Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เพคตินจากเปลือกส้มโอ

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เพคตินจากเปลือกส้มโอ

Published by benyada.p18, 2023-02-19 07:47:44

Description: รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เพคตินจากเปลือกส้มโอ

Search

Read the Text Version

1 รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง เพคตินจากเปลอื กสม้ โอ จัดทำโดย ด.ช.พศวรี ์ บุญกว้าง เลขท่ี 8 ด.ญ.ธารษิ า สธุ รรมา เลขท่ี 24 ด.ญ.นิศากร ยศมา้ ว เลขที่ 25 ด.ญ.เบญญาดา ป้องชาลี เลขที่ 26 ด.ญ.พทิ ยาภรณ์ ศรีมาดี เลขที่ 33 นำเสนอ คุณครธู วัฒนช์ ยั แกว้ เมืองปัก โรงเรียนหนองไผ่ อำเภอหนองไผ่ จงั หวัดเพชรบรู ณ์ สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาเพชรบูรณ์

ชื่อโครงงาน เพคตนิ จากเปลอื กส้มโอ 2ก ชอ่ื ผจู้ ดั ทำ 1.ด.ช.พศวรี ์ บญุ กวา้ ง เลขท่ี 8 555 5 กกก 2.ด.ญ.ธาริษา สุธรรมา เลขท่ี 24 3.ด.ญ.นศิ ากร ยศมา้ ว เลขที่ 25 4.ด.ญ.เบญญาดา ป้องชาลี เลขท่ี 26 5.ด.ญ.พทิ ยาภรณ์ ศรีมาดี เลขที่ 33 ครูท่ปี รึกษา คณุ ครูธวัฒนช์ ัย แก้วเมอื งปกั สถานศึกษา โรงเรียนหนองไผ่ ปีการศึกษา 2565 บทคดั ยอ่ การทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์เรื่องเพคตนิ จากเปลอื กสม้ โอน้ีมีจดุ ประสงคเ์ พ่ือศกึ ษาเพคตินในเปลือกสม้ โอ ซึ่งเพคตนิ เปน็ สารชนดิ หน่ึงเมือ่ นำไปรวมตัวกับน้ำตาลและกรดในปริมาณท่ีเหมาะสม จะเกดิ เปน็ เจลท่อี ่อนน่มุ จึง นิยมนำไปทำแยม และเยลลี่ นอกจากนีเ้ พคติน ยังมคี ุณสมบัตชิ ่วยลดการแยกช้นั ในผลิตภัณฑ์ที่เปน็ กรดจงึ ถูก นำไปใชใ้ นนมเปร้ยี วและน้ำผลไม้ และเพ่อื ศึกษาและเปรยี บเทียบปริมาณเพคตินทไ่ี ดจ้ ากการสกดั โดยใช้ เอทลิ แอลกอฮอลใ์ นปรมิ าณทแ่ี ตกตา่ งกนั ผลการทดลองพบวา่ การสกัดเพคตินครัง้ ท่ี 1 โดยใช้เอทิลแอลกอฮอล์ในปรมิ าณ 40 มิลลิลติ ร ต่อนำ้ สกดั จากเปลอื กส้มโอ 200 มลิ ลลิ ติ ร จะได้เพคตินปริมาณ 5 กรัม,การสกดั เพคตนิ ครง้ั ที่ 2 โดยใชเ้ อทลิ แอลกอฮอล์ใน ปริมาณ 50 มิลลลิ ิตร ตอ่ น้ำสกดั จากเปลือกสม้ โอ 200 มลิ ลิลติ ร จะได้เพคตินปริมาณ 9 กรัม และในการสกดั เพคติน คร้งั ท่ี 3 โดยใช้เอทิลแอลกอฮอล์ในปริมาณ 60 มิลลลิ ติ ร ต่อนำ้ สกดั จากเปลอื กส้มโอ 200 มิลลิลิตร จะ ไดเ้ พคตินปรมิ าณ 8 กรมั จงึ สรุปได้วา่ การสกดั เพคตนิ คร้ังที่2 โดยใช้เอทิลแอลกอฮอล์ในปริมาณ 50 มิลลลิ ติ ร ตอ่ น้ำสกดั จาก เปลือกสม้ โอ 200 มิลลลิ ติ ร จะไดเ้ พคตินมากท่ีสดุ และการสกดั เพคตินครัง้ ที่1 โดยใช้เอทลิ แอลกอฮอล์ในปรมิ าณ 40 มิลลิลิตร ต่อนำ้ สกดั จากเปลอื กสม้ โอ 200 มลิ ลิลิตร จะได้เพคตินนอ้ ยทส่ี ุด

กติ ติกรรมประกาศ 3ข 555 การศกึ ษาคน้ ควา้ บทเรียนเล่มนี้สำเรจ็ ได้ดว้ ยความกรุณาจากอาจารยท์ ุกท่านที่ใหค้ ำแนะนำ ปรกึ ษา ให้ 5 ความรู้ เรอ่ื งการทำวิจยั แกไ้ ขข้อบกพรอ่ งตา่ งๆ จนการศกึ ษาคน้ ควา้ บทเรียนสำเร็จรปู น้ีเสรจ็ สมบูรณ์ กกก ผวู้ ิจยั ขอกราบขอบพระคุณอาจารยท์ ุกทา่ นท่ีได้ใหค้ วามชว่ ยเหลือ ใหค้ วามรู้ ความคิด ให้คำแนะนำ คำปรึกษาตลอดจนการตรวจแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งตา่ งๆ เปน็ อยา่ งดี จนการวจิ ัยนี้เสรจ็ สมบรู ณ์ ขอขอบพระคุณ คณุ ครูธวฒั นช์ ยั แก้วเมอื งปกั ทกี่ รณุ าใหค้ วามอนุเคราะหใ์ ห้คำแนะนำ ให้ความรู้ และอำนวยความสะดวกในการ ศกึ ษาวจิ ัยครั้งนเี้ ปน็ อยา่ งดี คณะผ้จู ัดทำ

4ค สารบญั บทคดั ย่อ...................................................................................................................................................................ก กิตติกรรมประกาศ....................................................................................................................................................ข สารบญั ......................................................................................................................................................................ค สารบญั ตาราง............................................................................................................................................................ง บทท่ี 1 บทนำ...........................................................................................................................................................1 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยที่เกี่ยวขอ้ ง....................................................................................................................3 บทท่ี 3 วัสดอุ ปุ กรณแ์ ละขั้นตอนการดำเนนิ งาน....................................................................................................17 บทที่ 4 ผลการทดลอง............................................................................................................................................19 บทท่ี 5 สรุปผลการทดลอง.....................................................................................................................................20 บรรณานกุ รม..........................................................................................................................................................21 ภาคผนวก...............................................................................................................................................................22

5ง สารบัญตาราง ขั้นตอนการดำเนินงาน............................................................................................................................................17 ตารางบันทกึ ผลการทดลอง.....................................................................................................................................22555 5 กกก

6 555 5 กกก

1 บทที่ 1 บทนำ ท่ีมาและความสำคญั ของโครงงาน เพคตนิ เปน็ สารจำพวกพอลแิ ซ็คคาไรดพ์ บตามธรรมชาตใิ นผนังเซลล์ของพชื และรอยตอ่ ระหว่างผนังเซลล์ โดยรวมตวั อยกู่ ับเซลลูโลส ทำหนา้ ที่ยดึ เกาะผนังเซลลใ์ ห้ตดิ กันจัดเปน็ คารโ์ บไฮเดรตประเภทไฟเบอร์ หรือเส้นใย อาหารทไี่ ม่ถูกยอ่ ยโดยเอนไซม์ในระบบการยอ่ ยของร่างกายมนุษย์ สามารถพบเพคตนิ ในพวกผลไม้ ตระกลู สม้ เช่น ส้มเขียวหวาน สม้ โอ รวมท้งั ในผลไม้ เชน่ ฝร่งั และแอปเปล้ิ เป็นต้น อตุ สาหกรรมการผลติ เพคตินสว่ นใหญจ่ ะสกัด จากเปลือกนอกซึ่งมีนำ้ หนกั เพคตนิ มากถึง 25% ของน้ำหนักแห้ง โดยในการสกดั จะตอ้ งใชเ้ อทิลแอลกอฮอล์ใน ปรมิ าณหน่ึงเพือ่ ใหไ้ ดป้ รมิ าณเพคตนิ ทีม่ ากที่สดุ เพคตินยงั ถกู นำมาใช้ในอตุ สาหกรรมอาหารอยา่ งแพร่หลาย ชว่ ย เพม่ิ ความขน้ หนดื ในอาหาร เปน็ สารก่อเจล สารเพิม่ ความคงตัวของคอลลอยด์ในเครือ่ งดมื่ น้ำผลไมแ้ ละผลติ ภัณฑ์ท่ี คล้ายเยลลี่ เปน็ ตน้ ปจั จบุ นั เพคตินไดร้ บั ความนิยมนำมาใช้ในอตุ สาหกรรมผลิตเคร่ืองสำอางมากขน้ึ เนอื่ งจากมี ความปลอดภยั เพคตนิ อยู่ในผลติ ภณั ฑเ์ ก่ยี วกบั เส้นผม เช่น แชมพู คอนดิเซนเนอร์ หรอื นำไปใส่ในแวก็ ซก์ ำจัดขน เพือ่ เพ่มิ ความข้นหนดื ทำให้สามารถดงึ ขนึ้ ไดง้ ่ายขนึ้ เนอ่ื งจากประเทศไทยในปจั จุบนั นำเขา้ เพคตนิ จากต่างประเทศในราคาท่สี งู หาซือ้ ได้ยาก และมีความ จำเปน็ ตอ้ งใชใ้ นด้านอตุ สาหกรรมต่างๆ รวมทง้ั ทางดา้ นเภสัชกรรม หากเราสามารถที่จะผลติ เพคตนิ ใชไ้ ดเ้ อง ภายในประเทศก็จะเป็นการลดตน้ ทนุ การผลติ ของวตั ถุดบิ ลงได้ โดยกลุม่ ของข้าพเจ้าจึงอยากศกึ ษาปริมาณของ เอทลิ แอลกอฮอล์ ท่ีใชใ้ นการสกดั เพคตินเพอ่ื ให้ไดเ้ พคตนิ ทมี่ ีปริมาณมากทสี่ ดุ จากประโยชน์ขา้ งตน้ กลมุ่ ของข้าพเจา้ จึงอยากศกึ ษาและเปรียบเทียบปริมาณเพคตนิ ท่ไี ด้จากการสกัดโดยใช้ ปรมิ าณเอทิลแอลกอฮอล์ในปริมาณที่แตกต่างกนั

2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพ่ือศึกษาเพคตนิ ในเปลือกส้มโอ 2.เพ่ือสกัดเพคตนิ จากเปลอื กสม้ โอ 3.เพ่อื ศึกษาปรมิ าณของเอทลิ แอลกอฮอล์ในการสกัดเพคตนิ จากเปลอื กสม้ โอ 4.เพ่ือเปรียบเทยี บปรมิ าณเพคตินทีไ่ ด้จากการสกดั โดยใชป้ ริมาณเอทลิ แอลกอฮอล์ทีแ่ ตกต่างกนั ขอบเขตการศกึ ษา ศึกษาและเปรยี บเทยี บปริมาณเพคตินจากเปลือกสม้ โอ โดยใช้ปริมาณเอทลิ แอลกอฮอล์ท่ีแตกตา่ งกัน สมมุตฐิ าน ถ้าใชเ้ อทิลแอลกอฮอล์ปรมิ าณ 50 มิลลลิ ติ ร ตอ่ น้ำสกดั จากเปลือกสม้ โอ 200 มลิ ลลิ ติ รดงั น้ันจะได้เพคติน ในปรมิ าณมากที่สดุ ตวั แปรทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ตวั แปรต้น ปรมิ าณเอทลิ แอลกอฮอล์ ตัวแปรตาม ปริมาณเพคตินทไ่ี ด้จากการสกดั ตวั แปรควบคมุ ปริมาณเปลอื กส้มโอ, ชนิดของเปลอื กส้มโอ,ชนดิ ของเอทิลแอลกอฮอล์, ชนดิ ของกรดซิตรกิ , ระยะเวลาในการตม้ เปลือกสม้ โอ,ปริมาณนำ้ เปล่า,ปรมิ าณกรดซิตริก,ระยะเวลาในการพกั ท้ิงไว้ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ บั 1.ได้ความรเู้ กย่ี วกับกระบวนการสกดั เพคตนิ 2.ไดศ้ ึกษาปริมาณของเอทลิ แอลกอฮอล์ทเ่ี หมาะสมในการสกดั เพคติน 3.ไดน้ ำเพคตนิ ท่ีไดจ้ ากการสกดั ไปใช้ประโยชนใ์ นด้านตา่ งๆ เช่น นำไปทำแยมผลไม้

3 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยที่เก่ียวข้อง การดำเนนิ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื งเพคตนิ จากเปลือกส้มโอ คณะผจู้ ดั ทำไดศ้ ึกษา ทบทวนความหมาย ตลอดจนแนวคดิ ทฤษฎี เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกยี่ วข้องเพื่อใช้เป็นแนวทางในการศกึ ษาวจิ ัย ดงั น้ี 1. ส้มโอ 2. เพคตนิ 3. กรดซติ ริก 4. เอทิลแอลกอฮอล์

4 1.ส้มโอ ชื่อสามญั Pomelo , Shaddock Pomelo ชอ่ื ทางวทิ ยาศาสตร์ Citrus maxima (Burm.f.) Merr. วงศ์ Rutaceae ชอ่ื อื่น : โกร้ยตะลอง (เขมร); มะขุน, มะโอ (ภาคเหนือ); ลมี าบาลี (มลายู-ยะลา); สังอู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน); สม้ โอ (ทว่ั ไป)

5 ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ส้มโอจดั เป็นไมย้ ืนตน้ ขนาดเลก็ ลำต้น มีลกั ษณะค่อนขา้ งเปน็ เหล่ียม และมีรปู ทรงที่ไม่แน่นอน มคี วามสงู ของลำต้นประมาณ 5-15 เมตร ลำตน้ แตกกง่ิ แขนงมาก กง่ิ ออ่ นมขี นปกคลมุ ลำต้น และกง่ิ มีหนามรูปทรงอว้ น ยาวประมาณ 1-5 เซนติเมตร ลำตน้ มีทรงพมุ่ บริเวณสว่ นปลายของลำตน้ ขนาดทรงพุม่ ประมาณ 3-4 เมตร เปลอื ก ลำตน้ มีสีน้ำตาลอมเทา สว่ นเนอื้ ไมม้ ีลกั ษณะเหนียว แตไ่ มแ่ ขง็ กง่ิ หกั ไดย้ าก ใบแตกออกเป็นใบเดีย่ ว เรยี งวนสลบั กันบนก่ิง ใบมีขนาดใหญ่ สีเขยี วเข้ม แผ่นใบหนา และเปน็ เป็นมัน กว้าง 10-12 เซนตเิ มตร ยาว 15-20 เซนติเมตร ใบประกอบด้วยแผ่นใบ และกา้ นใบ โดยกา้ นใบจะมีแผน่ ใบขนาด เล็กที่เรียกวา่ wing ส่วนแผน่ ใบจะรปู รา่ งคลา้ ยรปู ไข่ยาว หรือรูปโล่ ฐานใบแหลมปา้ น ปลายใบมน และมรี อยเวา้ ตรงกลางเป็นรูปหัวใจ สว่ นขอบใบจะมีหยกั เล็กๆ แผ่นใบด้านบนมสี เี ขียวเข้มเป็นมนั วาว ส่วนแผ่นใบด้านล่างเป็นสี เขยี วออ่ น และมีขนนมุ่ ปกคลมุ ดอก ออกเป็นช่อหรอื ออกเป็นดอกเดี่ยว แทงออกบริเวณปลายของก่ิงออ่ น ประกอบดว้ ยชอ่ ดอกที่เกิด บริเวณปลายยอด และตายอดดา้ นข้าง แต่ละช่อมดี อก 1-20 ดอก ดอกมขี นาดใหญ่ และเปน็ ดอกสมบูรณ์เพศที่ ผสมเกสรในดอกตัวเอง แต่ละดอกมีขนาด 3-7 เซนตเิ มตร ประกอบดว้ ยกลีบเลีย้ งที่ฐานดอก 3-5 กลบี สว่ นกลีบ ดอกมสี ขี าว กลีบดอกมรี ปู หอก จำนวน 4-5 กลบี กวา้ งประมาณ 1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3.5-4.0 เซนติเมตร แผน่ กลีบดอกหนา ด้านในกลีบดอกมีเกสรตัวผูจ้ ำนวน 20-25 อนั เรยี งซ้อนกนั เป็นวงกลมรอบรังไข่ และมีฐาน เกสรเชอ่ื มติดกันเปน็ กลุ่ม 4-5 กลมุ่ สว่ นดา้ นในสุดเปน็ รงั ไข่ท่ีแบง่ เป็นชอ่ งๆ 11-16 ชอ่ ง ทงั้ นี้ ดอกสม้ โอจะบาน จากดอกสว่ นปลายก่อน และทยอยบานในดอกโคนช่อ ผลมรี ปู ร่างคอ่ นข้างกลม บางพันธม์ุ ขี ้ัวผลเรยี วแหลม ผลมีขนาดใหญ่ ขนาดผลประมาณ 10-13 เซนตเิ มตร ผลอ่อนมสี ีเขียว ผลสกุ มสี ีเขียวอมเหลอื งหรือสเี หลอื งทองตามสายพันธุ์ เปลือกหนาประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร แบง่ ออกเปน็ 3 ช้ัน ประกอบด้วยชั้นนอกสุด เรยี กว่า flavedo มีสเี ขยี วอมเหลือง มีตอ่ มนำ้ มันจำนวน มาก ชัน้ ต่อมา เรยี กวา่ albedo เปน็ สว่ นที่เปน็ เน้ือเย่อื อ่อนนุ่มสขี าวท่ีมีความหนามาก และชนั้ ที่สามเป็นเนอ้ื เย่อื ของพทู ่ีหุม้ รอบเนอ้ื ผล ส่วนเนอื้ ผลแบง่ ออกเป็นกลีบๆเรียงติดกันเปน็ วงกลม แตแ่ กะแยกออกจากกนั ง่าย เรยี กลีบ เน้อื ผลวา่ juice sac ภายในกลีบจะฉ่ำดว้ ยนำ้ ทใี่ หร้ สหวานหรอื หวานอมเปร้ียว เมลด็ รวมกนั อย่ตู รงแกนกลางของผล มีจำนวนตงั้ แต่ 0-265 เมล็ด/ผล แลว้ แต่สายพันธ์ุ เมล็ดมที ั้งขนาด ใหญ่ และขนาดเล็กสุด เมล็ดมีรูปรา่ งแบน และผิวย่น เปลือกเมลด็ มสี เี ขียวอมเหลอื ง และเป็นร่องลกึ ขนาดเมลด็ กวา้ ง 0.6-1.2 เซนติเมตร

6 ถน่ิ กำเนิด สม้ โอเปน็ พชื ตระกลู เดยี วกับสม้ เขยี วหวาน มะนาว มะกรดู ส้มเชง้ และสม้ เกรปฟรุต จงึ เป็นที่มาของชอ่ื สามญั ของสม้ โอวา่ Pomelo ที่หมายความวา่ สม้ ทม่ี ีผลเทา่ ฟักทองในภาษาดกั ข์ โดยสม้ โอมีถนิ่ กำเนดิ ในแถบ ประเทศเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เชน่ มาเลเซีย,ไทย,อนิ โดนเี ซีย,พม่า,ลาว,กมั พูชา เปน็ ต้น สำหรบั ในประเทศไทย การปลกู สม้ โอในประเทศไทยในชว่ งแรกๆจะมกี ารปลกู บริเวณรมิ ฝงั่ แม่นำ้ เจ้าพระยาในชว่ งพระนคร และฝงั่ ธนบุรี ต่อมาจงึ ส่งเสรมิ ใหป้ ลูกมากขึน้ ทว่ั ภาคกลาง เชน่ อำเภอนครชัยศรี จงั หวดั นครปฐม ซง่ึ สามารถพฒั นาสายพันธุไ์ ด้ มากมาย และมีการสง่ เสริมการปลูกในภาคต่างๆในเวลาตอ่ มา ได้แก่ พนั ธขุ์ าวแป้น,พันธขุ์ าวพวง เปน็ ต้น และในปจั จุบันมจี ังหวัดท่ปี ลกู สม้ โอมาก ได้แก่ ชมุ พร นครปฐม นครศรีธรรมราช เชยี งใหม่เชยี งราย

7 ประโยชนแ์ ละสรรพคุณ สม้ โอถือเปน็ ผลไม้สมนุ ไพรชนดิ หนงึ่ ท่มี กี ารนำมาทำประโยชน์ทง้ั ทางดา้ นอาหารและด้านสมนุ ไพรมา ตัง้ แตใ่ นอดตี แล้ว สำหรบั ในฐานะอาหารมีการใชส้ ้มโอเป็นผลไม้สำหรบั รบั ประทานซึง่ จะนำ เนื้อผลมารบั ประทาน โดยจะให้นำ้ ฉำ่ หวานหรอื หวานอมเปรย้ี วหรือนำเนื้อผลนำมาแปรรปู เปน็ น้ำปัน่ หรอื ผสมทำไอศครมี รวมถึงนำมา ทำอาหาร เชน่ ตำส้มโอ,ข้าวยำ เปน็ ตน้ หรือนำสว่ นใยสีขาวจากเปลือกนำมาสับ และตากให้ ก่อนบดใหล้ ะเอยี ด จนเปน็ ผงอีกครัง้ แล้วนำมาใชเ้ ปน็ ส่วนผสมของขนมหวาน เช่น ขนมบ้าบ่ิน นอกจากนย้ี งั มีการใชป้ ระโยชนจ์ าก ส่วนตา่ งๆของส้มโอ อีกเชน่ เปลอื กดา้ นนอกของส้มโอนำมาบดผสมสำหรบั ทำธูปหอม ธปู ไล่ยงุ หรือนำเปลือกสม้ โอ ช้นั ในส่วนทีเ่ ปน็ สขี าวมาผลติ เป็นผลติ ภัณฑเ์ ครอ่ื งสำอางตา่ งๆ เชน่ สบู่เหลว , สบู่ , โลช่ันบำรุงผวิ หรอื นำมาทำ เปน็ น้ำมันหอมระเหย เป็นตน้ 1.ทำให้ผิวพรรณผุดผ่องตาเป็นประกายสวยงาม 2.แก้ลมวิงเวยี น หน้ามืด ตาลาย ใจสนั่ 3.ช่วยขับลม ขบั เสมหะ 4.แกอ้ ดึ อดั แกจ้ ุกแน่นหนา้ อก 5.แกไ้ อ 6.แก้ปวดท้องนอ้ ยและไส้เล่ือน 7.แก้ลมในกองลมปว่ ง แกล้ มในกอง 8.แกจ้ กุ เสยี ดแน่นเฟ้อ 9.แกอ้ าเจยี น 10.ใชต้ ้มน้ำอาบแก้คัน 11.รักษาโรคผิวหนังจำพวกลมพิษ และปวดบวมจากแมลงสตั ว์กัดตอ่ ย 12.รกั ษาโรคลำไสอ้ กั เสบ 13.ช่วยขับพยาธิ 14.ช่วยเจริญอาหาร 15.ช่วยใหก้ ระปร้ีกระเปรา่ 16.แก้อาการเมาสุรา

8 การขยายพันธุ์ ส้มโอสามารถขยายพนั ธไ์ุ ด้ ดว้ ยวิธเี พาะเมล็ด การตดิ ตา การตอน และการเสียบกงิ่ แต่ท่ัวไปนยิ มปลกู จาก ตน้ พันธทุ์ ่ไี ด้จากการตอนหรอื การเสยี บกิ่ง เพราะจะได้ตน้ ท่ไี ม่สงู และไดผ้ ลส้มโอตามพนั ธด์ุ ้งั เดมิ ทต่ี อ้ งการ สำหรับพืน้ ทีป่ ลูกทน่ี ำ้ ไมท่ ่วมง่ายสามารถไถพรวนดนิ เปน็ แปลงให้สม่ำเสมอทว่ั ไปได้เลย แตห่ ากเป็นพืน้ ท่ที ่ี น้ำท่วมง่าย เชน่ ที่ราบลุม่ ทางภาคกลางตอ้ งขุดยกร่องแปลงเปน็ แนวยาวให้สูงขนึ้ โดยมีขนาดสนั ร่องปลูกกว้าง ประมาณ 6-7 เมตร และเป็นรอ่ งนำ้ กว้างประมาณ 1-1.50 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร พร้อมกับทำคนั ก้นั น้ำรอบ สวน สว่ นการเตรยี มหลุม และวธิ กี ารปลกู ให้ขุดหลุมปลูกขนาดประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมตากหลุมปลกู และดนิ ทีข่ ุดข้ึนมานาน 10-14 วัน ควรเวน้ ระยะหลุมประมาณ 6-8 x 6-8 เมตร (แต่ส่วนมากนยิ มในระยะ 7×7 เมตร) หลงั จากทตี่ ากดนิ และหลุมปลกู แล้ว ให้นำหนา้ ดนิ เกล่ยี ลงหลุม พรอ้ มโรยปุย๋ คอกหรอื วสั ดุอินทรียค์ ลกุ ผสมให้เขา้ กนั ก่อนนำตน้ พนั ธุล์ งปลกู โดยใหร้ ะดบั ดินในหลมุ สูงกวา่ ระดบั ดนิ เดิมเล็กนอ้ ย และโรยปดิ ดว้ ยฟางขา้ ว หรือเศษใบไม้ จากน้ันนำไมห้ ลกั ปัก และผกู รัดต้นพันธุ์ป้องกันไม่ใหต้ น้ โยกหรือโนม้ เอียง โดยส้มโอจะเร่มิ ตดิ ดอก และตดิ ผลหลังการปลกู ประมาณ 4 ปี และเร่มิ เกบ็ ผลไดห้ ลังจากตดิ ดอกประมาณ 8 เดือน

9 องค์ประกอบทางเคมี สารสำคญั ทพี่ บในเปลอื กส้มโอ (ทงั้ สว่ นท่เี ขียวและสีขาว) ส่วนใหญ่จะเป็นสารกลุ่มของน้ำมันหอมระเหย และสารกล่มุ flavonoids เช่น naringenin, hesperetin, Hesperidin, apigenin, poncirin และ eriocitin และยังพบสาร acridone, acronycine, anthranilate, bergamottin, camphor, citral, Limonene, limonin, linalool, myricetin, nerol, nomilin, pinene, quercetin, rutin, scopoletin, umbelliferone และยังพบสารขมในเปลือกชอ่ื naringin รูปภาพองค์ประกอบทางเคมขี องส้มโอ และจากการวเิ คราะหอ์ งค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากเปลอื กส้มโอทส่ี กดั ได้จากวธิ ี TLC และ GC-MS พบวา่ มี limonene เปน็ องคป์ ระกอบหลกั และสารกลุ่ม monoterpene อ่ืนๆ ปริมาณเล็กนอ้ ย ได้แก่ alpha-pinene, sabinene, beta-pinene, beta-myrcene, alpha-phellandrene, trans-carveol, cis- carveol และ carvone นอกจากนใี้ นเน้อื สม้ โอยงั มีคณุ คา่ ทางโภชนาการดังนี้

10 คุณคา่ ทางโภชนาการของส้มโอ (100 กรัม) • พลังงาน 38 กิโลแคลอรี • คารโ์ บไฮเดรต 9.62 กรมั • เสน้ ใย 1 กรัม • ไขมัน 0.04 กรัม • โปรตีน 0.76 กรัม • วิตามนิ บี 1 0.034 มิลลกิ รมั 3% • วิตามินบี 2 0.027 มิลลกิ รัม 2% • วิตามินบี 3 0.22 มิลลกิ รัม 1% • วิตามนิ บี 6 0.036 มิลลกิ รัม 3% • วติ ามินซี 61 มิลลิกรัม 73% • ธาตแุ คลเซียม 4 มิลลิกรมั 0% • ธาตเุ หลก็ 0.11 มิลลิกรมั 1% • ธาตแุ มกนเี ซยี ม 6 มิลลิกรัม 2 • ธาตแุ มงกานสี 0.017 มลิ ลกิ รมั 1% • ธาตฟุ อสฟอรัส 17 มิลลกิ รมั 2% • ธาตุโพแทสเซยี ม 216 มลิ ลิกรัม 5% • ธาตุโซเดียม 1 มลิ ลิกรัม 0% • ธาตสุ งั กะสี 0.08 มิลลกิ รมั 1% ขอ้ แนะนำและข้อควรระวัง 1.ควรรับประทานสม้ โอในปรมิ าณเหมาะสม หรือรับประทานส้มโอสลบั กบั ผลไมช้ นดิ อนื่ ทหี่ วานน้อยกว่า เพื่อไม่ให้ ร่างกายไดร้ ับนำ้ ตาลมากเกินไป 2.ควรรบั ประทานส้มโอแตพ่ อดีไมร่ บั ประทานมากจนเกินไป เพราะอาจทำใหท้ อ้ งเสีย และปวดมวนทอ้ งได้ 3.ส้มโอเปน็ พืชตระกูลเดยี วกันกับเกรปฟรตุ จงึ อาจเกดิ ปฏิกริ ิยาขน้ึ ได้เม่ือใช้ยาบางชนิด เชน่ ยาลดความดันโลหิต ยาลดไขมนั ในเลอื ด และยาแกแ้ พบ้ างชนดิ 4.หลกี เล่ียงการรบั ประทานสม้ โอในช่วงทใ่ี ช้ยา เชน่ ยา Simvastin, Crizotinib, Halofantrine, Dronedarone และ Domperidone เป็นต้น หรอื ปรกึ ษาแพทยแ์ ละเภสัชกรกอ่ นเก่ียวกบั ปฏกิ ิริยาของยาท่อี าจเกิดข้ึนได้เมือ่ รบั ประทานส้มโอ

11 2.เพคตนิ เปน็ สารสกดั ทีไ่ ด้จากผลไมต้ ระกลู ส้มเปลือกหนา และกากของแอปเป้ลิ คุณสมบัตเิ ด่นของเพคตนิ คอื เมอ่ื รวมตวั กับน้ำตาลและกรดในปริมาณทีเ่ หมาะสม จะเกดิ เปน็ เจลที่ออ่ นนุ่ม จึงนยิ มนำไปทำแยม และเยลลี่ เพคตนิ ยังมคี ุณสมบัตชิ ่วยลดการแยกชน้ั ในผลติ ภัณฑท์ เ่ี ปน็ กรด จงึ ถกู นำไปใชใ้ นนมเปร้ยี ว และนำ้ ผลไม้ เพคตนิ มาจากภาษากรกี แปลวา่ สารประสานหรอื สารทำให้แข็งตัว (congeal or solidity) เพคตนิ เปน็ สารพอลิแซก็ คาไรด์ (polysaccharide) ท่พี บไดท้ ัว่ ไปในผนังเซลล์ของพืชที่ยงั มอี ายุน้อย ทำหนา้ ทีเ่ ป็นโครงสร้าง เซลล์ และยึดเหนยี่ วเซลลพ์ ืชหลายเซลล์ใหเ้ ชือ่ มตดิ กันในบรเิ วณชัน้ middle lamella รวมถึงเป็นสับเตรตของ เอนไซม์เพคตเิ นส และเปน็ ส่วนประกอบสำคัญของเน้อื เยอ่ื พาเรนไคมา (parenchyma tissue) เพคติน ถูกค้นพบครง้ั แรกในศตวรรษที่ 18 และต้งั ชอ่ื วา่ เพคตนิ ในปี ค.ศ. 1825 โดย Braconnot เป็น สารทใ่ี ชใ้ นกระบวนการทำใหเ้ กิดเจล โครงสร้างของเพคติน เปน็ สารโมเลกุลใหญ่ มีองคป์ ระกอบหลกั เป็นกรดกาแลคทูโรนิก (galacturonic acid) ทเ่ี ช่ือมผสานกันประมาณ 200 – 1000 หนว่ ย ด้วยพันธะแอลฟา 1,4 ไกลโคซิดกิ (α-1,4 glycosidic) มี น้ำหนกั โมเลกุล 30,000-300,000 ดาลตัน และอาจพบนำ้ ตาลกาแลก็ โตส อะราบโิ นส และแรมโนส ทีโ่ ซ่พนั ธะของ เพคตินกรดกาแลคทโู รนกิ บางส่วนจะเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเอสเทอริไฟดด์ ว้ ยหมู่เมทลิ ได้ ซึ่งเมทิลเลชั่นจะช่วยบ่งบอก คณุ สมบตั ิของเพคตนิ ได้ โดยพิจารณาได้จากคา่ DM (degree of methylation) ทแ่ี สดงถงึ หม่เู มทอคซลิ เฉลีย่ ต่อ ปริมาณกรดกาแลคทโู รนกิ 100 หน่วย

12 คณุ สมบตั ขิ องเพคติน 1. การละลาย เพคตนิ เปน็ สารมขี ้วั เมอ่ื สัมผสั น้ำจึงละลายไดง้ า่ ย และหากมอี ุณหภมู ทิ ีส่ งู ขน้ึ จะช่วยให้เพคตินละลายตัว ไดด้ ีขึน้ และเมื่อละลายน้ำแล้วจะสามารถขยายหรือพองตัวเพิม่ ปรมิ าตรขน้ึ ทง้ั น้ี เพคตนิ เปน็ สารทร่ี วมตวั กบั นำ้ ได้ ปริมาณมาก นอกจากนน้ั ยังละลายได้ดใี นตวั ทำละลายท่มี ขี ้ัวตา่ งๆ เช่น เฮกเซน และเอทานอล เปน็ ตน้ หรอื สารละลายทม่ี ีฤทธิเ์ ปน็ กรดดา่ งตา่ งๆ แตไ่ มล่ ะลายในนำ้ มัน 2. ความหนืด เพคติน เม่ือละลายนำ้ หรอื ละลายในตัวทำละลายแล้วจะเกิดการขยายตวั ของพอลเิ มอร์ทำให้เกิดความ หนืดขน้ึ ทงั้ นี้ ความหนดื ของเพคตนิ จะมคี วามแตกต่างกันตามชนดิ หรือวตั ถุดบิ ทผ่ี ลิต ความเข้มขน้ และปริมาณ แคลเซยี ม รวมถงึ ความเป็นกรดดา่ ง การสกัดเพคติน เพคตนิ ท่สี กัดได้จากเซลล์พืช ไดแ้ ก่ ผลของพืชตระกูลสม้ ทุกชนดิ แอปเป้ิล แครอท กล้วย และถั่ว เปน็ ต้น เพคตนิ ที่สกดั ได้สว่ นใหญ่เป็นเฮทเทอโรพอลิแซคคาไรด์ ซึง่ ประกอบดว้ ยน้ำตาลอะราบโิ นส น้ำตาลกาแลคโตส และกรดกาแลคทโู รนิก [4]

13 ประโยชนเ์ พคติน 1. เพคตนิ ใชเ้ ป็นส่วนผสมในผลติ ภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหารเพอื่ ให้เน้อื อาหารมีความเหนียว หนืด มคี วามคงตวั และ มรี สสมั ผสั ตามตอ้ งการ 2. เพคตนิ ใช้เปน็ สว่ นผสมในผลติ ภณั ฑ์อาหารเสรมิ สำหรับเปน็ แหล่งเสริมเส้นใยที่มผี ลดีต่อสุขภาพ รวมถึงช่วยลด อัตราการย่อยของอาหาร ลดการดดู ซมึ น้ำตาล มผี ลต่อการลดความอว้ น และชว่ ยให้ดแู ลนำ้ หนักไดด้ ี 3. เพคตนิ ใชเ้ ป็นสว่ นผสมของยา และเครือ่ งสำอาง เพ่อื ปรับปรงุ คุณสมบตั ขิ องผลิตภณั ฑใ์ นดา้ นตา่ งๆ ไดแ้ ก่ – ใชเ้ ปน็ สารทำใหเ้ กิดเจล (gelling agent) – ใชเ้ ปน็ สารทำใหห้ นืดขน้ (thickening agent) – ใช้เปน็ สารกอ่ เกดิ อมิ ลั ชนั (emulsifier) – ใชเ้ ป็นสารทำให้ผลิตภณั ฑม์ คี วามคงตวั (stabilizer)

14 3.เอทิลแอลกอฮอล์ เอทิลเอกอฮอล์ (ethyl alcohol) หรือเอทานอล (ethanol) มสี ูตร C2H5OH เป็นแอลกอฮอลท์ ่สี ามารถ นำมารบั ประทานได้ ผลติ ได้จากกระบวนการหมกั (fermentation) เพอ่ื ใหเ้ กิดแอลกอฮอล์ (alcoholic fermentation) โดยการเปลยี่ นโมเลกลุ ของน้ำตาลดว้ ยยีสต์

15 4.กรดซติ รกิ ชอ่ื สามัญ : Citric acid, 2-hydroxy-1,2,3-propane tricarboxylic acid ประเภท : กรดซติ ริกแบ่งได้ 2 ประเภท คอื กรดชนดิ แอนไฮดรสั (citric acid anhydrous) ชือ่ ทางเคมี 2-hydroxy-1,2,3-propane tricarboxylic acid, anhydrous ซงึ่ เปน็ ชนิดทสี่ กดั ไดจ้ ากพชื ธรรมชาติ สูตรโมเลกุล C6 H8 O7 มนี ้ำหนกั โมเลกุล 192.124 g/mol จุดหลอมเหลว 153 องศาเซลเซียส กรดซิตรกิ ชนดิ โมโนไฮเดรต (citric acid monohydrate; hydrous citric acid) ชอ่ื ทางเคมี 2-hydroxy-1,2,3-propane tricarboxylic acid, monohydrate ซ่ึงเปน็ ชนดิ ท่สี งั เคราะห์จากนำ้ ตาล กลูโคส สตู รโมเลกุล C6 H8 O7 H2O มนี ำ้ หนักโมเลกุล 210.14 g/mol จุดหลอมเหลว 100 องศาเซลเซียส

16 กรดซติ รกิ ชนดิ โมโนไฮเดรต เปน็ กรดซิตริกท่ีได้จากการสังเคราะหน์ ้ำตาลกลูโคสกบั จลุ ินทรยี ์ โดยผา่ น กระบวนการไกลโคไลซีท ซ่ึงเปน็ กระบวนการสลายกลูโคสทเ่ี กดิ ข้นึ ต่อเนื่องหลายข้ันตอนให้เกดิ เป็นไพรเู วต (pyruvate) โดยจะไดพ้ ลงั งานทั้งในรูป ATP และ NADH และจะเกิดเป็นวัฏจกั รเครบส์ ประโยชนข์ องกรดซติ ริก -ปรงุ แต่ง กลิ่นรส (flavoring agent) -เปน็ สารกันหนื (antioxidant) -เปน็ สารกันเสีย (preservative) -เป็นสารจับโลหะ (chelating agent) -เป็นสารทำความสะอาด (cleaning agent)

17 บทที่ 3 วัสดุอุปกรณแ์ ละข้ันตอนการดำเนนิ งาน การดำเนนิ รายงาน เรื่องเพคตินจากเปลอื กสม้ โอ มจี ุดมงุ่ หมายเพอ่ื การศึกษาและเปรยี บเทยี บปริมาณของ เพคตนิ ที่ไดจ้ ากการสกดั โดยมีรายละเอียดในการทดลองดงั น้ี การดำเนนิ งาน ช่วงเวลาทดี่ ำเนินงาน พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. 1.ตงั้ ประเด็นปัญหาและชื่อหวั ข้อปญั หา 2.ศกึ ษาเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กี่ยวข้อง  3.พบครูที่ปรกึ ษา  4.จดั เตรยี มอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการทดลอง  5.ทดสอบและแกไ้ ข  6.เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู  7.วิเคราะหแ์ ละแปรผลข้อมลู  8.สรุปองคค์ วามรู้  9.จดั พมิ พร์ ายงาน  

18 วัสดอุ ปุ กรณ์ 1. เปลอื กส้มโอ (สขี าว) 0.6 กิโลกรัม 2. นำ้ เปลา่ 1.2 ลติ ร 3. เอทลิ แอลกอฮอล9์ 5% 150 มิลลิลติ ร 4. กรดซติ รกิ 36 มิลลิลติ ร 5. เคร่อื งป่ัน 6. หม้อต้ม 7. ผ้าขาวบาง/ตะแกรง 8. แกว้ ตวง 9. บีกเกอร์ 250 มลิ ลิลติ ร 3 อัน 10. บกี เกอร์ 100 มลิ ลลิ ติ ร 3 อัน 11. กระบอกตวง 1 อนั 12. ขวดลูกชมพู่ 3 อนั 13. กรวย 3 อัน 14. กระดาษกรองสาร 3 แผน่ 15. แทง่ แก้วคนสาร 3 อัน 16. เคร่ืองชัง่ ขนั้ ตอนการทดลอง 1. นำเปลอื กส้มโอ (สขี าว) ไปปน่ั จนละเอียด 2. นำเปลอื กสม้ โอทป่ี ัน่ ละเอียด 0.6 กโิ ล + นำ้ เปลา่ 1.2 ลติ ร + กรดซิตริก 36 มลิ ลลิ ิตร ผสมเข้ากนั แล้วพกั ไว้ 1-2 ชั่วโมง 3. นำมาต้มใหเ้ ดอื ดเปน็ เวลา 20 นาที แลว้ กรอกอกด้วยตะแกรงหรอื ผาขาวบาง 4. นำสารทีไ่ ด้มาผสมกบั เอทิลแอลกอฮอล์ (หา้ มคน) โดย ครงั้ ท่ี 1 ใช้สาร 200 มิลลิลติ ร ต่อเอทลิ แอลกอฮอล์ 40 มิลลลิ ติ ร ครั้งท่ี 2 ใชส้ าร 200 มิลลลิ ิตร ตอ่ เอทิลแอลกอฮอล์ 50 มลิ ลลิ ติ ร ครั้งท่ี 3 ใชส้ าร 200 มลิ ลิลิตร ต่อเอทลิ แอลกอฮอล์ 60 มลิ ลิลติ ร 5. นำสารไปกรองดว้ ยกระดาษกรองสาร 6. นำสารท่ไี ดจ้ ากการกรองไปชงั่ แลว้ บนั ทกึ ผล

19 บทที่ 4 ผลการทดลอง การดำเนินรายงาน เร่ืองเพคตนิ จากเปลอื กสม้ โอ มีจดุ ม่งุ หมายเพ่อื การศกึ ษาและเปรียบเทยี บปริมาณของ เพคตินที่ไดจ้ ากการสกดั โดยมีผลการทดลองดังน้ี ตารางบันทกึ ผลการทดลอง ครั้งที่ ปรมิ าณน้ำสกัดจาก ปริมาณเอทิลแอลกอฮอล์ ปริมาณเพคตนิ เปลือกสม้ โอ (g) (ml) (g) 40 5 1 200 50 9 2 200 60 8 3 200

20 บทท่ี 5 สรุปผลการทดลอง การดำเนินรายงาน เรอ่ื งเพคตินจากเปลือกส้มโอ มีจดุ มุ่งหมายเพือ่ การศึกษาและเปรียบเทียบปริมาณของ เพคตนิ ทไ่ี ด้จากการสกดั โดยสรุปผลการทดลองไดด้ งั นี้ จากการทดลองสกดั เพคตินจากเปลือกส้มโอ พบวา่ การสกดั เพคตินจากเปลอื กสม้ โอในครง้ั ท่2ี โดยใช้ เอทลิ แอลกอฮอล์ปรมิ าณ 50 มิลลลิ ติ ร ตอ่ นำ้ สกัดจากเปลอื กสม้ โอ 200 มลิ ลิลติ ร จะได้เพคตนิ ในปรมิ าณมากทสี่ ดุ รองลงมาจะเปน็ การสกดั คร้งั ที3่ ซ่ึงใช้เอทลิ แอลกอฮอลใ์ นปริมาณ 60 มลิ ลิลิตร ต่อนำ้ สกดั จากเปลอื กส้มโอ 200 มิลลิลติ ร และการสกัดครงั้ ท่1ี ซง่ึ ใชเ้ อทิลแอลกอฮอลใ์ นปรมิ าณ 40 มิลลลิ ิตร ต่อน้ำสกดั จากเปลือกส้มโอ 200 มิลลลิ ิตร จะไดเ้ พคตินในปริมาณนอ้ ยท่ีสดุ ขอ้ เสนอแนะ จากการทดลองเปรยี บเทียบปรมิ าณเอทลิ แอลกอฮอล์ในสกดั เพคตินจากเปลอื กส้มโอ กลมุ่ ของข้าพเจ้าได้มี โอกาสในการทดลองเพยี งคร้ังเดียว เพ่ือความชดั เจนยิ่งข้ึนควรทดลองมากกวา่ 1คร้ัง และหากได้ทำการสกดั เพคตนิ อาจนำไปต่อยอดในการทำแยมหรอื นำไปใช้ประโยชน์ในด้านตา่ งๆ

21 บรรณานกุ รม สม้ โอ ประโยชนด์ ๆี สรรพคุณเด่นและข้อมลู งานวิจัย. สืบคน้ 15/01/2566. จาก https://www.disthai.com/17066273/%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%82 %E0%B8%AD. เมดไทย. (2020). ส้มโอ สรรพคณุ และประโยชนข์ องส้มโอ 32 ข้อ ! (Pomelo). สืบค้น 15/01/2566. จาก https://medthai.com/%e0%b8%aa%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b9%82%e0%b8%ad/. ผศ.ดร.พมิ พเ์ พ็ญ พรเฉลิมพงศ์,ศาสตราจารยเ์ กียรติคุณ ดร.นธิ ิยา รตั นาปนนท์. Pectin / เพกทิน. สบื คน้ 15/01/2566. จาก https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0430/pectin- %E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99. เพคตนิ (Pectin) ประโยชน์ และสรรพคุณเพคติน. สบื คน้ 15/01/2566. จาก https://www.siamchemi.com/%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B 8%B4%E0%B8%99/. ผศ.ดร.พิมพ์เพญ็ พรเฉลมิ พงศ์,ศาสตราจารย์เกยี รตคิ ุณ ดร.นิธยิ า รตั นาปนนท์. Ethyl alcohol / เอทลิ แอลกอฮอล์. สืบค้น 15/01/2566. จาก https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1420/ethyl-alcohol- %E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8% AD%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0% B9%8C. ผศ.ดร.พมิ พเ์ พ็ญ พรเฉลิมพงศ์,ศาสตราจารยเ์ กยี รติคณุ ดร.นธิ ยิ า รตั นาปนนท.์ citric acid / กรด ซิตริก. สืบค้น 15/01/2566. จาก https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1339/citric-acid- %E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8% A3%E0%B8%B4%E0%B8%81. กรดซิตรกิ . สืบค้น 15/01/2566. จาก https://www.disthai.com/17314419/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%8B %E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81. ดร. ชัยวุฒิ กมลพลิ าส และดร. ภาวดี เมธะคานนท์ ทีมวจิ ยั วัสดศุ าสตรอ์ าหาร. กจิ กรรมการ ทดลองสกดั เพคติน จากเปลือกสม้ โอ. สบื คน้ 15/01/2566. จาก https://www.mtec.or.th/mat_sci_design_acti/pectin/.

22 ภาคผนวก ภาพที่ 1 การช่งั เปลอื กสม้ โอป่นั 600 กรมั ภาพท่ี 2 เปลือกส้มโอป่ัน

23 ภาพท่ี 3 ตวงกรดซิตริก 36 มิลลิลิตร ภาพที่ 4 ใส่นำ้ เปล่า 1200 มิลลิลติ ร

24 ภาพที่ 5 คนใหเ้ ข้ากัน ภาพที่ 6 ต้ม 20 นาที

25 ภาพท่ี 7 กรองดว้ ยผา้ ขาวบาง ภาพที่ 8 ตวงเอทลิ แอลกอฮอล์

26 ภาพท่ี 9 ตวงน้ำสกดั จากเปลือกส้มโอ ภาพที่ 10 เทเอทิลแอลกอฮอล์

27 ภาพที่ 11 การเกดิ เพคตนิ ภาพท่ี 12 กรองเพคติน

28 ภาพที่ 13 ชง่ั คร้งั ที่ 1 ภาพท่ี 14 ชัง่ คร้ังท่ี 2

29 ภาพที่ 15 ชัง่ ครั้งท่ี 3 ภาพท่ี 16 ภาพรวมกล่มุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook