1. ชอ่ื กิจกรรมการศึกษาต่อเนือ่ ง การสานเส้นพลาสตกิ ใสแ่ ก้วเยติ 2. ผรู้ ับผิดชอบ นางชณากาญ ทองระยา้ 3. ความเปน็ มา สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 และได้กำหนด บทบาทหนา้ ท่ีของสำนกั งาน กศน. ตามนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานสำนกั งาน กศน.ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3ด้าน การพัฒนาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพทรพั ยากรมนุษย์ 3.1 เรง่ รัดการดำเนินการจัดการศึกษาอาชพี เพื่อยกระดับ ทักษะอาชีพของประชาชนสู่ฝีมอื แรงงาน 1) จัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำท่ีสอดคลอ้ งกับศักยภาพของชุมชน และความต้องการของตลาด ให้ประชาชนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ 2) บูรณาการความร่วมมือในการ พัฒนาฝีมือแรงงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ผ่าน ศูนย์ผสานงานผลิตและพัฒนากำลังคน อาชีวศึกษาภาคทั่วประเทศ เพ่ือมุ่งพัฒนาทักษะของประชาชนโดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิสังคม เฉพาะของพื้นท่ี ยทุ ศาสตร์ที่ 4 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนาหลักสูตรการ จดั การศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลายหลาย ทันสมัย เหมาะสมกบั บริบทของพื้นที่ และตอบสนองความ ต้องการของประชาชนผูร้ ับบริการ เพ่อื ให้การดำเนนิ งานแผนยทุ ธศาสตร์ ด้านการพัฒนาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพคนให้มคี ณุ ภาพบรรลผุ ล สำเร็จสู่ วิสัยทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศ คือ ประเทศไทยมีความม่ันคง ม่ังคั่ง ยงั่ ยนื เป็น ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกำหนดเป้าหมาย การพัฒนาประเทศ คอื ประเทศชาติมัน่ คง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกจิ พัฒนาอยา่ งต่อเนื่อง สงั คมเป็นธรรม ฐานทรพั ยากรธรรมชาติ ยัง่ ยืน โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมติ ิ พฒั นาคนในทุกมิติ และใน ทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมสร้างการเติบโตบน คุณภาพชวี ติ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวิเศษชัยชาญ เห็นว่าเป็นการส่งเสริม สนับสนุนการ ดำเนินงานของศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และ แนวทางการขับเคลื่อน การศึกษาของสำนักงาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลุ่มอาชีพใหม่ ซ่ึงเป็นบทบาทของ สถานศึกษา ในการดำเนนิ การ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำให้สอดคล้องตามความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของ พื้นที่ กศน.ตำบลหลักแก้ว จึงได้จัดทำ หลกั สูตรการสานเส้นพลาสติกใส่ แก้วเยติ 4. วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ ใหป้ ระชาชนผรู้ ับบรกิ ารมีความรคู้ วามเขา้ ใจการสานเสน้ พลาสตกิ ใส่แก้วเยติ 2. เพ่ือใหป้ ระชาชนผรู้ บั บรกิ ารมที ักษะและมองเห็นชอ่ งการสานเส้นพลาสติกใส่แก้วเยติ 5. กจิ กรรม/วธิ กี าร/ขน้ั ตอนท่ีสำคัญ วิทยากรบรรยายความรูเ้ กย่ี วกับการจัดกิจกรรมใหป้ ระชาชนกลมุ่ เป้าหมายในตำบลหลักแก้ว ได้แก่ 1.วทิ ยากรบรรยายใหค้ วามรู้ในเรอ่ื งต่อไปนี้ 1.1 ความปลอดภัยในการทำงาน 1.2 การใช้เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ 1.3 วสั ด-ุ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการสานเส้นพลาสติกใส่แก้วเยติ 1.4 ความรูเ้ บ้ืองต้นในการสานเส้นพลาสตกิ ใสแ่ ก้วเยติ
