้วย 2. ขั้นทดลอง เป็นขั้นของการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ เริ่มต้นด้วยการนำเข้าสู่ บทเรียนแจ้งจุดประสงค์และเนื้อหาสาระการเรียนรู้ และแบ่งกลุ่ม นักเรียนเป็นกลุ่มย่อยตามที่ต้องการ จากนั้นจึงดำเนินการทดลอง ตามรูปแบบที่กำหนดไว้ 3. ขั้นเสนอผลการทดลอง เป็นการนำเสนอผลการทดลองด้วยการสรุปขั้นตอนและผลการ ทดลอง รวมทั้งปัญหาและข้อเสนอแนะ โดยกลุ่มของนักเรียนเอง หรือผู้สอนร่วมกับนักเรียน