1.5 เทคนคิ การสานเสน้ พลาสติกใส่แกว้ เยติ 2. วทิ ยากรและผูเ้ รียนรว่ มกันแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ่วมกนั ของการสานเส้นพลาสตกิ ใสแ่ ก้วเยติ 3. วทิ ยากรบรรยายให้ความรแู้ ละสาธติ การสานเส้นพลาสตกิ ใส่แก้วเยติ 4. ผู้เรียนเรียนรู้และฝกึ การสานเสน้ พลาสติกใส่แกว้ เยติ 6. ผลสำเร็จ 6.1 กลุ่มเปา้ หมายไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 มคี วามรแู้ ละทักษะการมองเห็นชอ่ งทางในการประกอบ อาชพี 6.2 กล่มุ เปา้ หมายไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 เกดิ กระบวนการเรยี นรู้ มกี ารรวมกล่มุ เพือ่ พัฒนาอาชีพ 6.3 กลุ่มเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 เกิดกระบวนการคิดเป็น แก้ปัญหาเป็นในการหาช่องทาง การขยายอาชีพ 7. สมั ฤทธ์ิผล/การได้รบั การยอมรบั 7.1 ผู้เรียนมีความรู้และทักษะมองเห็นช่องทางทำให้เกิดรายได้เสริม สร้างอาชีพใหม่เกิดข้ึนและต่อ ยอดอาชีพภายในตำบล 7.2 ผู้เรียนเกดิ กระบวนการเรียนรู้ มกี ารรวมกลมุ่ เพอ่ื พฒั นาอาชีพ 7.3 ผู้เรียนเกดิ กระบวนการคดิ เป็นแก้ปัญหาเป็น ในการหาช่องงทางการขยายอาชีพ
คำนำ เอกสารรายงานผลการดำเนินงาน การจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การศึกษาต่อเนื่อง หลักสูตรไม่เกิน 30 ช่ัวโมง (กลุ่มสนใจ) หลักสูตรการสานเส้นพลาสติกใส่แก้วเยติน้ี จัดทำขึ้นเพื่อรายงานผล การดำเนินงานด้านการจัด การศึกษาตอ่ เน่ืองของ กศน.ตำบลหลกั แก้ว ภายใต้การดูแลของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอวิเศษชัยชาญ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือตรวจสอบขั้นตอนการดำเนิน กิจกรรม ประเมินผลและพัฒนาการดำเนิน กิจกรรมของ กศน.ตำบลหลักแก้ว จัดทำหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารรายงานผลการดำเนินงาน การจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ (กลุ่มสนใจ) หลักสูตรการสานเส้น พลาสตกิ ใส่แก้วเยติน้ี จะเป็นแนวทางในการพัฒนางาน และการจัดกิจกรรมการศึกษาตอ่ เน่ืองของ กศน.ตำบล หลกั แก้วในโอกาสต่อไป นางชณากาญ ทองระย้า ครู กศน.ตำบล
สารบญั หนา้ คำนำ 1 สารบัญ บทที่ 1 บทนำ 2 เหตผุ ลและความจำเปน็ 4 ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ บั 6 บทที่ 2 เอกสารที่เก่ยี วข้อง 10 ความสำคัญของการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้ ทม่ี าและความสำคัญของหลักสูตร หลกั สูตรการสานเสน้ พลาสตกิ ใส่แกว้ เยติ บทที่ 3 วธิ ีการดำเนนิ งาน บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน บทที่ 5 สรปุ อภปิ ราย และขอ้ เสนอแนะ วตั ถุประสงคก์ ารดำเนินงาน วิธดี ำเนนิ การ อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะ และแนวทางการพัฒนากจิ กรรม ภาคผนวก แบบประเมนิ ความพึงพอใจ ภาพถา่ ยผู้เข้าร่วมกจิ กรรม
๑ บทที่ 1 เหตผุ ลและความจำเปน็ สืบเน่อื งจากกระทรวงศึกษาธิการไดจ้ ดั ทำแผนยุทธศาสตรช์ าติ พ.ศ. 2561-2580 และได้ กำหนดบทบาทหนา้ ทข่ี องสำนักงาน กศน. ตามนโยบายและจดุ เน้นการดำเนินงานสำนักงาน กศน.ยทุ ธศาสตร์ ที่ 3ดา้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 3.1 เรง่ รัดการดำเนินการจัดการศกึ ษาอาชีพเพื่อ ยกระดับทักษะอาชพี ของประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำท่ีสอดคล้องกับศักยภาพ ของชุมชน และความต้องการของตลาด ให้ประชาชนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ 2) บูรณาการความ รว่ มมือในการพัฒนาฝีมอื แรงงานกบั สำนกั งานคณะกรรมการอาชีวศกึ ษา ผ่าน ศูนย์ผสานงานผลติ และพัฒนา กำลังคนอาชีวศึกษาภาคทั่วประเทศ เพ่ือมุ่งพัฒนาทกั ษะของประชาชนโดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิ สังคมเฉพาะของพื้นที่ ยุทศาสตร์ท่ี 4 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนา หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลายหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และ ตอบสนองความต้องการของประชาชนผูร้ บั บริการ เพ่ือใหก้ ารดำเนินงานแผนยทุ ธศาสตร์ ด้านการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพคนให้มคี ุณภาพ บรรลุผลสำเรจ็ สู่ วิสยั ทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดวสิ ยั ทศั นข์ องประเทศ คอื ประเทศไทยมีความมนั่ คง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็น ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกำหนด เป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สงั คมเป็นธรรมฐานทรพั ยากรธรรมชาติ ย่ังยนื โดยยกระดบั ศกั ยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พฒั นาคน ในทุกมิติ และในทุกช่วงวยั ให้เป็นคนดี คนเก่ง และมคี ุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมสร้าง การเตบิ โตบนคณุ ภาพชีวติ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวิเศษชัยชาญ เห็นว่าเป็นการ ส่งเสริมสนับสนนุ การ ดำเนนิ งานของศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชนใหส้ อดคลอ้ งกบั ยุทธศาสตรข์ องกระทรวงศึกษาธกิ าร และแนวทางการขับเคลอื่ น การศึกษาของสำนกั งาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลมุ่ อาชีพใหม่ ซึ่งเปน็ บทบาทของ สถานศึกษา ในการดำเนินการ จัดการศึกษาเพอ่ื พัฒนาอาชีพและการมงี านทำให้สอดคล้องตามความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของพื้นท่ี กศน.ตำบลหลักแก้ว จึงได้จัดทำหลักสูตรการสานเส้นพลาสติกใส่ แก้วเยตขิ ้ึน วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ใหป้ ระชาชนผ้รู บั บรกิ ารมคี วามรคู้ วามเข้าใจการสานเส้นพลาสตกิ ใส่แกว้ เยติ 2. เพ่ือให้ประชาชนผ้รู บั บริการมีทักษะและมองเห็นชอ่ งการสานเส้นพลาสติกใสแ่ กว้ เยติ ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะไดร้ ับ ๑. เพอื่ ให้ประชาชนผู้รบั บริการมคี วามรูค้ วามเข้าใจการสานเส้นพลาสติกใส่แกว้ เยติ 2. เพ่อื ให้ประชาชนผู้รบั บริการมีทักษะและมองเห็นช่องทางการสานเสน้ พลาสติกใส่แก้วเยติ
๒ บทท่ี 2 เอกสารที่เกย่ี วข้อง ศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รการสานเส้นพลาสติกใส่แกว้ เยติ ได้เสนอแนวคิด หลักการ และเอกสาร ท่ีเก่ียวข้อง ตามลำดับดังต่อไปน้ี 1. ความสำคัญของการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรยี นร้ศู ูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน 2. ที่มาและความสำคัญของ หลกั สูตรการสานเส้นพลาสติกใส่แกว้ เยติ 1. ความสำคญั ของการจัดและสง่ เสรมิ กระบวนการเรียนรศู้ ูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน กิจกรรมการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนร้ศู ูนย์ฝึกอาชพี ชุมชนตามนโยบายของสำนักงาน กศน. มลี ักษณะสำคัญดังนี้ - จัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพอาชีพชุมชนในทุกอำเภอ/เขต อย่างน้อยอำเภอ/เขตละ 3 แห่ง เพ่ือเป็น ศูนย์กลางในการฝึก พัฒนา สาธิตและสร้างอาชีพของผู้เรียนและชุมชน รวมทั้งเป็นที่จัดเก็บ แสดง จำหน่าย และ กระจายสินค้าและบริการของชุมชนอยา่ งเปน็ ระบบครบวงจร - พัฒนาและจัดทาหลักสูตรการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ความต้องการของตลาด และศักยภาพของพ้ืนที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การจัดการศึกษาอาชีพแนวใหม่ เป็น การจดั การศึกษาที่สามารถสร้างอาชีพหลัก ท่ีมั่นคงให้กับผู้เรียน โดยสามารถสรา้ งรายได้ได้จริงท้ังในระหวา่ ง เรียนและสำเร็จ การศึกษาไปแล้ว และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับอาชีพ เพื่อพัฒนาใหเ้ ปน็ ผปู้ ระกอบการท่ีมคี วามสามารถเชิงการแข่งขน้ั อย่างยง่ั ยืน - ประสานการดำเนินงานกับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนของหน่วยงานและสถานศึกษาต่างๆ ในพื้นท่ีเพื่อ เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายการฝึก และสร้างอาชีพของประชาชนและชุมชนในจังหวัดกลุ่มจังหวัด และระหว่าง จังหวัด - จัดให้มีระบบการประสานงานเพ่ือสนับสนุนให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนต่างๆ สาหรับเป็น ช่องทางในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอาชีพอย่างตอ่ เนื่อง ใหก้ ับผู้เรยี น - จัดให้มีการกากับ ติดตาม และรายงานผลการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำอย่างเป็นระบบ และต่อเนอ่ื งทั้งนำผลท่ีได้มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการดาเนินงานให้เป็นไปตามความตอ้ งการด้านการศึกษา อาชีพเพ่อื การมีงานทำของประชาชนและความตอ้ งการของตลาด
๓ 2. ที่มาและความสำคญั ของ หลักสูตรการสานเสน้ พลาสตกิ ใสแ่ ก้วเยติ สบื เน่ืองจากกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทาแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561 - 2580 และได้กำหนด บทบาท หน้าท่ีของสำนักงาน กศน. ตามนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงาน กศน. ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 3 ด้านการ พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ 3.1 เร่งรัดดำเนินการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อ ยกระดับทักษะอาชีพของประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาที่สอดคล้องกับ ศักยภาพของชุมชน และความ ต้องการของตลาดให้ประชาชนสามารถนาไปประกอบอาชีพได้ (2) บูรณาการ ความร่วมมอื ในการพัฒนาฝมี ือแรงงาน กับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ผ่านศูนย์ประสานงานการ ผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาภาคทั่วประเทศ เพื่อมุ่งพัฒนาทักษะของประชาชนโดยใช้ประโยชน์จาก ศักยภาพและภูมสิ ังคมเฉพาะของพ้นื ที่ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะส้ัน ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับบริบทของ พน้ื ท่ี และตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ เพอื่ ให้การดำเนินงานแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพคนใหม้ ีคุณภาพบรรลุผล สำเร็จสู่วิสัยทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศ คือ ประเทศไทยมีความม่ันคง มั่งค่ัง ยัง่ ยืน เป็น ประเทศทพ่ี ัฒนาแลว้ ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกำหนดเป้าหมาย การพฒั นาประเทศ คอื ประเทศชาติมนั่ คง ประชาชนมีความสขุ เศรษฐกจิ พฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่อง สงั คมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติ ย่ังยืน โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติ และ ในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมสร้างการเติบโตบน คุณภาพชีวิต ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวิเศษชัยชาญ เห็นว่าเป็นการส่งเสริม สนับสนุนการ ดำเนินงานของศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และ แนวทางการขับเคลื่อน การศึกษาของสำนักงาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลุ่มอาชีพใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทของ สถานศึกษา ในการดำเนินการ จัดการศึกษาเพือ่ พัฒนาอาชีพและการมีงานทำใหส้ อดคล้องตามความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของ พืน้ ท่ี กศน.ตำบลหลักแกว้ จงึ ได้จัดทำ หลกั สตู ร การสานเส้นพลาสติกใส่ แกว้ เยตขิ นึ้
๔ บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนินงาน ด้วย กศน.ตำบลหลกั แก้ว ได้จัดโครงการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ โดยยึด กลุ่มเป้าหมาย เป็นสำคัญ ทำให้เน้ือหาตามหลกั สูตรระยะเวลาการจดั กิจกรรม สถานที่ และลักษณะกิจกรรมการ เรียนรู้ ท่ี อยู่กับ ศักยภาพและความพร้อมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นการตอบสนองนโยบายขอสำนักงานส่งเสริม การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ซง่ึ ได้ดำเนนิ การดังน้ี หลักสูตรการสานเส้นพลาสติกใสแ่ ก้วเยติ สาระสำคัญ การสานเส้นพลาสติกใส่แกว้ เยติ วสั ดทุ ใี่ ช้ในการทำ
๕ วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้ประชาชนผู้รับบรกิ ารมีความรคู้ วามเข้าใจการสานเส้นพลาสตกิ ใสแ่ ก้วเยติ 2. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนผู้รับบรกิ ารมีทักษะและมองเห็นชอ่ งการสานเสน้ พลาสติกใส่แกว้ เยติ กจิ กรรมการดำเนนิ การ จัดกิจกรรมใหป้ ระชาชนกลมุ่ เป้าหมายในตำบลหลกั แก้ว ได้แก่ 1. วิทยากรบรรยายให้ความรใู้ นเรื่องต่อไปน้ี 1.1 ความปลอดภัยในการทำงาน 1.2 การใช้เครอื่ งมอื และอุปกรณ์ 1.3 วัสด-ุ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการสานเสน้ พลาสติกใส่แก้วเยติ 1.4 ความรู้เบือ้ งตน้ ในการสานเส้นพลาสตกิ ใสแ่ ก้วเยติ 1.5 เทคนิคการทำชะลอมจกุ พจมาน 2. วทิ ยากรและผู้เรยี นรว่ มกันแลกเปลยี่ นเรยี นรู้การสานเสน้ พลาสตกิ ใสแ่ ก้วเยติ 3. วทิ ยากรบรรยายใหค้ วามรู้และสาธิตการสานเสน้ พลาสติกใสแ่ กว้ เยติ 4. ผเู้ รยี นเรียนรู้และฝกึ การสานเส้นพลาสติกใสแ่ กว้ เยติ ผลท่ีได้รบั จากการดำเนนิ กิจกรรม 1. กลุ่มผู้เรียนร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะ มองเห็นช่องทางทำให้เกิดรายได้เสริมสร้างอาชีพให้ เกิดขนึ้ ภายในตำบล 2. กลมุ่ ผู้เรยี นรอ้ ยละ 80 เกดิ กระบวนการเรียนรู้มกี ารรวมกลมุ่ เพ่อื พัฒนาอาชีพ 3. กลุ่มผ้เู รียนร้อยละ 80 เกิดกระบวนการคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น ในการหาชอ่ งทางการขยาย อาชีพ
๖ บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน จากการสำรวจความพึงพอใจ การจดั การศึกษาต่อเน่ือง หลักสูตรไม่เกนิ 30 ชั่วโมง หลักสตู รการสาน เส้นพลาสติกใส่แก้วเยติ กศน.ตำบลหลักแก้ว มีผ้เู ข้าร่วมโครงการ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ จำนวน 14ฉบับ และ ได้รับกลับคืนมา จำนวน 14 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรม Excel ตามขั้นตอนต่างๆ ดงั ต่อ ไปนี้ 1. วเิ คราะหข์ ้อมูลจากแบบสอบถามตอนที่ 1 โดยแจกแจงความถี่และค่ารอ้ ยละ 2. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม ตอนที่ 2 โดยหาค่าเฉล่ีย ( )แปลความหมายข้อมูลเชิง ปริมาณ ให้ระดับคะแนนในแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความ คดิ เห็น ของเบสท์ (Best. 1981 : 182 )ดงั นี้ 4.51–5.00 หมายถึงความพึง พอใจอยู่ในระดับระดับดีมาก 3.51–4.50 หมายถงึ ความพึง พอใจอยใู่ นระดบั ระดบั ดี 2.51–3.50 หมายถงึ ความพึง พอใจอยู่ในระดับปานกลาง 1.51–2.50 หมายถึงความพึง พอใจอย่ใู นระดบั พอใช้ 1.00–1.50 หมายถงึ ความพึง พอใจอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนที่ 3 ข้อมูลท่ีเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยหาค่าเฉล่ีย ( ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ โดยใชเ้ กณฑข์ ้อ 2 ข้อมูลที่เป็น ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคาตอบ และหา คา่ ความถี่ สรุป ผลการประเมินความพึงพอใจ หลักสูตรการสานเส้นพลาสตกิ ใส่แกว้ เยติ ได้ดงั นี้
๗ ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตวั ของผตู้ อบแบบสอบถาม ขอ้ มลู ทว่ั ไป จำนวน ร้อยละ 00 เพศ ชาย 8 100 00 หญงิ 1 7.14 4 28.57 อายุ 15 – 29 ปี 3 21.42 6 42.85 30 – 39 ปี 00 00 40 – 49 ปี 00 3 21.42 50 – 59 ปี 7 50.00 2 14.28 60 ปขี ้ึนไป 2 14.28 00 การศกึ ษา ตำ่ กว่า ป.4 4 28.57 4 28.57 ป.4 4 28.57 2 14.28 ประถมศึกษา 00 มัธยมศกึ ษาตอนต้น มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย อนุปริญญา ปรญิ ญาตรี อื่นๆ อาชีพ รับจา้ ง ค้าขาย เกษตรกร รับราชการ อน่ื ๆ/แมบ่ ้าน/นกั เรียน จากตารางที่ 1 แสดงจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทง้ั หมด 14 คน เป็นเพศหญิงท้ังหมด 14 คน (คดิ เป็นร้อย ละ 100.00) ด้านอายุ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 60 ปีขึ้นไป จำนวน ๖ คน คดิ เป็นร้อยละ 42.85 ลองลงมาอยู่ในชว่ ง 40 – 49 ปี จำนวน 4 คน คดิ เป็นร้อยละ 28.57 ลองลงมาอยู่ ในชว่ ง 50 – 59 ปี จำนวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 21.42 และช่วง 30 – 39 ปี จำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ย ละ 7.14 ด้านการศึกษา พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่มีการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 50.00 ลองลงมาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 21.42 และการศึกษาระดับอนุปริญญา จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 14.28 และการศึกษาระดับปริญญา จำนวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 14.28 ด้านอาชพี พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถาม สว่ นใหญม่ ีอาชีพรับจ้าง จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 28.57 ลองลงมาอาชีพค้าขาย จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ28.57 และอาชีพ เกษตรกร จำนวน 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ28.57 และอาชีพรับราชการ จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 14.28
๘ แบบประเมนิ ความพึงพอใจ มที ั้งหมด 4 ด้าน ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจด้านเนอื้ หา ผลการประเมิน รายการประเมิน ค่าเฉล่ีย ( ) ความหมาย 4.44 ดี เน้อื หาตรงต่อความตอ้ งการ 4.44 ดี เนื้อหาเพยี งพอต่อความตอ้ งการ 4.44 ดี เนื้อหาปัจจุบันทันสมัย 4.45 ดี เนื้อหามปี ระโยชนส์ ามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชวี ติ 4.44 ดี รวม จากตารางตอนท่ี 2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม ความพึงพอใจด้านเน้ือหา โดยรวมและรายด้านอยใู่ นระดับ ดี เมื่อพจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ อันดับหนงึ่ คอื เน้ือหามีประโยชน์สามารถ นำไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ รองลงมาอับดับสองสามส่ี เท่ากัน คือ เนื้อหาตรงตอ่ ความต้องการ/เน้ือหา เพยี งพอต่อความตอ้ งการ และเนอ้ื หาปัจจุบันทันสมยั ตามลำดับ ตอนที่ 3 ความพึงพอใจด้านกระบวนการดา้ นการจัดกิจกรรม ผลการประเมิน รายการประเมนิ ค่าเฉลี่ย ( ) ความหมาย 4.45 การเตรียมความพรอ้ มกอ่ นจัดกิจกรรม 4.44 ดี การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ 4.46 ดี การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 4.45 ดี การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ 4.45 ดี วิธีการวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ 4.45 ดี ดี รวม จากตารางตอนที่ 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม ความพึงพอใจด้าน กระบวนการด้านการจดั กิจกรรมและรายด้านอยู่ในระดับ ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือ การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา รองลงมาอับดับสองสามสี่ เท่ากัน คือ การเตรียมความพร้อมก่อนจัด กิจกรรม/การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และวิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และอันดบั สุดทา้ ย การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ตามลำดับ
๙ ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจด้านวิทยากร ผลการประเมนิ รายการประเมนิ คา่ เฉล่ยี ( ) ความหมาย 4.47 ดี วทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเรือ่ งที่ถา่ ยทอด 4.47 ดี วทิ ยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดและสื่อท่ีเหมาะสม 4.47 ดี วิทยากรเปดิ โอกาสให้มีส่วนร่วมและซกั ถาม 4.47 ดี รวม จากตารางตอนที่ 4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อกิจกรรม ความพึงพอใจด้านวิทยากร และรายด้านอยู่ในระดับ ดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งสองและสาม เท่ากัน คือ วิทยากรมี ความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด/วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดและสื่อที่เหมาะสม และวิทยากรเปิด โอกาสใหม้ สี ่วนร่วมและซักถาม ตามลำดับ ตอนท่ี 5 ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก ผลการประเมิน รายการประเมิน ค่าเฉลย่ี ( ) ความหมาย 4.48 ดี สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก 4.47 ดี การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศในเกดิ การเรยี นรู้ 4.49 ดี การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา 4.48 ดี รวม จากตารางตอนที่ 5 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม ความพึงพอใจด้านวิทยากร และรายด้านอยู่ในระดับ ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึง คือ การบริการ การช่วยเหลือและ การแก้ปัญหา ลำดับท่ี สอง คือ สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก และที่ลำดับสาม คือ การ ส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศในเกดิ การเรียนรู้ ตามลำดบั
๑๐ บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ ผลการดำเนินการกิจกรรมการศึกษาต่อเน่ือง หลักสูตรไม่เกิน 30 ช่ัวโมง หลักสูตรการสานเส้น พลาสติกใส่แก้วเยติ กศน.ตำบลหลักแก้ว คร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลความพึงพอใจของผู้เรียน/ ผรู้ บั บริการท่ีมตี อ่ กิจกรรมโดยรวมและแยก เปน็ รายด้าน โดยใช้แบบสอบถามจำนวน 14 ฉบบั เคร่ืองมือท่ีใช้ เป็นแบบสอบถามที่เป็นแบบมาตราส่วนประมาณ ค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะหข์ ้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ( ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมลู เชิง ปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ขอ้ 2 ข้อมูลท่ีเป็นความคิดเห็น และ ข้อเสนอแนะ ใช้วิธกี ารวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลมุ่ คำตอบ และหาค่า ความถ่ี สรุปผลการประเมินความพึงพอใจของผเู้ รียน/ผู้รบั บรกิ าร จากแบบประเมนิ ความพงึ พอใจสรุปผลได้ ดังน้ี 1. ด้านหลกั สูตร พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจอย่ใู นระดบั ดี เม่ือพจิ ารณา เป็นรายข้อ พบว่า อันดบั หนึ่งคือ เน้ือหามีประโยชน์สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต รองลงมาอับ ดับสองสามสี่ เท่ากัน คือ เนื้อหาตรงต่อความต้องการ/เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ และเนื้อหาปัจจุบัน ทันสมยั ตามลำดับ 2. ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการดา้ นการจดั กิจกรรมและรายด้านอยใู่ นระดับ ดี เม่ือ พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบว่า อันดับหนึ่งคือ การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา รองลงมาอบั ดับสองสามสี่ เทา่ กัน คือ การเตรียมความพร้อมก่อนจัดกิจกรรม/การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และวิธีการวัดผล/ ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และอันดับสุดท้าย การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ตามลำดับ 3. ความพงึ พอใจดา้ นวิทยากรและรายดา้ นอย่ใู นระดับ ดี เมือ่ พจิ ารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า อนั ดับหน่ึงสองและสาม เทา่ กัน คอื วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด/วิทยากรมีเทคนิคการ ถ่ายทอดและส่ือท่ีเหมาะสม และวทิ ยากรเปิดโอกาสให้มสี ว่ นร่วมและซกั ถาม ตามลำดับ 4. ความพงึ พอใจดา้ นวทิ ยากรและรายดา้ นอย่ใู นระดบั ดี เม่อื พิจารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ อันดับหน่ึง คอื การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา ลำดับท่ี สอง คือ สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่ง อำนวยความสะดวก และท่ลี ำดบั สาม คือ การสื่อสาร การสรา้ งบรรยากาศในเกิดการเรียนรู้ ตามลำดบั ผลการดาเนินงาน 1. จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาต่อเน่ือง หลักสูตร การสานเส้นพลาสติกใส่แก้วเยติ กศน.ตำบลหลักแก้ว จำนวน 14 คน คือกลุ่มเป้าหมายร้อยละ 85 มีความรู้ทักษะ มองเห็นช่องทางในการ ประกอบอาชีพ กลุ่มเป้าหมายเกิดกระบวนการเรียนรู้ มีการรวมกลุ่มเพ่ือพัฒนาอาชีพกลุ่มเป้าหมายมีการ บริหารจัดการกลมุ่ ที่ดี สามารถพัฒนาอาชีพของกลุ่มได้ 2. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง หลักสูตร การสานเส้นพลาสติกใส่แก้วเยติ ได้ให้ ความร่วมมือ ร่วมใจและลงมือทำเป็นอย่างดี 3. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาต่อเน่ือง มีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม ในระดับดี ตามแบบประเมินความพงึ พอใจในการ จดั กิจกรรม ทีแ่ นบมาน้ี ปญั หาและอุปสรรคในการปฏิบัตงิ าน
๑๑ ภาคผนวก
๑๒
๑๓
๑๔
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: